Tag Archive | "ศัลยกรรม"

การปรับรูปร่างที่มีมาแต่กำเนิดทำได้จริง


คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน นอกจากรูปร่างหน้าตา สีผิว ผิวพรรณ

แล้วยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนเราต่างกันนั่นคือ “โครงร่างกาย” ที่ต่างกัน

โดยเฉพาะสาวไทยจะเห็นได้ชัดเจนมาก เมื่อคัดเลือกผู้หญิงมา 100 คน

ที่เห็นได้หลักๆ มากที่สุดจะมี โครงร่างกาย 4 รูปแบบ ได้แก่

หุ่นทรงลูกแพร

หุ่นทรงแอปเปิ้ล

หุ่นทรงนาฬิกาทราย

หุ่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

 

 หุ่นทรงลูกแพร

ช่วงหน้าอกจะเล็กกว่าช่วงสะโพกก้นที่จะดูผายออกอย่างชัดเจน

และ ต้นขาอาจจะใหญ่อวบอิ่ม แต่ยังมีเอวที่คอด

 

 

 

 

หุ่นทรงแอปเปิ้ล

หน้าอก ไหล่ ผายกว้างออกกว่าช่วงสะโพก

แต่ ต้นขาดูเล็กลงมา คือ ช่วงบนใหญ่ ช่วงล่างเล็ก 

 

 

 

 

 

 

 

 หุ่นทรงนาฬิกาทราย

หุ่นในฝัน เอวคอดชัด มีหน้าอก และ

สะโพกที่ดูผายกว้างสมส่วนสมดุลรับกัน

 

 

 

 

หุ่นทรงกล้วย

หุ่นทรงตรงดูเท่ากันหมด สังเกตุนางแบบ

หน้าอก เอว สะโพก จะมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน

เอวไม่เล็กคอด เหมือนลูกแพรและนาฬิกาทราย

 

 

 

 

 

 

หลักสังเกตุง่ายๆ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน

1 ลำตัวช่วงบน ไหล่ หน้าอก

2 ลำตัวช่วงกลาง เอว หน้าท้อง

3 ลำตัวช่วงล่าง สะโพก ต้นขา

พอเวลาน้ำหนักมาก ส่วนโคร่งร่างที่ขยายใหญ่มักจะขยายจนเห็นได้ชัด

พอเวลาน้ำหนักน้อยลงมากๆ ก็จะเห็นโครงร่างชัดเจนมากขึ้น

แต่ถ้าเช่นหุ่นโครงร่างแบบไหน พอผอม ก็ยังเป็นโครงร่างแบบนั้นอยู่ 

 

อดีตเราอาจจะเข้าใจว่า ถ้าเราเกิดมามีโครงร่างแบบใด

เราอาจต้องอยู่กับโครงร่างเหล่านั้นไปตลอดชีวิต

สิ่งที่คิดนั้นไม่ผิดแต่อย่างใด ปัจจุบันก็มีนวัตกรรม เทคโนโลยี

ที่สามารถปรับโครงร่างของร่่างกายได้ตลอดไปเช่นกัน

แต่จะหยิบยกแต่ละวิธีที่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

หรือ ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยที่จะช่วยทำให้เห็นโครงร่างชัดขึ้น

และช่วยคงโครงร่างในระยะยาว

ยกมาให้เห็นถึงบางวิธีที่มีความเสี่ยง

แต่ทุกวิธีคล้ายกันคือต้องใช้เวลารอคอย

การปรับโครงร่างมนุษย์ สามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง

ให้เปลี่ยนจากโครงร่างหนึ่ง ไปยังอีกโครงร่างหนึ่ง    

ในฐานะที่ผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนโครงร่างมา 3 วิธีหลัก ที่กำลังจะพูดถึงนี้

ขอบอกว่าการเปลี่ยนโครงร่างแบบที่ต้องช่วยตัวเองตลอดนั่นคือการออกกำลังกาย

สำคัญมากที่สุดในชีวิต กว่าเทคโนโลยีทั้งปวง รวมถึง อาหาร การพักผ่อนที่พอเพียง

แม้อาจไม่ได้เปลี่ยนถึงระดับเซลล์ไขมันให้ตายจากไป เพราะร่างกายที่ดี

ไม่ได้ดูแลแค่วันเดียวแล้วพอ ต้องดูแลถึงระบบที่ซับซ้อนของมันถึงข้างใน

ที่สำคัญ อารมณ์ที่ดี การมีสุขภาพจิตที่ดี จะมีแนวโน้มให้เรายอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้

โดยอาจไม่ต้องแสวงหาวิธีที่ทำให้เจ็บ หรือ เสียเงิน

ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นมนุษย์ และ เป็นคนที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการดูแลตัวเองอยู่เสมอ

และ เป็นโชคดีที่มาอยู่ในวงการนี้ทำให้ได้มีโอกาสได้ใช้ ได้ทดสอบ ทั้ง 3 วิธีในแต่ละกลุ่ม

พบว่าแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อด้อยที่แตกต่างกันไป ขอบพระคุณอาจารย์ และ ผู้สนับสนุน

แต่ละวิธี รวมถึงตัวเอง ที่ตั้งใจอดทนในวิธีที่เงินซื้อไม่ได้ และ ตั้งใจเก็บประสบการณ์

ที่ผ่านมาเพื่อแชร์ให้แต่ละคนฟัง ผ่านมาหมด เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนอื่นต่อไป

ขอเริ่มจากสิ่งที่ยากที่สุด ที่เงินซื้อไม่ได้ก่อน

 

การเปลี่ยนโครงร่างต้องเข้าใจจุดนี้ก่อน ว่าหัวใจในการเปลี่ยนโครงร่างไปตลอด

คือ“กล้ามเนื้อ” และ “ไขมัน” กล้ามเนื้อจะได้มาได้

ก็ต้องฝึกออกกำลังกายให้บ่อย

ในที่นี่จะให้ทุกคนอ่านเรื่อง การทำความรู้จักกับเซลล์ไขมันก่อน

เพราะ เราจะเปลี่ยนโครงร่างได้ เซลล์ไขมันเราต้องตายถาวร

เพราะ วิธีนี้ ออกกำลังกาย และการเผาผลาญปกติให้ไม่ได้

CLICK

จำเป็นต้องอ่านมากค่ะ 

 

 

การเปลี่ยนรูปร่างของมนุษย์(ผู้หญิง)ทำได้ 3 ประเภท

วิธีที่ไม่เจ็บตัว ไม่เสียเงิน

1. การออกกำลังกาย + การควบคุมทานอาหารที่มีประโยชน์

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : ทุกรูปร่างให้มีความกระชับ รูปร่างสมส่วน สุขภาพแข็งแรงเข้ารูป / รูปร่างทรงกล้วย ทรงตรง สำหรับคนผอมบาง ดูไม่ค่อยมีสัดส่วน โค้งเว้ารูปร่างนี้อาจใช้วิธียกเวท ทานโปรตีน เพิ่มกล้ามเนื้อให้ดูใหญ่ มีสัดส่วน มีกล้ามแขน กล้ามขา เล็กน้อย และ มีกล้ามท้องที่สวยงาม

การออกกำลังกายแม้จะเป็นการออกกำลังกายแบบเน้นอัตราการเต้นของหัวใจ [ CARDIO ] / การยกเวท เพื่อสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน / การออกกำลังกายเฉพาะท่า เพื่อลดความอ้วนเฉพาะส่วน ทั้งหมดที่กล่าวไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใย ขับถ่ายง่าย จะช่วยคงรูปร่างของเราจากการใช้เทคโนโลยีตัวอื่นๆมาเปลี่ยนโครงร่าง โดยการทำลายเซลล์ไขมันไป ให้เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น เป็นวิธีที่ต้องทำ 

ข้อดี : ช่วยคงสภาพโครงร่างจากวิธีอื่นได้ดีมาก / สำหรับหุ่นทรงกล้วย จะทำให้เปลี่ยนโครงร่างได้อย่างชัดเจน / สุขภาพดี / ร่างกายแข็งแรง / เห็นผลเร็วสุดชัดเจน 1 เดือนถ้าทำต่อเนื่อง + คุมอาหาร / ไม่มีแผล

ข้อเสีย : เซลล์ไขมันไม่ตายไปแค่เล็กลง หากไม่ออกกำลังกาย ไม่เลือกทานอย่างดี ก็กลับมามีโครงร่างเดิมได้ / ไม่ได้เปลี่ยนโครงร่างเรา น้ำหนักลดหรือเพิ่มโครงร่างเหมือนเดิม เช่น ถ้าขาใหญ่ น้ำหนักลงก็ใหญ่น้อยลง อาจใช้ลดแบบเฉพาะจุดไม่ได้ ยกเว้นคนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ ให้ดูมีสัดส่วนมากขึ้น แต่ วิธีนี้ ต้องอดทน ดูแลทำตลอดชีวิต

 

วิธีที่เจ็บตัวและมีแผล

1 . ดูดไขมัน

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : สาวทรงลูกแพร สาวทรงแอปเปิ้ล สาวทรงนาฬิกาทราย / ลูกแพรอาจเอาเฉพาะขากับสะโพกออก , แอปเปิ้ล อาจเอาต้นแขนออก แล้วใส่เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ตัวเองกลับไปที่สะโพก

หากจะให้พูดถึงวิธีที่HOT HITที่สุด และ เห็นผลชัดเจนที่สุด สามารถทำได้ทั้งกับคนอ้วน และ คนมีส่วนเกิน แน่นอนคงหนีไม่พ้น การดูดไขมันส่วนเกิน ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และการใช้เทคโนโลยีมีเทคโนลีมากมาย แต่ลักษณะคล้ายกันคือจะใช้อุปกรณ์มรามีปลายด้ามเป็นเข็มยาวขนาด 1 ฟุตกว่า เจาะลงไปตามจุดที่มีเซลล์ไขมันรวมตัวอยู่ แล้วใช้ปลายเข็มกระทุ้งเซลล์ไขมันเพื่อดูดออกมาอย่างรวดเร็ว การดูดไขมันนอกจากเซลล์ไขมันที่ออกมาก็จะมีทั้งน้ำในร่างกาย เลือด น้ำเหลือง ปนออกมาด้วย บางเทคโนโลยี สามารถแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ออกมาได้ และ บางครั้งอาจมีการฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย เพื่อเติมเต็มส่วนที่เป็นริ้วรอย หรือ อวัยวะบางอย่างให้เต่งตึง เช่น เสริมจมูก เสริมหน้าอก เติมเต็มร่องแก้ม ร่องใต้ตา ทำให้โอกาสแพ้มีน้อยมากเนื่องจากเป็นไขมันในร่างกายตัวเอง

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายถาวร ทำในคนไม่อ้วนแต่มีส่วนเกิน หรือ อวบ จนกระทั่งอ้วนได้หมด / ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดเจนมาก / เซลล์ไขมันตายไม่กลับมาอีก / สามารถนำมาฉีดกลับเข้าไปในร่างกายได้

ข้อเสีย :  ผิวหนังช้ำเห็นได้ชัดเจนเป็นเดือน / เจ็บมาก / มีแผลเป็น บางคนอาจเป็นคียลอยด์ แต่มีขนาดไม่ใหญ่มากประมาณหัวเข็มยักษ์ที่แทงลงไปที่ผิว / ต้องทำโดยคนที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญสูงมาก / รอผลเข้าที่ประมาณ 3 เดือน

[ ภาพการดูดไขมันที่ รพ วิชัยเวช ฯลฯ หนองแขม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 20 กว่าปีจากสวิตเซอร์แลนด์ เอิ๊กเข้าไปดูด้วย] 

 2. ศัลยกรรม การศัลยกรรมเพื่อประเปลี่ยนรูปร่างอวัยวะให้มีขนาดเล็กลง เช่น กระเพาะอาหาร หรือ เสริมให้ส่วนที่แบนราบมีส่วนนูน โค้ง มีมิติ เช่น ซิลิโคน เสริมสะโพก หน้าอก ซึ่งตอนนี้ ทั้งหญิง และ ชายก็เสริมได้ ให้ดูมีสัดส่วนที่น่ามองมากขึ้น

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : แอปเปิ้ล เช่น ซิลิโคนเสริมสะโพกให้ดูสมส่วนกับหน้าอกที่มีเยอะ / ลูกแพร เสริมนม เพื่อให้ดูสมส่วนกับสะโพกที่มีเยอะ ทั้งสองรูปแบบจะกลายเป็นหุ่นนาฬิกาทรายได้

ข้อดี : เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ / เสริมสร้างความมั่นใจ / ปรับเปลี่ยนโครงรูปร่างแบบลงทุนในระยะยาว

ข้อเสีย : เป็นการผ่าตัดที่อาจจะเกิดแผลและบางทีเห็นได้ชัด สำหรับบางกรณี ก็ต้องรักษาแผลเป็นกันไป / มีการดมยาสลบ บางคนอาจแพ้ได้ / ต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงมาก เพราะในร่างกายมีเส้นประสาท และ อวัยวะน้อยใยที่สำคัญ / อาจต้องรับกับผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้น / อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เสิรมลงไป ไม่รับประกันว่าจะอยู่ตราบชั่วชีวิต อาจต้องมีการเอาออก หรือ ปรับเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา ณ จุดนึง

[ ผู้ชายก็อยากจะมีเนินหน้าอก เท่ห์ไหมละ ]

[ สาวอกเล็ก เลิกกังวลได้ ซิลิโคน และ น้ำเกลือ และ คุณหมอพร้อมช่วยคุณเสมอ ]

วิธีที่เจ็บน้อยแต่ไม่มีแผล

1 เทคโนโลยีที่ใช้ความร้อนแบบ ULTRASOUND

ลงลึกชั้นไขมัน ใช้เทคโนโลยี HIGH INTENSITY FOCUS ULTRASOUND เป็นความร้อนยิงปล่อยลงไปในลักษณะสามเหลี่ยมเพื่อไปฆ่าเซลล์ไขมัน ต้องเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย และ บริเวณที่ยิงจะถูกทำลายด้วยความร้อน นั่นคือเหตุผลทำไมคนที่คิดจะทำวิธีนี้ต้องเป็นคนที่มีชั้นไขมันที่หนามากเพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อ หรือ อวัยวะภายใน เหมาะกับ รูปร่างอ้วน มีน้ำหนัก มีไขมันเยอะ และ มีพื้นที่ที่มีชั้นไขมันหนาใหญ่ วิธีสังเกตุบีบเนื้อบริเวณที่จะทำแล้วเจอชั้นไขมันหนาประมาณ 1 นิ้วขึ้น ไปงั้นอาจทำให้มีผลกระทบต่อระบบอวัยวะภายในซึ่งอาจบาดเจ็บได้

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : สาวลูกแพรอาจเอาเฉพาะขากับสะโพกออก , สาวแอปเปิ้ล อาจเอาต้นแขนออก , สาวกล้วยอาจจะเอาช่วงไขมันเอวออก

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายจริงและไม่กลับมาอีก /แพงมากมาก / ดูดไขมันพื้นที่ใหญ่ๆได้ดี / ไม่ต้องทำหลายครั้งมาก

ข้อเสีย : ดูดไขมันส่วนเกินบริเวณพื้นที่เล็กๆไม่ได้ / เจ็บมาก / ถ้าชั้นไขมันไม่หนาพอ อาจทำให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อระบบอวัยวะภายใจ / ถ้าปรับพลังงานมากก็อาจไหม้ผิวได้ / รอประมาณ3 เดือนจะเห็นผลการจัดเรียงตัวของชั้นไขมันใหม่

2 เทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นที่จุดเยือกแข็ง แช่ และ ฆ่าเซลล์ไขมันไป

เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องมีไขมันเยอะก็ทำได้ คนที่ เหมาะกับ คนที่มีไขมันส่วนเกิน และ คนที่ไม่อ้วนมาก (อวบ) หรือคนผอมที่มีความต้องการทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่เป็นส่วนเกินออก ตามแนวเสื้อชั้นใน ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : ลูกแพร ลดต้นขน สะโพก พุง / แอปเปิ้ล ลดต้นแขน / กล้วย ลดเอวทั้งสองข้าง

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายจริงและไม่กลับมาอีก / มีงานวิจัยรองรับ ผลลัพธ์ /คนตัวเล็กแต่มีส่วนเกินที่การออกกำลังกายเอาออกไม่ได้แต่วิธีนี้ใช้การได้

ข้อเสีย : แพงมาก / ต้องทำหลายครั้งเพราะหัวดูด [CYCLE] พื้นที่เล็ก / แต่ละครั้งค่อยๆลดลงประมาณ 20-25% / ใช้ได้แต่คนที่ผอมแต่มีส่วนเกิน หรือ อวบไม่มาก ใช้กับคนอ้วน เนื้อเยอะ ไขมันเยอะมากไม่ได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่เอิ๊กเอามาฝากกัน เอิ๊กเป็นสาวทรงลูกแพรบนเล็กร่างใหญ่

เป็นคนอวบง่ายลงพุง ลงก้น ลงต้นขาก่อน หุ่นจะแบบดูเด็กๆ พุงโตๆ ขาป้อมๆ ฮ่าๆ

ทั้งหมดลองมา 3 ประเภทครบที่เหมาะกับตัวเอง ทั้งไม่เจ็บ เจ็บ และ เจ็บน้อย

ตอนนี้ที่อยากเอาออกเพิ่มอีก คือ พุง ก้น ต้นขา หุ่นถึงจะใกล้เคียงเปลี่ยนโครงร่างไปเลย

และ คงสภาพด้วยการออกกำลังกาย จึงเขียนมาฝากกัน

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

วันนี้ก็จะมา REVIEW การเปลี่ยนโครงร่างด้วยวิธีที่เจ็บน้อยแต่ไม่มีแผลกันก่อน

คือ การฆ่าไขมันด้วยความเย็น

ออกกำลังกายต้นเดือนหน้า และ ศัลยกรรม เดือนนี้ละ 555555555 สรุปก็ยังห่างไกล

จากนาฬิกาทรายสำหรับช่วงสะโพกอยู่ 2.5 นิ้ว เอิ๊กก็จะมีโครงร่างที่เปลี่ยนไปจากกำเนิด

แรงบันดาลใจให้อยู่ก็คิดเรื่องบทความนี้ ต่อยอดจากบทสัมภาษณ์ และ งานวิจัย

ของอาจารย์พี่ที่เคารพรักของเอิ๊ก ซึ่งเอิ๊กเอามารวมกับประสบการณ์ด้านออกกำลังกาย

และ ศัลยกรรมของตัวเอง วิธีที่อาจารย์พี่ไม่ชอบ 55555 แต่ก็นำมาเป็นส่วมผสมที่ลงตัว

เกิดบทความ TRANSFORMER รูปร่างตั้งแต่ต้นกำเนิดขึ้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

เอิ๊กอยู่กับเธอมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเจอกันเฉลี่ยเดือนละครั้ง เธอมีพฤติกรรม

ทานขมมหวานเก่งมาก ชอบชีส ชอคโกแลต อะไรที่อวบอาจารย์พี่เอิ๊กจะทานเก่งมาก

แต่ด้วยความที่เป็นอาจารย์แพทย์ผิวหนัง รวมถึง INTERNATIONAL SPEAKER

ระดับประเทศ เดินทางไปแลกเปลี่ยน และ ให้ความรู้ นวัตกรรมผิวหนังให้กับต่างชาติบ่อยมาก

ซึ่งจะเห็นว่า เธอไม่ชอบออกกำลังกาย แต่ทำงาน 1-6 วัน อีกวันก็เป็นวันเที่ยวเพื่อครอบครัว

นอนน้อยมาก เคยนอนด้วยกันตอนทริปดูงานผิวหนังแบรนด์นึง เอิ๊กพบว่าแกให้ความสำคัญ

กับทุกสิ่งรอบตัว อาจจะเป็นเหตุให้ผอมลงรึเปล่าไม่รู้ แต่นน.จากเกือบ 60 ตอนนี้

เธอน้ำหนักเท่าเอิ๊กหรืออาจจะน้อยกว่าเอิ๊กในเร็วๆนี้ ก็แอบถามตลอดทำอะไรๆ

เธอก็จะบอกลองเครื่องนู่น นี่ เพื่อทำงานวิจัย แต่เท่าที่เห็นมาปีกว่า เธอเล่นกับเครื่องนี้

ZELTIQ COOL SCULPTING ซึ่งเอิ๊กลองตามแกบอกตรงๆ ก็พบว่าลด แต่ลดทีละน้อย

เพราะเหมาะกับคนตัวเล็ก อวบ แต่มีส่วนเกิน คนอ้วนไม่เหมาะ

วิธีการทำงานอย่างละเอียด ของเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น

 

 

คุณหมอรังสิมาเป็นคนทำวิจัยเรื่องนี้เองหลังจากทดสอบผ่านมา 1 ปี และ มีหัว CYCLE

สำหรับดูดต้นแขน ต้นขา เพิ่ม อดีตมีแค่หน้าท้อง เอว เนื้อใต้เสื้อใน บริเวณกว้างๆ

 ขนาดทำอยู่คุณหมอก็สอนตลอด จนเกิดบทความอันนี้ขึ้น เพราะเราสงสัยกัน

ว่าปรับสรีระโครงร่างได้ตลอดไปไหมก็เลยมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ฮี่ๆ

ที่ ISKYCENTER ได้รับหัวที่ใช้กับ แขน ขา เป็นที่แรกในประเทศ เพราะคุณหมอเป็น

KEY OPINION LEADER

ในวงการผิวหนัง เอิ๊กเลยโชคดีไปด้วยที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีนี้ก่อนใคร และทดสอบกับ

ตัวเอง 6 CYCLE หรือ 6 จุดแล้ว หน้าท้อง 2 ต้นขาด้านใน 2 ครั้ง เอิ๊กเห็นความเปลี่ยนแปลง

ของตัวเองที่ไม่ใช่จากงานวิจัยคุณหมอ เลยต้อง REVIEW ก่อน

หัวนี้แกถือ แล้วบอก “พี่ได้คนแรกเลย เพราะใช้เยอะสุด นี่ออกงานวิจัยแล้วด้วย”

เอิ๊กภูมิใจกับแกมาก เอิ๊กอยากมีวินัย ขยัน เหมือนแก ที่ทำบนพื้นฐานความปลอดภัย 

และต้องพิสูจน์ด้วยผลลัพธ์ได้ แกจึงถ่ายทอดออกมาในทางที่ถนัดคุณหมอชอบทำวิจัยมาก

แกเป็นคนสร้างการประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเอง 🙂

รางวัลล่าสุด ขออวดหน่อย (ไม่ใช่ของตัวเอง) อิอิ แต่ภูมิใจกับความสำเร็จของคนที่เรารัก

ดังนั้นไม่แปลก ถ้าเอิ๊กจะบอกว่าเอิ๊กรักพี่เขามากที่สุด เขาเป็นผู้หญิงคนนึงที่มีอิทธิพลในชีวิตเอิ๊ก

มีอีกหลายเรื่องที่ไม่อาจเล่าได้ พี่เขาเป็นผู้มีพระคุณในชีวิตเอิ๊ก อาจารย์ใคร ใครก็รัก

อย่างน้อยเขาทำให้เอิ๊กหมดกังวลเรื่องที่ใหญ่อีกหนึ่งเรื่อง คือ เกี่ยวกับผิวหนังบนหน้า

เอิ๊กแทบจะดูแล คิด และ เลือกใช้ สกินแคร์จนมีผิวที่มีสุขภาพดี มานั่งเขียนถ่ายทอดความรู้

ผิวหนังบอกเลยว่าเพราะคุณหมอทุกคนใน ISKYCENTER สำหรับความรู้ทุกอย่าง 

เอิ๊กอาจไม่ได้ลองเป็นคนแรกในไทย แต่เอิ๊กดีใจที่เป็นส่วนหนึ่ง เอิ๊กทำสองครั้งต้นขาบนล่าง

ที่เคยทำความแตกต่างหลังทำเสร็จของพุงกับขา ต้องนวดๆๆจะได้ผลดี

 อ่านขั้นตอนละเอียดที่นี่

 

งานวิจัยคุณหมอ คนไข้เป็นคนไทย ทำ 1 ครั้งที่ต้นแขน

ทำหนึ่งครั้งต้นขาด้านใน รอผล 3 เดือน น้ำหนักเท่าเดิม สัดส่วนขาลง และ ดูเรียบขึ้น

ทำหนึ่งครั้งต้นขาด้านใน รอผล 3 เดือน น้ำหนักเท่าเดิม สัดส่วนขาลง และ ดูเรียบขึ้น

เอาละคราวนี้มาชมของเอิ๊กบ้าง 555555 น้ำหนักขึ้นปกติขาจะไม่มีช่องว่างตรงกลางเลย

โครงร่างขาเปลี่ยนเลย จนตอนนี้ อยากบอกว่าสะโพกความหวังอยู่ที่ ZELTIQ อ๊าคคคคคค

น้ำหนักขึ้นด้านข้างออก แต่ต้นขาด้านใน ดูหดกว่าเดิมด้วย 

ข้อด้อยที่เห็นอีกอย่าง มันเป็นการเอาไขมันออก เป็น SHAPE รูปหัว CYCLE

ที่ใช้ดูดเลย 555 ชัดมาก ต้องทำอีกให้เรียบเท่ากัน

 

และดูอาจารย์พี่สาวสุดที่รักของข้าพเจ้าลองคนเดียว

ทั้งต้นขาด้านใน ด้านนอก ด้านหลัง ด้านข้าง ท้องอีก 3 รอบ

ตอนนี้ท้องที่เคยห้อยตอนมีน้อง เรียบแปลื แกเป็นคนหุ่นลูกแพร

หน้าอกเล็ก ขาใหญ่มาก แล้วดูตอนนี้สิ WHAT!! พี่ทิ้งหนูไปแล้วค่ะ รอบเอวเล็กกว่าเอิ๊ก

ขาพอกันแล้ว น้ำหนักเท่ากันแล้ว แต่พี่สูงกว่าหนู

สรุปจะทำต่อแน่นอนกับ ZELTIQ แต่เอิ๊กจะทำขา และ สะโพก และ พุง ค่อยเป็นค่อยไป

เพราะครั้งนึงใช้เวลานานมาก จุดละ 1 ชม หมายความว่าขาต้องมี 2 ชม ถึงทำครบ

คิดว่าแพงมากจุดละ 30,000 บาท ขึ้นกับโปรโมชั่นด้วย จะถูกมาก 10000 กว่าบาท

ดังนั้น ควรออกกำลังกาย คุมอาหาร

โครงรูปร่างคุณจะเปลี่ยนไปตลอดชีวิต สำหรับคนมีส่วนเกินตั้งแต่หน้าท้อง

ต้นแขน ต้นขา ใครจะดูดนมก็ได้นะ ถ้านมใหญ่ 5555555

หรือ ยกเว้นใครจะทำตัวแบบคุณหมอทำงานทุกวั

กินขนมหวานบ่อย อารมณ์ดีเยอะๆ ก็ผอม แต่ตอนนี้แนะนำให้แกออกกำลังกายอยู่

คนที่เรารักเราก็อยากให้อยู่กับเรานานๆ

ขอบพระคุณ ISKYCENTER และ คุณหมอเพ็ญ อาจารย์พี่สุดที่รักสำหรับข้อมูลฮะ

ฝากเพจด้วยฮะ งานนี้ไม่มีค่าจ้าง ไม่ต้องคิดว่าอวย แต่เห็นว่ามีประโยชน์

อยากเขียน และ มันเกิดขึ้นจริงเลยมาเล่าสู่กันฟังฮะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่รูปภาพ

www.iskycenter.com

http://tengroupblog.blogspot.com/2013/03/swimwear-body-shape-guide.html

ที่มาข้อมูล

– สัมภาษณ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– ประสบการณ์ตรงของตัวเองล้วนๆ

 

Posted in HOW TOComments (0)

การทำจมูกที่ประเทศเกาหลี กับ STMSTYLE


คำเตือน เนื่องจากเนื้อหาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจกระทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ (ศัลยกรรม) ขอแสดงความรับผิดชอบในเนื้อหาด้วยการบังคับให้ทุกคนอ่านคำเตือนก่อนทุกครั้ง การทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดทุกชนิด จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่อในร่างกาย เกิดบาดแผลเมื่อผ่าตัด เมื่อตัดสินใจแล้วผลของแผลทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถเรียกเนื้อเยื่อเก่าให้กลับมา หรือ ลบเลือนแผลเป็นที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง (พังผืด) บนผิวหนัง (แผลเป็น) ให้หายไปหมดได้ การผ่าตัดยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ โอกาสมีแผลบนผิวหนังแน่นอน 100% การศัลยกรรมทุกชนิด เป็นเรื่องที่ต้องดูแล และ สังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติตลอดชั่วชีวิตเหมือนสุขภาพร่างกายของคนเรา วัสดุบางชิ้นไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่กับเราไปจนตาย อาจต้องมีการเอาออก เอาใส่เข้าไปใหม่ หรือ ถึงช่วงอายุขัยนึง เราอาจจะนำมันออกไปและไม่ใส่เข้าไปใหม่อีกเลย ก่อนตัดสินใจทำอะไรกับชีวิต คุณมีข้อมูลดีพอรึยัง ให้ถามตัวเองอยู่เสมอ

ด้วยความรัก และ ปรารถนาดีอย่างสูง

 erk-erk

บล็อคนี้คงเป็นที่รอคอยของใครหลายคน อันดับ1ที่คนไทยนิยมทำมากที่สุด

นั่นก็คือ ” จมูก “ ก่อนจะทำอะไรทุกครั้งกับอวัยวะในร่างกาย เอิ๊กอยากให้ทุกคนเข้าใจ

ว่าแต่ละอวัยวะนั้น หน้าที่ที่แท้จริงของมันเอาไว้ทำอะไร ?

 

จมูก ความสำคัญสูงสุดสำหรับร่างกายเรา คือ การหายใจเข้าออก เพื่อให้มีชีวิตอยู่

เพื่อดมกลิ่น เพื่อปรับอุณหภูมิ กรองอากาศ ฯลฯ

นี่คือความเป็นจริงในหน้าที่ของจมูกมนุษย์แต่ละคน

[ ภาพ : Google ]

  ภายในจมูกมีโครงประกอบทั้งกระดูกแข็งและกระดูกอ่อนโดยมีเมือกด้านใน

ภายนอกห่อหุ้มด้วยผิวหนังที่ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแปลกปลอมไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

ส่วนประกอบหลักที่สำคัญของจมูก

1. สันจมูก กระดูกอ่อนที่มีเนื้อเยื่ออยู่ภายใน

2. ดั้งจมูก ซึ่งเป็นกระดูกแข็งที่อยู่บนสุดเหนือสันจมูก

3. รูจมูก 2รู ทำหน้าที่สำคัญที่สุดในระบบทางเดินหายใจ

4. โพรงจมูก จะมองเห็นผ่านรูจมูกเข้าไป นอกจากจะเป็นช่องทางเดินอากาศเวลาหายใจเข้ามาแล้ว ยังมีหลอดเลือดฝอยอยู่มากมาย มีปลายประสาทรับกลิ่น ถ่ายเทความร้อนภายในร่างกาย และ เชื่อมต่อกับท่อน้ำตาของมนุษย์

สิ่งหนึ่งที่เราอาจปฏิเสธไม่ได้

ว่าจมูกเป็นตัวแปรสำคัญบนใบหน้าในเรื่องของมิติบนใบหน้า บางคนก็ว่าเป็นโหวงเฮ้ง

เป็นเรื่องของดวง หรือ แม้แต่สามารถบ่งบอกชะตาชีวิตในช่วงชีวิตหนึ่งได้

หรือ ที่สุดยิ่งกว่านั้นในความโชคดีเรื่องศัลยกรรมจมูก บางคนเปลี่ยนชีวิตไปเลย

กลายเป็นคนนึงที่มีโชคดีอยู่เสมอแก่ผู้พบเห็นในการเป็น FIRST IMPRESSION

แปลเป็นไทยประมาณว่า “ถูกชะตา ต้องตา” เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

เพราะมนุษย์เรามักตัดสินกันด้วยการมองเห็นเพียงไม่กี่วินาทีแรก

บล็อคนี้เป็นอีกความรู้นึงในแขนงศัลยกรรมที่เอิ๊กต้องขอออกตัวเหมือนเช่นเคยว่า

การทำศัลยกรรมทุกประเทศมีจุดเด่น มีความสวยงาม และมีเทคนิคที่ต่างกัน

วันนี้จะมาพูดการทำศัลยกรรมจมูกที่ประเทศเกาหลี ไม่ใช่แค่สไตล์เกาหลี

แต่เป็นบทความที่สัมภาษณ์และมีข้อมูลเป็นของประเทศเกาหลีจริงๆ จากแพทย์ชั้นนำ

ของ STMSTYLE ซึ่งมีประสบการณ์เกือบ 20 ปีแล้ว ทำให้ดาราเกาหลีมาเยอะมาก

คนไข้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และ โค ตะ ระ แพง ทำไมแพงจัง

มันมีเหตุผลที่ทำให้คนยอมจ่าย เพราะความแพงนอกจากค่าตัวหมอ ยังอยู่ที่วัสดุด้วย

ฟังแล้วตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ใกล้ชิด

กับคุณหมอคิวทอง และ เป็นมือศัลยกรรมอันดับต้นๆของประเทศเกาหลีอย่าง

คุณหมอ ปาร์ค ยัง ซู

ต่อไปจะเป็นสัมภาษณ์ระหว่างคุณหมอ ล่าม และเอิ๊กนะคะ

บางส่วนดัดแปลง ต่อเติมจากข้อมูลวิชาการต่างประเทศทางตะวันตกประกอบ

เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น แต่ชัดเจนทุกประเด็น และ ใส่ความรู้สึกเอิ๊กลงไปเพื่อ

อรรธรสในการอ่านแต่ได้รับความรู้เต็มเปี่ยมไม่บิดเบือนความจริง

สไตล์ erk-erk เหมือนเดิม

 

จุดเริ่มต้นในการทำศัลยกรรมจมูกต้องคำนึงถึงอะไรก่อน

นอกจากความจำเป็นจริงๆทางร่างกาย เช่น มีความผิดปกติทางจมูกทำให้หายใจไม่สะดวก ก็อาจจะมาจากการแก้ไขความไม่สมดุลของจมูกที่มีมาแต่กำเนิดยกตัวอย่างรูปทรงจมูกไม่เท่ากัน เช่น จากการมีความผิดปกติเรื่องปากแหว่ง เพดานโหว่ และ สุดท้ายเหตุผลที่คนนิยมทำกันคือ ปรับรูปจมูกให้มีมิติ มีรูปทรงที่โดดเด่นสวยงาม รับกับรูปหน้า ทำให้ภาพรวมบนใบหน้าดูสมดุล และ สวยงามขึ้น สำหรับประเทศเกาหลีจะคำนึงถึงขีดจำกัดของจมูกแต่ละคน คือ

  1. ความสูงต่ำที่เหมาะสมของดั้งจมูก 
  2. ความหนาบางของผิวหนัง
  3. ความกว้างของสันจมูก 
  4. สภาพของจมูกเดิม 
  5. ความโค้งเว้าของหน้าผาก
  6. ความสมมาตรรูปทรงจมูกทั้งด้านซ้ายและขวา
  7. สันจมูกต้องตรง ไม่เบี้ยวหรือ คดงอ
  8. สัดส่วนความยาวจมูกต้องเป็น 1/3 ต่อความยาวของใบหน้าทั้งหมด
  9. ริมฝีปากกับปลายจมูกต้องทำมุมกันประมาณ 95-105 องศา แต่ในทางทฤษฎี
  10. รูปจมูกต้องเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน
  11. ขนาดของจมูกที่สวยงาม
  12. การคงรูปไว้ไม่ให้รูปทรงเปลี่ยนหลังผ่าตัด
  13. ต้องไม่ทำให้เกิดริ้วรอยหลังการผ่าตัดอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างบน
  14. การทำศัลยกรรมจมูกควรทำหลังจากเรามีอายุ 17-18 ปีขึ้นไป เพราะการเจริญเติบโตของกระดูกเต็มที่

 

วิธีการผ่าตัดเสริมจมูกทั้งหมดที่ประเทศเกาหลี

การศัลยกรรมจมูกให้ได้ผลออกมาดี มีองค์ประกอบ 2 ส่วนสำคัญ คือ บริเวณดั้งจมูก ซึ่งนิยมวางซิลิโคนเนื่องจากเป็นส่วนที่ไม่ต้องขยับ และ บริเวณปลายจมูก ซึ่งนิยมวางด้วยกระดูกอ่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติ ขยับไปมา บิดได้เหมือนเสมือนของจริง

ในกรณีที่ไม่ต้องแก้ไขอะไรจะใช้วิธีการผ่าตัดเข้าไปข้างในรูจมูก

การผ่าตัดที่ต้องแก้ไขกระดูกหรือมีปัญหาจะใช้วิธีการต้องผ่าเข้าทางเปลือกผิวหนังสุดปลายจมูกแทน (บริเวณที่ตั้งของรูจมูกทั้งสองข้าง)

 

 

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกอาจใช้ผสมผสานกัน หรือ วิธีเดียวก็ได้ขึ้นกับสรีระคนไข้

  • ใช้จากร่างกายตนเอง เช่น กระดูกอ่อนของตนเอง ไขมันตนเอง

ข้อดี ธรรมชาติใช้ของในร่างกายตนเอง ร่างกายยอมรับ ไม่เกิดการต่อต้าน หรือ ติดเชื้อแทบไม่มี

ข้อเสีย อาจทำให้มีแผลเป็นเล็กๆตามร่างกายที่ถูกนำกระดูกออกมาใช้เช่นหลังใบหู หรือ บริเวณที่ดูดไขมันออกมา

  • ใช้วัสดุเทียมที่ปลอดภัยต่อร่างกาย เช่น ซิลิโคน กระดูกอ่อนเทียม

ข้อดี ไม่เจ็บตัว ไม่มีแผลในส่วนอื่นของร่างกาย

ข้อเสีย สิ่งแปลกปลอม คือ สิ่งแปลกปลอม ถ้าเกิดการอักเสบติดเชื้อ ต้องนำออกทันที

* การผ่าตัดจะเกิดขึ้นและวางวัสดุบริเวณใต้เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ห่อหุ้มกระดูก

 

1. ซิลิโคน

เป็นซิลิโคนแบบนิ่ม หรือ SOFT SILICONE

ข้อดี ผ่าตัดได้ง่าย ทำให้ผิวเนียนเรียบ เหลาสั้น ยาว รูปทรง สัดส่วน ปรับเปลี่ยนได้ง่าย เช่น เหลาผิดจากด้านนอกก็ทิ้ง เหลาอันใหม่ได้ต่อ แก้ไขหรือเอาออกก็สามารถแก้ไขได้ง่าย ถึงใส่เข้าไปแล้ว ไม่พอใจก็ถอดทิ้ง เหลาทรงใหม่เข้าไปใหม่ได้ เวลาเหลาจะใช้กรรไกรผ่าตัดเหลา โอกาสทะลุไม่มีเพราะนิยมวางไว้ส่วนกระดูกแข็งหรือบริเวณดั้งจมูก ไม่ใช้กับบริเวณปลายจมูก

 ข้อเสีย ถ้าใส่สูงเกินไปแล้วทำให้ผิวหนังที่ห่อหุ้มมันบาง จะทำให้เห็นความเป็นเงาของซิลิโคน สังเกตได้เลยถ้าเห็นจมูกเงาใส และถ้าใส่สูงเกินไปจนผิวบางก็ทะลุได้เช่นกัน

 

2. กระดูกอ่อน

กระดูกอ่อนในโพรงจมูกจากผนังที่กั้นระหว่างรูจมูก หรือ กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนตรงซี่โครงแทนได้ในบางกรณีจำเป็น ถ้าเน้นเสริมตรงปลายจมูกจะใช้กระดูกอ่อนหลังหู  ถ้าเกิดอยากยกจมูกให้สูงขึ้นจะใช้กระดูกอ่อนในโพรงจมูก

 ข้อดี กระดูกอ่อนที่ใช้เสริมปลายจมูกจะทำให้จมูกขยับ บิดได้อย่างเป็นธรรมชาติ โอกาสทะลุไม่มี ผิวหนังไม่เงา กระดูกอ่อนไม่เสื่อมตามอายุ เหมือนกระดูกแข็งที่อาจจะมีบ้างเวลาที่เราอายุมากขึ้น แต่รูปทรงในส่วนกระดูกอ่อนจะไม่เปลี่ยน 

 ข้อเสีย การผ่าตัดซับซ้อน แพงกว่าซิลิโคนหลายเท่า ถ้าผ่าหลังใบหูอาจมีแผลเป็นเล็กๆ ถ้าทำโดยไม่เชี่ยวชาญ ตัดแล้วเหลาทรงผิด ต้องตัดเหลาใหม่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงจมูกที่เรียกคืนไม่ได้ตลอดกาลหากเลือกตัดกระดูกภายในโพรงจมูก ข้อนี้สำคัญมากต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมจมูก และ กระดูกในจมูกจริงๆ การเปลี่ยนแปลงอาจทำได้ไม่มากครั้งเทียบเท่าซิลิโคนที่บางคนอาจทำได้มากกว่า 20-30ครั้ง แต่การตัดกระดูกอ่อนจริงๆออกไป กระดูกจริงเราจะไม่สามารถงอกกลับมาเหมือนเดิม

 

3. กระดูกอ่อนเทียม

ควรได้จากการเพาะเลี้ยงปลูกเซลล์เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่อาจจะได้มาจากบริเวณข้อต่อของกระดูกมนุษย์

ข้อดี ขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ โอกาสทะลุไม่มี ผิวหนังไม่เงา กระดูกอ่อนเทียมไม่เสื่อมตามอายุรูปทรงจะไม่เปลี่ยน

ข้อเสีย โค ตะ ระ แพง บางที่อาจเป็นการใช้วัสดุที่มีเทคนิควิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เข้ามา รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการเพาะเนื้อเยื่อสร้างชิ้นงานวัสดุเทียมขึ้นมา

 

4. ฉีดไขมันตัวเอง

ดูดเซลล์ไขมันคุณภาพมาจากไขมันส่วนเกินในร่างกายตัวเอง เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา มาฉีดกลับเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเปลี่ยนแปลงไม่มากของรูปทรงจมูก

ข้อดี ไม่ต้องผ่าตัด มักใช้กับจมูกที่เล็กหรือแคบอยู่แล้ว อาจจะใช้เติมเต็มให้ดูอวบอิ่ม หรือ สูงขึ้นเล็กน้อย ให้ความเป็นธรรมชาติสูง ฟื้นตัวเร็ว ราคาถูกกว่าวิธีอื่นมาก

ข้อเสีย อยู่ได้ไม่นาน เฉลี่ย 24 เดือน 

 

เทคนิคที่นิยม ณ ประเทศเกาหลีในการศัลยกรรมจมูก

เทียบกับเทคนิคเมื่อก่อนของประเทศเกาหลี คนจะนิยมใส่ซิลิโคนยาวตั้งแต่สันจมูกด้านบนลงมาถึงปลายจมูก เพื่อให้จมูกดูโด่งกว่า ซึ่งมันจะดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนไปโดยใช้ซิลิโคนสั้นลง เพื่อความเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยส่วนใหญ่ในการผ่าตัดปกติเป็นการผสมผสานระหว่างซิลิโคน และ กระดูกอ่อน โดยช่วง ดั้งจมูกด้านบนเราจะวางด้วยซิลิโคนสั้นเพราะเป็นส่วนที่เป็นกระดูกแข็งและธรรมชาติไม่ได้มีการขยับเขยื้อนอยู่แล้ว ส่วนสันจมูกยาวลงมาถึงปลายจมูกจะวางด้วยกระดูกอ่อนของเราที่ถูกเหลาและกรีดเย็บเก็บปลายจมูกให้ดูยาวเล็กเรียว หรือ ตามแบบที่เราชอบให้เหมาะกับสัดส่วนบนใบหน้าของเราอย่างเป็นธรรมชาติโดยสามารถขยับ บิด ดันได้เหมือนของจริงเกือบ 100% เรียกได้ว่าแผลเป็นไม่มี ถ้าไม่บอกก็อาจจะไม่มีใครรู้ ยกเว้นคุณหมอศัลยกรรมที่เชี่ยวชาญเรื่องจมูกเท่านั้นที่จับแล้วจะรู้ ส่วนใหญ่จะเข้ารูปหลังจาก 3 เดือนขึ้นไป

 

เสริมจมูกให้สวยตามใจฉัน

หลายคนคงมีข้อสงสัย จะเป็นไปได้ไหมที่จะเอาแบบจมูกไม่ว่าจะจากดารา หรือ คนที่ชื่นชอบไปวางแล้วให้หมอเนรมิตให้เหมือน คุณหมอตอบว่า ขึ้นกับข้อจำกัดของจมูกแต่ละคน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คุณหมอรู้ทิศทางความปรารถนาของคนไข้ จะทำให้เป็นไปในทิศทางนั้นแต่เป็นในแบบฉบับที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด เท่าที่เราจะเป็นได้

 

เห็นภาพก่อนตัดสินใจ

ด้วยความแพง แน่นอน ส่วนหนึ่งแพงด้วยความล้ำทางเทคโนโลยีของเกาหลี (นิสัยตรงนี้ของเอิ๊กเหมือนเกาหลี) ตรงที่ว่าเลือกเทคโนโลยีล้ำสุดมาใช้ในงาน แม้แพง แต่คุณภาพ และ ผลมันเห็นได้เยอะกว่า หลายมุมมอง อยากเห็นภาพก่อนศัลยกรรมแปลงโฉมดั้งใหม่ ก็มีโปรแกรมหลายตัวที่เกาหลีใช้ หลักๆก็จะเป็นโปรแกรมที่มองเห็นภาพเป็นแบบสามมิติ แสดงให้เห็นถึงโครงหน้าที่สามารถวิเคราะห์อธิบายได้ว่า จุดไหน ควรแก้ หรือ เสริมตรงไหน ทำออกมาแล้วจะเป็นยังไงแบบเป็นการคาดคะเน ผลก็จะค่อนข้างใกล้เคียง  (อยากเล่น แต่วันนั้นหมอไม่ว่างสั่งให้พยาบาลเปิดเครื่องให้เล่น ไม่งั้นจะถ่ายรูปมาให้เห็นหน้าค่าตากัน และ คงเล่าได้มันส์กว่านี้)

 

ตัวอย่างการวิเคราะห์ด้วยตาของคุณหมอปาร์คกับจมูกมาดามเมิ๊ก

 

 

ทุกๆคนจะมีกระดูกดั้งจมูกเพื่อทำให้ใบหน้าดูนุ่มนวล แต่ของเอิ๊กหักยุบลงไปบางคนเรียกว่า “ฮัมพ์” [NASEL HUMP] ออกเสียงดีดีนะ (อ่านว่า ฮั๊ม!) และจมูกสวยงามได้รูปแบบธรรมชาติ อาจจะแนะนำให้กรอกระดูกตรงนี้ให้เรียบเสมอกันเวลามองด้านข้างจะเป็นเส้นตรง ด้วยเนื้อปลายจมูกที่อวบ อาจจะทำให้เล็กเรียวลง โดยเพิ่มความสูงด้านบนนิดหน่อย จมูกจะดูเรียวเล็ก และ ใบหน้าดูสวยชัดเจน นุ่มนวลขึ้น และยังคงมีความเป็นธรรมชาติ (แอบคิดในใจถ้าทำคงเป็นฝรั่งไปเลย อิอิ อยากสวยแต่ไม่พร้อมเจ็บ และ ยังรักในหน้าตัวเองอยู่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนแฟน เอ้ย เปลี่ยนแปลง ฮ่า ฮ่า)


จมูกดี ดวงดี เชื่อไหมคะ ?

คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องของแต่ละคนแต่ละชาติ เชื่อไม่เหมือนกันเลย เช่น คนจีน จะชอบจมูกที่ยาวลงมา คนเกาหลีก็จะชอบที่สั้นลงไปนิดนึง จะไม่ตกลงมาเหมือนคนจีน อย่างคนเกาหลีเชื่อว่าถ้าปลายจมูกยาวลงมาจะมองกันว่าเป็นคนแข็งและดูเหมือนโชคไม่ดี คนตะวักตก เช่น ชาวยุโรป จะชอบให้จมูกเล็กลง คุณหมอจะดีไซน์ตามใจแต่ละคน แต่ละชาติมากกว่า ในความเห็นส่วนตัวของตัวเองสังเกตุถ้าจะดูดวงจริงๆ จีน กับ เกาหลี ความเชื่อขัดกัน 100% แต่ทั้งสองประเทศก็มีคนดัง มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จมากมาย มันเป็นเพราะอะไร รูปลักษณ์อาจจะเป็นส่วนหนึ่งแต่สุดท้าย อยู่ที่การกระทำ ความสามารถที่แท้จริง ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนมากกว่า อยากให้คิดตามจุดนี้ในเรื่องของดวง แต่เอิ๊กไม่ลบหลู่ความเชื่อใครนะคะ เพียงแต่เลิกดูดวงมา 4-5 ปีชีวิตพุ่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับ สมองที่เต็มไปด้วยพลังบวก สำคัญคือเอิ๊กลงมือทำ เลยเป็นอีกความเชื่อนึง คือ เชื่อในพลังข้างในตัวเอง

 

 

การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมจมูก

  • เตรียมใจ เตรียมตังค์ เตรียมดูดีขึ้น(ในแบบตัวเอง) ฮ่าฮ่า
  • อดอาหารก่อนผ่าตัด 3 ชั่วโมง
  • ถอด สร้อยคอ, แหวน, ตุ้มหู, และเครื่องประดับต่างๆ ออกให้หมดก่อนเข้าห้องผ่าตัด
  • ล้างยาทาเล็บที่เล็บมือ และเล็บเท้าออก
  • ก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์ หยุดทานยาประเภทพวกแอสไพริน 
  • กรณีทานยาประเภท ยาไทรอยด์, ยาประเภทกรดวิตามินเอ, ยาคุมกำเนิด, ยาความรักษาความดันโลหิตสูง, ยาละลายไขมันในเส้นเลือด, ยารักษาโรคเบาหวาน ให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัว ในการใช้ยาล่วงหน้าก่อน
  • หากมีอาการแพ้ ยากิน , ยาทา, หรือยาฆ่าเชื้อต่างๆ กรุณาบอกล่วงหน้าก่อน
  • ช่วงก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์ ควรงดสุราและ บุหรี่

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมจมูก
  • การประคบอุ่นและเย็นในช่วง1-2วันแรก อุ่นช่วยลดอาการช้ำ เย็นช่วยลดอาการบวมไม่ให้เพิ่มมากขึ้น อาการบวมชำจะค่อยๆลดลงไปภายในประมาณ 5 วัน
  • พักฟื้น 1 สัปดาห์ บวมอักเสบ 3 สัปดาห์ จมูกเข้าที่ประมาณ 3 เดือน
  • ห้ามใส่แว่นซักระยะ จนกว่าจะไม่เจ็บจมูกแล้ว
  • ดูแลความสะอาดแผล โดยห้ามน้ำโดนแผลจนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  • อย่านอนคว่ำ นอนหมอนสูง 2 สัปดาห์แรกเพื่อลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า
  • ไม่ก้มหน้าอ่านหนังสือ 2-3 สัปดาห์
  • ออกไปเดินเล่น ขยับร่างกายบ้างจะทำให้แผลหายไว
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หลังผ่าตัด 2-3 อาทิตย์
ขอถามประสบการณ์ศัลยกรรมคุณหมอว่าทำมานานแค่ไหน ?
คุณหมอบอกว่า ไม่นับเป็นปีนับเป็นเคสคนไข้ผ่าตัดดีกว่า ประมาณ 20,000 เคส (เท่าที่ทราบภายหลังคือคุณพ่อ เอ้ย คุณหมอศัลยกรรมจมูกมาประมาณเกือบ 20 ปีแล้ว)
ค่าใช้จ่ายที่แรงไม่แพ้คุณภาพของงาน
ค่าความดังและประสบการณ์คว่ำหวอดของหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าเทคโนโลยี ค่าวัสดุ ขึ้นกับสรีระคนไข้ เฉลี่ย 170,000 – 250,000 บาท อาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ขึ้นกับปัญหาที่น้อยหรือมากในการแก้ไข ศัลยกรรม ตกแต่ง

 อ่านบมสัมภาษณ์ของหมอที่เอิ๊กได้ไปสัมภาษณ์โดยมีล่ามแปลอีกต่อนึงกันไปแล้ว

ขอมอบบทส่งท้ายพิเศษข้อมูลจาก STMSTYLE ให้อ่านไว้ประดับความรู้

เรื่องศัลยกรรมจมูกเพิ่มเติม

มีตังค์แต่ทำจมูกไม่ได้ ใครบ้างห้ามเสริมจมูก

  • ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง ซึ่งมีน้ำมูกไหลตลอด : อาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้
  • ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติ หรือเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ : อาจทำให้เกิดอาการเลือดไหลไม่หยุด
  • ผู้ที่ชอบเล่นกีฬาที่มีการกระทบกระเทือนซึ่ง : อาจทำให้เกิดการกระแทกอย่างรุ่นแรง
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีภาวะภูมิต้านทานต่ำ : เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์

เทคนิคศัลยกรรมจมูกที่ประเทศเกาหลีมีกี่วิธี

ที่แน่ๆมากกว่า 50 เทคนิค

ศัลยกรรมจมูกแค่ทำให้โด่งได้อย่างเดียวใช่ไหม

ตกแต่ง แก้ไขปัญหาอื่นได้เช่น จมูกสั้น จมูกรั้นร่นขึ้นไป ก็ทำให้ยาว เรียวลงมาได้ จมูกยาวไปก็ทำให้สั้นได้ หรือ มีความผิดปกติของกระดูกก็สามารถแก้ไขได้ หรือ จมูกแหว่งชิ้นเนื้อหายไปก็ตกแต่งให้เต็มเท่ากันได้ อะไรที่เกี่ยวกับจมูก กระดูกจมูกทำได้ ..

การเฝ้าระวังหลังศัลยกรรมตลอดชีวิต

อย่าคิดว่าทำแล้วจบ การศัลยกรรมที่มีสิ่งแปลกปลอม เช่นซิลิโคนแม้จะปลอดภัยก็ติดเชื้อได้หากดูแลไม่ดี หรือ เกิดภาวะภูมิคุ้มกันในร่างกายบางส่วนบกพร่องทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ เช่น อยู่ๆเป็นภูมิแพ้อากาศขึ้นมากระทันหัน ชอบแคะขี้มูก นิ้วก็เอาเชื้อโรคเข้าไปติด ติดเชื้ออีก 

  • หากพบอาการผิดปกติ หรือเห็นขอบจมูกเริ่มชัดเจนขึ้น รีบพบแพทย์ทันที หรือแผลหดรั้ง บางรายแผลรั้งจนจมูกเชิด 
  • รู้สึกว่าเริ่มเสี่ยงต่อการติดเชื่อ รวมถึงการเกิดอาการแทรกซ้อน อาจป้องกันด้วย การรักษาความสะอาดของทางการแพทย์ การดูแลผิวหนังที่ได้รับการผ่าตัด ทั้งด้านในและด้านนอกของจมูก และผิวหนังบริเวณรอบๆ 
  • หากเกิดอาการติดเชื้่อบริเวณที่ใส่ซิลิโคนเข้าไป ควรรีบเอาซิลิโคนออก และ ทิ้งระยะเวลาให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน 3-6 เดือน หรือ 1 ปีขึ้นไป
  • อาการอักเสบหรืออาการติดเชื้อไม่สามารถหายไปเองได้ หากยังมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย ยิ่งทิ้งไว้นาน เนื้อเยื่อในร่างกายยิ่งถูกทำลาย จนยากที่จะแก้ไขให้ดีได้เหมือนเดิม
  • อาจเกิดการเอียงได้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างฐานจมูกที่เอียงมาก่อนแล้ว หรือเกิดจากการเหลาที่ไม่สมมาตรของแพทย์ หรือทำโดยฝืนเนื้อเยื่อของผิวหนังมากเกินไป หากทางแพทย์เห็นแล้วว่าเอียง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด การรีบแก้ไขให้ทันภายในระยะเวลาแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากทิ้งระยะเวลานาน อาจจะทำการแก้ไขได้ยากกว่าเดิม

อะไรเอ่ยกินเข้าไปแผลหายไว

จะบอกว่าเอิ๊กผ่าตัดใหญ่ แต่อยากอวดว่าหมอชมว่าไม่มีอาการบวมใดใดทั้งสิ้นให้เห็นภายนอกเลย เป็นปกติทุกอย่าง เพราะอาหารเขาก็มีส่วนช่วยมากๆ มาดูกันดีกว่าเอิ๊กทานอะไรบ้าง

  • โจ๊กฟักทองที่ปั่นละเอียดจนเป็นเสมือนน้ำฟักทอง อุดมไปด้วยวิตามิน A ปริมาณ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ต่อต้านการติดเชื้อ และช่วยลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี 
  • สาหร่ายเคลป์หรือสาหร่ายทะเลต่างๆ เพราะสาหร่ายเป็นอาหารที่มีเส้นใย แร่ธาตุและแคลเซียมจำนวนมากทำให้ระบบการดูดซึมออกซิเจนของร่างกายทำงานเป็นปกติซึ่งช่วยทั้งทำให้ร่างกายอบอุ่นและช่วยลดการบวมช้ำได้
  • ถั่วดำ เพราะถั่วดำมีคุณสมบัติเป็นอาหารที่สามารถขับพิษในร่างกายผ่านทางการขับถ่าย
  • จำได้ว่าซุปผัก ผักดอง ผัก ผัก ผัก เยอะมาก เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงการขับถ่ายด้วย

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้โดยให้เกียรติลงเครดิต และขอความกรุณาคนไทยด้วยกันไม่ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ตั้งใจทำมาก อยากให้คนไทยที่มีความคิดที่จะทำศัลยกรรมได้อ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ทำให้เข้าใจง่าย ใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง ภาษาส่วนตัวตัวเอง แต่ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น

ที่มาส่วนประกอบข้อมูล รูปภาพ

บทสัมภาษณ์คุณหมอ ปาร์ค ยัง ซู ศัลยแพทย์จมูก ประเทศเกาหลี

บทความที่นำมาดัดแปลงจาก STMSTYLE.BLOGSPOT.COM

ประสบการณ์จากการทำศัลยกรรมส่วนตัว และ จากที่ได้พบเห็นมาจริง

 

Posted in NOSE, SURGERYComments (2)

ตะลุยดูงานศัลยกรรมเกาหลี กับ STMSTYLE


 

เอิ๊กไม่เคยผ่าตัดใหญ่อะไรเลยในชีวิต การดมยาสลบค่อนข้างอันตรายมาก

ดังนั้น ไม่ว่าการผ่าตัดอะไรก็ตาม ที่ต้องมีการดมยาสลบ ต้องมีวิสัญญีแพทย์ หรือ

วิสัญญีพยาบาลอย่างใกล้ชิด เขาต้องทำให้เราหลับและตื่นขึ้นมาอย่างปลอดภัย

พร้อมช่วยชีวิตเราเสมอในห้องผ่าตัดค่ะ มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าแพทย์

เป็นคนดูแลลมหายใจของเรา และ การรู้สึกตัวของเราค่ะ

Erk-Erk

การทำงานเป็นพาร์ทเนอร์กับ STMSTYLE ครั้งนี้

ทุกสิ่งมันควรมาจากประสบการณ์เอิ๊กด้วยในการแชร์ความรู้สึกที่แท้จริง

เอิ๊กจึงตัดสินใจเป็นคนไข้ทำศัลยกรรมเองในส่วนบกพร่อง และ เป็นปมด้อยในชีวิตมานาน

กว่าจะตัดสินใจก็ทำใจอยู่นานพอสมควร แต่ข้อมูลเนี่ยไม่มีมาก คิดไว้ว่าอีกซัก 2 ปีค่อยทำ

เพราะกลัวการผ่าตัดมาก เอาจริงๆ กลัวแผลเป็น กลัวไม่สวย 

การผ่าตัดครั้งนี้ผ่านไปด้วยดี น้ำตาไหลเมื่อฟื้นขึ้นมา คำพูดแรกจำเลยว่าพูดว่า

“แม่ขา หนูรักแม่มากค่ะ หนูรักแม่ที่สุด” แล้วก็รู้สึกว่ามีพยาบาลหลายคน ค่อยๆปล่อยร่าง

ที่เหมือนมนุษย์ไร้กระดูกของเอิ๊กลงบนเตียงอุ่นๆ ที่ รพ. ศัลยกรรมที่เอิ๊กได้ผ่าตัดมา

เอิ๊กไม่ได้แนะนำให้ทุกคนไปศัลยกรรมนะคะ สำหรับตัวเอิ๊กเองคือมันมีปัญหาในการใช้ชีวิต

ในการทำงาน โดนล้อ ทั้งที่ตัวเองก็เริ่มตั้งแต่ความรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร จนมันมีปัญหา

เวลาทำงาน มันทำให้เราทำอะไรได้ไม่เต็มที่เท่าใจอยาก ก็เลยคิดว่าโตอีกหน่อยก็จะลุย

แต่พอได้ทำงานกับ STMSTYLE เลยลองคุยดูว่าควรทำดีไหม จะได้เขียนเล่าได้ด้วย

เลยอยากจะบอกว่าข้อมูลน้อยมาก แต่ไว้ใจ STMSTYLE มาก จากที่เคยเล่าถึง

ความห่วงใยที่ผู้บริหารที่นี่มีให้ลูกค้าทุกคน และ

มีการันตีหากเกิดความผิดพลาดของเขา ซึ่งเอิ๊กขอบอกทุกคน

ว่าจะทำอะไร ขอให้มีข้อมูลให้มากพอสมควรนะคะ อย่าทำแบบเอิ๊ก

เผอิญเป็นความโชคดีของเอิ๊ก พี่เลี้ยงล่าม คุณหมอ STMSTYLE และ รพ.

ให้ข้อมูลก่อนทำสดๆ แต่ไม่แนะนำให้ทุกคนทำอะไรโดยไร้ข้อมูลค่ะ

ปลายเดือนหน้าจะเฉลยว่าทำอะไร และ จะมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดค่ะ 🙂

ก่อนจะไปเตรียมตัวยังไงบ้างในความคิดเอิ๊ก และ ประสบการณ์เอิ๊กค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 รับคำปรึกษา

เมื่อได้รับคำปรึกษาเรียบร้อยแล้วส่วนหนึ่งจากทาง STMSTYLE โดยผู้บริหาร

จะเป็นคนให้คำปรึกษาตามหลักสูตรที่ได้อบรมโดยศัลยแพทย์เกาหลี

ความจริงเอิ๊กถามทุกอย่างที่ควรต้องทำทั้งตัว แต่ไม่ได้ทำหรอกค่ะ เพราะแค่อยากรู้ว่า

เขาจะแนะนำอย่างไรบ้าง ต้องบอกว่าใครไม่ได้ชอบความงาม พอดี ธรรมชาติแบบเกาหลี

อาจจะต้องไปคุยกับคุณหมออีกที การได้รับคำปรึกษาอาจมีความเห็นไม่ได้ตรงกับแพทย์

ทุกอย่าง แต่จะเป็นแนวทางที่มองในหลักความสมดุลของใบหน้าและร่างกาย สุดท้าย

เราจะได้ไปปรึกษาหัวหน้ารพ ศัลยกรรม และ แพทย์ประจำตัวของเราอีกที ที่นี่ปรึกษาฟรี

ไม่มีค่าใช้จ่าย อย่ากลัวที่จะ WALK IN เข้าไป บอกว่าเป็นเพื่อนในเพจเอิ๊กตามมาก็ได้ค่ะ

การที่ทำศัลยกรรมเกาหลี บอกเลยว่ามีส่วนที่ต่างกับไทยแบบ 100% ก็มีและบางจุด

ก็เหมือนหรือคล้ายคลึงไม่ต่าง เราจำเป็นต้องคุยกับคนที่เขาอยู่ในวงการจริงๆค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 ประเมินค่าใช้จ่าย / แนะนำแพทย์ประจำตัว

ถ้าตัดสินใจแล้ว ทาง STMSTYLE จะเลือกคุณหมอดีที่สุดที่เขามีเฉพาะทาง

และอาจจะแจ้งชื่อ ประวัติคุณหมอ ล่วงหน้าเพื่อให้เราสบายใจ แต่ขอบอกเลยว่าแพง

อย่างที่บอกเหตุผลไป บทความที่แล้ว ว่าแพงเพราะชื่อเสียง และ ประสบการณ์คุณหมอ

รวมถึงเทคนิค และ ชื่อเสียง การคิดราคาจะตามกับสรีระของคนไข้แต่ละคนด้วย

เหมือนเป็นการออกแบบรูปแบบอวัยวะใหม่เฉพาะบุคคล

ของเอิ๊กนี่รวมทั้งหมดเกือบ 4 แสนค่ะ รวมตั๋ว อาหารการกิน ที่พัก

ทำแค่อย่างเดียว เหมือนการมารับชุดที่สั่งตัดเฉพาะคนเดียว

เหมือนมารับรถคันที่มีคันเดียวในโลก

เหมือนของที่มีเพียงชิ้นเดียวที่ต้องออกแบบให้เหมาะกับร่างกายและตัวเรา

* เราอาจจะแจ้งความต้องการเรื่องโรงแรมที่พักอยากได้ธรรมดา ถูก แพง

ต้องการคนดูแลใกล้ชิด รถรับส่ง ก็สามารถเลือกได้ โดยทาง STMSTYLE

ก็จะจัดเป็นราคารวมมาให้ รวมถึงตั๋วอยากได้ตั๋วแพง ตั๋วถูก หรือ ไม่ซื้อตั๋วกับเขา

ก็ทำได้ค่ะ เขาก็จะเมลล์เรื่องรายละเอียดค่าใช้จ่าย เมื่อเราชำระเรียบร้อยจะมีเมลล์

เอกสารสำคัญจาก STMSTYLE มาให้ประมาณ เรื่อง

  • ใบยืนยันการผ่าตัด ใบนี้ต้องเซ็นต์ชื่อยินยอม
  • ข้อปฎิบัติตัวก่อนหลังผ่าตัด
  • เอกสารยืนยันเข้าประเทศเกาหลี
  • ตารางการเดินทาง
  • ตั๋วเครื่องบิน E-TICKET

เขาจะออกใบจากทางโรงพยาบาลมาให้ว่าเรากำลังจะเดินทาง

ไปทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาล ว่าเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลไหน ไว้ยื่นตอน

ด่านตรวจคนเข้าประเทศเกาหลี ส่วนใหญ่เอิ๊กจะรับส่งทางอีเมลล์รวมถึง

กำหนดการเดินทาง เวลา ตารางการผ่าตัด เบอร์คนขับรถ

เป็นตารางมาอย่างดี

ของเอิ๊กนี่เป็นตั๋ว ECO สายการบิน KOREAN AIR และเอิ๊กเอาแม่ไปด้วย

ปดูแลอย่างใกล้ชิด ฮี่ฮี่ พยาบาลเก่า หอบไปทำงานดูแลลูกสาว

ขั้นตอนที่ 3 เตรียมตัวเตรียมใจออกเดินทาง

เอิ๊กเดินทางดึกมาก ง่วงเอาการ ไม่แนะนำเลย อยากให้ทำใจให้สบาย

อย่าเอาเรื่องอะไรในชีวิตที่กังวลมาให้เป็นห่วง และ เดินทางเช้าหน่อยอาจจะดีกว่า

สมองสดใส

เอิ๊กว่าที่นั่งของ ECO สายการบิน KOREAN AIR สำหรับนั่งไม่สบายเท่าไหร่

ปวดหลัง ปวดคอ พอสมควร หากใครชอบสบายก็แจ้งอัพเกรดตั๋วแล้วเพิ่มเงินเอาได้

อาหารโอเค อุปกรณ์โอเค แต่สื่อมีเดียให้ฟัง ให้ดู มันค่อนข้างไม่สนุกเท่า

สายการบิน ที่เคยไปร่อนมา ฮี่ฮี่่

ล้อหยุดหมุน หัวใจกลับเต้นแรง แต่บอกตัวเองฉันโชคดี และ

มีความสุขทำอะไรก็ต้องออกมาดี

ขั้นตอนที่ 4 ไปเช็คสภาพร่างกายที่รพ.กัน

มาถึงก็มีคนจาก STMSTYLE มารอรับเลยที่สนามบิน มีป้ายชื่อชู อิอิ และ

เขาเอารถมารับ พี่ที่ขับรถน่ารักมาก สุภาพมาก ชื่อคุณ ปาร์ค รถนั่งสบายมาก

ว่าจะนอน ก็เมาท์มอยกับพี่ที่เป็นล่ามจนถึงรพ.

 

ถึงแล้ว Apgujeong ย่านคนหน้าตาดี หรือ ย่านรพ.ศัลยกรรมเยอะสุด อากาศเย็นสดชื่น

เข้ามาในรพ. ขาวสะอาด และ บรรยากาศสดชื่นมาก คนรอเยอะทีเดียว

มากับ STMSTYLE ก็จะอยู่ในห้อง VIP ส่วนตัว มีพยาบาลหน้าตาจิ้มลิ้ม

เดินผ่านไป ผ่านมา ทาง STMSTYLE จะเป็นคนนัดวันเวลา และ คิวคุณหมอ

จะมีระเบียบเรื่องเวลามากเพราะที่นี่คุณหมอแต่ละท่านคิวทองหมดทุกคน

นั่งรอก็มีการกรอกประวัติ ถามเรื่องการแพ้ยา การผ่าตัดที่ผ่านมา และ ประวัติสุขภาพอื่นๆ

เพื่อที่จะได้รับการตรวจอย่างละเอียดจากทางรพ.อีกที

จะมีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เลือด ความดัน การเต้นของหัวใจ เอ็กซ์เรย์อวัยวะภายใน

เช่น กระดูก โครงหน้า ฯลฯ ขึ้นกับ การผ่าตัดศัลยกรรมแต่ละชนิดด้วย

หลังจากนั้นจะเข้ารับคำปรึกษาจากหัวหน้ารพ. ที่ดูแลเรื่องศัลยกรรมอีกที

ซึ่งเอิ๊กว่าหน้าเค้าอาจจะดูจริงจังนิดนึง 555555 เขาก็จะเขียนปัญหาเรา

และ สิ่งที่เราต้องการเพื่อแจ้งให้หมอทราบก่อนที่เราจะได้พบหมอจริงๆ

ขั้นตอนที่ 5 พบคุณหมอตัวจริงเสียงจริง บอกไปว่าอยากสวย 555

สรุปเลยนะจากประสบการณ์ สุดท้ายแล้ว เจอหมอฟันธง คาดการณ์ดีและแม่นที่สุด

หมอเก่งมากเขาจะเอาภาพผลงานที่อาจจะใกล้เคียงกับการผ่าตัดของเราให้ดูก่อน

ว่าจะออกมาประมาณไหน หมอจะจับที่เนื้อหนังของเรา หยิบเนื้อ มองสรีระภาพรวม

หมอจะมีเครื่องวัด และ ประสบการณ์ในการดูที่แม่นยำมาก ถึงขนาดบอกเลย

สำหรับเอิ๊กมีปัญหาจุดไหน ทำแล้วได้แค่ไหน เพราะสรีระเรามันเป็นแบบไหน

เอารูปผลงานใกล้เคียงให้ดู

ขั้นตอนที่ 6 สวยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว (เข้าห้องผ่าตัด)

เข้าไปห้องผ่าตัดไม่ใหญ่มาก แบบอุปกรณ์เยอะมาก วิสัญญีมาอยู่ที่หัวและให้นับเลข 1 2 3

แต่นับ 2 วิหลับสนิทพอผ่าตัดออกมา ถึงกับตกใจ ผลงานมันเหมือนที่หมอบอกให้เตรียมใจ

ไว้ไม่ผิดเลย ตอนอยู่กับคุณหมอไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเขิล มาจากแดนไกล 

ส่วนหมอจะวินิจฉัยยังไง มารออ่านเดือนหน้ากันจะเฉลยแล้ว แต่อยากจะบอกตื่นเต้นกับ

ผลงานมาก เข้าใจละคนทำศัลยกรรมทำไมเวลาถ่ายรูปเขาจะมีความสุขกับอวัยวะรูปทรง

ใหม่มาก เอิ๊กก็มีความสุขมาก ไม่กล้าจับเลย แหะ แหะ

ผ่าตัดไวมาก 2 ชั่วโมงเสร็จลืมตาแป๋ว หมอห้ามหลับ 5555 ง่วงมากพี่น้องชาวไทย

ไม่เจ็บเลย ไม่ได้มอร์ฟิน ไม่ได้ยาแก้ปวด ไม่ได้ทานข้าว

ไม่ได้ทานน้ำใดใดทั้งสิ้น และ เช้าวันใหม่ก็ กลับโรงแรมเลย และ เดินทางไปเที่ยวซื้อของต่อ

เอิ๊กว่าเลเซอร์ขนรักแร้เจ็บกว่า อันนี้จะรู้สึกทรมานวันเดียวคือวันที่ 2 มันจะรู้สึกเหมือน

ปวดระบม เหมือนปวดหัวนอนไม่หลับแค่นั้นอะค่ะ เอิ๊กบินถึงช่วงสาย ตอนเย็นเอิ๊กเข้ารับการ

ผ่าตัดเลย เนื่องจากเอิ๊กต้องทำงานต่ออีกทุกวัน เลยบินถึงปุ๊บไม่กี่ชั่วโมงผ่าตัดเลย

ผ่าเสร็จนอนคืนนึง แล้วก็กลับเลย แล้วก็นัดมาดูแผลอีกทีก็ซัก 5 วัน ที่นี่ใช้ไหมละลาย

จึงมาดูแผล และ รับยาไปทา หรือ ทานต่อเท่านั้นค่ะแล้วแต่กรณี

ขั้นตอนที่ 7 กลับโรงแรมกันแม่รอ(ดูแล)อยู่

เป็นไปได้ควรมีคนดูแลใกล้ชิดบอกตรงๆนะคะ ถ้าผ่าตัดใหญ่มากยิ่งต้องมี ถ้าเล็กๆก็ไม่ต้อง

โรงแรมเอิ๊กพักที่ HOTEL POPGREEN โรงแรมที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเลย สบายในการเดินทาง

รอบๆ อาหารเพียบพร้อม ที่สำคัญ ใกล้โรงพยาบาลที่ผ่าตัดมากๆค่ะ

เน้นอยู่กินเที่ยว ง่ายๆ แบบแม่ลูกผูกพัน

ห้องน้ำใหญ่มาก อุปกรณ์ค่อนข้างครบ แต่เนตล่มบ่อยมาก T^T ไม่เป็นไรเราก็ออกไป

ทำงาน ไปเที่ยวกันทุกวัน ขึ้นรถไฟฟ้า สายนู้น สายนี่ แม่ดูมีความสุขมาก

ตื่นขึ้นมา แม่ก็มาพร้อมอาหารบำรุงสุขภาพลูกหมู อยู่ที่นี่ 5-7 วัน

ขั้นตอนที่ 8 หมอขาหนูคิดถึง (เช็คแผล)

วันที่ 5 เช็คแผลรับยา หมอก็จะบอกได้ละว่ามันระบมตรมตรอมตรงไหน เขาบอก

เอิ๊กอึดมาก ไม่บวม ไม่ระบม ทุกอย่างเป๊ะ ปกติ แถมไม่มีใครรู้ว่าทำด้วย เพราะชิวมาก

แต่จุดด้อยน่าจะอยู่ที่เราฟังและอ่านภาษาเกาหลีไม่ออก อยากคุยกับหมอใจจะขาด

ต้องรอพี่ล่ามอย่างเดียว ยาก็ฉลากเกาหลีหมดเลยยยยย

พี่ล่ามอาจจะแปลให้ในส่วนที่จำเป็น ดังนั้นข้อมูลเต็มๆเราควรมาเสริทหาก่อนทา

ก่อนทาน จะดีมากเลยค่ะ เอิ๊กทำนะ กลับมาเอิ๊กก็มีมาปรึกษาเรื่องยากับหมอไทยอยู่

จุดเด่นที่นี่ยาแพงมาก จัดให้อย่างดี ตัวปิดแผลกันน้ำ ไหมละลาย ใส่ใจของที่ให้คนไข้

คุณภาพให้สมราคาที่อลังการเลย ดีอีกอย่างทำกับ STMSTYLE ประกัน 1 ปีหากมีปัญหา

จากการผ่าตัด 😀

ผลที่ออกมาเราแฮปปี้มาก แต่จะมีใครมีความสุขเท่าผู้หญิงที่ดีที่สุดคนนี้ละ

กิน ตะลอนเที่ยว ได้อยู่ดูแลลูก นานแล้วที่ไม่ได้ไปไหนกับแม่สองคน

STMSTYLE ดูแลดีมากจริงๆ เพราะเราจะปรึกษากันตลอด มันลำบากตรงภาษาเท่านั้นละ

ขั้นตอนที่ 9 สำนึกรักบ้านเกิด (กลับบ้าน)

ถึงวันต้องกลับซะแล้ว ลาพี่ปาร์ค พี่ที่คอยดูแลรับส่งซะหน่อย น่ารัก สุภาพ มีน้ำใจ

สุภาพบุรษลูกสอง เป็นผู้นำครอบครัวที่ดีมากน่ายกย่อง ดูแลอย่างดี ต้องของคุณพี่นิส(ล่าม)

พี่เจอุน(สาวสวยประจำรพ.ดูแลคนไข้ต่างชาติโดยเฉพาะคนไทย) ขอบคุณ STMSTYLE

มากค่ะ สำหรับการทำงานที่สนุก และ ชีวิตใหม่ที่เปลี่ยนไปตลอดกาล ขาดไม่ได้เลยคือ

คุณหมอที่ดีที่สุดที่ให้มาเปลี่ยนชีวิตเอิ๊ก :))))))) ใครบอกศัลยกรรมเจ็บบวม ไม่เป็นไรซักแอะ

แต่แย่สุดคือ แผลเป็นที่ต้องดูแลให้ไร้ร่องรอยที่สุด 365 วันก็จะรอ

คำแนะนำสำหรับเอิ๊ก : ในการศัลยกรรมทุกประเภทล้วนมีความเสี่ยงสูง ตั้งแต่ การเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเทคนิคต่างกัน สถานประกอบการ โครงสร้างภายนอกและโครงสร้างภายในร่างกายที่แตกต่างกัน สรีระ รวมถึงระบบภายในร่างกายของเราทีมีกระบวนการฟื้นฟูต่างกัน ความคาดหวังผลที่คิดกับผลที่ได้อาจจะตรงหรือไม่ตรงอาจต้องเผื่อใจรับผลที่ตามมา
 
การทำศัลยกรรมที่เกาหลีกับโรงพยาบาลในเครือของ STMSTYLE นอกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญขอใช้คำว่ามากเพราะคนนึงเรียนเยอะมากเหลือเกิน เรียกว่า ถ้าเรียนมาทางจมูกก็จะเก่งและทำแต่จมูกให้ดีที่สุดไปเลย จะเน้นออกแบบตามสรีระของเราเพียงหนึ่งเดียว รูปทรงที่ได้องศา หรือ รูปแบบที่เหมาะกับตัวเราจริงๆ ค่าศัลยกรรมเลยแพงมากตามประสบการณ์ เครื่องมือเทคโนโลยี ที่ทำให้บาดเจ็บน้อย ช่วยในออกแบบการศัลยกรรมให้เหมาะกับ ใบหน้าและรูปร่างของเรา รวมถึงเทคนิคพิเศษในการศัลยกรรมของแพทย์แต่ละท่านที่มีความแตกต่างกับแต่ละคน

บทความหน้าเจอกับ กับ ปฎิบัติการอัพดั้งโด่ง 

 

Posted in SURGERYComments (4)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites