Tag Archive | "SMILEBYISKY"

จัดฟันในไทยมีกี่ประเภท เจาะลึกกันนิด


 

 

จัดฟันแบบไหนดี วันนี้เอาข้อมูลมาฝาก เพราะเอิ๊กกำลังจะจัดรอบสุดท้ายแล้ว

สำหรับคนที่จัดฟันอยู่แล้ว กำลังจะจัด แบบไหนมีข้อแตกต่างอย่างไร

จุดดี จุดด้อย ราคาโดยประมาณ

เผื่อจะได้ตัดสินใจกันให้ดียิ่งขึ้น เพราะบางทีคุณหมอก็ไม่ได้มีเวลามาอธิบายให้เราฟัง

 

 

วันนี้ได้ทันตแพทย์ชื่อดังทางทวิตเตอร์ ” ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมต “

หรือ คุณหมอชิว แห่ง SMILE BY ISKY

คุณหมอเชี่ยวชาญทางด้านการจัดฟันมาก

ซึ่งเอิ๊กกับคุณหมอสนิทกัน รู้จักกันมา หลายปีแล้วจากทวิตเตอร์รอบสุดท้ายก็ต้องจัดกับ

PERFECTIONIST อย่างคุณหมอ  เพราะเอิ๊กก็อยากให้เป๊ะที่สุด

 

 [ ก่อน – หลัง จัดฟันของคนไข้ 3 คน ]

 

 


การจัดฟันยังคงเป็นที่นิยมเสมอมา ทุกศตวรรษ จะเปลี่ยนก็แค่เพียงมีเครื่องมื
หรือวิธีการหลากหลายมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนไข้ รวมถึงแต่ละที่
ก็มีโปรโมชั่นการผ่อนที่ทำให้คนไข้ง่ายต่อการเลือกรับบริการมากขึ้น
ซึ่งเมื่อก่อน 10 ปีที่แล้ว เอิ๊กต้องวางเงินเป็นก้อนหลักหมื่นเลย
แค่สำหรับการจัดฟันติดแน่นธรรมดา
 
ถ้าให้พูดเรื่องเป้าหมายเท่าที่ผ่านการจัดฟันมาทั้งสองแบบ ไม่ว่าจะติดแน่น
และ ถอดได้ ส่วนตัวมุมมองของเอิ๊ก คือ 
 
1. เพื่อสุขภาพของโครงสร้างฟันที่เหมาะสมไว้ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร
2. เพื่อความเป็นระเบียบ เรียงตัวสวยงาม
3. ก็แฟชั่นอะ ติดเหล็กยังนิยมในหมู่วัยรุ่นเสมอ ตั้งแต่ยุค พี่โบ TRIUMPHS KINGDOM
4. มโนว่าหน้าจะเรียว จมูกจะโด่งขึ้น เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่ามันจริงหรือไม่
 
 
10 ปีที่แล้ว รูปเดียวที่มี สมัยติดเหล็ก
 


” การจัดฟันที่ดี และ สวยงาม เราจะดูที่การเรียงตัวของฟัน
ดูที่ปลายฟันซึ่งจะยาวเรียงต่อกันไปเป็นเส้นโค้งอย่างสวยงาม”
 

 

เครื่องมือจัดฟัน จะอาศัยอยู่ในปากเราตั้งแต่ 3 เดือน ถึง หลายปีขึ้นไป ขึ้นกับชนิด และ ความยากง่ายของคนไข้

แบ่งง่ายๆออกเป็น 2 ประเภทกว้าง ๆ 

  • แบบติดแน่น
  • แบบถอดได้ 

แบบติดแน่น

หมายถึงเครื่องมือจัดฟันจะติดแน่นบนซี่ฟัน คนไข้ไม่สามารถถอดออกมาด้วยตนเองได้ เครื่องมือนี้เรียกว่า “แบรคเกต” (bracket) ตรงกลางมีช่อง (slot) แนวนอนสำหรับใส่ลวดจัดฟันเข้าไป

ข้อดี

  • เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะติดแน่นเกิดแรงเคลื่อนที่ตลอดเวลา ดีกว่าการจัดฟันทุกแบบ 
  • เคลื่อนฟันได้แบบทุกมิติ ทั้งแนวหน้าหลัง (ฟันเหยิน) คนที่ฟันยาวกดให้สั้นลง คนที่ฟันสั้นกดให้ยาวลง หรือบิดซ้ายขวา 
  • การปรับรากฟันก็สามารถทำได้โดยที่ตัวฟันอยู่ที่เดิมก็ทำได้เช่นกัน

ข้อเสีย

  • มองเห็นได้ชัด
  • มีคราบกาวซึ่งเวลาเอาออกถ้าเอาออกไม่หมดอาจเกิดเป็นคราบ เป็นดวงเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลังฟอกสีฟัน
  • หากแปรงฟันไม่สะอาดเวลาจัดฟันเวลาถอดเหล็กออกอาจทำให้เกิดคราบด่างขาวตามรอยแบรคเกต
  • เวลาถอดเครื่องมือต้องระวังทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่อย่างนั้นฟันอาจร้าวได้เช่นกัน
  • อาจจะรู้สึกรำคาญ หรือ เกิดบาดแผลเวลาลวดด้านในเกี่ยวกระพุ้งแก้มได้
  • เศษอาหารติดได้ง่าย มีคราบจุลินทรีย์ง่าย ต้องแปรงให้สะอาดอย่างทั่วถึง มิฉะนั้นอาจจะมีฟันผุและเหงือกอักเสบ-มีกลิ่นปาก

 

  

แบรคเกตยังอาจแบ่งออกอีกเป็นแต่ละชนิดดังนี้ 

1. แบรคเกตโลหะ (เป็นโลหะผสม)
เรียกง่ายๆ มันคือ แบรคเกตธรรมดายอดนิยมเห็นทุกศตวรรษ จะมีร่องให้ใส่ยางลงไปเพื่อล็อกแบร็กเก็ตกับลวดให้อยู่ติดกัน หลักการเคลื่อนฟันจำเป็นต้องใช้ยาง (สีสัน,สีใส)  (elastic module, o-ring) เป็นตัวรัดลวดให้อยู่ติดกับแบรคเกต และพระเอกสำคัญ คือ “เจ้าลวดจัดฟัน” ที่เมื่อถูกรัดโดยยาง มันจะเกิดแรงกระทำให้เกิดการเคลื่อนที่ต่อซี่ฟันแต่ละซี่ผ่านแบรคเกต โดยยางซึ่งมันจะฝืดทำหน้าที่คอยกดลวดอยู่ ฟันจะเคลื่อนมันโดยการที่ต้องค่อยๆเอาชนะแรงเสียดทานจุดนี้ ราคาการจัดฟันจะต่ำสุด ในบรรดาติดแน่นทั้งหมด 30,000 – 50,000 + บาท ขึ้นกับสถานประกอบการ

 

 

 

2. แบรคเกตแบบสีเหมือนฟัน
หลักการเคลื่อนฟันเหมือนตัวแบรคเกตโลหะธรรมดาทุกประการ ในอดีตทำมาจากพลาสติกซึ่งไม่ค่อยแข็งแรง พังง่าย และ ติดสีจากอาหารและเครื่องดื่มจนเหลืองได้ง่าย แต่ปัจจุบันทำจากเซรามิคซึ่งมีความใส ทะลุไปเห็นถึงสีฟันธรรมชาติของคนไข้แต่ละคนจึงเลียนแบบสีฟันได้ดีกว่า จุดเด่น แข็งแรง เลียนแบบสีฟันดีกว่า และ มีความแข็งแรง จุดด้อย ด้วยความแข็งแรงของวัสดุ เวลาการสบฟัน เวลากัดฟันมาโดนแบรคเกต ฟันอาจมีสึกกร่อนได้ จึงระวังมากสำหรับคนไข้ที่สบฟันลึก อาจจะมีการติดแบบเซรามิคแค่ข้างบน ข้างล่างทำแบบแบรคเกตธรรมดาไป อยู่ที่เวลาแกะแบรคเกตออกจากฟันต้องระมัดระวังสูงเพราะอาจมีผลต่อเคลือบฟันได้ เนื่องจากเซรามิกค่อนข้างแพง ราคาในการจัดฟันประเภทนี้ก็สูงขึ้นไปด้วย ถึงมันอาจจะดูแข็งแต่มันก็เปราะง่าย ต้องใช้คีมถอดพิเศษที่ผลิตออกแบบมาสำหรับเขาเอง 

 

 
 

3. แบรคเกตโลหะเปิดปิดได้เพื่อล็อคลวดเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
ความพิเศษของแบรคเกตคือในตัวจะเปิดปิดเพื่อล็อคลวดจัดฟันได้ด้วยตัวเองคล้ายท่อ (เรียกว่าระบบ self-ligating bracket) ทำให้ไม่ต้องใช้ยาง ( O-Ring สีสัน) มีความเสถียรกว่า ฟันเคลื่อนเร็ว เรียงเสียดทานน้อย เวลามาพบหมอ หมอจะมีเครื่องมือที่ใช้ปิดเปิดแบรคเกตโดยเฉพาะ การที่ฟันเคลื่อนที่เร็วเพราะช่องที่ใส่ลวดเวลามองจะมีลักษณะคล้ายท่อ ไม่มีแรงเสียดทาน ฟันจึงเคลื่อนตัวผ่านง่ายมาก ซึ่งจากการจัดฟันแบบแบร็กเก็ตธรรมดา จะมียางซึ่งฝืดคอยกดอยู่ กว่าฟันจะเคลื่อนมันต้องเอาชนะแรงเสียดทานตรงนี้ มีหลายแบรนด์ แต่เอาจริงคนไทยที่ดังๆ และ รู้จักก็ยี่ห้อ DAMON มากสุดที่ถูกพูดถึง (มันคือชื่อแบรนด์ ไม่ใช่ชื่อชนิดการจัดฟันนะคะ) ต้นทุนการผลิตละเอียดขนาดนี้ก็ต้องแพงค่ะ ราคาประมาณ 50,000 – 80,000 ++ ขึ้นกับสถานประกอบการ 

 

[ สำหรับจุดเขียวบนแบรคเกตคือตัวไกด์สำหรับคุณหมอเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการติด

ลงบนผิวฟันได้มากขึ้น ซึ่งแบรคเกตธรรมดาไม่มี ]

 

 

4. แบรคเกตสีเหมือนฟันเปิดปิดได้เพื่อล็อคลวดเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
หลักการคล้ายตัวที่เป็นโลหะ ข้างบน แต่ผลิตด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน และ แน่นอนมันจะแพงขึ้นไปอีก ราคา 80,000 + ขึ้นกับสถานประกอบการ

 


 

การเปิดปิดสำหรับแบรคเกตที่เปิดปิดได้ทั้งแบบโลหะ และ วัสดุสีเหมือนฟัน

จะมีที่เปิดปิดเฉพาะ และ มีลวดจัดฟันเฉพาะ ซึ่งคุณภาพจะเกรดดีมาก

 

 

 

5. แบรคเกตโลหะเพื่อจัดฟันด้านใน (Lingual Orthodontics)
ถูกออกแบบมาเพื่อจัดฟันด้านในโดยเฉพาะ สำหรับที่อยากจัดฟันแต่ไม่พร้อมจะให้คนอื่นเห็นเหล็ก และ ไม่มีวินัยพอที่จะใส่แบบถอดได้ แพงที่สุดในบรรดาการจัดฟันติดแน่น ราคา 120,000 – 180,000 + บาท

 

 

 

พระเอกในการเคลื่อนฟันในระบบจัดฟันแบบติดแน่นคือ “ลวด”

 

ลวดจัดฟันมี 3 ชนิด
 
แบรคเกตทำหน้าที่ถ่ายทอดแรงจากลวดไปไว้บนฟัน แต่สิ่งที่ทำหน้าที่เคลื่อนฟันจริงๆ คือ ลวด 
 
1 .ลวดนิเกิ้ลไทเทเนียม (Nickle-Titanium – NITI)
คุณสมบัติ เป็นลวดที่ดัดไม่ได้ เพราะเป็นลวดที่จำรูปร่างตัวเองได้ ( SHAPE-MEMORY) ไม่ว่าจะดัดยังไงมันจะคอยดันตัวเองกลับสู่รูปร่างเดิมของมัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมฟันที่ซ้อนเกเมื่อใส่ลวดพวกนี้เข้าไป ฟันจึงค่อยๆคลี่คลายจนเรียบสวยได้ เพราะลวดจะคอยดึงฟันให้เคลื่อนกลับมาโค้งตามรูปเดิมของลวดนี้เอง เนื่องจากลวดจะต้องอยู่ติดกับแบรคเกต เพื่อถ่ายทอดแรงให้ฟันเคลื่อนที่ ดังนั้น เวลาลวดเคลื่อนจึงทำให้แบรคเกตเคลื่อนที่ตามไปด้วย
 
 
 
2. ลวดสเตนเลสสตีล (Stainless Steel – SS)
คุณสมบัติ เป็นลวดที่ดัดได้ แรงจากลวดชนิดนี้จะมีมากกว่า แข็งกว่า ใช้กับฟันที่เริ่มคลายจากการซ้อนเก
มันกำลังจะเรียบแล้ว และ ต้องการกดฟันบางจุดให้เข้ามานิดนึง ก็ต้องใช้ทักษะในการดัดลวดเพื่อให้ลวดออกแรงกับฟันที่เราต้องการให้มันเคลื่อน 
เอาไว้แต่งรูปร่าง หรือ เก็บรายละเอียด (ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบดามอนทางบริษัทอาจเคลมว่าไม่ต้องใช้ลวดแบบดัดลักษณะนี้ แต่บางครั้งคุณหมอต้องมีศิลปะใน
การวิเคราะห์ เพื่อใช้ดัดลวด แล้วใช้กับการจัดฟันแบบดามอน ซึ่งก็มีลวดสเตนเลสสตีลของดามอนโดยเฉพาะเช่นกัน โดยที่ราคาค่อนข้างสูง)
 
 
 
3. ลวด (LS – TITAN) เป็นลวดแบบ 2 IN 1
มีคุณสมบัตทั้งดัดได้และดัดไม่ได้ อยู่ในลวดเส้นเดียวกัน เลือกท่อนที่ต้องการจะดัดและไม่ดัดได้
เพียงแต่ตอนที่ต้องการดัดเราต้องมีคีมไฟฟ้าเพื่อช่วยในการดัด ราคาสูงมาก
กรณี ที่ต้องการแก้ไขฟันของคนไข้เร็วๆ เช่น คนถอนฟัน ฟันหายไป ต้องการให้มันชิดเร็วๆ
 

 
” การจัดฟันที่เรียงตัวกันไม่สวย ก็จะเริ่มจากลวดนิเกิ้ลไทเทเนียมเส้นเล็กก่อน
แล้วค่อยเขยิบไปเส้นใหญ่ เพื่อทำให้คนไข้ไม่บาดเจ็บ ไม่ปวดมาก “

 

ยังมีกลไกการเปิดช่องว่างระหว่างฟัน
อาจมีการใช้สปริงที่ทำมาจากนิเกิ้ลไทเทเนียมซึ่งมันจะคอยยื
ให้กลับมาในสภาพเดิมของมัน จึงช่วยดันให้เกิดที่ว่างของช่องฟันตามที่เราต้องการ

หรือ จะเป็นกลไกการเคลื่อนของฟัน ก็อาจมีการดัดลวดเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล
ในการเคลื่อนของลวดด้วย
 

การจัดฟันยังมีอุปกรณ์อีกหลายชิ้นที่นำมาใช้ในการจัดฟันด้วย ไม่ว่าจะเป็น 

หมุด ตะไบ คีม ฯลฯ


 

แบบถอดได้

หมายถึงเครื่องมือจัดฟันที่คนไข้ถอด-ใส่ได้ด้วยตนเอง

ข้อดี

  • ที่ทำความสะอาดง่ายทั้งฟัน และ เครื่องมือจัดฟัน
  • เวลาเข้าสังคมไม่ต้องการให้ใครเห็นก็สามารถถอดได้ชั่วคราว
  • สามารถถอดเพื่อรับประทานอาหารได้สะดวก
ข้อด้อย
  • ความสามารถในการเคลื่อนฟันอาจจะไม่ได้รวดเร็ว และ ไม่ได้ทุกทิศทางเหมือนเครื่องมือแบบติดแน่น
  • ต้องใช้ความร่วมมือจากคนไข้สูงมากในการใส่ให้ครบชั่วโมงที่กำหนดมิฉะนั้นอาจไม่ได้ผล
 

เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ 

 

1. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้แบบดั้งเดิม 

ซึ่งประกอบไปด้วยอะคริลิค และ ลวด เครื่องมือที่ใช้แรงเคลื่อนฟันจากลวดสปริงที่ทันตแพทย์จัดฟันทำการดัดเอาไว้

 

 

 

2. เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ชนิดพลาสติกใสครอบลงไปบนฟันทุกซี่

โดยเมื่อใส่เครื่องมือจัดฟันชนิดนี้แล้วจะมีแรงดันฟันไปตามทิศทางที่กำหนด เคลื่อนที่ทีละนิดประมาณ 0.25 มิลลิเมตร แบรนด์ดังที่เรารู้จักกันดี INVISALIGN เป็นชื่อยี่ห้อของเครื่องมือการจัดฟันแบบใส จุดเด่น มองไม่เห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ ทุกอย่างทำแล้วบันทึกเก็บในระบบขั้นตอน ลักษณะ WORLD WIDE ครอบคลุมในระดับสากล เห็นภาพได้ชัด เป็น3D สามารถปรับแก้ ตรวจก่อนที่จะยืนยันชิ้นงาน INVISALIGN ได้ ที่เครื่องมือค่อนข้างมีราคาแพงเพราะใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาในการทำอย่างละเอียด ทุกอย่างถูกทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ยังรวมถึงเวลาที่เครื่องมือ เสียหาย ทำให้ทันตแพทย์สามารถดูจุดที่เสียหาย แล้วสั่งชิ้นงานที่ต่อเนื่องกันมาให้อย่างโดยง่าย อีกทั้งต้องส่งแบบพิมพ์ฟันคนไข้ไปยังห้องแล็บต่างประเทศ อีกทั้งยังสามารถสั่งทำแก้ไขได้อีก 1 รอบในกรณีที่ฟันไม่สวยสมบูรณ์แบบตามที่ได้วางแผนกันไว้ ราคาเริ่มตั้งแต่ 95,000 – 180,000 ++ บาท ระยะเวลาในการจัดฟันมีตั้งแต่ต่ำสุด 3 เดือนกว่า – เป็นปี แล้วแต่ความยากง่าย และ ชนิดของ INVISALIGN ขึ้นกับสถานประกอบการ และ ก็มีอีกแบบที่ไม่ได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำ แต่ใช้แรงงานมนุษย์เป็นคนสร้างเครื่องมือขึ้น และ ปรับตำแหน่งฟันบนปูนหล่อแบบจำลองฟันของคนไข้ ราคาจะถูกกว่ามาก แต่ความละเอียด และ การเคลื่อนฟันจะจำกัดกว่ามากๆ (ประสบการณ์ตรง) ราคาตั้งแต่หลักพัน ถึง หลักหมื่นต้นๆ

 


 

การละลายของรากฟันจะละลายไปเลยอย่างถาวร ไม่ยาวขึ้น
สาเหตุส่วนใหญ่จะมาจาก
การได้รับการกระทบกระเทือน บาดเจ็บ เช่น อุบัติเหตุ
การจัดฟัน ก็อาจจะทำให้รากฟันละลายไปได้บ้าง อาจมีการ X-RAY ดูทุก 6 เดือน
ขึ้นกับตัวบุคคล บางคนก็เป็นคนที่รากฟันละลายง่าย 
เช่น คนที่เคยมีการรักษารากฟันมาก่อน

 
 

เครื่องมือการจัดฟันทั้งหมดที่นำมาให้อ่านกัน
จะเน้นไปที่เครื่องมือที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟันยังไม่รวมเครื่องมือที่ใช้คงสภาพฟัน
หรือ เครื่องมือที่ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของขากรรไกรนะคะ เดี๋ยวจะสับสนกัน 🙂 

 

 

 

จัดฟันจมูกโด่งจริงหรือไม่

เพราะว่าริมฝีปากมันยุบเข้าไป จมูกเด่น เห็นชัด เลยดูว่าจมูกโด่ง

มันเป็นภาพลวงตาของมิติองศา อวัยวะใบหน้า

 

จัดฟันหน้าเรียวจริงหรือไม่

ที่เรียวเพราะว่าฟันเกิดการเคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง อาจเคี้ยวข้างลำบากขึ้นไม่ได้ใช้งาน

หน้าก็อาจเรียวขึ้น หรือ การจัดฟัน กรามเปลี่ยนององศา ใบหน้าอาจดูยาวขึ้นนิดนึงได้

 

 

 

ใครที่รอคอย REVIEW การจัดฟันแบบ INVISALIGN I7 ซึ่งเอิ๊กมั่นใจมากว่า

ยังไม่เคยมีใคร REVIEW ในเมืองไทย และ เอิ๊กจะเป็นคนแรก ที่จะมาเล่าเกี่ยวกับ

ระบบการจัดฟันแบบใส แบรนด์ INVISALIGN ทั้งหมด เหตุใดถึงแพงซึ่งถือว่า

เป็นการจัดฟันรอบสุดท้ายของเอิ๊กที่ HI-END ในเรื่องเทคโนโลยีมากสุด พูดแล้วตื่นเต้น

เพราะ ครั้งนี้เอิ๊กมีส่วนร่วมในการออกแบบแผนการรักษาความสวยงามของฟันที่

จะเรียงตัวกันกับคุณหมอ (ซึ่งเป็นจุดเด่นของ INVISALIGN) เป็นการจัดฟันแบบเดียว

ที่ทำให้เราเห็นอนาคตตอนจบที่สวยงามของฟันเรา รอนะครับ เดี๋ยวมาต่อ 😀

 

 

 
 

 

ที่มาข้อมูล
ทันตแพทย์ วุฒิพงษ์ เหล่าอมต
ศูนย์ทันตกรรม SMILE BY ISKY
 
 
แหล่งรูปภาพเพิ่มเติม

Posted in TEETHComments (0)

HOW TO แก้ปัญหาเหงือกสีคล้ำ ด้วยเลเซอร์ Q-Switched Nd: YAG Laser


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

             ปัญหาเหงือกดำ คล้ำ (Black Gums) .. ปัจจุบันนี้สามารถรักษาให้หายได้นะ รู้ยัง ? สำหรับ 1 ในวิธีวันนี้จะขอมาเล่า เรื่องการรักษาเหงือกสีเข้ม คล้ำ ด้วยเลเซอร์ Q-Switched Nd: YAG Laser บทความนี้จะขออนุญาตินำมาจากคลินิค SMILE BY ISKY เอามาลง ร่วมถึงรูปคนไข้จริง เพื่อประกอบบทความค่ะ


 

                                     

                        ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เลเซอร์ภายในช่องปาก ได้กล่าวไว้ว่า สาเหตุของเหงือกสีคล้ำนั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ การสูบบุหรี่ และพบได้ปกติในคนที่มีผิวสีคล้ำ โดยทั่วไปคนทุกคนจะมีเซลล์สร้างเม็ดสี อยู่ที่ผิวหนังและเหงือกอยู่แล้ว เพียงแต่การผลิตเม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน(Melanin) จะมีจำนวนมากน้อยต่างกัน คนที่มีการสร้างเมลานินน้อย ผิวจะขาว และเหงือกมีสีชมพู คนที่มีเมลานินมาก ผิวและเหงือกจึงเป็นสีคล้ำ ฉะนั้น คนที่เหงือกคล้ำ ก็เป็นลักษณะธรรมดา ของคนผิวคล้ำนั่นเอง แต่ในบางกรณีคนที่ผิวขาวอาจมีการผลิตเม็ดสีปริมาณมากเฉพาะบริเวณเหงือกได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเหงือกสีคล้ำ ดำ ให้เป็นสีชมพูก็สามารถทำได้

                         สีของเหงือกคนเรา เป็นผลรวมจากขนาดและปริมาณเส้นเลือดฝอยส่วนผิวเหงือก ความหนาของเยื่อบุผิวเหงือก และปริมาณของเม็ดสี ซึ่งเม็ดสีตามธรรมชาติที่ทำให้เหงือกมีสีอ่อนหรือสีคล้ำได้แก่ เมลานิน แคโรทีน และออกซีฮีโมโกลบิน พบว่า “เมลานิน” เป็นตัวกำหนดสำคัญที่จะทำให้เหงือกมีสีอ่อน หรือคล้ำ ซึ่งสัมพันธ์มากกับสีผิว อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ คนที่มีสีผิวอ่อนหรือขาว มักจะมีเหงือกชมพูซีด ส่วนคนที่มีผิวเข้มหรือคล้ำ มักจะมีเหงือกสีเข้มเช่นกัน

 

                        โดยเหงือกที่มีสีเข้มคล้ำมักเป็นที่บริเวณฟันหน้า และจะเห็นชัดมากหากคน ๆ นั้นมีภาวะยิ้มเห็นเหงือก (gummy smile) การมีเหงือกสีเข้มคล้ำ ไม่ได้เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ยกเว้นในรายที่มีสาเหตุเกี่ยวกับโรคอื่น ๆ ชัดเจน เช่น ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ กลุ่มอาการ Albright กลุ่มอาการ Peutz-Jeghers ซึ่งทำให้เกิดภาวะเหงือกมีสีเข้มคล้ำได้เช่นกัน โดยมากความกังวลของคนที่มีเหงือกสีเข้มคล้ำ คือ เรื่องความสวยงามเวลายิ้ม การยิ้มซึ่งถือเป็นการสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพอย่างนึงไม่ว่าจะต่อตนเองหรือผู้อื่น

 

ปัจจัยการเกิด ริมฝีปาก-เหงือกคล้ำ
     1. ลักษณะเฉพาะบุคคล โดยพบว่า คนผิวคล้ำจะมีเหงือกและริมฝีปากสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว 
     2. การสูบบุหรี่
     3. ผู้ที่สุขภาพไม่สมบูรณ์ เช่นเลือดจาง เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยระยะฟื้นไข้ ปริมาณเลือดที่ไหลมาเลี้ยงริมฝีปาก และเหงือกมีน้อย จึงทำให้ริมฝีปาก และเหงือกดูซีดเซียว หรือผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจที่เลือดมีความเข้มข้น ก็จะทำให้ริมฝีปากดูคล้ำกว่าคนปกติได้ 
     4. ยาบางชนิด ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้แดดได้ เช่น เบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยารักษาเชื้อรา ยารักษาหวัดหรือโรคภูมิแพ้ 
     5. การแพ้ ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก รวมถึงลิปสติก
     6. ลิปสติก ซึ่งสารประกอบที่ทำให้เกิดปัญหาที่สุดคือ สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน (ที่ให้ความชุมชื้น) และสารกันบูด 
     7. สิ่งแวดล้อมรอบตัว อุณหภูมิ อาจมีผลทำให้ริมฝีปากเปลี่ยนแปลงได้ เช่นช่วงที่อากาศหนาวเย็น ปากอาจจะมีสีคล้ำขึ้น เพราะเส้นเลือดหดตัว

 

 

                   ปัจจุบันมีวิธีการรักษามากมาย ตั้งแต่วิธีผ่าตัดศัลยกรรมตัดเหงือก ทั้งด้วยใบมีดและด้วยความเย็นจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บ ไม่สบายเหงือก และเกิดแผลที่ต้องรอระยะเวลาให้หาย จนถึงวิธีที่รวดเร็ว ไม่เกิดแผล และมีงานวิจัยรับรองว่าได้ผลทางคลินิกที่ดี อย่างการใช้เลเซอร์ ซึ่งมีเลเซอร์หลายชนิดที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาภาวะเหงือกมีสีเข้มคล้ำ เช่น CO2 Laser, Erbium YAG Laser , Diode Laser ไปจนถึง Q-Swithed Nd: YAG Laser

เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการรักษาภาวะเหงือกมีสีคล้ำคือ Q-Switched Nd: YAG Laser เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่สามารถทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี และเม็ดสีเมลานินได้โดยตรง ซึ่งเม็ดสีจะจางลงอย่างชัดเจนภายหลังการรักษาเพียง 1 ครั้ง ต่างกับเลเซอร์ชนิดที่มีฤทธิ์ในการกรอผิว ”  

 

                   วันนี้จะมาพูดถึงเลเซอร์ Laser ที่เอาไว้ใช้ฟอกสีเหงือก รักษาเหงือกดำ ที่มีใน SMILE by iSKY คือ Q-Switched ND-Yag Laser และเป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่มีการถลอกของเหงือก เป็นการทำลายเมลานิน (เม็ดสี) และฆ่าเซลล์กำเนิดเม็ดสี (เมลาโนไซต์) จึงทำให้การรักษาเหงือกเข้มคล้ำหรือเหงือกดำด้วยเครื่องเลเซอร์ชนิดนี้ ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ไม่เจ็บ และรวดเร็ว แตกต่างจากการใช้เลเซอร์แบบถลอกผิวเหงือกออก เพราะเหงือกอาจจะกลับมามีสีคล้ำได้ใหม่เพราะเซลล์กำเนิดเม็ดสีไม่ได้ถูกฆ่า

 
* Q-Switched ND-Yag เป็นเครื่องที่มีราคาแพง ไม่ค่อยพบตามศูนย์ทันตกรรม แต่ที่ SMILE by iSKY เรามีเครื่องนี้เพราะทางศูนย์ผิวหนัง iSKY ใช้สำหรับรักษากระ จุดด่างดำอยู่แล้ว เราจึงสามารถผนวกเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ไว้สำหรับการรักษาในช่องปากด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบของคนไข้

 

หลักการ คือ พลังงานของเลเซอร์จะถูกเลือกดูดซับโดยเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดสี(เมลาโนไซต์) และเม็ดสี(เมลานิน) เท่านั้น โดยเซลล์ชนิดอื่น ๆ จะไม่ตอบสนองต่อพลังงานของเลเซอร์เลย เลเซอร์ชนิดนี้จึงปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่เกิดแผล และเมื่อเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดสี และเม็ดสีดูดซับพลังงานจากเลเซอร์เข้าไป มันก็จะถูกทำลายอย่างถาวร อาจต้องทำประมาณ 3 ครั้ง ขึ้นกับความเข้มคล้ำของเหงือก

ขั้นตอน

  1. เริ่มต้นจากการใส่เครื่องมือช่วยในการถ่างอ้าริมฝีปาก
  2. แพทย์จะเป่าลมเย็นลงไปบนเหงือกบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เพื่อลดความรู้สึกเจ็บระหว่างการทำ
  3. มีการตกสะเก็ดซึ่งใช้ระยะเวลาราว 7 วัน
  4. มีการนัดมาติดตามผล และ ทำซ้ำประมาณ 1-3 ครั้ง ภายในระยะเวลาห่างกันประมาณ 1 เดือน

 

ภาพคนไข้หลังการรักษาด้วย Q-Switched Nd: YAG Laser 1 ครั้ง

ที่ SMILEBYISKY    

 

การดูแลรักษาหลังจากการฟอกสีเหงือกด้วยเลเซอร์

              ภายหลังทำเลเซอร์จะมีแผลตกสะเก็ดบริเวณเหงือกในตำแหน่งที่ทำเลเซอร์ ระหว่างนี้ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัดหรือเผ็ดจัด และงดสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะจะทำให้แผลหายช้าโดยที่สะเก็ดจะหลุดไปภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังสะเก็ดหลุด จะเห็นได้ชัดว่าเหงือกมีสีจางลง การทำเลเซอร์รักษาเหงือกสีคล้ำ อาจต้องทำ 1-3 ครั้ง ในระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน

 

                   “ในรายที่สูบบุหรี่นั้นถ้าทำการฟอกสีเหงือกไปแล้วและกลับไปสูบบุหรี่อีก เหงือกก็จะกลับมาคล้ำได้เร็วกว่ากรณีปกติเพราะในบุหรี่นั้นมีสารที่กระตุ้นให้มีการผลิตเม็ดสีเกิดขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นยังมีสารตะกั่วเจือปนอยู่ด้วยทำให้เกิดแถบคล้ำบนเหงือกที่เรียกว่า lead line แต่ก็สามารถทำการฟอกสีเหงือกซ้ำได้ ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาแน่นอนว่าในแต่ละคนนั้นสามารถทำได้กี่ครั้งเพราะเซลล์ยังมีการสร้างเม็ดสีผิวอยู่ “

 

สนนราคาตอนนี้ 1 คอร์ส 3 ครั้ง คอร์สละ 15,000 บาท

 

 
 

** บทความโดย รศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา และ ทพ.วุฒิพงษ์ เหล่าอมต **

Reference :

  1. http://laser-surgery-bangkok.com/
  2. http://pixshark.com/healthy-gums-vs-gingivitis.htm 
  3. www.familydentalclinic.com.au
  4. http://www.siammedia.org/articles/dental/20110225.php

Posted in REVIEW, TEETHComments (0)

REVIEW ผ่าตัดฟันคุดแบบดมยาสลบที่ SMILE BY ISKY


 

 

 

 

 

 

คำถาม ผ่าตัดฟันคุดสามารถดมยาสลบได้ไหม

คำตอบ คือ ได้นะคะ ในเมืองไทยมีหลายโรงพยาบาล

 

 

 

ครั้งนี้เอิ๊กได้รับการดูแลในการผ่าตัด และ พักฟื้นทั้งหมดโดย

คลินิค SMILE BY ISKY และ โรงพยาบาลวิชัยเวชฯลฯหนองแขม

 

 

 

 

 

 

เรื่องของฟันคุด

 

[ ฟันคุดเอิ๊กมีทั้งหมด 4 ซี่ อยู่ลึกทุกซี่ บางซี่ยาก และ อยู่ลึกมาก ลองดูด้านบน ]

 

ฟันคุดคืออะไร ?? 

                    ฟันคุดหมายถึงฟันซี่ใด ๆ ก็ตามที่ไม่สามารถขึ้นสู่ช่องปากได้ตามปกติ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น มีเนื้อที่ว่างในขากรรไกรไม่พอที่จะให้ฟันซี่นั้นขึ้นได้ หรือหน่อฟันในกระดูกมีตำแหน่งผิดปกติ อาจไปอยู่ใต้รากฟันซี่ข้างเคียงเมื่อถึงเวลาจะขึ้นสู่ช่องปากจึงขึ้นไม่ได้เพราะติดสิ่งกีดขวาง

                    ฟันซี่ที่มักพบบ่อยว่าเป็นฟันคุด คือฟันเขี้ยวบน และฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่างและบน ซึ่งคนไข้ที่มาพบคุณหมอที่คลินิกส่วนมากจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับฟันคุดที่เป็นฟันกรามล่างซี่สุดท้ายกันมาก ในที่นี้จึงขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับฟันซี่นี้เป็นพิเศษนะคะ

                    ก่อนอ่านบทความลองอ้าปากกว้างหน้ากระจกแล้วลองนับฟันกรามใหญ่ล่างดู หากเรามีอายุมากกว่า 12 ปีควรจะเห็นฟันกรามใหญ่ล่างสองซี่ติดกัน แต่ทราบไหมคะว่าที่จริงแล้วเรายังมีฟันกรามใหญ่ล่างอีกซี่ที่แอบซ่อนอยู่ในขากรรไกร รอเวลาถือกำเนิดสู่ช่องปาก ฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่าง มีระยะเวลาขึ้นสู่ช่องปากตามธรรมชาติเมื่อเรามีอายุประมาณ 18-21 ปี ฝรั่งจะเรียกฟันซี่นี้ว่า “wisdom tooth” เพราะเป็นฟันที่ขึ้นในช่วงอายุที่คนเราเปลี่ยนจากวัยเด็กเป็นวัยผู้ใหญ่ ในกรณีที่เรามีที่ว่างด้านหลังฟันกรามมากพอ และหน่อฟันอยู่ในตำแหน่งและมีทิศทางการขึ้นสู่ช่องปากถูกต้อง ฟันกรามใหญ่ซี่ที่สามล่างนี้ก็จะขึ้นสู่ช่องปากได้ตามปกติ เราก็จะไม่มีปัญหาเป็นฟันคุดที่ซี่นี้ แต่คนส่วนใหญ่จะมีที่ว่างในขากรรไกรไม่เพียงพอให้ฟันซี่นี้ขึ้นได้ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นช่วงอายุ 18 ปีเป็นต้นไปอาจจะพบว่ามีฟันคุดที่ฟันกรามซี่ที่สามล่างนี้ได้

                    เราอาจรู้ว่ามีฟันคุดโดยบังเอิญจากการมาตรวจเอกซ์เรย์เพื่อการจัดฟัน หรืออาจรู้เพราะมีอาการปวด บวม ติดเชื้อ อ้าปากได้น้อยลง หรือเป็นหนองที่กรามล่างท้ายสุดก็ได้

 

การรักษาเมื่อมีปัญหาปวดฟันคุด 

                    คือต้องเอาฟันคุดออก อาจจะด้วยการถอนออกตามปกติหากฟันคุดซี่ดังกล่าวโผล่ขึ้นสู่ช่องปากได้บางส่วนแล้ว แต่โดยมากต้องผ่าตัดฟันคุดออก โดยคุณหมอจะตรวจวินิจฉัยในช่องปากและยืนยันตำแหน่งฟันคุดจากฟิล์มเอกซ์เรย์ ฟันคุดที่อยู่ในตำแหน่งลึกเข้าไปในขากรรไกรจะผ่าตัดออกได้ยากกว่า สิ่งที่สำคัญมากก็คือการดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดฟันคุดออกไป เพราะจะทำให้อาการปวดและบวมหายเป็นปกติได้เร็ว

 

การห้ามเลือด

                    หลังจากคุณหมอเย็บแผลและให้กัดผ้าก๊อซเพื่อห้ามเลือดแน่นพอประมาณเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง และให้กลืนเลือดและน้ำลาย ห้ามอมเลือดไว้ในปากหรือบ้วนเลือดและน้ำลายออกมา เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลออกมาอีกและหยุดไหลยาก หลังคายผ้าก๊อซออกอาจพบเลือดซึมจากแผลเพียงเล็กน้อยได้เป็นปกติ และเลือดอาจซึมได้ถึง 24 ชั่วโมง อาจเปลี่ยนผ้าก๊อซที่ทันตแพทย์ให้ต่ออีก 1 ชั่วโมง แต่ต้องล้างมือให้สะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เพราะผ้าก๊อซที่ให้เพิ่มไปเป็นผ้าก๊อซที่ฆ่าเชื้อไว้แล้วห้ามบ้วนน้ำแรง ๆ ในช่วง 3 วันหลังผ่าฟันคุดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลิ่มเลือดตามธรรมชาติที่ช่วยอุดปิดปากแผลหลุดออกมา และจะทำให้กระดูกเบ้าฟันติดเชื้อได้ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนัก รับประทาน หรือ ดื่มของร้อนจัด และ เผ็ดจัด และ ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และ ห้ามสูบบุหรี่ เพราะจะกระตุ้นให้เลือดไหลได้

 

การลดอาการบวม

                    ให้ประคบน้ำแข็ง โดยใช้ผ้าห่อก้อนน้ำแข็งประคบที่แก้มข้างที่ผ่าตัดฟันคุดมา โดยประคบ 30 นาทีแล้วพักประมาณ 15 นาที ควรประคบไว้ตลอด 24 ชั่วโมงแรกเพื่อลดการบวม และ ช่วยห้ามเลือด ห้ามอมน้ำแข็งไว้ในปากเพราะไม่ได้ช่วยในเรื่องการห้ามเลือด อีกทั้งน้ำแข็งอาจมีเหลี่ยมมุมที่คมซึ่งจะบาดปากแผล และความสกปรกของน้ำแข็งจะทำให้แผลติดเชื้อได้ คนไข้อาจพบการบวมมากที่สุดในวันที่ 3 หลังผ่าตัดฟันคุด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ยกเว้นว่าจะบวมมาก และ มีไข้รวมทั้งเจ็บปวดแผลมาก ให้รีบกลับมาพบทันตแพทย์

 

การทำความสะอาดช่องปาก

                    สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ให้ระมัดระวังและแปรงเบาเป็นพิเศษเมื่อเข้าใกล้แผล การไม่แปรงฟันจะทำให้ในบริเวณแผลมีคราบจุลินทรีย์ (ขี้ฟัน) สะสมหมักหมมจนเกิดกลิ่นปากและการติดเชื้อที่แผลได้ หลังจาก 3 วันแรกให้ใช้น้ำเกลือ หรือ น้ำสุกอุ่น 1 แก้วผสมกับเกลือป่นสะอาดที่มี อย. 1 ช้อนชา กลั้วปากเบา ๆ เพื่อช่วยชะเศษอาหารและลดจำนวนเชื้อโรคที่อยู่ใกล้บริเวณแผล

 

การรับประทานยา

                    ต้องรับประทานยาตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยยาฆ่าเชื้อ (ยาปฏิชีวนะ) ต้องรับประทานให้หมดแม้จะไม่มีอาการปวดแผลแล้วก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยา ส่วนยาแก้ปวดให้ทานเมื่อปวดเท่านั้น ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะอาจก่อให้เกิดการแพ้ยาในบางรายได้ โดยอาจมีการหอบ เป็นลม หายใจไม่ออก เกิดลมพิษทั่วตัว หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยาทันทีและรีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที 

 

การรับประทานอาหารและการดำเนินชีวิต

                    สามารถทำงานได้ตามปกติ ยกเว้นการยกของหนัก และ การออกกำลังกายหนัก ๆ ดื่มน้ำสะอาดและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง อาหารเผ็ดจัด และ ร้อนจัด เมื่อครบ  7 วันให้กลับมาตัดไหมโดยทันตแพทย์จะช่วยตรวจการหายของแผลว่าเป็นไปตามปกติหรือมีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ และจะได้แก้ไขให้ได้อย่างถูกต้อง

บทความโดย ทพ. วุฒิพงษ์ เหล่าอมต 

 

 

 

บทความด้านบนเป็นหลักการที่เกี่ยวกับการผ่าตัดฟันคุดนะคะ

สำหรับต่อไปนี้จะเป็น ประสบการณ์ตรงจากการดมยาสลบเพื่อผ่าฟันคุดให้ได้อ่านกัน

เอิ๊กผ่ากับคุณหมอที่ SMILE BY ISKY โดยผ่าตัดในโรงพยาบาลวิชัยเวชฯหนองแขม

 

สาเหตุที่เอิ๊กเลือกดมยาสลบ เป็นเพราะว่า เอิ๊กไม่ทราบมาก่อนว่าหลักการของการดมยาเป็น

อย่างไร รู้แต่ว่าทำได้ จนตอนหลังเพิ่มมาทราบว่า การดมยา เราจะหยุดหายใจชั่วขณะในเวลา

ที่เราหลับไป โดยจะมีคุณหมอวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยสอดท่อช่วยหายใจให้ออกซิเจน

ดูแลเราอยากใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด และ คอยปลุกจนเราฟื้นเมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัด

 

เอิ๊กมีความกลัวค่อนข้างมาก เกี่ยวกับการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการกรีด เย็บ และ

กรณีฟันของเอิ๊กมีความยากอยู่ในงาน ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องทำการกรอกระดูกกราม

ของเอิ๊กทั้ง 4 มุม เพื่อไปนำพา ฟันคุดทั้ง 4 ซี่ของเอิ๊กออกมา ต้องการเอาออกพร้อมกัน

ไม่อย่างนั้นเอิ๊กก็ต้องถือหยุดงานไปประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ เพราะงานส่วนใหญ่จะต้อง

เห็นหน้า อยากเจ็บรอบเดียวจบ สรุปสั้นๆ กลัวมาก หัวหดจริงๆ ขี้ขึ้นสมองเลย

อีกเหตุผลที่ต้องเอาออกทั้งที่ยังไม่ได้ปวด เพราะเอิ๊กวางแผนจัดฟันรอบสุดท้ายค่ะ

 

การดมยาสลบเผื่อผ่าฟันคุด คงไม่ใช่ทุกกรณีที่มีสิทธิ์จะได้ทำ ขึ้นกับความเหมาะสมของ

แต่ละบุคคล และ บุคคลนั้นต้องไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันสูง

โรคหอบหืด / ประวัติการใช้ยา / การมีประจำเดือนส่วนใหญ่แพทย์จะไม่ให้ทำเพราะ

อ่อนเพลียอยู่แล้ว / ประวัติการแพ้ยา / ประวัติดมยาสลบครั้งก่อนถ้ามี / อาจมี X-RAY

เพิ่มเติม และ การตรวจสุขภาพเพิ่มเติม

 

 

เอิ๊กยื่นประวัติตรวจสุขภาพที่เอิ๊กปีนี้ให้เขาก่อนเลย โชคดีมากที่ได้ตรวจไว้

มาโรงพยาบาลเช้ามาก ถึง 6 โมง แพทย์นัด 9 โมง ตื่นเต้นมาก

หลักๆ มาถึงก็วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก ส่วนสูง กรอกประวัติให้เรียบร้อย

 
        

 

จากนั้นก็เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า และ ทางโรงพยาบาลจะมีบุรุษพยาบาลมาเข็นรถให้นั่ง

 

เข้าห้องผ่าตัด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากๆ เอิ๊กเจาะน้ำเกลือทางข้อมือ

 

หลังจากนั้นเอิ๊กจะต้องสูดหายใจลึกๆ หลังจากวิสัญญีแพทย์เอาที่ครอบมาให้ค่อยๆหายใจ

กลิ่นเหมือนยานิดหน่อย ดมไปประมาณ 5 วิ เอิ๊กท่องชินบัญชรฉบับสั้นเสร็จ

เอิ๊กก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย

 

 

เอิ๊กไม่เคยเห็นตัวเองในสภาพการดมยามาก่อน แต่ด้วยความที่สนิทกับคุณหมอ

จึงขออนุญาตถ่ายจากมุมไกล เอาจริงๆ ตกใจหน้าตาตัวเองตอนหลับไปแล้วมาก

ดูเหมือนคนหลับลึกระหว่างสอดท่อช่วยหายใจให้ออกซิเจนตลอดเวลาในการผ่าตัด

 

คุณหมอที่ได้ผ่าตัดให้เอิ๊ก ท่านค่อนข้างเก่งมาก วินิจฉัยก่อนเลย ข้างไหนจะบวมมากบวมน้อย

และ เตือนเรื่องรอยแผลมุมปาก ก่อนเอิ๊กสลบ ซึ่งเอิ๊กก็ยังนึกไม่ออก ว่ามันจะเป็นแผล

ลักษณะไหน แต่ฝั่งที่ยาก คือ ซ้ายบน รู้เพียงแค่ว่าบวมมากหน่อยแน่นอนหลังทำ ทุกซี่อยู่ลึก

ในกระดูกหมดเลย พอเจอคุณหมอ ค่อนข้างใจเย็น และ พูดน้อย และ เอิ๊กก็ไม่กล้าถามมา

ในใจกลัวมาก กลัวการผ่าตัด กลัวตื่นมาแล้วรู้สึก เลยต้องใช้ความศรัทธาและสงบ

 

 

 

ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี หมดเวรหมดกรรมกันแล้วสำหรับฟันคุด

 

การเรียกให้ตื่น ค่อนข้างตกใจ เพราะทางพยาบาลและวิสัญญีแพทย์ต้องใช้เสียงที่ดัง

พอสมควร จะต่างจากตอนเอิ๊กไปเกาหลี ซึ่งเขาเรียกชื่อเอิ๊กลำบาก เขาจะเน้นเขย่าตัวแรงๆ

เอาตรงๆ เจอเรียก คุณเอิ๊กๆๆๆ เมื่อเรื่องด่วนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบไม่เคยได้ยิน

เหมือนนางเอกในละครสลบอะ นึกออกปะ >< ผมตกใจ ตื่นไว รู้สึกตัวเร็วมากครับ

พักดูอาการแปปเดียว คือ กลับห้องได้

 

ผลคือการผ่าฟันคุดเอิ๊กไม่รู้สึกเจ็บเลย ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาชารึเปล่า

แต่สิ่งที่เจ็บมาก คือ คอ ที่ต้องสอดท่อช่วยหายใจ และ ระหว่างเราผ่าตัด คอเราก็ขยับ

คือ เจ็บมาก แบบกลืนน้ำลายทรมาน และ มุมปากรู้สึกแล้ว คือ มันตึง เหมือนมียาชาทั้งทั้ง

ริมฝีปาก อ้าปากได้น้อยมาก ๆ จริง

 

สิ่งที่ประทับใจ ไม่ต้องกัดผ้ากอซ เลือดแทบไม่มี มีแค่ซึมๆ โชคดีมากๆ ทั้งๆที่ผ่าถึง 4 ซี่

ไม่มีซี่ไหนมีอาการงอแงเลย คุณหมอที่ทำให้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมกระดูก

ไม่แน่ใจว่ามีเทคนิคอะไรถึงทำให้เลือดที่มันควรจะไหล มันไม่ไหลเลย

แต่ต้องประคบเย็นต่อไป 24 ชม. ผ่า 9 โมง ออกมา 11 โมง

นี่คือความเปลี่ยนไปภายในไม่กี่ชม. หน้าตึงจวนจะแตก

 

เอาจริง ฟันคุด ดีกว่า รักคุด นี่คือโฉมหน้าของสาวสวยทั้ง 4 ขนาดไม่ใช่เล็กๆนะ บายบาย

 

ทางรพ. วิชัยเวชฯหนองแขม เตรียมห้อง VIP ให้เอิ๊กพักฟื้น 1 คืนแต่ถ้าใครอยากกลับก็

กลับได้นะคะ ห้อง VIP ใหญ่มาก คืนละ 6,900 บาท รวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว

 

เหมาะสำหรับคน ญาติเยอะ เพราะมาเยี่ยม ที่นั่งเพียบ 

อันนี้มีพี่ๆ มาเยี่ยม ก็มาออกันฝั่งเตียงคนไข้ อีกฝั่งก็ยังมีโซฟา ให้นั่งดูทีวีได้อีก

 

 

ห้องน้ำ 2 ห้องแยกกันสบายๆ

ประตู 2 ห้อง เผื่อคนไข้หลับก็เข้าอีกประตูได้ แบ่งโซนกันได้ด้วยม่าน คือ โรงแรมเลย

มีมุมนั่งทานอาหารอีก คือ กว้างพอสมควร  พยาบาลดูแลดี มาวัดความดันตลอด

 

 

 

ขอบคุณทาง SMILE BY ISKY / ISKYCENTER / และ รพ. วิชัยเวชที่มาเยี่ยมนะคะ

เกรงใจมาก แค่ผ่าฟันคุดเอง 555555555555555555555 ขอบพระคุณสำหรับการดูแลค่ะ

 


ทานโจ๊ก 4 วัน เริ่มเคี้ยวของนิ่มๆได้วันที่ 5 นี่ก็คือมื้อแรกวันที่ 5 แต่ไม่อร่อยเลย ยังระบบอยู่

สรุปวันที่ 6 กำลังดี เคี้ยวได้แล้วเพลินๆ หน้ายุบลง 7 วัน เหมือนเดิม


 

ช่วงแรกใช้แปรงอันนี้แปรงฟัน แปรงสีฟันเด็กอ่อน เหตุผลคือ อ้าปากไม่ได้ มันลำบากมาก

วันที่กว่าปากจะอ้าได้กว้าง วันที่ 7 คือต้องพยายามอ้าปากกว้างๆ ตั้งนิ้ว3นิ้ว แล้วเอาเข้าไป

ในปากให้ได้ ฝึกให้อ้าให้ได้ แรกๆเมื่อยมาก แต่ต้องทำนะคะ

 

เนื่องจากติดสงกรานต์เอิ๊กจึงได้ตัดไหมประมาณ 2 ทิตย์กว่าให้หลัง

มาที่รพ.วิชัยเวชฯหนองแขม

 

แต่ตัดไหมที่ SMILE BY ISKY เลยวันนี้ ก็เข้ามาตึกด้านในสุด ขึ้นลิฟท์ชั้น 3

 

ด้านล่างชั้น 2 คือ ISKYCENTER ด้านบนคือ SMILE BY ISKY

 

ระหว่างรอคุณติดคนไข้จัดฟัน ที่นี่คุณหมอจัดฟันเก่งหลายท่าน เลยเก็บบรรยากาศมาให้ชม

 

ออกแนว GALAXY แยกเป็นแต่ละดาวไป

 

มีมุมเฉพาะเด็กเล็กที่พ่อแม่พามาด้วยก็ให้มาเล่นห้องนี้รอ

 

การตกแต่งค่อนข้างมีสีสันแนว COLORFUL ทำให้เราไม่ค่อยกลัวที่จะทำฟัน

แต่เอาจริง เห็นกรรไกรคุณหมอจะตัดไหม ก็กลัวค่ะ 55555555

วันนี้คุณหมอพิงค์ตัดไหมให้ค่ะ มันไม่ได้เจ็บแต่เสียวๆ ไหมละลาย คือเส้นหนาใหญ่

รำคาญพอสมควร เราชอบเผลอเอาลิ้นไปดุนเล่น กว่าจะละลายอาจจะนานจึงมาตัดออกก่อน

เหงือกปิดสนิทเป๊ะมาก ไม่มีรูกวนใจให้ข้าวตกลงไป เพราะบอกแล้วว่าอยู่ลึก

หมอจึงต้องเอาเหงือกมาเย็บปิดกลับ

 และ แล้ววันนี้ก็พาไปด้วยดี สรุปประสบการณ์ผ่าฟันคุดที่ต้องดมยาสลบของเอิ๊กแต่เพียงเท่านี้

 

ดมยาสลบบอกเลยว่าเหมาะกับ

คนที่จำเป็นจริงๆ เคสยากๆๆมากๆ และ มีหลายซี่หน่อยก็จะสมควรกว่า

คนที่กลัวเหลือเกิน กลัวเลือด กลัวการผ่าตัด แต่ก็ต้องเอาออก

 

วันที่ 1 ทานได้แต่โจ๊ก ทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวดตามปกติ ไม่เจ็บไม่ปวดอันใด

เจ็บแต่คอ เจ็บแต่มุมปาก อ้ากว้างไม่ได้ บ้วนปากด้วยน้ำเกลือทุกวันจากนี้

 

วันที่ 3 เริ่มมีสะเก็ดที่มุมปาก ยาแกะ หมั่นทาวาสลีน ทานยา ทานอาหารอ่อน

แผลไม่เจ็บไม่ปวด แต่วันนี้ หน้าโย้แบบสุดๆ แก้มโย้ออกมา เอาตรงๆ ตลกมาก

คอเจ็บอยู่ คือ T_T จิบน้ำอุ่น งดน้ำเย็น ทานยาขมตราใบโพธิ์ ยาหวานน้ำเต้าทอง

 

วันที่ 6 เริ่มทานได้ มุมปากฝึกอ้าให้กว้าง กว้างเข้าไว้ สามนิ้วตั้งตรงสอดเข้าไป เอาเข้าให้ได้

คอไม่ค่อยเจ็บแล้ว เริ่มเคี้ยวได้แล้ว ทานยาตามปกตินะคะจนกว่าจะครบ 7 วัน

สำหรับยาฆ่าเชื้อ แผลก็ไม่ปวดเหมือนเดิม

 

วันที่ 7 หน้ายุบพอดี บอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะยังไงก็ต้องทนทานอาหารอ่อน และ เจ็บมุมปาก

อยู่ดี เอาออก 4 ซี่รอบเดียวจอด ไม่ได้แย่ หรือ โหดอะไรขนาดนั้น คือ ไหว แผลไม่ปวดเลย

ทรมานแค่คอ กับ มุมปากนี่ละ

 

และ ไม่ขอดมยาสลบเพื่อผ่าตัดอะไรอีกแล้ว ถ้าไม่จำเป็น

ขอบคุณพระคุณ SMILE BY ISKY และ รพ. วิชัยเวชฯหนองแขมที่

ช่วยผ่าตัดและดูแลเป็นอย่างดี

 

สรุปค่าผ่าตัดถามมาให้แล้วนะคะ แพคเกจผ่าตัดรวมดมยา 25,000 บาท

ค่าโรงพยาบาล 1 คืนของเอิ๊ก VIP 6,900 บาท (ถ้านอนก็เลือกแบบห้องได้)

 

แค่วันที่ 2 หน้าเราก็ใกล้กันแล้ว

บายบาย


Posted in REVIEW, TEETHComments (0)

REVIEW BRITESMILE ฟอกฟันขาวที่ SMILE BY ISKY


 

 

รีวิวฟอกสีฟันแบบ BRITESMILE ในศูนย์ทันตกรรม SMILE BY ISKY ครั้งแรกในชีวิต

คือ คุณหมอฟันที่สนิทกันเปิดศูนย์ทันตกรรมแบบครบวงจรก็เลยเชิญเอิ๊กเดินทางไป

รพ.วิชัยเวช หนองแขม ที่ศูนย์ SMILE BY ISKY 

ไปลองโปรแกรมฟอกฟันแล้วช่วย REVIEW ผลลัพธ์และความรู้สึกตามจริงหน่อย

คือ มาประเดิมคนแรกเลยเพิ่งรู้ เพราะศูนย์ยังอยู่ระหว่างการตกแต่งให้เรียบร้อย

ทุกส่วนไปเรื่อยๆ และ เอิ๊กก็ไปทำหน้าที่ ISKYCENTER บ่อย คือ กะว่าจะจัดฟันอีกรอบ

ก็คงจัดที่นี่ เพราะเราเชื่อฝีมือพี่เรา แต่พี่เราไม่จัดให้ 55555 เพราะเขาบอกฟันสวยแล้ว

คือมันง่ายแค่เดินขึ้นไปชั้น 3 ชั้นบนถัดไป จบ

 

ความจริงขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้มีปัญหากับสีฟันเพราะเป็นคนชอบฟอกฟันที่บ้านอยู่แล้ว

หลังจากพบยี่ห้อที่ใช้แล้วไม่เสียว มันก็ขาว ซึ่งเราก็พอใจ ขาวในที่นี่คือ เหลืองนวลอ่อน

เพราะตอนเด็กๆฟันเหลืองมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เกินบรรยาย เคยไปทำถาดฟอกฟัน

ที่คลินิคจัดฟัน และ ได้ซื้อน้ำยามาฟอกที่บ้านประมาณ 4,000 บาท คือทรมาน

เสียวฟันมาก ทุกทีที่อ้าปาก ทุกทีที่ลมผ่าน คือไม่โอเค และ ก็ล้มเลิกการฟอกฟันไปนาน

แต่มันก็ไม่กลับมาเหลืองมากเท่าเดิมนะ ยังคงระดับที่รับได้ จนโตก็ไปฟอกแบบเดิม

เสียวอีกแล้ว ไม่ชอบเลย คราวนี้ปวดฟันต้องกินยาแก้ปวด ซื้อยาสีฟันแก้เสียวฟัน

มานวด คือ ไม่ดีอะ ไม่ดีเลย ความรู้สึกนี้ รับไม่ได้ จนมีคนส่งน้ำยาฟอกยี่ห้อนึง

มาให้ลอง ใครตาม INSTAGRAM เอิ๊กจะทราบว่าเอิ๊กใช้ยี่ห้ออะไร คือ ดีอะ ไม่เสียว

และ ก็ขาวดีในระดับนึง ก็ไม่คิดว่าจะฟอกคลินิคแน่นอน เพราะมันคงเสียวมาก

เนื่องจากทำชั่วโมงเดียวขาว การฟอกฟันที่บ้านก็เป็นการคงไว้ซึ่งฟันที่ฟอกจาก

คลินิคมาเป็นอย่างดีอีกทางนึง แต่คิดว่าชาตินี้คงไม่ฟอกแน่นอนในคลินิค กลัวไปเอง

 

อันนี้อัดวีดีโอไว้หลังทำลองดูเลยสำหรับผลลัพธ์ 1 ชั่วโมงกว่าที่ไปนอนอ้าปากมา

BRITESMILE คืออะไร ?

การใช้เจลฟอกฟันแบบอ่อนโยน [ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 15% ]

ร่วมกับ

เทคโนโลยีการฉายแสงสีฟ้า [ BLUE LIGHT ]

มีงานวิจัยที่อเมริการองรับว่า BRITESMILE มีความปลอดภัยสูงสุด

ไม่ทำลายเคลือบฟัน หรือ วัสดุอุดฟัน ชิ้นงานฟันปลอมต่างๆในช่องปาก

มีค่า PH ที่สมดุลย์ อ่อนโยนต่อเหงือก

พัฒนาโดยทีมวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์ทำงาน

ร่วมกับองค์กรนาซ่า [ NASA ]

 

ทำไมถึงราคาสูงกว่าเทคโนโลยีแบบอื่น ?

ราคามีตั้งแต่ 15000 ขึ้นไป

เขาให้เหตุผลว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย อ่อนโยน เสียวฟันน้อย

ดูแลอย่างดี มีงานวิจัยรองรับว่าปลอดภัย และ เห็นผลชัดเจน

ฟันจะดูใส กระจ่างขึ้น แบบเป็นธรรมชาติ 

นิยมมากในหมู่ดารา HOLLYWOOD วงการความงาม และ แฟชั่น

เพราะฟันขาวเป็นเรื่องของบุคลิก ความมั่นใจ

 

ระยะเวลาในการคงทน

ผลอยู่ยาว 12 เดือนขึ้นไป

ขึ้นกับการดูแลเรื่องอาหารเป็นหลัก ควรจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ

สีจะดรอปลงเล็กน้อยตลอดระยะเวลาค่อยๆสีขาวน้อยลงทีละนิด

แต่ถ้าทานพวกเครื่องดื่ม อาหารสีๆจะไปเร็ว

 

จะขาวแค่ไหน

ขึ้นกับสีฟันเดิมของคนไข้ สามารถฟอกได้ในคนไข้ที่มีฟันแบบ

เตตร้าไซคลิน ฟันสีเทา ฟันสีดำ จะดีขึ้นในระดับนึงแต่ไม่หาย 100%

ขึ้นกับความเข้มของระดับที่เป็น

 

 

เอาละมาดูของจริงกันให้เห็นเน้นๆจะๆกันไปเลย มาดูอุปกรณ์กัน

 

 

พวกน้ำยาในการฟอกฟัน การป้องกันไม่ให้น้ำยาไหลโดนเหงือก ริมฝีปาก แปรงสีฟันยาสีฟัน

ที่อ้าปาก สำลีกันน้ำยาไหลเข้าปาก ที่กันแสง ฯลฯ ปล่อยให้เป็นหน้าที่หมอเถอะ เยอะนะ :p

 

 

อุปกรณ์ HISO สมราคา แต่อย่างเดียวแปรงแข็งมาก ใครชอบแปรงขนนุ่มๆ แนะนำ

เตรียมมาเองค่ะ

 

ขั้นตอนการทำนำมาให้อ่านไปพร้อมๆกันนะคะ

 

 

ก่อนทำจะมีการทาครีมแคลเซียมป้องกันเคลือบฟัน และ ป้องกันการเสียวฟันอย่างดีเรียกว่า

” TOOTH MOUSSE “ ป้องกันฟันผุ เคลือบแคลเซียม เคลือบผิวฟัน ทำความสะอาดช่องปาก

ฯลฯ สรรพคุณดีร้อยแปดประการ เพิ่งรู้จักจริงๆ ว่ามีแบบนี้ด้วย ตื่นเต้น O_o เอากลิ่นเมลอน

มาลอง เค้าบอกต่างชาติชอบกลิ่นนี้กัน หอมมากๆๆ เอามาใช้ได้ทุกวัน หลอดเล็กมากประมาณ

900 – 1,200 บาท คุณหมอ จะเคลือบเจ้านี้ให้ก่อนลงมือเชือด เอ้ย ฟอกฟัน ><

 

 

และเราก็จะได้เวลามาเทียบเฉดสีฟัน แน่นอน การทำทุกคนหวังผล ก็ต้องมาวัดสีให้รู้กันไป

 

 

เผื่อศูนย์ทันตกรรมไหนมีที่ถ่ายรูป BEFORE – AFTER ให้คนไข้กลับบ้านเอาไว้ดู

และ อวดคนอื่นเล่น 5555 ปล. รอ SMILE BY ISKY อยู่นะคะ 

 

 

พร้อมรึยัง ?

 

 

กระโดดขึ้นรอที่เตียงได้เลย

 

 

ปล. 1 ชั่วโมงกว่าเตรียมตัวไปหลับเหอะ ขอหมอนรองไว้เผื่อด้วย เมื่อยคอสุดๆคับ 555

และ อีกอย่าง อัญเชิญ ไปเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย อย่ากลางคัน 5555 น้ำลายจะไหล

ออกมาจากปากไม่ได้ น้ำลายต้องกระเดือกลงไปนะคะ

 

 

BEFORE กันหน่อย ฟันก็ไม่เหลืองมากมั๊ง – – ” ก็เหลืองอ่อนนะ ก็ดีสุดในชีวิตละนะ 555

และ แล้วคุณหมอพิงค์ก็ทำร้ายน้องเอิ๊กค่ะ 555555555 ไม่ชอบที่อ้าปากอันนี้เลย

มันเป็นซิลิโคนนะคะ ต้องปรับกัน 2-3 รอบให้สบายในการอ้าปากแบบนี้

 

 

ความงามเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร เจ็บก็ทนนะคะ 5555 ทุเรศก่อนทำก็ทนค่ะ

แป้งย่นกันเลยทีเดียว

 

 

เทียบสีกันให้เห็นก่อนประมาณ 1M2

ตะกี้คือทดสอบ คราวนี้มาเคลือบแคลเซียม TOOTH MOUSSE กันก่อนที่บอก

 

 

และ ทรมานกันอีกรอบ 5555 จากที่อ้าปากก็ว่าเมื่อย คราวนี้นำสำลีที่ออกแบบมาพิเศษ

ยัดรอบๆด้านในปากไม่ให้น้ำยาโดนภายในช่องปาก ระวังกันสุดๆ ปากก็จะขยายใหญ่อีก

เมื่อยมาก ทางที่ดี มาปุ๊ป เตรียมตัวนอนเลย เขาจะเข้ามาทำ 3 ครั้ง และ ทุกครั้งทิ้งน้ำยา

ไว้ครั้งละ 20 นาที เตรียมตัวนอนนะคะ สบายๆ จะผ่านไปเร็วมาก

 

 

เราจะเริ่มกัดแท่งอันนี้เพื่อทำการลอคตำแหน่งให้คงที่ในการฉายแสงทัั้ง 3 ครั้งให้ตรงกัน

 

 

จะพูดยังไงดี “เมื่อย” คำเดียว 555

และ ตามมาด้วยการดูแลเหงือกก็ต้องทาสารเคลือบป้องกันน้ำยาโดนเหงือกของเรา

 

 

ฉายแสงสีฟ้ารอให้แข็งตัว

 

 

เคลือบเหงือกแข็งตัว แล้วก็เตรียมตัวไปเคลือบริมฝีปากกันต่อ

 

 

 เอาล่ะ ระวังจนได้ที่แล้วก็มาลอคตำแหน่งฟันกับเครื่องฉายแสงให้ตรงกัน

 

 

ถึงเวลาเปิดแสงสีฟ้า BLUE LIGHT สอบถามมาคือ LED นั่นเอง

 

 

รอบละ 20 นาที เสร็จแล้วรอบแรกก็ดูดน้ำยาออก และ ก็รอบสองสาม คือ ทาเจล+ฉายแสง

 

รวมๆ แล้วประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ คือ เตรียมไปนอนได้เลย หลับเพลินๆ

 

 

ครบ 3 รอบเอาทั้งแว่น เอาทั้งอุปกรณ์ออกเหอะ ไม่ไหวแล้ว 5555

 

 

ตอนแรกยังไม่ถอดไว้ ทุกคนชม โอ้ว ขาวขึ้นได้อีกจริงๆด้วย บลาๆ ไอเราก็ไหนอะ เหลืองอยู่เลย

คือ ลืมถอดแว่น กร๊ากกกกกกกกกกก 555 เอาละมาเทียบสีให้สะพรึงเล่น

 

 

ตอนแรกอยู่ 1M2 ตอนนี้ก็ 1M1

เอาล่ะเพื่อความชัวร์ ถอดออกมาวัดอีกรอบ เขาบอกเทียบฟันขาวที่สวย

ต้องเป็นขาวเดียวกับสีตา ตอนนี้ เลยสีตาแล้วพะยะค่ะ 5555

อย่าตกใจ กลัวไม่เห็นตาขาวกัน ขออ้าตาให้ดูหน่อย พร้อมยิงฟัน

 

 

ขอลองลดแสงลง เพราะแสงอาจจะหลอกตา ปรากฎว่า ฟันเด้งอยู่ ปัง ! ขาวขึ้น 1 เฉด 2 เฉด

ก็เหอะ เพราะเขาบอกถ้าเหลืองแต่แรกจะขาวกว่านี้หลายเฉดมาก ประมาณกี่เฉดมะรู้ลืม

ถ้าไม่ขาวตามสัญญา ทางบริษัทจะทำให้ขาวเหมือนบอกไว้ 555555 เออมันดีตรงนี้นะคะ

 

 

ขาวมากขึ้นแค่ไหนก็ไปพิจารณากันเอาเอง NO FILTER และ พยายามปรับแสง AFTER

ให้ลดลงมาด้วย จะได้ไม่ลำเอียง

 

 อย่าลืมการดูแลตัวเองอย่างดีภายใน 24 ชั่วโมงด้วยนะคะ ฟันจะได้ขาวสมบูรณ์แบบ

BEFORE – AFTER

สรุปสั้นๆ

ข้อดี สองชั่วโมงไม่เกินขาวไวว่อง / มีรับประกันถ้าไม่ขาวเท่าที่ประเมินไว้ทำให้ใหม่ /

อ่อนโยน / เสียวฟันน้อย (แต่เอิ๊กไม่เสียว) / รู้สึกว่าสวยขึ้น 55555 / อยากยิ้มตลอดเวลา

/ คือชอบบบบบบบบ มันดี

 ข้อด้อย เมื่อยปากมากT_T / ราคาสูง / หาคลินิคทำยาก

เพราะมีแค่คลินิค HI-ENDที่จะมีระบบนี้

ข้อแนะนำส่วนตัวสำหรับ SMILE BY ISKY

มีปรินท์รูปก่อนหลังให้คนไข้จะดีมากค่ะ

เพราะบางทีกล้องมือถือมันคุมแสงไม่ค่อยได้ และ ไม่ค่อยชัดค่ะ /

อยากให้มีหมอน ผ้าห่ม เพราะแอร์หนาวมาก / มีเพลงค่ะ จะดีมากถ้าปิดไฟให้หลับ

ระหว่างรอ 20 นาที 3 รอบ หรือ มีทีวีครื้นเครงให้นอนดู

 

ขอบพระคุณคุณหมอ พิงค์ และ คุณหมอ ชิว ทันตแพทย์เฉพาะทาง

ผู้ดูแลเอิ๊กในวันนี้ร่วมถึงทุกคนใน SMILE BY ISKY ด้วยนะคะ

นอนหนาวเหน็บกับผ้าห่มหนึ่งพื้นอย่างเมามันส์ ลงมาขากางเกงไม่เท่ากันเลย – – “

ไม่เป็นไร ฟันขาวสวย อภัยได้ 555555

ใครมีข้อมูลอยากโทรสอบถามเบอร์ทิ้งไว้ให้นะคะ

SMILE BY ISKY รพ.วิชัยเวช หนองแขม 02 441 6988-9

 

 

 

 

 

 

 

Posted in TEETHComments (0)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites