Posted on 26 January 2016.
อีกแค่เพียง 1 ถาดการจัดฟันโปรแกรม i7 ที่มีเพียง 7 ถาดคู่จบของเอิ๊กก็จะเรียบร้อย
ขณะนี้เดินทางมาถึงถาดที่ 6 แล้ว ภาคแรกจัดฟันมีกี่ประเภท คลิก
เอิ๊กจัดฟันที่ SMILE BY ISKY
กับ ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมต นะคะ ^^
ซึ่งทำรีวิวขั้นตอนการเตรียมตัว การติดเครื่องมือ การเก็บรักษาเครื่องมือไว้แล้ว ภาคคลิป
เอาละใครโหลดคลิปไม่ไหวก็จะเป็นภาคบทความอีกที ณ วันนี้
INVISALIGN คือ อะไร
INVISALIGN มาจาก INVISIBLE การมองไม่เห็น + ALIGNER การเรียงฟัน [ คำสมาส ]
เป็นเครื่องมือการเรียงฟันแบบใสนั่นเอง โดยเครื่องมือแต่ละชุดที่ถูกคำนวณมาด้วยระบบ
คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะของ INVISALIGN เอง จะถูกออกแบบมาให้ไม่ตรงกับฟันทั้งหมด
โดยเหลือพื้นที่ไว้ให้ฟันค่อยๆเคลื่อน ประมาณ 0.25 มม. ในแต่ละครั้งของการเปลี่ยนถาดฟัน
ซึ่งเครื่องมือจะมีแรงบังคับฟันให้เคลื่อนที่ไปตามต้องการ
เกี่ยวกับแพทย์ที่ใช้การรักษาด้วยเครื่องมือ INVISALIGN
ส่วนใหญ่ทันตแพทย์ที่ทำ จะต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้มีรหัสในการประกอบการใช้เครื่องมือประเภทนี้ในการทำก่อน ทันตแพทย์ก็จะได้รับรหัสผ่านเข้าไปในระบบ INVISALIGN ทุกอย่างทำแล้วบันทึกเก็บในระบบ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นระบบ WORLD WIDE ครอบคลุมในระดับสากล เพราะทุกครั้งที่หน้าซองเครื่องมือของเราจะมีรายชื่อแพทย์ประจำตัวของเราระบุชัดเจน เราจะเห็นภาพได้ชัด เป็น3D เคลื่อนไหวได้สามารถปรับแก้ ตรวจงานก่อนที่จะยืนยันชิ้นงาน INVISALIGN ได้ ซึ่งทันตแพทย์ก็จะเปิดดูได้เสมอ ถึงระบบแต่ละขั้นตอนของคนไข้ ในการเปลี่ยนแปลงรูปฟัน เพราะเครื่องมือค่อนข้างมีราคาแพง ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาในการทำอย่างละเอียด ทุกอย่างจึงถูกทำผ่านระบบ ยังรวมถึงเวลาที่เครื่องมือ เสียหาย ทำให้ทันตแพทย์สามารถดูจุดที่เสียหาย แล้วสั่งชิ้นงานที่ต่อเนื่องกันมาให้อย่างโดยง่าย
การเตรียมตัวเพื่อจัดฟันแบบ INVISALIGN
- X-RAY ฟันเพื่อให้คุณหมอดูการสบฟัน และ วางแผนการรักษา
- พิมพ์ปากส่งไป LAB ต่างประเทศที่ออสเตรเลีย
- รอการตอบกลับมาจากทาง LAB โดยตรวจสอบผ่านทางโปรแกรมเฉพาะที่เรียก CLINCHECK
- แพทย์นัดเข้าไปพบเพื่อวางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้เพื่อกด APPROVE ทาง CLINCHECK ถ้าโอเค ถ้าไม่โอเคก็สามารถปรับจนกว่าจะพอใจก่อนกดยอมรับ
- ทาง LAB ส่งเครื่องมือถาดการรักษา INVISALIGN มาให้จนครบ
- แพทย์นัดเข้าไปทำความสะอาดหินปูน ตะไบฟัน และ ใส่เครื่องมือ พร้อมทั้งรับเครื่องมือกลับบ้าน
การ X-RAY เพื่อตรวจสอบทั้งฟันคุด และ การสบฟันที่ผิดปกติ โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญจะมีเครื่องมือวัด หรือ ประสบการณ์ในการดูการสบฟัน เพื่อวางแผนในระยะต่อไป
การพิมพ์ฟัน จำเป็นต้องพิมพ์ด้วยวัสดุพิเศษ เพราะเราต้องส่งไป LAB ต่างประเทศ วัสดุต้องคงทนและไม่เปลี่ยนแปลงรูปร่างในตลอดระยะเวลาการส่งไปเพื่อทำแบบจำลอง 3D ลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์เฉพาะของ INVISALIGN
โปรแกรม CLINCHECK เป็นโปรแกรมเฉพาะของ INVISALIGN จำลองรูปฟันเรามาเป็น 3D สามารถดูจากในวีดีโอด้านบนได้ ซึ่งเราสามารถหมุนได้ทุกด้านแบบ 360 องศา มันเป็นข้อดีที่ทำให้เราเห็นแบบแผนการรักษาของเราได้แบบทุกมุมมอง และ เห็นการคาดคะเนผลการรักษาได้เลย ซึ่งการจัดฟันแบบอื่นทำไม่ได้
การกด APPROVE ของเราในโปรแกรม CLINCHECK กดยอมรับปุ๊บ เครื่องเลเซอร์ที่ LAB ต่างประเทศจะทำการตัดชิ้น INVISALIGN ขึ้นมาเลย ดังนั้นต้องเป็นการตัดสินใจสุดท้ายก่อนจะกด APPROVE
เครื่องมือจะมาครบทั้งเซ็ท ทั้งนี้คุณหมออาจจะเก็บไว้ส่วนนึง เพื่อให้คนไข้ได้มีโอกาสกลับมาเช็คความเคลื่อนไหวของการเคลื่อนที่ฟันกับคุณหมอเป็นระยะๆแล้วแต่คุณหมอ แต่บางท่านอาจจะอาศัยอยู่ตปท. อันนั้นก็เป็นอีกกรณีที่คุณหมออาจจะให้ไปทุกชุด แต่ก็มีความเสี่ยงเผื่อเกิดปัญหาสูญหายเช่นกัน จากประสบการณ์ควรอย่างมาก เข้าไปทุกระยะ อย่างน้อยทุก 3 ถาด หรือ 3 ชุดเดือนครึ่งถึงสองเดือนก็ควรไปเช็คความเปลี่ยนแปลง เครื่องมือจะมาอยู่ในซองซิปลอคเป็นชุดๆ
ความพิเศษส่วนใหญ่ของการทำ INVISALIGN คุณหมอจะชอบให้ตะไบฟัน เพื่อให้เกิดช่องว่างในการเคลื่อนฟัน ๆ จะได้สวยๆ ซึ่งเราจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ตอนที่เราพิมพ์ฟันส่งไป LAB พอ LAB ทำแบบจำลองฟันเราแบบ 3D เราจะเห็นเลยว่าฟันแต่ละซี่ของเรามีขนาดเท่าไหร่ และเอิ๊กก็ไม่รู้มาก่อนเลยฟันของเอิ๊ก 2 ด้านมีขนาดไม่เท่ากัน ดังนั้นการวางแผนการตะไบฟันจะทำได้แม่นยำ และ เหมาะสมมากขึ้น เช่นซี่ไหนด้านไหนใหญ่กว่าก็ตะไบฟันออกเน้นเยอะหน่อย แต่ตอนตะไบฟันตอนแรก ใจหายมาก ลองดูภาพเอา อยู่ๆดีๆฟันหน้าก็ห่างเป็นนางแบบเลย 5555555 ใจเสียมาก ตะไบไม่เยอะนะ 0.++ มิลลิเมตร เท่าไหร่ขึ้นกับโปรแกรมคำนวณออกมา
คร่าวๆจะนัดคุณหมอประมาณ 2-3 รอบ ถ้าปกติก็ 2 รอบก็ได้ใส่เครื่องมือแล้ว
INVISALIGN เห็นอนาคตฟันที่จัดเสร็จแล้วได้
อย่างที่บอกมันเป็นโปรแกรมที่หมุนได้รอบทิศ 360 องศา นี่เอาด้านหน้าชิ้นแรก
จนชิ้นสุดท้ายมาให้ดู ด้านหน้าอาจจะเห็นไม่ชัดมาก แต่ด้านข้างจะชัดมาก
หลักการเคลื่อนฟัน INVISALIGN
- ตัวชิ้นงานเองที่ถูกปรับระดับมาให้ฟันค่อยๆเคลื่อนที่ไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสวยงาม การเคลื่อนที่จะถูกปรับประมาณ 0.25 มิลลิเมตร ไม่เกินนี้ เป็นมาตรฐานที่ปลอดภัยต่อรากฟัน และมีเจ้า
- ATTACHMENTS ช่วยในการบิด ดึง ลอค ปรับตัวฟัน ให้ทั้งยาวขึ้น สั้นขึ้น บิดซ้าย บิดขวา หมุนไปข้างหน้า หมุนมาข้างหลังจะเป็นอุปกรณ์ที่ติดบนผิวฟันและทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้ จะออกแบบโดย SOFTWARE หรือ อาจจะเป็นทันตแพทย์เองทำการออกแบบว่าจะติดจุดใดบ้าง ซึ่งถ้าเราไม่มั่นใจ ทำงานที่ต้องพบเจอผู้คน ก็อาจจะส่งการร้องขอในการไม่ติด แต่ทางระบบก็อาจจะตอบกลับมาว่า ถ้าไม่ติด ผลการรักษาก็อาจจะไม่เต็มร้อย ซึ่งอยู่ที่เราแล้วว่าเรารับได้แค่ไหน
- ยาง ก็มีบางกรณีที่ใช้สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องการสบฟันเช่นกัน เช่น คางยื่นออกมาข้างหน้า ช่วยการเคลื่อนขากรรไกร ช่วยการเคลื่อนฟันโดยตรง
- ฝังสกรูตัวเล็กจิ๋วลงไปตรงจุดแถวกระดูกบริเวณเหงือกด้านใน เพื่อต้องการดึงฟันให้เคลื่อนแค่ฟันซี่นั้นๆ ไม่ให้กระทบซี่อื่น หรือ อยู่ในตำแหน่งเดียวที่เราต้องการให้เคลื่อน จะใช้ปักลงไปที่เหงือก และ เกี่ยวสปริง หรือ ยาง เพื่อเคลื่อนฟัน หรือ ใช้ขยับฟันกรามให้มาข้างหน้า
- การตะไบ ทำให้ฟันหดตัวด้านข้าง หรือ สั้นลง เพื่อให้เกิดการสมมาตร การตะไบก็เป็นอุปกรณ์ที่ออกมาพิเศษ ว่าจะไม่บาดเนื้อเยื่อส่วนอื่นในปากของเรา นอกจากมีผลโดยตรงกับฟันเท่านั้น วางใจได้
ในรูปติด ATTACHMENTS อยู่ด้านหน้าเลย ก็ถ้ามาจ้องใกล้ๆก็จะเห็น 😀
การตรวจสอบแผนการรักษา INVISALIGN
จะถูกเปิดขึ้นในการปรับฟันระบบ CLINCHECK สิ่งที่คำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ในระบบอาจทำให้เกิดขึ้นในปากไม่ได้ตรงกัน 100% ก็อาจเป็นได้ เนื่องจากเป็นการคำนวณระบบ และ ด้วยคอมพิวเตอร์ระบบจะบอกเราเลยตั้งแต่ต้นจนจบว่า จุดไหนปรับได้ จุดไหนปรับไม่ได้ จะขึ้นเป็นสีดำมาให้ดูว่าแบบลักษณะนั้นปรับไม่ได้ จึงต้องเป็นทักษะของแพทย์ในการปรับซี่อื่น มุมอื่นดูก่อน และ ทันตแพทย์โดยส่วนตัวเห็นควรจะต้องอยู่ในวงการทันต์กรรมจัดฟันมาพอสมควรที่จะออกแบบวางแผนให้ออกมาสมดุลสวยงามที่สุดเพราะเป็นเรื่องของศาสตร์และศิลป์ ระบบค่อนข้างอัจฉริยะพอสมควร คำนวณมาอย่างละเอียดให้เสร็จ
อุปกรณ์ที่เราจะได้ในการจัดฟัน INVISALIGN
- INVISALIGN แต่ละชุดซึ่งตรงตามที่ทันตกรรมและเราร่วมกันออกแบบไว้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
- ใบที่ระบุตำแหน่งจุดที่มีอุปกรณ์พิเศษบนฟันของเรา เช่น ตำแหน่งATTACHMENT
- กล่องเก็บ INVISALIGN
- คู่มือ INVISALIGN
REVIEW INVISALIGN สำหรับ INVISALIGN i7
ในการใส่ 6 ถาดที่ผ่านมา ใกล้จะจบแล้ว
1. เปลี่ยนตัวเองต้องเป็นคนสะอาดมากๆๆๆ กว่าเดิมหลายเท่ามาก ทานข้าวถอด ก็ต้องคอยแปรงฟันทุกครั้งที่ทาน
2. ในหนึ่งวันคุณมีเวลาแค่ 2 ชม ในการทาน เพราะถ้าใส่ไม่ครบ 22 ชม.เท่ากับคุณเสียเงินฟรี ok ปะ !
ณ วันนี้เข้าใจเหตุผลพี่หมอท่านนึงทำไมท่านไม่ถอด INVISALIGN เวลาทานอาหาร ใส่แล้วทานไปด้วย เพราะท่านชอบทานอาหาร ท่านก็ทานทั้งแบบนั้น ตอนนี้ก็ดำเนินรอยตามเรียบร้อย
3. ปวดฟันประมาณ 2-3 วันแรกที่ใส่ทุกครั้งที่เปลี่ยนถาดใหม่ ทำให้อารมณ์วันนั้นปั่นป่วนมาก การปวดฟันเป็นอะไรที่ทรมาน
4. ยิ้มแบบไกลๆมั่นใจ ยิ้มใกล้ๆก็มีแอบเขิล ATTACHMENTS ด้านหน้าฟันที่ติดอยู่เหมือนกัน
5.ลิปสติกเลอะขอบ INVISALIGN ง่ายมาก ถ้าทาสีสดนะแดงเทือกเลยคับ ต้องเปลี่ยนมาใช้เนื้อแมทแล้วซับให้แห้ง
6.เวลาแปรงฟันที่ใช้เวลานานขึ้น แปรงฟันตัวเอง ก็ต้องแปรง INVISALIGN ต้องขยันขัด 55
7. ต้องอดทนอะ เป็นอะไรที่ต้องวินัยแน่น และอนามัยยิ่ง
8. ฟันค่อยๆเข้ามา และ เราสามารถเช็คความเปลี่ยนแปลงว่าฟันเข้าที่รึยังได้ตลอด รู้สึกว่าการเคลื่อนที่นุ่มนวลมาก
9. ผลการรักษาในโปรแกรม CLINCHECK กับ ของจริงมีคลาดเคลื่อนบ้าง นี่เป็นเหตุผลที่ต้องพบแพทย์ทุกระยะ เพื่อหาวิธีวางแผนการจัดการขั้นต่อไป ของเอิ๊กฟันล่างเอียงเล็กน้อย ดังนั้นแนะนำใครถึงจะเก ต้องเกนิดเดียวจริงๆสำหรับ i7 เพิ่มเงินอีกนิดขยับ INVISALIGN LITE 14 ชิ้นดีกว่า เพื่อความไม่ประมาท จะได้ไม่เสียเงินปรับสองรอบ
10. ควรนึกไว้เสมอว่า การจัดฟันทุกฟันทุกแบบมันคือการเริ่มต้น ยังต้องใส่ รีเทนเนอร์อีกตลอดไปนะ ท่องไว้ อย่าให้เสียเงินฟรี
INVISALIGN กับ CLEAR ALIGNER ต่างกันยังไง
เอาภาพ INVISALIGN กับ cleAr aligner ที่ราคาต่างกันราวฟ้ากับดิน คือ มีประสบการณ์ผ่านมาทั้งสองแบบต่างกันไงบ้าง
1. การจัดฟันแบบเห็นอนาคตตอนนี้ที่วิเคราะห์ให้เห็นและใกล้เคียงที่สุดมีเพียงอย่างเดียวคือ INVISALIGN ด้วยเทคโนโลยีจากคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เราจะมีสิทธิ์เห็นตั้งแต่กระบวนการวางแผนจัดจนจบ ส่วนclear aligner ไม่มี
2. ความละเอียด วัสดุ ชิ้นงาน INVISALIGN วัดกันเป็นระดับมิลลิเมตร วัสดุเป็นเลเยอร์ค่อยๆหล่อเรียงตัวสไลด์ตามรูปฟันตัดขอบแนบสนิท clear aligner วัสดุจะเป็นเรียบๆไปกับหน้าฟันไม่ตัดขอบ การถอดINVISALIGNกระชับแน่นมาก แต่clear aligner ถอดง่ายกว่ามาก
3. INVISALIGN ชิ้นงานถูกสั่งผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แม่นยำผลิตจากต่างประเทศกลับมา clear alignerวัดด้วยตาและทำมือจากมนุษย์
4. การเคลื่อนตัวของฟัน การดึงฟันขึ้นลง ขยับ INVISALIGN ทำได้ดีทุกมิติ clear aligner ทำไม่ได้ทุกมิติ
5. ถ้าไม่เป็นไปตามวางแผน INVISALIGN LITE ทำซ้ำเพื่อแก้ไขให้ตรงกับแผนการรักษาได้ 1 ครั้ง และ FULL แก้ได้ 3ครั้ง ครบวงจรตั้งแต่ต้นใหม่ ไม่เสียเงิน แต่ clear aligner ถ้าจะแก้เสียเงินใหม่นะ
ส่วนความเป๊ะหลังจัดเดี๋ยวมาเล่าอีกที !
ข้อดีของ INVISALIGN
คนที่ไม่ต้องการให้ใครเห็นว่าจัดฟัน รวมถึงอาชีพจำเป็นหลายอาชีพที่ห้ามมีเหล็กจัดฟัน
สามารถคงฟันบางซี่ที่ไม่ต้องการให้ขยับได้ พูดง่ายๆ
เลือกขยับเฉพาะบางซี่ที่มีปัญหาได้ ด้วยระบบคำสั่งแบบคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีขั้นสูง HI-SO ละเอียด แม่นยำ ระดับมิลลิเมตร ทุกอย่างคอมพิวเตอร์หมด
ถ้าหาย หัก พัง ก็ยังใส่อันเก่า และ สั่งทำอันใหม่ต่อได้ ไม่ต้องเริ่มจัดใหม่หมด
ข้อด้อย
แพงกว่าจัดฟันปกติ 4 เท่าขึ้นไป
ต้องใช้วินัย ไม่ควรหาย หัก พัง กลางทาง แต่ถ้าพังก็ใส่อันเก่าไปก่อน
ต้องขยันรักษาความสะอาด ด้วยความที่มันเป็นที่ครอบเราอาจไม่มั่นใจในอนามัย
ข้อดี – ข้อด้อยจะมาอัพเดทอีกที ภาคจบ
INVISALIGN มี 3 ประเภท
INVISALIGN i7 (จะแก้ไขฟันกรามไม่ได้เลย) และ แก้ไขครั้งใหม่ไม่ได้
INVISALIGN LITE (แก้ไขฟันกรามได้)(ถ้าไม่พอใจสั่งทำฟรีใหม่อีก1รอบได้)
INVISALIGN FULL (แก้ไขฟันกรามได้)(ถ้าไม่พอใจสั่งทำฟรีใหม่อีก3รอบได้)
ราคา INVISALIGN
ขึ้นกับสถานประกอบการ
INVISALIGN มี 3 ประเภทขึ้นกับความยากง่ายของปัญหาฟัน
1. INVISALIGN i7 = 7 ชิ้นจบ ราคา 120,000บาท
2. INVISALIGN lite = 14 ชิ้นจบ ราคา 140,000บาท
3. INVISALIGN FULL = จะกี่ชิ้นขึ้นกับปัญหาฟันคนไข้ ราคา 180,000บาท
ก็แล้วแต่ที่ว่าต้องจ่ายครบทีเดียวไหมหรือใครมีบัตรที่ผ่อน0% 6-10เดือนได้
** ราคานี้ไม่รวมรีเทนเนอร์ ซึ่งเราก็เลือกทำได้ทั้งแบบรีเทนเนอร์เหล็ก หรือ แบบใส
เอิ๊กจัดแบบง่ายสุดเพราะฟันมีปัญหาไม่มาก
แค่คนจัดฟันเสร็จแต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์และไม่เกเท่าไหร่
เอาล่ะ รอบหน้าเราจะมากับภาคจบว่าเราจะไปต่อ [ จัดเพิ่มไหม ] หรือ จบ
รอทำรีเทนเนอร์เลยมาลุ้นกัน รู้แค่ว่าต้องสวยมาก
ยังมีภาคต่อฟันที่บิ่น และ ฟอกฟันขาวอีกนะ
ต้องสวยอะ ย้ำอีกที 55555 สตรอง !!!!
