Archive | TRAVEL

DIARY – erk-erk เที่ยวเยอรมันบ้านเกิดEucerin Il

ภาค 1 เยี่ยมบ้าน EUCERIN

ภาค 2 เยี่ยมศูนย์วิจัย EUCERIN

ภาค 3 เยี่ยมสถาบัน EUCERIN

ภาค 4 เที่ยวเยอรมันกับ EUCERIN วันที่1 วันที่2

กลับมากับภาค 5 เที่ยวเยอรมันกับ EUCERIN วันที่3 วันที่4

วันนึงไปหลายที่มาก มากจนหิวตลอด EUCERIN น่ารักคืออยากให้ทุกคน

ได้ชมสถานที่สำคัญ สวยๆเต็มที่ๆประเทศบ้านเกิดของเขา คือ เดี๋ยวลงๆเดี๋ยวลง

วันนี้เป็นลุคแซนตี้ จัดผ้าพันคอเขียว เสื้อแดง ลองจอนเหลือง 555555

ซึ่งเมืองไทยไม่กล้าแต่งค่ะ

เอาล่ะ เริ่มกันที่แรก “BERLIN WALL” เป็นอีกสถานที่สำคัญก่อนการรวม

ร่างระหว่างเยอรมันตะวันออก เยอรมันตะวันตก แต่คาดว่าโดนเพนท์จนดู

บังเกิดความสดใสไปเรียบร้อยแล้ว

SOCIALCAM กำแพงเบอร์ลิน CLICK ที่ภาพค่ะ

ที่ที่สอง PERGAMON MUSEUM อีกสถานที่ประวัติศาสตร์

ที่สำคัญโดยคงโครงสร้างเดิมไว้ยาวนานแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง คงเดิมประมาณ 60%

สวยมาก อารยธรรมมากมาก ใครชอบประวัติศาสตร์เยอรมันอย่าพลาดที่นี่

สวยมากมุมนี้ 🙂 วันนี้คนเยอะมาก สงสัยเยอะทุกวัน มีเด็กมาทัศนศึกษาเต็มเลย

คนไทยก็เยอะค่ะที่นี่

รูปปั้น กำแพง ดูขลังมาก ถ่ายไป ถ่ายไปก็มีแอบหลอนนิดนึง …

SOCIALCAM เพอกามอน มิวเซียม CLICK ที่ภาพค่ะ

วันนี้อากาศเย็นจัดลองจอนสองชั้นตัวกลมดิ๊กเลย

และแล้วเวลารอคอยก็มาถึงทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารไทย ชะช่ะช่า

หิวมากถ่ายมาแค่ไอติมมะม่วงอะ อร่อยมากกกกกกกกกกก

ข้าวผัดกระเพราะ ไข่เจียวร้อนๆ ผัดผัก ยำ โอยยยยยยยย ลืมกดชัตเตอร์เลย 55

วันนี้เราจะได้เดินทางไปบ้านเกิด EUCERIN ซะที นั่นคือเมือง Hamburg

ด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง เร็วแค่ไหน 555555555 ต้องคอยชม

SOCIALCAM สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเบอร์ลิน CLICK ที่ภาพค่ะ

บรรยากาศในสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง BERLIN

SOCIALCAM บนรถไฟฟ้าเบอร์ลิน มันเร็วยังไง ? CLICK ที่ภาพค่ะ

ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง Hamburg ดีใจมาก และก็นั่งรถบัสไปที่พักคืนนี้ อิอิ

วิวรอบๆ เมืองนี้ค่อนข้างดูทันสมัยพอๆ กับ BERLIN แหล่งชอปปิ้งแบรนด์เนม ลึ่ม!!

ลึ่ม = มาก

และแล้วคืนนี้เราได้นอนพักที่ MARIOTT HAMBRUG เข้าไปโทนแดงขาว

สีประจำแบรนด์ EUCERIN เลย มีการ์ดเชิญเข้างานอีเวนท์วันต่อไปเรียบร้อย

SOCIALCAM เข้าพัก MARIOTT CLICK ทีภาพค่ะ

เวลารอคอยก็มาถึงอีกครั้ง กับอาหารค่ำ อิอิ วันนี้ลุย ขาหมูเยอรมัน

ออเดิฟ ขนมปังก่อนเลยระหว่างรอ และ เอิ๊กสั่งนมหวานทุกมื้อ ฮ่าๆ เด็กติดนมหวาน

อร่อยทุกอย่าง ขนมหวาน สลัด ซุป แต่ สิ่งที่รอคอยรสชาติแบบไม่ไหว

ขาหมูใหญ่มาก เขาสั่งเสริฟคนละขาเลย แต่รสชาติคนไทยทานไม่ได้เลย เค็มมาก

หนังแข็ง เอามีดฟันไม่เข้า 555555555555 ฟันก็แทบจะหักเลย

กลับห้องนอนหลับฝันดีเลยอดทาน >< ของคนไทยชนะเลิศค่ะ 55555

เช้าวันที่ 4 วันนี้ต้องเข้า LAB EUCERIN ขอแต่ง BUSINESS CASUAL จัดเลยสูท

เรียบร้อยยยยยยยยย 🙂 และ เมื่อออกเดินทาง คือ ท่องเที่ยวจริงๆ วันนี้เริ่มต้นที่

ไปชมเมือง HAMBURG แบบ 360 องศา เห็นเมืองจากหอคอย

แค่ทางเข้า สถาปัตยกรรมเขาสวยงามมาก เคลิ้มทุกที่ มันดูอบอุ่น

ฟิตร่างมาพร้อมจะขึ้นดอย เอ้ย หอคอย อยากชมความสวยงามของเมือง

บรรยากาศบนหอคอยแบบ 360 องศาเห็น HAMBURG ทุกมุม คือ เหมือนเมืองจำลองเลย

บ้านเมืองเขาสวยจริง สะอาด สดใส เหมือนอยู่ในหนังสือนิยาย ทุกมุม !!!!!!

ถามว่าอยากอยู่ไหม ตอบเลยว่าไม่ !!! 55555 ฉันรักเมืองไทยค่ะ

SOCIALCAM ขึ้นหอคอยชมเมืองฮัมบรูก CLICK ที่ภาพค่ะ

เสร็จแล้วเข้าโบสถ์เซนต์ไมเคิลกันต่อ ไปสารภาพบาป 555555555

โบสถ์ สวย อลังการ สีในฝัน ชอบ สงบ ร่มเย็น แต่คนก็ต่างมาต่างไป

เมื่อสารภาพบาปเสร็จแล้ว ว่าทำยังไงความอยากสวยจะน้อยลง

อยากสวยมากแล้วเดือดร้อนตัวเอง 5555 อิอิ ล้อเล่นนะ หลังจากตอนเช้าเดินกันซักพัก

ก็ทานอาหาร มาแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยจริงๆ เดินแต่ละจุดพลังงานใช้มาก

มากจนลืมถ่ายรูปอาหาร 555 วันนี้รับทาน อาหารจีนร้าน GOLDEN 

พออิ่มแล้วเราก็อารมณ์ดี 555 หน้าชื่นตาบาน จะไปไหน ไปกัน

และแล้วเราก็จะไปล่องเรือชม HAMBURGไปชมเมืองกันทางน้ำบ้าง

คาดว่าถ้ามีเฮลิคอปเตอร์ EUCERIN ก็คงพาขึ้นไปชมอีกแน่แท้

SOCIALCAM ล่องเรือชมเมืองฮัมบรูก CLICK ที่ภาพค่ะ

แอบถ่ายคู่คุณซอนย่า กับ ฝามี จะบอกว่าเขาสวีทมาก น่ารักมากๆคู่นี้ หวานหยด

ลงเรือสีเหลืองแดดเรืองรองกันไป ชมวิวจ๊า

บรรยากาศน้ำใส หาขณะไม่เจอเลย บ้านเมืองเขาโทนสีน้ำตาล ดูอบอุ่นเนอะ

แต่สู้บ้านเราไม่ได้หรอก มีหลายสี สีรุ้ง 555555

สวยงามมมมมมมมมมม

นั่งกันเป็นชั่วโมง ไปกลับ เพื่อเห็นวิวรอบๆ แต่มันก็ไกลตาเหมือนกัน เสร็จแล้ว

ก็จะข้ามฝั่งไปพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกที่ พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว

SOCIALCAM เที่ยวพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว CLICK ที่ภาพค่ะ

MINIATUR WUNDERLAND

ของจิ๋วน่ารักจริงๆนะ และคนที่มาเที่ยวก็จิ๋วๆทั้งนั้น เสียงเด็กเฮลั่น

ดีใจ ตื่นเต้น คนเยอะมาก ซักพักต้องออกมา เดินกลับไปนั่งรถเพื่อกลับโรงแรม

พักเดินซื้อของซักพัก ก็จะรับประทานค่ะอาหารกันต่อ 5555

ภาพสวยจัง อิอิ ใครถ่ายหน้าเอ๊ะๆ 55555555 ก็เดินกลับไปขึ้นรสบัสกัน

พอถึงโรงแรมก็ไปเดิน H&M ให้เงินหายเล่นนิดหน่อย เงินร่วงไป 2000 บาท 50 ยูโร

อืมบอกตรงๆ อืมมมมมมมมมมม เสียใจ 5555 แต่เราก็เดินต่อ

SOCIALCAM แวะH&M CLICK ที่ภาพค่ะ

เมื่อเดินเหนื่อยมาก เราก็ต้องกลับโรงแรม ไปยัง LOBBY เพื่อเดินทางไปทานอาหาร

วันนี้อาหารค่ำไฮโซมาก เยอะจนทานไม่ไหว แต่จะบอกว่า รอนานมาก เพราะเขา

ทำด้วยใจทีละจาน แบบเชฟชื่อดังมากของที่นี่ และคิดว่าแพงมาก บริกรหน้าตาดี

เนี๊ยบสูตร พูดเพราะ สวมถุงมือเขา ดูแลอย่างดี ข้อเสีย อย่างที่บอกอาหารช้ามาก

จนอิ่มขนมปัง แต่บรรยากาศเลิศหรูมาก

บรรยากาศที่สุดของที่สุด คืนนี้เป็นอาหารค่ำที่พิเศษมาก อยู่กับเกือบ 4-5 ชั่วโมง :p

ขนมปังแทบจะหมดถาด 55555555 รอหลับเลย

แต่ทุกจานถูกประดับมาอย่างละเมียดละไม ดูดี สวยงาม น่าทาน อร่อยทุกอย่าง

และแล้วกลับโรงแรมปุ๊บ หลังสนิทเลย เพราะคืนต่อไปต้องเตรียมตัวไป

งานใหญ่เปิดตัวผลวิจัย EUCERIN HYALURON FILLER ที่เขียนไปแล้ว

วันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนจะกลับมาอัพเดทวันที่ 5-6 ต่อสัปดาห์หน้า รักนะ จุ๊บุ จุ๊บุ

XOXO

Posted in TRAVELComments (1)

DIARY – erk-erk เที่ยวเยอรมันบ้านเกิดEucerin I

วันนี้ขอย้อนเวลากลับไปเล่าถึงทริปยูเซอรีนกันต่อว่าไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง

เที่ยวตล๊อดตลอดเดินทาง 14-21 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ตอนแรกนั่งทำรูปทีละอัน กลัวบลอคจะโหลดไม่ไหว จึงทำรูป MIX กันดีกว่า

แค่นี้ก็ 42 รูปแล้วค่ะ รอโหลดหน่อยนะจ๊ะ สำหรับ 2 วันแรก ฮ่า ฮ่า ฮ่า

เดินทางโดยสายการบิน British Airways ไปลงลอนดอน

และ ต่อเครื่องไปอีกครั้ง สนามบินลอนดอนคนเยอะมากมากจ๊า

แน่นอนว่าเราไม่แต่งหน้า และทาครีมมาเตรียมนอนลูกเดียวจากประสบการณ์นั่งเครื่องนาน

จากลอนดอน ต่อเครื่องมาลง Frankfurt ซึ่งมีติดปัญหาด่านตรวจนิดหน่อยทำให้เรามาถึงช้า

และนั่งทานอาหารเพื่อรอผู้ร่วมเดินทางที่ติดอยู่สนามบินประมาณ 3 ชั่วโมง ฮ่าๆ และ

ร้านอาหารที่เรามาถึงและได้รับประทานเป็นร้านแรก ร้านในโรงแรม PARK INN

รถรับส่งส่วนใหญ่ที่นี่เป็น BENZ หมดเลยฮ่ะ ดูชื่อโรงแรมฉูดฉาดมากดู COLORFUL

พอเข้าไปทานอาหารจะบอกว่าบรรยากาศเรียบง่าย เป็นกันเอง พนักงานบริการดีเลิศ สุภาพ

มารยาทดี และ แข็งแรง เพราะยกจานเสริฟ์ทีนึงหลายจานเลย จานใหญ่ทั้งนั้น

บรรยากาศสว่าง ฟ้าโปร่ง อากาศหนาว(ไม่มากพอทนได้) ร้านเรียบสะอาด มีดีไซน์

กำลังฝึกถ่ายภาพ แบกเจ้ากล้องใหญ่ไปด้วย ไปฝึกถ่ายอาจจะไม่สวยเพราะเรามือใหม่ฮิฮิ

การตกแต่งร้านดูดีมากเลยล่ะ แต่คนไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะหนาวมากรึเปล่าคนไม่ค่อยมี

เมนูอาหารเสริททีละจานมีครบหมู่ และ ครบของคาวหวาน ขออภัยจำเมนูไม่ได้

แน่นอนว่าเครื่องดื่ม หรือ ขนมปังจะมาก่อนเสมอระหว่างรอชุดใหญ่ ก็จะมาเป็นซุป

และตามด้วยเนื้อเป็ด พร้อมแป้งมันปั้นเป็นก้อนแทนคาร์โบไฮเดรต และ

ตบด้วยของหวานที่น่าทาน และ อร่อยมากมายจริงๆ <3 กด LOVE

เสร็จแล้วก็นั่งคอยสมาชิกที่เหลืออีก 2 ชั่วโมง นั่งย่อยเลยทีเดียว

ขอถ่ายตัวเอง 1 ภาพ 5555 ทริปนี้เลยไม่ค่อยมีรูปตัวเองไม่ว่ากันนะ เกรงใจทุกคน

เลยมีแต่บรรยากาศ และ เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากัน ก็ไปแวะชมเมืองFrankfurtกันซักนิด

สวย สด สีไม่ตกเลย ไม่รู้สร้างมานานไหม แต่สวยมาก

ทุกอย่างดูสะอาดเหมือนภาพวาด

สวยมากแต่มันเย็นแล้ว แสงเลยหมดเร็ว ที่นี่พระอาทิตย์ตกปกติ ไม่ได้ตกช้า

เรามาถึงมันเย็นเลย จึงเดินได้ไม่นานต้องเดินทางต่อเพื่อไปพักโรงแรม PULLMAN

ก็เดินทางต่อไปที่เมือง Erfurt ด้วยรถบัสแต่วันแรกโชคไม่ดีรถชนกัน

รถติดไปกลายเป็นเดินทางอีก 6 ชั่วโมง อากาศตอนกลางคืนหนาวสุดพลังไปเลย

เลยต้องแวะทานอาหารแถวปั๊ม แวะ ร้าน MART แถวนั้นหน่อย หิวมากมาย ><

และอร่อยมากมาย ทานไส้กรอกเยอรมัน และ เนื้ออร่อยๆ

เขาห้ามถ่ายภาพ เลยมีเท่าที่เห็น หลังจากโดนสั่งเก็บกล้อง ฮ่าฮ่า

และคืนนี้โรงแรมที่เราพักคือ PULLMAN โชคดีที่ได้นอนกับคุณหมอรังสิมา อิอิ

โรงแรมระดับหลายดาว สวย สูง ลิฟต์แก้วใสกิ๊ง แต่มันดูเหงาและสลัว เลยรีบเข้านอน

เช้าวันใหม่ตื่นมาบรรยากาศดีเลย หนาวเย็นกำลังดี 10 กว่าองศาเก็บกระเป๋า

เตรียมเดินทางไปอีกเมือง POTSDAM

อัดคลิปทักทายชาวบ้านหน่อย ค่าโทรศัพท์ปาไปเกือบ 4,000 บาท ทริปนี้ อัดปล่อยกระจาย ฮ่า

เสียงก็ไม่ค่อยมีแต่คิดถึงคนอ่านทางนี้ ขอนิดนุง <3 วันนี้แม้ไม่สบายแต่เราก็สดใสต่อไป

วันนี้เป็นวันของเมือง Erfurt อยากบอกว่า EUCERIN พาเที่ยวหลายเมืองคุ้มมาก

แม้อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่ก็เปิดประสบการณ์ของเอิ๊กได้มากมายซึ่งไม่เคยมา

มาถึงพบแก๊งค์แม่มด พ่อมดน้อยก่อนเลย น่ารักจริงๆ ดูสถาปัตยกรรมบ้านเขาสิ สวยมาก

เหมือนมันไม่เคยเก่าเลย

ขออนุญาตชักภาพร่วมกันไอดอลคนหนึ่งในชีวิตในเรื่องการประสบความสำเร็จ

ด้วยตัวเอง คุณหมอรังสิมา นั่นเอง อิอิ

ทีม EUCERIN คุณโอ๋ คุณจอย ดูแลดีมากค่ะ 

เที่ยวตลาดปลาของ ERFURT

ชมวิหารMARIENDOM

รถไฟ รถบัสเขาสีสันตัดกันมาก 🙂

ครูพี่เลี้ยงเด็ก และ เด็กเพียบ ดูอบอุ่นมาก

เข้ามาเดินด้านใน Erfurt สวยมาก น่าเดินเล่าสุดๆ โทนการตกแต่งดูละมุนแม้สีสัน

ก็เป็นสีสันที่ดูละมุน นุ่มนวล แบบตุ่นๆ สีไม่โดด ดูแล้วสดใส สว่างสไว

น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อารมณ์ร้านกาแฟเชียงใหม่เดินกันซักพัก

นั่งรถต่อไปเมือง POTSDAM ไปแวะทานข้าวก่อน

ระหว่างทางดูต้นไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ไล่สีกันเลย นั่งนานมากกกกกก 55555 หิวมากอีกแล้ว

และแล้วก็ถึง POTSDAM 

สวย หลงไหล ดู MODERN สุดสุด ที่นี่ค่าออกแบบตึกรามบ้านช่องถูกรึไง 555

ยังไม่เห็นบ้านหรือตึกขี้เหร่เลย

และก็ถึงร้านอาหาร โอยยยย หิวมากกกกกกก รับประทานขนมปังหมดหน้าตักเลย

บรรยากาศหน้าร้าน ภายในร้าน จัดเหมือนต้อนรับ ฮาโลวีน 

DISPLAY ที่เขาใช้จัดก็จะนำผลไม้ หรือ อะไรที่ดูมีกลิ่นอายธรรมชาติเข้ากับร้านมาแต่ง

อาหารมื้อนี้ก็อร่อยมากอีกตามเคย หนูหิวค่ะ 5555 มีแรงต่อละค่ะ จากนี้ไปเราจะเดินทาง

ไปบ้านเกิดเอิ๊กกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า พระราชวัง ซองส์ซูซี ที่เมือง BERLIN ไปกันต่ออีกเมือง

ทริปนี้มาราธอนมากฮะ .. 

ถึงแล้วเพคะ พระราชวังซองส์ซูซี งดงามตระการตามากประทับใจที่นี่ที่สุด

(SANS SOUCI) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสในความหมายว่า “ไร้กังวล”

เดิมเป็นพระราชวังของกษัตริย์เฟรดเดอริกและเป็นที่ฝังพระศพพระองค์

มีทะเลสาปรายล้อมยิ่งใหญ่ และมีต้นไม้ร่มรื่นเป็นสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม

ทุกอย่างในพระราชวังห้ามแตะต้อง และ ห้ามใช้แฟลชรึเปล่าไม่แน่ใจ ภาพจึงอาจจะมืดบ้าง

ในนี้ทุกอย่างถ้ามาได้เห็นจะรู้ว่ามีอายุเหมือนกัน คือ

กระจกมันเบลอเก่าบางบานส่องเงาไม่ได้ มันบอกอายุ มันเป็นประวัติศาสตร์

มันสวยมากบ่งบอกถึงความประณีตและเลือกใช้แต่สีทอง สีที่สูงส่ง

ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดว่า ราชวงศ์ หรือ กษัตริย์ จะแทนด้วยสีทอง

หนึ่งในห้องทำงานกษัตริย์ ห้องหนังสือ เห็นชุดพระองค์ไหม ที่สุดจริงๆ

สวยสง่ามากเขียวขาวทอง

น่าจะเป็นห้องรับแขกฟังไม่ทัน เพราะต้องรีบถ่ายรูปวันนึงมีคนเสียเงินมาชมพระราชวังเยอะ

ต้องรีบเดินรีบเก็บภาพ

ยิ่งใหญ่ อลังการมากมากมากมากเพคะ

ห้องบรรทมเป็นห้องที่มีหลายแบบ หลายสี เป็นคอลเลคชั่นเลย

ชอบห้องสุดท้ายที่สุด เป็นห้องบรรทมที่สวยมาก ได้บรรยากาศสงบ พักผ่อน

บริเวณพระราชวังที่ล้อมไปด้วยสวน และ ทะเลสาป มันกว้างมาก เนื้อที่เยอะมากจริงๆ

สวยมากกกกกกกกกกกกกก คนนะ 55555 ล้อเล่น

เต็มอิ่มกันเลยไหมวันนี้ ฮี่ ฮี่ สวยมากกกกกกกกกกก วันนึงจะซื้อบ้านแล้วแต่งข้างใน

แบบนี้ ฮ่าๆๆๆ ชอบสีทอง ทอง ทอง ทอง

กลัวคิดถึงโผล่หน้าซักหน่อย ไม่มีคนถ่ายให้ทำใจนะ มีมุมเดียว 5555555

ข้างหน้าพระราชวัง ดูแล้วไม่ค่อยเข้าธีมเท่าไหร่ 5555 เย็นพอดีเตรียมไปทานอาหาร

กลับไปพักผ่อนวันนี้เดินเยอะทีเดียวทานเยอะด้วย

แล้วตอนเย็นก็แวะไปทานอาหารย่านSHOPPING

ดูไฮโซมาก มีแบรนด์เนมเพียบ แต่เราหิวอะ ไม่มีอารมณ์ส่อง 555

มื้อเย็นของวันนี้ฮะ อร่อยทุกอย่าง หนูช๊อบชอบ นอนหลับสบายละวันนี้ ทานนมทุกมื้อเลย

แล้วเข้าพักที่โรงเรม ESTEL ก่อน ณ เมือง BERLIN พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ

ESTEL อลังมาก

เสียดายเหนื่อยไม่ได้ลงอ่างเลย 555 หนาวด้วยละ

การเดินทาง 2 วันนี้ดูเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะต้องเก็บของย้ายโรงแรม แต่เราชอบมาก

EUCERIN จัดเต็มจริงๆ พรุ่งนี้จะได้ชมอะไรต่อนะ มาติดตามกันบล็อคหน้าเร็วๆนี้ค่ะ

วันนี้ลาไปก่อนรักนะ ชุ๊บ ชุ๊บ

XOXO

Posted in TRAVELComments (1)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมสถาบัน EUCERIN SKIN INSTITUTE ภาค 2

ภาค 3 เป็นภาคต่อของการเยี่ยมชมใน EUCERIN SKIN INSTITUTE

ภาค 1 CLICK ภาค 2 CLICK

ฐาน3 ไปจับส่วนผสมทดสอบกันแบบถึงเนื้อถึงตัวของ HYALURON

น้องเป็นผู้หญิง ขาวใส ดูบริสุทธิ์ ผุดผ่องมากค่ะน้องไฮย่า

พี่ขอจับน้องหน่อยนะ 55555

ฐานนี้นั่งกันประชิดมาก เพราะเขาจะมาปาด น้องไฮย่า [ HYALURONIC ] ให้ถึงที่

เรารู้สึกว่าแม้จะใส ขาว บริสุทธิ์ แต่มีความเหนียว และ หนืดพอตัว และอุ้มน้ำ

คือชุ่มมือนานมาก ไม่ใช่อารมณ์น้ำมัน แต่เหมือนเจลใสที่มีความหนึบ และชุ่มมาก

อย่างที่บอกว่าเป็นส่วนผสมหลักของ สูตร HYALURON FILLER ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย

จะเป็นผงนำไปผสมGLYCINE SAPONIN + น้ำ ทำให้เป็นเจลอีกที 

มั่นใจได้ว่าไม่มีสัตว์น้อยใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องตามนโยบายโลกสวยของ EUCERIN

ไม่ทดสอบ ไม่ทดลองในสัตว์ แล้วเขาก็นำเจลไฮย่าลงไปผสมในครีม ก่อนนำไปเทส

ไปทดสอบการเปลี่ยนแปลงเวลาอุณหภูมิเปลี่ยน ไปทดสอบในผิวมนุษย์จริง

เอาละเมื่อได้เล่นกับไฮย่าอย่างสนุกสนาน เราก็พักทานอาหารรสเลิศ ที่อุดมไปด้วยสุขภาพ

มีทั้งปลา เต้าหู้ น้ำผักที่หายาก แต่มีประโยชน์ ขอโทษที่ไม่มีรูปเพราะหิวจัด

กินเสร็จไปถ่ายรูปเล่นแถวหน้าเวที คุณหมอนลินี บำรุงราษฎร์ เป็นช่างกล้องให้ อิอิ

และแอบถ่ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ EUCERIN HYALURON FILLER ตัวจริง38 ยังเป๊ะ

คุณ ซอนย่า คูลลิ่ง COOL มากกกกกกก นิสัยน่ารักเวอร์

เอาละไปลุยกันต่อ ทานข้าวอิ่มแล้ว ไปฐาน 4 ชมร้านยากัน 🙂

ฐาน4 ไปทัวร์ร้านยาเยอรมันกัน

ร้านขายยาในนี้ ชื่อว่า AM DERMATOLOGIKUM อย่าถามออกเสียงยังไงนะ ไม่รู้ 55

สังเกตุภาพผนัง ชวนให้เดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ข้างในใหม่กิ๊ก

ซึ่งแตกต่างจากร้านข้างนอกมาก ดูคลาสสิค แต่แอบไปด้วยความ HIGH ของ

เทคโนโลยี และ การบริการ ที่นี่เป็นของเอกชน ไม่ใช่ของ EUCERIN

นอกจากจัดสถานที่ให้เห็นถึงศักยภาพที่แตกต่าง น่าเชื่อถือ

จุดเด่นมีเภสัชกร หรือ แพทย์ผิวหนังให้คำปรึกษาได้

ภายในจะมีผลิตภัณฑ์มากมาย หลายแบรนด์ที่เรารู้จักและเคยเห็นกันในเมืองไทย

ที่นี่เป็น PARTNER ของ EUCERIN เราถือว่าเขาใจกว้างมากนะ เพราะเปิดโอกาส

แบรนด์คู่แข่งให้มีสิทธิ์เขามาวางขายในนี้ และ วางในจุดระดับเด่นที่ดึงดูดสายตาได้

ปรบมือเลย น้ำใจนักกีฬามาก ที่นี่นอกจาก ยา จะมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง ฯลฯ

ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เราไปวิเคราะห์สภาพผิวกัน ถ้าคนที่มาซื้อสกินแคร์มีปัญหาผิวหนัง

เภสัชกรก็จะแนะนำเดินไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังฝั่งตรงข้ามเลย จุดเด่นอีกอย่างมีห้องกระจก

จะเห็นหมดเขาจัดยาอะไรให้เราด้านใน ทำอะไรดูโปร่งใส ชัดเจน ถ่ายทอดสด 55

ฐาน5 เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดของEUCERIN HA FILLER

เป็นผลสรุปสั้นๆนะคะกลัวเพื่อนๆงงกันค่ะ บางคนอาจจะมองว่าสูตร

EUCERIN HYALURON FILLER มันออกมา 10 ปีแล้ว มันมีอะไรใหม่เหรอ

งานวันนี้จุดสุดยอดอยู่ 2 ฐานสุดท้ายนี้ละ Dr. Nicola

เปิดเผยตัวไฮย่าเพิ่งได้พบการวิจัยใหม่

สอดคล้องกับวิธีการชะลออายุของเราในปัจจุบัน คือ การฉีดฟิลเลอร์

เพื่อเติมเต็มร่องลึก และ ทำให้เราดูอ่อนเยาว์ลงไปโดยเมื่อใช้คู่กับ

สูตรไฮย่านี้ซึ่งผลิตโดยเทคโนโลยีนาโนที่อัดไฮย่าในระดับเล็กมากเพื่อให้ซึม

ลงไปสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้จริงๆ

ซึ่งปกติครีมทั่วไปมักซึมอยู่แค่ชั้นกำพร้า

และทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่นานขึ้นกว่าปกติ


มาดูผลทดสอบบางส่วนกันดีกว่า

ผลงานวิจัยกล่าวถึงการทดสอบ

การใช้ EUCERIN HYALURON FILLER + การฉีดฟิลเลอร์

เส้นสีฟ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเฉยๆ

เส้นสีน้ำเงินเป็นการฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

ในเรื่องริ้วรอยข้างดวงตาจะเห็นได้ว่าสัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไปผลลัพธ์การคงตัวด้านที่

ฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER หลังใช้ไปซักระยะจะช่วย

พยุงทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และ คงตัวตื้นมากกว่า ฉีดแค่ฟิลเลอร์เพียวๆ

รวมถึงความชุ่มชื่นของผิวเมื่อวัดแล้ว ถ้าเราฉีด + ใช้ผลิตภณฑ์ HA ด้วย

ผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่า ผิวไม่แห้งเท่าฉีดฟิลเลอร์HAเฉยๆ

ทั้งนี้รวมถึงความเรียบเนียนของผิวเมื่อฉีด+ใช้ ก็ดีกว่าด้วย

ที่เขาไม่ได้วิจัยเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 ปีก่อนในความคิดเอิ๊กคิดว่าฟิลเลอร์พึ่งมาบูมมากจริงๆ

ไม่ถึง 5 ปี แต่อย่าลืมว่าชะลอได้ ไม่ใช่ช่วยได้ 100% แต่นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมือนกัน

ที่เมื่อเราเสียเงินฉีดฟิลเลอร์ไป แล้วรอให้มันสลายหมดแล้วเติมใหม่

ถ้าเราใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ชนิดทา ซึ่งราคาถูกกว่าจะคงผลได้ดีกว่า และ ยืดกว่าได้

แม้เล็กน้อยก็มองว่าเทคโนโลยีเขาล้ำเหมือนกัน ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ลงไปกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้จริงๆ เราจะเห็นน้อยครีมนัก

ฐานสุดท้าย

ฐาน6 เจาะลึกการทำผลวิจัยเกี่ยวกับ EUCERIN HYALURON FILLER

ได้รับเกียรติจาก Dr. Frank Rippke – MANAGER SCIENTIFIC ENDOSMENT

 

มาเล่าถึงขั้นตอนที่ 1 การทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง47คน อายุเฉลี่ย 51.7 ปี

โดยไม่ได้บอกว่าข้างไหนเป็นผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

แต่จะใช้ทาทั้งสองข้างในจำนวนชิ้นผลิตภัณฑ์ที่เท่ากัน

ทั้ง DAY-NIGHT CREAM FLUID EYE CREAM

ครึ่งหน้าทาของจริง-ครึ่งหน้าทาครีมที่ไม่มีส่วนผสมอะไรอยู่เลย

ทดสอบกันยาวมากกว่าทุกตัวที่เคยทดสอบ คือ เกือบ 5 เดือนเต็มเพื่อดูผลลัพธ์

เนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ใช่จะได้ผลทันทีที่ทา

ขั้นตอนที่ 2 ก็จะทาผลิตภัณฑ์จริงครึ่งหน้า อีกครึ่งทาที่ไม่มีส่วนผสมอยู่ ทากันถึง 1 เดือนเต็ม

จากนั้นสัปดาห์ที่ 5 จะฉีดสารฟิลเลอร์ที่เป็น HYARULONIC ACID

เข้าไปทั้งสองฝั่งของใบหน้าและฉีดอีกทีสัปดาห์ที่ 7

ระหว่างนั้นเก็บผลตลอดระยะเวลาการทดสอบ

ในรูปจะบรรยายรอยตีนกา แล้วจะสังเกตุผลของผลิตภัณฑ์ที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะเป็นยังไง

นับการมีประสิทธิภาพที่เราวิจัยคือ 14 สัปดาห์ เพราะ 4 สัปดาห์แรกเราทาทดสอบโดย

ยังไม่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

ขั้นตอนที่ 3 วัดผลแบบเจาะลึก ทั้งความชุ่มชื่น ริ้วรอย

การส่งเสริมประสิทธิภาพการฉีดฟิลเลอร์ ความอยู่ทนทานที่มันเสริมให้กับการฉีด

สรุปเมื่อทั้งทาผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

+ ฉีด HYALURON

เห็นชัดว่ารอยย่นข้างที่ฉีด + ทาริ้วรอยน้อยกว่าฉีดอย่างเดียวจริงๆ เห็นชัดมากก

ค่ำคืนวันนั้น ก็ได้ทั้งเซ็ตมา ไม่พูดพร่ำทั้งแผลเขาบอกกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ใช่ไหม

ใช้ซะเลย อย่างบอกว่าตัวเซรั่มทาแล้วรู้สึกเหมือนหน้าเคลือบฟิลม์ชุ่มๆบางๆ และ

สูตรผิวแห้งนั้น เนื้อหนักอยู่เหมือนกัน เข้มข้นมากมากกว่าทุกสูตรที่ได้ลองมา

ผลจะเป็นยังไงจะมารีวิวนะคะ วันนี้ก็เล่าได้ยาวมาก จบละ จุดสุดยอดทั้ง 3 บลอค

บลอคหน้าเราจะไปชมเมือง ชมนก ชมไม้ ชมอะไรสวยๆที่ EUCERIN TRIP

พาไปเที่ยวกัน เยอรมันเป็นเมืองที่สวยมาก ดูไฮมาก ชอบมากกว่าอเมริกา

ไม่ชอบอย่างเดียวห้องน้ำไม่มีที่ฉีด 55555555555555555 แล้วพบกันบลอคหน้าค่ะ



 

Posted in SKIN, SKIN CARE, TRAVEL, WRINKLEComments (2)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมสถาบัน EUCERIN SKIN INSTITUTE

 

 

 

 

ภาค 1 ผ่านไป หลังจากเราไปเยี่ยมบ้าน EUCERIN เรียบร้อยถึงกระบวนแต่ละขั้นตอนกว่าจะออกมา 1 ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบมากมายเพื่อให้เข้ากันได้กับผิวผู้บริโภคทั่วโลก วันนี้เราไปต่อภาคเยี่ยมชมสถาบันผิวหนัง EUCERIN SKIN INSTITUTE กัน ตั้งอยู่ย่าน STEPHANSPLATZ ใจกลางเมือง HAMBURG 

ซึ่งบูรณะมาจากสำนักงานไปรษณีย์เก่า [ ดู hiso มากนะสำนักงานไปรษณีย์เยอรมัน 55 ]

ของเราจะอยู่มุมขวาของตัวตึก มีธงสีน้ำตาลโบกสะบัด

หลายคนคงอยากรู้ว่าภายในสถาบัน EUCERIN แห่งนี้มีอะไรบ้าง ต่างจากสถาบันเวชสำอาง

บ้านเราหรือไม่ หลักคือเปิดให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง

และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าของเราด้วยเทคโนโลยีที่ละเอียด เพื่อจะได้รู้ว่าปัญหาผิวหน้า

แบบนี้จะให้การรักษาแบบไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง และต้องถูกวิธี โดยเลือกใช้

เวชสำอางที่ปลอดภัย และ มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องบอกก็รู้นะ ว่าจะเป็นเวชสำอางอะไรนอกจาก

EUCERIN ฮ่า ฮ่า

เมื่อเปิดประตูสีน้ำตาลกระจกเข้าไปด้านใน ข้างในจะดูสีน้ำตาลอิฐ ดูVINTAGEมาก แต่ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างมีระบบ ระเบียบ แบ่งออกเป็นโซนๆ ผนังด้านในส่วนหน้าอาคารเป็นกระจกแก้วรับแสง [ ว่าแต่เราถ่ายดอกไม้มาทำไม แทนที่จะถ่ายให้เห็นผนังชัดชัด ] ด้านในสถาบันก็จะมีข้อมูลเกี่ยวกับ EUCERIN ทุกชนิด

 

เนื่องจากเป็น EVENT งานเปิดตัว การค้นคว้าวิจัยใหม่ที่ได้จาก ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER ก็มีสื่อต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกมารับฟังการบรรยายงานวิจัยที่เพิ่งค้นคว้า และ เปิดเผยให้ได้รู้ถึงศักยภาพใหม่ของไลน์ผลิตภัณฑ์ HYALURON FILLER นี้

 

การเปิดงานเล่าถึงความเป็นมาของ EUCERIN ตั้งแต่ต้น รวมถึงความเป็นมาของ การทำการศึกษาผลงานวิจัยครั้งนี้ สไลด์ของเขาไม่ได้ หวือหวา กราฟฟิคอลังการ จะสไตล์หมอผิวหนัง เน้นข้อมูลล้วนมาคุยกันให้เห็นภาพ ความเป็นจริงในแง่การศึกษาที่เกิดขึ้นจริง ทดสอบ ทดลองประสิทธิภาพจากกลุ่มคนจริงๆ แต่ไม่แน่ใจมีการทดสอบกับชาวเอเชียไหม แต่ที่รู้คือ ส่วนมาก EUCERIN ทดสอบทุกสีผิว และ มี LAB ของผู้บริโภคผิวเอเชียอยู่แล้ว

วันนี้มีด้วยกัน 6 STATION 6 ฐานเรียงซ้ายไปขวา ซ้ายไปขวา

ที่จะมอบประสบการณ์ให้ได้รู้จักกับสถาบันนี้รวมถึง

ตัว EUCERIN HYALURON FILLER 

  1. ฐาน1 เราก็จะไปตรวจ วิเคราะห์สภาพผิว แบบเฉพาะบุคคล
  2. ฐาน2 เราจะไปพบกับส่วนผสมหลักที่มีประสิทธิภาพของEUCERINแต่ละสูตร
  3. ฐาน3 ไปจับส่วนผสมทดสอบกันแบบถึงเนื้อถึงตัวของ HYALURON
  4. ฐาน4 ไปทัวร์ร้านยาเยอรมันกัน
  5. ฐาน5 ไปคุยกับแพทย์ผิวหนังและเปิดเผยงานวิจัยล่าสุดของEUCERIN HA FILLER
  6. ฐาน6 เจาะลึกการทำผลวิจัยเกี่ยวกับ EUCERIN HA FILLER กับแพทย์ผิวหนัง

ไปลุยฐาน 1 กัน

ฐาน1 เราก็จะไปตรวจ วิเคราะห์สภาพผิว แบบเฉพาะบุคคล

ขณะเดินเข้ามาด้านในเป็นประตูกระจกใสขอบน้ำตาล ใหม่กิ๊กเพราะที่นี่เพิ่งเสร็จต้นปีนี้

เข้ามาด้านในจะมีผลิตภัณฑ์ EUCERIN ทุกตัวให้บีบมาทดสอบบนผิวหนัง หรือหยิบเล่น

หยิบจับได้เลย ลองได้ทุกตัว ไม่มี BA หรือใครวุ่นวายใจ แต่หากต้องการคำแนะนำเขาก็จะมา

มีหลายสูตรไม่มีขายในไทย ทุกตัวเป็นภาษาท้องถิ่นหมดเลย นั่นคือฉลากเยอรมัน

การจัดเรียงค่อนข้างเรียบ แต่ทันสมัย ดู High เทคโนโลยี

และ รู้สึกว่าวันที่ไปจะมีการจัดให้ตัว EUCERIN HYALURON FILLER โดดเด่นขึ้นพิเศษ

สิ่งสำคัญในการสถาบันนี้ขึ้นมา นอกเหนือจากการทำวิจัย และ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ EUCERIN

คือ เชื่อว่าสิ่งสำคัญ 3 สิ่งของการมีสุขภาพผิวที่ดี คือ

  1. การวิเคราะห์สภาพผิว
  2. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  3. การรักษา และ ดูแลผิว 

 ที่นี่จึงมีทั้งมีเครื่องตรวจสภาพผิว SKIN CODE READER ที่พัฒนาที่นี่ที่เดียวในโลก ความสามารถของมัน คือ ตรวจ และ วิเคราะห์สภาพผิวของคนแต่ละคนและสร้างโปรไฟล์เก็บไว้ซึ่งมีการกำหนดเป็นรหัส 10 ตัวของแต่ละคน เหมือน บาร์โคดเวลาเราไปซื้อสินค้า ก็จะมีบาร์โคดของแต่ละชิ้นไป ใช้หลักการแยกเหมือนกัน โดยจะอ่านสภาพผิวแบ่งเป็น 10 มิติ [ เสียดายวันงานคนเยอะ ไม่มีโอกาสได้ทดสอบ เซ็งเลย ] ทั้งความชุ่มชื่น ความยืดหยุ่น ระดับความแพ้ ใช้เวลาตรวจประมาณ 25 นาที และต้องเสียเงินค่าตรวจประมาณ 16.50 ยูโร หรือ 600 กว่าบาท หลังจากตรวจ วิเคราะห์

เวลาตรวจผิวเสร็จเขาก็วิเคราะห์ออกมาเป็นกราฟแบบนี้

วิธีตรวจก็จะมีเครื่องที่เรียกว่า EUCERIN SKIN DIANOSIS ที่มีหัวมากดลงบนที่ผิวเราเบาๆ

ภาพขวาล่างสามารถส่ง SKIN GREETINGS ไปยังอีเมลล์ โดยกดส่งได้เป็น

multi touch screen ยาว 3 เมตร ตอนนี้ยังมีที่เดียวในโลกอยู่ เสียดายลืมไปจิ้มเล่น 555

ห้องนี้ก็เช็คความหน้ากลัวของใต้ผิวว่ามีปัญหาอะไรซ่อนอยู่ 555 ใช้แสงหลายสี ถ่ายเห็นชั้นลึก

เห็นกันไปจนถึงระดับใต้ผิวเลย อยากลองๆๆๆๆๆ เสียดายอีกตามเคย

เมื่อตรวจกันละเอียดแล้ว ถึงเวลาพบผู้เชี่ยวชาญ เขาก็จะแนะนำทรีทเมนท์ที่เหมาะสม

กับสภาพผิวของเราและปัญหาผิวที่พบเจออยู่ขณะนั้น 

ฐาน2 พบกับส่วนผสมหลักที่มีประสิทธิภาพของEUCERINแต่ละสูตร

เริ่มจากการก่อนที่เริ่มคิดว่าจะใช้ส่วนผสมอะไรกับปัญหาผิวเราก็ต้องหา Scouting Fields

เพื่อดูทั้ง IN CORE และ OUT CORE ที่มีผลกระทบต่อผิวทั้งหมด

จะเห็นว่าเช่น OFF CORE การที่เราติดยาเสพติดส่งผลต่อผิวเรามากภายในระยะเวลาไม่กี่ปี

เมื่อเสร็จแล้วนั้น เราจะมองหาส่วนผสมที่น่าสนใจ หรือ ACTIVE INGREDIENTS ที่เกี่ยวข้อง

ที่มีความน่าจะเป็นไปได้มาทดลองในทางวิทยาศาสตร์ดูก่อน

ห้องนี้มาแนววิทยาศาสตร์กันเลยทีเดียวส่วนผสมตั้งเต็มไปหมด และ มีการลองทำวิธีทดลอง

ให้ดูด้วย นอกนั้นแต่ละโต๊ะด้านหน้าจะมีหน้าตาส่วนผสมหลักที่มีประสิทธิภาพที่เลือกใช้

ใน EUCERIN แต่ละสูตรให้เห็นหน้าเห็นตากันชัดเจนมาก ก่อนที่เขาจะมาผสมลงในครีม

ให้เราทา เราก็ได้พบหน้าพวกส่วนผสมเหล่านี้ ในวันนี้

ในสูตร HYALURON FILLER นั้นส่วนผสมหลักที่มีประสิทธิภาพที่เขาเลือกใช้คือ

SAPONINE – HYALURONIC ACID

หรือในสูตร WHITENING จะใช้ B-RESORCINOL เพื่อยับยั้งเม็ดสีเมลานินอย่างปลอดภัย

สูตรไหนมีส่วนผสมอะไรเป็นส่วนประกอบหลักเขาจะตั้งข้างกันเลยดังภาพ

เขาก็นำมารวมกับส่วนผสมรองอื่นๆ ที่ทดสอบอย่างขนานใหญ่ว่าหลอมละลายรวมกันได้

อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านกัน แต่จะสนับสนุนการทำงานของกันและกัน

และ ได้ค่าความเป็นกรดด่าง หรือ PH ที่เหมาะสม ข้อด้อยและเป็นข้อดีในเวลาเดียวกัน

EUCERIN ไม่ใส่น้ำหอม ทำให้เราได้สูดดมกลิ่นเหล่านี้แบบแจ่มจรัส เวลาเขาทดสอบ

เขาจึงต้องมีการชิมไป บ่นไป ไม่ใช่ๆ ดมไป ทำไป ฮ่าๆ

เพื่อทำให้กลิ่นธรรมชาติของส่วนผสมที่หลอมรวมกันมันออกมาดีที่สุด

และ สารพวกนี้ที่เลือกนั้น ก็ต้องมีมากพอในอนาคตด้วย ไม่ใช่หาสารแบบหายาก

แค่ 2 ฐานก็สำหรับบทความนี้ เราไปต่อกันที่ ฐาน 3-6 บทความหน้าก็จะเข้มข้นเรื่อยๆ

ยากเหมือนกันนะ ในการที่คนๆนึง เป็นเสมือนผู้บริโภควันๆใช้ๆๆอ่านฉลากๆใช้ๆ

ไม่รู้ความลำบากของการคิดค้น เลย และทีมาฟัง ก็บอกได้เลย ถ้าไม่ได้เป็น

BEAUTY BLOGGER เราก็อาจจะงง ไปอีกพักใหญ่ๆ 5555555

มาตามอ่านตอนต่อไปกันนะ จะได้รู้กันว่างานวิจัยใหม่ของตัว

HYALURON FILLER คืออะไร ออกมาตั้ง 10 ปีกว่าแล้ว จะค้นพบอะไรกันอีก

Posted in SKIN, SKIN CARE, TRAVELComments (3)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมบ้าน EUCERIN <3

 

ทริปสุดพิเศษนี้เป็นครั้งแรกที่ EUCERIN พาสื่อหลายแขนงไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เยอรมัน เมืองแฮมเบิร์ก หรือ ฮัมบูร์ก [ HAMBURG ] พร้อมกับทัวร์ความเป็นมา และการทำงานของ EUCERIN แบบ EXCLUSIVE ว่ากว่าจะได้ออกมาให้เห็นแต่ละสูตรที่ทั่วโลกได้ใช้กัน มีความเป็นมาอย่างไร และ กว่าตัวนึงจะออกมาใช้เวลานานแค่ไหน ?

 

ซึ่งเอิ๊กได้รับโอกาสที่ดีจาก EUCERIN และ ผู้ใหญ่ใจดี ในฐานะสื่อทางด้าน BLOG

และทุกคนยังจะได้เข้าร่วมงามเปิดตัวผลวิจัยล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

DIARY จะมีทั้งหมด 7 BLOG รอติดตามนะคะ ภาคแรก เราจะไปทัวร์ ศูนย์ R&D

ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับนานาชาติของบริษัท Beiersdorf บริษัทระดับโลก

ยักษ์ใหญ่ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น EUCERIN, NIVEA

อายุของบริษัทก็ไม่มากเท่าไหร่แค่เกือบ 120 ปีเท่านั้นเอง ส่วน EUCERIN

เกิดเมื่อ ค.ศ. 1900 ที่เยอรมัน เมื่อ DR. ISAAC LIFSCHTZ ค้นพบส่วนประกอบสำคัญ

และนำไปจดสิทธิบัตรโดย มีชื่อว่า ” ยูเซอริท ” ลักษณะเหมือนขี้ผึ้งสกัดจากขนแกะ และ

นำมาผสม ไว้ในรูปแบบของครีมบำรุงผิวพรรณ ที่ได้ตั้งชื่อว่า “ยูเซอริน ” แปลว่าขึ้ผึ้งที่สวยงาม

ประวัติ การพัฒนา มีให้อ่านเพิ่มเติมอีกเพียบ http://www.eucerin.com/th/about-eucerin/

 

คืนก่อนที่เราจะได้เดินทางไปสู่ศูนย์วิจัย&พัฒนาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมันนั้น

เราได้เข้าพักโรงแรม MARRIOTT HAMBURG ซึ่งเอิ๊กได้นอนกับคุณหมอเพ็ญคนสวย

อิอิ คนตาม SOCIALCAM คงรู้แล้ว ก็มีเป็นจดหมายเชิญทางการ และขนมน่ารักต้อนรับ

[ ภายในห้องจะอบอุ่น เป็นธีมสีเลือดหมูตามสีแบรนด์ EUCERIN เลย อิอิ

ส่วนคุณหมอคิดถึงลูกสาวตัวน้อยมากๆ เป็นคุณแม่ไอที คุย skype กับเด็กๆทุกวัน ]

และ ในวันรุ่งขึ้น เราก็เดินทางไปลุยกันถึงแล้ว ศูนย์ R&D ของ EUCERIN

ทุนสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท กับพื้นที่ 16,000 ตร.ม.

เราจะเห็นหอประชุมเด่นชัดก่อนเลย หรือหลายคนเรียกว่า PHILOSOPHER’S STONE

การออกแบบหอประชุมแห่งนี้ก็ถ่ายทอดอุดมการณ์อย่างมาก เพราะเป็นการจำลอง

สภาพเซลล์ผิวมนุษย์โดยขยายออกมาให้ใหญ่ขึ้น [ เพิ่งรู้ว่าเซลล์เราจะต่อๆกันแบบนี้นี่เอง ]

ที่แห่งนี้จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ใหม่ๆที่เกี่ยวกับผิวหนังอยู่เสมอในแง่ของ

ผลงานวิจัยของศูนย์R&Dแห่งนี้ที่เด่นๆ ผลลัพธ์เป็นที่น่านำเสนอ ก็จะส่งต่อกันที่นี่

เพื่อให้เกิดการต่อยอดงานวิจัย และ พัฒนาให้ได้ผลลัพธ์ในการค้นหาวิธีดูแลผิวหนัง

ที่ดียิ่งขึ้น และ นำไปพัฒนาเทคโนโลยีชนิดเหลวต่อไป

 

ขอ 3 คำ ยิ่ง ใหญ่ มาก

 

เข้ามาด้านในจะพบป้าย BEIERSDORF ใหญ่มาก ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเวชสำอาง

จะมีระดับศาสตราจารย์ของทาง EUCERIN เยอรมันคอยให้ข้อมูลในห้องทดลอง

และภาพนี้เป็นการรวมแพทย์ผิวหนัง 4 ท่านจาก 4 โรงพยาบาล ศิริราช บำรุงราษฎร์

สมิติเวช และ วิชัยยุทธ รวมถึงทีมผู้บริหาร EUCERIN ประเทศไทย 1 ท่าน และ

แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ EUCERIN HYALURON FILLER

คุณ พิม ซอนย่า คูลลิ่ง ชอบภาพนี้ เพราะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญ 5555

ห้องแรกที่ได้มีโอกาสเข้าชม คือ หอประชุมที่จินตนาการเอาเซลล์ผิวหนังมนุษย์มาขยายนั้นแล

ที่นี่จะมีนักวิจัย นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ สถาบันต่างๆ รวมถึงมหาลัยที่เกี่ยวข้อง มาแลกเปลี่ยน

องค์ความรู้ในด้านผิวหนังกันที่นี่ ของจริงใหญ่ปานกลาง แต่ดูตกแต่งไฮเทคมาก อย่างล้ำ

เขาบอกว่าที่ศูนย์ R&D แห่งนี้นอกจากจะยิ่งใหญ่และยังล้ำมาก

(ทันสมัย) ที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน หลังจากนั้น จุดไคลแมกซ์ที่อยากจะเล่าไม่มีภาพ

เพราะเขาห้ามถ่ายภาพ เล่าแล้วจินตนาการตามมานะตัวเธอว์

เราก็ได้หลุดเข้าไปยังศูนย์ทดสอบที่เป็นส่วนสำคัญของที่นี่

จากนั้นเขาก็พาทีมที่มีกัน 20 กว่าชีวิตทั้ง EUCERIN ไทย, คุณหมอ, สื่อนสพ.

สื่อPR, สื่อนิตยสาร และตัวฉัน 555 เข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์ซึ่งห้ามถ่ายภาพ

ขอเล่าแบบไม่ลงลึกนะคะ รายละเอียดเยอะจริง

กลัวเดี๋ยวเพื่อนๆจะมึน แล้วปิดหน้านี้ไปก่อน เอาพอประมาณ

หลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งที่มีคุณภาพของ EUCERIN

  1. วิจัยสูตรและส่วนผสมที่คัดเลือกสารมาจากกว่า 1,000 ชนิด
  2. จำลองเนื้อเยื่อของเซลล์ผิวหนังมนุษย์ขึ้นมาเพื่อทดสอบ
  3. เมื่อได้ผลจึงเริ่มทดสอบกับผิวมนุษย์ปกติ
  4. เมื่อทดสอบผิวมนุษย์ปกติ ก็จะมาทดสอบกับผิวที่แพ้ง่าย หรือ เป็นโรคทางผิวหนัง
ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อย่างสูงสุด ภายใต้สารที่ค้นคว้า วิจัย พัฒนามาแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่สุด 

 บรรยากาศมีแต่คนผิวดีหน่ะ เรื่องจริง ฝรั่งไร้กระอะ คิดเอา อืมอย่างนี้สิน่าเชื่อถือ เหมือนคนขายครีมแก้ฝ้า แต่ยังเป็นฝ้าอยู่ ตรงนี้มีผลมาก เอิ๊กสังเกตุผิวทีม EUCERIN เยอรมันทุกคนเลย ถึงจะอายุมากแต่ผิวสุขภาพดี มันกระจ่าง แบบโกลว์อะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะปกติเม็ดสีผิวของพวกเขาจะขึ้นจุดด่างดำง่าย นี่ไม่พบเลย

มีงานวิจัย แปะ โดยรอบ เท่าที่เห็นเวลาคนเราทดสอบข้างในชั้นผิวหนังเขามักจะฉีดสีเข้าไป แล้วสังเกตุสีที่วิ่งเข้าสู่ด้านในเอา เขาไม่ผ่าชิ้นเนื้อมาเทส เหมือนกับสัตว์ที่บางบริษัทยังใช้วิจัยอยู่

 EUCERIN ทำน้ำตาไหล เมื่อรู้ว่า เขาไม่ทดลองกับสัตว์เลย กว่า 20 ปีที่อยู่มา เพิ่งทราบจริงๆ

 ห้องทดลอง ทดสอบถูกจัดเป็นส่วนๆ อยากบอกว่ามันเล็กมาก เข้า 2-3 คนน่าจะกำลังดี คงเพราะเขาน่าจะอยากให้แต่ละทีมมีสมาธิ ถ้าอยู่เยอะ อาจจะสมาธิแตกซ่านได้ [ คิดเอง ]

 ห้องแรกที่ไป คือ ห้องการจำลองเนื้อเยื่อมนุษย์ออกมา และ หยดสารที่ต้องการทดสอบลงไป เช่น ไวท์เทนนิ่ง และมีเนื้อเยื่อหลาย 4 ผิวด้วยกัน และ มีภาพขยายของผิวหนังที่ผิดปกติ ผิวแพ้ ผิวเป็นโรคภูมิแพ้ หรือ สะเก็ดเงินให้ดู ว่าเวลาขยายชั้นผิวหนังดู จะเป็นแบบไหน เมื่อทดสอบได้ผลดี จึงนำไปทดสอบกับผิวปกติ และ ผิวแพ้ง่าย รวมถึงผู้ที่มีโรคผิวหนัง จำนวนหนึ่งกลุ่มทดสอบต่อไป

 ได้ไปเห็นห้องที่เข้าใช้คัดเลือกส่วนผสมที่เยอะกว่า 1,000 สาร ใช้ตู้เก็บอย่างดี อย่างล้ำแบบเทคโนโลยีชีวภาพ


ที่นี่ลงมาด้านล่าง ซึ่งเก็บภาพได้บ้างละ แต่ห้องแต่ละห้องก็ไม่ใหญ่มาก  จุได้ประมาณ 10 คน
แต่เรามากันคณะใหญ่ก็เบียดเสียดกันเข้าไป

มาตรวจถุงใต้ตากันก่อนเลย 55555 รวมถึงริ้วรอย ห้องนี้ถ่ายแล้วซูมริ้วรอยชัดมาก
ความยับของใต้ตา ขนาดพ่อหนุ่มที่ไปนั่งเป็น CASE STUDY วันนี้หน้าตึงๆ
ซูมจริงเริ่มมีริ้วรอยแล้ว เอาไว้ดูว่าใช้ครีมแล้วเป็นไง มาขยายผิวดูอย่างชัดเจนกันที่ห้องนี้
หลักจากทีม EUCERIN เยอรมันพูดจบ
เราก็ได้ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาวเป็นคนแปลทุกฐาน เนื่องจากเป็นผู้หญิงคนนึงที่คร่ำหวอด
ในวงการวิจัย และ เป็น speaker แพทย์ผิวหนังระดับนานาชาติ มาสรุปทุกฐาน
ความจำดีเลิศมาก คือ เขาพูดจบหมดแล้วคุณหมอถึงมาแปลอีกทีอย่างยาวเท่าๆกัน
ตบมือให้ คุณหมอ รังสิมาหลายๆทีเลยค่ะ ประเด็นคือสอนเข้าใจง่าย
เด็กโง่วิทย์อย่างเอิ๊กเข้าใจเลย 5555555555 <3

ห้องนี้คุณหมอรังสิมาบอกว่าเป็นที่ไฝ่ฝันมาก เนื่องจากเปิดรับอาสาสมัครที่ได้รับค่าจ้าง
โดยแต่ละคนต้องผ่านการอบรม เพื่อให้เป็นมาตรฐาน และ ลงคะแนนการทดสอบให้เป็น
เป็นระยะเวลาครึ่งปี ก่อนที่จะเริ่มทำงานจริง ค่าจ้างครึ่งชม. ประมาณ 200 บาท
ในกรุ๊ปนึงแต่ละคนก็จะต้องทดสอบครีม ตั้งแต่ความรู้สึก ความมัน ความชุ่มชื่น ฯลฯ
โดยมีการแบ่งเป็นเกรดให้ทราบเลยแต่ละส่วน โดยมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดจากนักวิจัย
ผู้เชี่ยวชาญย่างที่บอกว่าเมื่อส่วนผสมทดสอบในเนื้อเยื่อที่จำลองมาแล้วผ่าน
ก็จะมาทดสอบกับผิวคนปกติ

 

มันคือเครื่องที่เอาไว้บันทึกคะแนนของครีมที่เราทดสอบ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า
ว่าคนที่ทดสอบ ลองใช้รู้สึกยังไง และอาจต้องมีการจับเวลาดูความมันที่จะเกิด
 ความหนืด เมื่อใช้เสร็จก็ต้องบันทึกคะแนนลงในเครื่องนี้ ในห้องจะคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด
 
หลังจากนั้นก็เดินไปอีกฝั่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน

อิอิ ชุดยูนิฟอร์มน่ารัก ขาวแดง EUCERIN มาเลย มันอยู่ช่วงหนาว ต้นไม้เปลี่ยนสีสวยมาก
และโซนนี้อยากให้คนที่คลั่งไคล้สกินแคร์ได้มาเห็น มันแบบอลังมาก จะบอกว่าเขาห้ามถ่ายรูป
ศร้ามากเลย เพราะเรื่องนี้มันยาก เอิ๊กจะขอนำทุกท่านเข้าสู่ช่วงจินตนาการล้ำเลิศอีกครั้ง
บรรยากาศภายใน 

 เป็นห้องโถงยาวเดินสบาย กว้าง ติดกระจก มีแสงแดดสาดเข้ามา อุดมไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ผิวหนัง 

ชั้นวางโชว์ผลิตภัณฑ์

 ผลิตภัณฑ์ EUCERIN มีทุกสูตร ตระการตามาก 

ผิวพรรณของพนักงานที่นี่

 ทุกคนผิวดี กระจ่าง สุขภาพเปล่งปลั่งไม่ต่างจากสองโซนแรก สงสัยจะอาบ EUCERIN 

การทดสอบ

 ตามแต่ละโต๊ะของทุกคนจะมีส่วนผสมที่ตั้งไว้ทดสอบการแปรสภาพเวลาเจอแสงเป็นเวลากี่วัน กี่เดือน ก็แล้วแต่จะกำหนด เพื่อดูว่าส่วนผสมที่ผลิตมานั้น หากเจอแสง อุณภูมิที่เย็นมาก ร้อนมากจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และหรือ ประสิทธิภาพลดลงไหม โดยตั้งไว้ใกล้แสงแดด หลายอันเลย ดูความคงตัว หลังจากนั้นจึงนำส่วนผสมในรูปแบบครีมที่ได้ทำขึ้นมามาลอง เพื่อจะได้รู้ว่า ส่วนผสมที่ใช้ยังมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไร ที่มีการทดสอบตรงนี้ เนื่องจากเอาไว้ดูเวลาขนส่งกระจายไปทั่วโลก อุณหภูมิที่ต่างกัน จะทำให้ครีมยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ไหม ในการทดสอบก็จะเริ่มจากผิวปกติ ตามด้วยผิวแพ้ง่าย และผิวที่เป็นโรคผิวหนัง เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย

ส่วนผสมผลิตภัณฑ์

 เต็มไปด้วยส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์เหมือนในหนังเลย โดยมีระบบคอมพิวเตอร์เป็นตัววัดน้ำหนักส่วนผสมทุกอย่างๆเที่ยงตรง และมีการผสมสารเพื่อทดลองกันได้เลย ณ ที่นี่ หลังจากมีคนคิดสูตร และ ก็นำมาผสมจากส่วนผสมในห้อง โดยมีมาตราฐานการวัดที่เที่ยงตรง หรือ คลาดเคลื่อนน้อยมาก ก่อนนำไปขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบครีมอีกที แล้วทิ้งใหอุณหภูมิเย็น ค่อยเติมพวกน้ำหอม หรือ ส่วนผสมบางอย่างจนเสร็จอีกที

การผสมครีมขึ้นมาทดสอบในกลุ่มตัวอย่าง 

 มีห้องปั่นครีมด้วยอะ 5555 เวลาที่ผสมเสร็จนำมาผสมให้เป็นครีมสำเร็จ ในส่วนลอตผลิตนี้นำไปเทสกันก่อน จะเข้าสู่ระบบโรงงานการผลิตแบบเครื่องปลอดเชื้อที่ได้มาตราฐาน

ห้องนี้สำหรับผู้เชี่ยว นักวิจัย นักวิทยาซาสตร์ แพทย์ผิวหนัง

 มุมนี้มีแต่หัวกระทิ ที่ใส่เสื้อกราวน์ ดูเชี่ยวชาญยิ่งนัก 

 ปล. อยากให้ทุกคนมาเห็นจัง ละเอียดละออ เยอะขั้นตอนจริงกว่าจะออกมาแต่ละตัว บางสูตรก็วิจัย พัฒนากันเป็นสิบปีขึ้นไป และ เพื่อความปลอดภัย ทั้งมนุษย์ทุกสภาพผิว ยังมีการทดสอบเรื่องอุณหภูมิ แสง ตัวแปรอื่นๆอีก มันเจ๋งจริง เขาเลยไม่ให้ถ่ายรูปเลยไง 

 

สรุปวันนี้ทำให้เอิ๊กได้รู้จัก EUCERIN ขึ้นมาก มากกว่าแต่ก่อนที่เข้าใจว่า “ดัง” มีนักวิจัย นักพัฒนา แพทย์ผิวหนังรองรับเยอะแค่นั้น เข้าใจตอนนี้นี่เองที่ได้มา ว่าแต่ละตัวที่ออกมาแม้ว่าปีนึงจะออกเป็น 100 ตัว แต่กว่าจะออกมาให้ใช้ได้ เขาใส่ใจกับมันมากแค่ไหน นี่ยังไม่รวมแล็บแถวเอเชียนะ ที่สร้างขึ้นเพื่อพัฒนาให้ใช้ได้กับผิวคนโซนเอเชียที่สภาพอากาศอีกแบบ คือที่ดูว่าออกผลิตภัณฑ์บ่อยเยอะ แท้จริงคิดกันมาแล้วหลายปีขึ้นไป ทดสอบกันมาแล้วหลายขั้นตอน แถมออกแล้วก็พัฒนาต่อตัวเดิมอีกจนมีงานวิจัยใหม่ที่ดีกว่าเดิมออกมาถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จากการที่ได้เล่าคร่าวๆให้ฟัง ยังเยอะขนาดนี้ ขั้นตอนเขาเยอะจริงๆ เงินเยอะ นักวิทยาศาสตร์เยอะเกือบ1,000คน และเครือข่ายพันธมิตรวงการนี้อีกมาก รวมถึงทุ่มงบทุกปีเพื่อการค้นคว้า วิจัย พัฒนาตรงนี้ตลอดเวลา ให้เขาไปเถอะในการผู้นำ 55555 เขาเรียกว่ารุ่นเก๋า อยู่มานานฟิตขึ้นเรื่อยๆในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง เสียใจอย่างเดียว รูปห้ามถ่าย 🙁

 

ไม่แน่ใจว่าวันนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจยากไปไหม แต่เอิ๊กเอาแต่สิ่งสำคัญมาเล่า
ให้เป็นแรงบันดาลใจ กว่าแบรนด์เวชสำอางแบรนด์นึงจะประสบความสำเร็จ
เขาต้องอดทนพยายามกันขนาดไหน อยากออกผลิตภัณฑ์เลยก็ไม่ได้
ต้องวิจัยพัฒนาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ตอนนี้ไม่คิดว่า EUCERIN ราคาสูงละ
เพราะต้นทุนเขาสูงจริง

ปล. ที่ถามกันว่าซื้อครีมต่างประเทศดีกว่าไทยไหม เอิ๊กว่าราคาพอกัน
บางสูตรที่ไม่มีในไทย ก็อาจไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราก็ได้นะ
แต่ตอนนี้ใช้ของ EUCERIN เยอรมันอยู่แหละ อย่างดี อิอิ
ต่อกันใหม่ภาค 2 นะ <3

สวัสดี !

Posted in SKIN CARE, TRAVELComments (4)

DIARY DAY3 – HAPPY KOREA WITH ETUDE HOUSE MEMORY

วันสุดท้ายของการเดินทางแห่งความสุขในเกาหลีกับ ETUDE HOUSE

ตื่นมาง่วงมากลืมใส่ตุ้มหูเลย 555555555555 หน้าแบบง่วงๆ งงๆ อ๊ะต้องกลับแล้วเหรอ

กระเป๋าเต็มตั้งแต่วันแรกใครฝากซื้ออะไรก็เอาเข้าไม่ได้แล้ว T^T โอววว POOR ME จริงๆ ขนาดกระเป๋า 2 ใบ ไม่ช่วยอะไร อีกใบทาง ETUDE ช่วยถือ ฮี่ๆๆๆๆ

วันนี้มาร้านกาแฟสุดไฮโซแบบกังนัมอีกแล้ว COFFEE SMITH พวกดาราชอบนั่งดื่มกัน และ ร้านนี้ปกติไม่เปิดให้คนธรรมดาเข้าเท่าไหร่ แต่บังเอิญฝนตก เขาเลยมีน้ำใจเปิดให้ แต่ห้ามถ่ายรูปบรรยากาศภายในร้าน อยากบอกว่าไม่ทันแล้วละ 555555 ตากล้องคุณแคมป์เรารัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถนนย่านนี้ชื่อว่า Garosugil ย่านนี้จะเรียบหรูมีสไตล์ แบบดูไฮคลาสขึ้นมากว่าเมื่อวานที่เราไปเที่ยวกัน สะอาดตา สบายใจ แต่ไม่เจอใครสะดุดตา 555555555 เอานะอย่างน้อยก็เจอนังร้องไปแล้ววันแรกตั้งหลายวงนี้

ชักภาพกับชาชัก เอ้ย กาแฟร้อนเย็น โกโก้ แสนอร่อย วันนี้ดื่มกาแฟ แล้วจะไปเต้มพลังด้วยร้านอาหารสุดกังนัมอีกแล้ว 555 หรูมาก ที่นี่ค่อนข้างเน้นเนื้อที่สดกับผัก เราคิดว่าส่วนนึงที่ทำให้เกาหลีมีสุขภาพผิวที่ดีและเฟิร์ม ไม่ค่อยพบคนน้ำหนักแบบเกินเท่าไหร่ คนเพราะเน้นเนื้อ + ผักเยอะๆๆกว่าข้าว เป็นเทคนิคนึงที่เอาไปทานตามกันได้

อร่อยสุดพลังไปเลย จนไม่รู้จะบอกว่าจะขอบคุณทีม ETUDE ยังไง เป็นทริปที่ได้ครบทุกรสที่ผู้หญิงชอบ ทั้งชอปปิ้ง ทานอาหารร้านที่มีหลากหลายแบบ และ ได้เห็นความหลากหลายของเครื่องสำอางมากมาย ตื่นตาตื่นใจมาก

เติมพลังหนังท้องตึงก่อนหนังตาจะหย่อย เราจะไปลุยชอปปิ้งกันต่อ แถวนั้นมีหลายร้านดังๆ เสื้อผ้าก็ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปจนหลายพัน คือคุณภาพดูดีไฮคลาส เริศสะแมนแตน คล้ายๆเวลาเราชอบแถววิลล่า อเวนิวบ้านเรา และมี FOREVER21 ชอปเบ่อเร่อ และคุณทรายหมูน้อยก็เข้าไปหลับอยู่ในนั้น ล้อเล่น 555 รู้สึกจะแบกของชอปปิ้งยังกะกลับมาจากโรงเกลือ 5555 

ตั้งแต่รับประทานอาหารมาก จำชื่อขนมร้านนี้ได้ร้านเดียว ร้านที่เจ๋งที่สุด PASSION 5 ร้านขนมที่ไฮโซสุดพลัง เค้กก็ชิ้นละ 100 กว่าบาทแต่แบบเป็นเค้กที่ทุ่มเท มีหลายชั้น และบางชิ้นก็สอดใส่ได้อร่อยอย่างลงตัว ต้องไป !!!!! คำเดียวถ้ามาที่นี่ เจ๋งกว่าร้าน hello kitty ล้านเท่า เพราะ ขนมเยอะกว่ามาก และ อร่อยทุกอย่าง มีน้ำปั่นสูตรพิเศษ โอยยยยยยยยยยยยยยยย เพลินลิ้น แค่กัดลืมสิ้นทุกสิ้นอย่าง 555

ห้ามถ่ายรูปทุกสิ่งอย่าง แต่ช้าไปแล้วล่ะ 55555 ตากล้องเราตัวปุ๊กลุ๊กแต่ไวมาก 55555555 เลยเก็บภาพมาฝากได้หลายมุมทีเดียว :))))))))))) กะ กะ กะ กลัวที่หนายยยยยยยยย

ดูหน้าร้านก่อน ตึกสูงสีดำแบบ ไฮโซ มาก PASSION 5 เข้าไปแล้วจะไม่ผิดหวัง ผิดหวังอยู่อย่างเดียว ใหญ่ขนาดนี้ ที่นั่งเต็มตล๊อดตลอด

เสร็จแล้วทุกคนมักแวะที่นี่ถ้าเดินทางมาเที่ยวเกาหลี เอิ๊กขอตั้งชื่อว่าเจ้เล้งเกาหลี แต่เอิ๊กว่าเจ้เล้งไทยเจ๋งกว่า ที่นี่ชอบซื้อมาม่า สาหร่ายกลับบ้าน แต่เอิ๊กก็เดินขอตกเอิ๊กไม่มีที่ว่างเหลือจะแบกอะไรกลับไทยเลย ให้ตายสิ ….. ข้อดีของที่นี่แพคใส่กล่อง และเวลาไปสนามบินเขามักจะอนุญาติให้ขนเจ้ากล่องเหล่านี้กลับแม้น้ำหนักกระเป๋าจะเกินตรงนี้จะเป็นส่วนยกเว้น

ได้เวลากลับบ้านด้วยสายการบินเดิม เดินเล่นใน อินชอนนิดหน่อย ของ DUTY FEE ที่นี่ถูกกว่าไทยค่ะ เช่นน้ำหอมประมาณ5,000ของ DUTY FEE ในสนามบินเมืองไทย ก็หลากหลายดีค่ะ ใครจะมาเดินเล่นก็กลับก็เผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อย เอิ๊กกลับบ้านก็สลบเลยถึงไทยแบบดีเลย์นิดหน่อยแต่ HAPPY ตลอดจริงๆ

ต้องขอขอบพระคุณ ETUDE HOUSE THAILAND

คุณแพร คุณตั๊ก คุณมะม่วง คุณเจ คุณจิ๊บ

ขอบคุณน้องวีวี่ สาวน้อยที่ไปเรียนเกาหลีคอยมาพาเราเที่ยวตลอดทริป

ขอบคุณพี่มด คุณทราย คุณแคมป์ตากล้องสำหรับความช่วยเหลือ

ความอบอุ่นและ ความสุขตลอดทริปค่ะ

ขอบคุณคนขับ และ ETUDE HOUSE KOREA สำหรับการต้อนรับที่ดีค่ะ

ขอบคุณมากจริงๆค่ะ 

XOXO

EE

ปล ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้เตรียมพบฮาวทูวีดีโอผิวใสวาวแบบเกาหลี ที่สาวผิวแห้งห้ามพลาด อิอิ

Posted in TRAVELComments (2)

DIARY DAY1 – HAPPY KOREA WITH ETUDE HOUSE PINK PLAY CONCERT

แปลงโฉมเรียบร้อย บลอคเกอร์ไทยสายพันธุ์บิวตี้ งาม และ ต๊อง ไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่เชื่อ ติดตามไดอารี่ตอนนี้ค่ะ 555555

ETUDE ขอเสื้อผ้าโทนดำชมพู CHIC CHIC เพราะวันนี้เราจะไปดูคอนเสิร์ตแห่งปี ที่จัดขึ้นโดย ETUDE HOUSE CONCEPT ทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าหญิงที่อ่อนหวานแต่ก็มีความเทรนดี้ สดใสแฝงในตัว เป็นคอนเสิร์ตแห่งปีที่อยากสร้างแรงบันดาลใจให้สาวๆทุกคนสนุกสนานไปกับการครีเอทลุคแต่งหน้าด้วยตัวเอง วงตัวแม่ที่เราจะไปดูคือ 2 NE 1 สุดยอดแฟชั่นอีกตั้งหากที่ทั้ง เท่ห์ สวย หวาน ปนกัน ซึ่งเอิ๊กก็เตรียมตัวมาเท่านี้ เอาให้เหมาะสม กลัวว่าถ้าจัดเต็ม เดี๋ยวคนจะทักผิดว่า ซานดาร่า 55555 [ ขำๆนะ ] หลายคนอาจจะงง อีนี่มัดแกะทำไม เราอยากให้ลอนที่ทำไว้เด้งอยู่นาน เมื่อยังไม่ถึงงานก็รวบให้มันรัดตัวแน่นไว้ก่อน พอถึงงาน ค่อยแผ่แม่เบี้ย 5555555

บนรถ เราพบกับ บลอคเกอร์มากมายที่ได้รับเชิญมาก เป็นสายบิ้วตี้ ” แต่เรามั่นใจว่า ดูแล้วไทยเนี่ย เหมาะกับบิ้วตี้สุด เพราะจัดกันมาตามธีมทุกนาง เสื้อผ้า หน้าผม เหมาะสมกับความมั่นใจของตัวเอง “ ประเทศอื่นไม่ค่อยเลยจริงๆนะ หรือ เขาอาจจะสวยภายใน อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เผอิญในโลกนี้ก็ไม่ได้เป็นคุณเจน ญาณทิพย์กันทุกคน เลยสัมผัสไม่ได้ว่าใครคิดยังไง 5555555

เผื่อใครไม่รู้จักบลอคเกอร์ บิวตี้บลอคเกอร์ คือ คนที่มีบล็อคส่วนตัวเป็นของตัวเองบนโลกออนไลน์เขียนเรื่องสวยๆงามๆซะส่วนใหญ่และมีคนตามจะน้อยจะมากนับหมดค่ะ ผู้ชายก็เป็นได้ค่ะ เป็นพวกคนข้อมูล ใฝ่รู้ใฝ่เรียนด้านความงาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใช่วิจารณญาณในการอ่าน ทุกอย่างมันมี BIAS หรือ ความลำเอียงเสมอ เหมือนเวลาเราเจอสิ่งของสิ่งไหนดี เราชอบ เราก็จะพูดซะโอเว่อร์ เช่น เจอรองพื้นที่ใช่ เราก็จะบอกว่า โอโห มันสุดยอดมาก ต้องลองนะ หน้าเด้งขาววาวใสไปโลกหน้า เพราะในใจเราชอบ เราใช้แล้วเราดูดีขึ้น เราก็พูดให้มันได้อรรถรส ใส่สีใส่ไข่เข้าไป อ่านแล้วดูผิวเราด้วย หารีวิวอื่นอาจด้วย สำหรับตัวเอิ๊กเอง ถ้าชอบสิ่งไหน เว่อร์เหมือนกัน เพราะชอบอยากแชร์ความรู้สึก ว่าชอบนะ รักมาก เป็นคนแสดงออกสูง ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ค่อยพูดถึง :p

นอกเรื่องไปไกลบนรถก็เล่นเกมส์กัน ตอบคำถาม เครื่องสำอาง และ ประวัติน่ารักๆของ ETUDE ใครตอบได้เอารางวัลไป ตอบเป็นภาษาอังกฤษนะจ๊ะ ยิ่งแข็งแรงอยู่ 555 แอบได้มา 1 รางวัล ยาทาเล็บแซ่บเว่อร์ มีอาหารการกินให้ทาน ปรากฎยังแต่งหน้าไม่เสร็จไปแต่งต่อบนรถ เลยไม่ได้ทานอะไรเลย หิวมากกกกกกกกกกกกก พระเจ้า ท้องร้องลั่น 🙁

เย่ !!!! ในที่สุดพวกเรา 3 สาวก็ถึงคอนเสริต์ยักษ์ ยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้างของ ETUDE PINK PLAY ตอนที่เกาหมีมาไทยเอิ๊กก็ได้ไปดู แบบใกล้มาก ขอบอกว่าแสง สี เสียง จัดเต็มมมมมมมม แต่มันจะดีเหมือนที่ไทยรึเปล่า ตามอ่านกันต่อเลยค่ะ

WE’RE FROM ETUDE HOUSE THAILAND !!!!!!!!!!!!!!!!!!! เบาเบา 

เนื่องจากความสดใสของคนในทีมบางคนสะดุดตาคนทำข่าว เขาเลยมาขอถ่าย VTR สั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เอิ๊กแน่นอน เพราะกำลังหิว กำลังเต๋า (โมโหหิว) 5555555 

มากับทราย และ พี่มด นางก็ชอบถ่ายรูปเล่นกันขั้นโคม่ามาก อีกครั้นตัวเราจะนั่งพัก ก็กลัวไม่มีรูปกับเขา โดนไปไม่รู้กี่แสนล้านชอต แต่คนถ่ายๆสวยจริงๆ ขอบคุณคุณแคมป์จ๊า 

เขาบอกให้นั่งแบบนางงาม ก็ซะหน่อย 555555 นางงามขวัญเรือน 55555 ก็มีซุ้ม เผื่อใครอยากรู้สึกอยากมีภาพหวานๆ น่ารัก สไตล์เจ้าหญิงก็มานั่งและถ่ายรูปเก็บไว้ได้นะจ๊ะ มาก่อนมีสิทธิ์ก่อนก็ถ้าหันหลังปุ๊บ สาวเกาหลีบางท่านก็รีบเข้าไปนั่งก่อนเลย ไม่ค่อยดูคิวเท่าไหร่ไม่ได้ว่านะ ชมเชย ว่าเป็นคนที่ว่องไวดีค่ะ 555555

ซุ้มนี้ฮอตมาก ซุ้มสวยใจบุญ รายได้ที่ซื้อเครื่องสำอาง ETUDE PINK PLAY LIMITED EDITION พวกนี้จะถูกนำไปทำบุญค่ะ ก็สาวหลากหลายประเทศมีส่วนที่เหมือนกัน คือ ก็มีความเป็นคนมีจิตใจดีงาม ด้านบนก็ TVC ที่มี ซานดาร่า เป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายซ้ำไปซ้ำมา น่ารักจนอยากซื้อทุกอย่างที่เธอใช้อะ 5555

ซุ้มถ่ายรูปอีกอันนึง อยากบอกว่าไม่อยากเข้าไปเลย แต่สองสาวพี่มด และ ทรายซึ่งมีความสดใส และเป็นเด็กในตัวสูง เธอก็เข้าไปถ่าย เราก็ต้องเข้าไป เพราะเรามาแพค 3 ใบเถา เขาให้โยนและรับ ดูหน้าเอิ๊กสิ ความงามตามธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ก็ผุดออกมา

ซุ้มเพนท์หน้า เพนท์รูปดาวเดือน ตะวัน หัวใจ ไก่กา เอ้ยไม่ใช่ คนเพนท์ให้เอิ๊กผิวสวยมาก หน้าสวยมาก แต่เขาอารมณ์ไม่ดี เขาหน้าบึ้งกับเอิ๊ก เอิ๊กบอกอยากได้หัวใจ ดูเขาวาดหัวใจให้เอิ๊กสิ หน้าเอิ๊กใหญ่ขนาดนี้ ให้มาเล็กนิดเดียว แถมตูดกุดอีกตั้งหาก ถ่ายรูปมันจะเห็นชัดได้ไง วัยรุ่นนอยด์อะ 555555 มันคือหัวใจหรือปานดาวพระศุกร์กันแน่ฮะ !!!

ไปอยู่กับนางแบบอย่างทรายและพี่มด มีเหรอเอิ๊กจะยอม ก็ยอมอะ 555555 หน้าบางอันเลยเอ๋อๆ ช่างภาพก็รัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครเดินผ่านไป ผ่านมาก็มอง แบบนี้แหละ ประเทศไทยเต็มที่เสมอ welcome to thailand ทุกเวลาจ๊ะ555555

เครื่องสำอางให้ TOUCH UP หรือเติม โอโห รู้อย่างนี้บนรถบัสน่าจะกินอาหารให้อิ่มแล้วมายืนแต่งต่อแถวนี้ 5555 พลาดๆ รูปนี้หน้าเอิ๊กคนเดียวให้ชื่อว่า ฉันอยากจิก ! 555555555

คนสวยใจบุญก็ซื้อเครื่องสำอางที่ทำมาเพื่องานนี้และนำเงินไปทำบุญตามที่บอก แต่เอิ๊กไม่ได้ซื้อไม่ใช่ไม่ใจบุญนะแต่แบกกระเป๋าเครื่องสำอาง กล้อง มันหนักมาก ไหล่ทรุด ซึ่งขณะถ่าย ฝากทีม ETUDE ถือไว้อยู่ และไหนจะของแจกบนรถบัสอีกกระบุง คือแบบว่า .. งั้นเรากลับมาทำบุญที่ไทยแทนละกันนะฮะ 555 เรารักเมืองไทย และ คนไทยค่ะ

บรรยากาศสาวเกาหมีที่นู่น และ ต่างชาติอีกมากมายทุกคนก็เล่นเกมส์ตามซุ้ม ต่อแถวกันอย่างสนุกสนาน (มั๊ง) อดทนกันมากๆ ซุ้มไหนแถวยาว เอิ๊ก พี่มด ทราย และทุกคนทีม ETUDE ไทยไม่ต่อค่ะ 55555  ลัดคิวเลย ล้อเล่น 555 ที่ไม่ต่อจะได้เดินชมได้ทุกซุ้มไงจ๊ะ

 

 

และแล้วก็มาถึงช่วง ETUDE PINK PLAY CONCERT

นี่คือ 5 วงที่ชื่นชอบส่วนตัว

2 NE 1 : เป็นวงปิดท้ายแต่เอามาให้อ่านก่อน เพราะชอบที่สุดเท่ห์มาก โดยเฉพาะ CL ร้องสด และ MINZY ผิดหวังนิดหน่อยไม่ได้ยินเสียงร้องสดของ DARA และ PARK BOM เพราะเธอเหนื่อยและไม่สบายอยู่ แต่ CL ทำเราน้ำตาไหลเลย มันสุดยอดมาก เก่งมาก เยี่ยมมาก ยอดมาก เก๋มาก 

TEEN TOP : ร้องดี เต้นเก่ง เท่ห์ แต่หุ่นเหมือนกอล์ฟไมค์ สมัยเด็กๆ แต่เพลงมันส์มาก และ หน้าตาดีเกือบทุกคน แต่ละคนออกมา สาวกรี๊ดกัน HALL จะแตก

TOXIC : วงนี้เต้นเจ๋งมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เหมือนจะเป็นเกย์ แต่แบบสุดๆ เทใจให้เลยในการเต้น เพลงก็ดี มันส์ หุ่นไม่สูง เพรียวบาง กางเกงก็เน้นขาดๆ มีเพชรประดับ ฮ่าๆๆ

ULALA SESSION : วงนี้เพลงมันส์ เราว่าเรามองทะลุข้างใน เราว่าเป็นวงที่ตั้งใจวงหน่ึง ไม่ได้ขายหน้าตา แต่ขายความมั่นส์ และ ดูทุ่มเท ขอให้ไปไกลๆๆกว่านี้อีกเยอะๆค่ะ

 SHINEE : หล่อลาก เพลงดีทุกเพลง เพราะทุกเพลง เศร้าอย่างเดียว ไม่ร้องสดเลยซักคน สู้ 2pm เราไม่ได้

ความอลังการของ เอฟเฟค แสงสีเสียง บูมๆ บามๆ เอิ๊กว่าตอนมาไทย อลังกว่า

วันนี้กลับห้องแบบสลบไสลมันยาวนานกว่าอะไร แต่ประทับใจมากจริงๆ กลับไปนอนกับพี่มดก่อน 😀 เจอกันไดอารี่วันที่ 2

Posted in TRAVELComments (0)

DIARY DAY1 – HAPPY KOREA WITH ETUDE HOUSE

7-10 สิงหาคมที่ผ่านมาเอิ๊กได้มีโอกาสไปตะลอนทัวร์ที่เกาหลี

ไปดูคอนเสิร์ต PINK PLAY / ชมคอลเลคชั่นล่าสุดจาก ETUDE / ทานอาหารร้านดังๆ และ ชอปปิ้ง

โดยผู้สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้แน่นอนเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ETUDE HOUSE THAILAND

เป็นเกียรติมากค่ะเพิ่งเคยไปเกาหลีครั้งแรกตื่นเต้นสุดสุด

งานนี้ก็ไปหลั่นล้ากันหลายชีวิตมา ทั้งทีม ETUDE เอง และ บิ้วตี้บลอคเกอร์อีก 2 ท่าน

คุณทราย MHUNOIII / คุณมด CINNAMONGAL

เราเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ วันที่ 7 สิงหาด้วย ASIANA AIRLINE BANGKOK และ ถึงเกาหลีภายใน 5 ชั่วโมง ถึง 7 โมงเช้า ณ สนามบินอินชอน เกาหลีเร็วกว่าบ้านเรา 2 ชั่วโมง ปกตินอนเช้า บนเครื่องเลยไม่ได้หลับ สรุปไม่ได้หลับทั้งวัน และ ยาวนานจริงๆวันที่ 8 สิงหา วันที่เดินทางมาถึง ผ่านด่านตม. เกาหลี ไม่ยอมให้ผ่าน ถามว่าศัลยกรรมมารึเปล่า หน้าเล็กลง (ผิดเหรอสวยขึ้นอะ) ทำอย่างกับไม่ชิน บ้านตัวเองก็เปลี่ยนเยอะแยะ 55555555 ใครไปติด ตม. ในข้อหาทำโบทูลินูมทอกซิน ตอบเขาไปนะว่า โบ-ทัค-ซึ เราติดทั้งไปและกลับเลย 555

ถึงแล้วก็เมาท์มอยส์กันไปตลอดทางเพื่อเดินทางไปเจอ ETUDE HOUSE KOREA ซึ่งเขาจะพาเราขึ้นรถบัสไปยังโรงแรงที่พักของเรา

บรรยากาศที่เกาหลีดูสะอาดตา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เห็นแล้วปลื้ม 5555

ลงจากรถต้องเดินลากกระเป๋าเข้าที่พัก สังเกตุหน้าตาที่ดูตื่นเต้นมาก ตอนนี้ยังไม่ง่วง ยังหลั่นล้าอยู่

และแล้วก็เดินทางถึง SKY PARK II โรงแรมที่พักของเรานั่นเอง เย่ เย่ เย่ จะบอกอย่าง 7-11 หายากเวอร์ ที่มาเห็นอันเดียว555

กรี๊ดดดดด !!! เข้ามาถึงโรงแรมมีโต๊ะเครื่องแป้งที่มียาทาเล็บสวยๆของ ETUDE เต็มไปหมดเลย รู้งี้ไม่น่าแบกของตัวเองมา – – “

SKY PARK ll เป็นโรงแรมที่สะอาด น่านอน ที่สำคัญอยู่ทำเลเมียงดง [ MYEONGDONG ] ว๊าว ! ดงชอปแหลกชอบห้องน้ำ ชอบที่โถสุขภัณฑ์ หรือ โถส้วมเป็นที่สุด เหมือนได้เข้าห้องน้ำญี่ปุ่นเลย 5555555 จริงๆบ้านเราก็มีนะที่ TERMINAL 21 อุ่น สบาย น้ำไหลเบาๆ มีอ่างให้ลงไปแช่ นอนกี่วันก็แช่ทุกวัน แฮ่ !!!  😎

เก็บของเสร็จออกมาหาอะไรรับประทานต่อ  มาม่าหม้อไฟแฮมเลยเป็นไง กำลังหิวโซ อร่อย หม้อใหญ่แบ่งกันทาน ทุกคนเงียบหมดหลังจากอาหารเข้าปาก ถ้ามีผักด้วยเยอะๆคงอร่อยกว่านี้ มาม่าที่นี่กินกับข้าวสวย ซึ่งข้าวสวยอวบมาก เม็ดแน่น ลื่น เต็มคำ อยากกินข้าวสวยแบบนี้ทุกวันเลย

WANNA BE SWEET ! กินมาม่าค่ะ 555555555 ทริปนี้ ETUDE ดูแลอย่างกับนักมวย น้ำ อาหาร ตลอดเวลา กลัวไม่อิ่มขึ้นชกไม่ได้ เป็นทริปที่ NICE และ อบอุ่นมากค่ะ

ยังไม่ทันขาดคำ เอาเข้าโรงน้ำแข็ง เอ้ย ร้านน้ำแข็งใส ของหวานชื่อดังย่านเมียงดงซะหน่อย อาหารแต่ละอย่าง อลังมาก ระหว่างรอชิม ก็ถ่ายรูปกันไป ช่างภาพคุณแคมป์ สวิทตี้ @MHUNOIII นั้นเอง เสริทตามไปชมภาพที่เขาถ่ายกันได้ ถ่ายได้อารมณ์มาก และเป็นตากล้อง เป็นเพื่อนที่น่ารัก ก็คุยกันระดับนึงเลยกล้าโพสให้ถ่ายไม่หยุด 55555

หน้าตาแต่ละจานหน้ารับทานมาก ใหญ่มากด้วย 4 คนกำลังดี และมา 3 จาน 4 คน จะยังไงละเนี่ย ! ไอที่หวานก็หว๊านหวาน ไอที่เปรี้ยวก็ดูหน้าตาเอาเอง มันสุดยอดมาก ทริปนี้แต่ละคนไป ค่อนข้างมีความเป็นเด็กในตัวสูง ย้ำ บลอคเกอร์ที่ไปทั้งสาม รวมถึงน้องวีวี่ ที่ดูแลพวกเรา ค่อนข้างมีความเป็นเด็กในตัวสูงมาก ความสวยที่เราอาจจะยังมีไม่มาก 555 เราจะไม่นำมาใช้ จะมีก็แต่ความซุกซน บ้าบอ ติ๊งต๊อง มันจึงเป็นทริปที่อบอุ่นไงละ และมี ETUDE ดูแลเด็กๆอย่างพวกเรา 55555

เสร็จแล้วก็กลับที่พัก มองร้านชอปปิ้งตาละห้อยต่องแต่ง เพราะต้องกลับไปรีบแต่งตัว แปลงโฉมแข่งกับบลอคเกอร์ชาติอื่น 555 ล้อเล่นๆๆ เพื่อไปดูคอนเสิร์ต PINK PLAY ซึ่งเอิ๊กรอคอยเพื่อสิ่งนี้ เพราะปกติฟังเพลงเกาหมีค่า อิอิ อ่านไม่ผิด เกาหมี (หมายถึงเกาหลีในแบบฉบับของเอิ๊ก) เอาละ เราไปแปลงร่างกันเถอะ ! ติดตามต่อ ไดอารี่ 2

XOXO

Posted in TRAVELComments (0)

ROM FISH or UMBRELLA FISH


ปลาร่มตัวแรกของโลก ณ ประเทศไทย ใครพลาด เสียใจด้วย !



Posted in TRAVELComments (1)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites