Archive | BEAUTY TECHNOLOGY

REVIEW ผลลัพธ์ทำเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT ฟื้นฟูสภาพผิว ริ้วรอยตื้นๆ สีผิวสม่ำเสมอ

Erk-Erk / CinnamonGal / Mhunoii 3 บลอคเกอร์สาว ณ เกาหมี

หน้าเอิ๊กใสปะละ 555555 เมคอัพค่ะเมคอัพ หลังจากทำ 9 วัน ผิวดีฝุดฝุด

วันนี้เราจะมาเปิดโปงหนังหน้าที่แท้จริงกัน

ภาคแรก มารู้จักเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT เลเซอร์ฟื้นฟูสภาพผิวให้สุขภาพดี

ภาคสอง ขั้นตอนการทำ เลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT

การทำที่ได้ผล คือการทำ 4-6 ครั้งภายใน 2 อาทิตย์

ซึ่งเอิ๊กทำแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเลเซอร์ตัวนี้มีพลังงานความร้อนที่ส่งไปถึงชั้นหนังแท้ส่วนตื้นส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจน คุณหมอบอกว่าสำหรับผู้ที่รูขุมขนกว้างไม่อยากกรอผิว หรือ มีแผล ตัวนี้ส่งผลต่อรูขุมขนที่อยู่บริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้นโดยตรงให้กระชับ แต่เมื่อทดสอบแล้วพบว่า “ครั้งเดียวไม่เห็นผลเรื่องรูขุมขนกระชับ สงสัยต้องจัดหลายครั้งจริงๆ อิอิ อีกอย่างการรอผลประมาณ 1 เดือน และ ขึ้นกับอายุด้วย”

แล้วเลเซอร์ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ตอบตรงๆ !!!

REVIEW คนเอเชียด้วยกัน เขาน่าจะทำหลายครั้ง

  • ก่อนทำหน้าปกติอาจจะมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ กระตื้น
  • หลังทำหน้าแดงแป๊ดทันที และแดงต่อไปอีกซัก 2-4 วัน
  • หลังจากหน้าแดง2-4วัน ก็จะจับแล้วสากมีสะเก็ดที่เล็กมากมากจนมองไม่เห็น ยิ่งผิวขาวส่องไม่เห็นเลย แค่จับแล้วสาก หน้าดูหมองประมาณ 1-7 วัน จากผิวแดงเป็นหมองๆเนื่องจากมีสะเก็ดน้ำตาลเล็กๆกระจายทั่วใบหน้า
  • ประมาณอาทิตย์กว่าจับแล้วนุ่มลื่น ไม่แน่ใจสะเก็ดไปหายไปตอนไหน ไร้ร่องรอยเลยจริงๆ
  • สองอาทิตย์สีผิวสม่ำเสมอแบบชัดเจน ผิวกระจ่าง ดูผ่องขึ้นเลย
เอาละมาดูของพี่เอิ๊กบ้าง อะไรที่เปลี่ยนไป แต่ไม่มีรูปเยอะเท่าเขาเพราะคล้ายกัน
มีแค่ก่อนทำ และ หลังทำ 2 อาทิตย์

 การดูแลทากันแดด ไม่ทาบำรุง นอนเช้าทุกคืน ไม่ดูแลตัวเอง และ อย่าทำแบบนี้ ความจริงสามารถกันแดด บำรุงได้ตั้งแต่ 1 วันเลย แต่งหน้าอะไรได้หมด เอิ๊กปล่อยตัวมาก ไม่งั้นผิวสวยกว่านี้ ฟันเฟิม

ขอสรุปว่าสิ่งที่เห็นชัดเจนมากอันดับ 1 2 3 4คือ 

  1. สีผิวสม่ำเสมอทั่วหน้าไม่แดง ดำ ด่าง
  2.  ผิวผ่องขนาดไม่เจอครีมบำรุงมาเกือบสองอาทิตย์ ทาแค่เซรั่มเนื้อเบาสบายผิว ไม่ให้ความชุ่มชื่้นเลย
  3. ผิวสุขภาพดีขึ้น
  4. ริ้วรอยแสดงอารมณ์ตื้นๆยาวๆ หน้าผากหายไปเลยยยยยยยยยย

นี่เป็นผลลัพธ์ของการทำครั้งเดียว
ข้อเสีย อย่าพยายามมีชีวิตอยู่คู่กับแดด นี่แค่นั่งตากหน้ากับแสงคอมทั้งวันทั้งคืนไม่ทากันแดด สีกระชัดขึ้นเลย คุณหมอสั่งให้หลบแดดจริงจัง 2 อาทิตย์ เจอแสงคอมเข้าไปจบชีวิตเหมือนกัน ข้อสำคัญราคาสูง
ไม่รักกันจริงอย่าหวังจะได้เห็นรูขุมขนกันแบบนี้ !!! นอนดึกพากันถ่างเข้าไปอีก 555
ผิวสุขภาพดีพอใจมากค่ะ ชอบที่สีผิวดูสม่ำเสมอ ส่วนเรื่องขาวไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นผลพลอยได้ตามชื่อเลเซอร์มากกว่าดูสุขภาพดี และผ่อง
เอิ๊กอวดผี แต่เช้า 5555
สรุป หลังการทำจริงพบว่า เฮ้ยมันเป็นเลเซอร์กึ่งมีแผล ที่ไม่รู้สึกว่ามีแผลแค่จับแล้วสาก ทำแล้วออกจากบ้านโบกเมคอัพต่อได้เลย ซึ่งทำแล้วผิวสุขภาพดีขึ้น ริ้วรอยเกิดใหม่ลาออก ผิวมันเคลียร์อะ คือไม่ได้คิดเอง หลายคนเจอจริงเห็นแล้วทัก คือ ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ทาอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ก็ไม่อายใคร ทั้งที่ปกติต้องมีกันแดดสีเนื้อซักหน่อย คนทักว่าหน้าขาวทั้งที่ไม่ได้ทาครีม แต่จะอยู่นานไหมไม่รู้ ถ้าอยู่นานนี่ทำต่อเลย สิ่งที่ต้องทำใจอย่างเดียวคือต้องทำตัวติดกันแดด ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านก็ขาดไม่ได้ คือ มันก็ผิวไวแสง ไม่ใช่มาแล้วดำ แต่พวกกระอะไรชัดขึ้นได้ ถ้าละเลย รอดูว่าจะโทรมอีกเมื่อไหร่ นี่ถ้ายังนอนแบบเดิม คาดว่าไม่นานเป็นอีก 5555555
XOXO
ขอบพระคุณ ISKYCENTER สำหรับข้อมูล และ การทำเลเซอร์ครั้งนี้ค่ะ
ขอบพระคุณ ภาพสวยงามจาก www.mhunoiii.bloggang.com ค่ะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, REVIEWComments (1)

HOW TO ขั้นตอนการทำเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT ฟื้นฟูสภาพผิว ริ้วรอยตื้นๆ สีผิวสม่ำเสมอ

เห็นหน้าใสขนาดนี้ไปทำอะไรมา 555555 แต่งหน้าค่ะ ชัดม๊ะแต่ผิวดีขึ้นจริงๆ

หลังจากที่่ลงเรื่อง CLEAR & BRILLIANT ให้อ่าน

วันนั้นไป ISKYCENTER ที่ชิดลม เดินหิ้วกระเป๋ากล้องไปสัมภาษณ์เรื่องความงามอะไรซักอย่าง ไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร ไม่เลเซอร์หน้าแบบทั่วหน้ามานานแล้ว เพราะมันใจในวิชาที่มีในการประทินผิว 55555 สรุปซึ่งเป็นวันที่มีการให้วิชาการจัดโดยบริษัท Filtech Enterprise (1994) Co.,Ltd.

Filtech Enterprise (1994) Co.,Ltd. เป็นบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ จักษุแพทย์ เคมีภัณฑ์ชั้นนำ ซึ่งเอิ๊กเจอ 2-3 ครั้งแล้ว เวลาไปงานฟังวิชาการเลเซอร์ของที่ไหนๆ ก็มักพบ และ “ป้าจีน” JEBAN.COM ที่ทำให้ค่าสายตากลับมาปกติก็ทำด้วยเครื่องที่บริษัทนี้จำหน่ายด้วย เครื่องเขาแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก วันนั้นเขาจัดให้ความรู้กับนิตยสารซึ่งเอิ๊กไปงานเลิกแล้ว เขาก็พูดถึงตัวนี้ขึ้น เขามองมาที่หน้าเอิ๊กว่า “คุณเอิ๊กน่าจะลองทำนะ” ซึ่งมันโทรมอะเอิ๊กรู้ตัวเพราะนอนเที่ยงวัน หรือ นอนเช้ามาเป็นเดือนแล้ว แต่เอิ๊กไม่ชอบให้ใครทักอะ รู้ตัวว่าแย่อะ 55555555555 ทักแล้วเสียSELF

ทั้งที่อ่านมาว่ามันเหมาะกับคนที่ 30+ มากกว่าเพราะเด็กๆก็คงหน้ายังผลัดเซลล์ผิวดีดีอยู่ แต่เอิ๊ก 25 และมีริ้วรอยตื้นๆแต่ยาวไกลบริเวณหน้าผาก และเอิ๊กคิดว่ามันยังไม่จำเป็นกับการฉีดโบทอกหรืออะไรเพื่อลดริ้วรอย และ อยากเอาหนังหน้าตอนนั้นออก หรือ ทำยังไงก็ได้ให้มันดู เต่งๆ สุขภาพดี ไม่กร้าน คนผิวแห้งใช้ AHA BHA สครับให้ผิวใสไม่ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นข้อเสียเลย และ ยิ่งอายุมากผิวแห้งอยู่แล้วแห้งหนัก ยอมรับว่านอนดึกทำลายชีวิตความงามอย่างมาก แต่ชอบความเย็น ชอบทำงานกลางคืน นั่นคือเหตุผลต้องทนไป

เอิ๊กก็กระโดดขึ้นเตียงเลยค่ะ อย่ารออะไรเลย 3 คำในหัว ขึ้นเตียงเลย !!!

 หลังทำC&B 9 วันผิวดีสุดๆ ไปโฉบเฉี่ยวเกาหมี สู้ได้สบาย ผิวเธอสวยกันเหรอ ผิวฉันก็สวยย่ะ 555555 สาวไทยถ้าดูแลดีดี มั่นใจมาก ว่าผิวสวยไม่แพ้เขาหรอก บ้านเขาเวลาร้อนก็อึดอัดพอกับบ้านเรา เหนื่อย เพลีย อยากเป็นลม แต่รูขุมขนของสาวเกาหมีนั้น ยอมมันค่อนข้างละเอียดกันมากจริงๆ คิดว่ากรรมพันธุ์มีส่วน เอิ๊กอาจจะได้อานิสงค์มาจากการได้เกิดข้างเตียงเด็กเกาหมีก็เป็นได้

  ขั้นตอนการทำ CLEAR & BRILLIANT

เปิดโปงหน้าตาที่แท้จริง

แปลงร่างเป็นญาติแคสเปอร์โดยโปะยาชาอย่างหน้าเวลา 60 นาที ไม่เคยทำแบบนี้เลย แอบหวั่นใจหรือมันจะเจ็บรึอย่างไร ?

คุณหมอเตรียมเครื่อง เปลี่ยนหัวลูกกลิ้ง เครื่องนี้ทำครั้งละ 8,000-12,000 บาท ด้วยความสงสัยในความแพง คุณหมอบอกว่า ลูกกลิ้งกลิ้งแล้วทิ้ง ใช้คนเดียว และ แพงที่ลูกกลิ้ง 5000 กว่าบาทแล้ว ค่าเครื่องนี้ดูเล็ก กระจุ๋มกระจิ๋ม ยกได้ เอิ๊กไม่เคยเจอเลเซอร์ยกได้เลย แต่เครื่องนี้เล็กจนนึกว่าไม่น่าแพง แต่ราคาอยู่ที่เกือบ 2 ล้านบาทประเทศไทย อืม เอิ๊กว่าถ้าในอนาคตอยากมีศูนย์เลเซอร์เป็นของตัวเอง เอิ๊กคงต้องมีเงินเก็บระดับหลายร้อยล้าน หรือ ไม่ก็ต้องมีหุ้นเยอะ เพราะเห็นไอสกายมีเครื่องใหม่มาตลอด และ ชอบถามคุณหมอไงว่าเท่าไหร่จึงเข้าใจว่าเลเซอร์มันแพงเพราะเครื่องมันแสนแพงนี่เอง ….. 

คุณหมอเป็นคนเช็ดยาชาออกให้ที่สำคัญ 2 คน ซึ่งปกติต้องเป็นพี่ๆน้องๆผู้ช่วยคุณหมอ วันนี้ก็เป็นโชคดีมากที่สุด เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจจะมาทำ มันเป็นแค่เสี้ยววินาทีที่มีคนทักว่าควรทำ ! แต่เราแปลเองว่าผิวเราดูไม่สวย เราก็กระโดดขึ้นเตียง และเครื่องมันใหม่มาก คุณหมอที่เข้าเวรวันนี้ และ คุณหมอที่ให้วิชาการจึงมาทำให้ทั้งสองท่าน เพื่อเป็นการเรียนรู้จากสภาพผิวหลายๆช่วงอายุคน เราถือว่าเราโชคดีมากๆๆๆๆๆ

เริ่มด้วยคุณหมอรังสิมา เป็นผู้ทำให้เนื่องจากเอิ๊กเป็นเด็กถามมาก คุณหมอก็ชอบสอนมากทำไปถามไป และเป็นวันพิเศษเนื่องจากมีให้วิชาการช่วงกลางวัน วันนี้ไปเจอคณะแพทย์หลายท่านจึงมีการ FEATURING กันเกิดขึ้น คุณหมออีกท่านมาขอทำอีกข้าง คนละครึ่งหน้า ครั้งนี้เอิ๊กเรียกได้ว่าเป็น CASE STUDY เลย

คุณหมออีกท่าน คือ คุณหมอจากรพ.บำรุงราษฏร์ คุณหมอ นุสรา วงษ์รัตนภัสสร ซึ่งเข้าวันเสาร์พอดี มั่นใจว่าภาพนี้ท่านอาจจะได้เห็นเฉพาะใน โรงเรียนแพทย์ หรือ รพ.รัฐ เท่านั้น นับว่าเป็นบุญของเรา ความรู้สึก ถ้าคุณไรผมเยอะ มีขนเส้นใหญ่สีดำบนหน้าแล้วละก็ เหมือนกลิ้งกระตุกเอาขนไป ทำให้เราสะดุ้งเป็นระยะ เจ็บเล็กๆเหมือนโดนดึงหนวด เจ็บแค่จุดนี้จริงๆ ส่วนบนใบหน้าแค่รู้สึกอุ่นๆไม่เจ็บเลย คุณหมอจะไถตำแหน่งเดิม 4 รอบ เว้นดวงตา และ ริมฝีปาก

ถามว่าทำไมรู้ว่าคุณหมอชื่ออะไร นามสกุลอะไร ก่อนที่คุณหมอท่านใดจะมาทำอะไรบนหน้าเอิ๊ก เอิ๊กอาจจะเสียมารยาทถามก่อนเลย ประวัติคร่าวๆ ว่าตรงสาขาไหม เมื่อมั่นใจถึงทำ แต่ไม่จบแค่นั้นเอิ๊กกลับมาหาประวัติอย่างละเอียดต่อในกูเกิ้ล เลเซอร์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ชนิดง่ายหรือยาก เอิ๊กประสบมาแล้ว ศ.นพ. วรพงษ์ที่เก่งมากๆเรื่องหลุมสิวยิง ERBIUM ให้เอิ๊ก และ เป็นคนที่ละเอียดในแผลหลุมที่สุดเท่าที่เอิ๊กทำเลเซอร์มาจริงๆ พิถีพิถัน เพียงแต่คุณหมอพูดน้อยมาก ยิ้มอย่างเดียว ถ้าถามแกก็ตอบ ยิงหลุมให้เอิ๊กที่มีมาแต่กำเนิดหลุม 25 ปี มันดีขึ้นเรื่อยๆ เอิ๊กว่าตื้นขึ้น 60-70% แต่เพราะผิวเอิ๊กขาว มันเป็นเลเซอร์ที่มีแผล และเอิ๊กเจอผลข้างเคียง คือ เกิดเป็นสีชมพู ขณะนี้ 6 เดือนแล้ว เกือบจางหมดจางประมาณ 85 %แต่ยังมีร่องรอยให้เห็น ต้องรอดู เอิ๊กจะบอกว่าเอิ๊กรู้ว่าคุณหมอทำเต็มที่ แต่ผลมันอาจเกิดได้ 1 ผิวเราเอง 2 เลเซอร์มันเป็นชนิดที่มีแผลมันก็มีความเสี่ยงของตัวมันเองอยู่แล้ว ถึงบอกว่าจะเลเซอร์เลือกแพทย์ก่อนเลยอันดับแรก จะใครก็ได้แต่ขอเป็นแพทย์เฉพาะทางจริงๆ ถึงมีปัญหาเรื่องงบน้อยก็แพทย์ก่อนเลยเพราะรัฐบาลมีศูนย์เลเซอร์เช่นกัน จุดนี้ไม่เล่นเลย ฝากไว้ให้คิดค่ะ คุณหมอถามว่าจะมายิงอีกเมื่อไหร่ ในใจเอิ๊กหวั่นมากเกิดสีชมพูอีก เอิ๊กคงอาจจะทำแต่เป็นเลเซอร์ตัวอื่นแทนเช่น E MATRIX เอิ๊กไว้ใจคุณหมอ แต่ไม่ไว้ใจการตอบรับผิวของตัวเองกับการมีแผลเกิดขึ้น เอิ๊กเลยยังไม่ทำซ้ำ เมื่อหาย 100% เราจะมาแชร์อีกที เล่าสู่กันฟังนะคะ หาข้อมูลดีดี ไม่ต้องเชื่อเอิ๊กไปหาข้อมูลกันดู ตลอดเวลาเอิ๊กเขียนทุกบทความ ยอมรับว่าเอิ๊กเป็นเด็กที่ฟังหูไว้หูในเรื่องความงาม เอิ๊กจะพูดในสิ่งที่เห็น ความรู้สึกที่จริง และ ข้อมูลที่เอิ๊กถามคนอื่น รวมถึงอ่านเพิ่มเติม เอิ๊กละเอียดเอิ๊กจะไม่เชื่อใครหมดใจ แม้แต่คุณหมอที่เชี่ยวชาญมากที่สุดในสาขานั้นๆ เอิ๊กจะมีคำถามพิสดารไปถามแกตลอด ไม่ใช่ว่าหลบหลู่ แต่เอิ๊กคิดว่าการที่เอิ๊กป้อนคำถามไปบางครั้ง คุณหมอ หรือ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละแขนงที่เอิ๊กถามนั้น ไม่ได้มีเวลามาก บางทีคำตอบบางจุดอาจหลุดไป เพราะคุณหมออาจพูดถึงสิ่งที่อยู่ในหัว ประสบการณ์ แต่อาจลืมบางจุดที่เพิ่งเรียนรู้เพิ่มเติมมาหลังจากนั้น

ลูกกลิ้งที่กลิ้งจะมีหนามทื่อๆทู่ๆเล็กๆสองแถว ปล่อยพลังงานความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ส่วนตื้น อุ่นๆกันไป ประมาณ 15 นาที ทรมานแค่เวลาใกล้ไรผมที่โดนลูกกลิ้งมันเหมือนกระตุกผมไปด้วย รวมถึงคิ้ว 555555

สภาพก่อนและหลังทำจึงงานฉะนี้ เอาละภาควิธีการทำเสร็จแล้ว ไปดูวิธีการดูและผลลัพธ์กันบล็อคถัดไปค่ะ ว่า CLEAR & BRILLIANT มันจะทำให้ผิวเราถูกฟื้นฟูไปในทางไหน รูขุมขนกระชับไหม ไปดูกานนนนนนน

ภาค 3 คลิก

XOXO

[ ขอบคุณรูปภาพ 2 ภาพแรกจาก คุณแคมป์ www.mhunoiii.bloggang.com ]

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, HOW TOComments (1)

รูขุมขนกว้างรักษายังไงได้บ้าง ?

รูขุมขนกว้าง กว่า 80% เป็นปัญหาผิวหนังที่หลายคนกลุ้มใจ มาก !!!

บทความนี้เอิ๊กได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและเลเซอร์มา 2 ท่าน พร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่ม และ ประสบการณ์ตรง ดังนั้นทุกครั้งที่เขียนขึ้น เอิ๊กจะพยายามให้ข้อมูลมันนิ่งเท่าที่เอิ๊กจะทำได้ เวลาจะเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องผิวหนังเอิ๊กจึงใช้เวลาค่อนข้างนานมาก 1-2 วัน เหมือนกำลังเรียนรู้ เรื่องที่ไม่เคยรู้ สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญสาขานั้นๆ อ่านจากกูเกิล เว็บผิวหนังเมืองนอก ความคิดเห็นผลลัพธ์ของผู้ที่ผ่านการทดลองแต่ละวิธี อ่านหนังสือ และพยายามเขียนให้ทุกคนเข้าใจในภาษาคนธรรมดา ที่ไม่ใช่แพทย์ เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้าใจได้ และ ได้ข้อมูลเยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ หากผิดพลาดประการใดหรืออยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมยินดีค่ะ อีเมลล์ หรือ คอมเมนท์ข้างล่างได้เลยค่ะ

ขอบพระคุณ แพทยหญิง วลัยลักษณ์ มีประถม และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา

สำหรับข้อมูลสัมภาษณ์ประกอบเรื่องผิวหนัง และ เลเซอร์ค่ะ

และขอบคุณ GOOGLE สำหรับภาพประกอบค่ะ

รูขุมขนกว้าง มีสาเหตุมาจากอะไรบ้างต้องรู้ ?

  1. อายุมากขึ้น (คอลลาเจนเสื่อม) 
  2. กรรมพันธุ์
  3. ผิวมัน-ผิวผสมส่วนที่มัน น้ำมันผลิตมาก (ทำให้รูขุมขนต้องทำงานหนักเปิดกว้างเพื่อปล่อยน้ำมันออกมา)
  4. ผิวแห้ง-ผิวขาดน้ำ (ขาดความชุ่มชื่น,เสียน้ำในชั้นผิว) เกิดได้เมื่อใช้อะไรรุนแรง,นอนดึก,อากาศ
  5. เกิดหลังจากมีสิวอักเสบมากจนเกิดหลุมทำให้ดูรูขุมขนกว้าง
  6. ขนเส้นใหญ่ (ขนาดขนมีผลต่อรูขุมขน)
  7. ช่วงตกไข่ ผิวอ่อนแอ PROGESTERONE,FSH,LH สูง หน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น อุดตันง่าย
  8. สภาพอากาศ&มลภาวะ ร้อน เครียด ก็ผลิตน้ำมันบนผิวได้มากขึ้น
  9. อาหาร ทอด&มัน อาจเป็นเหตุให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น
  10. แดดเลีย ทำให้ผิวแห้ง สภาพผิวเสียสมดุล หน้าอาจจะมันมากขึ้น
  11. นอนดึก-นอนเช้า

รูขุมขนกว้างได้ยังไง ?

เนื่องจากรูขุมขน จะอยู่บริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้น ซึ่งอุดมประกอบไปด้วย ไฮยาลูรอนิค แอซิด (ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง,ช่วยให้ผิวเต่งตึงฯลฯ) เยอะที่สุดในบริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้น และ มี คอลลาเจน (ทำให้ผิวแข็งแรง ตึง กระชับ) แต่มีอยู่บางเบาไม่หนาเหมือนชั้นหนังแท้ส่วนลึกถ้าบริเวณไหน คอลลาเจน หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด น้อยก็จะทำให้ความหนาแน่นรอบรูขุมขนน้อย รูขุมขนจึงหลวม และ เบ่งบานออก ทำให้เราเห็นว่า “รูขุมขนกว้าง”

หลักการแก้เรื่องรูขุมขนกว้างง่ายมาก

1. เติมความชุ่มชื่น (ไฮยาลูรอนิค แอซิด)

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

 มีหลากหลายวิธี เอิ๊กรวบรวมมาดังนี้

 

เลเซอร์/คลื่นความถี่วิทยุ

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนโครงสร้างผิว ลึกถึงชั้นหนังแท้ส่วนตื้นและลึก, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ทำให้คอลลาเจนหดตัวกระชับ , ถ้ากำจัดขนถาวรก็ปรับโครงสร้างผนังรูขุมขนให้กระชับเมื่อกำจัดขนออกไป, RESURFACING ทำให้พื้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น ,ให้ความร้อนโดยตรงในชั้นหนังแท้ส่วนตื้น

ชนิดที่ให้ความร้อนทุกชนิด (เช่น เลเซอร์ประเภทยกกระชับ GENTLE YAG)

ชนิดกรอผิวแบบไม่มีแผล,มีแผล และ กึ่งมีแผล (เช่น เลเซอร์ERBIUM,FRAXEL,CO2,EMATRIX,CLEAR AND BRILLIANT,PICO LASER)

ชนิดกำจัดขน (เช่น เลเซอร์ GENTLE YAG,IPL,CYNERGY,ND YAG)

ข้อดี เป็นการปรับลงไปที่โครงสร้างของผิวดังนั้นเมื่อทำแล้วผลที่ได้อยู่ยาวนาน,ผิวเรียบเนียน,รูขุมขนดูกระชับ,ริ้วรอยเล็กๆจางลง

ข้อด้อย รอการสร้างคอลลาเจนซักพักขึ้นกับร่างกาย,ราคาสูง,ทำ4-6ครั้งขึ้นไปขึ้นกับความกว้างของรูขุมขน

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

ฟิลเลอร์ 

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนความหนาแน่นของผิวชั้นหนังแท้ส่วนตื้นทันที โดยการเติมไฮยาลูรอนิคเอซิด ชนิดเดียวกับที่มีอยู่ในผิว (สารที่โอบอุ้มน้ำ) ให้ดูเติมเต็ม 70-85%

ข้อดี เติมเต็มเห็นผลทันทีทันใจ / สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อด้อย ต้องฉีดบ่อยประมาณ3-4ครั้งต่อเดือน / ราคาสูง

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

โบทูลินูมทอกซิน

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนระบบการทำงานบางอย่างเช่น การผลิตน้ำมันของผิว,ต่อมเหงื่อ

เข้าไปควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อลดเหงื่อ , ลดการผลิตน้ำมัน

ข้อดี เห็นผลในสัปดาห์แรก / สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อด้อย ต้องฉีดบ่อย2-3เดือนไปซ้ำที / ราคาสูง

ลักษณะผิวที่ทำได้ ผิวมัน,ผู้ที่ใบหน้ามีเหงื่อออกเยอะ

 

 

เวชสำอาง หรือ สกินแคร์สูตรกระชับรูขุมขน

ความสามารถ&หลักการ  บางสูตรช่วยเคลือบผิวให้เรียบเนียน,บางสูตรให้ความชุ่มชื่นฟื้นฟูผิวหนังด้านบนให้ดูอิ่ม,บางสูตรมีสารที่ช่วยละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนเมื่อรูขุมขนสะอาดจึงแลดูเล็กลง เช่น ส่วนผสมที่ลดการผลิตน้ำมัน หรือ ปรับสมดุลน้ำมัน เช่น linoleic acid / Niacinamide2%+ / Salicylic acid[BHA] / ทากันแดดเป็นประจำ SPF 30-50 PA+++ขึ้นไป และ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มองหา OIL FREE , NON-COMEDOGENICกินยารักษาสิวบางประเภทก็อาจควบคุมน้ำมันบนผิวได้แต่ควรอยู่ในความดูแลของหมอผลข้างเคียงเยอะมาก note* อย่าใช้อะไรที่ทำให้ผิวแห้งมาก เช่น เจลฟองเยอะ การผลัดเซลล์ผิวมากไป จะกระตุ้นให้เพิ่มการหลั่งน้ำมัน

ข้อดี ให้ความชุ่มชื่น,คุมมัน,ละลายสิ่งอุดตัน,เคลือบผิวให้เรียบเนียน

ข้อด้อย สกินแคร์ใช้ต้องใช้ระยะเวลา ส่วนใหญ่ทาไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างผิวชั้นลึก อีกอย่างผลจึงขึ้นอยู่กับแต่ละคน ต้องใช้ต่อเนื่อง และกระชับได้ในระดับนึงเท่านั้น(เล็กน้อย)

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา ต้องเลือกให้เหมาะ ผิวผสมอาจต้องใช้ทั้ง 2 สูตร

 

 

เครื่องสำอางสูตรปกปิด หรือ พรางรูขุมขน

ความสามารถ&หลักการ  ปกปิดหรือพรางรูขุมขนให้แลดูเล็กลงทันทีด้วยส่วนประกอบบางอย่าง เช่น ซิลิโคน

ข้อดี ให้ผลทันที,ราคามีตั้งแต่ถูก-ปานกลาง

ข้อด้อย ด้วยส่วนประกอบบางชนิดอาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา

 

 

พอกด้วยสมุนไพร เช่น มะเขือเทศ

ความสามารถ&หลักการ  ด้วยวิตามินเอ และ ซีในมะเขือเทศ ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว สร้างสมดุล ขจัดน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวกระจ่างใส จากการพอกมะเขือเทศบด สูตรมีหลายสูตร คนผิวมันอาจเติมมะนาวลงไป2-3หยด ผิวแห้งเติมน้ำผึ้ง โยเกิตลงไป ลองไปหาสูตรแล้วลองทดสอบดูบางบริเวณก่อนค่ะ เขาว่ากันว่าช่วยกระชับรูขุมขนได้

ข้อดี ราคาถูก,หาซื้อง่าย,ทำเองได้ที่บ้าน

ข้อด้อย ได้ผลชั่วคราว,ได้ผลกับบางคนขึ้นกับผิวของแต่ละคน,เลอะเทอะ,กลิ่น

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา

 

 

นอนเร็ว

ความสามารถ&หลักการ เมื่อร่างกายพักผ่อนเพียงพอ สุขภาพภายในจะดี เก็บความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น ถ้าเรานอนดึกร่างกายก็ไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้ซ่อมแซม ร่างกายสูญเสียน้ำตลอดคืน ต่อให้ดื่มน้ำเข้าไป ก็จะมีการขับออกทางปัสสาวะ ทาครีมก็ไม่ซึมร่างกายต้องการระบายความร้อนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น และทำให้รูขุมขนบานออก คนผิวแห้ง หรือ ผิวธรรมดาเมื่อได้พักผ่อนอย่างรวดเร็วติดต่อกันจะสังเกตุได้ถึงผลลัพธ์

ข้อดี เป็นการปรับสมดุลร่างกายในชีวิตอย่างดีมาก,ไม่มีค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย สำหรับคนที่ติดนอนดึก นอนเช้า อาจเป็นการยากในการฝึก , ไม่ค่อยได้ผลในคนผิวมันซึ่งมีปัจจัยอื่นเช่นการผลิตน้ำมันที่มากเข้ามาเกี่ยว

ลักษณะผิวที่ทำได้ ผิวแห้ง ผิวธรรมดา

 

น้ำแข็ง

ความสามารถ&หลักการ ความเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขน นำมาวางไว้ในผ้า หรือ ใช้น้ำแข็งลูบบริเวณที่รูขุมขนกว้างวนไปวนมาอย่างเบามือ ประมาณ 5 นาทีเห็นผล

ข้อดี เห็นผลทันที,ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำประปาราคาถูก,ผลพลอยได้ แก้มดูแดงระเรื่อ เลือดฝาด

ข้อเสีย ผลอยู่ไม่กี่นาทีก็กลับมากว้างเหมือนเดิม

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

 

โฟโต้ชอป APPs 

ความสามารถ&หลักการ มีอุปกรณ์อิเลคทรอนิค เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ มือถือก็ประมวลผลออกมาให้ผลลัพธ์ทันที

ข้อดี เห็นผลทันที,ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟ ไม่กี่บาท, รู้สึกดีที่ได้เห็นภาพหลังทำ

ข้อเสีย เห็นผลลัพธ์ยอดเยี่ยมแค่รูป

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิวหน้าไม่มีข้อจำกัด ฮ่าฮ่า

 

ทุกวิธีที่กล่าวมาไม่มีวิธีไหนที่ถาวร ต้องต่อเนื่อง

และ ทางที่ดีผสมวิธีเพื่อเสริมกันไปเพื่อชะลอการกลับมากว้างเร็ว

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กันนะจ๊ะ ไปเลือกเอาตามใจชอบ อย่าลืมแชร์ต่อให้คนมีปัญหาเดียวกันได้รู้ด้วย 🙂

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, MAKE UP, SKIN, SKIN CAREComments (4)

เลเซอร์รักษารอยแดงที่เหนือกว่าอย่าง CYNERGY

” รอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอยที่หน้า เส้นเลือดใต้ตา เส้นเลือดฝอยตามน่อง ปานแดง ปานดำ บริเวณผิวหนังที่แดงผิวปกติ แผลคีรอยด์ และ กำจัดขน “

ปัญหาผิวหนังทั้งหมดที่กล่าวมาคือความสามารถในการรักษาของเลเซอร์ CYNERGY

เป็นการรวมนวัตกรรมของ

เลเซอร์ที่รักษาความผิดปกติของหลอดเลือด

เลเซอร์ที่ความผิดปกติของสีผิว และ เลเซอร์กำจัดขนไว้ด้วยกัน

[ pulse-dye laser & long-pulse Nd:YAG ]

สามารถรักษาได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน [MULTI]

” ปกติ VBEAM จะขึ้นชื่อเรื่องรอยแดงสิวอยู่แล้ว แต่VBEAMก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับเส้นเลือดขนาดเล็กๆละเอียดอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย สำหรับเลเซอร์ตัวนี้จะสามารถรักษารอยแดงได้ในบริเวณที่กว้าง หรือ แม้กระทั่งเส้นเลือดแดงที่มีขนาดเป็นฝอยเล็กๆตามผิวหนัง ทั้งนี้เส้นเลือดฝอยขนาดใหญ่ เล็กสีเขียวก็สามารถรักษาได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงแผลคีรอยด์ก็ทำให้ดีขึ้นด้วย รวมถึงการรักษาความผิดปกติของสีผิวหนัง เช่น ปานแดง ปานดำ “

ความเจ็บระหว่างทำ

อาจจะมีการทายาชาก่อนทำ และ มีการเป่าลมเย็นลดความเจ็บปวดได้ระดับนึง

การเตรียมตัวก่อนทำ

งดการตากแดดเป็นเวลา 1 เดือนอย่างน้อยก่อนทำ

หลังทำ – ผลข้างเคียง

  • สีผิวบริเวณที่ทำจะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม แดงคล้ำอยู่ 2 – 7 วัน จึงจะดีขึ้นเรื่อยๆ
  • เส้นเลือดบริเวณขาหลังทำอาจมีตุ่มน้ำพอง และ ผิวเป็นสีแดงเข้มอยู่ประมาณ 7-14 วัน
  • กำจัดขน อาจเป็นตุ่มน้ำใสๆเล็กๆขึ้น จะยุบเองประมาณ 2 ชั่วโมง อาจจะรู้สึกระคายเคืองผิวเล็กน้อย บางครั้งผิวอาจเป็นสีชมพูแดงประมาณ10นาทีจะหายไปเอง

 

ก่อนทำ  – หลังทำทันที และ 60 ชั่วโมงผ่านไป

[ขอบคุณรูปรีวิวของพ่อหนุ่มคนนี้ เขาหน้าแดงมากแดงเกินเลยรักษาเห็นภาพเลย]

การดูแลตัวเองหลังทำ

  • ล้างเบา ๆ ด้วยสบู่ที่อ่อนโยน น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยน และน้ำเปล่าที่สะอาด
  • ควรทาครีมบำรุงให้ความชุ่มชื่นทุกวันสม่ำเสมอ
  • สามารถทานยาแก้ปวดได้ ถ้ารู้สึกระบบ จากการทำในบริเวณที่กว้าง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด
  • นัดเช็คผลกับแพทย์ที่รักษา
  • งดเล่นกีฬาระหว่างที่รอยแดงยังไม่หายดี
หลังทำ 5 วัน

[พอหน้าหายแดงดูหล่อเลยวุ้ย]

กะว่าจะไปทำที่ ISKYCENTER จะทำที่ใต้ตามีเส้นเลือดอยู่ แต่เห็นว่ารอยมันก็อยู่หลายวัน เลยต้องมาหาข้อมูลรอไว้เพื่อช่วงไหนงดไปไหนจะจัดมาให้ดูค่ะ เอิ๊กว่าถ้าจะติดคงอยู่ที่รอยแดงหลังทำก่อนจะดูดีหลายวันไปหน่อย แต่ผลลัพธ์มันน่าทึ่งมาก ปานแดง ปานดำ คีรอยด์คงคุ้มมาก หรือ เส้นเลือดขอดตามขา และพวกเส้นเลือดตามหน้าสีแดงชัดไป ยังไงหาข้อมูลก่อนทำค่ะ รวมถึงข้อมูลแพทย์ด้วยดูแล้วตัวนี้พลังงานเลเซอร์จะเข้มมาก 🙂

XOXO

Posted in LASERComments (0)

EMATRIX หลุมสิวตื้น รูขุมขนกระชับ หน้าใสขึ้น

ขอบคุณ ISKYCENTER สำหรับข้อมูลประกอบค่ะ

วันนี้จะมาแนะนำเทคโนโลยีใหม่ EMATRIX ที่ลดผลข้างเคียงทั้งแผล และ สีผิวที่อาจเปลี่ยนไปได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ นำมาใช้ผลัดเซลล์ผิวด้านบน คล้ายลักษณะกึ่งมีแผล

เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษา

  • ริ้วรอย
  • หลุมสิว
  • รูขุมขนกระชับลง หน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น
  • ผิวพรรณกระชับ


เรียงตามลำดับ

เทคโนโลยีนี้ดียังไง ?

หลายคนคงคุ้นเคยกับคลื่นความถี่วิทยุมาบ้างแล้ว ในนวัตกรรมความงามคลื่นความถี่วิทยุสามารถช่วยได้หลายอย่าง เรื่องทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และอีกมากมาย

EMATRIX เป็นการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนโดยใช้คลื่นความถี่สูง (RF) กระจายพลังงานลงไปบนผิวในลักษณะรูปทรงปิรามิดซึ่งต่างจากการทำเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดอื่นๆ ที่เวลาทำแผลด้านบนจะใหญ่ และ ผลลัพธ์ก็กระจายเท่ากับที่ใช้เลเซอร์ยิงลงไป ทำที่ไหน ได้ผลเท่านั้น แต่ EMATRIX ไม่ใช่ยิงลงไปบนผิวแต่ปล่อยพลังงานจากจุดเล็กๆด้านบน แต่พลังงานเหล่านั้นลงไปชั้นหนังแท้แผ่ขยายพลังงานด้านล่างเป็นมุมกว้างจึงสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้น ลึกขึ้น แต่ แผลด้านบนมีขนาดเล็ก ลดการเกิดผลข้างเคียงในการปรับสภาพผิวแบบเดิมๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น 

EMATRIX จะปล่อยพลังงานแบบรูปทรง PYRAMID

ผลพลอยได้ของมันค่อนข้างเยอะ เช่นรักษาหลุมสิว เราก็จะได้ใบหน้าที่เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง หลุมตื้นขึ้น ใบหน้าใสขึ้น กระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาเรื่องการเกิดแผลขนาดใหญ่ แผลเป็น ด่างขาว สีผิวที่คล้ำลง ลดผลข้างเคียงไปเยอะมาก หรือไม่เกิดเลย ลดความเจ็บปวดไปได้เยอะระหว่างทำอาจรู้สึกเพียงอุ่นๆ

ผลลัพธ์เห็นเมื่อไหร่

การปรับสภาพผิวนั้นอาจต้องใช้เวลาถึง 4-6 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผลเพื่อเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นสร้างขึ้นมาใหม่

ต้องรักษากี่ครั้ง

ขึ้นกับปัญหาผิวพรรณที่ต้องการรักษา อย่างหลุมอาจต้องใช้เวลามากหากลึกประมาณ​3-6ครั้ง อาจดีขึ้นมากถ้าเป็นตื้น แต่ถ้าลึกอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยและอาจไม่หาย 100%

การดูแลตัวเองหลังทำ

อาจเกิดสะเก็ดเล็กๆ คล้ายรอยตะแกรงบาบีคิวมานาบเบาๆ แดง แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ราคา

ค่อนข้างสูงประมาณ 15,000 / ครั้ง หรือ เป็นคอร์ส 36,000 บาท แล้วแต่จำนวนครั้งในการยิง เนื่องจากหัวที่ใช้ยิงเป็นทองคำซึ่งใช้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง

ความปลอดภัย

ระดับสูงผ่าน FDA เรียบร้อย 

ข้อแนะนำ

การปรับสภาพผิวทุกชนิดต้องมีการกระตุ้นคอลลาเจนผลิตเนื้อเยื่อโครงสร้างผิวที่แข็งแรงใหม่ขึ้นมาอาจต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์

เมื่อเช้าแวะไปอ่านกระทู้ท่านนึงมา ผ่านการรักษาหลุมมาโชคโชนเกือบ 10 วิธี เธอบอกว่า EMATRIX ติด 1 ใน 3 วิธีเธอแนะนำว่าเห็นผลจริงเอิ๊กเองยังไม่มีโอกาสได้ลอง ถ้าได้ลองจะมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนตัวอายุปีนี้ 25 แล้วการผลิตคอลลาเจนก็น้อยลงมาก ขึ้นกับสภาพร่างกายอีกคิดว่าอาจได้ใช้การปรับสภาพผิวมาช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนบ้าง เพราะมันอยู่อีกนานเมื่อมันดึ๋งดั๋งขึ้นแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆหลายที่เคยกรอหลุมสิว ริ้วรอย หรือ รูขุมขนด้วยเลเซอร์ชนิดมีแผล เอิ๊กได้ผลข้างเคียงคือ ผิวชมพู ตอนนี้จะ 5 เดือนแล้วยังไม่หายสนิทแต่ดีขึ้นเรื่อย เอิ๊กอาจจะใช้วิธีนี้ถ้าต้องการทำให้หลุมมันดีขึ้นเป็นวิธีต่อไปค่ะ เพราะไม่อยากได้ผลข้างเคียงอะไรอีกแล้ว <3

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (0)

ฟิลเลอร์ผสมยาชา สวยเร็วไม่เจ็บ JUVEDERM

เมื่อหลายวันก่อนได้คุยกับคุณหมอรังสิมา ที่ISKYCENTER ถึงความเจ็บปวดในการฉีดฟิลเลอร์ ว่ามันปวดมาก ผู้ใหญ่หลายคนที่เริ่มมีริ้วรอยคงชอบทำ เนื่องจากมันเป็นสารไฮยารูโรนิค แอซิด ที่อุ้มน้ำ เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ เมื่อฉีดเติมร่องลึกริ้วรอยก็แลดูตื้นเต็ม ทำให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ส่วนอีกด้านก็นิยมนำมาปรับแต่งอวัยวะให้ดูมีมิติ เช่น เติมปลายจมูกรูปหยดน้ำ เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม เติมร่องใต้ตาลึก เติมคางให้ดูเรียวยาว 

ฟิลเลอร์ปกติเราเติมกันตรงไหนบ้าง ?

การสลายของฟิลเลอร์ขึ้นกับยี่ห้อและสภาวะร่างกายคนไข้รวมถึงการใช้ชีวิต

คุณหมอรังสิมาได้แจ้งว่าตอนนี้ฟิลเลอร์อีกตัวที่ผ่านอย.เรียบร้อยนั้นผสมยาชาทำให้ลดอาการเจ็บปวดถึงขั้นหลายคนไม่รู้สึกเจ็บเลย เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตโดยประเทศอเมริกา บริษัทเดียวกับ BOTOX ALLERGAN ที่ดีและดังมากเป็นแบรนด์นำระดับโลกแบรนด์นึง ดังนั้นปลอดภัยสูงเพราะ FDA เรียบร้อย ถ้าเป็นเมืองไทยเอิ๊กยกให้อันดับหนึ่งสำหรับ ALLERGAN

ฟิลเลอร์ตัวนี้เป็นแบรนด์ชื่อว่า JUVEDERM

ข้อดี : JUVEDERM

  • ไม่เจ็บปวดเพราะมียาชาผสม
  • อยู่นานกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอายุประมาณ 1 ปี เทียบกับยี่ห้ออื่นอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน
  • ไม่เป็นก้อน และ ผิวหนังเรียบเนียน กลืนกับผิว
  • ไม่ยุบตัวหลังฉีดเยอะเหมือนฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น 

ราคา

ที่ ISKYCENTER คือ ถามบริเวณจมูก หรือ คางคือหลอดละ 14,000 บาท

 

ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ค่อนข้างเป็นธรรมชาติอย่างที่เคยได้เขียนรีวิวไป

เทคโนโลยีค่อนข้างมาเร็ว ดังนั้นผู้หญิงไทยเรา อาจมีสิทธิ์คงความอ่อนเยาว์ได้นานขึ้นเรื่อยๆ สมัยนี้คงดูกันที่มือไม่ได้ คงจ้องที่ดวงตาที่จะเปลี่ยนสีเมื่อยามสูงวัยขึ้นเรื่อยๆได้ยางเดียว 

วิธีดูแลตัวเองหลังจากทำ FILLER โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา

ใครห้ามฉีดฟิลเลอร์ JUVEDERM

  • ผู้ที่แพ้สาร HYALURONIC ACID
  • ผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • ผู้ที่แพ้ยาชา
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลคียลอยด์ง่าย
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ JUVEDERM
  • ห้ามทำเลเซอร์ชนิดมีแผล หรือ ลอกหน้าบริเวณที่ฉีด
  • ห้ามทำบริเวณผิวหนังอักเสบ หรือ ติดเชื้อยู่
  • งดทำเลเซอร์ และ ทรีทเมนท์เป็นเวลา 2 อาทิตย์
  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือ สูบบุหรี่ 2-3 วันเพื่อลดการแดง ช้ำ บวม บริเวณที่ฉีด
  • ไม่ควรแต่งหน้าภายใน 12 ชั่วโมงหลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงการโดดแดด  หรืออยู่ในอุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส
  • ไม่อบซาวน์นา 2 สัปดาห์หลังฉีด
ผลข้างเคียงที่เกิดได้
  • บริเวณที่ฉีดบวม แดง
  • เกิดผื่นแดง คัน หรือปวด
  • ห้อเลือด
  • เกิดการแข็งตัวของเนื้อเยื่อ หรือปุ่ม
  • รอยด่าง หรือ ผิวหนังเปลี่ยนสีบริเวณที่ฉีด
สิ่งสำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์นั้น ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องปลอดภัยผ่าน FDA หรือ อย. ไทย และฉีดกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นซึ่งการฉีดอะไรก็ตามลงบนใบหน้าผู้ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญระดับสูงเนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้ามีเส้นเลือด เส้นประสาทอยู่มาก หากพลาดไปแม้เพียงนิดเดียว เราอาจต้องเสียใจไปตลอดชีวิต อยากฝากไว้ค่ะ
เอิ๊กอยากฉีดเล่นๆดู แต่คิดไปคิดมา PHOTOSHOP ดูก่อนว่าถ้าฉีดจมูกให้ดูแหลมไม่อ้วนเหมือนตอนนี้จะเป็นยังไง ?
555555

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACEComments (0)

ลดแก้มด้วยทางเลือกที่ 2 – LIPO GOLD ที่ MINERVA

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

ทางเลือกที่ 1 ของการลดแก้มที่เป็นกล้ามเนื้อ ได้เลือกไปแล้วเป็นเส้นทางของการฉีดสารโบทูลินูมทอกซิน ผลปรากฏเป็นที่พอใจตลอดมาเพียงแต่ไม่ใช่พอใจที่สุด เวลาอยากหน้าผอมขึ้นมา แล้วรู้วิธีทำได้เอิ๊กก็หาข้อมูลจากคุณหมอ ผู้เชียวชาญ การศัลยกรรม และอีกหลากหลายวิธีมากมายที่เป็นทางเลือก สรุปรอบนี้เลือกที่จะฉีดสารละลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มเพื่อให้น้ำในไขมันแตกตัว และ เซลล์ไขมันเล็กลง ข้อเสียแน่นอนถ้ากลับมาอ้วนอีก ไขมันก็กลับมาอีก ข้อดีคือทำให้เราพึงระลึกตลอดเวลาว่าอย่าทานเยอะ ถ้าไม่อยากแก้มกลับมา

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

 

เอิ๊กเป็นผู้หญิงมีแก้ม จริงๆพอใจกับแก้มที่มี และ หัวที่โตเกินขนาดแล้วจนเมื่อเวลาทำงานบางทีถึงรู้ว่ามันเล็กอีกหน่อยคงดีกว่านี้ เหตุเกิดจากการได้รับเชิญไปถ่าย FASHION SET ของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำผมยี่ห้อนึง แล้วเห็นว่าใบหน้าตัวเองเบ่งบานราวกับดอกไม้ในกล้อง DSLR ( คำถามเกิดขึ้นในใจ ขนาดจัดโบทูลินูมทอกซิน หรือ โบทอกซ์ไปแล้ว ) 

วันที่ 21 มิ.ย. เดือนนี้ เอิ๊กกับตอนเวลาหันข้างมันค่อนข้างล้นมาก เผอิญก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน พญ.อณัฏฐ์ชา อัศดามงคล (หมอเจี๊ยบ) MINERVA ก็เชิญเอิ๊กไปทดสอบการสลายไขมันที่พวงแก้ม เอิ๊กจึงตัดสินใจไปฟังก่อน เนื่องจากเอิ๊กค่อนข้างเน้นความปลอดภัยในการทำทุกอย่างเป็นหลัก 

เมื่อพบคุณหมอคุณหมอค่อนข้างดูเด็กกว่าในรูปและใบหน้าที่เล็กมาก คุณหมอให้คำแนะนำอย่างละเอียดในเรื่องการฉีดสลายไขมันส่วนเกินซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีเฉพาะ MINERVA ตัวนี้ชื่อว่า LIPO GOLD  การตัดสินใจตอนนั้นที่รวดเร็วเนื่องจากช่วงเช้าวันนั้นพบปัญหาในการถ่ายรูป โดยเฉพาะเวลาออกทีวีหน้าจะอืดมาก 😛 และเอิ๊กอยากให้ทางออกในการผ่าตัดเอาไขมันกระพุ้งแก้มออกเป็นเรื่องสุดท้าย เนื่องจากทุกคน ชอบในเอกลักษณ์ และ จำได้ว่าผู้หญิงมีแก้มนี่แหละคือเอิ๊ก เอิ๊กก็ไม่ได้เอาออกหมด แค่ให้มันพอดี ไม่ล้นก็พอใจแล้ว 

วันนั้นเอิ๊กคงเหนื่อยมากถามคุณหมอวนไปวนมาจนไม่แน่ใจว่าคุณหมอจะรำคาญหรือไม่ คุณหมอก็ตอบทุกคำถามอย่างตั้งใจ 555 และเราก็เหนื่อยไปเอง

เรามาเข้าใจก่อนดีกว่าว่าโปรแกรม LIPO GOLD มันทำงานยังไงบ้างเป็นข้อมูลจากทาง MINERVA ทำไมส่วนที่เป็นไขมันส่วนเกินถึงเล็กลง

Lipo Gold Face

หลักการทำงาน :

  • สลายเซลไขมันให้แตกตัว และขับไขมันออกในรูปแบบของน้ำ ขับออกเป็นของเสียออกจากร่างกายทางระบบน้ำเหลืองและระบบขับถ่าย 
  • เนื่องจาก Lipo Gold เป็นตัวยาที่มีประสิทธิภาพสูงจึงสามารถสลายไขมันให้แตกตัวได้และสามารถนำไขมันที่แตกตัวแล้วขับออกจากใบหน้าได้เร็ว จึงทำให้มีอาการปวดที่บริเวณที่ฉีดสลายไขมัน ประมาณ 3 นาที และไม่มีอาการหน้าบวมหลังฉีด
  • จะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนใน 1 สัปดาห์หลังฉีด บริเวณที่สามารถฉีดสลายไขมันแล้วเห็นผลดี ได้แก่ บริเวณแก้มด้านล่าง แก้มช่วงกลางใบหน้า โหนกแก้ม และใต้คาง (เหนียง) หากต้องการสลายไขมันตามร่างกาย เช่น ต้นขา หน้าท้อง สะโพก จะใช้ Lipo Gold Body

การดูแลตัวเองก่อนทำ :

  • งดทานวิตามิน หรือยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนมาฉีดอย่างน้อย 7 วัน เช่น วิตามินอี น้ำมันรำข้าว น้ำมันตับปลา โสม Aspirin เป็นต้น เพื่อป้องกันอาการเขียว ช้ำ จากภาวะมีเลือดออกมาก ซึ่งโดยปกติแล้ว หากมีอาการเขียวช้ำเกิดขึ้น จะเห็นเป็นจุดเขียวเล็กๆที่บริเวณรอยเข็ม และหายไปได้เองภายใน 3-7 วัน

 
การดูแลตัวเองหลังทำ 

  • หลังฉีดสามารถทานอาหาร เล่นกีฬา ใช้ชีวิตได้ปกติ 
  • ควรดื่มน้ำมากขึ้น 2-3 วันแรก เพื่อช่วยขับถ่ายและนำไขมันที่สลายไปแล้วออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น 
  • ทุกๆครั้งที่ฉีด ไขมันจะสลายไปได้ประมาณ 10-20% แล้วแต่บุคคล 
  • สามารถเห็นผลชัดเจนได้ในครั้งที่ 2-3 และไขมันที่สลายไปแล้วจะไม่กลับมาอีก หากน้ำหนักไม่เพิ่มขึ้น


ข้อมูลเพิ่มเติม : 

  • ยาฉีดสลายไขมันจริงๆแล้วมีหลายชนิด ซึ่งชื่อโปรแกรมที่ใช้เรียกยาฉีดสลายไขมันที่แต่ละคลินิกใช้ อาจต่างกัน หรือคล้ายกัน ซึ่งมีหลายชื่อที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันเช่น Meso Fat, Meso Slim, Lipo Dissolve, Meso Lipo, Slim Cocktail เป็นต้น แม้ว่าชื่อที่ใช้เรียกจะเหมือนกันในแต่ละคลินิก แต่ตัวยาที่ใช้ฉีดอาจไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของยาสลายไขมันที่คลินิกนั้นใช้ เช่น อาการหน้าบวมหลังฉีด อาการปวด และจำนวนครั้งที่ต้องฉีดเพื่อเห็นผลที่ชัดเจน 
——————————————————————————————
ความรู้สึกของเอิ๊กสำหรับครั้งแรกที่ได้มีโอกาสใช้ทางเลือกฉีดสลายไขมันนั้น เอิ๊กเจ็บมากจริงๆ น้ำตาไหล มันปวดข้างในเวลาที่ตัวยาวิ่งอยู่แถวพวงแก้ม และเอิ๊กกินวิตามินอีก่อนหน้านั้น เอิ๊กจึงมีรอยเขียวหนึ่งจุดซึ่งค่อยๆจางแต่ยังคงมีอยู่ แต่ผลลัพธ์เอิ๊กต้องบอกว่าค่อนข้างพอใจ ซึ่งรอบนี้เอิ๊กกล้ามเนื้อที่ฉีดโบทูลินูมทอกซินกกลับมาอีกแล้วภายในระยะเวลา 3 เดือนเพราะเอิ๊กเคี้ยวมาก ทานอาหารมากนั่นเอง เอิ๊กจึงได้ฉีดโบทูลินูมทอกซินได้ด้วยแต่ผลคงยังไม่เห็นเร็วขนาดนี้ ถ้าเร็วคิดว่าต้องเป็น LIPO GOLD แน่นอน หลายคนทักว่าไปทำอะไรมา ไม่ได้ทำอะไร ฮ่าๆ ตอบแบบดารา แต่ภาพมันฟ้อง T^T !!!!
ข้อมูลเพิ่มเติม
LIPO GOLD 9,000 บาทต่อครั้ง
BOTOX 50 UNIT USA 15,000 บาทต่อครั้ง
สถานที่ MINERVA CLINIC SIAM DISCOVERY
 ยังไงอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับ อย. หรือ FDA มากๆนะคะ คำถามแรกที่ควรถามคือมันปลอดภัยไหมเอิ๊กจะถามคุณหมอทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยทุกอย่างในการดำเนินชีวิต อยากให้ทุกคนหาข้อมูลอย่างจริงจังก่อน สำหรับทุกตัวที่เอิ๊กเขียน :Dเพราะเรามีใบหน้าเดียว แล้วตัดสินใจเอา ขอบพระคุณคุณหมอเจี๊ยบสำหรับข้อมูลและการดูแลทางเลือกสลายไขมันเฉพาะจุดให้ค่ะ มารอดูผลครั้งต่อไป และ ต่อไปด้วยกัน อยากจะรู้ว่าถ้าไขมันฟีบลงแล้วจะเป็นยังไง ข้อดี คือ ถ้าอยากให้ไขมันกลับมาก็แค่กลับไปจ้ำม้ำกินเยอะๆนั่นเอง

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LIPOComments (0)

ดูแลผิวหลังเลเซอร์ Q&A

 

ลืมว่าหัวข้อนี้ไม่เคยเขียนอย่างจริงจัง เอิ๊กเขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ส่วนนึง และเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องจึงหาคุณหมอมาสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าที่ดูแลตัวเองมานั้นถูกทาง ให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่จริงและได้นำไปปฏิบัติในการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์ เนื่องจากวันนี้เอิ๊กไปเลเซอร์ขนใต้วงแขนมาที่ ISKYCENTER

เจ็บน้ำตาจะไหลแกล้งทำหน้าพริ้ม ยาชาไม่ช่วยอะไร วันนี้ได้เคล็ดลับใหม่จากคุณหมอเอาน้ำแข็งเย็นๆมาโปะจนปวดจ้า ชาลึกดี เจ็บน้อยลง

55555555555555555555555555555555555

ครั้งที่ 3 แล้ว ส่วนใบหน้าทนไม่ไหวเลยไม่ได้ทำ และ วันนี้ไม่ใช่ตารางเข้าของคุณหมอโอ๋ที่ยิงให้ประจำ จึงได้รู้จักแพทย์หญิงอีกคนที่น่ารักมากคนนึง เลยขอสัมภาษณ์มาค่ะ

 

ขอบพระคุณ แพทย์หญิง กิตธิรา ชัยสัมฤทธิ์ผ สำหรับข้อมูลในครั้งนี้ด้วยค่ะ

 

โดยปกติเลเซอร์จะเป็นพลังงานแสงที่เข้มข้นสูง ดังนั้นมันจึงร้อน และอาจผลัดเซลล์ผิวด้านบนเราออกไป เวลาหลังทำบางทีเรามีอาการหน้าแดง ผิวแห้ง และ ระคายเคืองง่าย ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ผิวบาง ผิวมันกำลังสร้างขึ้นมาใหม่เราอาจต้องบำรุงให้ความชุ่มชื่น และ ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องผิวที่พึ่งทำเลเซอร์ที่เพิ่งผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปให้สร้างขึ้นมาใหม่ทดแทนและแข็งแรง การดูแลหลังทำเลเซอร์ง่ายมาก ดูแลดีจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ไวมาก

 

การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์จะมีชนิดการดูแลแบ่งตามชนิดเลเซอร์ที่ทำ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

  1. ดูแลแผลเลเซอร์ชนิดมีแผล
  2. ดูแลแผลเลเซอร์ชนิดไม่มีแผล
  3. ดูแลแผลเลเซอร์ชนิดกึ่งมีแผล (อาจจะมีสะเก็ดเล็กน้อย)

เพื่อให้การทำเลเซอร์สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เราจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์อย่างจริงจัง และดูแลอย่างตั้งใจไม่ให้เงินเสียไปอย่างสูญเปล่า

1. การดูแลแผลเลเซอร์ชนิดมีแผล

เช่น เลเซอร์ CO2 เอาไฝ ขี้แมลงวันออก / เลเซอร์ ND YAG เอารอยสักออก หรือพวกกรอผิวด้านบนทุกชนิดที่ทำให้เกิดแผลทันทีหลังทำ

  • ห้ามโดนน้ำเด็ดขาดหลังทำเพื่อป้องกันการติดเชื้อจนกว่าแผลจะตะสะเก็ดหลุดออกไป
  • ใช้น้ำเกลือฆ่าเชื้อที่เช็ดหน้ามาเช็ดทำความสะอาดแผลได้
  • ใช้ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อทาแผล หรือ ใช้วาสลีนทาแผล
  • หลบแดด เพื่อป้องกันรอยดำเนื่องจากผิวไวแสงขึ้น
  • งดแต่งหน้า ทาครีม 5-7 วัน

2. การดูแลแผลเลเซอร์ชนิดไม่มีแผล

เช่น IPL / GENTLE YAG / THERMAGE

  • ทาครีมได้ปกติ
  • แต่งหน้าได้ปกติ
  • ทากันแดดหลบแดดสม่ำเสมอ

3. การดูแลแผลเลเซอร์ชนิดกึ่งมีแผล

เช่น FRACTIONAL / EMATRIX กรอหลุมสิวด้วยคลื่นความถี่วิทยุ อาจจะมีสะเก็ดเล็กๆหลังทำ

  • ไม่ล้างหน้าด้วยน้ำสกปรก 1 วัน
  • เว้น 1 วันถึงทาครีมได้
  • เว้น 1 วันถึงแต่งหน้าได้
  • ทากันแดดสม่ำเสมอ
  • หลบแดด 1-2 อาทิตย์
เลเซอร์ไม่ได้ทำให้หน้าบาง แต่ที่รู้สึกระคายเคืองง่ายเพราะความร้อนทำให้ผิวแห้งลงนะจ๊ะ <3  ดูแลตัวเองกันด้วย
XOXO

Posted in LASER, Q&AComments (2)

REVIEW เลเซอร์ขนใต้วงแขน หนวด สิวเสี้ยน ด้วยเลเซอร์ GENTLE YAG

ขอยาชาด่วนค่ะคุณหมอ !!!!

เสียงนี้ดังอยู่ในหัวระหว่างตัดสินใจพลาดบอกคุณหมอว่ายาชาไม่ต้อง เพราะคิดว่าไม่เจ็บในการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ จะว่าเจ็บมากก็ไม่ใช่ แต่มันเจ็บแบบปนปวดเล็กๆตอนยิง ลักษณะเหมือนเอาหนังยางเส้นเล็กตึงๆเหนียวๆ มาดีดซ้ำไปซ้ำมาไล่ไปไล่มา บริเวณเดิม แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ

ทำกับคุณหมอคนสวยคนเดิม คุณหมอโอ๋ ณ ISKYCENTER

คุณหมอเป็นคนที่ทำอะไรไวมาก และ ต้องการให้เห็นผลชัดเจน ชอบเพิ่มพลังงานเลเซอร์ถ้าเราทนไหว จะได้จบคอรส์เลเซอร์เร็วๆ เวลาปรึกษาคุณหมอจะคุยกับเราเพราะ เสียงเย็นๆ ช้าๆ เหมือนคุณครูอนุบาล อิอิ แต่เวลาเลเซอร์เหมือนครูสอนคอมพิวเตอร์ เร็วและเครื่องแรงมาก

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ GENTLE YAG เป็นอย่างไร CLICK

รอบนี้รอบที่ 2 สำหรับบริเวณใต้วงแขน / รอบที่ 1 สำหรับหนวด / รอบที่ 1 สำหรับสิ้วเสี้ยนที่จมูกและด้านข้างแก้ม อยากทำที่ใต้วงแขน เพราะอยากให้เนียนๆ ไม่อยากตาเหล่ถอน และอยากใส่แขนกุดแบบมั่นใจ มั่นใจ ทำที่หน้าเพราะสิวเสี้ยนเยอะ ขนที่หน้าเยอะ เวลาแต่งหน้ามันไม่เรียบกริ๊บ รวมถึงหนวดบางๆด้วย เราว่ามันเจ็บพอๆกับกรอหลุมสิวเลยล่ะ คุณหมอบอกว่าแต่มันก็คุ้ม เพราะผิวจะดูขาวขึ้น โอกาสขนกลับมาก็มีน้อยมาก แต่ก็ต้องขยันมาทำทุกเดือน ประมาณเฉลี่ย 5 ครั้งจบคอร์สขึ้นกับจำนวนความหนาแน่นของเส้นขนด้วย

มาถึงวินาทีแห่งการพลีชีพ รีวิวจุดที่ได้เอาขนออกครั้งแรก หลักการปล่อยพลังงานแสงไปจับเซลล์รากขนให้ฝ่อลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นทุกครั้งที่จะทำอย่าถอนขน ให้ไว้ให้ยาว หรือใช้วิธีโกนเพื่อให้ยังมีรากขนอยู่ เวลาปล่อยแสงเลเซอร์จะได้ดิ่งลงไปจับที่รากขนได้อย่างไว

จุดที่ 1 : หนวด เป็นคนมีหนวดบางไม่เพ่งก็ไม่เห็น ปกติก็ไม่ให้ใครเพ่งอยู่แล้ว ฮี่ฮี่ แต่ถ้ามันมีขึ้นมาก็ไม่มั่นใจ เลยเอาออกตัดความกังวลจิตใจทำครั้งแรก มันก็ดูบางลง 40% ด้านบนหายไปหมดแล้ว เหลือแต่ด้านข้างที่แลดูหนากว่าบริเวณกลางปาก ทำต่อไหม ทำต่อแต่ขอยาชาด่วน ……..

 

จุดที่ 2 : ขนสิวเสี้ยนที่จมูกและข้างแก้ม ขนที่หน้าบริเวณข้างแก้มจะหนามาก ที่เห็นคือทำมาแล้ว 1 ครั้ง ขนขึ้นบ้างหลุดบ้าง บางรูขุมขน ลดลง 40% แต่ความหนาของขนยังเท่าเดิม คิดว่าต้องทำหลายรอบเลยสำหรับใบหน้า เพราะขนเยอะ ยังไม่รวมไรขนขาวๆเล็กๆ สิวเสี้ยนนี่ไม่ต้องพูดถึง ยังคงหนาเหมือนเดิม ต้องทำหลายครั้งแน่ๆนอน ทำต่อไหม ทำต่อแต่ต้องขอยาชาด่วนนนนนนนเหมือนกัน

จุดที่ 3 : ใต้วงแขน หรือ รักแร้ ทำมา 2 ครั้งแล้ว ประทับใจวัยรุ่นตอนปลายแล้วมาก เพราะมันจะเนียนมาก เนียนหลังทำ ขนขึ้นช้าลง ขนขึ้นน้อยลง 50% นับเส้นได้เลย และ บางลง 20% บางเส้นเวลาดึงก็หลุดติดมือออกมาได้โดยง่าย นี่เว้นระยะเดือนกว่าแล้วทำให้เริ่มไม่เนียน ต้องไปซ้ำ ทำต่อแน่นอนแต่ต้องมียาชา เป็นบริเวณที่รู้สึกเจ็บได้ดีทีเดียว เวลาหลังทำใต้วงแขน ความมั่นใจมันพุ่งมาก แขนกุดมาเลย 55555555

การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ คืออย่าไปยุ่งกับมันซัก 24 ชม ให้มันหายแดง กลับบ้านก็ทาอะไร ล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ แต่ด้วยความร้อนจากเลเซอร์จะทำให้ผิวบริเวณนั้นของเราแห้ง ให้ทาครีมบำรุงเพิ่มอีกเท่านึง เพราะอาจเกิดการระคายเคือง เช่น คัน แห้ง และ ลอกง่ายได้ เป็นเหมือนกัน เวลาคันจะเอาครีมมาโบกเพ่ิมความชุ่มชื่นทันที และ กันแดดสมำ่เสมอตามปกติค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าทำใต้วงแขน หรือ ทำที่บริเวณขนเยอะมากเช่นขา หน้าแข้งสำหรับผู้หญิง จะคุ้มสุดเพราะจะรู้สึกดี ผิวมันจะเปลี่ยนไป จากตุ่มๆ ผิวที่ขนยาวมากที่ทำให้ไม่มั่นใจจะเนียนขึ้น แต่เอิ๊กใจไม่ถึงทำทั้งตัว เอาที่ๆเราสบายๆก่อน 🙂 ตั้งแต่ทำมายังไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นนอกจากผิวที่แห้งลงและต้องบำรุงหน่อยไม่ถึงสัปดาห์ก็กลับมาเป็นปกติค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆเช่นเคยค่ะ <3

 การไม่มีขน ทำให้แต่งหน้าได้ประเสิรฐขึ้นสำหรับเรา 55555

New layer…

Posted in FACE, LASER, REVIEW, UNDERARMComments (0)

ผิวบางคืออะไร และ ผิวบางทำไงดี Q&A

erk-erk.com
erk-erk.com
erk-erk.com
erk-erk.com

ผิวบางทำไงดี ?

erk-erk.com

erk-erk.com

เราจะมาพูดถึง คำนิยามของ ผิวบางกันในวันนี้
2 มุมมองที่แตกต่าง มุมมองของคนธรรมดา vs มุมมองของแพทย์ผิวหนัง
ผิวบางเป็นแบบไหน
erk-erk.com
 คนธรรมดา มองว่า ผิวบางอาจเป็นผิวที่โดนอะไรไม่ได้ เป็นสิวง่าย ผิวที่ไวแสง ไวต่อสารเคมี ผิวเป็นผื่น ผิวอ่อนแอ ผิวที่ชั้นผิวโดนทำลาย ผิวที่ใช้พวกครีมหน้าขาวแล้วลอกไวจนบาง ผิวที่แสบหน้าเวลาโดนแดด ผิวที่แดงง่าย ผิวที่เห็นเส้นเลือด ผิวที่แพ้ง่าย ผิวบางแบบเด็ก นิยามของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ..
แพทย์ผิวหนัง มองว่า คำว่าผิวบาง คนไข้แต่ละคนมองคำว่าผิวบางในความหมายที่ต่างกัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจความจริงก่อนว่า ผิวของคนเรามีความหนาบางวัดออกมาไม่เท่ากันอยู่แล้ว เหมือนอย่างเช่น ตามร่างกาย ผิวหนังบนใบหน้า แก้ม ตา จมูก หน้าผาก ผิวทุกส่วนที่กล่าวมา มีความหนาบางต่างกัน อย่างผิวหนังรอบดวงตาก็อาจจะบางทีสุดกว่าทุกส่วนบนใบหน้า ผิวหนังลำตัวก็อาจจะหนากว่าผิวหนังบนใบหน้า และ แยกออกไปอีก ที่ว่าบาง เป็นผิวหนังชั้นไหน ? 
erk-erk.com
ผิวหนังของคนเรามี 3 ชั้น 
ชั้นนอก(ชั้นหนังกำพร้า) 
ชั้นกลาง(ชั้นหนังแท้) 
ชั้นใน(ชั้นไขมัน)
วันนี้เราจะมาพูดถึงผิวชั้นหนังกำพร้า หรือ ผิวชั้นนอก ซึ่งบนสุดจะมีเซลล์ผิวที่ตายแล้วเนื่องจากไม่มีสารอาหารและเลือดไปเลี้ยง
เรียกว่า ” ชั้นขี้ไคล “
ชั้นขี้ไคล สำคัญยังไง ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจาก ฝุ่นละออง เชื้อโรค สารเคมี ไม่ให้ซึมผ่านลงไปทำร้ายผิวชั้นที่ลงไปได้ หน้าที่นี้จะทำไปพร้อมคู่กับชั้นน้ำมันเคลือบผิว

ถ้าชั้นขี้ไคลของหนังกำพร้า รวมถึงชั้นน้ำมันเคลือบผิว หายไป หรือ เสียหาย ก็จะทำให้ผิวเราระคายเคืองง่าย อ่อนแอลงได้ เช่น เกิดอาการแพ้ง่าย ไวต่อฝุ่นละอองและสารเคมี ผิวอ่อนแอลง ผิวที่ใช้พวกครีมสูตรผลัดเซลล์ให้ผิวดูขาวขึ้นแล้วรู้สึกว่ามันบาง ผิวที่แสบหน้าเวลาโดนแดด ผิวที่แดงง่าย ผิวบางแบบเด็ก อาการเหล่านี้เกิดจาก ชั้นขี้ไคลบาง หรือ ถูกผลัดออกไป เนื่องจากมันมีการหลุดลอกของตัวมันเองอยู่แล้วภายใน 2-4 สัปดาห์ เพราะมันคือเซลล์ที่ตายแล้ว แสดงว่า ที่ทุกคนกำลังพูดถึง นั่นหมายถึง ผิวชั้นขี้ไคล หรือ ชั้นน้ำมันเคลือบผิวบางลง ไม่ได้หมายถึงผิวหนังทุกชั้นที่กล่าวมา 🙂
erk-erk.com
erk-erk.com
ดังนั้น แพทย์ผิวหนังถึงลงความเห็นว่า 
erk-erk.com
ผิวบางในมุมมองของคนไข้คือ ผิวชั้นขี้ไคลบางลง จึงทำให้รู้สึกมีปัญหา รู้สึกผิวไวแสง แพ้ง่าย ผิวแดงง่าย ผิวอ่อนแอ ผิวที่ใช้อะไรผื่นก็ขึ้น ผิวที่เลเซอร์มาก็ทำให้ชั้นขี้ไคลถูกผลัดออกไปด้วยแต่ไม่ได้ทำให้ผิวชั้นขี้ไคลบางถาวรมันจะกลับมาให้ผลัดอีกอยู่แล้ว และเลเซอร์จะไปกระตุ้นคอลลาเจนสร้างใหม่ทำให้ผิวชั้นหนังแท้หนาตัวแข็งแรงขึ้นด้วยต่อไป ผิวเห็นเส้นเลือด (ความจริงเป็นเรื่องปกติ) ฯลฯ เพราะฉะนั้น ผิวบางที่ชั้นขี้ไคลและชั้นน้ำมันเคลือบผิวเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงผิวชั้นอื่น สาเหตุก็มาจากหลายปัจจัย เช่น ผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินไป ขัดผิวบ่อย ใช้อะไรรุนแรงจนทำให้ชั้นน้ำมันเคลือบผิวถูกทำลาย ทำทรีทเมนท์กรดผลไม้ ฯลฯ
วิธีแก้ 
1. ชั้นขี้ไคลกลับมาได้ตลอดเวลา เพราะผิวหนังชั้นที่ลึกกว่านี้จะดันชั้นนี้ออกมา จนกลายเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว
2. ชั้นน้ำมันเคลือบผิวน้อย ถูกทำลาย ก็เน้นบำรุงให้ชุ่มชื่น ไม่ให้แห้งลอก เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองง่าย
erk-erk.com
erk-erk.com
ผิวบางในมุมมองของแพทย์ผิวหนังคือ ผิวที่เป็นแผล ถลอก มีแผลเกิดขึ้นจนถึงหนังแท้ เช่น ล้มถลอก น้ำร้อนลวก ทำให้ชั้นผิวบางต้องดูแลเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เชื่อโรคหรืออะไรเข้าไปทำให้เกิดการติดเชื้อ และ หมายถึงผู้สูงอายุ ความหนาของชั้นผิวคนเราทั้งสามชั้น โดยเฉพาะ ชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจนจะน้อยลงเรื่อยๆ และ ชั้นไขมัน ก็จะบางลงไปตามอายุเช่นกัน อันนี้เรียกว่าผิวหนังบางลงในมุมมองตามความเป็นจริงของแพทย์ผิวหนัง
วิธีแก้
1. รักษาแผลให้หายสนิท บำรุงสม่ำเสมอด้วยครีมรักษารอยแผลเป็นเพื่อให้เนื้อเยื่อที่ถลอกไป สร้างขึ้นมาใหม่อย่างแข็งแรง
2. กระตุ้นคอลลาเจนด้วยความร้อน จาก เลเซอร์ที่สามารถยิงกระตุ้นโดยตรงไปที่ชั้นคอลลาเจนได้ 
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจน และ อิลาสติน เนื้อไก่ เนื้อปลา ขาไก่ กระดูกอ่อน ควรมีรสเปรี้ยวเสริมด้วยจะได้วิตามินซีทำให้คอลลาเจนดูดซึมดีขึ้น 
erk-erk.com
erk-erk.com
erk-erk.com
erk-erk.com
หวังว่าคงหายสงสัย กัน และเข้าใจให้ถูกว่า ผิวบาง ผิวชั้นไหนบางกันแน่ อิอิ 
บาย บาย
erk-erk.com
erk-erk.com
erk-erk.com
ข้อมูลประกอบการเขียนบทความ
– เทปสัมภาษณ์ พญ. วรทัย เตือนอารีย์ ISKYCENTER
– ทวิตเตอร์ คุณหมอเจมส์
– รูปภาพจากดอกเตอร์คอสเมติก

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, Q&A, SKINComments (0)

สิวเสี้ยนกับวิธีการรักษาทั้งหมดในไทย – BEAUTY TALK

” สิวเสี้ยนเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีไหนรักษาสิวเสี้ยนได้ถาวรตลอดไป ยกเว้นแต่ว่าเราโตมากขึ้นไป ฮอร์โมนเราจะลดลงไปเรื่อยๆ และโอกาสที่สิวจะลดน้อยลงก็มีมากขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นกัน ” 

www.erk-erk.com

สิวเสี้ยน เกิดได้ 2 สาเหตุ

1.ความผิดปกติของต่อมรูขุมขน ซึ่งผลิตน้ำมันในผิวมากกว่าปกติ จนเกิดการอุดตัน

2.มีเส้นขนเล็กๆมากมายกระจุกตัวอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน

 

ลักษณะสิวเสี้ยน 

เป็นสิวเม็ดเล็กหัวเปิดที่มักขึ้นเป็นกระจุก มองใบหน้าไกลๆอาจจะไม่พบต้องมาดูใกล้ๆ มีทั้งสิวหัวขาว และ สิวหัวดำ

[ รูปดิฉันเอง ปัญหาที่พบตลอดเวลา ถามว่าหนักใจไหม? ตอบได้ว่า ยังสู้ไหว 55 ]


 

สิวเสี้ยนพบได้ที่ไหน

จมูก คาง แก้ม หน้าผาก ต้นคอ หลัง เนินไหล่ ต้นแขน [ ที่ๆมีขนเยอะๆ ]

[ ในรูปเป็นลักษณะการอุดตันที่เกินจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป ผสมคราบขี้ไคลและเซลล์ผิวหนังที่ตาย ]

 

อายุ และ เพศ ที่พบ

ทุกเพศ ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงวัยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็ยังพบได้อยู่ จะพบมากในช่วงที่ฮอร์โมนมากระตุ้นต่อมไขมันเยอะ หรือ ฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเยอะ

 

 

 

9 วิธีรักษาสิวเสี้ยน

 

1. ทายา

ช่วยในเรื่องละลายไขมันและคราบไคลเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ที่มาอุดตันรวมตัวจนเกิดเป็นสิวเสี้ยนให้หลวมละลาย อ่อนตัวหลุดออกมา ที่นิยม ได้แก่

กรดวิตามินเอ เช่น ทริตินอล (Tretinol), เรตินเอ (Retin A) หรือสตีวาเอ (Steiva A) ทำให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง ทำให้ผิวแห้งลง ไวแสงข้อควรระวังซอกจมูก ซึ่งผิวจะบางไม่ควรทาโดน

BHA ซึ่งสามารถซึมละลายในน้ำมันใต้ผิวได้ดีกว่า เหมาะกับสิวเสี้ยนมากกว่า AHA

Benzoyl peroxide ยาละลายสลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขน เน้นกรณีที่มีสิวเสี้ยนเยอะ และมีการอักเสบร่วมด้วย ก็สามารถใช้ร่วมกับ กรดวิตามินเอ หรือ BHA ได้

  • ข้อแนะนำ

– กรดวิตามินเอให้ทากลางคืนอย่างเดียวเพราะอาจจะทำให้ผิวไวแสง อาจเริ่มทาวันเว้นวัน ทาตอนผิวแห้งเท่านั้น และ ต้องทากันแดดทุกวัน 

– BHA ทิ้งไว้หน้าอาจทำให้หน้าแห้งได้ และ ระคายเคืองง่าย ควรเริ่มตั้งแต่เปอร์เซ็นต์น้อยๆ

– การทา Benzoyl Peroxide และ ทุกตัวที่กล่าวมาเพื่อรักษาสิวเสี้ยน อาจทำให้ผิวแห้งลง จนเกิดการ แห้ง แดง ลอก ผื่นขึ้น จนกระทั่งเกิดสิวเพราะการแห้งระคายเคืองตามมาได้

– เครื่องสำอางที่ผสมสารพวกนี้อยู่จะอ่อนโยนกว่าเนื่องจากมี % หรือ กรดวิตามินเอต่ำกว่า แต่ก็ให้ผลช้ากว่าเช่นกัน

– หาข้อมูลก่อนใช้ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อดี ราคาสบายกระเป๋า / ซื้อใช้ได้ตามร้านยา หาง่าย / ทาเองได้ที่บ้าน

ข้อด้อย ต้องทาต่อเนื่อง และ ระวังผลข้างเคียง ทั้งผิวแห้งลง แดง ลอก ผื่น แสบ คัน ระคายเคืองอาจตามมาได้ ต้องใช้ซัก 1-3 เดือนขึ้นไปจะพบว่าสิวเสี้ยนอาจจะลดน้อยลงบ้างแต่ไม่หายไปหมด และ เมื่อหยุดทาก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่


 

 

2. กดหรือดูดสิวเสี้ยน

นิยมมากในคลินิคเสริมความงามทั้งหลาย

– ใช้ไม้กดสิว

– เครื่องดูดสิว แบบเปิดรูขุมขนก่อนด้วยระบบไอน้ำ โอโซน และใช้เครื่องดูดจุ๊บๆให้ออกมา

ข้อแนะนำ

– กด เป็นวิธีไม่นิยมกดเพราะรูขุมขนจะติดกัน อาจทำให้สิวเสี้ยนรูขุมขนข้างกันอักเสบ

– ดูด ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ แต่ไม่ค่อยออก อาจต้องลอกสิวเสี้ยนด้วยกาว หรือ มาส์คร่วมด้วย อาจทาพวกยาตามข้อ 1 ซัก 1 – 2 อาทิตย์ก่อนไปดูด จะออกดีขึ้น

ข้อดี ถูก

ข้อด้อย เจ็บ / บางทีกดไปอักเสบเป็นหนอง / เสี่ยงรอยสิวเกิด / ออกไม่หมดยังเหลือสิวเสี้ยนอยู่

 


 

 

3. ขัดผิว / ทำทรีทเมนท์

เป็นการรบกวนผิวอย่างหนึ่งหากทำบ่อย นานเกินไป และรุนแรงเกินไป

– ขัดผิวให้เรียบเนียนด้วยสครับ บางครั้งที่ขัดออกไปอาจจะเป็นแค่ปลายหัวสิวส่วนบนรากยังอยู่ อาจจะออกบ้าง

– ทำทรีทเมนท์กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีประเภท microdermabrasion ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โอกาสออกอาจจะดีกว่าการขัดผิวด้วยมือ และช่วยลดเรื่องริ้วรอยบางๆได้

ข้อแนะนำ

– อย่าทำบ่อย 1 เดือนครั้งก็มากพอแล้ว ผิวแห้งให้หลีกเลี่ยงวิธีนี้ และ ผิวผสมที่มีส่วนแห้งก็ต้องหลีกเช่นกัน

 ข้อดี ขัดที่บ้านก็ถูก ทำเองได้ด้วย / กรอผิว ขัดผิวที่สถานเสริมความงามก็ราคาขึ้นมาอีกนิด แต่ไม่ได้แพง

ข้อด้อย ถ้าขัดแรงผิวก็เป็นแผลที่อาจจะมองไม่เห็น เป็นการทำลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วจนสิวเสี้ยนหลุดออกมา แต่ไม่ทั้งหมด ลึกๆไม่ค่อยออก และ ผิวจะระคายเคืองง่ายช่วงแรก เนื่องจากขัดผิวส่วนขี้ไคลออกไป


4. มาส์ค/กาว

 มาส์คเพื่อให้เนื้อมาส์คซึมและเมื่อแห้งก็ดูดเอาสิวเสี้ยนทั้งรากออกมาก เช่น

– ไข่ขาว นำสำลีชุบไข่ขาวให้ชุ่ม แล้วนำมาวางบนหน้า จะทำหนากี่ชั้นก็แล้วแต่ สุดท้ายรอให้แห้งแข็งแล้วก็ค่อยๆลอกออก

– มาส์คกาว ลอกสิวเสี้ยน ทามาส์คให้ชุ่มบริเวณสิวเสี้ยนไม่หนา ไม่บาง รอให้แห้งแล้วลอกออก

– กาวตราช้าง ยังมีบางคลินิคใช้อยู่ อันตรายกับผิวเป็นเคมีที่อาจทำให้ผิวบวมแดง ลอกไม่ดีก็ไหม้ดำได้

 ข้อแนะนำ

– 2 วิธีแรกใช้ได้ แต่กาวตราช้างแม้ออกดีมาก แต่อันตรายมากเช่นกันกับผิว เคยทำแล้วรู้สึกว่าออกดีที่สุดในบรรดาที่ลอกมาและใช้เวลาเร็วมาก

– ทำเสร็จอาจประคบด้วยน้ำแข็ง หรือ ทายาละลายสิวเสี้ยน เพื่อป้องกันรูขุมขนกว้าง

ข้อดี มาส์ค / กาวลอกสิวเสี้ยน ลอกได้เองที่บ้าน ราคาสบายกระเป๋า

ข้อด้อย ออกไม่หมด บางทีน้ำตาเล็ด แต่เวลาออกออกทั้งรากสิวเสี้ยน โอกาสกลับมามี และ โอกาสรูขุมขนกว้างมี 

5. แวกซ์

 อาจใช้กับลำตัว เป็นการแวกซ์ขนแต่สามารถดึงสิวเสี้ยนตามลำตัว ลำคอ หลัง ไหล่ หน้าผาก บริเวณกว้างๆ ออกมาได้ มีทั้งร้อน เย็น

ข้อแนะนำ 

– ให้ผู้เชี่ยวชาญทำให้ดีกว่า เช่นแวกซ์ร้อน ถ้าทำไม่เป็นผิวอาจจะพุผอง ไหม้ได้

ข้อดี ราคาสบายกระเป๋า

ข้อด้อย บางครั้งต้องเดินทางไปทำกับผู้ที่ชำนาญการแวกซ์ เพราะเช่นทำที่แผ่นหลัง เราอาจทำไม่ได้ 

 

6. แผ่นลอกสิวเสี้ยน

วิธีนี้ขึ้นกับการทำของแต่ละคนเลย ฮิตแต่ทำให้ออกเยอะทำยาก เนื่องจากอาจต้องมีจังหวะทำให้มันเปียก จังหวะที่ต้องรีดแผ่นลอกสิวเสี้ยนลงไปให้แนบสนิท จังหวะตอนดึง

ข้อแนะนำ

– ทายาก่อนซัก 1-2 อาทิตย์ แล้วค่อยลอกอาจจะออกเยอะ / ควรทำตามฉลากอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลออกมาดี

ข้อดี ถูก ทำที่บ้านได้

ข้อด้อย ทำยาก สิวเสี้ยนออกน้อยเพราะแรงกาวอาจไม่สามารถแนบสนิทกับผิวได้ จึงอาจหลุดออกได้ไม่ดี 

 


 

7. เลเซอร์กำจัดขน / IPL กำจัดขน

ใช้ได้เฉพาะกรณีสำหรับสิวเสี้ยนที่เกิดจากขนกระจุกรวมตัวกันอยู่ในรูขุมขนเดียว

เลเซอร์กำจัดขนชนิดไหนก็ได้ แต่ต้องศึกษาก่อนทำ เพราะบางครั้ง IPL ก็ไม่ได้ผลแต่ที่นิยม เช่น IPL / GENTEL YAG

ข้อแนะนำ

– ต้องทำหลายครั้ง 3-5 ครั้งหรือมากกว่าขึ้นไป จึงจะเห็นผล

– ใบหน้าจะแห้งลง จำเป็นต้องบำรุง

– ยาชาก่อนทำซํกนิดจะดี เพราะเหมือนหนังสติกตึงๆดีดลงไปบนผิว รัวๆ เร็วๆ

ข้อดี ได้ผลพวงเรื่องของรูขุมขนเล็กลงเรียบเนียนขึ้นด้วย สิวเสี้ยนน้อยลงไปบ้าง 50-60% รากขนถูกกำจัดไปเลย

ข้อด้อย เจ็บกว่าทุกวิธีด้านบนถ้าไม่ทายาชา/ทำหลายครั้ง / ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น / กลับมาเป็นอีกได้ ไม่หายถาวร


 

 

8.เลเซอร์กรอผิวแบบมีแผล

ถ้ากรณีเป็นสิวเสี้ยนหัวใหญ่มาก เห็นชัด อาจใช้เลเซอร์ประเภทกรอผิวที่ให้แผล เช่น เลเซอร์ ERBIUM YAG

ข้อแนะนำ

– ไว้คนที่มีรูขุมขนที่ใหญ่มาก มีหัวสิวเสี้ยนที่ใหญ่มาก เห็นเด่นชัดค่อยเลือกวิธีนี้ จะได้ผลพวงเรื่องหลุมสิวตื้นๆด้วย

ข้อดี เป็นผลดีกับคนที่มีสิวเสี้ยนที่เยอะ หัวใหญ่ รูขุมขนกว้างมากมาก ก็จะทำให้รูขุมขนเนียนขึ้น สิวเสี้ยนน้อยลง มั่นใจมากขึ้น หลุมสิวตื้นๆถ้ามีก็ดีขึ้น

ข้อด้อย เป็นเลเซอร์ชนิดมีแผล ต้องมีระยะเวลาในการหลุดลอกของสะเก็ด ต้องดูแลในช่วงแรกที่ทำ / ราคาหลักพันขึ้น

 

9. ทานยาประเภทกรดวิตามินเอ

ลดการทำงานของต่อมไขมัน ต้านการอักเสบ ทำให้หน้าเนียนใสขึ้น หน้าไม่มัน รูขุมขนกระชับ สิวเสี้ยนน้อยลง เช่น โรแอคคูเทน

ข้อแนะนำ

– การทานยามักให้ผลดีกว่าเพราะซึมลงไปในกระแสเลือด และลงไปยังผิวหนังชั้นลึก แต่ก็เหมาะกับคนสิวเยอะมากๆมากกว่า และหน้ามันมากด้วยเพราะมีผลข้างเคียงมาก

– ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ และ เภสัชกร

– ห้ามกินร่วมกับยาแก้อักเสบบางชนิด

ข้อดี ลดการทำงานของต่อมไขมันที่ผิวชั้นลึกเลย

ข้อด้อย ผลข้างเคียงสูงมากอันตรายมาก ได้แก่ ผมร่วง ปาก ตา จมูก ผิวหนังแห้งลง / ทารกในครรภ์พิการ / ผิวหน้าร้อนแดงง่าย ผิวไวแสง /ปวดข้อ กล้ามเนื้อ กระดูก / เครียด หดหู่ ซึมเศร้า / ตาพร่ามัวเวลากลางคืน สู้แสงไม่ค่อยไหว การมองเห็นอาจเปลี่ยนไป / หลอดลมหดเกร็ง / ติดเชื้อง่าย / ไขมันในเลือดสูงขึ้น / กรดยูลิกสูขึ้น / ดังนั้น คนท้อง / เป็นโรค ตับ ไต ไขมันในเลือดสูง ห้ามทาน


 

การป้องกัน

ต้องเข้าใจก่อนว่า สิวเสี้ยนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นมันไม่หายไปจากผิวถาวร ยกเว้นเราอยู่ในช่วงสูงวัย อาจลดน้อยลงหรือหายไปได้ การป้องกันไม่ให้มากขึ้น คือ การไม่รบกวนรูขุมขน ไม่นวด ขัดหน้าแรงๆ ไม่แคะ แกะ เกา ไม่ซับหน้าจนหน้าแห้งมาก เอาแค่ส่วนเกินออก ไม่อย่างนั้น ต่อมไขมันรับรู้ว่าสูญเสียน้ำมันไป มันก็จะผลิตขึ้นมาใหม่ และอาจใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน เช่น ลอกสิวเสี้ยน และ ทายาละลายสิวเสี้ยน ผลัดเซลล์ผิวไปพร้อมกัน

 

ส่วนตัวของเอิ๊กชอบการลอกมากสุด เพราะทำได้เองที่บ้าน และ ตอนนี้กำลังลองวิธีกำจัดขนเพื่อเอาสิวเสี้ยนออกไปดูเนื่องจากไปเลเซอร์ขนรักแร้ด้วย GENTLE YAG อยู่แล้ว ได้ผลอย่างไรจะมารายงาน มันค่อนข้างเจ็บ และ ต้องรอเวลาทิ้งกันห่าง 1 เดือน ถึงไปทำซ้ำ ถ้าใจร้อน อาจจะรอไม่ไหว 🙂 คุณหมอ วรทัย แนะนำให้ทุกคนทายาตาม ข้อ 1 ร่วมด้วย เพื่อการรักษาด้วยวิธีอื่นจะได้ได้ผลดีขึ้นและ ช่วยไม่ให้รูขุมขนกว้าง

 

ข้อมูลประกอบด้านเนื้อหา และ รูปภาพ

  • เทปสัมภาษณ์พญ. วรทัย เตือนอารีย์ ISKYCENTER
  • บทความพญ. กุหลาบ
  • ประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
  • pantip.com/learn-more-now.com/powdered-peach.blogspot.com/hazelhearts.wordpress.com/ehow dot com

Posted in ACNE, LASERComments (7)

ลดพุงด้วยความเย็น COOLSCULPTING BY ZELTIQ

erk-erk.com

 erk-erk.com

 erk-erk.com

4 เดือนผ่านไป กับการลดพุงด้วยความเย็นเยือก
CLICK อ่าน 3 บทความย้อนหลังเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น lol

การสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น เหมาะกับคนที่ไม่ผอมมากหรืออ้วนมากเกินไปแต่มีส่วนเกิน ส่วนเกินที่ออกกำลังกายก็ลดไม่ได้และส่วนที่ลดไม่ได้นั้นเป็นต้องเป็นไขมันเท่านั้น เช่น เนื้อที่ย้อยบริเวณด้านหลังใต้เสื้อใน พุงที่มีไขมันเยอะ ต้นขาที่มีเนื้อเยอะ

ข้อดี ลดส่วนเกินในส่วนที่ลดไม่ได้ ทำลายเซลล์ไขมันให้ตายจากไปเลยจริง ๆ แบบไม่กลับมา
ข้อเสีย ระยะเวลาการเห็นผล 2-3 เดือน / ถ้าเนื้อไม่เยอะมาก เวลาทำอาจจะรู้สึกเจ็บเหมือนโดนหยิก / ราคาสูงแล้วแต่โปรโมชั่น จุดละ 25,000-30,000 บาท/ เอาไขมันออกไปไม่เกิน25%ต่อครั้ง เวลามองด้วยตาปล่าวอาจมองไม่ออกต้องวัดก่อนและหลังทำ

วันนี้จะมารีวิวผลลัพธ์ที่รอคอยมาหลายเดือน 4 เดือนทั้งหมดด้วยกันเกือบ 5 เดือนแล้ว เกี่ยวกับการสลายไขมันด้วยความเย็น บริเวณหน้าท้อง ส่วนตัวพอใจ และวางแผนจะทำอีกครั้ง กำลังคิดว่าจะทำที่ขา หรือ พุง

สรีระ : ทรงลูกแพร์ บนเล็ก ล่างใหญ่มโหฬาร ตั้งแต่สะโพกลงไปยันต้นขา ไปเล็กอีกทีตรงน่อง ส่วนเกินที่พบได้บ่อยแม้ตอนน้ำหนักน้อยที่สุด คือต้นขา และ พุง กินเยอะจะผลิบานออกมาปานคนท้อง

อันนี้เป็นรูปก่อนทำ ตอนไปทำคุณหมอมองภายนอกคิดว่าไม่จำเป็น พอเปิดท้องให้ดูเท่านั้น ทุกคนสลบ 555555555555555555555555555 อันนี้ถ่ายตอนเช้า ขณะยังไม่ทานอะไร ท้องก็ใหญ่ประมาณนี้ ..

ภาพนี้ถ่ายก่อนทำ – หลังทำผ่านมา 4 เดือน ถ่ายตอนเช้าแต่ดื่มนมดื่มอะไรไปแล้วเวลาเดียวกับตอนที่ไปทำ เพื่อให้ท้องเบ่งบาน เพราะอยากรู้ว่ามันจะใหญ่ที่ได้แค่ไหน อัดน้ำนมลงไป ประมาณนี้

สังเกตุรูสะดือสิ 5555555 ขนาดต่างกันเลย ท้องของเอิ๊กทั้ง 2 ภาพ เดือน มค. และ พค.

ก็ยังมีพุงอยู่แต่เป็นไซส์เล็กลง เย่ สิ้นสุดการรอคอยซักที

ต้องขออภัยที่ไม่ได้วัดขนาด แต่โชคดีที่มองด้วยตาเปล่าเห็นเลยว่าไปแล้ว ถ้าทำอีกรอบต้องน้อยกว่านี้แน่นอน ไว้ทำคราวหน้าอีกซักรอบ ขอคิดอีกทีควรจะเป็นต้นขาหรือพุงดี

ไม่มีการปรับภาพนะคะ ถ่ายมุมตรง และ สูงหนึ่งภาพสุดท้าย

ไม่เคยคิดว่ามันจะเล็กลงไปได้จริงๆ ความเย็นนี่มันมหัศจรรย์มาก ว่าแล้วไปหาไอติมมาดูดก่อน

ไขมันที่แก้มจะได้ตาย แก้มจะได้แฟบ เล็ก หน้าจะได้เรียว 5555

erk-erk.com

 erk-erk.com

 erk-erk.com

คำถาม ข้อสงสัยทุกเรื่องที่บลอคนี้ ยินดีตอบที่หน้าFANPAGEเลยค่ะ หรือ TWITTER

บทความหน้ามาต่อกันที่เรื่องสิวเสี้ยน

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, DIET, FAT, REVIEWComments (0)

รักแร้ดำทำไงดี ปัญหาโลกแตกที่หลายคนไม่กล้าบอกใคร

 

 

 

 

 

 

ที่มา magazine.ayurvediccure.com

ถามจริงเมื่อเห็นภาพนี้ เสียงในใจคิดอะไรอยู่ ?

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

เป็นอีกประเด็นที่ระอุมากใน INBOX ที่เอิ๊กตอบไม่ทันและไม่มีเวลาเช็คเลยช่วงนี้ เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่อ่อนไหว คนก็ไม่อยากจะถามให้คนอื่นเห็น บางคนก็มาปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวไม่เคยใช้อะไรเลย นอกจากล่าสุดสเปรย์ระงับกลิ่นกายที่มีตัวบำรุงอย่างที่เห็น ยังไงก็แล้วแต่วันนี้จึงขอมารวบรวมที่เดียว หนทางจะหลุดพ้นปัญหาผิวใต้วงแขนสีหมองคล้ำทำวิธีไหนได้บ้าง ก่อนอื่นเรามาทราบสาเหตุส่วนมากกันก่อนว่ามันเกิดจากอะไรกันบ้าง ?

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

สาเหตุที่ 1 : การโกน

การโกนทำไมถึงทำให้ใต้วงแขนมีสีคล้ำขึ้นก็เพราะว่ามันเกิดการเสียดสีระหว่างใบมืดและผิวของเรา ทุกครั้งที่โกนจะมีเซลล์ที่ตายแล้วหลุดออกไปด้วย ส่งผลให้บริเวณนั้นอ่อนบาง พอโกนซ้ำไปซ้ำมา เกิดการเสียดสี จึงคล้ำลงได้

  • ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีกำจัดขนแบบใหม่ จะใช้แบบครีมกำจัดขนที่น่าเชื่อถือก็ได้ / จะแว็กซ์ร้อนแว็กซ์เย็นออกก็ได้ / จะเลเซอร์ก็ได้ / IPL กำจัดขนก็ได้ ที่ไม่ต้องทำร้ายผิวใต้วงแขน 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 2 : เซลล์ผิวที่ตายแล้ว

ทั่วร่างกายมีรูขุมขนอยู่เกือบทั่วร่างกาย มีต่อมไขมัน มีการขับเหงื่อ มีการหนาตัวของชั้นขี้ไคลเป็นเรื่องปกติ อีกสาเหตุของใต้วงแขนคล้ำ อาจมาจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

  • ทางแก้ : ใช้ผลิตภัณฑ์สูตรWhitening เพื่อวงแขนเท่านั้น หรือใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับใต้วงแขนที่มี AHA, LACTIC ACID เป็นต้น

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 3 : รูขุมขนอักเสบ

เกิดได้หลายอย่างเช่น ถอน โกน ใช้ผลิตภัณฑ์รุนแรงจนทำให้ผิวระคายเคืองบางทีเป็นแผล และเกิดสีคล้ำตามมา ข้อนี้ประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว

  • ทางแก้ : เปลี่ยนวิธีการกำจัดขนใหม่เหมือนที่บอกข้อ 1 / อย่าเลือกใช้วิธีการทำอะไรกับวงแขนไม่ว่าจะสครับแรงๆ ผลัดเซลล์ผิวแบบใช้อะไรรุนแรง จะต้องเสียใจไปตลอดแน่นอน ทุกวันนี้เอิ๊กยังไม่หาย เพราะอยากผลัดเซลล์เอา BHA ทาหน้ามาทาใต้วงแขนซึ่งมันแรงมาก ผลปรากฎว่า รักแร้ดำหย่อมนึงข้างเดียว ทายาก็ไม่หาย ว่าจะต้องปรึกษาคุณหมออยู่

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 4 : น้ำหอมหรือสารบางอย่างที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

ในผลิตภัณฑ์พวกนี้จะมีส่วนผสมอยู่มากมายหลายชนิด ผิวใต้วงแขนเป็นส่วนที่บอบบางมากไม่แพ้ใบหน้า และเป็นบริเวณที่เหงื่อออกง่ายมากที่สุด ควรใช้ที่มีการรับรอง การทดสอบ หรือแพทย์ผิวหนังบางกลุ่มรับรองจะดีกว่า บางทีพวกน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือส่วนผสมบางอย่างเมื่อโดนผิวทำปฏิกิริยากับผิว ทำให้คันได้ เกาได้เป็นแผลและทำให้ใต้วงแขนมีสีคล้ำได้ในที่สุด ที่พบบ่อยมากสุดเมื่อสมัยก่อน สมัยนี้ไม่รู้ยังพบกันอยู่ไหม หลายคนมีปัญหากับผลิตภัณฑ์โรลออนรุ่นเก่าๆ ใช้แล้วผลที่ออกมา คือ ใต้วงแขนคล้ำ หรือ ที่เราเรียกกันว่า “เต่าดำ” นั่นเอง มันเซ็งนะ ถ้ามาทำให้ตัวหอม แต่ทำรักแร้เราดำ

  • ทางแก้ : เปลี่ยนแบรนด์ หรือ ใช้ส่วนผสมที่มีการรับรองว่าไม่ทำให้ใต้วงแขนหมองคล้ำ หรือใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติระงับกลิ่นตัวแทน เช่น สารส้ม

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 5 : การมีน้ำหนักตัว ต่อมอินซูลินทำงานผิดปกติ หรือ ไขมันส่วนเกินมากไปตามข้อพับ 

ด้วยความที่ลักษณะสรีระที่มีส่วนเกินแค่คุณเดินแล้วแขนเสียดสี แค่คุณเดินและขาหนีบเสียดสี ไม่ต้องน้ำหนักตัวเยอะ ใต้วงแขน และ แนวบิกินีก็มีสีคล้ำหมองขึ้นได้

  • ทางแก้ : ลดส่วนเกิน ควบคุมอาหาร / บริเวณหมองคล้ำ อาจทาครีมจำพวก เรตินเอ , ยูเรีย 20% ฯลฯ 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 6 : ผิวคล้ำ

เป็นที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินส่วนเกิน แต่ข้อนี้มีโอกาสน้อยที่สุด

  • ทางแก้ : ฉายแสงทำลายเม็ดสีเมลานินหมองคล้ำได้ เช่น ฉายแสง LED หรือ เลเซอร์ทำลายเม็ดสีเมลานินไปเลย 

erk-erk.com 

erk-erk.com

สาเหตุที่ 7 : กรรมพันธุ์

ข้อนี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดเหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องที่มียีนส์เป็นตัวกำหนด ก็จะเห็นว่ามีสีคล้ำทั้งต้นคอ ขาหนีบ ข้อพับแขนและขา ตาตุ่ม รวมถึงใต้วงแขน

  • ทางแก้ : อาจจะลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังดูก่อนว่ามีวิธีทำยังไงได้บ้างเพื่อจัดการกับจุดนี้ ถ้าไม่ได้จริงๆ อาจใช้รองพื้นที่มีสีตรงกับผิวเข้าช่วยปกปิดให้มีสีผิวสม่ำเสมอ หากวันใดจำเป็นต้องมีวันพิเศษที่ต้องไปค่ะ

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com


หัวข้อวันนี้แตกประเด็นมาจากทวิตเตอร์ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์อ่านไปสนุกแต่ไม่จุใจขออนุญาตขยาย
หวังว่าทุกคนคงได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอให้ใต้วงแขน ขาวใสกันทุกคน

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

erk-erk.com 

erk-erk.com

erk-erk.com

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, Q&A, UNDERARMComments (0)

กำจัดขนด้วยเลเซอร์ GENTLE YAG

 

 

 

 

 

เอิ๊กเพิ่งเริ่มกำจัดขนไป 1 ครั้ง จากหลายๆครั้งที่ต้องทำเลยอยากจะเขียนเรื่องนี้แชร์กันหน่อยเผื่อคนสนใจอยากที่จะเลเซอร์ออกไปให้จบ เพราะเอิ๊กมีปัญหาผิวใต้วงแขนเป็นตุ่มไก่จากการถอน เอิ๊กรู้สึกว่ามันทำร้ายผิวทุกครั้งที่ต้องกำจัดขนออกไป อยากให้มันเนียนเลยตัดสินใจทำเลเซอร์ โดยข้อด้อยของมัน คือ ต้องทำหลายครั้ง ถ้าไม่นับเรื่องราคาที่แพง แต่ถ้าทำ ไม่ถึง 10 ครั้งแล้วเนียนไปตลอดชีวิต โอเคเลย

เลเซอร์กำจัดขน และ แสงมีหลายระบบ ตั้งแต่ Alexandrite Laser / Ruby Laser / IPL / ND-Yag laser / Gentle Yag etc.

การเตรียมตัว คือ ปล่อยให้ขนยาว 5555 ขนที่ต้องการเอาออกปล่อยให้ยาว พอไปถึงมือแพทย์ แพทย์จะสั่งโกนขนส่วนบนไป แต่ยังมีรากขนเพื่อให้แสงเลเซอร์วิ่งไปจับให้เกิดความร้อนและเกิดการทำลายได้ ดังนั้นใครคิดจะถอน หยุด หยุด หยุด หยุด เลย เดี๋ยวจะออกไม่หมด (ครั้งแรกเราก็พลาดซะแล้ว อายแพทย์เลยถอนไปเรียบเลย) 

เอิ๊กเลือกวิธี GENTLE-YAG เนื่องด้วยสถานที่ที่ทำ จะมีให้เลือกสองระบบ IPL vs Gentle Yag ไม่แน่ใจชัดเจนว่าแตกต่างกันยังไง แต่มีพี่แนะนำว่า GENTLE YAG อาจจะดีกว่า (มั๊ง) เลยตัดสินใจเลือกวิธี GENTLE YAG ไป คุณหมอที่ทำให้เอิ๊ก คือ คุณหมอ วรทัย เตือนอารีย์ ISKYCENTER คุณหมอก็บอกว่าเลเซอร์จะรู้สึกเจ็บนิดๆ ทุกระบบ

 

ภาพจาก ISKYCENTER

GentleYAG สำหรับหมวดกำจัดขนใช้ได้ส่วนใดบ้าง?

ทั่วร่างกาย ที่เราไม่พอใจ เลือกได้ อันได้แก่ ใบหน้า, ลำคอ, หน้าอก, หลัง, บริเวณแนวบิกินี่, ใต้วงแขน, แขนและขา

 

ใครบ้างใช้ GentleYAG กำจัดขนได้?

ขนที่มีขนในร่างกายเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือ ขนสีดำสนิท ขนสีอ่อนอย่างชาวต่างชาติไม่เหมาะ ดังนั้นเลเซอร์นี้เหมาะกับทุกเพศ ทั้งหญิงและชาย เน้นผิวและสีคนตามแบบฉบับชาวเอเชีย และ แอฟริกา ก็จะสามารถทำได้ดี เห็นผล

 

GentleYAG ปลอดภัยในการกำจัดขนหรือไม่?

อยากฝากไว้ให้ทุกคนถ้าถามได้ ถามเลยว่าเครื่องมือที่แพทย์ใช้ให้เรานั้นผ่าน อย. หรือไม่ ถ้าไม่เราอย่าเสี่ยงจะดีกว่า เพราะการผ่านอย. ของไทย  เครื่องนั้นต้องมีงานวิจัยมารองรับบางส่วนแน่นอน ว่าปลอดภัยสำหรับคนไทย โดยปกติระบบ GentleYAG เป็นเลเซอร์ชนิดนึงที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนมานานแล้ว และจะปลอดภัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ใครทำ มีแฟนเพจคนนึงส่งเรื่องนี้มาปรึกษาว่าทำ IPL แต่ไม่ใช่แพทย์ ผลคือ รักแร้เธอไหม้ และ มีรอยคล้ำตามมา รวมถึงขนส่วนอื่นที่กำจัดด้วย 

 

ผลข้างเคียงจากการกำจัดขนด้วย GentleYAG มีอะไรบ้าง?

หากไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจทำเม็ดสีบริเวณนั้นเข้มขึ้น ด่าง หรือ เป็นรอยดำบริเวณที่เรากำจัดขน ส่วนอาการปกติหลังทำที่เกิดขึ้น คือ รอยแดงหลังทำทันที เพราะเกิดความร้อนที่บริเวณรากขน ลักษณะของผิวหลังเลเซอร์ก็อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของผิวและพื้นที่ๆรักษา ส่วนใหญ่ผิวจะแดงเล็กๆ และบวมนิดๆ ไม่กี่ชั่วโมงก็หายไป ส่วนใหญ่หลังทำก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่มีปัญหาอะไร แค่ปล่อยขนให้ยาวเพื่อทำครั้งต่อไปก็พอ 555

ดูเธอคนนี้ไปกำจัดขนที่ใบหน้ามาว่าเป็นไงบ้าง

GentleYAG เจ็บไหม?

ส่วนตัวปวดนิดๆตอนปล่อยลำแสง สถานที่พยายาลอาจจะมีการทายาชาให้ก่อน หรือถ้าทนไหวก็อาจไม่ต้องทา มันปวดๆเจ็บๆนิดๆ เพราะทายาชาไปเลยไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร ไม่น่ากลัวอย่างที่คนขู่ไว้ 555 สบาย สบาย

ขั้นตอนก่อนการกำจัดขน ?

ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนถึงคำแนะนำ ว่าจะเลือกระบบไหนยิงกำจัดขน จะต้องไม่มีแผล หรือ อาการไหม้บริเวณที่ยิง

วิธีการทำงานของGentleYAG ที่ใช้กำจัดขน?

ทายาชาบริเวณที่ทำประมาณ 30 นาที ก็จะเช็ดยาชาออก โกนขนให้เหลือแต่ต่อ รากขนจะช่วยให้ลำแสงเลเซอร์ยิงไปทำลายรากขนได้ง่ายขึ้น และเริ่มทาเจลเย็นบริเวณที่จะทำ สวมแว่นตาที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงเลเซอร์ที่เข้มข้นสูงและจ้ามาก และยิงเลเซอร์แบบไล่ไปจนจบบริเวณซัก 2-4 รอบวนไปวนมา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที – ชั่วโมงกว่าขึ้นไป ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ได้รับการรักษา

ต้องรักษากี่ครั้งขนถึงจะหมดไป?

ปกติทั่วไปเราจะทำเป็นคอรส์ต่อเนื่อง ขึ้นกับความหนา บางของเส้นขน ตั้งแต่ 2-6 เดือนเฉลี่ย หรือมากกว่าขึ้นไป รักษาทุก 4-6 สัปดาห์ ถ้าบริเวณที่ทำมีสีผิวคล้ำ หลังทำอาจมีการทายา หรือ ทำทรีทเมนท์ หรือ บำรุงให้มีสีผิวที่สม่ำเสมอทั่วถึงกัน


การดูแลรักษาหลังการเลเซอร์ GentleYAG?

อาจประคบด้วยน้ำแข็ง ผ้าเย็นลดอาการบวมถ้ามี เราอาจต้องใช้วิธีโกนห้ามถอนให้ขนขึ้นจะได้ยิงง่ายๆและทำลายรากขนให้หมดไป ช่วงสัปดาห์หรือสองสัปดาห์หลังทำ ขนจะขึ้นน้อยกว่าเดิมแบบพอสังเกตุได้เลย ถ้าจบคอรส์ขนไม่ขึ้นแล้วบริเวณนั้นจะเนียน และดูขาวขึ้น เพราะไม่มีขนมาบังด้วย อิอิ รอเวลานั้น ถ้ากำจัดขนที่อาจโดนแสงแดดได้ อย่าลืมทากันแดด SPF30 PA+++ ขึ้นไปทุกวันนะคะ

 

 

COOL : ถ้าขนมันไปแล้ว ก็โอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเท่าเดิม ส่วนใหญ่หายไปเลย มีบางคนจะกลับมาแต่แบบหรอมแหรมน้อย ไม่เหมือนเก่า ผิวเนียนขึ้น รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น ผิวดูผ่องขึ้นเพราะไม่มีเส้นขนมาบัง ง่าย เร็ว ไปนอนให้แพทย์ยิงจบ กลับบ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ

UNCOOL : ต้องทำหลายที จะให้ดีซื้อตอนโปรโมชั่น จะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด 

 

 

ถ้าเรากำจัดครบแล้ว เราจะรีบมา REVIEW ทันที ฮี่ๆ

ข้อมูลวันนี้สัมภาษณ์ คุณหมอ วรทัย เตือนอารีย์ ระหว่างยิงกำจัดขนไปจนเสร็จค่ะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, UNDERARMComments (1)

เลเซอร์คืออะไร และเลเซอร์แบบไหนที่เหมาะกับเรา ?

 

 

เลเซอร์คืออะไร และเลเซอร์แบบไหนที่เหมาะกับเรา

จากเรื่องแสงและความงาม วันนี้มาเฉพาะกันที่ “ เลเซอร์ “ ซึ่งเป็นการรักษาที่ฮอตฮิตที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้ เพราะเร็ว ประหยัดเวลา หลายชนิดไม่มีแผล เห็นผล ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา

ก่อนจะเริ่มทำการรักษาผิวหนังด้วยเลเซอร์ อยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นให้ทุกคนได้เข้าใจก่อนว่า เลเซอร์คืออะไร เลเซอร์ชนิดไหนเหมาะกับปัญหาผิวเรา แล้วทำไมต้องเลือกเลเซอร์ ?

เลเซอร์คือ “ แสงชนิดหนึ่งซึ่งมีความจ้าและพลังงานสูงมาก ” ความต่างของเลเซอร์กับแสงชนิดอื่นๆ คือ พลังงานของแสงเลเซอร์สามารถถูกดูดซึมเข้าไปในส่วนประกอบเล็กๆ ภายในเซลล์ผิวหนังได้

เช่น 

  • แสงเลเซอร์บางชนิดสามารถถูกดูดซับเข้าไปในเม็ดสีเมลานิน
  • แสงเลเซอร์บางชนิดถูกดูดเข้าไปในเม็ดเลือด
  • แสงเลเซอร์บางชนิดถูกดูดเข้าไปในเซลล์ที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ 

การทำงานของเลเซอร์ คือ เมื่อแสงเลเซอร์เข้าไปในเซลล์จะทำให้เกิดความร้อนขึ้นในเซลล์นั้นๆทำให้เซลล์นั้นสลายตัวไปในที่สุด ด้วยเทคโนยีนวัตกรรมของเลเซอร์ที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆทำให้สามารถปรับตั้งค่าพลังงานของเครื่องเลเซอร์เพื่อให้เกิดความร้อนขึ้นเฉพาะภายในเซลล์ที่ต้องการเท่านั้น โดยไม่ให้ความร้อนนั้นแผ่กระจายไปถูกเนื้อเยื่อที่ดีรอบ ๆ 

สรุป ข้อดีของเลเซอร์คือ ความสามารถในการทำลายอย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย

เลเซอร์บนโลกมีหลายชนิด ซึ่งการใช้งานและการให้ผลลัพธ์ก็แตกต่างกันด้วย เลเซอร์แต่ละระบบมีสี และ ความยาวคลื่นที่ต่างกัน ซึ่งทำให้ความสามารถในการดูดเข้าไปในเซลล์ก็ต่างกันด้วย (ในปัจจุบันเลเซอร์ยังไม่มีครบทุกความยาวคลื่นเนื่องจากแหล่งแสงยังหายากบางช่วงคลื่น)

 

ปัจจุบันวงการแพทย์ผิวหนังในปัจจุบันมี 5 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่

  • เลเซอร์รักษาความผิดปกติของสีผิวและลบรอยสัก
  • เลเซอร์กำจัดขน
  • เลเซอร์รักษาความผิดปกติของหลอดเลือด
  • เลเซอร์กรอผิวชนิดมีแผล
  • เลเซอร์กรอผิวชนิดไม่มีแผล

5 ประเภทที่กล่าวมาก็สามารถรักษารอย โรค หรือ ริ้วรอยต่างประเภทกัน 

หาข้อมูลกันซักนิดก่อนที่จะคิดไปรักษาด้วยเลเซอร์นะคะ แม้จะมีข้อดีที่รักษาได้รวดเร็ว ง่าย บางชนิดไม่มีแผล ไม่ต้องหยุดเรียนหรือลางาน หรือไม่ต้องเฉลยให้ใครรู้ว่าได้ไปทำอะไรมา แต่มันก็มีข้อด้อยอยู่เหมือนกัน

เช่น

  • ถ้าเราถูกแดดจัดมา เราก็ยังไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์
  • หลังทำเลเซอร์ใช้ความร้อนสูง เราจะมีผิวหน้าที่แห้งมาก ต้องการๆบำรุงเป็นพิเศษ บางคนไม่รู้ก็นึกว่าใบหน้าตัวเองบางลง แพ้ง่าย ไม่เกี่ยวกัน ความร้อนจะไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และสร้างให้ผิวแข็งแรงขึ้นไม่กี่เดือนต่อมา
  • ถ้าเราไม่หาข้อมูลให้ดี การจ่ายเงินทำเลเซอร์ค่อนข้างสูง เราอาจได้ผลได้ไม่ดีพอ
  • การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำคัญเป็นอย่างมาก หลายคนหน้าไหม้ หน้าด่าง หรือมีแผลเป็น
  • หรือถ้ามองเรื่องสิว เลเซอร์ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป สิวที่เป็นระดับปานกลาง ไม่มากจนถึงขั้นเลเซอร์ การทายายังดีที่สุด
[สิวในอดีต รักษาทั้ง ทายา ทานยา กดสิว ฉีดสิว และ เลเซอร์ค่ะ]
 
หากเรารู้ซักนิดว่าเลเซอร์ทำงานยังไง และ ผิวของเราที่มีปัญหานั้นเหมาะกับเลเซอร์ชนิดไหน หลายสถานพยายามไม่บอกเทคโนโลยี หรือ ชื่อระบบเลเซอร์โดยตรง จะจัดเป็นโปรแกรมมากกว่า เช่นชื่อโปรแกรมที่ถามที่ไหนก็ไม่มี มีแต่ที่นี่ที่เดียว ก็เพื่อต้องการให้จำได้แค่ว่า ที่นี่มีที่อื่นไม่มี ถ้าสถานที่พยาบาลนั้นมีจรรยาบรรณมากพอ ต้องกล้าเปิดเผยข้อมูลที่จะใช้รักษาคนไข้ ฝากไว้ให้ทุกคนได้เรียนรู้กันค่ะ

ข้อมูลที่ใช้ประกอบ

หนังสือสวยด้วยเลเซอร์ ผู้เขียน ศ.นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ

Posted in LASERComments (0)

BEAUTY TALK – การฉายแสง LED กับช่วยอะไรได้บ้างกับปัญหาผิวหนัง

วันนี้เราจะพูดถึงการฉายแสงสี LED เพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณ จากบทความก่อนเป็นเรื่องของแสงและความงามไปแล้ว พูดถึงภายในร่างกายของเราเซลล์บางอย่างสามารถดูดรับพลังงานแสงแต่ละสีได้เพื่อใช้รักษาปัญหาผิวหนัง CLICK

LED คือ อะไร ? Light-Emitting Diode หรือย่อว่า LED

แสงLED หรือ แสง Diode ทำมาจาก Semiconductor คือ ตัวนำไฟฟ้าเป็นสารประกอบหรือธาตุที่สามารถปล่อยแสงได้หลายๆแสงพร้อมกัน เปลี่ยนสีได้ตามสารที่อยู่ข้างใน และภายในจะมีวงจรที่สามารถเปลี่ยนสีหลอด Diode ได้อีกหลากหลายสี เป็นสีรุ้งยังได้เลย ( Rainbow light emitting diode )
แต่ในการใช้ LED มาฉายแสงสีเพื่อช่วยรักษาผิวพรรณ แสง LED ต้องมีความเข้มแสงสูงมากพอระดับ ” จูลล์/ตารางเซนติเมตร “ ต้องใช้พลังงานมากจึงจะทำปฎิกริยากับเซลล์ผิว และนำมาใช้ในการรักษาภาวะบางอย่างของผิวหนังได้ แสงแต่ละสีก็จะสามารถรักษาปัญหาผิวที่แตกต่างต่างกัน และ ต้องมี millicandela rating มาก หรือ ค่าความสว่างมากยิ่งมีประสิทธิภาพมาก (สว่างจนต้องใส่แว่นตาในการทำการรักษา) การรักษาจะทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดีขึ้นได้ กำจัดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อ หรือ บริเวณผิวหนังที่อักเสบ

วันนี้ขอพูดถึงเครื่องที่เห็นจริงและลองมาก่อน ซึ่งหลักจะมีอยู่ 4 สี

จะฉายเพียงสีเดียว หรือ สลับกันก็ได้เพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ จุดละประมาณ 20 นาทีเป็นต้นไป

  1. แสงสีฟ้า ความยาวคลื่น 470 นาโนเมตร รักษาสิว/ลดการอักเสบของผิวฯลฯ
  2. แสงสีเขียว ความยาวคลื่น 525 นาโนเมตร รักษารอยแดง/รอยดำ/เม็ดสี/อาการแพ้ฯลฯ
  3. แสงสีเหลือง ความยาวคลื่น 590 นาโนเมตร รักษารอยแดง/รอยดำ/สิว/เม็ดสี/ระบบน้ำเหลืองฯลฯ
  4. แสงสีแดง ความยาวคลื่น 640 นาโนเมตร รักษาริ้วรอย/กระตุ้นคอลลาเจน/อาการแพ้/กระชับกล้ามเนื้อฯลฯ
สามารถดูแลได้ทั้ง ผิวแห้ง มัน ธรรมดา ผสม แพ้ง่าย มีสิวอักเสบ สิวเม็ดเล็กๆ

จากการศึกษาพบว่าแสง LED ที่มีความเข้มข้นสูง แต่ละสีมีผลต่อ CELL ในร่างกายที่แตกต่างกันเมื่อมีการรักษาที่ผิวหนัง เช่น สิว รอยแดง รองด่างดำ และ ริ้วรอย จะได้รับผลการรักษาที่ดีเยี่ยมเมื่อใช้สีร่วมกันที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 470 nm. – 640 nm

 *** การจะได้ผลไหม ขึ้นกับการสร้างของคอลลาเจนในร่างกาย (จะวัดได้จากความยืดหยุ่นของผิวหนัง (ความคล้อย) จะรู้ได้ว่าคนนี้กระตุ้นได้มากน้อยแค่ไหน)
ยกตัวอย่างการฉายแสงเพื่อช่วยทำให้เม็ดสีเมลานินอ่อนลง จะเห็นได้ว่าจะมีแสงสีเขียว กับ แสงสีเหลืองของ LED ที่ช่วยได้
เอิ๊กฉายแสงสีเขียว เหลือง สลับกันที่แขนหนึ่งข้าง เพื่อทำให้เม็ดสีเมลานินสีอ่อนลง ฉาย 20 นาทีที่ ISKYCENTER
เมื่อเม็ดสีผิวถูกฉายแสงไปกระตุ้นเม็ดสีเมลานินที่เข้ม ให้มีความเข้มอ่อนลง ผิวเราจึงดูขาวขึ้นแต่ LED ต้องทำซ้ำๆ ประมาณสัปดาห์ละครั้ง หรือประมาณ 5 ครั้งขึ้นไป เนื่องจากความเข้มของแสงไม่เท่าเลเซอร์ จึงต้องฉายเฉลี่ยทุกอาทิตย์ซ้ำ เพราะต้องให้แสงสะสม จึงคงระดับสีผิวที่อ่อนลงไว้ได้ , แต่ถ้าทำแค่ครั้งเดียว สีผิวจะอ่อนลงครั้งแรกสุดที่สุด และค่อยๆดรอปลงภายใน 1-2 เดือน
การดูแลหลังทำ
– หลบแดด
– ทากันแดดต่อเนื่อง
คนที่ห้ามทำ
– คนที่ผิวเพิ่งไหม้แดดมาใหม่

 

COOL
-ไม่มีแผล
– ไม่มีใครรู้ว่าไปทำอะไรมา

 

UNCOOL
– ต้องทำหลายครั้ง
– ประสิทธิภาพสู้เลเซอร์ไม่ได้

 

สำหรับการรักษาโรคผิวหนังด้วยการฉายแสง LED นั้น เช่น สิว รอยแผลเป็นจากสิว รอยแดง รอยดำ รอยเป็นหลุมตื้นๆ รอยแผลนูนคีลอยด์ กระตุ้นเส้นผม ผิวมีสีอ่อนลง ถือว่ายังเป็นวิธีการใหม่ แต่ผ่านองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาแล้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการแผล ไม่ต้องการพักฟื้นผิวหนัง รับประทานยา หรือ การฉายแสงและความร้อน ไปยังผิวหนังที่อักเสบ

ช่วงนี้ตากแดด ตัวดำกว่าในรูปเยอะเลย ไป LED ดีไหมเนี่ย 5555

แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (1)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites