ขอขึ้นหัวด้วยความรักก่อนเลย ไม่ว่าจุดด่างดำ ของทุกคนจะมาจากสาเหตุไหน ?
ปัญหาเรื่องผิวคล้ำเสียสะสม จนผุดมาเป็น กระ ฝ้า จุดด่างดำนั้นสาเหตุหลักมาจากแสงยูวี
ที่เก็บสะสมสร้างเม็ดสีเข้มมาเป็นระยะเวลานานจนเกิดปรากฏบนผิวให้เห็น
ขอร้องให้ใครที่อยากดูแลตัวเอง รักผิวตัวเอง ” อย่าละเลยกันแดดค่ะ “
ปัญหาสำคัญในแฟนเพจของเอิ๊ก erk-erk.com อย่างหนึ่งที่พบบ่อย
นั่นคือคำถามที่ว่า ” จุดด่างดำรักษายังไง? “
เรามารู้สาเหตุการเกิดจุดด่างดำกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
1. จุดด่างดำที่ทิ้งไว้หลังหายจากการเป็นสิว
2. จุดด่างดำที่ผุดขึ้นหลังจากเผชิญกับแสงUV
3. จุดด่างดำที่เกิดเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะมาในรูปแบบของ กระ ฝ้า
4. จุดด่างดำที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
5. จุดด่างดำที่เกิดหลังจากการเป็นแผล การติดเชื้อ อาการระคายเคือง
6. จุดด่างดำที่เกิดจากกรรมพันธุ์
แดดเมืองไทยแรงไม่แพ้ชาติใดในโลกสำคัญสุดเลี่ยงการประทะรังสียูวีโดยตรง
การเปลี่ยนแปลงของสีผิว และ จุดด่างดำ จึงเกิดได้ง่าย ด้วยหน้าร้อนที่แทบจะแฝงอยู่ทุกฤดู
ผิวสีไหนมีความเสี่ยงการเกิดจุดด่างดำเป็นอย่างไรบ้าง ?
ผิวสีเข้ม [ผิวสองสี ผิวน้ำผึ้ง ผิวหมึก ] = มีเม็ดสีเมลานินชนิดเข้มสีน้ำตาลดำเยอะ การเกิดจุดด่างดำ หรือ เวลาเป็นแผล อาทิ โดนยุงกัด จะทิ้งร่อยรอยดำได้นาน ชัด กว่า โอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังน้อยกว่า
ผิวสีอ่อน [ผิวขาว ผิวเหลือง ผิวน้ำตาลอ่อน] = มีเม็ดสีเมลานินชนิดสีแดง-น้ำตาลเยอะ เวลาโดนแดดผิวจะไวแสงกว่า และเวลาเป็นจุดแดง จุดดำ เป็นแผล เป็นรอยอะไรนิดหน่อยจะเห็นชัดมาก โอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังมากกว่าหากถูกแสงแดดเป็นเวลานานประจำ
การเกิดจุดด่างดำนั้น หรือแพทย์ผิวหนังมักเรียกติดว่าการเกิด
Hyperpigmentation คือ (การผิดปกติของการสร้างเม็ดสี)
การเพิ่มของการผลิตเม็ดสีเข้มเฉพาะจุด
มีไปตั้งแต่ยั้งยับการสร้างเม็ดสี การผลัดเซลล์ผิว หรือ
การใช้ร่วมกัน ฯลฯ หากแต่จะรักษาได้100%หรือไม่นั้น
อยู่กับระยะเวลาการสะสมเม็ดสีเข้มใต้ผิวหนัง
รวมกับการหลีกเลี่ยงแสงแดดในชีวิตประจำวัน
สำหรับสาเหตุที่เกิดจากกรรมพันธุ์
อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายซึ่งเป็นสาเหตุเดียว
ที่รักษาไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องยีน
ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
วิธีการลด และ รักษาจุดด่างดำ
1. กรดผลไม้ผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใหม่ :
อาจจะใช้กรดผลไม้จากผลไม้ธรรมชาติมาทำทรีทเมนท์ เช่น กรดผลไม้จากมะนาว
หรือ ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกที่มีจุดด่างดำค่อยๆ
ผลัดเซลล์ผิวออกให้จุดด่างดำดูจางลง ผิวดูกระจ่างขึ้น
2. ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมยับยั้งการสร้างเม็ดสี หรือ สาร Anti Oxidant :
อาทิ VIT C / ARBUTIN / KOJIC ACID / LICORICE EXTRACT / AZELAIC ACID ฯลฯ
จุดด่างดำจะดูจางลง สีผิวจะดูผ่องขึ้น เนื่องจากไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินสีเข้ม
3.ฉายแสง LED สีเขียว และ สีเหลือง :
ทำให้เม็ดสีเมลานินมีสีที่อ่อนลง จุดด่างดำจะจางลง
4. การตั้งครรภ์ หรือ การใช้ยาคุมกำเนิด :
ควรใช้อย่างระมัดระวัง ยาคุมกำเนิด หรือ แม้แต่ยาบางประเภทก่อนใช้ควรศึกษาข้อมูลอย่างดี
เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และทำให้เกิดจุดด่างดำขนาดใหญ่
หรือเป็นฝ้าได้ อาจจะหายไปเองหลังคลอด หรือ หยุดรับประทานยาทุกชนิดที่ทำให้เกิดฝ้า
5. ทานอาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระ :
เช่น รับประทานวิตามินซี เพราะเวลาร่างกายเกิดอนุมูลอิสระ เช่น อาจจะมาจากความเครียด
ก็จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีให้เข้มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จุดด่างดำอาจเห็นชัดขึ้น
ฝ้าเข้มขึ้น การรับประทานวิตามิน ซี ก็อาจจะทำให้ฝ้าเจือจางลงได้
6. ยิงแสง IPL :
ความเข้มแสง IPL ที่ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง พอเหมาะ จะเห็นผลดีกับจุดด่างดำ
ที่เกิดขึ้นใหม่ และ ควรทำโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเท่านั้น
เพื่อป้องกันการไหม้ ส่วนคนผิวสีเข้มควรศึกษาหาข้อมูลหรือปรึกษาแพทย์ก่อน
BEAUTY TIP
รักษาจุดด่างดำให้ได้ผลดียิ่งขึ้นหากมีตัวยาสำหรับแต้มจุดด่างดำโดยเฉพาะ
ใช้นิ้วมือที่มีน้ำหนักเบาที่สุดนวดคลึงให้ยาซึมทุกครั้ง
ใช้พลากเตอร์กระดาษที่ใช้ปิดแผลปิดทับหลังจากลงตัวแต้มจุดด่างดำ
จะป้องกันยาซึมออก และ เลอะหมอน
การมีผิวสุขภาพดีไม่มี สิว ริ้วรอย จุดแดง จุดดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
เป็นลาภอันประเสริฐยิ่งนัก
แต่ยากยิ่งนักเช่นกัน แต่คนอย่างเราไม่ยอมแพ้ 5555
จุดด่างดำเป็นอะไรที่รักษายาก ต้องใช้เวลา ก่อนใช้อะไรอย่าลืมดูว่าเหมาะกับผิวตัวเอง ?
สำคัญอย่าลืมทากันแดด เป็นสิวก็อย่าไปแคะแกะเกา เป็นแผลก็อย่าไปแกะสะเก็ดเล่น
โชคดีที่จุดด่างดำเอิ๊กหายไวกว่าสีแดง 5555555555 ปล่อยทิ้งไว้มันก็ไปของมันเอง
แต่เอิ๊กมีฝ้าเพราะผิวสะสมจนเกิดมาช่วงตอนอายุ 25 ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
ก็รักษากันต่อไป ขอให้ผิวสวยหน้าใส ไร้จุดด่างดำกันทุกคนค่ะ
XOXO
คอนเทนต์นี้เอิ๊กเขียนเอง จากการได้คลุกคลีกับคุณหมอผิวหนังหลายท่าน ประสบการณ์
จากหนังสือดีดีหลายเล่ม จากบางเว็บ ตั้งใจเขียนให้อ่านกับ และ
ขอบพระคุณสปอนเซอร์เนื้อหานี้ด้วยค่ะ
ในฐานะที่ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ไปถึงบริษัทแม่ที่เยอรมัน ได้เข้าไปในห้องแล็บได้เจอนักวิจัยของEUCERINต้องขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา 1ในแพทย์ผิวหนังและเป็นทั้งนักวิจัย ให้กับบางผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ ได้แนะนำให้เอิ๊กได้รู้จักและกลายมาเป็นคนนึง ที่ได้มีโอกาสทำงานให้แบรนด์นี้หลายชิ้น
แบรนด์นี้ไม่ใช่แค่เคลมแรง แต่ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ทำผ่านงานวิจัยที่ทำได้จริง และใช้เวลานานขั้นต่ำ3ปีขึ้นไป จนถึง 10 ปี บางตัวนำกลับมาพัฒนาต่อเนื่องอีกก็มี ทุกตัวบนพื้นฐานของความปลอดภัยอย่างสูงสุด และมีการเพาะเซลล์มนุษย์เพื่อทดสอบส่วนผสมต่างๆโดยเฉพาะ ไม่ใช่ทดลองกับพืชแล้วบอกว่าได้ผล
วันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับงาน SYMPOSIUM คุยกันด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสารที่ดีที่สุด ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสและปลอดภัยที่สุด ในโลกตอนนี้นั้นคือสาร “THIAMIDOL”(ไทอามิดอล) ที่จะมาอยู่ในสูตร #EucerinUltraWHITEspotless
และคนที่พูดถึงข้อมูลในวันนี้คือ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง 2 ท่าน 1.รศ.พิเศษ ดร.พญ.รัชต์ธร ปัญจประทีป (คุณหมอโบนัสรู้จักเป็นการส่วนตัวเป็นนักวิจัยที่เก่งมาก ถ่ายภาพเป๊ะมากเวลาเก็บภาพคนไข้เพื่อรอผลลัพธ์ เป็นคนที่ได้รางวัลเกี่ยวกับการรักษาผมร่วงผมบาง จากพันธุกรรมอันดับหนึ่งของโลกด้วย เป็นคุณหมอที่ปลูกผมให้เอิ๊กเอง)
และ 2. นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การแพทย์ท่านนี้ก็เก่งมากเช่นกัน
สรุป ปัจจัยที่ทำให้ไม่ขาว 1.ปัจจัยภายในเช่น อายุ พันธุกรรม 2.ปัจจัยภายนอกเช่น แสงแดด การแพ้เครื่องสำอาง เม็ดสีผิดปกติหรือรอยดำที่ทุกสภาพผิวต้องเจอ จะมาตอนไหนบ้าง ? กระ มาตั้งแต่เด็กๆ รอยสิว จุดด่างดำ มาตั้งแต่วัยรุ่น ฝ้า มาตอน30ขึ้นไป (ฝ้าบางคนมาเร็วกว่านั้นถ้ามีพันธุกรรมเกี่ยวกับเม็ดสี เอิ๊กเป็นหนึ่งในนั้นเริ่มเห็นตอน20กว่าๆ แต่กระ มาตอนเด็กเลย)
สั้นๆรอยหมองคล้ำ เมลานินสีเข้ม ส่วนหนึ่งเกิดจากเอนไซม์ไทโรซิเนส(Tyrosinase) ถ้าเรามีเอนไซม์ชนิดนี้เยอะจะทำให้เมลานินสีเข้ม(Eumelanin)เยอะไปด้วย ผิวจึงหมองคล้ำยิ่งขึ้น สารTHIAMIDOLใน Eucerin ทำหน้าที่ไปบล็อคไทโรสิเนสไม่ให้สร้างเม็ดสี
สาร THIAMIDOL ได้ลงงานวิจัย JID ที่มีความน่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงมาก เป็นอันดับ2ของโลกลงได้ยากมาก ทุกคนในโลก สามารถหาการวิจัยที่ประสบความสำเร็จชิ้นนี้ได้ สารนี้ถูกคิดค้นจาก 50,000 สารที่ทำให้ผิวขาว สำหรับการทดสอบที่เมืองนอกจะเทียบกับ ARBUTIN, KOJIC ,BUTYLRESORCINOL ตัวสุดท้ายซึ่งเป็นสารที่ใช้ในEUCERINกลุ่มความขาวรุ่นก่อน ซึ่งสารTHIAMIDOLดีกว่าทุกสารดีกว่ารุ่นก่อน 10 เท่า
และเมืองไทยก็มีงานวิจัยครั้งแรกสำหรับสารTHIAMIDOLโดยคุณหมอโบนัสเป็นนักวิจัย ทำที่จุฬาฯทดสอบโดยผู้หญิง 23 คน แบ่งหน้าเป็นสองฝั่งๆหนึ่งใช้แต่ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมจาก THIAMIDOL อีกข้างสู้กับ ARBUTIN 4% และจุดด่างดำคือ HYDROQUINONE 2%
HYDROQUINONEใช้กลางคืนเท่านั้น (ไม่ควรใช้นาน ถ้าใช้ตอนเช้า หน้าจะแดง บางทีคล้ำดำ ใช้นานสะสม จะแก้ปัญหายาก)
ผลคือตั้งแต่2สัปดาห์แรกEUCERINดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด และที่เหนือกว่าคือความชุ่มชื้นผิวที่เพิ่มมากขึ้น (ความชุ่มชื้นมีผลทำให้เม็ดสีดำหรือรอยด่างดำจุดด่างดำจางไวกว่า เมื่อมีความชุ่มชื้นเข้ามาดูแลผิวด้วย) สำคัญที่สุดความปลอดภัยไม่พบคนแพ้หรือระคายเคือง
ผลิตภัณฑ์มีทั้งหมดมี4ตัว Day cream/Night cream /Spot corrector/Serum ในรุ่น #EucerinUltraWHITEspotless
แนะนำถ้าจะเริ่มลองตัวแรก คือ Double Booster Serum จะมี2หัวเนื้อเจลกับเนื้อครีม เนื้อเจลคือHYALURONบริสุทธิ์โมเลกุลเล็กกับใหญ่ เพื่อความชุ่มชื้นและซึมได้ลึก ส่วนเนื้อครีมมีส่วนผสมของสาร THIAMIDOL
วันนี้ขอจบการรายงานจากการประชุมวิชาการเพียงเท่านี้ 555555 ความจริงรู้อยู่แล้วรายละเอียดสำหรับสารตัวนี้และเสียเงินซื้อใช้มาก่อนแล้ว เพราะคนนี้เลยคนเดียวต้องให้เครดิตบล็อกของพี่ปูเป้ @pupesosweet ละเอียดมาก ใครอยากอ่านเพิ่มเติมเชิญค่ะ ♥️🙏🏻 #ไม่ได้อยากขาวแต่ไม่ชอบกระฝ้าและรอยสิว #ถ้าคุณมีปัญหานี้เหมือนกันเราคือเพื่อนกัน 55 #เอาจริงต้องซื้อแล้วไหมอ่ะ #จะบอกว่าเคยลองแล้วแต่จะเล่าให้ฟังครั้งต่อไป #EucerinUltraWHITEspotless #ซีรั่ม2เด้ง
