TALK ABOUT : IPL เลเซอร์หน้าใสจริงเหรอ ? พร้อมREVIEWหลังทำ

IPL intense pulsed light เป็นการใช้แสงที่มีหลายช่วงคลื่น รักษาผิวหนังที่มีจุด จุดดำ จุดแดง ต่างกับ เลเซอร์ ที่เป็นแสงช่วงคลื่นเดียว ดังนั้น แสงLASER กับ แสงIPL คนละชนิด IPL ไม่ใช่ LASER นะคะ

 



หลักการทำงาน

  • ปล่อยความยาวคลื่นออกมาให้โดนเซลล์ผิวหนังแต่ละเซลล์ที่ต้องการ – เซลล์แต่ละเซลล์ดูดซับพลังงานแสงได้ไม่เท่ากัน เซลล์เม็ดเลือดก็แบบหนึ่ง เซลล์คอลลาเจนก็แบบหนึ่ง เซลล์เม็ดสีดำ หรือ แดง ก็แบบหนึ่ง
  • IPL จะปล่อยแสงจำเพาะเจาะจงในแต่ละครั้งได้ เช่นรอบนี้เลือกความถี่ที่จะปล่อยแสงไปยังเซลล์เม็ดสีดำ (จุดด่างดำ) มันก็จะโดนเม็ดสีดำเท่านั้น รอบต่อไปอาจจะเลือกปล่อยแสงให้โดนเม็ดเลือดแดงด้วยความถี่ที่เหมาะกับเม็ดเลือกแดง ปล่อยแสง IPL ลงไป ก็จะเกิดความร้อนที่บริเวณเม็ดเลือดแดง มันก็จะไปทำลายพนังหลอดเลือดแดงเล็กๆ (รอยแดง เส้นเลือดฝอยเล็กๆแดงๆที่มีขนาดไม่เกิน 0.2 มิล) รอยแดงก็จะหายไป รอบต่อไปอาจใช้ลดรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ใช้ความร้อนจากแสง IPL ไปจับน้ำในเซลล์ของคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
  • การรักษาควรต้องยิง IPL หลายครั้งขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้

 

รักษาอะไรได้บ้าง

  1. รอยดำ จุดดำ
  2. รอยแดง จุดแดง รอยแดงจากแผลคีรอยด์
  3. กระจาง กระตื้น กระแดด
  4. ฝ้าบางชนิด
  5. ริ้วรอยตื้นๆ
  6. กระชับรูขุมขน
  7. รักษาสิว (เมื่อทาสารบางตัวก่อนปล่อยแสง IPL ช่วยฆ่าเชื้อ P Acne)
  8. กำจัดขน

 

 

สรุป IPL สามารถรักษาได้หลายอย่างในการทำเพียงครั้งเดียว .. แต่จะให้เห็นผลต้องทำหลายครั้ง .. และด้วยความสามารถที่ทำได้หลายอย่างในหนึ่งครั้ง โดยเฉพาะทำให้รูขุมขนที่หดขนาดลงได้บ้าง จึงมีชื่อเรียกทางโลกว่า “ เลเซอร์หน้าใส “ จริงๆแล้ว แสงIPL ไม่ใช่ แสงLASER เป็นแสงคนละชนิดกัน

 

ระยะเวลาการเห็นผล

  • ภายใน 1-3 วัน เห็นชัดว่าหน้าใสขึ้น แต่ก็ไปเร็วกว่าพวกเลเซอร์ที่ยิงแล้วมีแผล ที่จะอยู่ได้ยาวนานกว่าและเห็นผลชัดกว่า

 

ข้อแนะนำ

  • ทาครีมกันแดด + กันแดดที่มีไวเทนนิ่งผสมทุกวัน

 

คนที่เหมาะกับการรักษาด้วย IPL

  • คนรักษาสิวเรื้อรังที่มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้เรื่อยๆ เพราะเลเซอร์จะราคาสูงกว่า ถ้าต้องเป็นสิว ทิ้งรอยแล้วกลับมาใหม่ก็เลือกIPLจะคุ้มกว่า เวลาทำก็ทำต่อเนื่องเดือนละครั้งทำ 3-4 ครั้งเริ่มเห็นผล คนที่ดูแลผิวตัวเองดีดี IPLสามารถให้ผลรักษาอยู่ได้นานเป็นปี

 

ราคาแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
  • ต่างกันที่เครื่องนำเข้าจากประเทศอะไรมีตั้งแต่เครื่องนำเข้าจีน ถึง ราคาหลายล้าน / หัวIPLเล็กใหญ่ / บางที่คิดเป็น SHOT บางที่คิดเป็นพื้นที่
  • ผลลัพธ์จึงออกมาไม่เหมือนกันด้วยขึ้นกับประสิทธิภาพของเครื่อง การจะทำIPLจึงต้องเช็คมาตราฐานของเครื่องก่อนการเปรียบเทียบราคา

 

ข้อดี

  1. ทำได้ทุกอย่าง รักษาได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว
  2. ไม่ต้องทายาชา
  3. รักษาได้หลายอย่างใน 1 ครั้ง
  4. ไม่มีบาดแผลหลังทำ
  5. การดูแลรักษาหลังทำง่าย
  6. ใช้เวลาทำเร็ว

 

ข้อควรระวัง

การไหม้ เป็นรูปหัวIPL สี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียวยาว(เรียกว่าบั้ง) เกิดจากการที่ IPL ส่งแสงลงไปยังผิวหนังชั้นล่าง ก่อนจะลงไปต้องผ่านผิวหนังชั้นบน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี Cooling Gel เพื่อป้องกันการไหม้ของผิวหนังชั้นบน

อีกกรณีแสง IPL กับเรื่องของสีผิว ผิวขาว ผิวสองสี ใช้แสงIPLความถี่ไม่เหมือนกัน คนไข้ผิวสองสี ผิวเข้ม จะต้องใช้พลังงานแสงที่ลดลง คนผิวสีเข้มผิวจะดูดซับแสงได้ดี ที่สำคัญเกิดการ BURN หรือ ไหม้ได้ง่าย เช่น ไรผมจะBURNง่าย ผมซึ่งมีเม็ดสีดำ เม็ดสีเข้มจะดูดซับพลังงานได้ดีกว่าบริเวณโหนกแก้ม หรือ ขาจะไหม้ได้ง่ายกว่าหน้า เพราะขามีขน คนไข้ที่ผิวเข้มแต่ต้องการกำจัดขนด้วย IPL อาจจะเลือกใช้วิธีอื่น หรือเลือกเลเซอร์กำจัดขนเฉพาะทางไปเลย เพราะโอกาสเสี่ยงไหม้ เยอะมากกว่า

 

ถ้าเกิดการไหม้ จะทำยังไง (น้อยคนจะเจอ) 

  • ถ้าเกิดการไหม้จะตกสะเก็ดแล้วก็หลุดลอกออก คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าการไหม้ลงไปลึกแค่ไหน ถ้าไม่ลึกมันจะลอกออก ผิวจะเหมือนเดิม
  • ถ้าเป็นตุ่มน้ำ อาจทาขี้ผึ้ง หรือ ยาปฎิชีวนะ แล้วค่อยสะกิดตุ่มออก
  • ทากันแดดทุกวัน แดดจะทำให้ผิวหายช้า และอาจอาการหนักกว่าเดิม
  • อาจต้องใส่ที่ครอบปากกันติดเชื้อ
  • ถ้าเกิดรอยดำอาจทาครีมไวเทนนิ่ง
  • ถ้าเกิดรอยดำอาจทานยาเพื่อให้ผิวขาว แต่อันตรายต้องได้รับคำแนะนำและจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น

ดังนั้นจะไหม้หรือไม่ เกิดจากสีผิวของเรา และ ความพร้อมของผิวเรา

 

การเตรียมตัวก่อนทำ

  • อย่าตากแดดจัดเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์ก่อนทำ

คนที่ไม่เหมาะกับ IPL

  • คนที่แพ้แสงอาจไม่ควรทำ
  • คนที่เป็นคีลอยด์ง่ายๆ อาจต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • คนที่มีแผลอยู่แล้วไม่ควรทำ เช่นยิงตรงแผล
  • คนที่ตั้งครรภ์ไม่ควรทำ

 

ข้อเสียของ IPL คือ

  • รักษาปัญหาทุกอย่างที่กล่าวมาได้แต่ไม่ได้หายไปภายในครั้งเดียวอาจต้องทำ 3 ครั้งขึ้นไป
  • รักษาหลายรอบขึ้นไปถึงจะเห็นผล
  • อาจเกิดผลข้างเคียง รอยไหม้ รอยด่างขาว

 

ดังคำกล่าวของแพทย์ผิวหนังท่านนึง IPL IT’S LIKE A DUCK BUT IT ISN’T THE BEST

เพราะรักษาได้ทุกอย่างจริง เห็นผลจริงแต่ๆละครั้งจะได้แค่จางลงไม่หายไปเลย สมมุติเป็นกระยิง IPL อาจต้องใช้เวลา ใช้การทำ 3 ครั้งขึ้นไป แต่หากใช้พวกเลเซอร์จำเพราะเจาะจงเช่น Q-Switch ก็จะเห็นว่ากระตื้น กระแดด หายไปในครั้งเดียว หรือรอยสิวถ้าใช้ IPL รักษารอยแดง อาจต้องใช้เวลา 3 เดือน แต่ VBEAM เลเซอร์ใช้ยิงหลอดเลือดแดงที่ขยายตัวจะเห็นผลเร็วภายใน 1 เดือน เปรียบเทียบกับการทายารอยสิวกว่าจะจางก็นานขึ้นไปอีก หรือปล่อยให้หายเอง อาจต้องรอยาวนานถึงครึ่งปีในบางคน

REVIEW

เอิ๊กเป็นรอยดำจากสิว นานมากไม่หายเลย หลุมด้วย แต่ต้องรักษาที่ละอย่างเอาที่ง่ายก่อน เลยเลือกรอยดำ รอยแดง รอยดำเลือก IPL รอยแดงเลือกVBEAM เอิ๊กไปยิงIPLที่เดิม ISKYCENTER เนื่องจากมีประวัติการรักษาด้วยเลเซอร์อยู่ที่นั่นแต่ คุณหมอรังสิมา แพทย์ที่ไปพบประจำไปให้วิชาการที่อื่น 🙂 เอิ๊กเลยไปพบคุณหมออีกคน ไปช่วงเช้าคนไข้คนอื่นยังไม่มา เลยขอสอบถามอย่างละเอียดและได้บทความนี้มาต้องขอขอบคุณ แพทย์หญิง วรทัย เตือนอารีย์ ที่ให้สัมภาษณ์ค่ะ 

ยิงด้วยเครื่องนี้ อลังมาก ราคา ครึ่งหน้า 2500 บาท เต็มหน้า 4000 บาท ซื้อเป็นคอร์สถูกกว่า 3 ครั้ง ครึ่งหน้า 4000 บาท เต็มหน้า 9600 บาท

ให้ดูผล VBEAM ก่อน จริงๆแผลสด สิวเพิ่งอักเสบ ยิง 3 วันหายเลย 555 คุณหมอวรทัย รู้สึกจะใช้ความแรงเลเซอร์เยอะกว่าที่เคยทำ สังเกตุจากเสียง เลยหายเร็วมาก

หน้าผากรอยยังอยู่จางๆ แต่ดูใสขึ้น

ช่วงแก้มดูใสขึ้น วันแรก กิ๊งเลยละ ที่รูขุมขนกว้างเพราะนอนเช้าทุกวัน 55555555

หลังทำ เพราะเลเซอร์ด้วย IPL ด้วย คันๆหน่อยๆ เลยใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100% ชโลมกันแห้ง ผิวเลยดูมันๆ และทากันแดดตลอด อาจจะทำต่อหรือไม่ทำต่อค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้ดูเรื่องทำเป็นคอร์สไว้ แต่ตอนนี้มันดีจนพอใจแล้วค่ะ ตอนนี้เริ่มกังวลเรื่องหลุมที่หน้าผาก 3 หลุม ที่แก้มก็มี เกิดจากเล็บช่วนตอนเกิด 55 แม่ไม่ตัดเล็บให้ข้าเจ้า

ขอจบเรื่องเลเซอร์หน้าใสแค่เพียงเท่านี้ ว่าความจริงมันเป็นยังไง หวังว่าคงได้ประโยชน์กันนะคะ

XOXO

ที่มาของรูปภาพ

iskycenter.com

webmd.com

bestofbothworldsaz.com

http://the-coveted.com/blog/2008/10/14/zap-zits-with-light-therapy/

http://www.alibaba.com/product-gs/377432190/Vertical_IPL_intense_pulsed_light_laser.html

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (4)

เคล็ดลับชะลอวัยหน้าเด็กกว่าวัย : Tips For Keeping Skin Young And Healthy Looking

ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 14 มกรา 2555 อายุ 24 ปี 6 เดือน 14 วัน

ใครๆก็คงอยากให้ตัวเองดูอ่อนกว่าอายุที่เป็นจริงเสมอ หรือมีใครอยากดูอายุมากกว่าความเป็นจริงบ้าง ?

คงไม่มีหรอก ตัวเอิ๊กเองก็ไม่อยากรับความจริงเรื่องวัฎจักรสังขารของชีวิตมนุษย์เท่าไหร่นัก .. แต่เราต้องรับมันให้ได้ และมีความสุขที่จะรับมันด้วย .. เพียงแต่หากเรามีวิธี แนวทาง ที่เมื่อปฏิบัติตาม แล้วจะทำให้เรามีผิวที่มีสุขภาพดี ยืดหยุ่น ไม่โทรม เราก็จะดูเด็กกว่าอายุก็เป็นได้ บางคนเกิดมาโชคดี ผิวพรรณ ขาวใส ละเอียด ใบหน้าอ่อนเยาว์อยู่แล้ว บางคนต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าคนโชคดีเหล่านั้น วันนี้เอิ๊กขอนำเรื่องราวดีดี จากแพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลศิริราช ผศ.พญ. รังสิมา มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้นำไปปฎิบัติตาม หลายข้อเอิ๊กทำอยู่ หลายข้อละเลย แต่ตอนนี้ด้วยวัยจะเบญจเพสแล้ว ต้องชะลอไว้ก่อน เพื่อที่ 30 40 ยังดูดี ดูเด็กกว่าวัยเนอะ เอาละไปอ่านกันดีกว่า ว่าคัมภีร์ ชะลอวัยของเรามีอะไรกันบ้าง

เอิ๊กจะสอดแทรกความรู้ที่เอิ๊กได้รับฟังวิชาการขนาดย่อมของ อจ ผศ.พญ.รังสิมา ลงไปด้วยนะคะ เนื่องจากข้อจำกัดของ ทวิตเตอร์คือ 140 ตัวอักษร เอิ๊กขออนุญาติเสริมความรู้อันน้อยนิดของตัวเองเข้าไป

ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะหยุดเวลาและอายุของคนเราได้ แต่ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างดี ดูแลผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราดูอายุน้อยกว่าวัยจริงได้

  1. การดูแลผิวเพื่อดูอ่อนวัยทำได้โดยการทา moisturizer และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผิวที่มีอายุคือผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและมีจุดด่างดำ การทา moisturizer จะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ลดการแห้งกร้าน และหมองคล้ำ ควรเลือกใช้ moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเองและตามวัย – Erk-Erk Says : ต้องเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวจริงๆ คือต้องเรียนรู้ว่าผิวตัวเองเป็นแบบไหนก่อนอันดับแรก และใช้ให้ตรงกับสภาพผิว ปัญหาผิว แค่นั้นคุณจะพบว่าผิวจะดูอิ่ม เต่ง รูขุมขนดูละเอียดขึ้น ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้นจริงๆ ประสบการณ์ตรงเลยค่ะข้อนี้
  2. การทาครีมกันแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF>30 และค่า PA+++ ซึ่งป้องกันได้ทั้ง UVB และ UVA เพราะแสงแดดจะทำให้เกิดจุดด่างดำและริ้วรอย – Erk-Erk Says : การทากันแดดที่ดีควรทาประมาณ 1 ช้อนชาขึ้นไป ซึ่งมันจะเหนียว และ SPF มีค่าสูงแสดงว่าชั่วโมงป้องกันก็สูงขึ้นตามค่า SPF ในเมื่อเราไม่ชอบอะไรเหนียวๆ เราจึงต้องเลือก SPF สูงๆ เพราะเราจะทาแค่พอบางๆเท่านั้นละ บางคนทาไม่ถึง 1 ช้อนชาหรอก ดังนั้นเพื่อให้การทากันแดด อยู่ทนยาวนานได้ดีทั้งวัน และ สามารถกันแดดจากรังสี UVB ที่ทำให้ผิวเราไหม้ คล้ำ UVA ที่ทำให้ผิวเราเหี่ยวได้จริงๆ
  3. เมื่อเริ่มมีริ้วรอยหรือความหมองคล้ำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือกรดวิตะมินเอ จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดริ้วรอยตื้น ๆได้ – Erk-Erk Says : และการเลือกใช้กรดวิตามิน A สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย แห้งมาก ควรต้องระมัดระวังในการใช้ รวมถึงศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเนื่องจากข้อดีของการใช้ AHA หรือ กรดวิมิน A ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือหมองคล้ำให้หลุดออก เพราะเมื่อเราอายุมาก วงจรการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเราจะทิ้งช่วงนานขึ้นจาก 1 เดือน อาจจะนานกว่านั้น จึงต้องควรดูแลข้อนี้อยู่เสมอ และการผลัดผิว มีผลทำให้ผิวอาจแห้ง แดง และอาจจะระคายเคืองได้ง่าย ควรทาครีมบำรุงที่มีความชุ่มชื่นสูง และ ทากันแดด อย่างสม่ำเสมอ
  4. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ คนนอนดึก จะทำให้ผิวหนังอิดโรย หมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย – Erk-Erk Says : การนอนดึกนอกจากทำให้ร่างกายมีอนุมูลอิสระทำให้เซลล์เสื่อสภาพเร็วด้วยแล้ว ยังทำให้หิวบ่อย ทานได้มากขึ้น จึงทำให้อ้วนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังมีผลในเรื่องของสมองช้า เบลอ ความจำถดถอย สรุปคือนอนดึกไม่ดีจริงๆค่ะ (ข้อนี้เลิกยากมาก 55)
  5. ไม่ควรนอนตะแคงซุกหน้ากับหมอนหรือนอนก่ายหน้าผากจนทำให้เกิดรอยบนหน้า ถ้านอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ ร่องแก้มข้างนั้นจะลึกกว่าอีกข้าง – Erk-Erk Says : ประสบการณ์ตรงคือร่องแก้มอีกข้างที่ชอบนอนตะแคง ลึก และ เยอะกว่าอีกข้างมาก 55 และนอนตะแคงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนไวได้จริงๆค่ะ
  6. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่เน้นผักผลไม้ที่มีวิตะมินซี เอ และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรง และปกป้องผิวจากมลภาวะสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ – Erk-Erk Says : บางครั้งเราอาจไม่สามารถทานอาหารได้ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะคนที่ชอบทานข้าวนอกบ้าน ทานไม่ตรงเวลา ทานอาหารกล่อง7-11 อาหารเสริทเป็นอีก 1 ทานเลือก แต่นั่นหมายถึง การทำงานของตับจะหนักขึ้น และเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ถ้ามีเวลา หันมาใส่ใจกับมืออาหารแต่ละมื้อซักนิด ทานผัก กากใย และน้ำเปล่าเยอะๆค่ะ
  7. ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เบคอน เนย เพราะการเผาผลาญอาหารกลุ่มนี้ทำให้มีอนุมูลอิสระสูงทำลายผิว – Erk-Erk Says : อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ยังหมักหมมค้างในลำไส้ ยิ่งสัตว์ใหญ่ยิ่งย่อยยาก ทำให้ผิวพรรณไม่สดใส หมองๆ ขับถ่ายมีกลิ่นแรง
  8. งดอาหารหวานจัด หรือมีน้ำตาลสูง น้ำอัดลม เนื่องจากมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหย่อนยาน ไม่ตึงกระชับ – Erk-Erk Says : น้ำตาลนี่มันร้ายจริงๆ 55 มันทำให้ผิวอักเสบจนเป็นสิวได้ด้วย ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ จึงแก่เร็ว
  9. เครื่องดื่มทีมีคาเฟอีน จะทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ถ้าติดกาแฟจนเลิกไม่ได้ หลังดื่มกาแฟอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปด้วย ผิวจะไม่ขาดน้ำ – Erk-Erk Says : การดื่มกาแฟดำไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอฟฟี่เมต ช่วยเรื่องสุขภาพเร่งอัตราการเผาผลาญไขมันได้ และทำให้ฟันเหลืองได้เช่นกัน นอนไม่หลับ บางคนใจสั่น
  10. เครื่องดื่่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวขาดน้ำ ไม่สดใสเปล่งปลั่ง และเหี่ยวย่นก่อนวัยได้เช่นกัน ควรงดดื่มอย่างเด็ดขาด และงดสูบบุหรี่ด้วย – Erk-Erk Says : ข้อนี้ทำให้แก่กว่าวัยได้มากๆเลยค่ะ ผิวแห้งกร้าน เหี่ยว ริ้วรอยเป็นร่องๆ ความยืดหยุ่นผิว อิลาสตินถูกทำลาย คอลลาเจนถูกทำลาย ทำให้ผิวไม่แข็งแรง
  11. ใช้ชีวิตอย่างสมดุล นอนพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหาร 5 หมู่ ออกกำลังกาย อย่าเครียดหรือหักโหมกับงานมากเกินไป อยู่กับครอบครัวหรือคนที่เรารัก – Erk-Erk Says : ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อชีวิตได้จัดสรรแบ่งเวลาทุกด้านอย่างสมดุล จะทำให้ชีวิตรู้สึกเติมเต็ม มีความสุข อารมณ์สดใส ร่างกายแข็งแรง
  12. มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้แจ่มใส รู้จักเป็นผู้ให้และมีความสุขกับการให้ จะทำให้เราเป็นคนสวยจากภายในซึ่งสำคัญกว่าการสวยหรือดูดีจากภายนอก – Erk-Erk Says : การมองโลกในแง่ดีทำให้สมองส่งคลื่นความถี่สูงออกไป ดึงดูดให้เราพบแต่เรื่องที่ดี โชคดีตลอดวัน และทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ ประสบการณ์ตรงอีกเช่นกันค่
  13. เคล็ดลับหน้าเด็กที่สำคัญที่สุดคือ เลิกกังวลกับอายุ(และน้ำหนัก) ความกังวลหรือย้ำคิดย้ำทำจะทำให้เราแก่ขึ้นมาจริงๆมีความสุขกับตัวเองดีกว่า – Erk-Erk Says : เพราะการกังวลเป็นบ่อเกิดแห่งความย้ำคิดย้ำทำ รู้สึกผิว หดหู่ โทษตัวเอง ทำให้เราจมปลักกับเรื่องเดิมๆ ชีวิตก็จะเหมือนหยุดนิ่ง ชีวิตทางด้านอื่นจะติดขัดมีปัญหาเนื่องจากหัวสมองคิดอยู่เรื่องเดียว และเป็นบ่อเกิดแห่งโรคอื่นๆตามมา เช่น บูลิเมีย
  14. ส่วนตัวขอเพิ่มอีก2ข้อ คือ การรักษาความสะอาดของผิว จากสารกันแดด เครื่องสำอาง มลภาวะภายนอกเวลาเราไปไหน ผิวที่ไม่สะอาดมีสิ่งตกค้าง จะทำให้ผิวไม่สดใส มีสิว มีปัญหาผิว หมองตามมา
  15. การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย บางครั้งด้วยเวลาการทำงานทีบีบรัด ให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง หรือรู้ตัวเมื่อสายริ้วรอยก็มาเยือน การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น การทำเลเซอร์ การยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นความถี่วิทยุ การฉีดสารเติมเต็ม การฝังเข็ม ฯลฯ หลายหลายวิธีอีกมากมาย ที่ช่วยชะลอวัยให้กับเราได้ เพียงแต่ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ผลดี ผลเสีย ผลข้างเคียงให้ดีดีค่ะ

นี่เป็น 15 วิธี ถ้าใครทำได้ 14 ข้อแรก แน่นอนผิวพรรณจะดูอ่อนกว่าอายุแน่ๆ

ทั้ง 15 ข้อนี้ เอิ๊กก็ทำได้หลายข้อนะ และเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าว่าจะใช้วิธีไหนชะลอวัยด้วยอีกเช่นกัน เผื่อวันไหนเราอาจละเลยไป แต่คิดว่ายาก 555555555 เอามาฝากทุกคน ตั้งแต่ต้นปี ให้เตรียมรับมือกับกาลเวลาที่ผ่านไป และ ยื้อวัยที่สดใสของเราไว้ให้นานที่สุดเท่าที่เราทำได้ แต่ไม่ถึงขนาดเสพย์ติดนะ ยังไง 14 ข้อเป็น วิธีที่แนะนำ ธรรมชาติ ฟรี ประหยัด หากใครไม่ไหว ก็พึ่งข้อ 15 ไป ฮ่าๆ

อาทิตย์หน้าพบกับเรื่องราวของ เลเซอร์หน้าใส ที่ใครหลายคนก็เรียก และเอิ๊กเพิ่งได้ทำความรู้จักมา และ ไปทำมาแล้วด้วย 555555555 แล้วพบกันค่ะ

NO RETOUCH NO PHOTOSHOP

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (3)

TALK ABOUT – เครื่องยกกระชับผิว KURON & คสอ.TONY MOLY

Posted in REVIEWComments (2)

TALK ABOUT ” กระ ” (FRECKLE) จุดสีน้ำตาลด่างๆบนใบหน้าที่จะมาเวลาโดนแดด

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้มาทำความเข้าใจผิวหนังที่เป็นกระกันหน่อย เอิ๊กเป็นคนนึงที่ประสบกับปัญหากระกรรมพันธุ์ และ เคยผ่านวิธีการรักษาขั้นเบสิคอย่างการใช้กรด TCA แต้มมาแล้ว ปัจจุบันมีอยู่ แต่ยังไม่คิดจะทำอะไรกับมันเนื่องจาก มันยังเป็นสีจางๆ ไม่เห็นชัดมาก แต่งหน้าเสร็จก็มองไม่เห็นแล้ว เพราะกลัวตอนเป็นสะเก็ดด้วยมันใช้เวลารอคอยเป็นอาทิตย์ กว่าสะเก็ดๆดำ จากการที่เราจี้กระจะออกไปหมด

คลิก2รอบขยายได้จะได้เห็นเม็ดสีน้ำตาลที่ใบหน้าเอิ๊กด้วย

กระ (Freckle) คือ ความผิดปกติของเม็ดสีผิว ที่เซลล์สร้างเม็ดสี สร้างเม็ดสีมากขึ้นผิดปกติเวลาที่ผิวหนังโดนแสงแดด มีลักษณะเป็นจุดๆ สีน้ำตาล น้ำตาลเทาๆน้ำตาลม่วงๆ หรือเป็นสีดำ ขึ้นกับประเภทของกระ มีทั้งอ่อนและเข้ม มีขนาดตั้งแต่เส้นรอบวง 1 มิลลิเมตร จนถึง 1 เซนติเมตร เกิดขึ้นตาม โหนกแก้ม สันจมูก ทั่วใบหน้า หลัง แขน หรือ บริเวณลำตัว อาจค่อยๆเกิดที่ละจุด หรือเกิดพร้อมกันจำนวนมากก็ได้ กระจะมีสีเข้มและมีจำนวนมากขึ้นได้ในฤดูร้อนที่มีแดดแรง และจะจางลงในฤดูหนาว ต่างกับฝ้า ตรงที่ฝ้ามีลักษณะเป็นปื้น และขนาดใหญ่กว่า

 

กระมีทั้งหมด 4 ประเภท และ 2 แบบ

  • แบบที่ 1 กระที่เกิดตั้งแต่เด็กมักเป็นจากกรรมพันธุ์โดยเฉพาะคนผิวขาว เวลาโดนแสงแล้วจะมีจุดๆๆขึ้นที่ผิวหนัง
  • แบบที่ 2 กระที่เกิดตอนโต ตอนเข้าสู่วัยมีอายุ กระตอนโตจะสามารถมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อยๆ
  • ดังนั้นการเกิดกระที่ผิวหนังจะอยู่ที่ 1. กรรมพันธุ์ 2. การปกป้องผิวหนังจากรังสี UV ไม่เพียงพอ

สาเหตุสำคัญ คือ แสงแดด

 

กระ แบ่งเป็น 4 ประเภท

  • กระตื้น หน้าตาจะเป็นจุด สีน้ำตาลเล็กๆ ประมาณ 0.5 มิลลิเมตร กระจายได้ทั่วใบหน้า ถ้าโดนแดดสีจะเข้มขึ้น ถ้าไม่โดนแดดนานๆ สีจะจางลงได้เอง
  • กระลึก หน้าตาจะเป็นจุด สีน้ำตาลเทาๆ ชอบขึ้นบริเวณโหนกแก้ม
  • กระเนื้อ หน้าตาจะเป็นก้อนเนื้อนูนออกมาเป็นตุ่ม สีน้ำตาล หรือ สีดำ อาจจะเป็นผิวเรียบหรือขรุขระก็ได้ กระเนื้อบางครั้งหน้าตาคล้ายหูด มักพบที่ใบหน้า คอ หรือลำตัวก็ได้ มักเกิดขึ้นในได้ตั้งแต่ อายุ 30-40 ปีขึ้นไปจนถึงสูงอายุ

  • กระแดด ลักษณะเป็นดวง สีน้ำตาล ผิวเรียบ ส่วนใหญ่พบในคนสูงอายุหรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน

ตอนนี้ส่องกระจกเอิ๊กหน้าจะเป็นกระตื้น ปนกระแดดตอนเด็กที่โดนแดดจัด ตอนนี้จางไปเยอะเพราะได้รู้จักกันครีมกันแดดนี้ละ

 

วิธีการรักษากระที่ปลอดภัยขึ้นกับประเภทของกระ

ส่วนใหญ่กระและฝ้าจะเหมือนกันตรงที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ถาวร เพราะหากโดนแสงแดดอีกก็จะสามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้ง

  1. กระตื้น วิธีรักษา ใช้ยาทา / แต้มด้วยกรดTCA / เลเซอร์
  2. กระลึก วิธีรักษา เลเซอร์
  3. กระเนื้อ วิธีรักษา ใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า / เลเซอร์ /
  4. กระแดด วิธีรักษา เลเซอร์

การรักษาด้วยการแต้มกรดTCA / เครื่องจี้ไฟฟ้า /เลเซอร์ จะทำให้เกิดสะเก็ด ซึ่งจะหลุดเองภายใน 7-14 วัน แล้วจึงหลุดไป ห้ามแกะสะเก็ดโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้

ข้อดี – ช้อเสียของการใช้ยาทา 

  • ไม่มีแผล / ใช้ระยะเวลาพอสมควร และ อาจจางไปไม่หมด

ข้อดี – ข้อเสียของการแต้มด้วยกรดTCA

  • ราคาถูกมาก / เหมาะกับกระเนื้อขนาดเล็ก / ด้วยความที่เป็นกรดมีฤทธิ์ในการลอกผิวปวดแสบปวดร้อนได้ต้องระวังอย่างมาก ขณะแต้มจะรู้สึกเจ็บจี๊ด กระบางจุดต้องทำหลายครั้งถึงหาย / บางครั้งเกิดแผลเป็นได้

 ข้อดี – ข้อเสียของการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า

  • ราคาถูกกว่าเลเซอร์ / ต้องทายาชา / มีแผลที่เป็นหลุมตื้นหลังทำและจะหายไปเอง

 ข้อดี – ข้อเสียของการใช้เลเซอร์

  • สะดวก เร็ว ไม่เจ็บ / เห็นผลชัดเจน กระบางชนิดทำครั้งเดียวจบ / ราคาสูงหลักพันขึ้นไป / กระบางชนิดมีผลข้างเคียงอาจจะเกิดเป็นรอยด่างขาวก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีผิวปกติ

 

การดูแลตัวเองหลังรักษากระ

  • ทำตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
  • ห้ามโดดแดด
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวันที่ออกนอกบ้าน
  • อย่าแกะสะเก็ดแผลที่เกิดจากการรักษา จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
วันนี้นำภาพการยิงเลเซอร์กระลึกมาฝากก่อนไป เนื่องจากวันนั้นไป ISKYCENTER ไปทำครีมบำรุง เลยคุยกับคุณหมอเรื่องกระตัวเอง คุณหมอเลยบอกว่าท่านยุ่งมาก อาจไม่มีเวลามาคุย แต่มีเวลาพาไปดูคนไข้ที่นัดไว้มารักษากระลึก คนไข้คุณหมอก็น่ารัก พอคุณหมอบอกว่าเราเป็นนักเขียนบล็อคก็ยอมให้เราเก็บภาพเราเลยได้ภาพวิธีการใช้เลเซอร์รักษากระมาให้ดูกันพอหอมปากหอมคอ ต้องขอขอบพระคุณพี่เค้ามากค่ะ ไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่ผิวใสมาก ถ้าไม่มีกระลึกที่สีเข้มที่ผิวนะ HOT แน่แน่ เค้ากำลังจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ เลยมารักษากระลึกให้เสร็จก่อน แต่กระลึกต้องทำ 3 ครั้งขึ้นไป เพราะมันอยู่ลึกหน่ะสิ !
ไม่ได้รู้จักกันมันก่อน แต่พี่เค้ายอมยกมือถือให้เราดูภาพกระก่อน และ หลังทำเสร็จครั้งแรกให้ดู ผิวใสแต่พอมีกระลึกรวมตัวแล้วทำให้ดูเหมือนฝ้าจางๆ ทำให้หน้าดูไม่ใส แบบนี้เป็นเอิ๊กๆคงต้องไปเอาออกด่วน ดีเราเป็นกระตื้น + แดด ไม่โดนแดดมันก็จาง

 เป็นการยิงเลเซอร์  Q-switched Nd: YAG ที่ลดทำลายเม็ดสีน้ำตาลออกไป รักษาครั้งที่ 2 เหมือนกระที่ใกล้จมูกหายโบ๋เบ๋ไปแล้ว เหลือแต่ข้างๆใบหน้า (มือคุณหมอจะขาวไปไหนคะ ? 555 )

เครื่องเลเซอร์คงไม่มีที่ไหนทำด้วยผู้ช่วยพยาบาลหรอกเนอะ ฝากไว้ให้ทุกคนรู้ว่าต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใบประกอบการพร้อมเท่านั้นนะคะ มันอันตราย คุณหมอก็จะตั้งค่าเครื่องให้เรียบร้อย หันมายิ้มน่ารักๆให้ลูกศิษย์ 1 ที (อิอิ อยากเป็นลูกศิษย์ค่ะ) และ ผู้ช่วยคุณหมอก็จะทำความสะอาดใบหน้าคนไข้

ในการยิงตัวนี้จะมีการเป่าลมแรงๆเข้าช่วยเพื่อลดอาการเจ็บ ถ้าจำไม่ผิดเคยทำลดรอยดำ มันจะเหมือนอะไรจิ้มๆที่ใบหน้าเร็วๆรัวๆ แต่เพราะแรงลมเย็นช่วยทำให้ลืมความเจ็บ กลายเป็นไม่ค่อยรู้สึกได้ (จะว่าไปเอิ๊กก็เลเซอร์มาเยอะเนอะ – -“) เดี๋ยวต้องไปถามคุณหมออีกที ว่ามันใช่ที่เราเคยทำหรือไม่ ถ่ายภาพได้เก่งมาก แสงวาบออกมาเลย

หลังยิงจะเหมือนเป็นสิวอักเสบเลยเมื่อมองไกลๆ ที่ทาคือวาสลีนกันน้ำเข้าแผล และช่วยให้หายเร็ว ไม่มีแผลเป็น หลังจากนั้นจะตกสะเก็ด อย่าพยายามโดนน้ำ หรือออกไปโดนแดด จะช่วยให้ไม่มีแผลแน่นอน สวยแน่แน่ (เคยทำมาแม้จะคนละแบบกับเลเซอร์ แต่ตกสะเก็ดเหมือนกัน) คือ ทำยังไงก็ได้ให้สะเก็ดมันหลุดเองอย่างธรรมชาติ

ก่อนไปโชว์กระให้เห็นอีกซักรอบ รูปนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว 55555

เรียนจบเดือนตุลาคม ทำงานเดือนพฤศจิกายน แววบ้างานตั้งแต่วัยรุ่น 🙂

อาทิตย์นี้เอิ๊กก็อ่านและมาสรุปเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายสไตล์เอิ๊กเองหวังว่าคงได้รับความรู้ใหม่ไปประดับกันว่าอย่า ” โดดแดด “

อาทิตย์หน้าเรื่องอะไรดี รูขุมขนกว้าง เอาม๊ะ เอาม๊ะ ???????

XOXO

 

 

 

 

 

แหล่งที่มาข้อมูล

– http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=33

– Presentation นักเรียนแพทย์ผิวหนังของ ผศ.พญ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– คนไข้ ISKYCENTER

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (2)

HOW TO & REVIEW – ลอกสิวเสี้ยนด้วย LANSLEY beauty buffet

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการ REVIEW ตัวลอกสิวเสี้ยนที่เกือบจะเทพ ถ้าไม่มีกาวตราช้างตามคลินิคเป็นแชมป์ซะก่อน

ราคาสบายกระเป๋า 2 หลอด 195.- บาท

ตัวนี้คือ BHA SCRUB & SEBUM REMOVE MASK ของ LANSLEY

 

ทำไมต้องมีต้องมี 2 หลอด หลอดนึงเป็น BHA ทำหน้าที่ละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน อีกหลอดนึงเป็นกาวที่อ่อนโยนต่อผิวหนังช่วยกระชากซากไขมันอุดตัน (สิวเสี้ยน)ให้กระเด็นออกมามากที่สุด

หลอดเบอร์ 1 ตามด้วยหลอดเบอร์ 2 ทุกครั้งจึงจะเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์แบบ

มาสำรวจสิวเสี้ยนกัน จมูกและคาง จะอื้อซ่ามากกกกกกกกกกกก เห็นแล้วก็เพลีย 555

HOW TO กำจัดสิวเสี้ยนด้วย BHA SCRUB & SEBUM REMOVE MASK ของ LANSLEY กันดีกว่า

1. ล้างมือให้สะอาด สะอ้าน

2. ล้างหน้าให้สะอาด ด้วยน้ำเปล่าบริเวณที่จะทำการดึงสิวเสี้ยนออก

3. เช็ดให้แห้ง ตามด้วยชโลม TONER ที่ใช้อยู่ บริเวณที่จะทำ

4. ทิ้งไว้ให้ผิวหมาดซักครู่

5. ลงครีมหลอดเบอร์ 1 ที่เป็น BHA ให้ทั่วบริเวณที่จะทำการลอกในที่นี่ ทำที่จมูก ซอกจมูก และ คาง

6. นวดจนครีมซึมจนเนื้อครีมแห้ง ประมาณ 5 – 10 นาที

7. ล้างBHA หลอดเบอร์ 1 ออกแล้ว ซับให้แห้ง

8. ลงครีมหลอดเบอร์ 2 ที่เป็นกาว

7. ลงชโลม จมูก และ คางให้ชุ่มปานกลาง ห้ามบางเด็ดขาด

8. ทิ้งเวลาไว้ให้จนมันแห้ง ยิ่งนานยิ่งดี สะใจ

9. แห้งแล้วลอกออกจะแนวลงมา หรือ ย้อนขึ้นก็ได้เลือกทิศใดทิศนึง

10. กระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์อีกที เป็นอันเสร็จพิธี

ผลลัพธ์ที่ได้ Taa daaaaaaaaaaa ~

นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว

เมื่อสิวเสี้ยนลาจาก หน้าเราก็จะเนียนขึ้น แต่งหน้าได้เรียบขึ้นแบบนี้

COOL : ราคาเบา หาซื้อง่ายที่ BEAUTY BUFFET ทุกสาขา วิธีการก็ง่าย ไม่ต้องเดินทางไปให้หมอลอกให้เมื่อย ไม่ทำร้ายผิว ไม่เห่อบวมแดง

UNCOOL : ผิวแห้งไม่ค่อยเหมาะ มีการระคายเคืองเป็นตุ่มใสเกิดขึ้น แต่สะกิดออก รอนานกว่าจะแห้งและเซ็ทตัวพร้อมดึง ลอกได้หมดจดสู้กาวตราช้างไม่ได้ อย่างน้อยได้ 40-60%

หวังว่าบลอควันนี้คงคู่ควรกับการรอคอยนะคะ

XOXO

Posted in ACNE, HOW TO, MASK, NOSE, REVIEWComments (1)

HOW TO : สลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็นเยือก COOLSCULPTING BY ZELTIQ

ความลับของไขมัน – เซลล์ไขมันไม่ชอบความเย็น เมื่อมันถูกแช่แข็ง เซลล์ไขมันก็จะตายและสลายไปเอง

มาดูวิดีโอให้เห็นภาพกันชัดๆดีกว่ากับ การสลายไขมันด้วยความเย็นเยือก

วิธีลดไขมันมีอยู่ 2 วิธี

1.ทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลง

2.ทำให้เซลล์ไขมันมีจำนวนน้อยลง

CLICK ทำความรู้จักไขมันก่อนลดน้ำหนัก

———————————————————-

การสลายไขมันด้วยความเย็น = การทำให้เซลล์ไขมันตายด้วยความเย็นที่จุดเยือกแข็ง

ต้นกำเนิดมากจาก นายแพทย์ Rox Anderson / Harvard University   แพทย์ผิวหนังระดับโลก ที่ค้นพบว่าเด็กที่ชอบดูดไอติมบ่อยๆนานๆ มีแก้มที่ตอบลงเนื่องจากเซลล์ไขมันถูกทำลาย จังหวะเดียวกันมีการค้นพบว่า เมื่อนำไอติมไปตั้งที่อุณหภูมิลบ ตัวไขมันในไอติมมันแข็ง จึงเกิดความคิดว่าความเย็นมันต้องทำอะไรซักอย่างกับไขมัน เลยเกิดสมมุติฐานว่าถ้าเราให้ความเย็นกับผิวหนังในระดับนึง ตัวเซลล์ไขมันในชั้นไขมันจะถูกทำอันตรายจากความเย็นได้ก่อน จึงได้ทำการทดลองวิจัยในห้องLAB และค้นพบว่า

” อุณหภูมิประมาณ  4 – 7 องศาจะทำให้เซลล์ไขมันตาย “

  • ถ้าอุณหภูมิน้อยกว่า 4 องศา เซลล์เม็ดสี เส้นเลือด/เลือดก็แข็ง เส้นประสาทจะถูกทำลาย
  • ถ้าอุณหภูมิมากกว่า 7 องศา เซลล์ไขมันจะไม่ตาย

การวิจัยครั้งนี้จึงเกิดมาเป็นเครื่องมือที่ชื่อว่า ZELTIQ (Cryolipolysis) เพื่อ ..

  1. ควบคุมความเย็นให้ได้องศาที่เหมาะสมเลือกทำลายแต่เซลล์ไขมันแต่ไม่ได้ทำลายส่วนอื่น
  2. ต้องปล่อยความเย็นอุณหภูมิที่เหมาะสม 4 ถึง 7 องศา นานต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง และเลือกตำแหน่งที่จะสลายไขมันเฉพาะส่วนได้ เพราะมนุษย์เราไม่สามารถนำร่างทั้งร่างไปแช่แข็ง เพราะเส้นประสาท เส้นเลือดจะถูกทำลายไปก่อน พวกที่อาศัยอยู่ในอากาศหนาวเย็นยะเยือกที่ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าอาจกุดเพราะเลือดไม่ไปเลี้ยง เส้นประสาทก็ตายจากความหนาวเย็น
  3. การทำแบบนี้จะทำให้ไขมันในเซลล์ถูกแช่แข็งได้
  4. หลังจากนั้นไม่กี่วันมันจะอักเสบและตายไป
  5. ร่างกายเราก็จะกำจัดซากเซลล์ไขมันที่ตายไปแล้วออกมาจากร่างกายเองตามธรรมชาติ ภายในระยะเวลา 3 เดือน
  6. หลัง 3 เดือนไปชั้นไขมันก็จะจัดเรียงตัวใหม่อย่างเป็นระเบียบ ความหนาของชั้นไขมันก็จะบางลง
  7. ผลการทดลองเฉลี่ยทดลองกับมนุษย์ จะช่วยสลายไขมันได้ประมาณ 22% จากการรักษา 1 ครั้ง

คนที่เหมาะกับการสลายไขมันด้วยความเย็น คือ ต้องไม่อ้วนมาก ไม่ผอมมากจนมีแต่หนังหุ้มกระดูก แต่เป็นคนที่มีส่วนเกินไขมันสะสมเฉพาะส่วน ลดความอ้วนแต่มีส่วนเกินที่เหลืออยู่ หรือออกกำลังกายแต่ไขมันส่วนเกินไม่ออกทำยังไงก็ไม่หายไป เช่น ผอมแต่หน้าท้องย้วย ข้างหลังมีเนื้อห้อยออกมาบริเวณใต้สายเสื้อใน หรือ เนื้อห้อยตรงเอวเหนือสะโพกทำให้ใส่เสื้อรัดรูปไม่สวย สะโพก ต้นขาด้านใน

คลิกที่รูปขยายได้นะคะ

ในไทยตอนนี้วิธีที่สลายไขมัน และ ทำให้ไขมันแตกตัวจนสามารถลดจำนวนของเซลล์ไขมันได้ มีทั้งหมด 2 วิธี

1. ดูดไขมัน VASER / LIPOSUCTION 

  • ข้อดี = ไขมันหายไปอย่างรวดเร็ว สัดส่วนลดลงอย่างเห็นได้ชัดทันทีหลังทำ
  • ข้อเสีย = ราคาต่อครั้งสูง / มีความเสี่ยงในการดมยาสลบ ล่าสุดมีข่าวคนเสียชีวิตจากการดมยาสลบระหว่างกำลังทำการดูดไขมัน / มีแผล / ต้องเจาะรู / ต้องพักฟื้น / ผิวหนังอาจเป็นคลื่นๆหลังทำ

2. สลายไขมันด้วยความเย็น COOLSCULPTING 

  • ข้อดี  = ไม่มีแผล / ระหว่างทำสามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้ / สามารถลดส่วนเกินที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือลดน้ำหนัก / ไม่มีแผล / ไม่ต้องผ่าตัด / ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้ยาสลบ / ทำครั้งเดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลาไปทำแบบคอร์ส
  • ข้อเสีย = ราคาต่อครั้งสูง / มีรอยช้ำเล็กน้อย / บางรายมีโอกาสสูญเสียเม็ดสีที่ผิวหนัง / เซลล์ไขมันที่ยังเหลืออยู่อาจจะให้มีส่วนเกินกลับมาได้ถ้าไม่คุมอาหารหรือออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย / ถ้าไม่ระวังเรื่องความเย็นอาจทำให้ผิวไหม้ได้ / ยังไม่มีการออกแบบตัวCUPให้ทำบริเวณๆเล็กๆ เช่นต้นแขนได้

———————————————————-

มาถึงขั้นตอนวิธีการทำ ที่เราจะนำ HOW TO มาให้ดู เอิ๊กทำที่ ISKYCENTER นะคะ กับคุณหมอรังสิมาเช่นเคย

ราคาต่อครั้งจะอยู่ที่จุดละ 30,000 บาท

1. วัดและมาร์คจุดไขมันส่วนเกินที่จะทำการปล่อยความเย็น (ทำที่พุงนะคะ)

หลายคนอาจตกใจ เอิ๊กเป็นคนคนที่อ้วนง่าย กินเพียงนิดก็ทะยานแล้ว ตัวเล็กพลังงานในร่างกายต่อวันก็ใช้น้อยกินมากหน่อยก็สะสม และคาดว่าเป็นคนที่มีเซลล์ไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก แถวส่วนเกินด้านล่างของร่างกาย ต้นขา สะโพก พุง ด้านบน แฟบบบบบบบบ ดูมือของคุณหมอ เนียน ขาวตึง และดูพุงของเอิ๊กสีดรอปทันใด – -“

2. วางแผ่นเจลเย็นเพื่อช่วยให้การจับก้อนไขมันทำได้ดีขึ้น

ดูเอาเองแล้วกัน คุณหมอตกใจ ผู้จัดการศูนย์ ISKY ตกใจ เครื่องนี้ช่วยกันหลายคนมาก เสียงหัวเราะอบอวล เพราะพุงกลมๆของเอิ๊ก ฮ่าๆ ” สีหน้ายังดีอยู่ยังคงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ? “

3. นำตัวปล่อยความเย็น มาดูดไขมันส่วนเกินที่ได้ทำการมาร์คไว้ตอนแรก (ทำที่พุง)

ชื่อเล่นว่า CUP หน้าตาน่ารักแบบนี้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง และใช้แล้วทิ้งทุกครั้ง เอา CUP มาจุ๊บดูดพุงที่มีไขมันส่วนเกิน

 

4. กด CUP ลงไปเบาๆบริเวณที่ต้องการสลายไขมัน เปิดเครื่อง CUP จะค่อยๆดูดช่วงพุงเข้าไปจนเต็ม CUP

ช่วงเวลานี้ บางคนบอกว่าสบายมากไม่เจ็บ แต่ด้วยเอิ๊กทนอะไรไม่ค่อยได้ เจ็บพะยะค่ะ ดูหน้าเอา คุณหมอคนสวย กับ ผู้จัดการคนสวย ก็จะถามตลอด โอเคขึ้นไหม ไหวไหม ?

5. เริ่มปล่อยความเย็นเยือกที่ 4 องศา ถึง  7 องศา เพื่อแช่แข็งไขมันส่วนเกินประมาณ 1 ชั่วโมง (ที่พุง)

คุณหมอจะนำหมอนมารองเครื่องZELTIQไว้ให้ตั้งตรงจะได้ดูดส่วนเกินได้เยอะที่สุด หน้าตาซีดเสียวมาก 5555555555 คุณหมอได้ขอตัวไปทำ THERMAGE กระชับใบหน้าคนไข้ห้องอื่นรอแล้ว อยากจะบอกว่าอยากจะหลับ แต่เจ็บจนหลับไม่ลง คือ หน้าตาบอกความรู้สึกได้หมด ทำไมฝรั่งที่ทำชิวกันจัง

6. เสร็จสิ้นกระบวนการปล่อยความเย็นจากเครื่อง ZELTIQ

จะดึง CUP ที่มาจุ๊บดูดหน้าท้องแล้วปล่อยความเย็น 1 ชั่วโมงต่อเนื่องออก ผ่านไปครึ่งชั่งโมง กลั้นใจหลับจะได้ลืมเจ็บ หลับจริงเลย ตื่นอีกทีคุณหมอเข้ามาบอกว่าเอาออกได้แล้ว อ๊าาาาาาาาาาส์ เสียงสวรรค์

หน้าตาของพุงที่โดนปล่อยความเย็นเยือกแบบองศาติดลบ พุงออกมาเป็นรูป CUP เลย เย็นมากกกก !

BEFORE – AFTER หลังทำทันที พุงจะยุบภายใน 30 นาที – 1  ชั่วโมง

 

หลังทำจะจับท้องไม่ได้เลย จะมีอาการแสบเมื่อมีการเสียดสีเสื้อผ้าที่สวมใส่ และ รู้สึกว่าท้องเป็นก้อนๆ เนื่องจากไขมันมันถูกแช่แข็ง และไม่กี่วันมันก็กำลังอักเสบ และกำลังค่อยๆสลายไป รู้สึกอยู่ 10 วัน หลังจากนั้นจะมีชีวิตที่เป็นปกติ ข้อแนะนำควร ยั้งการทานอาหาร เพื่อการที่ทำไปได้ผลร่วมกันเป็นอย่างดี เดี๋ยวเราจะมา REVIEW ผลการทำเมื่อครบ 2 เดือน และ 3 เดือนนะคะ

XOXO

ที่มาแหล่งข้อมูลประกอบ

- เทปสัมภาษณ์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา
http://www.youtube.com/watch?v=JH0lx1OeMGshttp://www.cvlc.com/blog/?p=188
http://utahzeltiq.com/pictures.htm
http://www.youtube.com/watch?v=QxaYLClYTbE&feature=player_embedded#!
http://www.saltzplasticsurgery.com/uploads/CoolSculpting_ZELTIQ_Illustration_Chart-450x1043.jpg
http://saladforbreakfast.blogspot.com/2010/11/coolsculpting-by-zeltiq-first-session.html
http://www.citydigz.com/wp-content/uploads/2011/01/How-Zeltiq-Works.bmp

Posted in DIET, FAT, HOW TOComments (2)

TALK ABOUT – เมื่ออยากลดน้ำหนักเราก็ต้องมาทำความรู้จักกับ “ไขมัน” ที่ทำให้เราอ้วนนนนน

” เรื่องของไขมัน แท้จริงควรรู้มากทีเดียว สำหรับคนที่อยากจะรีดน้ำหนักและส่วนเกินออกจากร่างกาย “ .. ส่วนตัวไม่เคยจะศึกษาให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งมาเป็นระยะเวลานานมากพอสมควร 24 ปี อ่านหนังสือลดน้ำหนักก็ไม่เคยพูดถึง”ไขมันอย่างจริงจัง” สงสัยกลัวเราจะปวดหัวก่อน แต่เราก็มีวิธีลดน้ำหนักตามธรรมชาติของตัวเอง คือกินให้น้อยกว่าที่ร่างกายใช้เป็นระยะเวลาต่อเนื่องพอสมควรอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป น้ำหนักที่เพิ่มมา จากการทานอาหารเกินความจำเป็นจนร่างกายนำไปใช้ไม่หมด ที่มันก็กลายมาสะสมตามหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน ก็จะหายไป นี่คือสิ่งที่เข้าใจมาตลอด ความจริงก็คือ มันไม่ได้หายไปไหน ????? เอ๊ะแล้วเราผอมลงได้ยังไง ..
นั่นแหละคือ เหตุผลที่ต้องมาทำความรู้จักกับเซลล์ไขมันกันหน่อย
  • เซลล์ไขมัน หรือ FAT CELL เป็นเซลล์ที่อยู่เดี่ยว หรือ อยู่เป็นกลุ่มก็ได้
  • ถ้าเซลล์ไขมันรวมกันเป็นกลุ่มกระจุกเราจะเรียกมันว่า “เนื่อเยื่อไขมัน”
  • เซลล์ไขมัน มีหน้าที่เก็บไขมัน
  • เซลล์ไขมันอาศัยอยู่ตามผิวหนัง และ รอบอวัยวะต่างๆ
  • เนื้อเยื่อไขมันทำหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ยามหนาวให้ความอบอุ่น
  • และเจ้าไขมันยังป้องกันการกระแทกของอวัยวะภายในร่างกาย
  • เมื่อเซลล์ไขมันเมื่อเกิดการกระจุกตัวอย่างหน้าแน่น(เนื้อเยื่อไขมัน)อัดกันเป็นก้อนใหญ่เกิน จนนูนขึ้นมาตามบริเวณผิวส่วนต่างๆก็จะเกิดตะปุ่มตะป่ำ หรือที่เรียกกันว่าเซลล์ลูไลท์ (ผิวเปลือกส้ม)
เนื้อเยื่อไขมัน = อยู่กันเป็นกลุ่ม รักกันเป็นกระจุกๆ
คนเราเกิดมา แต่แรกเกิด ระบบการพัฒนาเซลล์ไขมันที่เอาไว้เก็บไขมันของเราจะแบ่งตัวเร็ว เซลล์จาก 1 เป็น 2 2 เป็น 4 และทวีคูณขึ้นไป จะแบ่งไปเรื่อยๆจนอายุประมาณ 2-5 ขวบ เมื่อนั้นเซลล์ไขมันจึงจะหยุดการแบ่งตัว แต่มันจะ “ขยายขนาดแทน”
ดังนั้นมนุษย์เราจะอ้วนได้จากเซลล์ไขมัน 2 แบบ
  1. เซลล์ไขมันที่มีอยู่จำนวนมาก
  2. เซลล์ไขมันที่มีอยู่มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น
เช่น เด็กอ้วนมักเกิดจากเซลล์ไขมันที่มีอยู่จำนวนมากจากการแบ่งตัวตอนแรกเกิดจนถึงประมาณ 5 ขวบ
แต่ ผู้ใหญ่อ้วนมักเกิดการการที่เซลล์ไขมันที่มีอยู่เดิมขยายขนาดใหญ่ขึ้น
จากภาพจะเป็นปรากฏการณ์อ้วนแบบที่ 2 เซลล์มีอยู่เท่าเดิมด้านขวา เมื่อกินไปกินมาเกิดไขมันสะสมในเซลล์ทำให้ ภาพด้านซ้าย เซลล์ไขมันที่มีอยู่เกิดการขยายขนาดใหญ่ขึ้น จึงอ้วน
การจะลดน้ำหนักมีอยู่ 2  แบบ
  1. ทำให้เซลล์ไขมันที่มีอยู่เดิมมีขนาดเล็กลง
  2. ทำให้เซลล์ไขมันที่มีมาตั้งแต่แรกเกิดแตกก็จะลดจำนวนเซลล์ไขมันลง
 
ปัจจุบันการออกกำลังกาย เป็นการทำให้เซลล์ไขมันมีขนาดเล็กลง แต่ไม่ได้ทำให้เซลล์ไขมันมีจำนวนลดน้อยลงจากที่มีอยู่ รวมถึงเทคโนโลยีการสลายไขมันหลายๆอย่างส่วนมากก็ทำได้แค่ลดขนาดเซลล์ไขมัน เมื่อก่อนอาจจะมีอยู่วิธีเดียวที่ทำให้เซลล์ไขมันมีจำนวนลดน้อยลงก็คือการ “ดูดไขมัน” (เอาเข็มเจาะเข้าไปแล้วดูดเอาเซลล์ไขมันออกมา) เซลล์ไขมันจึงน้อยลง แต่ขนาดที่ขยายใหญ่ก็ไม่ได้เล็กลง และเซลล์ไขมันที่ยังอยู่ในร่างกายก็พร้อมจะขยายใหญ่เอามากๆได้ทุกเมื่อ ที่เราละเลยการดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างจริงจัง .. รู้เอาไว้ ที่ผอมลง อ้วนขึ้นไวไว .. มันเป็นความสามารถพิเศษของไขมัน ที่จะพองขึ้นได้เร็วมาก แต่หดได้ช้า
คนเดียวกัน กับความสามารถพิเศษของเซลล์ไขมันที่มีอยู่ในร่างกาย พอง และ หด พอง และ หด ได้ตลอดเวลา
การออกกำลังกายจึงยังเป็นเรื่องที่ดีแม้ไม่ได้ทำให้เซลล์ไขมันลดจำนวนลง แต่ทำให้ทุกส่วนของร่างกายมีขนาดเซลล์ไขมันที่เล็กลงทั่วร่าง ร่างกายเราจึงดูผอมลง ได้สัดส่วน และมีสุขภาพดีขึ้นได้จากการที่ร่างกายมีขนาดที่พอดีไม่อ้วนจนเกินไป ไม่ผอมจนเกินไป อวัยวะภายในก็ถูกจัดระบบให้อยู่อย่างเหมาะสม และมีพื้นที่ที่ไม่เบียดเสียดทับกันภายในให้เกิดอาการผิดปกติออกมา
” คนที่กินน้อยแต่อ้วนง่าย “ อาจจะเพราะในร่างกายมีเซลล์ไขมันอยู่จำนวนมาก เวลาทานเยอะเกินจนสะสมร่างกายดึงไปใช้ไม่หมด เซลล์ไขมันทุกเซลล์จึงพร้อมใจกันขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น พอขึ้นทั้งร่าง เลยดูอวบ อ้วนเร็วกว่าบางคน ที่ทานเท่ากัน แต่อ้วนไม่เท่าก็อาจจะเพราะ อีกคนเซลล์ไขมันในร่างกายจำนวนน้อยกว่า ต่อให้พร้อมใจกันขยายขนาดก็สู้คนที่ในตัวมีเซลล์ไขมันจำนวนมากไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลให้คนบางคนต้องกินให้น้อยเข้าไว้
หวังว่าการทำความเข้าใจเรื่องไขมันคงดีขึ้น และคงเข้าใจว่าทำไมตัวเองจึงควรกินน้อยกว่าบางคนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนมันเป็นเรื่องที่ได้มาตั้งแต่ตอนเกิด 😀 เราอย่าสนใจในสิ่งที่เราต้องเป็นเลย สนใจสิ่งที่จะดูแลตัวเองยังไงให้เหมาะสมและภูมิใจกับสิ่งที่เป็น
ผู้หญิงคนนี้ก็พองๆยุบๆ เนื่องจากเซลล์ไขมันในร่างกายคงมีพอสมควร ทานไม่เยอะอ้วนง่าย กว่าจะหดไซส์เดิมใช้เวลานาน
ยังไงก็ตามลดวิธีไหน จะอยู่นานไม่นาน มันอยู่ที่ความต่อเนื่อง
ใช้เทคโนโลยีช่วยล่นระยะทางได้ก็จริง แต่ไม่ได้ทำให้ระยะทางในการไปถึงเป้าหมาย คือ การทำให้เราดูผอมลง
อยู่ได้นาน อยู่ได้ยาว เหมือรกับวิธีเบสิค คือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และ ออกกำลังกายสม่ำเสมอถ้าทำได้
บทความนี้เอิ๊กอ่านเพิ่มเติม เอิ๊กฟังเทปสัมภาษณ์สด เอิ๊กทำรูป และสรุปข้อมูลมาให้สั้นและพยายามทำให้ทุกคนเข้าใจง่ายๆ
หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย
บทความต่อไป พบกับ การกำจัดไขมันส่วนเกินสำหรับคนที่ไม่อ้วนมาก ไม่ผอมมาก แต่มีส่วนเกินที่เอาไม่ออก แม้ว่าจะออกกำลังกายมาฝาก
เป็นอีกวิธีที่ทำให้ไขมันแตกกระจุย ลดจำนวนลงได้
พบกันค่ะ 😀
XOXO
ที่มาของแหล่งข้อมูล
– แกะเทปสัมภาษณ์สด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา รพ.ศิริราช และ ที่ปรึกษา ISKYCENTER รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม

Posted in DIET, FATComments (5)

HAIR TUTORIAL : หนีบผมตรงอย่างเป็นธรรมชาติ

XOXO

Posted in HAIR, HOW TOComments (0)

BEAUTY NEWS เปิดตัวเครื่องสำอาง BISOUS BISOUS แบรนด์เกาหลี สไตล์ฝรั่งเศส

Posted in BEAUTY NEWS, MAKE UP, REVIEWComments (0)

TALK ABOUT – การจัดฟันแบบใส CLEAR ALIGNER


หน้าตาเจ้าเครื่องมือที่ใช้จัดฟันแบบใสเป็นแบบนี้

 

 

 

 

ต่อไปเป็นข้อมูลสัมภาษณ์จาก Twitter คุณหมอ @DrWuttibong

ทันตแพทย์จัดฟันเฉพาะทางนะคะ

 

 

ต้องขอขอบพระคุณ คุณหมอ @DrWuttibong มา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ

ใครมีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก ฟอกฟัน อยากจัดฟันก็ทวิตไปสอบถามคุณหมอได้เลยนะคะ คุณหมอใจดีค่ะ 🙂

 

 

 

เดี๋ยวคนจะนึกภาพไม่ออกว่าหน้าตาคนไทยใส่แล้วเป็นยังไง

ผู้หญิงคนนี้ก็จัดแบบใสอยู่ ข้างล่างเสร็จไปครึ่งปีแล้วใส่รีเทนเนอร์อยู่

จัดแต่ข้างบนในไม่ช้าก็น่าจะเรียบร้อย ไว้นำผลงานมาให้ชมค่ะ

XOXO

 

 

แหล่งรูปภาพ

cliftonsmiles.com

s4sdental.com

brace.com

dentist-bundaberg.com.au

Posted in TEETHComments (3)

REVIEW – ครีมทาตัว JOHNSON’S NATURALLY WHITE DAILY UV LOTION

วิธีใช้ครีมบำรุงผิวสำหรับคนผิวหน้า ผิวกายแห้งของเอิ๊กคือ = จะทาครีมตอนผิวหมาด ซับน้ำให้แห้งหลังจากอาบน้ำเสร็จเนื่องจากผิวมีความชุ่มชื้นอยู่จากน้ำ ก็จะทำให้ครีมบำรุงซึมเข้าสู่ผิวและออกประสิทธิภาพได้ดี ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวได้ดีที่สุด ก็คือช่วงที่ผิวหมาดๆหลังอาบน้ำใหม่ๆ นี่แหละค่ะ

 

 

สำหรับ JOHNSON’S BODY CARE สูตร NATURALLY WHITE DAIRY UV LOTION

ซุปตาร์ที่เราจะพามารู้จักในวันนี้ เป็นสูตร WHITENING ที่อัดน้ำนมให้ผิวชุ่มชื่น อัดวิตามินซี (วิตามิน จะช่วยให้ยับยั้งเอนไซม์การปล่อยเม็ดสีเมลานินสีเข้ม  และวิตามินสียังมีฤทธิ์ในการฟอกผิวอ่อนๆทำให้สีเมลานินจางลง แต่ในผลิตภัณฑ์นี้มั่นใจว่าความเข้มข้นไม่มาก ปลอดภัยอยู่จึงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรถึงจะรู้สึกว่าผิวเริ่มจะดูผ่องขึ้น ) และ สารกันแดด UVA & UVB ที่ช่วยให้วิตามินซีคงสภาพอยู่นานเพื่อทำงานให้ผิวกระจ่างได้ดีขึ้น ขวดนี้เคยใช้แบบไซส์ยักษ์อยู่ แต่เลิกไปเพราะไม่ชอบกลิ่นอย่างเดียว เป็นคนชอบครีมที่มีน้ำหอมฟุ้งๆ เพราะว่าขี้เกียจใส่น้ำหอม การมีน้ำหอมอ่อนๆ หรือไม่มีเลย มันก็ดีกับผิวตรงที่ว่า ไม่ทำให้แพ้ ระคายเคือง หรือเป็นสิวตามลำตัว

วิธีลงก็ลงกับผิวหมาด (แต่ที่เห็นในรูป เป็นคนไม่ค่อยเช็ดตัว เลยลงกับผิวขณะเปียกชุ่ม หลังอาบน้ำ ก๊ากกกก) ลูบให้ดูว่ามันจะดูเหมือนผิวขาวขึ้นนิดๆ หลังใช้เพราะตัวเนื้อครีมเองเคลือบผิวเราอยู่ ตอนแห้งต้องใช้เวลานิดนึงเนื่องจากเราทาตอนผิวเราเปียก เลยใช้เวลาในการซึมลงสู่ผิว ใช้ทั้งเช้าและเย็น ส่วนตัวชอบเพราะมีการทำงานของสารกันแดดมาให้ทำให้การใส่วิตามินซีลงไป ทำให้วิตามินซีคงสภาพนานขึ้น ใช้แบบแดดรำไรใกล้จะตกน่าจะพอได้

 

COOL : ชอบที่ผิวดูเหมือนขาวขึ้นนิดนึงหลังทาเพราะเนื้อครีมเคลือบผิวไว้ และมีสารกันแดดอ่อนๆให้การทำงานของครีมได้ผลดีขึ้น ผลลัพธ์ที่ใช้พักนึง สีผิวแปรสภาพอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแม้ไม่มาก แต่ก็เห็นเลยเมื่อเทียบผิวกับคนที่เคยเทียบ ส่วนตัวคิดว่าเพราะตัวเองตากแดดน้อยลงด้วย และขัดผิวด้วยมะขามเร่งการผลัดเซลล์ผิวด้วย ทุกอย่างเรียกง่ายๆ ว่าครบวงจรแบบทำเองอยู่บ้าน ราคารับได้ด้วยขวดนี้ บางทีเพลินๆก็ผสมกับ ผงไข่มุก AHA ทาก่อนนอน ตัวนี้แม้ออกแบบมาให้ผิวดูกระจ่างขึ้น แต่ก็ไม่ทำให้ผิวเราแห้ง มีน้ำนมทำให้ผิวเรามีความชุ่มชื่นในระดับนึง คนผิวธรรมดา และ ผิวมันน่าจะ HAPPY

UNCOOL : เอิ๊กไม่ชอบกลิ่นแบบนี้ มันยังไม่หอมได้ใจ (ส่วนตัว) ฮ่า  ความชุ่มชื่นที่มีมาในรูปแบบส่วนผสมน้ำนม อยากจะบอกว่ามันยังไม่พอสำหรับคนผิวแห้ง คนผิวแห้งต้องใช้แบบชุ่มๆ กว่านี้อีกมากทาแล้วไม่ไม่แห้งแต่ก็ยังไม่ชุ่มพอ

RECOMMEND : จำไว้ว่าสารกันแดดที่มีก็ยังคงไม่พอจะต่อสู้กับแดดบ้านเรา ยังไงควรกันแดด หลบแดดเสริม ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ไว เพราะตากแดดแค่ชั่วโมงเดียวเรียกกลับกันเป็นปีนะคะ และ

แต่ถามว่าซื้อต่อไหม คงซื้อมาใช้สลับกับตัวที่ให้ความชุ่มชื้นหนักๆ ควบคู่ไปด้วยกันค่ะ เพราะผลลัพธ์มันดีสำหรับผิวเรา แต่ผิวเราก็ไม่ได้เหมือนกับผิวใคร เป็นความคิดเห็นส่วนตัว 😀 ที่ใช้แล้วนั่งสังเกตุผลเอา

XOXO

 

 

 

 

 

 

 

Posted in BODYComments (0)

MAKE UP HOW TO X’MAS GAL <3 แซนตี้ .. ขี้เล่น


สวัสดีค่ะเนื่องจากใกล้เทศกาลคิดมาก เอ้ย คริสมาสต์ และ ปีใหม่ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนทุกคนเนื่องจาก ความตั้งใจใหม่ การเริ่มต้นใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก เราจะเห็นการเฉลิมฉลองมากมายของผู้คน แสงไฟประดับประดาตามสถานที่ต่างๆ เหมือนเป็นสัญลักษณ์เพื่อบอกให้เรารู้ว่า เรากำลังจะต้องนับถอยหลังเพื่อไปเริ่มสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามาในปีหน้า

เอิ๊กเองก็วางแพลนไว้หลายอย่าง และท่องไว้ตลอดว่า ปีใหม่เป็นปีที่เราเติบโตไป

ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรต้องทำให้ได้ดีกว่าเดิมในเกือบทุกเรื่องของชีวิต

 

โทนสีที่จะใช่แต่งในวันนี้เน้นไปทางสีสัญลักษณ์เทศกาลคริสมาสต์เป็นหลัก ” เขียว แดง ทอง

แต่เป็นการแต่งที่สามารถใช้ได้จริงในเทศกาล ไม่จัดจ้านจนเกินไปเหมาะกับตัวเอิ๊กเองและน่าจะพอเป็นไอเดียให้กับเพื่อนๆได้ ตัวเอิ๊กเองเป็นคนไม่ค่อยชอบแต่งหน้าจัด แต่พอเป็นเรื่องของเทศกาลเลยลองมาทำให้ดวงตาดูสดใสขี้เล่น เหมือน แซนตี้น้อยดูบ้างว่าจะออกมาเป็นยังไง 😀

ลองมาดูกันหน่อย อธิบายภาพ ซ้าย > ขวา บนลงล่างนะคะ

  • ใบหน้าเปลือบตามธรรมเนียน ขอไม่ซูม กลัวจะเห็นรูขุมขนขยาย [ฮา]
  • ขอลดขั้นตอนการไฮไลท์ และขอเลือกใช้รองพื้นที่มีประกายชิมเมอร์ละเอียดอย่าง REVLON PHOTO READY สี 002 VANILLA ใช้แปรงปาดบางๆลงทั่วใบหน้าจะได้ลุคฉ่ำวาว ผิวราวแก้วใสเลย สีนี้เมืองไทยอาจจะไม่มีขาย คงต้องไปถอยจาก ดิวตี้ฟรีเอา 🙂
  • ทิ้งรองพื้นไว้ซัก 5 นาที บัฟแป้งเบสเนื้อชมพู LAURESS สี DAMASK เพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าที่เหลืองโทรมของตัวเอง ตัวนี้เนื่องจากเป็นแป้งเลยไม่ลงก่อนเนื้อครีมรองพื้นเดี๋ยวเป็นคราบ

  • เทคนิคส่วนในการเขียนคิ้วคือปาดไพรเมอร์ที่ทาตานี่ละ ลงไปที่คิ้วบางๆ มันจะทนทั้งวัน ประหยัด [ฮา] อันนี้ใช้ที่มีอยู่แล้ว LAURESS EYE PRIMER ทั้งทาคิ้วทาตา ทาบางๆแต่น้อยจะดี
  • ลงไพรเมอร์ที่คิ้วเสร็จตามด้วยพาเลท KATE เขียนคิ้วสองสีด้านขวาสุด เลือกใช้สีอ่อนหัวคิ้ว เลือกใช้สีเข้มบริเวณที่เหลือจนถึงหางคิ้ว แล้วเบลนให้ฟุ้งไม่แข็ง จะดูธรรมชาติ แล้วก็เอาแปรงมาไล้หัวคิ้วลูบลงมาด้านสันจมูกทั้งสองข้าง อัพดั้งวิธีธรรมชาติ

  • ดวงตาแซนตี้คนนี้ขอเน้นเขียวทอง ทาตาแดงแล้วไม่ค่อยมั่นใจ เนื่องจากเดี๋ยวคนจะเข้าใจว่าเทศกาลตรุษจีนไป ลงไพรเมอร์ให้ทั่วดวงตา แล้วเริ่มต้นลงสีเหลืองชิมเมอร์ทองสี STELLA
  • ตามด้วยพาเลท 88 สีชิมเมอร์ เลือกใช้สีเขียวสดใบไม้ ตามที่วงไว้ มาระบายเหนือสีเหลืองทองแล้วตวัดปลายแปรงขึ้นตามภาพ
  • หลังจากนั้นเลือกสี WICKED ชิมเมอร์เขียวขี้ม้าละเอียด สร้างมิติหางตาระบายเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมคว่ำ
  • แล้วตามด้วยสีขาว พาเลท 88 ที่วงไว้ตรงโหนกคิ้ว
  • มาถึงขั้นตอนที่คิดเองเออเอง จะวาดรูปมงกุฎ แต่กลายเป็นทานตะวัน 🙂 วาดปลายแหลมตามรูปขึ้นไป โดยจินตนาการว่ากำลังวาดมงกุฎ โดยใช้แปรงอายไลเนอร์ที่หมดแล้ว ล้างแล้วนำมาจุ่มสีเหลืองทอง STELLA + น้ำเล็กน้อย วาดขึ้นไป
  • นำสีเหลืองทอง STELLA มาระบายขอบตาล่างให้เรียบร้อย

  • เสร็จแล้วทากาวติดขนตาปลอม ARTY ทั่วเปลืองตาบริเวณสีเหลืองทองที่ลงไว้
  • ตามด้วยเอาแปรงจุ่มกากเพชรสีทองชิมเมอร์ มาแตะเบาๆบริเวณเปลือกตาที่ลงกาวไว้แล้ว
  • ลืมตามาจะสว่างไสวดังรูป แต่กากเพรชนี้ฟุ้งเอามากเดี๋ยวค่อยใช้แปรงทาตาปัดออกจากขนตาทีเดียว
  • เขียนอายไลเนอร์ด้วยดินสอด้านล่างดวงตาทั้งหมด ตอนแรกเขียนด้วย ESTEE สีมันดำไม่พอ เลยลง IN2IT ซ้ำเขียวทั้งหมดของขอบตาล่างเลย
  • เขียนอายไลเนอร์ด้วย HYPER SHARP MATBELLINE [ ลืมรูป ] แล้ว ติดขนตาปลอมแบบที่ชื่นชอบและมั่นใจ
  • ตามด้วยปัดมาสคาร่าขนตาล่าง ใช้แบบหนายาว FAISIES MAYBELLINR สีดำสนิท

  • ปัดแก้มเนื้อแมทสีแดงอมส้มนิดๆเนื่องจากหน้าวาวทั้งหน้าแล้ว แก้มเลยเน้นไม่มีชิมเมอร์หรือประกาย ใช้สี FLUSTERED
  • ลงทินต์แดงระเรื่อ BENEFIT กลางปาก
  • ลงกลอส RHULSEAN สีชมพูใสระเรื่อบางบาง

” ครบแล้ว เขียว แดง ทอง “

 

 

มา ZOOM ดวงตากัน ฟู ฟ่องมาก ดูเล่นขี้ เอ้ย ขี้เล่นไหม ? มีมงกุฎอยู่บนดวงตา ฮี่ฮี่

 

 

 

 

เสร็จแล้วก็ได้แซนตี้ ขี้เล่นมา 1 คน

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งหน้าแบบชัดชัด เน้นลูกเล่นสดใสที่ดวงตา และ ปากสีแดงงธรรมชาติที่เพิ่มสีสันด้วยทินต์และกลอสพอ !

 

 

 

ดวงตาเห็นสีเขียวและสีทองรำไรๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เอิ๊กขอสุขสันต์วันคริสมาสต์และปีใหม่ล่วงหน้านะคะ 😀 ขอให้ได้ของขวัญ โบนัสกันเยอะๆไปเลย และที่สำคัญมีความสุขมากๆค่ะ

.. LOVE ..

Posted in HOW TO, MAKE UP, MINERAL MAKE UPComments (0)

Erk-Erk กับ เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าทุกปัญหาให้ได้ประสิทธิภาพจีรังยั่งยืน

เป็นคนเป็นสิวมาก่อน เป็นบ่อยที่หนักๆ เป็นทีก็ไปหาคุณหมอ ตั้งแต่อายุ 12 สิวหายไวมาก จากที่ไม่เคยมีใครมาจีบก็เริ่มมี มันดีอย่างนี้นี่เองเวลาที่สิวโบกมือลาไป จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไปสิบกว่าปี วันนี้ก็ยังคงสิวอยู่ .. เกิดจากหลายสาเหตุ ตัวเองรู้ นอนดึก ใช้อะไรไม่ถูกกับผิวหน้าเพราะบางทีชอบลองของใหม่ อากาศร้อน ทากันแดดหน้าไป ล้างกันแดด เครื่องสำอางไม่หมด สิวประจำเดือน จริงๆมีอีกเยอะ เพราะวันนี้ตั้งใจกับตัวเองแล้ว ว่าอยากจะเรียนรู้ผิวตัวเองให้ดีที่สุด ก็ตั้งใจเรียนรู้เลยโดยการอ่านบทความ ถามคุณหมอ อ่านหนังสือก็รู้มากขึ้น .. วันนี้เลยสามารถดูแลตัวเองได้โดย “ไม่ต้องพึ่งยาหมอ” จะมีก็แต่เลเซอร์บ้าง เป็นพวกทนไม่ได้ถ้าเจอรอบแดงเยอะไปทั้งหน้าก็ต้องเลเซอร์ให้จางไว

 

ประสบการณ์รักษาสิวที่ผ่านมาโดยคุณหมอก็มีตั้งแต่

  1. ทายา
  2. ทาสเตรียรอยด์
  3. กดสิว
  4. เจาะสิว
  5. ฉีดสิว
  6. ทานยาปฎิชีวนะจนผมร่วง จะอาเจียนตลอด
  7. ทานยารักษาสิวที่มี SULFAจนเข้าโรงพยาบาลห้องฉุกเฉินต้องให้น้ำเกลือก็มี
  8. เลเซอร์รอยแดง
  9. เลเซอร์รอยดำ
  10. เลเซอร์ฟื้นฟูผิว
  11. เลเซอร์ฆ่าเชื้อสิว
  12. เลเซอร์กระชับผิว
  13. กรอหน้าด้วยเกล็ดอัญมณี
  14. ทากรดAHAให้หน้าใส
  15. แต้มกรด TCA ลดกระ
  16. ลอกสิวเสี้ยนด้วยกาวตราช้าง ..

เยอะนะ เอาละคงถึงเวลาที่ฉันขอดูแลตัวเองแล้วกันนะในเรื่องที่ทำได้ ส่วนไม่ได้ก็เพิ่งหมอไปบ้างยังไงยังต้องใช้หน้าทำมาหากิน ฮ่า

สรุปแล้วสิ่งที่อยากฝากไว้คือ

Posted in ACNEComments (0)

REVIEW EUCERIN DermoPURIFYER SET สำหรับผิวมัน รูขุมขนกว้าง และ เป็นสิว

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วกับการ REVIEW SKINCARE ที่เกี่ยวกับสิว

ก่อนอื่นขอโชว์ผลงานการรักษาสิวด้วยตนเองก่อน อิอิ สิวรักษาเอง รอยสิวต้องพึ่งคุณหมอยิงเลเซอร์ค่ะเพราะมันเยอะ ถือเป็นผลงานตัวเองทั้ง 2 ชิ้น ก่อนก็ทำเอง หลังก็ทำเอง เยี่ยม ! ภาพก่อนเป็นคือเมื่อประมาณกันยา 54 นะคะ สมัยยังไม่รู้จัก EUCERIN DermoPURIFYER แล้วก็ดูแลรักษาตนเองตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังที่ปรึกษาอยู่จนค้นพบ “สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวบนใบหน้าตัวเอง”

สาเหตุคือ สระผมแล้วล้างยาสระผม ครีมนวดไม่หมด รวมกับ ไม่ค่อยได้เช็ดผมเท่าไหร่มันเลยตกมาปรกหน้า ปรกหลัง เป็นสิวทั้งหน้าอก และ แผ่นหลัง

ที่นี่มันมาหายได้ยังไงก็เพราะว่า เมื่อค้นพบสาเหตุ เราก็แก้ที่ต้นเหตุ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวเรา ผลที่ออกมาช่างหน้าประทับใจเพราะว่าใบหน้าที่เป็นสิวอักเสบช่วงหน้าผากและข้างแก้ม ก็กลับมาเกือบปกติอีกครั้ง แต่ไม่ 100% เนื่องจากชอบบีบสิวเอง ทำให้เป็นหลุม 1 หลุมบนใบหน้า

รูปนี้ไม่มีการรีทัชใดใดทั้งสิ้น ทาสกินแคร์เสร็จ ร่องรอยสกินแคร์ยังเกาะที่โคนผมเลย B)

 

สภาพใบหน้าที่เปลือยเปล่า จะมีสิวเสี้ยน สิวอุดตันอยู่ สังเกตุเห็นชัด ช่วงข้างแก้ม และ จมูก เมื่อหายแล้ว ก็ได้มารู้จักกับ EUCERIN DermoPURIFYER ดีตรงที่ใช้ร่วมกับ SKINCARE ที่เราใช้อยู่แล้ว เราก็เลือกใช้ได้เฉพาะตัวที่เราใช้ได้ เพราะเซ็ทนี้น่าจะได้ผลดีกับคนที่ผิวมัน เป็นสิว และรูขุมขนกว้าง หน้าจะเห็นผลชัดกว่าเรา เพราะเราเป็นแค่บางจุด เช่นจมูก ข้างแก้ม ปลายคาง

เซ็ท EUCERIN DermoPURIFYER มีทั้งหมดด้วยกันเท่าที่ได้มาใช้ ก็รวมแล้ว 7 ตัว ” ช่วยดูแลปัญหาในเรื่องการเป็นสิวง่าย สำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องรูขุมขนกว้าง ความมันส่วนเกิน ปัญหาสิวและรอยสิว โดยไม่ทำให้ผิวบางลง “


  • SCRUB
  • CLEANSER
  • TONER
  • SERUM
  • DAY CREAM
  • NIGHT CARE
  • COVER STICK = CONCEALER

หลักการทำงานของชุด EUCERIN DermoPIFYER คือ ควบคุมความมัน ทำความสะอาดสิ่งอุดตันสะสมในรูขุมขน กระชับรูขุมขน ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนทำให้รอยสิว รอยดำเลือนจางไป และ ช่วยดูแลรักษาสิวที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ จะมีตัวฆ่าเชื้อ ลดแบคทีเรียอยู่ ไม่ทำให้ผิวบาง สูตรนี้ทางยูเซอรีนบอกว่าพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ พิสูจน์แล้วว่าอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ หลักในการเลือกใช้ส่วนผสมคือเลือกใช้สารชนิดเดียวกับที่พบในผิว จึงปลอดภัย

 

มีสิทธิ์ลองอยู่ 4 ตัวที่ REVIEW ได้ แต่จะ PREVIEW กล่องและเนื้อผลิตภัณฑ์ให้ครบทั้ง 7 นะคะ เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่กำลังสนใจในการดูแลสิว และ รูขุมขน รวมถึงคุมมันด้วย

1. CLEANSER ใช้ทำความสะอาดผิวทุกวันเป็นขั้นตอนแรกซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะสิ่งสกปรกที่ติดมาจากข้างนอก อาจก่อให้เกิดแบคทีเรียอุดตันตามรูขุมขนและทำให้เกิดสิว ตัวแรกเอิ๊กเลือกใช้บริเวณที่มันมาก คือ ช่วงจมูกและโหนกแก้ม รวมถึงคางค่ะ รู้สึกว่าหลังล้างออกไม่ตึง ไม่มีสบู่ และ น้ำหอม หลังล้างแล้วผิวจะนุ่มๆ


2. SCRUB ขัดเซลล็ผิวเก่า และ สิ่งสกปรก ขี้ไคลให้หลุดออกโดยไม่มีส่วนผสมที่รุนแรง ใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ขัดเบาๆตรงช่วงสิวเสี้ยนกระจุกตัว และบริเวณสิวอุดตันแข็งๆที่กระจุกตัว เบาเบา รวมถึงพวกรอยสิว นอกจากทำความสะอาดรูขุมขนแล้ว รู้สึกว่าตรงที่ขัดไปมันเนียนขึ้น สิวเสี้ยนจาก 100% อาจจะเหลือ 70-80% ยิ่งตอนแต่งหน้าจะเห็นชัด มีทั้งเม็ดบีทขนาดเล็ก และกรีนบีทขนาดใหญ่ในหารช่วยกัน ผลัดเอาสิ่งอุดตันและสกปรกออก

3.TONER เช็ดทำความสะอาดหลังล้างหน้า มีตัวคุมมัน เช็ดสิ่งสกปรกที่ล้างไม่เกลี้ยงในขั้นตอนล้างหน้า ให้มั่นใจได้ว่าหน้าสะอาดไม่มีอะไรตกค้าง ตัวนี้มีส่วนผสมของ ALCOHOL ด้วยต้องบอกก่อน ส่วนตัวใช้กับตรงจมูกอย่างเดียว ใช้ได้ เย็นๆ สะอาดๆ

4. SERUM บำรุงผิวอย่างล้ำลึกสุดตัวนี้เข้มข้นสุดขอกดLIKEเลย เพราะเป็นอีกตัวที่ใช้ได้ และกระชับรูขุมขนได้เหมือนกัน ไม่มากแต่ทำให้รู้สึกดี เนื้อขาวขุ่น เบา ทานิดเดียวได้ทั่วหน้า ถ้าต้องเลือกใช้สิ่งไหนในเซ็ทนี้ ขอเป็นตัวนี้ค่ะ

5. NIGHT CREAM ดูแลผิวยามนอนให้ผิวได้มีโอกาสพักผ่อนจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น ถ้านอนเต็มที่และนอนไม่ดึก ตัวนี้คนผิวมันหน้าจะใช้ได้ เพราะส่วนตัวผิวแห้งมากมีอาการระคายเคืองเตือน เลยต้องหยุดใช้ แต่หลังใช้พบว่าผิวดูชุ่มชื่น อิ่มขึ้น กระชับ ส่วนตัวๆนี่มันทำงานตอนกลางคืนน่าจะใส่ตัวผลัดเซลล์ผิวเก่าไว้เยอะกว่าตัวกลางวัน เพื่อทำการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดอย่างอ่อนโยนในตอนกลางคืน ให้พวกชั้นขี่้ไคลหลุดออก กำจัดปัญหาเรื่องสิ่งอุดตัน และรอยสิวที่มีอยู่ให้จางลง อยากใช้อะ ><

6. DAY CREAM บำรุงผิวระหว่างวัน มาในหลอดกลมๆ น่ารักกระชับมือ ตัวนี้เนื้อครีมดูขุ่นแต่เนื้อเบา ตัวนี้ผิวแห้งใช้ไม่ได้เช่นกันมีอาการระคายเคืองเตือน เพราะตัวนี้ คุมมัน ไม่มีน้ำมัน ไม่มีน้ำหอม ป้องกันปัญหาสิวใหม่ที่จะเกิดระหว่างวันเวลาเราออกไปนอกบ้าน เมื่อไม่มีความมัน รูขุมขนสะอาดขึ้น เราก็จะเห็นว่ามันกระชับขึ้นอัตโนมัต

7. COVER STICK หรือคอนซีลเลอร์ปิดรอยดำแดงของสิวที่เรามี บางทีรอยก็ทำใจลำบากพอๆกับสิวเวลาที่เป็นเต็มหน้า ตัวนี้ใช้ตอนแรกรู้สึกว่าหลงรักเพราะเนื้อนุ่ม เนียน ติดทน ทั้งวันไม่ค่อยจางเลย เทียบกับที่มี ตัวนี้ชนะขาดลอย ราคาถูกกว่าด้วย มีส่วนผสมที่น่าสนใจคือคาร์โมมายด์อ่อนโยนกับสิว ให้ความชุ่มชื้น พร้อมมีตัวฆ่าเชื้อแบคทีเรียเวลาเป็นสิว ส่วนตัวสิวไม่ยุบ แต่ไม่อักเสบเพิ่ม คือ ทรงตัว ปลอดภัยกว่าใช้คอนซีลเลอร์ปกติแน่นอน เฉดสีไม่แน่ใจมีสีเดียวรึเปล่า ใช้แล้วคล้ำกว่าผิวจริงนิดนึง มันอาจไม่ได้กลืนไปกับ MAKE UP โดยเฉพาะแต่มองไกล กลมกลืนดูหน้าใส ไร้จุดด่าง แดง ดำ ฮี่ฮี่

รูปนี้ใช้กับหลุมแดงปนำนะเออ รอยแดงกลบมิด แต่หลุมกลบไม่มิด 555555 ทำใจแล้วซนแกะสิวเอง ใช้ร่วมกับแต่งหน้าได้ทุกวัน

เวลาทาแล้วแต่งหน้าก็กลืนแบบนี้ อันนี้ใช้ COVER STICK และแป้งฝุ่นแต่ใช้แปรง FLAT-TOP วน เนียนกริ๊ง ตอนนี้มีปัญหาอยู่ตรงช่วงหน้าผากเกือบหายแล้วก็ 89 % ได้

COOL : สรุปแล้วเซ็ทนี้มีการรวมตัวส่วนผสม และ การทำงานที่น่าสนใจของคนผิวมัน เป็นสิว รูขุมขน และมีปัญหารอยสิวอยู่รวมกัน โดยส่วนใหญ่จะมีการแก้ปัญหาตั้งแต่การคุมมัน ผลัดเซลล์ผิว ละลายสิ่งอุดตัน และ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสิวที่กำลังเป็นอยู่ เป็นอีกทางเลือกนึง ที่รวมตัวกันเป็นชุด ไม่ต้องไปหาจับซื้อนู่นทีนี่ที ส่วนตัวเสียดายที่มาใช้ตอนที่สิวอักเสบใหญ่ๆๆไปหมดแล้ว คงไว้เหลือแต่สิวเสี้ยน และ สิวอุดตัน มันก็ช่วยได้บ้าง แต่เรื่องของสิวเสี้ยนมันเป็นเรื่องของขนอัดตัวกันแน่่นในรูขุมขน 1 รุปโอกาสหายไปไม่มีอยู่แล้ว แต่ด้านบนของผิวช่วงนั้นเรียบขึ้นและสิวเสี้ยนดูไม่เพิ่มมากขึ้นด้วย รูขุมขนก็ให้ผลดีส่วนตัวแม้ลงไม่มาก แต่รู้สึกดี และตัวปกปิดสิวก็เนื้อนุ่ม เนียน อึด ทน และทั้งเซ็ทใช้ร่วมกับยาหมอ หรือ สกินแคร์ที่มีอยู่ได้ และดีตรงไม่มีน้ำหอม ไม่มีน้ำมัน ไม่อุดตันเพิ่ม เราอาจจะเลือกลองบางตัวก่อนก็ได้ แล้วค่อยเพิ่มถ้าใช้แล้วให้ผลที่ดี

UNCOOL : อยากให้ออกแบบ ผิวแห้ง ผิวบาง เป็นสิวง่ายมาบ้าง เป็นหนึ่งคนที่รออยู่ วูบแรกที่ได้ยินคือคิดว่าเหมาะกับตัวเอง พอศึกษาฉลากไป ออกมาเพื่อดูแลผิวมันน่าจะให้ผลดีกว่า แต่อย่างน้อยบางตัวเราก็ใช้ได้ / ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มเรื่องสีน้ำเจ้าโทนเนอร์เท่าไหร่ สีใสรู้สึกปลอดภัยกว่า แม้จริงๆแล้วมันอาจปลอดภัยแต่มันเป็นความรู้สึกทางจิตใจ

ทั้งเซ็ตนี่จำง่ายอีกอย่างหนึ่งคือทุกตัว ตัวละ 900 บาท หาซื้อง่ายด้วยที่ตามห้าง ร้านยาตามห้าง

ขอจบการ REVIEW PREVIEW ไว้เพียงเท่านี้ ไว้ลองใช้นานกว่านี้จะมา REVIEW เพิ่มเติมนะคะ

ขอให้ทุกคนผิวดีหน้าใสกันทุกคน

XOXO

Posted in ACNE, FACE, REVIEWComments (29)

ของเล่นใหม่สุดเห่อ – ผิว อาหารเสริม อุปกรณ์ทำผม ต้อนรับเดือนหนาวๆ

 

 

 

Posted in HOW TOComments (0)

HOW TO ล้างหน้าตามทฤษฎีแนวขน ลดสิวทุกชนิด

 

คุณหมอสมนึกเจ้าของทฤษฏีล้างหน้าตามแนวขนรักษาสิวตอบมา : 
– “ทุกครั้งที่ต้องทำอะไรกับผิวหนังไม่ว่าจะเป็น
ที่หน้าหรือตัวก็ต้องกระทำ ไปตามแนวโพรงขน
ทั้งหมดครับ”
– สำหรับคนที่บอกว่าล้างหน้าตามแนวโพรงขนแล้วรู้สึกเป็นมากกว่าเดิมนั้นให้อดทนและทำ
ต่อเนื่องหลายเดือนจึงจะเห็นผลส่วนรอยที่ไม่หายอาจจะต้องพบแพทย์เพื่อทำเลเซอร์ครับเพราะการล้างหน้าที่ถูกต้องเป็นเพียงการป้อง
กันและรักษาตามธรรมชาติส่วนสิวที่เคยถูกเจาะหรือฉีดสเตียรอยด์เป็นสิวที่ผิดธรรมชาติอาจต้อง
ใช้ การรักษาอื่นๆเข้าช่วยเหลือครับ

 

ทฤษฎีล้างหน้าตามแนวขนเป็นทฤษฎีที่คิดค้นมานานเกือบสิบปี เป็นการเก็บภาพการพัฒนาสิวแต่ละขั้นจนหลุดออกไปโดยมีการใช้ภาพขยายจากกล้องจิ๋วมาช่วยในการคิดค้น โดย นพ.สมนึก อมรสิริพาณิชย์ ลูกศิษย์ Dr. James J Nordlund ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของ Aron Lerner  จาก Yale professor อีกที

 

โพรงขนสำคัญยังไง ?

” เป็นแกนให้ใยคอลลาเจนและอิสลาสตินมายึดโยงเพื่อเชื่อมเป็นเครือข่ายยึดให้ผิวหนังคงสภาพยืดหยุ่นและแข็งแรงดังที่เป็นอยู่ ”

 

โพรงขนบนใบหน้ามีประมาณ 100,000 โพรง

 

ข้อดี

  1. การระบายของน้ำมันและสิ่งสกปรกในโพรงสิวอย่างหมดจด การหลุดลอก จะไม่เกิดจากการหนาตัวของเซลล์ผิวตามมา
  2. การไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนังนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ
  3. ฝ้าจะเกิดได้ยากขึ้น
  4. เซลล์ผิวหนังที่อักเสบ
  5. ไม่เกิดการบวมของชั้นผิวบางชั้น การที่เกิดเป็นก้อนอุดตัน สิวอุดตันเช่นนี้ก็เกิดจากการที่เราล้างหน้าวนหรือเอามือไปถูทำให้เนื้อเยื่อจับเป็นก้อนเหมือนกับเราปั้นกระดาษเป็นก้อนแล้วห่อเป็นชั้นๆ การล้างไปตามแนวโพรงขนเพื่อให้เยื่อเหล่านี้จะได้สลายและหลุดออกมาได้ตามธรรมชาติ

 

เวลาเท่าไหร่เห็นผล

ประมาณ 3 เดือน

 

คำแนะนำเหล่านี้ประกอบกับการไม่กด สิว เจาะสิว การแกะ การกด บีบ หรือ เจาะ ก็เป็นการทำลายโครงสร้างเพื่อให้เกิดการถ่ายเท

คำแนะนำ : อาจใช้ร่วมกับการใช้แสงเลเซอร์มาทำให้สิวเล็กลงและเลื่อนออกมาตามแนวโพรงขน

 

 

————————————————————————–

HOW TO นี้อาจจะดูยาว ที่ยาวก่อนที่เราจะได้อะไรที่มีประโยชน์มาเราจำเป็นต้องแสดงความกตัญญูถึงคนให้ข้อมูล

เพราะถ้าไม่มีคนที่คิดค้นทฤษฎีนี้ขึ้นมา คนที่มีปัญหาสิวขณะนี้ก็จะไม่ได้รับรู้การแก้ไขอย่างถูกต้อง

นี่เป็นเหตุผลที่ต้องบอกถึงที่มาอย่างละเอียด เพื่อเคารพถึงที่มาของความรู้นี้ค่ะ 🙂

XOXO

Posted in ACNE, FACE, HOW TO, SKINComments (20)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites