Archive | BEAUTY TECHNOLOGY

BEAUTY TALK – แสงและความงามที่คุณควรรู้ประดับคลังความสวยไว้

 

Read the full story

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (2)

BEAUTY TALK – อยากหน้าเรียวทำยังไงได้บ้าง ? V-SHAPE

Read the full story

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, LASER, THERMAGEComments (0)

REVIEW – รักษาหลุมแผลที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG

 

 

 

 

ผ่านมาเกือบ 1 เดือน กับการรักษาหลุมทรงกล่องที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG กับ ศาสตราจารย์นายแพทย์วรพงษ์ มนัสเกียรติ ซึ่งเชี่ยวชาญเป็นพิเศษทางด้านผิวหนัง เลเซอร์ และ แผลเป็น ที่ทำงานวิจัย เขียนหนังสือ ทางด้านเลเซอร์มาโดยตลอดจนได้รับตำแหน่งทางวิชาการเป็น ศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในวงการ Cosmetic Laser Surgery และที่ทราบเพราะอ่านทวิตเตอร์คุณหมอเป็นประจำ @DrWoraphong ถึงทราบว่าเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษา บริษัทเลเซอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ต้องเดินทางไปประชุม และบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์หลายประเทศมาก จึงได้ทราบวิทยาการใหม่ๆจากคุณหมอเหมือนกันในการตามอ่าน

 


คุณหมอค่อนข้างผิวดี และมีการดูแลผิวที่ง่าย คือทาครีมกันแดดเสมอ และ ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เพียงพอเวลาที่รู้สึกว่าผิวแห้ง นอกนั้นยังมีการออกกำลังกาย หลังจากที่เคยได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาหลุมสิว และ แนวทางแก้ไขไปเมื่อหลายเดือนก่อน

ยังไม่มีโอกาสฟังบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์ของคุณหมออย่างจริงจัง ทำให้วันนี้เลยมา REVIEW การทำ ERBIUM YAG ว่าผลการทำเป็นอย่างไรบ้าง เลเซอร์การรักษาหลุมสิว ริ้วรอย แผลเป็น บอกตามตรงว่าค่อนข้างยาก ต้องขออภัยไปศึกษาเพิ่มเติมมาก่อน ถึงจะได้เขียนออกมาทีละชนิด 555555 แค่อ่านไป หัวข้างนึงก็ปวดไป ยากจริงๆค่ะ รู้แค่ว่าได้ยิง VBEAM กับคุณหมอ คุณหมอละเอียดมากๆๆๆๆ ยิงทุกรอยแดง ดูเหมือนเป็นงานที่ง่าย แต่คุณหมอละเอียดจริง นี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลให้ประสบความสำเร็จในการทำงานวิจัยหลายๆงานที่ รพ.ศิริราช และ ต่างประเทศ

การทำ ERBIUM YAG มันร้อนมากบริเวณที่ยิง จึงต้องมีการเป่าลมเย็นจัดเข้าช่วยบรรเทา ทำให้ไม่ต้องทายาชา

ERBIUM YAG คืออะไร ?

  • เลเซอร์ที่ใช้พลังงานความเข้มข้นสูง (ร้อน) ช่วยกรอผิว  ( Resurfacing ) ด้านบนในส่วนของผิวหนังกำพร้าออกจะทำให้บริเวณนั้นเรียบขึ้นในระดับนึง 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ( Collagen remodeling ) หลุมจะตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้น ภายในเวลา 1-3 เดือน
  • การหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน ( Collagen contraction ) ทำให้ความกว้างของหลุมสิวหรือริ้วรอยแคบลง ผิวที่หย่อนจะตึง ขึ้น 

 ส่วนต้องทำกี่ครั้งขึ้นกับความตื้นลึกของหลุม หรือ ริ้วรอยที่อาจต้องใช้วิธีการอื่นมาผสมด้วยหรือไม่ต้องดูที่แผลหลุม หรือ ริ้วรอยเป็นหลัก หลังทำทันทีจะให้เกิดแผลถลอกเป็นสะเก็ด ใช้เวลา 4-7 วัน สะเก็ดจะหลุมลอกออกไปเอง หลังทำจะมีอาการบวมแดง 1-2 วัน  บางคนอาจมีน้ำเหลืองซึมถ้าเกิดว่าแผลโดนน้ำ หรืออาจติดเชื้อ จากการดูแลไม่ดี

การดูแลหลังทำ ERBIUM YAG ?

ต้องดูแลแผลอย่าให้แผลแห้ง ของเอิ๊กคุณหมอสั่งให้ทาปิโตรเลียมเจลให้แผลชุ่มชื่นวันละ 3-4 ครั้งจนกว่าสะเก็ดจะหลุด ไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 7 วัน หรือ หลังจากสะเก็ดหลุดออก ก็สามารถล้างหน้าและทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแต่งหน้าได้เป็นปกติ อาจต้องดูแลโดยการเลี่ยงแดดจัดเป็นพิเศษประมาณ 2 อาทิตย์เพราะช่วงนั้นผิวบริเวณส่วนนั้นจะอ่อนแอและไวกับสิ่งที่มากระทบ ระหว่างเนื้อเยื่อใหม่กำลังสร้างทดแทนของเก่าที่ลอกออกไป ผิวหนังส่วนที่ทำถ้าเป็นคนผิวขาวอาจจะมีแผลสีชมพูแดง  (erythema) อยู่ประมาณ 3-6 เดือน (เนื้อเยื่อกำลังสร้าง) ถ้าเป็นคนผิวเข้ม อาจมีสีคล้ำ (hyperpigmentation) ประมาณ 3-6 เดือนจึงกลับมาเป็นสีผิวปกติ

 

 สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำ ERBIUM YAG ?

  • การเป็นแผลคีลอยด์ แผลนูนง่าย
  • เวลามีแผลแล้วแผลหายช้า
  • เคยทานยากลุ่มวิตามินเอมาก่อนภายในระยะเวลา 1 ปี
  • เคยผ่าตัดบริเวณใบหน้า

ก่อน และ หลังทำ ERBIUM YAG รักษาหลุมแผลเป็นที่มีบนใบหน้ามา 24 ปี

 

19/02/12 – 10/02/12

อันดับแรก นอนเร็ว รูขุมขนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชุด ตอนไปหาคุณหมอ นอนตี 5 ทุกวัน และแผลที่เห็นชัดคือความแคบของแผลหลุม ความนุ่มนวลของแผลหลุม จากทรงกล่อง กลายเป็นทรงแอ่งกระทะ ตื้นขึ้น 40% ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก แต่ได้ผลข้างเคียงคือแผลสีชมพูที่จะอยู่ไปอีกหลายเดือน อันที่จริงเป็นปกติในการทำ Erbium YAG

ซูมให้ดูว่าตื้นขึ้น และ จะตื้นขึ้นอีก เดี๋ยว 3 เดือนมาดูกันใหม่ ขอให้แผลสีชมพูกลับเป็นสีปกติเร็วๆทีเถิ๊ด

 

ภาพรวมของใบหน้าและแผลที่เปลี่ยนไป

ขัดใจสุดคือรอยแดง T^T ไม่ชอบเลย คิดว่าถ้าจะทำครั้งใหม่ต้องขอทำใจก่อน 555 ไม่ชอบรอยแดงเลยค่ะ แต่ชอบที่เห็นผลเลย

 

COOL

สามารถรักษาแผลหลุมที่ไม่ลึกได้ / เห็นผลทันที / 

UNCOOL

ต้องดูแลแผลให้ชุ่มชื่นตลอดวัน / ต้องทำหลายครั้งดูที่ความลึกของแผล / มีแผลสีชมพูระหว่างรอเนื้อเยื่อสร้างตัวเองใหม่นาน 3-6 เดือนกว่าสีผิวจะกลับเป็นปกติ

 

 

 

 

อาทิตย์หน้าจะตั้งใจเขียนอย่างมากเรื่อง ” แสงสี กับ ความงาม “ ว่าจะช่วยมารักษาผิวพรรณได้อย่างไร จะได้เข้าใจว่าเลเซอร์ตัวนั้นทำไมได้ผลเป็นแบบนั้น และตัวเราเองอาจจะเลือกเองถูกก็ได้ ว่าปัญหาผิวแบบนี้ ใช้แสงสีไหน ระดับไหน 🙂

XOXO

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

BEAUTY TALK – หลุมสิวปัญหาใหญ่ รักษาได้กี่วิธี ?

 

 

 

 

 

อะไรทำให้คุณรู้สึกแย่ที่สุดหลังเป็นสิว .. ?

 

 

 

 

 

 

คำตอบนอกจากสิวที่ทำให้เรารู้สึกแย่ แต่มีที่แย่กว่า คือ “ แผลเป็นหลังสิวหาย ” เพราะอะไรนะเหรอ ?!? มันอยู่นานกว่าสิวหน่ะสิ .. มาแล้วบทจะไปก็ไปยาก หากทำใจให้ชินแน่นอนครึ่งปีมันอาจจะไปเอง โดยเฉพาะแผลเป็นหลังจากเกิดจากสิวที่มีสีทั้งหลาย สีดำ สีแดง .. แต่หากว่ามันเป็น “ หลุม ” ล่ะ

 

ตอนนี้ในหัวกำลังย้อนไปโฆษณายุคก่อน ที่เปรียบหน้าคนหลังเป็นสิวบางครั้งก็เหมือนพระจันทร์ ไม่ได้เหมือนที่ความสว่างสไว หรือ กลมเหมือนพระจันทร์ แต่เปรียบรอยแผลหลุมสิว ความไม่เรียบของผิว ช่างเหมือนผิวพระจันทร์เหลือเกิน .. [ โฆษณานี้ชี้ปัญหาแบบโหดร้ายมาก ชิส์ ]

  • รอยแผลหลังจากการเป็นสิวแบ่งได้ 4 แบบ 
  1. รอยแดง
  2. รอยดำ
  3. หลุมสิว
  4. คีลอยด์

 

 

  • หลุมสิวคืออะไร ?

การอักเสบของสิวอย่างรุนแรงถึงชั้นหนังแท้ มักมีหนองร่วมด้วยจึงทำให้คอลลาเจนถูกทำลายและมักมีแผลเป็นหลังสิวหาย จึงเกิดแผลเป็นใต้หนังผิว หรือ เรียกว่าพังผืด ที่ดึงรั้งผิวหนังจนทำให้เป็นหลุม

 

  • หลุมสิว มีที่มาจากอะไรบ้าง ?
  1. การ บีบ แคะ เค้น แกะ เกา ทำให้สิวอักเสบมากขึ้นและทิ้งรอยคล้ำตามมาด้วยหลุม
  2. สิวอักเสบรุนแรง
  3. การติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
  4. กรรมพันธุ์มีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นสิว+แผลหลุมรุนแรง [ จะทิ้งหลุมทันทีเวลาหายเป็นสิว ]

 

เคล็ดลับ

“ เมื่อเป็นสิวอักเสบต้องทำให้หายอักเสบ และ ยุบตัวเร็วที่สุด ” เช่น ทายาฆ่าเชื้อสิว [BENZAC , PANOXLY] / ฉีด [STEROID] / ทานยาปฎิชีวนะ / พบแพทย์ท่องไว้ว่า รักษาสิว ถูกกว่า รักษาแผลเป็น [ หลุม,นูน ]

 

  • การรักษาหลุมสิว ใช้วิธีไม่เหมือนกัน ขึ้นกับ
  1. ชนิดของหลุมสิว
  2. ความลึกของหลุมสิว
  3. ความกว้างของหลุมสิว

 

  • หลุมสิวมี 3 ชนิด
  1. หลุมแอ่งกระทะ [คิดเอง] ROLLING SCAR
  2. หลุมกล่อง BOX SCAR
  3. หลุมนกจิก [คิดเอง] ICE PICK SCAR

 

หลุมแอ่งกระทะ : ลักษณะมองเห็นเป็นส่วนเว้าลงไปเหมือนก้นกะทะ ขอบรอบๆดูนุ่มนวล

หลุมกล่อง : ลักษณะหลุมที่มองเห็นขอบเป็นทรงตรงลึกลงไป คล้ายกล่องทรงวงรี

หลุมนกจิก : ลักษณะมองเห็นเป็นรูเล็กแต่ลึก รักษายากที่สุดกว่าทุกแบบ

 

 

 

  • วิธีการรักษารวบรวมมาในประเทศไทย 

ทุกวิธีช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้ แต่ยังไม่มีวิธีไหนได้ผล 100% กับหลุมสิวที่รักษายาก ลึก สามารถผสมผสานวิธีแต่ละแบบเข้าด้วยกันได้เพื่อการรักษาที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญทุกวิธีที่กล่าวต้องศึกษาผลข้างเคียงที่จะตามมาอย่างละเอียด

 

วิธีที่ 1 – กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน

  • ทาครีมลบรอยแผลเป็น,ริ้วรอยที่มีส่วนผสมเช่น VITAMIN E, AHA, BHA
  • ทายากลุ่มอนุพันธ์ุของวิตามินA เช่น RETIN A
  • ทานยากลุ่มที่สกัดจากอนุพันธุ์วิตามิน A [RETINOIDS] เช่น Roaccutance, Acnotin, Isotretinoin
  • ฉายแสง LED เช่น GentleWaves, Omnilux
  • ยิงแสง IPL
  • ยิงเลเซอร์ Smooth Beam
  • ยิงเลเซอร์ ND Yag
  • การใช้คลื่นวิทยุ RF เช่น PHONO
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น หลุมสิวใหม่
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 2 – ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดลอกออก ร่างกายจึงเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ตื้นขึ้นเอง

  • ลอกผิวด้วยกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด AHA , BHA , PHA
  • แต้มกรด TCA
  • กรอผิวด้วยกรดอัญมณี Microdermabrasion
  • เลเซอร์ชนิดมีแผล กรอผิวด้านบนด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูงร้อนมาก เช่น CO2 / ERBIUM YAG
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น, ลึกปานกลาง
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง

วิธีที่ 3 – การทำให้ผิวหนังเกิดอักเสบกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองโดยสร้างเซลล์ใหม่

  • Dermaroller ใช้ลูกกลิ้งที่เป็นเข็มเล็กๆกลิ้งตามผิวหนังลึกถึงชั้นหนังแท้
  • เลเซอร์ชนิดไม่มีแผล เช่น Fraxel re:store,Fine Scan, Mosaic, Fractional RF
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง, หลุมนกจิก

 

วิธีที่ 4 – การเติมเต็มหลุมสิวด้วยสารเติมเต็ม

  • ฉีด Filler [ Hyaluronic Acid ]
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 5 – การตัดผังพืดใต้ผิวหนังบริเวณหลุมสิวออกไป

  • การทำ Subcision ใช้เข็มที่มีใบมีดอยู่ปลายเข็ม เจาะ และ เอาใบมีดตัดพังผืดใต้ฐานหลุมสิว
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกปานกลาง, ลึกมาก
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก, หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 6 – การศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว

  • ตัดรอยหลุม แล้วเย็บปิดให้ผิวหนังชิดกัน
  • นำผิวหนังส่วนอื่นมาปิดรอยหลุมสิว
  • กรีดผิวหนังเป็นวงรี แล้วเย็บปิด
  • ตัดหลุมสิวแล้วยกขึ้นมาให้ได้ระดับเดียวกับผิวหนัง
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกมาก หรือขนาดกว้างใหญ่
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก,

รวบรวมมาแล้วแยกเป็นข้อให้เข้าใจคร่าวๆ  ส่วนลงลึกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

LINK 1 , LINK 2

 

แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวังแตกต่างกันไป ควรปรึกษาข้อมูลตามลักษณะของหลุมสิวที่ตนเองมีไว้ก่อนล่วงหน้า ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ทั้ง 3 ด้าน ผิวหนัง เลเซอร์ หรือ ศัลยกรรม สำคัญที่สุดคือทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ เพราะอะไรที่อยู่บนหน้า หากพลาดไปจะตราตรึงตามเราไปทุกที่ ส่วนตัวเคยใช้วิธีที่ 1 และ 2 บางข้อในการรักษาหลุมกล่อง , หลุมแอ่งกระทะ

 

ทำให้พบว่า

* การรักษาหลุมสิว ส่วนมากต้องใช้เวลานานอาจจะเป็นปี หลายปี เพื่อรอเวลาที่คอลลาเจนกว่าจะสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ทดแทน ต้องได้รับการกระตุ้น หรือ ทำหลายครั้งขึ้นไป ขึ้นกับความลึก ชนิดของหลุม การเป็นหลุมจึงเป็นแผลที่รักษายากมากที่สุด มากกว่า รอยแดง รอยดำ พอๆกับแผลคีลอยด์ อาจจะมีโอกาสกลับมาดี แต่ยากมากที่จะถึง 100% โดยเฉพาะ หลุมลึกแบบนกจิก หลุมกล่อง

 

คราวหน้ามาต่อกันด้วยการทำ ERBIUM YAG ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดออก โดยการกรอผิวด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูง ร้อนมาก เป็นเลเซอร์ชนิดมีแผลกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติค่ะ

 แผลหลุมเกิดจากเล็บจิกตอนเกิดเป็นแผลหลุมกล่องขนาด 0.4 ซม หลังทำตื้นขึ้น 40% รอให้คอลลาเจนสร้างเซลล์ใหม่น่าจะดีกว่านี้ ภาพนี้หลังทำ 11 วัน และนอนดึก รูขุมขน นกตัวเล็กตกลงไปตายได้เลย กว้างขนาดหนัก นอนดึกไม่เคยดีกับใครเลย T_T

 

 

 

 

 

 

Read the full story

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

BEAUTY DIARY – ครีมผสมสดตามเนื้อเยื่อผิวหน้าเราทำให้ผิวดีขึ้นจริงหรือไม่ ?

 

 

 

 

 

 

ช่วงนี้อยากเขียนไดอารี่อีกครั้ง รู้สึกเหมือนได้คุยกับเพื่อนแม้ตัวเองจะเป็นคนพูดก็ตาม 🙂 ขอเขียนไดอารี่เรื่องครีมกันหน่อย ทำไมครึ่งปีมานี้เอิ๊กมันหมกหมุ่นเรื่องครีมจัง เพราะหน้าเป็นสิวไม่เลิกยังไงละ เป็นแบบสงครามโลกครั้งที่ 1 2 3 4 เอิ๊กเลยมาฟิตหนักเรื่องผิวจะมาอันดับแรก ผิวดีแต่งหน้าสวยแบบไม่ต้องโบ๊ะก็กิ๊กแล้ว และ เจอหมอผิวหนังที่เป็นอาจารย์ที่ชอบสอนนักเรียน เรามันเป็นเด็กเรียน ชอบเรียน ก็เลยถามเมามันส์เลย พอเป็นบล็อกเกอร์ด้วยก็แชร์มันเลย ไม่งั้นเก็บไว้กับตัวคนเดียว ไม่ทันตายลืมหมด

เสียดายอยู่อย่างเดียว ถ้า12ปีที่แล้ว เราสามารถรู้จักว่าผิวตนเองเป็นแบบไหนเหมือนตอนนี้ เลือกใช้ครีมเป็น โดยเริ่มแยกแยะส่วนผสมบางอันออก เราคงไม่ต้องพบเจอกับคำว่า หายนะของผิวหน้า เป็นสิวอย่าให้พูดดีกว่า ว่าความทรมานในจิตใจมันเยอะขนาดไหน

เอิ๊กมารู้จักครีมที่ผสมขึ้นตามเนื้อเยื่อผิวหนัง เพราะเจอที่ ISKYCENTER ก็รู้สึกว่ามันคงจะดีมาก ถ้าวันนึงเราปรุงครีมขึ้นได้เอง เหมาะกับเราคนเดียว มัน UNIQUE มาก และมันคงจะแพงมาก ปรากฎว่ามันไม่แพง สู้ไหว เพราะกระปุกมันใหญ่ 50 มิลลิกรัม 800-1200 บาท แล้วแต่สูตร 1.ต้านริ้วรวย 2.ทำให้ขาวใส 3.บำรุงให้อาหารผิว รวมค่าแพทย์เรียบร้อยไม่เกินนี้ ความจริงอยู่ที 600-900 บาท ค่าแพทย์ตรวจ 200-300 บาท

ใช้ครีมจนเกือบหมดกระปุกภายใน 2 เดือน เอิ๊กทาแค่ช่วงกลางคืน เอิ๊กนอนเช้าทุกวัน แต่พบว่าผิวดีขึ้นเกือบ 100% ในเรื่องปัญหาผิวที่เคยมี นั่นหมายความว่า

” เมื่อไหร่ก็ตามที่เลือกใช้ครีมได้ถูกกับผิวหน้าจริงๆ เหมาะสม ผิวคุณมีสิทธิ์ดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องหาหมอ “

เอิ๊กมีใช้Lotion และ Oil เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวก่อนลงครีมด้วย ซื้อตามซุปเปอร์มาเกต แต่เลือกที่เหมาะกับผิว ไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง

ผิวแบบดีขึ้นมาก ทำไมไม่รู้จักผิว และเลือกให้เป็นตั้งนานแล้ว มารู้เอาตอนวัยทำงาน – – “

เวลาผิวดีขึ้น ข้อแรกเลย คือแต่งหน้าเรียบเนียนขึ้น ไม่มีขุย ไม่มีสิว ไม่มีบวม ไม่มีแดงและแพ้

เมื่อใช้ครีมที่ตรงกับผิวเรา ความรู้สึกคือหน้ามันดูฟู อิ่ม ทำให้เอิ๊กไม่อยากลองครีมทาผิวหน้าอะไรใหม่ทั้งสิ้น คือ ไม่ให้มีตัวไหนมาแทน เพราะครีมที่ปรุงมาเพียงคนเดียว มันคงมีแค่กระปุกเดียวนี่ละ ยกเว้น Lotion Oil ตามที่บอก พวกเนื้อบางเบา ยังเปลี่ยนอยู่ชอบลองของใหม่ 555 แต่ไม่ชอบให้หน้าเละ ล่าสุดครีมจะหมดแล้ว เอิ๊กรู้สึกว่าผิวเริ่มดี เอิ๊กเลยอยากลองใช้สูตรผิวขาว เอิ๊กเลยต้องตรวจผิวละเอียดอีกครั้งเพื่อปรุงครีมเฉพาะขึ้นมา

รอบนี้ คือ โปรแกรมสามารถเปรียบเทียบก่อนหลัง ไปฉายแสง UV ดูชั้นลึกของผิว หน้ากลัวเช่นเคย

% ยิ่งเยอะผิวยิ่งดี ซ้ายเก่า ขวาใหม่

การดูแลผิวของเอิ๊กได้รับแต่เลเซอร์เฉพาะจุดบ้าง แต่หลายเดือนแล้วไม่ได้ทำ และ IPL 1 ครั้ง ไม่น่าจะใช่เหตุผลที่ทำให้คะแนนผิวดีขนาดนี้

  1. 5 เดือนผ่านไป ในการดูแลสาเหตุการเกิดสิวทำให้สิวไม่มาอีก สาเหตุสิวของเอิ๊กคือ ล้างผลิตภัณฑ์บำรุงผมไม่เกลี้ยง
  2. ล้างหน้าตามแนวขน 4 เดือน
  3. ใช้ครีมตามสภาพผิว 2 เดือน
  4. IPL 1 ครั้งเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว
  5.  ใช้เครื่องนวดกระชับผิว ครึ่งเดือน นวดอาทิตย์ละ 2-4 ครั้ง

ทุกอย่างดูแลแบบองค์รวม ดูแลทุกด้าน

การตรวจใบหน้าอีกครัั้งใน 5 เดือนที่ผ่านมา ดูแลแบบเกือบทุกส่วน ยกเว้นนอนเช้า ยังเลิกไม่ได้

ผิวดีขึ้นมาก ไม่รู้เพราะครีม หรือเพราะองค์รวม แต่เชื่อว่าครีมก็มีส่วนช่วยมากไม่น่าต่ำกว่า 50%

วงกลมเขียวคือดีขึ้น วงกลมแดงคือแย่ลง

หน้าแปลกใจขนาดไม่ออกจากบ้าน กระ จุดน้ำตาลมีโอกาสเพิ่มขึ้น เพราะเอิ๊กนั่งแต่หน้าคอมนั่นหมายถึง ต้องทากันแดดแม้อยู่หน้าจอคอม และ ริ้วรอยรอบดวงตาเอิ๊กมี เพราะเอิ๊กใช้แต่ที่ทาตาแบบลดอาการเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้ลดริ้วรอย

คะแนนการฉายแสง UV ดูผิวชั้นลึก เห็นละเอียดมาก ผิวดีขึ้นเกือบ 100%

แต่ติดตรง ริ้วรอย และ จุดสีน้ำตาลที่เพิ่มมากขึ้นนอกนนั้น ดีขึ้นหมด

มาอีกเครื่องเพื่อทดสอบความแม่นยำ ควรตรวจผิวตั้งแต่2เครื่องขึ้นไป อันนี้เช็คสีผิว ความยืดหยุ่น น้ำมันในผิว ความชุ่มชื่น

เอิ๊กจำคะแนนในหัวได้หมด

สีผิว เก่า 17 > ใหม่ 14

ความชุ่มชื่น เก่า 33 > ใหม่ 34

น้ำมันในผิว > เก่า 1 > ใหม่ 4.8

ความยืดหยุ่นผิว เก่า 75 > ใหม่ 95

มันดีขึ้นทุกด้าน แสดงว่าตรวจเครื่องแรกค่อนข้างได้ผลที่ตรง ผลลัพธ์คือ ความชุ่มชื่นยังคงต้องดูแลเพิ่มแต่ดีขึ้นนิดนึง / ผิวขาวขึ้น 3 คะแนน อย่างไม่ทราบสาเหตุงงมาก – -” ไม่มีครีม โลชั่น หรืออะไรก็ตามที่เป็นสูตรWhitening ไม่ได้ขัดหน้า แต่ขาวขึ้น หมอบอกอยู่คำนึงว่า ถ้าเราใช้ครีมที่ตรงกับผิว ผิวจะดูชุ่มชื่นและดูเหมือนขาวขึ้น / น้ำมันในผิวดีขึ้นมีน้ำหล่อเลี้ยงดีขึ้น / แต่ที่ตกใจสุดคือ ความยืดหยุ่นผิว 95 มันดีขึ้นมากกกกกกก จนแอบคิดไปตอนล้างหน้าตามแนวขน ที่เขาบอกว่า คอลลาเจน อีลาสติน จะดีขึ้น แข็งแรง ยืนหยุ่นดี เหลือเชื่อมาก ว่าคะแนนมันกระโดดเยอะมาก


ตอนนี้จดไว้ 4 สาเหตุที่ทำให้ผิวดีคือ

1. ใช้ครีมที่เหมาะกับผิว

2. ล้างหน้าตามแนวขน

3. ใช้เครื่องผลักครีมให้ซึมสู่ผิวดียิ่งขึ้น

4. IPL ทั่วหน้า 1 ครั้ง

ยังไงก็คงรักษา 3 ข้อแรกไว้อย่างแน่นเหนียว หรือถ้าให้เลือก 2 ข้อ ก็ 2 ข้อแรกต้องอยู่

สาเหตุที่ทำให้ผิวแย่ คือ ไม่ทาครีมกันแดดเวลาเล่นคอม ใช้สายตาหนักไม่พักตาเริ่มมีริ้วรอยและแห้งกร้านแล้ว

เอาละมาพบกับโฉมหน้าที่แท้จริงกันหน่อยไปแพ้ไฟสตูดิโอมา พอใช้อะไรผิดไปหน่อย บวมแดงเลย ทิ้งสิวผดเต็มหน้าผากเลย ตอนนี้ดีขึ้นละ ขออนุญาติเผยผิวจริงไม่ RETOUCH สิวอุดตันมีบ้างประปราย ล้างหน้าตามแนวขนเอาออกให้หมด มันจะไหลแข็งหลุดไปเอง สิวเสี้ยนจัดเต็มไม่มีอะไรโค่นมันแบบถาวรได้

เครื่องนวดผลักครีมบำรุงที่เหมาะกับผิว ต้องใส่ครีมเยอะๆ ใส่น้ำแร่บ่อยๆถ้ารู้สึกเริ่มฝืด ต้องให้แบบเครื่องถูได้ลื่นๆ

เสร็จแล้วผิวดีขึ้นไหม 555 ไม่ได้ใช้ทุกวันนะคะ เพราะผิวแพ้ง่าย ปกติใช้มือทาครีมนี่ละ แล้วก็แต้มสิว แปะผงพิเศษ และ เข้าบรรทม

ขี้เหร่เนอะ 555

ครีม SIGNATURE CREAM ของเราคนเดียว ยังไปปรุงอยู่ที่ศูนย์ ISKY

รอบแรก ซ้ายเก่า ให้ความชุ่มชื่นเป็นอาหารผิว / รอบสอง  ขวาใหม่ สูตรWhitening

หน้าตาเปลี่ยน ชอบของเก่ามากกว่าชอบอะไรใหญ่ๆ

ด้านข้างเปลี่ยนด้วย กลายเป็นชื่ออิชั้น และวันเดือนปีที่ปรุงผสมครีมนี้ขึ้นมา มีเวลาด้วย – – ” รู้หมดเลยไปหาหมอตอนไหน

ข้อด้อยของครีมปรุงสด คืออะไรรู้ไหม ครีมพวกนี้มีข้อดีคือไม่มีน้ำหอม สารกันเสีย ดังนั้น มันต้องแช่ตู้เย็น หรือไว้ในที่ๆไม่ร้อนอบอ้าว และใช้ให้หมดภายใน 1-2 เดือน

เนื้อครีมเก่าเพิ่มความชุ่มชื่น ขาวอวบอิ่ม ฟู ด้านซ้าย /

เนื่อครีมใหม่เน้นขาวลดกระฝ้า เหลืองอ่อน ร่วน แน่น ด้านขวา

ชอบของเก่ามากกว่า หอมมากกว่า ของใหม่แบบว่าไม่พึงพอใจในกลิ่น

แต่ใช้แล้วไม่แพ้   บำรุงผิวอิ่มเหมือนกันให้อภัยนะ

ของใหม่ไม่มีวิตามินอี แต่เพิ่มส่วนผสมของ GIGA WHITE / GRAPE SEED

และ อะไรอีกไม่แน่ใจ ถามที่เคาท์เตอร์จ่ายยามา

ดังนั้นถ้าถามว่าดีขึ้นใหม่ ถ้าเกิดรู้จักผิว เลือกครีมได้เหมาะกับผิว ตอบว่า เกิน 50% ดีขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูแลผิวแบบองค์รวมอย่างที่บอกไว้ตอนต้น

🙂 ขอให้ผิวดีกันทุกคนนะคะ


XOXO

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, ERK-ERK, FACE, SKIN, SKIN CAREComments (5)

TALK ABOUT – สัมมนาการสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น และ ตอบคำถาม

ได้มีโอกาสไปงานวิชาการ การสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น การทำ CRYOLIPOLYSIS ด้วยเครื่อง ZELTIQ จัดให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปโดย รพ.วิชัยเวช อินเตอร์เนชันแนล หนองแขม และ ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์ไอสกายจัดขึ้น ไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายในงานมีให้ความรู้โดยอาจารย์โรงเรียนแพทย์ผิวหนังจาก รพ. ศิริราช

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ

และ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

เป็นผู้ให้ความรู้ด้านการสลายไขมันด้วยความเย็น รวมถึงความรู้เกี่ยวกับเซลล์ไขมัน และ การตอบคำถาม

ภายในงานก็จะมีรายเอียดประมาณที่เก็บภาพมาฝากกันเล็กน้อยค่ะ CLICK

และสำหรับคนที่ไม่ได้ไป เอิ๊กเก็บรายละเอียดวิชาการในส่วนสำคัญมาฝากค่ะ

– การสาธิตการสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น

– ตอบคำถาม เช่น การทำซิกแพก การรู้จักเซลล์ไขมัน การกระชับสัดส่วน การกำจัดไขมันส่วนเกิน

ฯลฯ

ขอบพระคุณมากค่ะที่ได้จัดงานให้ความรู้แก่ประชาชนขึ้นมาค่ะ 🙂

ปล. ถ้าไม่ใช่เด็กเรียนมาก่อน อาจจะฟังแพทย์แล้วงุนงง เทคโนโลยี ศัพท์ อุปกรณ์แพทย์ผิวหนังเยอะมว๊ากกก

ใครอยากอ่าน HOW TO ที่เอิ๊กทำในการสลายไขมัน CLICK

ยัง REVIEW ไม่ได้ยังไม่ครบ 2 เดือนเลย ในงาน CEO รพ ก็จับชื่อให้ได้รางวัลทำฟรีมา 1 ครั้ง ดีใจมากกกกกก

เดี๋ยวเอาไขมันที่ท้องส่วนเกินออกอีก

 

 

 

 

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, DIET, FAT, HOW TOComments (1)

BEAUTY TALK – รวบรวมวิธีทำให้ “ฟันขาว ” สวย

 

 

 

ความลับของคนที่ฟันขาวคืออะไร? ….

เวลาเราเห็นดารา นางแบบอยู่ฟันขาวจั๊วะ จนต้องถามว่าทำอะไรมา ฟันขาวเงาวาววับสะท้อนแสงมาก คือมันรับไปทุกส่วนเลย หน้าสวย ยิ้มสวย แล้วเขาก็ดูเหมือนจะยิ้มบ่อยมากกกกกกกกก ดูแล้วเพลิน จะพูดอะไรเลยไม่ค่อยได้ฟัง เพราะมองแต่ใบหน้าและรอยยิ้มของผู้หญิงคนนี้  …

เลยเปิดกระทู้อ่านไปเรื่อยๆ พบว่า ความลับ หรืออาจจะไม่ลับของดาราที่ฟันขาวสวย คืออะไร ? มิน่าละ ก็ว่าอยู่เราเองก็ดูแลอย่างดีทำไมยังเหลืองนวลต่างจากเค้า สังเกตุว่าดาราต้องยิ้ม ต้องเจอสื่อตลอด เขาจะต้องมั่นใจสุดชีวิต อย่างน้อยหน้าตา แต่งหน้า ทรงผม แต่งตัวต้องเป๊ะ และต้องยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ซึ่ง80% ฟันขาวมาก จนเราแอบนึกไปว่าดูแลกันดีจริงๆเล้ยยย

เห็นได้ว่าฟันขาวขาว ส่งผลต่ออะไรต่อความรู้สึกของคนมองอย่างเราบ้าง รู้สึกว่าเขาเป็นคนมั่นใจ บุคลิกดี ดูสดใส ยิ้มกี่ทีก็สวยสว่างวาบตลอด ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นที่มาของหัวข้อในวันนี้ จะมาพูดถึงวิธีการได้มาซึ่ง ฟันขาวจะขาวแบบธรรมชาติ ขาวแบบสว่างสไว หรือ ขาวเกินหน้าเกินตาแบบดารา วันนี้เรามาทำความรู้จักวิธีทำฟันขาวสารพัดชนิด กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ?

 

และ ก่อนอื่นสาเหตุที่ทำไมคนเรามีสีฟันต่างกัน บางคนเหลืองน้อย เหลืองมาก ขาวอมเหลือง ฯลฯ คือ ..

คนที่มีสีฟันขาวสว่างเป็นเพราะมีชั้นเคลือบฟัน (Enamel) ค่อนข้างหนา จึงปิดบังสีของชั้นเนื้อฟัน (Dentin) ที่มีสีเหลืองที่อยู่ถัดเข้าไปได้มิด ส่วนคนที่ฟันสะอาด ไม่มีคราบสี & อาหารติดอยู่ แต่ยังดูเหลืองอยู่ แสดงว่ามีชั้นเคลือบฟันบาง สีของชั้นเนื้อฟันจึงโผล่ขึ้นมาให้เห็นชัดเจนกว่า และ คนที่มีฟันสีเทาเข้ม เป็นแถบ ๆ ไล่จากคอฟันขึ้นมาปลายฟัน อาจเป็นเพราะมารดาทานยาเตตร้าซัยคลินตอนตั้งครรภ์ สีฟันจะผิดปกติไป ฟันอีกประเภทที่มีสีคล้ำลงชัดเจนเฉพาะซี่ คือฟันตาย เพราะเส้นเลือดถูกตัดขาดและเศษซากของเม็ดเลือดแดงในรากฟันจะซึมเข้าท่อเนื้อฟันทำให้ดำ ตอนเด็กเคลือบฟันเราหนาฟันเลยขาวจั๊วะ โตมาหน่อยเคลือบฟันเราก็บางลงเรื่อยๆ จนเห็นีเนื้อฟัน สีเหลืองชัดกว่าตอนเป็นเด็ก ฟันเหลืองยังรวมไปถึงอาหารที่รับประทาน ชา กาแฟ คราบอาหารด้วย ..

twitter ทันตแพทย์ @vudhibhong

วิธีการทำฟันขาวมีประมาณ 10 วิธี

ความจริงมีเยอะ แต่นั่งเอิ๊กรวบรวมและเรียบเรียงใหม่ เลือกมาเฉพาะที่เห็นกันได้ในเมืองไทย

1. ยาสีฟันสูตรฟันขาว (Whitening)

หลักการ : ใช้ยาสีฟันที่เป็นสูตรฟันขาวร่วมกับแปรงสีฟัน โดยแปรงตัวยาสีฟันลงบนฟัน ในยาสีฟันสูตรฟันขาวโดยมากจะมีส่วนผสมที่กำจัดคราบเม็ดสีที่เกาะตามผิวฟัน มีสารเคลือบฟันป้องกันฟันผุ หินปูน คราบพลัค มีสารขัดฟันพิเศษบางชนิด จึงทำให้ฟันดูขาวขึ้น ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของสาร Silica ช่วยขจัดคราบต่างๆโดยไม่ทำลายเคลือบฟันและทำให้ฟันขาวขึ้นแบบธรรมชาติ

ข้อดี : ราคาถูก ปลอดภัยสูง ไม่ทำลายผิวเคลือบฟัน ถ้าใช้แรงในการแปรงที่เหมาะสมและขนแปรงไม่แข็งเกินไป

ข้อเสีย : ต้องใช้ระยะเวลา ต้องใช้ประจำและต่อเนื่องนานหลายเดือนกว่าจะเริ่มเห็นผล ขาวได้ไม่ที่สุด ขาวได้เท่ากับธรรมชาติฟันของเรา

 

2. น้ำยาบ้วนปากสูตรฟันขาว (Whitening) 

หลักการ :  อาจไม่ค่อยให้ผลที่เด่นชัด 

ข้อดี : ราคาถูก ไม่ทำลายเคลือบฟัน ปลอดภัยสูง

ข้อเสีย : เห็นผลยากกว่ายาสีฟัน อาจจะรู้สึกได้ว่าฟันสะอาดกว่าที่เคย และอาจไม่สามารถทำความสะอาดคราบหินปูนที่เกาะลึกมานานได้

 

3. ขูดหินปูน

หลักการ : ช่วยขจัดคราบเม็ดสีเข้มที่มาเกาะฟัน คราบอาหาร หรือหินปูนที่ติดบนชั้นเคลือบฟันและตามซอกเหงือก ซอกฟันออกไป

ข้อดี : ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้นนิดนึงหลังจากเอาหินปูนออกไปแล้ว เป็นการเช็คสุขภาพของฟัน ฟันผุอีกทางนึงโดยผู้เชี่ยวชาญ ควรทำทุก6เดือน-1ปี เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากที่จะตามมาในอนาคต

ข้อเสีย : ฟันไม่ได้ขาวกว่าที่มันขาวได้ เพียงแต่ดูสะอาด ดูฟันมีสีอ่อนลง

 

4. ฟอกฟันขาวโดยใช้น้ำยาเคมี (ลักษณะตั้งแต่เป็น เจล ครีม น้ำยา)

4.1 ทำเองที่บ้าน

หลักการ : เป็นเจล น้ำยา หรือ ครีม ที่มีส่วนผสมหลักคือคาร์บาไมด์  เพอร์ออกไซด์ (เป็นสารประกอบของ ไฮโดรเจนเปอออกไซด์กับยูเรีย จะอ่อนกว่าไฮโดรเจนเปอออกไซด์) หรืออาจจะเป็น ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ที่ความเข้มข้นต่ำๆไม่เกิน  10-15% จะทำลายสีที่ติดอยู่ในฟันโดยอาศัยเวลา และปฎิกิริยาออกซิเดชั่นในน้ำยาฟอกฟัน / ถ้าซื้อน้ำยาจากหมอ หมอจะทำถาดฟันที่พอดีกับฟันเรามาให้ / ถ้าซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ตแบบเมืองนอกจะมีถาดแบบฟรีไซส์มาให้ เทน้ำยาฟอกฟันลงไป และใส่ไว้ต่อเนื่อง 3-8 ชั่วโมงหรือทั้งคืน (ส่วนมากทำตอนกลางคืน) เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่จะชัดสุด สัปดาห์ที่ 3 ขึ้นไป ทำต่อเนื่อง 7 – 14 วัน

ข้อดี : สะดวกไม่ต้องเดินทาง ทำเองได้ที่บ้าน  ฟันค่อยๆขาวขึ้นได้จริง แต่อยู่ไม่ถาวรต้องทำซ้ำเมื่อสีฟันเริ่มเปลี่ยน

ข้อเสีย : ใช้ระยะเวลาต่อเนื่อง ทำทีไรเสียวฟันทุกที (ส่วนมาก) ฟันเหลืองๆจะทำแล้วเห็นผลดีกว่าคนฟันขาวอยู่แล้ว บางคนอาจเสียวฟันเล็กๆแล้วหายไป บางคน เสียวฟันตั้งแต่เสียวฟันน้อยๆ จนถึงอาการเสียวฟันมากๆ บางครั้งก็จะมีอาการปวดฟันร่วมด้วย ในบางรายก็อาจจะปวดเหงือกซีดขาวจากผลของน้ำยา ดังนั้นจึงต้องศึกษาวิธีการทำอย่างละเอียดไม่ว่าจะทำเอง หรือ ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ถาดฟันที่ให้แพทย์ทำ จะดีกว่า ฟรีไซส์ เพราะพอดีฟันมากกว่า และไม่ทำให้น้ำยาไปโดนเหงือก ให้เหงือกขาว ระคายเคือง หรือ ยุ่ย และหลังทำคอฟันยังมีสีเดิมอยู่ได้

4.2 ทำโดยคุณหมอ

หลักการ : ใช้น้ำยาใช้ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ความเข้มข้น  10-35% ขึ้นไป หมอจะใช้เรซินเพื่อปกปิดเหงือกขณะฟอกสีฟัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองจากน้ำยา เมื่อใช้ความเข้มข้นสูงกว่า ปฎิกริยาไฮโดรเจนเปอออกไซด์ก็จะแตกตัวซึมเข้าสู่เนื้อฟันได้มากกว่าปกติ ทำต่อเนื่อง 45-60 นาที

ข้อดี : วันเดียวจบ ขาวทันที ขาวเป๊ะทั้งตัวฟัน และมั่นใจในความเชี่ยวชาญของคุณหมอที่ทำให้ คอฟันก็จะสีสม่ำเสมอกับตัวฟัน ด้วยเทคนิคของหมอที่เชี่ยวชาญในการฟอกฟันจริงๆ

ข้อเสีย : ราคาแพงกว่าทำเอง ข้อเสียจะคล้ายกับการฟอกฟันที่บ้าน คืออาจมีอาการเสียวฟัน หรือ ปวดฟันร่วมด้วย แต่ปัญหาน้ำยาโดนเหงือกจะไม่ค่อยมี แพทย์จะมีน้ำยาทาบริเวณเหงือป้อกกันการระคายเคือง หรือจะมีเทคนิคคอยควบคุมตัวยาไม่ให้ไหลทะลักขึ้นมาโดนเหงือก

 

5. แผ่นฟอกฟันขาว

หลักการ : เป็นแผ่นที่มีน้ำยาเจลฟอกฟันอยู่ด้านใน ลอกแล้วมาแปะที่ตัวฟัน ก็จะทำปฎิกิริยาจากไฮโดรเจน เปอร์ออกไซด์ หรือ คาร์บาไมด์  เพอร์ออกไซด์ เหมือนเดิมให้ฟันขาวขึ้น โดยแปะติดกับฟันแล้วทิ้งไว้ 30นาที – 2 ชั่วโมง ทำแค่วันละครั้ง ทำหลายวันติดต่อกัน เห็นผลขึ้นกับรุ่น สูตรที่ใช้

ข้อดี : ราคาถูก ไม่เกิน 1000 – 4000 บาท มีหลากหลายสูตรให้เลือก ทำที่บ้านได้ ขาวขึ้นได้จริง แต่อยู่ไม่ถาวรต้องทำซ้ำไปเรื่อยๆ เมื่อฟันเปลี่ยนสี การระคายเคืองน้อยกว่า เนื่องจากทำแบบค่อยเป็นค่อยไป วันละนิดวันละหน่อย

ข้อเสีย : มีการเสียวฟันได้ ต้องใช้เวลาต่อเนื่องหลายวันติดกันในการทำให้ได้ผลที่พอใจ อาจต้องทำ 8 – 40 ครั้ง หรือ มากกว่านั้นภายในหนึ่งปีเพื่อคงความขาว อาจมีการระคายเคืองเหงือก เพราะแผ่นติดไม่ได้ออกแบบมาพอดีรูปฟัน เวลาเป็นจะโดนเหงือกด้วย

 

6. ฉายแสงฟันขาว ใช้แสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ เช่น แสงเลเซอร์ หรือแสงสีฟ้าที่มีต้นกำเนิดแสงเป็นพลาสม่าหรือไดโอท ยกตัวอย่างซัก 2 ชนิด

6.1   แสง Blue light

หลักการ : การทำให้ฟันขาวโดยการฉายแสงสีฟ้า ที่มีความนุ่มนวล กระจายตัวใช้ควบคู่กับเจลฟอกฟัน กระตุ้นให้เจลทำงานดีขึ้น ไม่มีความร้อน ไม่ได้รับอันตรายจากแสง UV ใช้เวลาฉายแสงสีฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง

ข้อดี : ครั้งเดียวจบ สีฟันใกล้เคียงกับความขาวแบบธรรมชาติ

ข้อเสีย : ราคาสูง 7000-18000 ขึ้นไป เนื่องจากใช้น้ำยาเข้มข้นสูง เฉพาะบางรายอาจทำให้เหงือกเจ็บ แสบ แดง หรือ อักเสบ และอาการเสียวฟันมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดความเข้มข้นของสารที่ใช้ฟอกฟัน รวมทั้งระยะเวลาฉายแสง อาการเหล่าจะเกิดตอนฟอกสีฟัน แต่จะหายไปเอง ฟอกได้แต่เฉพาะฟันที่อยู่ซี่ด้านหน้า ด้านในฟอกไม่ได้ ต้องระวังแสงที่ใช้ซึ่งอาจทำอันตรายดวงตาด้วยการปิดเหงือก ปิดตาหรือใส่แว่นกันแสง

6.2    แสง Laser

หลักการ : ใช้แสงเลเซอร์ (สีแดง) ที่มีความยาวคลื่นจำเพาะให้ความร้อนต่ำกระตุ้นปฎิกิริยาเคมีของไฮโดรเจนเปอออกไซด์แตกตัว สามารถทำให้น้ำยาซึมเข้าไปในฟันได้ลึกกว่าปกติ จึงกระตุ้นและทำหน้าที่ดึงวัตถุเม็ดสีได้อย่างดีโดยสามารถกำหนดทิศทางของแสงได้เฉพาะเจาะจงกว่าวิธีฉายแสงแบบอื่น ใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 45 นาที

ข้อดี : ทำวันเดียวจบ ปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และ ระคายเคืองเหงือก เสียวฟันน้อยสุดกว่าทุกวิธี

ข้อเสีย : ราคาสูง 10000-15000 บาท ขึ้นไป ต้องระวังแสงที่ใช้ซึ่งอาจทำอันตรายดวงตาด้วยการปิดเหงือก ปิดตาหรือใส่แว่นกันแสง

 

7.เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์ (ยิ้มแบบดารา)

หลักการ : การทำชิ้นงานด้วยวัสดุสีเหมือนฟันมาปิดทับบริเวณหน้าฟัน โดยเลือกเฉดความขาวได้ วัสดุมีผลต่อความแข็งแรง อายุการใช้งาน และการดูดสีได้ดี เช่น พวกชา กาแฟ ที่นิยมจะเป็นการใช้วัสดุที่ทำจากเซรามิค และ เรซิน  เซรามิคนั้นจะแพงกว่า เรซิน 8-12 เท่า หรือมากกว่านั้น โดยจะกรอเนื้อฟันออกบางส่วนเพื่อให้เข้ากับวัสดุสีเหมือนฟัน ที่เป็นเซรามิค หรือ เรซิน วิธีนี้นิยมมากในหมู่ดารา นักแสดง พริตตี้ และ คนที่ไม่สามารถฟอกฟันได้ หรือมีฟันสีคล้ำแต่กำเนิดต้องการปกปิด จะใช้วิธีแปะวัสดุสีเหมือนฟันลงไปโดยกาวที่มีความแข็งแรงติดทน เซรามิคจะราคาสูงมากต่อซี่ 8000 – 15000 บาท หรือแพงกว่า แต่แข็งแรงทนทาน ขาวถาวร ไม่ดูดสีพวกชา กาแฟ เหมือนวัสดุอย่างพลาสติคเรซิน

ข้อดี : ขาวถาวร ทำแค่บนผิวด้านหน้าของฟันไม่ได้ทำรอบตัวฟัน และ นิยมทำแค่ฟันด้านหน้าเท่านั้นให้เวลายิ้มเห็นพอดี ถ้าจะทำฟันให้ขาวก็เลือกสีขาวสว่างเห็นได้ไปยังโลกหน้า ขาวมาก หรือเลือกได้หลายเฉดให้เหมาะกับสีฟัน ตกแต่งปิดฟันห่าง ซ้อน เก เล็ก ไม่เท่ากันทำให้ออกมาได้ทุกซี่เท่ากันและสวยงาม แก้ไขฟันแตก บิ่น หักได้อีกด้วย ใช้เวลา 7-14 วันในการทำเซรามิค / ใช้เวลา 1 วันในการทำเรซิน / พอซเซอเลน-เซรามิค ทน สวยงาม วาวกว่าเหมือนฟันจริงๆของเรา

ข้อเสีย : เสียเนื้อฟันด้านหน้าฟันไปต้องกรอออกให้รับกับชิ้นงาน ความแข็งแรงทนทาน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเรา ต้องดูแลอย่างดี มีปัญหาเวลาหัก ร้าว ต้องรีบซ่อม เพราะเราต้องยิ้ม ต้องใช้ฟัน อาจสูญเสียความมั่นใจได้ ถ้าฟันยังซ่อมไม่เสร็จ  / ถ้าทำไม่ดีตามขอบจะเห็นเป็นสี เหลือง น้ำตาล ดำโผล่ออกมา / เรซินใช้นานไปเปลี่ยนสีด้าน ไม่วาว ขอบสึก ต้องเปลี่ยนใหม่

แต่ ปัจจุบันวัสดุชนิดนึงที่ชื่อ LUMINEERS คือแพงที่สุด บางที่สุด และลดการเสียเนื้อฟันน้อยที่สุด

หลักการ : ชิ้นงานที่เป็นวัสดุสีเหมือนรูปร่างลักษณะเหมือนฟันมนุษย์จริงมาปิดทับบริเวณหน้าฟัน โดยส่งไปทำที่ห้อง LAB ของอเมริกา ดังนั้นความพิถีพิถัน 100% โดยมีความบางเท่ากับความบางคอนแทคเลนส์ โดยเลือกเฉดความขาวได้ วัสดุค่อนข้างแข็งแรง และมีอายุการใช้งาน20ปี จะเป็นวัสดุที่บาง และ เป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดตอนนี้ในไทย ในการเคลือบฟันเทียมด้านหน้า และสามารถเปลี่ยนรูปร่างฟันได้เหมือนวิธีอื่นๆ จุดเด่นไม่ต้องกรอฟัน ฟันจะอยู่เป็นปกติ อาจจะมีขัดหน้าฟันให้สากเล็กน้อยเพื่อที่จะลงน้ำยา และ กาวเคลือบให้สมานกันได้ แต่แพงมากกกกกกกก มากกว่า วีเนียร์ปกติ1เท่า

ข้อดี : ขาวถาวร / อายุยาวนานราว 20 ปี / ไม่ต้องกรอฟัน / ไม่เจ็บ / บางเหมือนไม่ได้ติด / เปลี่ยนรูปร่างฟันได้ / ปิดฟันดำ / ช่องห่างของฟันได้

ข้อเสีย :  รอนาน1เดือนเพราะส่งไปLABต่างประเทศ / ถ้าแตกก็ซ่อมแพง / แพงมาก ซี่ละ 18000-25000 ในไทย

 

8. ครอบฟัน

หลักการ : ในกรณีถ้าจะทำครอบฟัน ต้องมีข้อบ่งชี้ว่า เนื้อฟันเหลือน้อย จากการผุ หรือแตกหักจนไม่สามารถบูรณะด้วยการอุดฟันได้ หรือ ทำครอบฟันหลังจากการรักษารากฟัน คือการใช้วัสดุสีเหมือนฟัน เช่นพอร์ซเลน หรือเซอร์โคเนีย และอาจร่วมกับโลหะ ขึ้นรูปเป็นครอบฟัน สวมทับฟันซี่นั้นๆ ราคาขึ้นกับวัสดุที่ใช้ การทำ มีขั้นตอนคือทันตแพทย์กรอเตรียมรูปร่างฟัน และพิมพ์ซี่ฟัน (ปัจจุบันคลินิกบางแห่งใช้วิธีการสแกนฟันดิจิตอล) เลือกสีฟัน ส่งLAB เพื่อขึ้นรูปชิ้นงาน แล้วนัดครั้งต่อไปถึงจะได้ใส่ และอาจจะต้องมีการเก็บรายละเอียดอาจต้องพบแพทย์ 3-4ครั้งกว่าจะจบ

ข้อดี : ขาวถาวร ทนทาน สามารถแก้ไขรูปร่างฟันได้

ข้อเสีย : ราคาขึ้นกับวัสดุ คิดราคาต่อซี่ ต้องกรอฟันโดยรอบซี่ สูญเสียเนื้อฟันจริงเยอะ ทำครั้งแรกอาจไม่พอดี หรือสีอาจไม่แนบเนียน ต้องปรับแต่งกันให้พอดี ทำไม่ดีฟันข้างในผุต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีๆ และการดูแลรักษาความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

9.เครื่องฟอกฟันขาว

หลักการ : ส่วนตัวเท่าที่ปรึกษาคุณหมอหลายท่านมากลงความเห็นคล้ายกันว่าอาจจะมีส่วนเพราะปฏิกิริยาของน้ำยาหรือเปล่าที่ทำให้สีฟันอ่อนลงดังนั้นวิธีนี้จะยังไม่ฟันธงว่าเป็นวิธีที่มาเสริมให้ฟันขาวได้จริงหรือเปล่า

ข้อดี : น้ำยาจะเป็นตัวการที่ทำให้สีฟันอ่อนลง

ข้อเสีย : ผลลัพธ์ของแสงสีฟ้าที่ทำจากบ้านอาจจะยังไม่มีหลักฐานประจักษ์ทางงานวิจัย (ถ้าใครมีส่งมาได้นะคะ ) และ ถ้าเทียบกันไม่สามารถสู้พลังงานแสงสีฟ้าจากเครื่องใหญ่ที่ศูนย์ทันตกรรมได้ เนื่องจากตัวเครื่องมีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นก็น่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลที่นานกว่ามากถ้ามันได้ผลจริง

 

 

สรุปการฟอกสีฟันโดยใช้น้ำยาเป็นตัวทำปฎิกิริยาให้ได้ผลขึ้นกับ

  • สีฟันดั้งเดิม
  • ความเข้มข้นของน้ำยาฟอกฟัน
  • ระยะเวลาที่ใช้ในการทำ
  • จำนวนรอบของน้ำยา
  • เทคนิคของหมอแต่ละคน

 

ฟอกสีฟันไม่เหมาะกับ ?

  • ถ้าฟันเราผุหรือไม่แข็งแรง(พวกฟันกร่อนหรือเป็นโรคผิดปกติเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกและฟัน) ควรรักษาฟันผุและควบคุมอนามัยช่องปากให้ได้ก่อนจะเริ่มฟอกสีฟัน
  • ทำให้เหงือกร่นในกรณี ที่เป็นโรคปริทันต์อยู่ก่อนแล้ว  ต้องควบคุมโรคปริทันต์ให้ได้ก่อนและคนไข้ที่เหงือกร่น มีโอกาสเสียวฟันอยู่ก่อนจะฟอกสีฟันอยู่แล้ว
  • ท้องเสียถ้ากลืนยาลงไปในปริมาณมาก
  • อาการเสียวฟันมากสำหรับคนที่เหงือกร่น ฟันแตก หรือ เนื้อฟันโผล่
  • ฟันตายหรือฟันที่รักษารากมาแล้ว  จะมีวิธีการฟอกสีฟันอีกแบบที่ต้องใส่น้ำยาเข้าไปในโพรงฟันหลังจากรักษารากฟันเสร็จ
  • วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน จะไม่ขาวขึ้นมากไปกว่าสีดั้งเดิมดังนั้นหลังทำเสร็จอาจต้องเปลี่ยนวัสดุอุดฟัน หรือครอบฟันด้วย
  • ไม่แนะนำทำในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือ คนที่มีฟันซี่เล็กมาก เพราะอาจจะเสียวมากกกกกกก
  • ในช่วงเวลาหลังการจัดฟัน 1เดือน อาจเสียวฟันมากกว่าปกติชั่วคราว
  • มีการอักเสบในกระดูกขากรรไกร หรือปลายรากฟัน  ควรไปแก้ปัญหาเร่งด่วน รักษาอาการติดเชื้อให้หายดีเสียก่อน เพราะสำคัญกว่าการฟอกสีฟัน
  • สตรีมีครรภ์

 

การดูแลฟันหลังจากฟอกฟัน

  • งดบุหรี่ ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำผลไม้หรือน้ำใดๆที่มีสี รวมทั้งงด อาหารมีสีที่เหนียวติดฟัน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเวลาทานอาหารหรือดื่มน้ำ แนะนำให้บ้วนปากหรือแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อการรักษาความขาวเอาไว้
  • อาการเสียวฟันสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด และจะค่อย ๆ ทุเลาลงไปเองจนหายสนิทภายใน 72 ชั่วโมง

 

ข้อแนะนำ

ฟันปกติควรมีความขาวไม่มากไปกว่าสีของตาขาว จึงจะดูไม่หลอกตา

เพราะอาจดูเหมือนฟันปลอมได้ via @vudhibhong

เราลองมาหลายวิธีพื้นฐาน ยาสีฟัน สมุนไพร การฟอกฟันที่บ้านที่คลินิค

ในตอนที่ยังไม่มีความรู้ พอได้เจอหมอฟันที่ให้ข้อมูลถูกต้อง

มีจรรยาบรรณ ทำให้รู้ว่า สมุนไพรเกลือ เบคกิ้งอะไร อย่าค่ะ

และ ที่ไม่ลองแน่ๆคือการทำวีเนียร์ เราอยากยิ้มสวยนะ

แต่รอยยิ้มโดยรวมของเราไม่ได้แย่จนเราต้องยอม

เสียเนื้อฟันตัวเอง ทั้งนี้แล้วแต่การชั่งข้อดีข้อเสีย

ของแต่ละคนด้วย เราเป็นคนวุ่นวายกับฟันมากก็เลย

รวบรวมวิธีทำฟันขาวมาให้ตัวเองอ่าน และ คนอื่นอ่านด้วย

เพื่อนๆละกำลังเล็งวิธีไหนกันอยู่ ?

 

บทความนี้เราเรียบเรียงและทำขึ้นมานานแล้วเกือบ 10 ปี

อีดิทใหม่ปี 2564 หากผิดพลาดประการใด

แจ้งได้ตลอดเวลานะคะ

 

XOXO

 

 

 

 

 

 

 

ที่มาข้อมูล + รูปภาพ

  • การตรวจข้อมูลความถูกต้อง ต้องกราบขอบพระคุณ ทันตแพทย์วุฒิพงษ์ เหล่าอมต

และ ทันตแพทย์หญิง แก้วมณี เรืองฤทธิเดช ที่ช่วยดูแลเรื่องข้อมูล

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASER, TEETHComments (6)

TALK ABOUT : IPL เลเซอร์หน้าใสจริงเหรอ ? พร้อมREVIEWหลังทำ

IPL intense pulsed light เป็นการใช้แสงที่มีหลายช่วงคลื่น รักษาผิวหนังที่มีจุด จุดดำ จุดแดง ต่างกับ เลเซอร์ ที่เป็นแสงช่วงคลื่นเดียว ดังนั้น แสงLASER กับ แสงIPL คนละชนิด IPL ไม่ใช่ LASER นะคะ

 



หลักการทำงาน

  • ปล่อยความยาวคลื่นออกมาให้โดนเซลล์ผิวหนังแต่ละเซลล์ที่ต้องการ – เซลล์แต่ละเซลล์ดูดซับพลังงานแสงได้ไม่เท่ากัน เซลล์เม็ดเลือดก็แบบหนึ่ง เซลล์คอลลาเจนก็แบบหนึ่ง เซลล์เม็ดสีดำ หรือ แดง ก็แบบหนึ่ง
  • IPL จะปล่อยแสงจำเพาะเจาะจงในแต่ละครั้งได้ เช่นรอบนี้เลือกความถี่ที่จะปล่อยแสงไปยังเซลล์เม็ดสีดำ (จุดด่างดำ) มันก็จะโดนเม็ดสีดำเท่านั้น รอบต่อไปอาจจะเลือกปล่อยแสงให้โดนเม็ดเลือดแดงด้วยความถี่ที่เหมาะกับเม็ดเลือกแดง ปล่อยแสง IPL ลงไป ก็จะเกิดความร้อนที่บริเวณเม็ดเลือดแดง มันก็จะไปทำลายพนังหลอดเลือดแดงเล็กๆ (รอยแดง เส้นเลือดฝอยเล็กๆแดงๆที่มีขนาดไม่เกิน 0.2 มิล) รอยแดงก็จะหายไป รอบต่อไปอาจใช้ลดรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ใช้ความร้อนจากแสง IPL ไปจับน้ำในเซลล์ของคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่
  • การรักษาควรต้องยิง IPL หลายครั้งขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้

 

รักษาอะไรได้บ้าง

  1. รอยดำ จุดดำ
  2. รอยแดง จุดแดง รอยแดงจากแผลคีรอยด์
  3. กระจาง กระตื้น กระแดด
  4. ฝ้าบางชนิด
  5. ริ้วรอยตื้นๆ
  6. กระชับรูขุมขน
  7. รักษาสิว (เมื่อทาสารบางตัวก่อนปล่อยแสง IPL ช่วยฆ่าเชื้อ P Acne)
  8. กำจัดขน

 

 

สรุป IPL สามารถรักษาได้หลายอย่างในการทำเพียงครั้งเดียว .. แต่จะให้เห็นผลต้องทำหลายครั้ง .. และด้วยความสามารถที่ทำได้หลายอย่างในหนึ่งครั้ง โดยเฉพาะทำให้รูขุมขนที่หดขนาดลงได้บ้าง จึงมีชื่อเรียกทางโลกว่า “ เลเซอร์หน้าใส “ จริงๆแล้ว แสงIPL ไม่ใช่ แสงLASER เป็นแสงคนละชนิดกัน

 

ระยะเวลาการเห็นผล

  • ภายใน 1-3 วัน เห็นชัดว่าหน้าใสขึ้น แต่ก็ไปเร็วกว่าพวกเลเซอร์ที่ยิงแล้วมีแผล ที่จะอยู่ได้ยาวนานกว่าและเห็นผลชัดกว่า

 

ข้อแนะนำ

  • ทาครีมกันแดด + กันแดดที่มีไวเทนนิ่งผสมทุกวัน

 

คนที่เหมาะกับการรักษาด้วย IPL

  • คนรักษาสิวเรื้อรังที่มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้เรื่อยๆ เพราะเลเซอร์จะราคาสูงกว่า ถ้าต้องเป็นสิว ทิ้งรอยแล้วกลับมาใหม่ก็เลือกIPLจะคุ้มกว่า เวลาทำก็ทำต่อเนื่องเดือนละครั้งทำ 3-4 ครั้งเริ่มเห็นผล คนที่ดูแลผิวตัวเองดีดี IPLสามารถให้ผลรักษาอยู่ได้นานเป็นปี

 

ราคาแต่ละที่ไม่เหมือนกัน
  • ต่างกันที่เครื่องนำเข้าจากประเทศอะไรมีตั้งแต่เครื่องนำเข้าจีน ถึง ราคาหลายล้าน / หัวIPLเล็กใหญ่ / บางที่คิดเป็น SHOT บางที่คิดเป็นพื้นที่
  • ผลลัพธ์จึงออกมาไม่เหมือนกันด้วยขึ้นกับประสิทธิภาพของเครื่อง การจะทำIPLจึงต้องเช็คมาตราฐานของเครื่องก่อนการเปรียบเทียบราคา

 

ข้อดี

  1. ทำได้ทุกอย่าง รักษาได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว
  2. ไม่ต้องทายาชา
  3. รักษาได้หลายอย่างใน 1 ครั้ง
  4. ไม่มีบาดแผลหลังทำ
  5. การดูแลรักษาหลังทำง่าย
  6. ใช้เวลาทำเร็ว

 

ข้อควรระวัง

การไหม้ เป็นรูปหัวIPL สี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียวยาว(เรียกว่าบั้ง) เกิดจากการที่ IPL ส่งแสงลงไปยังผิวหนังชั้นล่าง ก่อนจะลงไปต้องผ่านผิวหนังชั้นบน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมี Cooling Gel เพื่อป้องกันการไหม้ของผิวหนังชั้นบน

อีกกรณีแสง IPL กับเรื่องของสีผิว ผิวขาว ผิวสองสี ใช้แสงIPLความถี่ไม่เหมือนกัน คนไข้ผิวสองสี ผิวเข้ม จะต้องใช้พลังงานแสงที่ลดลง คนผิวสีเข้มผิวจะดูดซับแสงได้ดี ที่สำคัญเกิดการ BURN หรือ ไหม้ได้ง่าย เช่น ไรผมจะBURNง่าย ผมซึ่งมีเม็ดสีดำ เม็ดสีเข้มจะดูดซับพลังงานได้ดีกว่าบริเวณโหนกแก้ม หรือ ขาจะไหม้ได้ง่ายกว่าหน้า เพราะขามีขน คนไข้ที่ผิวเข้มแต่ต้องการกำจัดขนด้วย IPL อาจจะเลือกใช้วิธีอื่น หรือเลือกเลเซอร์กำจัดขนเฉพาะทางไปเลย เพราะโอกาสเสี่ยงไหม้ เยอะมากกว่า

 

ถ้าเกิดการไหม้ จะทำยังไง (น้อยคนจะเจอ) 

  • ถ้าเกิดการไหม้จะตกสะเก็ดแล้วก็หลุดลอกออก คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าการไหม้ลงไปลึกแค่ไหน ถ้าไม่ลึกมันจะลอกออก ผิวจะเหมือนเดิม
  • ถ้าเป็นตุ่มน้ำ อาจทาขี้ผึ้ง หรือ ยาปฎิชีวนะ แล้วค่อยสะกิดตุ่มออก
  • ทากันแดดทุกวัน แดดจะทำให้ผิวหายช้า และอาจอาการหนักกว่าเดิม
  • อาจต้องใส่ที่ครอบปากกันติดเชื้อ
  • ถ้าเกิดรอยดำอาจทาครีมไวเทนนิ่ง
  • ถ้าเกิดรอยดำอาจทานยาเพื่อให้ผิวขาว แต่อันตรายต้องได้รับคำแนะนำและจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น

ดังนั้นจะไหม้หรือไม่ เกิดจากสีผิวของเรา และ ความพร้อมของผิวเรา

 

การเตรียมตัวก่อนทำ

  • อย่าตากแดดจัดเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์ก่อนทำ

คนที่ไม่เหมาะกับ IPL

  • คนที่แพ้แสงอาจไม่ควรทำ
  • คนที่เป็นคีลอยด์ง่ายๆ อาจต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • คนที่มีแผลอยู่แล้วไม่ควรทำ เช่นยิงตรงแผล
  • คนที่ตั้งครรภ์ไม่ควรทำ

 

ข้อเสียของ IPL คือ

  • รักษาปัญหาทุกอย่างที่กล่าวมาได้แต่ไม่ได้หายไปภายในครั้งเดียวอาจต้องทำ 3 ครั้งขึ้นไป
  • รักษาหลายรอบขึ้นไปถึงจะเห็นผล
  • อาจเกิดผลข้างเคียง รอยไหม้ รอยด่างขาว

 

ดังคำกล่าวของแพทย์ผิวหนังท่านนึง IPL IT’S LIKE A DUCK BUT IT ISN’T THE BEST

เพราะรักษาได้ทุกอย่างจริง เห็นผลจริงแต่ๆละครั้งจะได้แค่จางลงไม่หายไปเลย สมมุติเป็นกระยิง IPL อาจต้องใช้เวลา ใช้การทำ 3 ครั้งขึ้นไป แต่หากใช้พวกเลเซอร์จำเพราะเจาะจงเช่น Q-Switch ก็จะเห็นว่ากระตื้น กระแดด หายไปในครั้งเดียว หรือรอยสิวถ้าใช้ IPL รักษารอยแดง อาจต้องใช้เวลา 3 เดือน แต่ VBEAM เลเซอร์ใช้ยิงหลอดเลือดแดงที่ขยายตัวจะเห็นผลเร็วภายใน 1 เดือน เปรียบเทียบกับการทายารอยสิวกว่าจะจางก็นานขึ้นไปอีก หรือปล่อยให้หายเอง อาจต้องรอยาวนานถึงครึ่งปีในบางคน

REVIEW

เอิ๊กเป็นรอยดำจากสิว นานมากไม่หายเลย หลุมด้วย แต่ต้องรักษาที่ละอย่างเอาที่ง่ายก่อน เลยเลือกรอยดำ รอยแดง รอยดำเลือก IPL รอยแดงเลือกVBEAM เอิ๊กไปยิงIPLที่เดิม ISKYCENTER เนื่องจากมีประวัติการรักษาด้วยเลเซอร์อยู่ที่นั่นแต่ คุณหมอรังสิมา แพทย์ที่ไปพบประจำไปให้วิชาการที่อื่น 🙂 เอิ๊กเลยไปพบคุณหมออีกคน ไปช่วงเช้าคนไข้คนอื่นยังไม่มา เลยขอสอบถามอย่างละเอียดและได้บทความนี้มาต้องขอขอบคุณ แพทย์หญิง วรทัย เตือนอารีย์ ที่ให้สัมภาษณ์ค่ะ 

ยิงด้วยเครื่องนี้ อลังมาก ราคา ครึ่งหน้า 2500 บาท เต็มหน้า 4000 บาท ซื้อเป็นคอร์สถูกกว่า 3 ครั้ง ครึ่งหน้า 4000 บาท เต็มหน้า 9600 บาท

ให้ดูผล VBEAM ก่อน จริงๆแผลสด สิวเพิ่งอักเสบ ยิง 3 วันหายเลย 555 คุณหมอวรทัย รู้สึกจะใช้ความแรงเลเซอร์เยอะกว่าที่เคยทำ สังเกตุจากเสียง เลยหายเร็วมาก

หน้าผากรอยยังอยู่จางๆ แต่ดูใสขึ้น

ช่วงแก้มดูใสขึ้น วันแรก กิ๊งเลยละ ที่รูขุมขนกว้างเพราะนอนเช้าทุกวัน 55555555

หลังทำ เพราะเลเซอร์ด้วย IPL ด้วย คันๆหน่อยๆ เลยใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100% ชโลมกันแห้ง ผิวเลยดูมันๆ และทากันแดดตลอด อาจจะทำต่อหรือไม่ทำต่อค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้ดูเรื่องทำเป็นคอร์สไว้ แต่ตอนนี้มันดีจนพอใจแล้วค่ะ ตอนนี้เริ่มกังวลเรื่องหลุมที่หน้าผาก 3 หลุม ที่แก้มก็มี เกิดจากเล็บช่วนตอนเกิด 55 แม่ไม่ตัดเล็บให้ข้าเจ้า

ขอจบเรื่องเลเซอร์หน้าใสแค่เพียงเท่านี้ ว่าความจริงมันเป็นยังไง หวังว่าคงได้ประโยชน์กันนะคะ

XOXO

ที่มาของรูปภาพ

iskycenter.com

webmd.com

bestofbothworldsaz.com

http://the-coveted.com/blog/2008/10/14/zap-zits-with-light-therapy/

http://www.alibaba.com/product-gs/377432190/Vertical_IPL_intense_pulsed_light_laser.html

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (4)

เคล็ดลับชะลอวัยหน้าเด็กกว่าวัย : Tips For Keeping Skin Young And Healthy Looking

ภาพนี้ถ่ายเมื่อ 14 มกรา 2555 อายุ 24 ปี 6 เดือน 14 วัน

ใครๆก็คงอยากให้ตัวเองดูอ่อนกว่าอายุที่เป็นจริงเสมอ หรือมีใครอยากดูอายุมากกว่าความเป็นจริงบ้าง ?

คงไม่มีหรอก ตัวเอิ๊กเองก็ไม่อยากรับความจริงเรื่องวัฎจักรสังขารของชีวิตมนุษย์เท่าไหร่นัก .. แต่เราต้องรับมันให้ได้ และมีความสุขที่จะรับมันด้วย .. เพียงแต่หากเรามีวิธี แนวทาง ที่เมื่อปฏิบัติตาม แล้วจะทำให้เรามีผิวที่มีสุขภาพดี ยืดหยุ่น ไม่โทรม เราก็จะดูเด็กกว่าอายุก็เป็นได้ บางคนเกิดมาโชคดี ผิวพรรณ ขาวใส ละเอียด ใบหน้าอ่อนเยาว์อยู่แล้ว บางคนต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าคนโชคดีเหล่านั้น วันนี้เอิ๊กขอนำเรื่องราวดีดี จากแพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลศิริราช ผศ.พญ. รังสิมา มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้นำไปปฎิบัติตาม หลายข้อเอิ๊กทำอยู่ หลายข้อละเลย แต่ตอนนี้ด้วยวัยจะเบญจเพสแล้ว ต้องชะลอไว้ก่อน เพื่อที่ 30 40 ยังดูดี ดูเด็กกว่าวัยเนอะ เอาละไปอ่านกันดีกว่า ว่าคัมภีร์ ชะลอวัยของเรามีอะไรกันบ้าง

เอิ๊กจะสอดแทรกความรู้ที่เอิ๊กได้รับฟังวิชาการขนาดย่อมของ อจ ผศ.พญ.รังสิมา ลงไปด้วยนะคะ เนื่องจากข้อจำกัดของ ทวิตเตอร์คือ 140 ตัวอักษร เอิ๊กขออนุญาติเสริมความรู้อันน้อยนิดของตัวเองเข้าไป

ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะหยุดเวลาและอายุของคนเราได้ แต่ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างดี ดูแลผิวพรรณอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เราดูอายุน้อยกว่าวัยจริงได้

  1. การดูแลผิวเพื่อดูอ่อนวัยทำได้โดยการทา moisturizer และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผิวที่มีอายุคือผิวที่ขาดความชุ่มชื้นและมีจุดด่างดำ การทา moisturizer จะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น ลดการแห้งกร้าน และหมองคล้ำ ควรเลือกใช้ moisturizer ที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเองและตามวัย – Erk-Erk Says : ต้องเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวจริงๆ คือต้องเรียนรู้ว่าผิวตัวเองเป็นแบบไหนก่อนอันดับแรก และใช้ให้ตรงกับสภาพผิว ปัญหาผิว แค่นั้นคุณจะพบว่าผิวจะดูอิ่ม เต่ง รูขุมขนดูละเอียดขึ้น ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้นจริงๆ ประสบการณ์ตรงเลยค่ะข้อนี้
  2. การทาครีมกันแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF>30 และค่า PA+++ ซึ่งป้องกันได้ทั้ง UVB และ UVA เพราะแสงแดดจะทำให้เกิดจุดด่างดำและริ้วรอย – Erk-Erk Says : การทากันแดดที่ดีควรทาประมาณ 1 ช้อนชาขึ้นไป ซึ่งมันจะเหนียว และ SPF มีค่าสูงแสดงว่าชั่วโมงป้องกันก็สูงขึ้นตามค่า SPF ในเมื่อเราไม่ชอบอะไรเหนียวๆ เราจึงต้องเลือก SPF สูงๆ เพราะเราจะทาแค่พอบางๆเท่านั้นละ บางคนทาไม่ถึง 1 ช้อนชาหรอก ดังนั้นเพื่อให้การทากันแดด อยู่ทนยาวนานได้ดีทั้งวัน และ สามารถกันแดดจากรังสี UVB ที่ทำให้ผิวเราไหม้ คล้ำ UVA ที่ทำให้ผิวเราเหี่ยวได้จริงๆ
  3. เมื่อเริ่มมีริ้วรอยหรือความหมองคล้ำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือกรดวิตะมินเอ จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดริ้วรอยตื้น ๆได้ – Erk-Erk Says : และการเลือกใช้กรดวิตามิน A สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย แห้งมาก ควรต้องระมัดระวังในการใช้ รวมถึงศึกษาข้อมูลให้ละเอียดเนื่องจากข้อดีของการใช้ AHA หรือ กรดวิมิน A ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือหมองคล้ำให้หลุดออก เพราะเมื่อเราอายุมาก วงจรการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเราจะทิ้งช่วงนานขึ้นจาก 1 เดือน อาจจะนานกว่านั้น จึงต้องควรดูแลข้อนี้อยู่เสมอ และการผลัดผิว มีผลทำให้ผิวอาจแห้ง แดง และอาจจะระคายเคืองได้ง่าย ควรทาครีมบำรุงที่มีความชุ่มชื่นสูง และ ทากันแดด อย่างสม่ำเสมอ
  4. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ คนนอนดึก จะทำให้ผิวหนังอิดโรย หมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย – Erk-Erk Says : การนอนดึกนอกจากทำให้ร่างกายมีอนุมูลอิสระทำให้เซลล์เสื่อสภาพเร็วด้วยแล้ว ยังทำให้หิวบ่อย ทานได้มากขึ้น จึงทำให้อ้วนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังมีผลในเรื่องของสมองช้า เบลอ ความจำถดถอย สรุปคือนอนดึกไม่ดีจริงๆค่ะ (ข้อนี้เลิกยากมาก 55)
  5. ไม่ควรนอนตะแคงซุกหน้ากับหมอนหรือนอนก่ายหน้าผากจนทำให้เกิดรอยบนหน้า ถ้านอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ ร่องแก้มข้างนั้นจะลึกกว่าอีกข้าง – Erk-Erk Says : ประสบการณ์ตรงคือร่องแก้มอีกข้างที่ชอบนอนตะแคง ลึก และ เยอะกว่าอีกข้างมาก 55 และนอนตะแคงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนไวได้จริงๆค่ะ
  6. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่เน้นผักผลไม้ที่มีวิตะมินซี เอ และอี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรง และปกป้องผิวจากมลภาวะสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ – Erk-Erk Says : บางครั้งเราอาจไม่สามารถทานอาหารได้ครบ 5 หมู่โดยเฉพาะคนที่ชอบทานข้าวนอกบ้าน ทานไม่ตรงเวลา ทานอาหารกล่อง7-11 อาหารเสริทเป็นอีก 1 ทานเลือก แต่นั่นหมายถึง การทำงานของตับจะหนักขึ้น และเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ถ้ามีเวลา หันมาใส่ใจกับมืออาหารแต่ละมื้อซักนิด ทานผัก กากใย และน้ำเปล่าเยอะๆค่ะ
  7. ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เบคอน เนย เพราะการเผาผลาญอาหารกลุ่มนี้ทำให้มีอนุมูลอิสระสูงทำลายผิว – Erk-Erk Says : อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ยังหมักหมมค้างในลำไส้ ยิ่งสัตว์ใหญ่ยิ่งย่อยยาก ทำให้ผิวพรรณไม่สดใส หมองๆ ขับถ่ายมีกลิ่นแรง
  8. งดอาหารหวานจัด หรือมีน้ำตาลสูง น้ำอัดลม เนื่องจากมีผลต่อการสร้างคอลลาเจนของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหย่อนยาน ไม่ตึงกระชับ – Erk-Erk Says : น้ำตาลนี่มันร้ายจริงๆ 55 มันทำให้ผิวอักเสบจนเป็นสิวได้ด้วย ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ จึงแก่เร็ว
  9. เครื่องดื่มทีมีคาเฟอีน จะทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น ถ้าติดกาแฟจนเลิกไม่ได้ หลังดื่มกาแฟอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปด้วย ผิวจะไม่ขาดน้ำ – Erk-Erk Says : การดื่มกาแฟดำไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอฟฟี่เมต ช่วยเรื่องสุขภาพเร่งอัตราการเผาผลาญไขมันได้ และทำให้ฟันเหลืองได้เช่นกัน นอนไม่หลับ บางคนใจสั่น
  10. เครื่องดื่่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้ผิวขาดน้ำ ไม่สดใสเปล่งปลั่ง และเหี่ยวย่นก่อนวัยได้เช่นกัน ควรงดดื่มอย่างเด็ดขาด และงดสูบบุหรี่ด้วย – Erk-Erk Says : ข้อนี้ทำให้แก่กว่าวัยได้มากๆเลยค่ะ ผิวแห้งกร้าน เหี่ยว ริ้วรอยเป็นร่องๆ ความยืดหยุ่นผิว อิลาสตินถูกทำลาย คอลลาเจนถูกทำลาย ทำให้ผิวไม่แข็งแรง
  11. ใช้ชีวิตอย่างสมดุล นอนพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหาร 5 หมู่ ออกกำลังกาย อย่าเครียดหรือหักโหมกับงานมากเกินไป อยู่กับครอบครัวหรือคนที่เรารัก – Erk-Erk Says : ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อชีวิตได้จัดสรรแบ่งเวลาทุกด้านอย่างสมดุล จะทำให้ชีวิตรู้สึกเติมเต็ม มีความสุข อารมณ์สดใส ร่างกายแข็งแรง
  12. มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจให้แจ่มใส รู้จักเป็นผู้ให้และมีความสุขกับการให้ จะทำให้เราเป็นคนสวยจากภายในซึ่งสำคัญกว่าการสวยหรือดูดีจากภายนอก – Erk-Erk Says : การมองโลกในแง่ดีทำให้สมองส่งคลื่นความถี่สูงออกไป ดึงดูดให้เราพบแต่เรื่องที่ดี โชคดีตลอดวัน และทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ ประสบการณ์ตรงอีกเช่นกันค่
  13. เคล็ดลับหน้าเด็กที่สำคัญที่สุดคือ เลิกกังวลกับอายุ(และน้ำหนัก) ความกังวลหรือย้ำคิดย้ำทำจะทำให้เราแก่ขึ้นมาจริงๆมีความสุขกับตัวเองดีกว่า – Erk-Erk Says : เพราะการกังวลเป็นบ่อเกิดแห่งความย้ำคิดย้ำทำ รู้สึกผิว หดหู่ โทษตัวเอง ทำให้เราจมปลักกับเรื่องเดิมๆ ชีวิตก็จะเหมือนหยุดนิ่ง ชีวิตทางด้านอื่นจะติดขัดมีปัญหาเนื่องจากหัวสมองคิดอยู่เรื่องเดียว และเป็นบ่อเกิดแห่งโรคอื่นๆตามมา เช่น บูลิเมีย
  14. ส่วนตัวขอเพิ่มอีก2ข้อ คือ การรักษาความสะอาดของผิว จากสารกันแดด เครื่องสำอาง มลภาวะภายนอกเวลาเราไปไหน ผิวที่ไม่สะอาดมีสิ่งตกค้าง จะทำให้ผิวไม่สดใส มีสิว มีปัญหาผิว หมองตามมา
  15. การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย บางครั้งด้วยเวลาการทำงานทีบีบรัด ให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง หรือรู้ตัวเมื่อสายริ้วรอยก็มาเยือน การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น การทำเลเซอร์ การยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นความถี่วิทยุ การฉีดสารเติมเต็ม การฝังเข็ม ฯลฯ หลายหลายวิธีอีกมากมาย ที่ช่วยชะลอวัยให้กับเราได้ เพียงแต่ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ผลดี ผลเสีย ผลข้างเคียงให้ดีดีค่ะ

นี่เป็น 15 วิธี ถ้าใครทำได้ 14 ข้อแรก แน่นอนผิวพรรณจะดูอ่อนกว่าอายุแน่ๆ

ทั้ง 15 ข้อนี้ เอิ๊กก็ทำได้หลายข้อนะ และเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าว่าจะใช้วิธีไหนชะลอวัยด้วยอีกเช่นกัน เผื่อวันไหนเราอาจละเลยไป แต่คิดว่ายาก 555555555 เอามาฝากทุกคน ตั้งแต่ต้นปี ให้เตรียมรับมือกับกาลเวลาที่ผ่านไป และ ยื้อวัยที่สดใสของเราไว้ให้นานที่สุดเท่าที่เราทำได้ แต่ไม่ถึงขนาดเสพย์ติดนะ ยังไง 14 ข้อเป็น วิธีที่แนะนำ ธรรมชาติ ฟรี ประหยัด หากใครไม่ไหว ก็พึ่งข้อ 15 ไป ฮ่าๆ

อาทิตย์หน้าพบกับเรื่องราวของ เลเซอร์หน้าใส ที่ใครหลายคนก็เรียก และเอิ๊กเพิ่งได้ทำความรู้จักมา และ ไปทำมาแล้วด้วย 555555555 แล้วพบกันค่ะ

NO RETOUCH NO PHOTOSHOP

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (3)

TALK ABOUT ” กระ ” (FRECKLE) จุดสีน้ำตาลด่างๆบนใบหน้าที่จะมาเวลาโดนแดด

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้มาทำความเข้าใจผิวหนังที่เป็นกระกันหน่อย เอิ๊กเป็นคนนึงที่ประสบกับปัญหากระกรรมพันธุ์ และ เคยผ่านวิธีการรักษาขั้นเบสิคอย่างการใช้กรด TCA แต้มมาแล้ว ปัจจุบันมีอยู่ แต่ยังไม่คิดจะทำอะไรกับมันเนื่องจาก มันยังเป็นสีจางๆ ไม่เห็นชัดมาก แต่งหน้าเสร็จก็มองไม่เห็นแล้ว เพราะกลัวตอนเป็นสะเก็ดด้วยมันใช้เวลารอคอยเป็นอาทิตย์ กว่าสะเก็ดๆดำ จากการที่เราจี้กระจะออกไปหมด

คลิก2รอบขยายได้จะได้เห็นเม็ดสีน้ำตาลที่ใบหน้าเอิ๊กด้วย

กระ (Freckle) คือ ความผิดปกติของเม็ดสีผิว ที่เซลล์สร้างเม็ดสี สร้างเม็ดสีมากขึ้นผิดปกติเวลาที่ผิวหนังโดนแสงแดด มีลักษณะเป็นจุดๆ สีน้ำตาล น้ำตาลเทาๆน้ำตาลม่วงๆ หรือเป็นสีดำ ขึ้นกับประเภทของกระ มีทั้งอ่อนและเข้ม มีขนาดตั้งแต่เส้นรอบวง 1 มิลลิเมตร จนถึง 1 เซนติเมตร เกิดขึ้นตาม โหนกแก้ม สันจมูก ทั่วใบหน้า หลัง แขน หรือ บริเวณลำตัว อาจค่อยๆเกิดที่ละจุด หรือเกิดพร้อมกันจำนวนมากก็ได้ กระจะมีสีเข้มและมีจำนวนมากขึ้นได้ในฤดูร้อนที่มีแดดแรง และจะจางลงในฤดูหนาว ต่างกับฝ้า ตรงที่ฝ้ามีลักษณะเป็นปื้น และขนาดใหญ่กว่า

 

กระมีทั้งหมด 4 ประเภท และ 2 แบบ

  • แบบที่ 1 กระที่เกิดตั้งแต่เด็กมักเป็นจากกรรมพันธุ์โดยเฉพาะคนผิวขาว เวลาโดนแสงแล้วจะมีจุดๆๆขึ้นที่ผิวหนัง
  • แบบที่ 2 กระที่เกิดตอนโต ตอนเข้าสู่วัยมีอายุ กระตอนโตจะสามารถมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อยๆ
  • ดังนั้นการเกิดกระที่ผิวหนังจะอยู่ที่ 1. กรรมพันธุ์ 2. การปกป้องผิวหนังจากรังสี UV ไม่เพียงพอ

สาเหตุสำคัญ คือ แสงแดด

 

กระ แบ่งเป็น 4 ประเภท

  • กระตื้น หน้าตาจะเป็นจุด สีน้ำตาลเล็กๆ ประมาณ 0.5 มิลลิเมตร กระจายได้ทั่วใบหน้า ถ้าโดนแดดสีจะเข้มขึ้น ถ้าไม่โดนแดดนานๆ สีจะจางลงได้เอง
  • กระลึก หน้าตาจะเป็นจุด สีน้ำตาลเทาๆ ชอบขึ้นบริเวณโหนกแก้ม
  • กระเนื้อ หน้าตาจะเป็นก้อนเนื้อนูนออกมาเป็นตุ่ม สีน้ำตาล หรือ สีดำ อาจจะเป็นผิวเรียบหรือขรุขระก็ได้ กระเนื้อบางครั้งหน้าตาคล้ายหูด มักพบที่ใบหน้า คอ หรือลำตัวก็ได้ มักเกิดขึ้นในได้ตั้งแต่ อายุ 30-40 ปีขึ้นไปจนถึงสูงอายุ

  • กระแดด ลักษณะเป็นดวง สีน้ำตาล ผิวเรียบ ส่วนใหญ่พบในคนสูงอายุหรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน

ตอนนี้ส่องกระจกเอิ๊กหน้าจะเป็นกระตื้น ปนกระแดดตอนเด็กที่โดนแดดจัด ตอนนี้จางไปเยอะเพราะได้รู้จักกันครีมกันแดดนี้ละ

 

วิธีการรักษากระที่ปลอดภัยขึ้นกับประเภทของกระ

ส่วนใหญ่กระและฝ้าจะเหมือนกันตรงที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ถาวร เพราะหากโดนแสงแดดอีกก็จะสามารถกลับมาเป็นได้อีกครั้ง

  1. กระตื้น วิธีรักษา ใช้ยาทา / แต้มด้วยกรดTCA / เลเซอร์
  2. กระลึก วิธีรักษา เลเซอร์
  3. กระเนื้อ วิธีรักษา ใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า / เลเซอร์ /
  4. กระแดด วิธีรักษา เลเซอร์

การรักษาด้วยการแต้มกรดTCA / เครื่องจี้ไฟฟ้า /เลเซอร์ จะทำให้เกิดสะเก็ด ซึ่งจะหลุดเองภายใน 7-14 วัน แล้วจึงหลุดไป ห้ามแกะสะเก็ดโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้

ข้อดี – ช้อเสียของการใช้ยาทา 

  • ไม่มีแผล / ใช้ระยะเวลาพอสมควร และ อาจจางไปไม่หมด

ข้อดี – ข้อเสียของการแต้มด้วยกรดTCA

  • ราคาถูกมาก / เหมาะกับกระเนื้อขนาดเล็ก / ด้วยความที่เป็นกรดมีฤทธิ์ในการลอกผิวปวดแสบปวดร้อนได้ต้องระวังอย่างมาก ขณะแต้มจะรู้สึกเจ็บจี๊ด กระบางจุดต้องทำหลายครั้งถึงหาย / บางครั้งเกิดแผลเป็นได้

 ข้อดี – ข้อเสียของการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า

  • ราคาถูกกว่าเลเซอร์ / ต้องทายาชา / มีแผลที่เป็นหลุมตื้นหลังทำและจะหายไปเอง

 ข้อดี – ข้อเสียของการใช้เลเซอร์

  • สะดวก เร็ว ไม่เจ็บ / เห็นผลชัดเจน กระบางชนิดทำครั้งเดียวจบ / ราคาสูงหลักพันขึ้นไป / กระบางชนิดมีผลข้างเคียงอาจจะเกิดเป็นรอยด่างขาวก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีผิวปกติ

 

การดูแลตัวเองหลังรักษากระ

  • ทำตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
  • ห้ามโดดแดด
  • ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวันที่ออกนอกบ้าน
  • อย่าแกะสะเก็ดแผลที่เกิดจากการรักษา จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
วันนี้นำภาพการยิงเลเซอร์กระลึกมาฝากก่อนไป เนื่องจากวันนั้นไป ISKYCENTER ไปทำครีมบำรุง เลยคุยกับคุณหมอเรื่องกระตัวเอง คุณหมอเลยบอกว่าท่านยุ่งมาก อาจไม่มีเวลามาคุย แต่มีเวลาพาไปดูคนไข้ที่นัดไว้มารักษากระลึก คนไข้คุณหมอก็น่ารัก พอคุณหมอบอกว่าเราเป็นนักเขียนบล็อคก็ยอมให้เราเก็บภาพเราเลยได้ภาพวิธีการใช้เลเซอร์รักษากระมาให้ดูกันพอหอมปากหอมคอ ต้องขอขอบพระคุณพี่เค้ามากค่ะ ไม่รู้ว่าชื่ออะไร แต่ผิวใสมาก ถ้าไม่มีกระลึกที่สีเข้มที่ผิวนะ HOT แน่แน่ เค้ากำลังจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ เลยมารักษากระลึกให้เสร็จก่อน แต่กระลึกต้องทำ 3 ครั้งขึ้นไป เพราะมันอยู่ลึกหน่ะสิ !
ไม่ได้รู้จักกันมันก่อน แต่พี่เค้ายอมยกมือถือให้เราดูภาพกระก่อน และ หลังทำเสร็จครั้งแรกให้ดู ผิวใสแต่พอมีกระลึกรวมตัวแล้วทำให้ดูเหมือนฝ้าจางๆ ทำให้หน้าดูไม่ใส แบบนี้เป็นเอิ๊กๆคงต้องไปเอาออกด่วน ดีเราเป็นกระตื้น + แดด ไม่โดนแดดมันก็จาง

 เป็นการยิงเลเซอร์  Q-switched Nd: YAG ที่ลดทำลายเม็ดสีน้ำตาลออกไป รักษาครั้งที่ 2 เหมือนกระที่ใกล้จมูกหายโบ๋เบ๋ไปแล้ว เหลือแต่ข้างๆใบหน้า (มือคุณหมอจะขาวไปไหนคะ ? 555 )

เครื่องเลเซอร์คงไม่มีที่ไหนทำด้วยผู้ช่วยพยาบาลหรอกเนอะ ฝากไว้ให้ทุกคนรู้ว่าต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใบประกอบการพร้อมเท่านั้นนะคะ มันอันตราย คุณหมอก็จะตั้งค่าเครื่องให้เรียบร้อย หันมายิ้มน่ารักๆให้ลูกศิษย์ 1 ที (อิอิ อยากเป็นลูกศิษย์ค่ะ) และ ผู้ช่วยคุณหมอก็จะทำความสะอาดใบหน้าคนไข้

ในการยิงตัวนี้จะมีการเป่าลมแรงๆเข้าช่วยเพื่อลดอาการเจ็บ ถ้าจำไม่ผิดเคยทำลดรอยดำ มันจะเหมือนอะไรจิ้มๆที่ใบหน้าเร็วๆรัวๆ แต่เพราะแรงลมเย็นช่วยทำให้ลืมความเจ็บ กลายเป็นไม่ค่อยรู้สึกได้ (จะว่าไปเอิ๊กก็เลเซอร์มาเยอะเนอะ – -“) เดี๋ยวต้องไปถามคุณหมออีกที ว่ามันใช่ที่เราเคยทำหรือไม่ ถ่ายภาพได้เก่งมาก แสงวาบออกมาเลย

หลังยิงจะเหมือนเป็นสิวอักเสบเลยเมื่อมองไกลๆ ที่ทาคือวาสลีนกันน้ำเข้าแผล และช่วยให้หายเร็ว ไม่มีแผลเป็น หลังจากนั้นจะตกสะเก็ด อย่าพยายามโดนน้ำ หรือออกไปโดนแดด จะช่วยให้ไม่มีแผลแน่นอน สวยแน่แน่ (เคยทำมาแม้จะคนละแบบกับเลเซอร์ แต่ตกสะเก็ดเหมือนกัน) คือ ทำยังไงก็ได้ให้สะเก็ดมันหลุดเองอย่างธรรมชาติ

ก่อนไปโชว์กระให้เห็นอีกซักรอบ รูปนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว 55555

เรียนจบเดือนตุลาคม ทำงานเดือนพฤศจิกายน แววบ้างานตั้งแต่วัยรุ่น 🙂

อาทิตย์นี้เอิ๊กก็อ่านและมาสรุปเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายสไตล์เอิ๊กเองหวังว่าคงได้รับความรู้ใหม่ไปประดับกันว่าอย่า ” โดดแดด “

อาทิตย์หน้าเรื่องอะไรดี รูขุมขนกว้าง เอาม๊ะ เอาม๊ะ ???????

XOXO

 

 

 

 

 

แหล่งที่มาข้อมูล

– http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=33

– Presentation นักเรียนแพทย์ผิวหนังของ ผศ.พญ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– คนไข้ ISKYCENTER

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (2)

OVERVIEW : การยกเครื่องหน้า กระชากวัย ด้วยการทำ THERMAGE

โชคดีที่วันนึงมีโอกาสได้ใกล้ชิดหมอผิวหนัง เริ่มจากจุดเริ่มต้นไปปรึกษาปัญหาสิวเมื่อหลายเดือนก่อน .. ข้อดีของการได้พบหมอผิวหนังที่เป็นอาจารย์ อาจารย์หมอเวลาจะมีคำถามอะไร จะได้คำตอบที่ต่อยอดไปยังเรื่องอื่นๆ ไม่หวงความรู้ ไม่กั๊กความรู้ อย่างผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา หรือคุณหมอเพ็ญ ที่เป็นทั้้งอาจารย์ และ หมอผิวหนังเลเซอร์ ประจำโรงพยาบาลศิริราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รักษาพระอาการประชวรของในหลวง และอีกท่านคือศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ ที่พร้อมจะตอบคำถามข้อสงสัยให้กับคนไข้ขี้สงสัยอย่างเอิ๊กเองอยู่ตลอดเวลา รวมถึงนักเรียนอีกมากมายของคุณหมอทั้งสอง แม้ขณะที่ยังไม่ได้เป็นคนไข้เลยก็ตาม ดังนั้นอย่าแปลกใจใน BANNER ด้านขวามือที่ติดให้กับ ISKYCENTER.COM ด้วยความสมัครใจ ไม่มีสิ่งตอบแทน แต่อยากจะทำ ตั้งแต่ที่รู้จัก และขอข้อมูลคุณหมอมาบรรยาให้ทุกคนได้อ่านในนี้ตั้งแต่วันแรก ศูนย์ผิวหนังและศัลยกรรมเลเซอร์นี้เกิดจากแรงบันดาลใจของบรรดาแพทย์เลเซอร์ผิวหนังที่เห็นตรงกัน อยากทำสถาบันเลเซอร์ที่มีมาตรฐานสากล ดูแลผิวหนังที่เริ่มต้นอย่างถูกวิธี เหมาะสม พร้อมกับคนไข้ต้องได้เรียนรู้กลับไป เลยอยากให้มีคนได้รู้สึกเหมือนกัน ว่าหนทางสว่างในชีวิตที่เกี่ยวกับผิวหนัง มันควรจะเกิดเพราะความรู้ ไม่ใช่แค่เพราะการรักษา คุณหมอจะคอยสอนเรื่องที่เราถาม เราอยากรู้ และ ทำให้เราพัฒนาตัวเองโดยการมองถึงสาเหตุของการเกิดมากกว่าปัญหาที่เป็น ไม่ได้ไปรักษานานแล้ว แต่นำคำสอนมาประยุกต์คือหาเหตุแล้วแก้ให้ตรงจุด ต่อให้เลเซอร์จะช่วยแก้ปัญหา ยังไงต้องมีการทายา และ การใช้ชีวิตก็สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด ..

 

เมื่อหลายเดือนก่อนไปรอคิวคุณหมอยิง VBEAM รักษารอยแดง คุณหมอมีคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของใบหน้า และต้องการปรับรูปหน้า มารักษาด้วยเครื่องยกกระชับเครื่องหน้าใหม่ให้ดูอ่อนเยาว์เรียกว่า THERMAGE โดยมีแพทย์ผิวหนังที่ผ่านการอบรมระยะสั้นจากศิริราชขอเข้าไปดูงานด้วย .. และเอิ๊กเองก็เป็นหนึ่งคนที่ได้รับอนุญาติจากคุณหมอเพ็ญให้สามารถติดตามเข้าไปดูได้ด้วยเช่นกัน เพราะคนไข้เป็นผู้ใหญ่ที่คุณหมอสนิทและเป็นกันเอง บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยความรู้ บวกความสนุก เคยได้ยินคุณหมอเล่าว่าห้อง THERMAGE เป็นเครื่องมือที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุที่แพงที่สุด สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับมนุษย์ได้ลดลง 2-5 ปีหรือมากกว่านั้น ขึ้นกับความหย่อนคล้อยของใบหน้า อายุที่จะเริ่มทำ ก็ขึ้นอยู่กับถ้าเริ่มริ้วรอย ผิวเริ่มหย่อนไม่ตึงอยู่เยอะก็คงเหมาะ แอบวาดฝันไว้อยากเก็บเงินทำให้แม่เหมือนกันค่ะ เหี่ยวเหลือเกิน ….. (ชีเล่นมาดูแลตัวเองตอน 50 กว่า สายไปไหม อย่าไปบอกแม่นะ ทุกวันนี้ก็ประเคนครีมบำรุงอยู่ ใช้แพงกว่าลูกอีก ฮาฮา)

 

เอิ๊กเข้าไปไม่ได้จดมานะคะ เพราะตั้งใจฟัง และ ตั้งใจชมการสาธิตการรักษาด้วยเครื่อง THERMAGE ให้กับผู้ใหญ่ท่านนี้อยู่ ยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ว่ามันจะยกยังไง ในจินตนาการคือ นึกว่าจะเหมือนเครื่องเตารีด แล้วนาบไปที่หน้าแล้วยกดึงขึ้นมาต้านแรงโน้มถ่วง ทุกอย่างผิดหมด ……….. ( ตั้งแต่เริ่มจินตนาการแล้ว )

หลังจากนี้จะเป็นข้อมูลที่อ่านมาจากหลายๆที่ และ สรุปเองตามใจฉัน 🙂

 

THERMAGE CONCEPT คือ “ กระชากวัยรักษาความหย่อนคล้อย และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด แค่ครั้งเดียว รวดเร็วไม่ถึงชั่วโมง กลับบ้านได้ ผลอยู่ยาว 2 ปี “ (คิดเอง :p)

คุณเคลลี่ทำที่คลินิคแห่งนึงไม่หน้าว่าหน้าแกเป๊ะมากค่ะ นึกว่าไปดึงไหนมา ที่แท้ THERMAGE

THERMAGE คืออะไร เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ที่ทำให้เกิดความร้อนส่งผ่านลึกไปยังชั้นหนังแท้ เพื่อทำให้คอลลาเจนที่มีอยู่กระชับตัว และช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วย ส่งผลให้ทั้งคอลลาเจนเก่าและคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนังที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เรียงตัว กระชับได้รูปขึ้น มีสุขภาพผิวดีขึ้น สุขภาพผิวแข็งแรง และผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดลง

(การยิง THERMAGE จะยิงเรียงตามตารางสเกลผิวหนังที่ละช่องๆ แล้ววนกลับมาซ้ำที่เดิมจนถึงจำนวนที่กำหนดไว้ จะมีการลอกลายบนผิวหนังก่อนยิง สำหรับแพทย์ที่ชำนาญการลอกลายก็ไม่จำเป็น จะมีเทคนิคการจัดวางได้เท่ากันอย่างมหัศจรรย์โดยไม่ต้องมีตารางสเกล)

THERMAGE ยกเครื่องส่วนไหนได้บ้าง เยอะมาก ตั้งแต่ ใบหน้า โดยเฉพาะคิ้ว ดวงตา แก้ม และคาง ลำคอ หน้าทอง แขน ขา มือ

( ต้องแปะแผ่น grounding pad เพื่อให้เครื่องสามารถปล่อยคลื่นความถี่วิทยุไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้ )

THERMAGE กับ ผลลัพธ์ที่่ได้ บริเวณที่ได้รับการรักษายกกระชับ เข้ารูปมากขึ้นทันทีหลังทำและค่อยๆดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลจะเห้นชัดตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหรือเร็วกว่านั้น

( หลังยิงรอบดวงตา หนังตาดูกระชับยกสูงฝั่งซ้าย เทียบกับฝั่งขวาที่ยังไม่ได้ยิง )

ใบหน้า ลำคอ – ได้สัดส่วน ได้หน้าเรียวขึ้น ผิวหน้าดีขึ้น เรียบเนียนขึ้น ตึงขึ้น อ่อนวัย เด็กลง หาแฟนง่ายกว่าเก่า (ล้อเล่น:p)

ตา – แก้ปัญหาหนังตาตก ห้อย รอยตีนกา ไม่เฟิร์ม รอยทีนกา ริ้วรอยตามวัยที่เราไม่อยากจะมี แก้ปัญหาเปลือกตาที่เริ่มจะไม่ตึง

แขน – ท้องแขนที่ไม่เรียบ ห้อย ก็จะเฟิร์ม ดึ๋งดั๋งมากขึ้น

มือ – มือที่มีริ้วรอยไม่เรียบ ก็จะตึงขึ้นจนคนเริ่มเดาอายุไม่ถูก

หน้าท้อง – หน้าท้องที่หย่อนคล้อย โดยเฉพาะหลังจากการคลอดบุตร ก็กระชับขึ้น

ขา – โดยเฉพาะส่วนเขา เรียบเนียน ตึงขึ้น

 

THERMAGE กับ EFFECT หลังทำ บวมแดงที่ผิวซึ่งจะหายไปภายใน 2-3 ชม. ไม่มีบาดแผล รักษาครั้งเดียว กลับบ้านได้ รอดูผลเดือนที่ 3 เป็นต้นไป บางคนอาจช้าหรือเร็วขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายของเราด้วยนะคะว่าจะสามารถสร้างคอลลาเจนใหม่ และเรียงตัวคอลลาเจนเก่าได้เร็วแค่ไหน และผลลัพธ์อยู่ยาวถึง 24 เดือน หรือ 2 ปี

( รูปของคนไข้ที่ ISKY อันนี้ขออนุญาตเก็บภาพมาค่ะเป็นบุุคคลมีชื่อเสียงเลยไม่ขอเอาลงทั้งหน้า แต่จะให้สังเกตุด้านซ้ายทำแดงบวม รูขุมขนพองขยาย แต่ร่องแก้มถูกยกขึ้นสูงกว่าด้านขวาแล้วเล็กน้อย ภาพนี้หลังทำทันที ถ่ายเลย )

THERMAGE กับความปลอดภัย FDA อเมริกา และ ไทยแลนด์บ้านเรา วางใจได้ เครื่องนึงแพงมาก ราคาหลายล้าน

(หัวTips ที่ใช้ยิง ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง คนต่อคน ก็ต้องแยกเฉพาะเจาะจง ใครจะยิงกี่ Tips กี่ Shot ต้องตามดุลยพินิจแพทย์ และตามความคล้อยของบริเวณที่ทำด้วยค่ะ จะยิงเป็น SHOT ไปหลายร้อยครั้งภายใน 1 ชั่วโมง หัว Tips ที่ใช้ยิงก็จะมีหลายขนาดเช่นกัน )

 

THERMAGE กับ ความเจ็บตอนทำ เท่าที่เห็นมาคือ มีการปรับระดับความอุ่นที่คนไข้ทนไหว ยิ่งร้อนยิ่งดี เป็นสัญญาณว่าใต้ผิวหนังเราตอบสนองแล้วนะและความร้อนเหล่านี้จะส่งผ่านลึกไปใต้ชั้นผิว เพื่อเสริมสร้างคอลลาเจนให้ดึ๋งดั๋ง กระชับ จะอุ่นแบบคนไข้ทนไหวและจะสลับกับเจลเย็นทุกครั้งที่มีการยิงลงไป โดยที่คุณหมอจะถามว่าร้อนไปไหมคะตลอดเวลาที่ทำ จะเป็นการยิงทีละครั้ง แต่ละครั้งแช่ไว้ 1 วิ ยิงตั้งแต่ 300 – 900 ครั้ง หรือมากกว่าขึ้นกับบริเวณที่จะทำ

 

ข้อดี

  • ตึงอย่างเห็นได้ชัดทั่วหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
  • มีความเป็นธรรมชาติของใบหน้ามากกว่าการผ่าตัดยกดึงจนใบหน้าดูแปลกไป คือ ตึงขึ้นเป็นธรรมชาติ
  • ทำครั้งเดียว เห็นผลยาว 2 ปี
  • แต่งหน้าได้เลยหลังทำ
  • ไม่ทำให้หน้าบางลง
  • ทำได้หลายส่วนในร่างกาย

ข้อเสีย

  • แพงเหมือนกันราคาหมื่นปลาย ถึง หลักแสนปลาย แต่ถ้าเฉลี่ยเป็นเดือนพอรับไหว และเป็นตัวเลือกน่าสนใจ
  • ต้องให้หมอที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ทำเท่านั้น

ทางเลือกอื่นในการยกเครื่องหน้าใหม่

  • มันยังมีตัวเลือกอื่นๆอีกซึ่งต้องศึกษาให้ละเอียด ตั้งแต่เจ้าพวก Ulthera ร้อยทอง

คำแนะนำจากคุณหมอ

– การได้ผลขึ้นกับ 4 องค์ประกอบ ประสิทธิภาพของเครื่องTHERMAGE + ระดับคลื่นความถี่ที่ยิงลงไป + ช็อตในการยิงกี่ครั้ง + การตอบสนองของคนไข้

– หัวทิวป์ในการยิง ใช้ครั้งเดียว ไม่ใช้ซ้ำ ของใครของมัน และต้องเหมาะสมกับพื้นที่บริเวณที่จะทำ

 

ถามว่าวันนี้อายุ 20 ต้นๆ ดีใจไหมที่รู้เร็ว ดีใจเพราะจะได้เก็บเงินรอเลย คนเรามันก็ร่วงโรยไปตามสังขารแต่คงไม่มีใครอยากจะดูสูงวัยเท่าไหร่ก็พยายามเท่าที่พยายามได้ ตอนนี้ก็รักษาสิวอยู่เล็กน้อย และ รอยดำแดงอีกพอสมควร เราจะได้พบกันใหม่เร็วๆนี้ กับเรื่องอะไรที่เอิ๊กคิดว่าเป็นประโยชน์จะนำมาเขียนเล่าอีกนะคะ

XOXO

แหล่งข้อมูล

– ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– คนไข้THERMAGEที่ ISKYCENTER

– SOLTA MEDICAL THERMAGE POWER POINT

– ภาพคุณเคลลี่จาก ดีเอ็นเอสกินคลินิค

 

 

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, THERMAGEComments (0)

REVIEW การฉีดสาร BOTULINUM TOXIN หน้าเรียว รอบ2

ตั้งแต่เล็กจนโตมา ยี่สืบกว่าปี ก็มีคนชื่นชมและวิจารณ์กับแก้มใหญ่ๆกลมๆของตัวเอง บางครั้งก็รู้สึกดี บางครั้งก็รู้สึกเซไปกับน้ำลายคนอื่นบ่อยครั้ง .. เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจิตวิทยาในการพูด อย่างเช่น คำว่า ” หน้าอืด หน้าบวม หน้าบาน แก้มใหญ่ แก้มบวม ” …….. คนพูดสนุก แต่คนฟังไม่ได้รู้สึกด้วย เป็นความหลังที่ใส่ลิ้นชักไปแล้ว

เพราะเวลาโตขึ้น ความคิดของคนเราก็จะเปลี่ยนไป

ใจเย็นลง คิดเยอะขึ้น รู้ว่าอะไรควรใส่ใจ อะไรควรปล่อยวาง 🙂

สมัยก่อนรู้จักคำว่าศัลยกรรม ก็คืออะไรที่เกี่ยวกับ มีด การเย็บ การผ่าตัด อะไรที่น่ากลัว อะไรที่ต้องใช้เงินมากมาย เด็กอยู่จึงรู้สึกว่ามันห่างไกลมาก

 

 

สมัยนี้ต้องยอมรับว่ามนุษย์มีความสามารถที่น่าทึ่งหลายอย่างในการสร้างเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น เร็วขึ้น สบายขึ้น จ่ายน้อยลง เห็นผลเร็วขึ้น ที่สำคัญเทคโนโลยีการแพทย์ทำให้คนเราเจ็บตัวน้อยลง แผลเล็กลง พักฟื้นไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถกลับบ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คนเราควรเรียนรู้ไปพร้อมๆกับมันก็คือ ” การศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนที่จะทำอะไรลงไป ” โดยเฉพาะในโลกยุคที่ไม่มีพรมแดนในการหาความรู้ ในเรื่องที่มันอยากเกินตัวเอง ก็อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าเชื่อใครจนหมดใจ จนกว่าจะได้รู้ข้อมูลมามากพอนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีในเรื่องการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

 

สำหรับวันนี้ในการ REVIEW ก็เป็นเรื่องที่เอิ๊กไม่คุ้นเคย ไม่ถนัด และไกลตัวมาก อย่างการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN ซึ่งจริงๆมันก็คือสิ่งแปลกปลอมเข้าภายในอวัยวะของร่างกายตนเอง ก่อนที่เอิ๊กจะตัดสินใจฉีด อาจจะหาข้อมูลมาได้เพียงด้านเดียวคือ BOTULINUM TOXIN TYPE A เอาไว้ทำอะไร สั้นๆมันก็คือ สารสกัดโปรตีนบริสุทธิ์จากเชื้อแบคทีเรีย ที่จะมีระยะเวลาสลายไปตามกาลเวลา ไม่ใช่ว่าจะไม่มีพิษเลยแต่เราต้องใช้ในปริมาณหลายร้อยขวดถึงจะเกิดอันตราย ในความเป็นจริงด้านความงามเราใช้ไม่เกิน 2 ขวดอย่างมาก 1 ขวดก็เสร็จสิ้นแล้ว กับการสร้างความมั่นใจให้กับใบหน้า ไม่ว่าจะลดริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์ ลดขนาดอวัยวะให้มันเล็กลง ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร

สิ่งสำคัญมากที่สุด อีกเรื่องคือการเลือกแพทย์ ดีนะที่มันเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ใช่เรื่องถาวรไม่งั้นคงต้องน้ำตาตกใน

 

วิธีการฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกร (หน้าเรียว) ก็คงแล้วแต่เทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน ส่วนมากก็จะฉีดบริเวณแนวขากรรไกร ซึ่งสารพวกนี้นับเป็น UNIT จะฉีดกี่ UNIT คุณหมอจะเป็นคนพิจารณาเอง การเลือกยี่ห้อสารชนิดนี้ก็แล้วแต่งบดุลในกระเป๋าตังค์เราด้วย เพราะยี่ห้อต่าง ราคาก็ต่าง ที่ฮิตในไทย คงมี 3 ยี่ห้อใหญ่ซึ่งผ่านอย.และอยู่มายาวนานตั้งแต่ 4 – 10 ปีขึ้นไป ได้แก่ BOTOX (USA) / DYSPORT (EUROPE) / NEURONOX (KOREA)

ก่อนฉีด

รอบแรกที่เอิ๊กฉีดเป็นของ BOTOX จำนวน 50 UNIT ผลที่ได้เห็นผลชัดภายใน 3 สัปดาห์ (ซึ่งจำนวนUNIT&การเห็นผลแต่ละคนต่างกันมากนะคะ)

หลังฉีด ผ่านมา 1 เดือนกว่า แก้มหายไปเลยทั้งที่ไม่ได้ไปทำอะไรกับแก้ม เป็นผลพลอยได้ที่ปรารถนามาก แต่มุมปากตกข้างนึง รอยยิ้มแปลก ดูแหย ทั้งที่ยิ้มปกติเลย รู้สึกขาดความมั่นใจไปหลายเดือนมาก

หลังฉีด ผ่านมา 5 เดือนกว่า ใบหน้าเริ่มกลับมาปกติสำหรับรอยยิ้ม แต่หน้าไม่ได้มีขนาดเท่าแต่แรก

 

จนกระทั่งครบ 6 เดือนเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่บอกว่า BOTULINUM TOXIN สลาย จึงไปจัดมาครั้งที่ 2 คราวนี้ได้คุณหมอที่หาข้อมูลมาอย่างดีฉีด คุณหมอแนะนำให้ใช้ของเกาหลี หรือ NEURONOX โดยให้เหตุผลในการฉีดว่ามีปัญหาเรื่องมุมปากตก ของเกาหลีจะมีขนาดโมเลกุลจะเล็กกว่า BOTOX (USA) การกระจายตัวน้อยกว่าจะได้ไม่ไปกระทบกับผลข้างเคียงเดิมคือมุมปากไม่เท่า และผลคือ ไม่มีผลกระทบใดเกิดขึ้นรอยยิ้มกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ

UNCOOL NEURONOX ที่พบซึ่งคุณหมอบอกว่าอาจจะเห็นผลช้าประมาณ 2 เดือน ตอนนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์กว่าไม่รู้สึกว่ามันเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเหมือนครั้งแรกเดี๋ยวครบ 2 เดือนจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะคะ

COOL ไม่ปวดเวลาเคี้ยวเนื้อแข็งๆ ของแข็ง ปกติเมื่อก่อนเมื่อยมากทรมานมาก บางครั้งหัวเราะมากๆก็เมื่อยขากรรไกร ตอนนี้ไม่เป็น มีความปกติสุข

ส่วนความหวังอยากให้มันเล็กลงเยอะๆ รอบนี้ลุยไป 60 UNIX แต่คุณหมอเก่งมาก ใบหน้าดูสมดุลสมส่วนมาก เทียบกับที่ผ่านมา รอบหน้าคงไม่เปลี่ยนแพทย์แล้วค่ะ ราคาไม่แน่ใจที่อื่นเป็นยังไง ที่นี่ 50 UNIT อยู่ที่ 8,000 บาท ของเอิ๊กก็เพิ่มเงินนิดหน่อย เอิ๊กฉีด โบท็อคและฟิลเลอร์ที่เดี่ยวกันนะคะ ฉีดที่ ISKY CENTER กับคุณหมอรังสิมา

 

การดูแลหลังการฉีด (หาข้อมูลมาจากบทความทางการแพทย์หลายๆเว็บไซด์)

1. ห้ามโดนความร้อน อบไอน้ำ

2. ห้ามทำเลเซอร์ นวดหน้า ขัดหน้า ทรีทเมนท์ภายใน 2 สัปดาห์แรก

3. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เพราะอาจสลายฤทธิ์ยา

4. ห้ามนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงหลังทำ

5.ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง เนื้อแข็งๆ (จะช่วยยืดระยะเวลาตัวยาออกไปให้อยู่นานขึ้น)

อาจมีอย่างอื่นอีกมั๊งไม่แน่ใจ แต่ตามนี้เราปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด 🙂

 

ขอให้ใบหน้าสวยใส จงเป็นของทุกคนค่ะ 😀 แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACEComments (20)

GET THE RIGHT START ! : ข้อมูลก่อนทำโบท็อกซ์ และ REVIEW การทำโบท็อกซ์หน้าเรียว 6 เดือน

การฉีด BOTULINUM TOXIN รอบ2 เพราะได้ระยะเวลา อีกนับนึงคือแก้ปัญหามุมปากตกข้างนึง แคบข้างนึง ได้ความรู้เยอะมาก ” ตั้งแต่ก่อนอื่นต้องเรียกอยากถูกต้องว่า BOTULINUM TOXIN ไม่ใช่ BOTOX เนื่องจากชื่อ BOTOX เป็นชื่อยี่ห้อของสาร BOTULINUM TOXIN ทางฝั่งอเมริกา เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารซีรอก (มาจากยี่ห้อฟูจิซีรอก) เป็นผลพลอยได้ทำให้ชื่อแบรนด์กลายเป็นคำเรียกติดปาก ถือว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จมาก  “

ตอนนี้เท่าที่รู้เมืองไทยผ่าน อย. มา 3 ประเทศ อเมริกา ยุโรป เกาหลี ดังนั้นศึกษาให้ดี และความเข้าใจผิดอีกอย่างคือ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ความจริงแล้ว การรู้เรื่องระบบกล้ามเนื้อสำคัญ เพราะมันแบ่งเป็นมัด และวางเรียงตัวแต่ละส่วนบนใบหน้าไม่เหมือนกัน แพทย์เท่านั้นใช้เทคนิคไหนฉีดแก้ปัญหาให้เรา และ ยี่ห้อมีส่วนในเรื่องของโมเลกุลการกระจายตัวด้วย ยิ่งกระจายตัวมาก โอกาสออกผลอาจจะเยอะ แต่ถ้าพลาดไปก็เป็นแบบเอิ๊กค่ะ ” คือมุมปากตก มุมปากแคบข้างนึง “

วันที่ 12 เมษายน 54 – ฉีดรอบแรก

วันที่ 10 ตุลาคม 54 – ฉีดรอบสอง (ยังรึวิวไม่ได้)

การเห็นผล – ใบหน้า และการตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกัน เอิ๊กมักจะเห็นผลตั้งแต่ 3 อาทิตย์เป็นต้นไป และยี่ห้อไม่แน่ใจว่าจะมีผลไหม ยังไงเดี๋ยวได้ทราบกันวันที่ 1 พย. นี้ถ้ายังไม่ได้ผล แสดงว่าใบหน้าเอิ๊กตอบสนองกับ BOTULINUM TOXIN ยี่ห้อที่ 2 ช้า รอบนี้ไปทำที่ ISKYCENTER ฉีดกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา โดยตรง วันเดียวกับที่ฉีด FILLER ราคาทั้ง 3 ยี่ห้อ แตกต่างกันไป เอิ๊กฉีดยี่ห้อที่เหมาะกับเอิ๊กซึ่งคุณหมอแนะนำมาในการแก้ปัญหามุมปากตกไม่ให้เกิดซ้ำอีก ทุกวันนี้ส่องกระจกทุกวัน ดูว่ารอยยิ้มตัวเองเปลี่ยนรึเปล่า สำหรับการฉีดแล้วเกิดปัญหาอะไร CLICK

เมื่อได้มีโอกาสไปฉีดกับระดับอาจารย์เลยขออนุญาตสัมภาษณ์เพิ่มเติมเป็นวิทยาทานให้กับตัวเองและคนอื่นที่สนใจเพิ่มเติมค่ะ สำหรับคลิปวีดีโอเกือบทุกชิ้นของเอิ๊ก อาจไม่สนุก แต่อัดแน่นไปด้วยความตั้งใจ และ พยายามให้คนที่ดูได้รับประโยชน์ในแต่ละครั้งค่ะ และครั้งนี้ก็เช่นกัน คิดคำถามเอง แม้คุณหมอเองมีเวลาน้อยมากเพราะไปธุระต่อ แต่คุณหมอก็ให้เวลาสัมภาษณ์ 30 นาที 2 เรื่องเลย FILLER และ BOTULINUM TOXIN

บทสัมภาษณ์ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

1.การฉีด BOTULINUM TOXIN ทราบว่าต้องรู้จักกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี อยากทราบว่าสาขาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเรียนยากไหมคะ ?

2. คุณหมอเริ่มฉีดโบทอกมานานแล้วรึยังคะ ?

3. BOTULINUM TOXIN คืออะไรทั้งแน่แง่สุขภาพและความงาม

4.ส่วนมากคนไข้ที่มาฉีดสาร BOTULINUM TOXIN เขามีปัญหาตรงจุดไหนกันเป็นส่วนใหญ่

5. BOTOX กับ FILLER ทำงานต่างกันยังไงคะ

6. ก่อนจะเริ่มฉีด BOTULINUM TOXINควรรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างคะ

7. BOTULINUM TOXIN ก่อให้เกิดผลข้างเคียงไหมระยะสั้นหรือยาวไหมคะ เพราะหนูเองมุมปากตกข้างนึง

8. ถ้าเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยฉีด BOTULINUM TOXIN แล้วผิดพลาด ใบหน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขไหมคะ

9. ทราบมาว่าโบทูลินัมทอกซินมีหลากหลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดีที่สุดคะ

10. มีอายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทำได้ค่ะ

11. อยากให้คุณหมอฝากคำแนะนำสำหรับคนที่สนใจเรื่องโบทอกซักนิดคะ

12. เคล็ดลับการดูแลผิวพรรณใบหน้าและลำตัวของคุณหมอ เพราะคุณหมอผิวสวย ออร่าประกาย เนียนมากทั้งที่ไม่เคยรับประทานกลูต้า สืบมาแล้ว


ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชาสำหรับข้อมูลอันเป็นประโยชน์เหล่านี้มากค่ะ

 

 

 

ก่อนไปจัดภาพนิ่งให้นิดนึง REVIEW การทำ BOTULINUM TOXIN รอบแรกที่ไม่ฉีดกับคุณหมอนะคะ พอใจมากที่สุดในแง่ใบหน้าเล็ก

 

 

ฉีดจริง

ก็ไม่ได้เอาแก้มออกนะคะ ยังมีอยู่ BABY FAT เราหวงอยู่แล้ว 🙂

 

 

 

XOXO

 

 

มีคำถามอะไรขอให้ทิ้งไว้ที่ FANPAGE นะคะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, FACE, REVIEWComments (1)

GET THE RIGHT START ! : REVIEW การฉีดฟิลเลอร์คาง และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำฟิลเลอร์

 

 

 

 

ย้อนไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนระหว่างนั่งดูคุณนกตีสิบกับรูปลักษณ์โฉมใหม่ที่เธอได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพียงเพราะโดนผู้ชายห่วยๆคนนึงทิ้งไปเพราะว่าเธอสวยน้อยกว่าผู้หญิงคนใหม่ .. หลังจากเห็นโฉมหน้าหลังศัลยกรรมยกเครื่องหน้าใหม่ ตัวเองเหมือนโดนสะกด หลังจากวันนั้นใช้เวลาทุกวันเป็นเวลาหลายอาทิตย์ในการเข้า เว็บสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมของไทยเรานี่ละ มีผู้คนมากมายมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุย แนะนำ และ เผยภาพก่อน – หลังการทำศัลยกรรม


ทุกวินาทีทำให้เราคิดเรื่องที่ไม่เคยคิด อยากในเรื่องที่เคยคิดว่าจะไม่ทำเพียงเพราะเวลาเราเห็นอะไรที่ดูดี เราก็อยากจะดูดีบ้าง ทั้งที่ตัวเองก็ควรจะภูมิใจที่มี 32 ประการครบ ทุกอย่างน่าจะพอดี ก่อนหน้านี้ 6 เดือน ก็โดนกระแสการทำโบทูลินัมทอกซินจากรุ่นพี่ใน Facebook คนนึงเป็นคนมีชื่อเสียง เธอเป็นคนที่สวย มีเสน่ห์ น่ารัก และเป็นคนมีแก้ม หลังจากเธอไปทำโบทูลินัมทอกซิน ลดขนาดกล้ามเนื้อแนวขากรรไกรมาก็กลับมา ” สวยโคตร ” ความรู้สึกโชคดีของผู้สาวแก้มใหญ่ก็มาถึงคือ ” อยากบ้าง อะไรบ้าง “


ตอนนั้นก็รู้สึกว่าโชคดีที่ตอนดัดฟันแล้วไม่ยอมถอนฟันเพียงเพราะให้ใบหน้าดูเรียวลงเนื่องจาก แอบคิดว่า พอถึงเวลาที่เราแก่ฟันเรามันก็ร่วงอยู่แล้ว ถ้าถอนเยอะไป แล้วตอนแก่จะเหลืออะไรให้หลอ จะเค้ียวข้าวลำบากไหม (คิดการณ์ไกลมาก) ก็ยอมหน้ากลมมา 23 ปี มามีประสบการณ์การทำ โบทูลินัม ทอกซิน ตอนอายุ 23 ปี 11 เดือน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฟิลเลอร์ คือ ขอท้าวความก่อนก้าวเข้าสู่สังเวียนการทำศัลยกรรมขนาดย่อม ?

โดยเริ่มจากการอยากมีใบหน้าที่เรียวยาว เนื่องด้วยเวลาถ่ายรูปอะไรก็แล้วแต่ที่มีตากล้อง จะโดนบังคับทำร้ายจิตใจ ให้ก้มหน้า แบนหน้าให้เอียงให้มากที่สุด ก้มแทบคางจะติดกับเหนียงที่คออยู่แล้ว .. เพราะเค้าบอกว่าเรา ” หน้าบาน “


เกลียดคำพวกนี้มาก ” หน้าบาน หน้ากลม หน้าอ้วน หน้าอืด “ คิดในใจ

(ทำไมอะไรกับตูนักหนาวะ)

เลยไปอัดโบทูลินัมทอกซินเข้าที่กล้ามเนื้อแนวขากรรไกร เนื่องด้วยอาชีพพนักงานเอกชน เงินเดือนน้อยนิด เนื่องด้วยความต้องการอยากดูแลแม่ให้ดี เลยยกเงินเดือนให้แม่ครึ่งนึง ดูแลค่าใช้จ่ายในบ้านเกือบทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำ เราก็เลยมองหาเรื่องราคาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยาต้องคุณภาพสุด ดีที่สุด เลยไปจบที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (ขอไม่บอกนะคะ เพราะเดี๋ยวเขาเสียหาย) ด้วยคำแนะนำจากพี่สาวที่เรารู้จักและนับถือ พี่เขาจะเป็นคนแนะนำสิ่งที่ดีให้เราตลอด


สรุปได้ราคาต่ำกว่าคลินิคปกติเกือบครึ่ง ” วิธีการคือไปถึง ไปนอนที่เตียงแล้วมีนร.แพทย์ยืนเรียงดูตอนเราฉีด (คือไม่ทราบมาก่อน) เราก็รีบนอน แล้วเขาผสมตัวยาเสร็จ แล้วนำหมึกมาจิ้ม ทำมาร์คไว้ก่อนว่าจะฉีดตรงไหน ประมาณ 5 จุด หลังจากนั้นก็ฉีดเข้าใบหน้าเรา 5 ครั้ง โดยไม่ได้มีการโปะยาชา (เพราะมันราคาถูกไงคะ) เรารู้สึกว่าปวดมาก เวลายามันวิ่งเข้ากล้ามเนื้อ เสร็จปุ๊บ คือให้ลงจากเตียงแล้วกลับบ้านได้ “


สรุปคือเรียวสมใจมาก แต่มันมีผลกระทบซึ่งสำหรับตัวเรารู้สึกโชคดีคือมันจะสลายแน่นอน 6 เดือน แต่ตอนนั้นต้องทนกับการมีรอยยิ้มที่ ” มุมปากตกไปข้างนึง “ มุมปากไม่เท่ากัน แก้มข้างนึงแคบ ข้างนึงปกติ เหตุเกิดเพราะมีคนทัก โดยส่วนตัวไม่รู้เลย

ก่อนทำเป็นคนที่รอยยิ้มมีความสมดุลอยู่แล้ว พอหลังทำสังเกตุมุมปาก และขอบร่องแก้มไม่เท่ากัน ชีวิตจริงเห็นชัดกว่านี้ เพื่อนทักมาคำนึง ” ทำไมยิ้มแปลกไป ” “ทำไมยิ้มเหมือนเสแสร้ง”

คือคนยิ้มเนี่ย งง ฉันยิ้มของฉันปกติ

ส่วนปัจจุบัน กลับมาจะครบ 100 % แล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าหน้าไม่ใหญ่เท่าตอนแรกก่อนฉีด


คือตอนแรกอาจจะพบว่าคางไม่ค่อยมี หน้าดูมีแก้มและผสมเหลี่ยมนิดๆพออินเทรนด์ แต่หลังโบทูลินั่มทอกซิน ค้นพบว่าตัวเองมีความสุขมากในการดำเนินชีวิต แม้ไม่ใช่ดารา หรือ บุคคลมีชื่อเสียง แต่ไม่ขอปฎิเสธว่าอยากเป็นคนที่ดูดีคนนึง ดังนั้นเพื่ออะไรก็ได้ที่ทำแล้วดูดีเข้ารูปขึ้นเราก็ยอม


มาเข้าเรื่องที่ฟิลเลอร์ เมื่อก่อนอาจจะหาข้อมูลมาน้อยว่าโบทูลินั่มทอกซิน ผลกระทบมันคืออะไร ของเราโดนในแง่ที่มุมปากข้างนึงตก ไม่ถึงกับปากเบี้ยว ดังนั้น สำหรับโบทูลินั่มทอกซิน ทำต่อไปเรื่อยๆแน่นอนค่ะ แต่คงไม่ใช่ที่เดิมแน่นอนค่ะ ตอนนี้จะเลือกเอกชนที่มีความเป็นส่วนตัวไม่ต้องไปนอนให้ใครเห็น ( อายมาก )


ฟิลเลอร์ก็มาอยากทำให้คางตัวเองดูยาวขึ้นเพราะเห็นคนอื่นทำ ทั้งที่พอหน้าเรียวแล้วก็จะดูมีคางเรียวยาวเอง แต่ก็อีกนั้นแหละ ดูทีวี เสพย์สื่อมากไป มากไปจริงๆ ถึงขนาดโทรไปถามที่ๆจะไปทำว่ามีบริการฉีดเสริมให้คางยาวไหมคะ พอเค้าบอกว่ามี ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเลย เราก็ยังนั่งอยู่ในโลกเว็บออนไลน์ทำศัลยกรรมต่อ ดูและพิจารณา ถามจิตถามใจ ” จะเอาไหม ? ” สรุปก็ไปจัดซัก 1 เข็มฉลองน้ำท่วม


ทีนี้มารู้จักก่อนว่าไอเจ้า ” ฟิลเลอร์ “ คืออะไร

” ฟิลเลอร์ หรือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด หรือ ไฮยารูรอน เป็นสารประกอบน้ำตาลเชิงซ้อนที่มาเรียงต่อกันเป็นสาย ในผิวเราหนังของคนเราตามธรรมชาติจะมีสารนี้อยู่เป็นปกติ ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวหนังอิ่มเอิบ อวบอิ่ม มีความยืดหยุ่น ”

(ที่มา : http://www.p10surgery.com/)

โอเครู้ประมาณนี้นะเดี๋ยวจะงง ยิ่งคนทำอ่านมากจะงงมาก เลยเอาพอดีดี แต่สิ่งที่กังวลคือผลกระทบ เดี๋ยวเหมือนน้องโบทูลินั่มทอกซินอีก

รอบนี้ถามคุณหมอเลยค่ะ ไม่รอแล้ว ถามตรงๆแบบขอความจริงจะได้ตัดสินใจถูก ตรงข้อมูลอันเป็นประโยชน์นี้ต้องกราบขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสิมา ที่ให้ข้อมูลในครั้งนี้เพื่อการเผยแพร่เป็นความรู้สำหรับที่อยากทราบข้อมูล หรือคนที่สนใจคิดจะทำ





หลังจากได้รู้ข้อมูลเสร็จจัดไปกับคางใหม่เดี๋ยวนั้นเลย หลังจากนอนไม่หลับเป็นเดือน เอาซะจะได้เลิกบ้า (ฮ่า ) รอบนี้จัดที่ ISKY และทำกับคุณหมอรังสิมานี่ละค่ะ เพราะพนักงานบอกว่าคุณหมอคนไข้มาฉีดเยอะมาก นึกในใจ ทำไมเราไม่เคยถาม ทั้งที่ไปให้คุณหมอยิงเลเซอร์บ่อย – – ” ฟิลเลอร์ราคาพอกับโบทอกเลย ราคาแล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่สถานที่ ที่เคยถามมาไม่ควรเกิน 15,000 บาท จะแพงมากไป ของที่นี่ก็มี 2 ราคา 2 ยี่ห้อ 11,000 กับ 14,000 บาท เรื่องยี่ห้อไม่ได้ศึกษา ศึกษาแต่หมอ และผลกระทบ เพราะกลัวมากกลัวเจอแบบโบทูลินั่ม รอบก่อน


ไปถึงก็มีพี่ๆพนักงานให้ไปทำความสะอาดใบหน้า ไม่เคยมาล้างหน้าที่นี่เลย เพราะทำเลเซอร์ไปแบบเปลือยสุดชีวิต คุณหมอเป็นลมทุกครั้ง ฮ่าๆ


ที่ล้างหน้ามีตั้งแต่สูตร แพ้ง่าย ผิวธรรมดา ผิวมัน ของเราต้องล้างขวดขาวใสโลด เชื่อไหมว่าเป็นโรคกลัวแพ้ แม้กับของหมอเองก็ระแวงก่อนอะไรที่ไม่เคยใช้ ใช้แต่น้อย แล้วล้างน้ำเยอะๆ 5555555555

ระหว่างรอคุณหมอ ก็ให้พี่เมย์สุดที่เลิฟ ถ่ายรูปให้หน่อยจะนำไปลงบลอค พี่ๆพนักงานก็มาทายาชา ตื่นเต้นมากไม่เคยโดน โดนซะ รอไป 1 ชั่วโมง หลับรอ 🙂

วันนี้จัดเต็มค่ะ ฟิลเลอร์คางยาว โบทูลินั่มทอกซินหน้าเรียว


คำแนะนำก่อนทำ คุณหมอไม่อยากให้ทำ อยากให้ทำอย่างเดียวก่อนคือ โบทูลินัมทอกซินเนื่องจากมันหมดฤทธิ์ของเก่าแล้วเลย 6 เดือนแล้วพอดี อยากให้รอดูผลแล้วค่อยเติมฟิลเลอร์ที่คางจะได้พอดี เพราะถ้าคางยาว แต่มันจะดูยาวกว่าเดิมอีกถ้าเกิดหน้าเรียวเข้าที่แล้วและมันจะดูเหมือนหนู แต่คนไข้ดื้อ อยากดูเลย เพราะมันไกลด้วย มาไม่บ่อย เพราะคุณหมอคนไข้เยอะ  T^T

คุณหมอก็บอกแค่ว่า หมอเติมให้นิดเดียวนะคะ เอาธรรมชาติที่สุด เอาเล็กๆ ระหว่างฉีดขนาดโปะยาชาเป็นเวลานาน แต่มันปวดมาก มือคุณหมอนิ่มมาก แล้วคุณหมอก็พูดเสียงนุ่มๆ สะกดจิตเราตลอดเวลา ว่าจะเสร็จแล้วนะ อีกนิดนึง อีกนิดนึงนะ ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ตัวเราเองหลับตาปี๋ มันปวดจริงๆนะคะ รู้สึกแค่ตัวยามันวิ่งเข้ามาจึงปวด ไม่ถึง 5 นาทีทุกอย่างเรียบร้อยด้วยฝีมือการปั้นคางของคุณหมอรังสิมา

เป็นไงคะ หลังทำมันบวมเลยทันที ตอนนี้ยังไม่เข้าที ต้องรอประมาณ 5 วันห้ามโดนอะไรร้อนๆ ห้ามนวด ขัด หรือทำอะไรกับใบหน้า แต่งหน้าได้ปกติ ไม่มีแผลใหญ่ มีแผลคือรอยเข็ม รูเท่าจิ๊มิ๊มดแดง

แล้วมันก็หายบวมในที่สุดหลังจากนั้น 10 วัน คือ ตัวเองดูไม่ออก แต่เมื่อถ่ายคลิปเห็นชัดมากค่ะ

วัดให้เห็นกันไปเลย ยาวขึ้นแบบมันดูเป็นวงรีเลย อยากให้โบทูลินัมออกฤทธิ์ไวไว จะได้ดูเห็นชัดกว่านี้แน่นอน

ดูคลิปนี้แล้วจะรู้ว่าคางเปลี่ยนไป


สรุปรอบหน้าจะทำฟิลเลอร์คางอีกหรือไม่ คิดว่า “อาจจะทำ หรือ อาจจะไม่ทำ” 50/50 เพราะเมื่อใดก็ตามที่หน้าดูเรียว คางก็ยาวขึ้นมาเอง ขอคิดอีกที ก็มันปวดนี่นา (ฮา)


หวังว่าคงถูกใจใครหลายคนนะคะ ในการเปิดเผยเคล็ดลับ ที่แก้มหายไปบางคนอาจจะบอกว่าแบบเดิมดีกว่า แต่เรามีความสุขกับแบบนี้มากกว่า นั้นทำเถอะ เพราะเราต้องเห็นหน้าตัวเองทู๊กวันนนนนนนนนนนน

XOXO



คราวหน้ามาต่อกันที่ BOTOX ถ้ามันเห็นผล ถ้ามันยังก็ฟังสัมภาษณ์ของคุณหมอไปก่อน เป็นคนไข้ แล้วก็ขอคุณหมอเป็นนักเรียนด้วยให้คุณหมอสอนทุกอย่างเลย 🙂



Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, CHEEKS, CHIN, FACE, REVIEWComments (4)

GET THE RIGHT START ! ตรวจสภาพผิวเพื่อรอคุณหมอปรุงครีมบำรุงผิวของตัวเองคนเดียว :)

วันนี้ก็นำทุกคนเข้ามาสู่เรื่องราวของผิวพรรณเช่นเคย ปีที่ 2 และ ปีหน้าปีที่ 3 เอิ๊กจะเน้นเขียนเรื่องราวความสวยความงามที่ชื่นชอบ และเรื่องราวความสวยความงามด้านอื่นที่ตัวเองสนใจ อยากรู้ อยากศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาแบ่งปันเพื่อนๆนะก๊ะ

อันนี้เป็นบทความที่ดองไว้เกือบ 2 เดือนเกี่ยวกับความประทับใจส่วนตัวในเรื่องของการตรวจสภาพผิวเพื่อหาแนวทางการบำรุงผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการหาแนวทางป้องกันผิวแต่ละแบบได้อย่างเหมาะสม เพราะปัญหาผิวพรรณมีหลากหลาย ตั้งแต่ สิว จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ รอยแผลเป็น รอยแดงรอยดำ แผลตื้น แผลหลุม ผิวที่มีริ้วรอย

ถ้าเรารู้ว่าเรามีผิวแบบไหน เราจะสามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องในแง่ของการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม ประกอบกับหาอ่านคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ คำแนะนำของเพื่อนมาประกอบกับการตัดสินใจโดยมีความรู้เป็นคลังข้อมูลส่วนตัวเป็นพื้นฐานก็จะทำชีวิตเราเดินทางได้ถูกต้อง บำรุงผิวได้ถูกจุดมากขึ้น ปัญหาผิวที่ว่ายากก็จะดีขึ้นหรือหายไปด้วยตัวของเราเอง แค่เพียงเราใส่ใจ เปิดใจที่จะเรียนรู้ เราก็สามารถจะดูแลตัวเองได้ดีในระดับนึงทีเดียว

ถ้าถามว่าตอนนี้ดูแลผิวหน้ายังไงต้องบอกว่าส่วนหนึ่งงดยาทุกชนิด และมุ่งหน้ามาสู่ระดับการรักษาที่บ้านด้วยตัวเองตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เน้นอ่อนโยน ธรรมชาติ หรือแนวสมุนไพรไทยเป็นหลัก แต่อีกแง่หนึ่งยังคงต้องพึ่งแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกับการใช้ Cosmetic Laser Surgery มาดูแลรอยแผลบ้าง กรณีถ้ามันเยอะมากจนทนไม่ไหว เพราะเมื่อเกิดสิวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นถ้าเม็ดใหญ่ก็ย่อมมีแผลแดงทิ้งไว้ และประกอบกับนิสัยชอบเค้นสิว (กรุณาอย่าทำตาม)
การรักษาที่ISKYตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เป็นเวลาเดือนกว่าปลายสิงหาเดือนนี้เดือนตุลา  การที่ได้เข้าไปคลุกคลีกับแพทย์ผิวหนังทำให้ความสนใจส่วนตัวเปลี่ยนไป อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผิวหนังมากขึ้นและแนวทางการรักษาทุกกรณี การที่จะเลือกแพทย์สิ่งหนึ่งเป็นตัวตัดสินใจ นั้นก็คือ ผิวพรรณ ของแพทย์ที่รักษา แพทย์คนไหนมีผิวพรรณที่สดใส ไร้สิวฝ้า แทบไม่ต้องบอกสิ่งใด เราจะเชื่อโดยอัตโนมัตเพราะเราถือว่าแพทย์ท่านนั้นดูแลตัวเองได้ดีมาก ไม่แปลกถ้าจะบอกอะไรแล้วคนไข้อย่างเราจะเชื่อ แต่อย่างที่บอกถ้าเป็นปัญหาผิวของเราควรมีการสังเกตุตัวเองร่วมด้วย สิ่งไหนที่คุณหมอท่านสอน คุณหมอท่านบอก จะมาหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมเอาเองตลอด เพราะครั้งแรกที่ปรึกษา คุณหมอท่านก็บอกเราแล้วว่าคนไข้ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมร่วมกันการรักษาจึงมีประสิทธิภาพ

และในการตรวจสภาพผิวครั้งนี้ตรวจเพื่อ “ ปรุงยาสูตรเฉพาะ หรือ เวชสำอางครีมบำรุงสำหรับคนแต่ละคน “ ในห้องกระจกใส ซึ่งทีนี่มองว่าเพราะผิวของคุณไม่เหมือนผิวของใคร ดังนั้นการที่จะทำสวยแต่ละครั้งก็ต้องมีการเริ่มต้นหรือทำอย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นแนวคิดจากทีมแพทย์ทั้งหมดของที่นี่ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากทุกที่ที่เคยหามาทั้งหมด 5-6 ที่ ไม่แน่ใจว่ามีที่ไหนอีกหรือไม่ ถ้าใครเห็นว่ามีก็แชร์ได้นะคะ


ในความทรงจำตลอด 12 ปีที่ผ่านมาในการเดินเข้าออกคลินิคผิวหนัง หรือสถาบันรักษาผิวหนัง เป็นปกติที่ทุกสถาบันหรือคลินิคผิวหนังจะจ่ายยาตามสูตรมาตรฐานตามสภาพผิวหรือปัญหาผิวที่เกิดขึ้นโดยให้ยาหรือครีมใช้กับคนไข้ที่มีลักษณะสภาพผิวที่คล้ายคลึงกัน บางตัวเหมือนกัน บางตัวต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาสำหรับคนไข้แต่ละคน
สำหรับการรักษาที่ISKYจะคล้ายกับทุกที่คือมีตัวยาเวชสำอางพื้นฐานให้กับคนไข้แบ่งตามสภาพผิวตั้งแต่ผิวมัน ผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เช่นกัน ที่แตกต่างคือ นอกจากการตรวจสภาพผิวอย่างละเอียดด้วยการฉายแสงดูปัญหาภายใต้ชั้นผิว ก็จะมีการตรวจสภาพผิวภายนอกที่จับต้องได้ด้วย ตรวจสีผิว ตรวจสภาพผิว ความยืดหยุ่นของผิว ฯลฯ เพื่อที่จะวิเคราะห์และสั่งการปรุงยาพิเศษที่เหมาะกับเราที่สุดเพื่อนำไปบำรุง เสริมความแข็งแรงของผิว และแก้ปัญหาผิวที่เรามีอยู่อย่างถูกต้องและเหมาะสมตรงจุดที่สุด


เริ่มโดยหลังจากการปรึกษาคุณหมอเรียบร้อย ก่อนจ่ายยาคุณหมอจะถามถึงสภาพผิว ในกรณีที่ผิวระคายเคืองแพ้ง่ายอย่างเอิ๊ก มองด้วยตาเปล่าอาจจะรู้ว่าแห้ง คุณหมอจะให้ตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวเพิ่มเติมเพื่อดูว่าจำเป็นจะต้องสั่งยาครีมบำรุงปรุงพิเศษให้ไหม ซึ่งคุณหมอจะจุดสูตรให้เภสัชกรในห้องกระจกจัดการทำขึ้นมาให้เรา ในการตรวจเครื่องตรวจจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ หลายสิ่งระโยงระยาง


1. ตรวจสีผิว (PIGMENT/MELANIN)
ในกรณีนี้คุณหมอจะตรวจสีผิว สีผิวเราสีผิวแบบไหน ขาว น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำหมึก (ล้อเล่น) และแนะนำค่าครีมกันแดดที่เหมาะสม ซึ่งคุณหมอทำเป็น Chart ออกมาให้คนไข้ดูง่ายและเข้าใจเวลาคุณหมอได้อธิบาย
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ผิวประมาณ17 นี่ค่อนข้างขาวเลย บอกได้เลยว่า spf ต้องสูงนิดนึง เพราะว่าผิวค่อนข้างไวแดด เป็นผิวขาว “



2. ตรวจความยืนหยุ่นของผิว (ELASTICITY)
ตัวเครื่องจะดูดผิวบนหน้าของเราเป็นวูบนึงเบาเบาเพื่อเช็คความเด้งดึ๋ง ดูดแล้วปล่อยออกมาขึ้นกราฟหน้าจอ
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ ค่าเปอร์เซ็นต์ค่อนข้างดีเลย คือคนที่อายุน้อยๆอย่างเนี้ย 24 เนี่ยจะต้องยืดหยุ่นประมาน 55-70 หนูยืดหยุ่นไปประมาณเจ็ดสิบกว่า ถือว่าดีมาก หยุ่นเท่ากับเด็กอายุน้อยกว่า 20 แสดงว่าความยืดหยุ่นของผิวหนังเนี่ยดี อย่างเงี้ยไม่มีปัญหาความยืดหยุ่น ”


3. ตรวจความชุ่มชื้นของผิวหนัง (MOISTURE)
กรณีนี้โดนหนัก เพราะผิวแห้งมาก
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ความชุ่มชื้น อย่างนีั้บอกได้ว่าแห้ง คนที่ไฮเดรชันดีดี มาดูนี่ ดูผิวพี่นะ นี่ก็แห้งเหมือนกันแต่อยู่ในระดับ 36 37 ของเอิ๊ก 33 แต่คิดดูพี่อายุมากกว่าหนูเท่าไหร่ หนูถือว่ามีสภาพผิวที่ค่อนข้างแห้ง ตามตำแหน่งแต่ละตำแหน่งไม่เหมือนกัน มีวัดช่วงหน้าผาก แก้มร่วมด้วย ของเอิ๊กนี่ หน้าผาก25 แห้งละ อย่างเราเนี่ยผิว พี่แนะนำมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ดีเนี่ยสำคัญ เวลาเราปรุงครีมพิเศษให้คนไข้ เมื่อเราเทสารลงไปเราจะเติมให้ความชุ่มชื้นของครีมให้มันมากขึ้น ในกรณีที่ผิวมันแห้งมาก เราอาจจะเติมกลุ่มที่เป็นวิตามินอี โอเมก้า วิตามินเอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในครีมนั้น สำหรับครีมของหนูๆอาจจะต้องใช้ครีมประเภทนี้ เพราะผิวหนูแห้งมาก ต้องมีการปรุงครีมพิเศษเพื่อบำรุงเฉพาะ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังมีปัญหาสิว พี่ก็ยังไม่แนะนำให้ทาครีม ควรจะเอาสิวให้หมดก่อน ซึ่งความมันอาจทำให้สิวนั้นแย่ลง เพราะฉะนั้นพี่จึงคิดว่าอย่าเพิ่งเอาครีมกลับไปใช้ เอาสิวให้เวิร์คก่อน”


4. ตรวจความมัน (SKIN OIL&SEBUM)
อันนี้ได้คะแนน 1 เต็ม 100 ฮา หน้าเหี่ยวแห้ง T^T
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “วัดความมันของผิวหนัง อันนี้เราวัดเป็นค่า ไขมันก็น้อย หน้าไม่มัน อย่างเนี่ยน้อยมาก พี่ถึงบอกว่าว่าผิวแห้งก็เกิดจากสิวได้ มะกี้วัดจากแก้มน้อยกว่า 30 นี่ซุปเปอร์แห้ง นี่1 โหหห พี่จึงรุ้ว่าคนไข้กลุ่มนนี้จึงต้องการอะไรที่พิเศษแน่ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับการปรุงครีมให้ตอนนี้ี้ ควรรักษาสิวให้ดีก่อน และคนไข้ที่ผิวแห้งมากไม่ควรใช้วิตามินซี มันทำให้ระคายเคืองมากขึ้นเป็นตุ่มขาวๆ เป็นเพราะว่าผิวเราแห้งมาก ไปเจออะไรที่มันระคายเคือง ยิ่งหนักกว่าเดิม มอยส์เจอร์ที่ดีเนี่ยเหมาะสำหรับเราแน่นอน แต่เราต้องเลือกใช้ “


5. ตรวจขยายผิวหนังหรือเส้นผม
อันนี้เห็นสิว เห็นแผลชัดมาก กลัวค่ะ เห็นแล้วอึ๋ว
คุณหมอวิเคราะห์ออกมาว่า “ อันนี้จะเป็นตัวขยาย เราจะให้คนไข้ดูสภาพผิวอีกอย่าง เนี่ยพี่จะให้ดู อะเลือกตำแหน่ง เลือกตรงที่เปนสิวจะเป็นยังไง เครื่องนี้จะใช้ในการวิจัย เพราะฉะนั้นเราก้ออยากจะทำให้คนไข้โดยเฉพาะ สมมุติจุดด่างดำ อยากเห็นรอยแผลเปนสิว ปัญหาเกิดได้จากทุกสภาพผิว เช่น คนไข้ที่มีจุดด่างดำเยอะ ต้องการปรุงยาเป็นพิเศษ จะเอากลับก็ใส่ส่วนผสมให้มันขาวมากขาวน้อย พวกไวท์เทนนิ่งทำนองนี้ “


ผลสรุปออกมาแล้วว่ายังคงไม่มีสิทธิ์กับครีมปรุงพิเศษเนื่องจากผิวหนังอักเสบอยู่ (สิว)
ยืนเกาะห้องกระจกดูของคนอื่นต่อไปก่อน


สรุปครีมปรุงพิเศษเฉพาะบุคคลคือ ? (ฟังจากคุณหมอเลยดีกว่าค่ะ)

หลักเราจะปรุงสำหรับปัญหาหลัก ๆ มี 3 อย่าง
– ผิวแพ้ง่าย
– ปัญหาจุดด่างดำ กระ (ต้องการให้ผิวขาวขึ้น)
– รอยเหี่ยวย่น
แต่เราก็มีสำหรับผิวทุกประเภท

ครีมที่ปรุงสำเร็จเฉพาะบุคคล ดีตรงที่ว่า เราสามารถเลือกเนื้อครีมที่เหมาะกับผิวของเรา และปัญหาที่เราต้องการแก้ได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนมีปัญหาผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เราสามารถเลือกครีม base สำหรับคนไข้ที่ผิวแพ้ง่าย แล้วเราสามารถเติมสารเพื่อให้ความชุ่มชื้นในปริมาณที่เหมาะสมลงไป ถ้าผิวแห้งน้อย เราก็เติมน้อย แห้งมากเราก็เติมมาก คนไข้ที่ผิวแห้งน้อย ถ้าได้ครีมบำรุงผิวที่มันเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาได้ เพราะฉะนั้นการปรุงครีมเฉพาะบุคคล ก็จะทำให้คนไข้ได้ครีมที่เหมาะสมกับตัวเองจริง ๆ
ทุกคนสามารถมาตรวจสภาพผิวและระบุปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับแพทย์ แพทย์ก็จะสามารถจัดสูตรของครีมที่เหมาะสมกับคนไข้คนนั้น ๆ ได้ บางทีคนไข้เข้าใจว่าตัวเองผิวมัน แต่พอตรวจด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวแล้ว อาจพบว่าตัวเองผิวแห้งก็ได้ .. ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา



หวังว่าเราคงจะหายเร็วๆนี้นะคะ มันก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะสิวอุดตันของเก่า สู้กันต่อไป ทาเคชิ

กล้องใหม่ถ่ายรูปแล้วผิวเนียนสวยหลอกดวงตาผู้คนมาก ฮี่ฮี่

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (4)

GET THE RIGHT START ! : VBEAM กับการรักษารอยแดงหลังจากสิวหายไปให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว

(อวดรางวัลชิ้นแรกจากการเขียนBeauty Blogมาเป็นเวลา 1 ปี 10 เดือนหน่อยฮับ รองชนะเลิศอันดับ1 Beauty&Shopping ของ Thailand Blog Awardดีใจมว๊ากขอบคุณเพื่อนๆที่โหวตให้ด้วยนะคับ)

คนไข้ : เอิ๊ก – เอิ๊ก

ลักษณะสภาพผิ : ผิวแห้งสุดขีดโดยเฉพาะบริเวณ U โซน แก้ม แก้มด้านข้าง ทำให้ระคายเคืองกับทุกสิ่งที่มากระทบใบหน้าได้ง่ายมาก

โรคผิวหนังที่เป็: ผิวอักเสบบริเวณหน้าผาก / เป็นสิวอุดตัน 70% ของใบหน้าหนักไปทางบริเวณ T โซน / มีสิวเสี้ยนบริเวณจมูก / มีสิวอักเสบเกิดขึ้นบ่อยบริเวณหน้าผาก

สาเหตุ และ พฤติกรรมที่ทำให้เป็นโรค : นอนดึก นอนเช้า / ทานอาหารหวาน มัน รสจัด นมชอบทานมากต้องทานทุกวัน ทั้งที่รู้ว่ามันทำให้เกิดสิวอุดตัน / การชำระล้างสารเคมีแชมพู ครีมนวด ครีมหมักผม บนศีรษะไม่ค่อยสะอาด / เลือกทำความสะอาดผิวหน้าดีเกินไป สะอาดมากไป หอบเอาความชุ่มชื้นไปหมด น้ำมันไม่มาเคลือบผิวก็ระคายเคืองผิวหน้าง่ายจนเป็นสิวได้อีก

วิธีการรักษ : ปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง / ทานยาปฎิชีวนะ / ทายาเพื่อฆ่าเชื้อ P.acne / ทาครีมบำรุงเพื่อให้ผิวชุ่มชื้รมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวตามปกติแต่พอดี/ เลเซอร์รักษารอยแดงจากสิวอักเสบที่เพิ่งหายค่อนข้างบ่อย

สถานที่รักษาปัจจุบัน : ISKYCENTER สำหรับการทำเลเซอร์ และ ยาทาฆ่าเชื้อสิวบางส่วน / คลินิคเสนา – สำหรับยาปฎิชีวนะ และ ยาทาสิวอักเสบ สิวเห่อบางส่วน รวมถึงลอกสิวเสี้ยนเมื่อจำเป็น

ราคาแต่ละครั้ง : ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาผิว และ เทคโนโลยี ตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพันขึ้นไป



ทุกครั้งที่เราเป็นสิว เราหาคำตอบได้อย่างน้อยประมาณนี้รึเปล่าจ๊ะเด็กๆ

นี่คือสิ่งที่เอิ๊กคอยสังเกตุตัวเอง หลังจากกลับมามีสิวอักเสบรอบสอง สาม สี่ตามมาเป็น มาตรึมจนรับไม่ไหวต้องปรึกษาแพทย์เดือนละหลายครั้ง วันนี้ค้นพบคำตอบที่สมบูรณ์แบบแล้วว่า รอบหลังสุดที่สิวอักเสบเรื้อรังบริเวณหน้าผาก หลัง หน้าอก ศีรษะ เกิดจากการล้างแชมพูไม่สะอาด ต้องขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ณ ไอสกาย แพทย์ที่ปรึกษาประจำตัวของเอิ๊กมากค่ะที่ได้ให้วิชาการขนาดย่อเวลาขอสอบถามในเรื่องเกี่ยวกับการเกิดสิว และ คอยไล่ตะล่อมถามข้อมูลจากเอิ๊ก จนสรุปได้ว่าอาจจะเป็นเพราะสีผม

ช่วงปลายเดือนสิงหา 54 ปีนี้

ความจริงจะหายสิวแล้วหลายรอบมากเป็นหายเป็นหายไวมากภายใน 1 เดือน โดยเฉพาะกลางเดือนกันยา หายแล้วเหลือรอยนิดหน่อย ตอนแรกดีใจมากแต่แล้วเอาอีกแล้วจนหาสาเหตุเจอจนได้ในที่สุด ดีใจยิ่งกว่าสิวหาย เพราะเราเจอตอแล้ว


ด้วยความโชคดีของตัวเอง หรือความโรคจิตของตัวเองส่วนหนึ่ง คือเป็นคนชอบถ่ายรูปใบหน้าตัวเองทุกวัน (ติดตอนทำBotoxหน้าเรียว และตอนรักษาสิวโดยใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยปีที่แล้ว) เพื่อดูผลลัพธ์ของผิวที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ในเวลาที่มีปัญหาผิว หรือ ต้องการเช็คดูผลลัพธ์หลังจากการทำอะไรบางอย่าง เช่น ใช้ครีมกระชับใบหน้า ลดไขมันข้างแก้ม และอีกสารพัด ที่นักเขียนเพื่อความสวยความงามคนนี้จะหา จะได้มาทดสอบ

ผลปรากฎว่า – การเกิดสิวเกิดก่อนการเปลี่ยนสีผมใหม่ในทุกครั้ง แต่เกิดหลังจากการเริ่มเปลี่ยนแชมพู ทรีทเมนท์เข้มข้นยี่ห้อใหม่ ส่วนตัวยอมรับเป็นคนสระผมเร็ว แล้วไม่เช็ดศีรษะ ไม่เช็ดตัว ปล่อยให้แห้งเอง (ไม่แน่ใจมีใครสอนมาวิชานี้555) ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เดาไปต่างๆนานามาเฉลยด้วยการพบแพทย์และความละเอียดในการบันทึกภาพของตัวเอง ไม่เข้าใจทำไมมาเกิดเอาตอนอายุ 24 ทั้งที่ซกมกมานานแล้ว – – “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดครึ่งปี คือสิวอุดตันมารุมเร้าที่หน้าผากบ่อยครั้ง จนนึกได้อีกต่อว่าหนังศีรษะเปียกบางครั้งไม่เช็ดแล้วบรรทมเลย รังแคมาเพียบทั้งที่สระผมทุกวันจนตอนหลังยาอะไรก็รักษาไม่อยู่ รู้คนเดียวเงียบๆไม่ได้บอกใคร และที่ทำให้เข้าใจชัดเจนมากขึ้น คือ การเกิดสิวบนแผ่นหลังมาและลามมาหน้าอก อันนี้หนักเลยเพราะไม่เคยเป็น

หลังจากสรุปได้แล้วจึงเปลี่ยนพฤติกรรมบางส่วนใหม่แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคือ .. มีสติกับการสระผมมากขึ้น ฉีดน้ำแรงๆเวลาล้างออก ล้างแบบหมดจด ให้เกลี้ยงกว่าล้างจาน ตั้งใจสระผม นวดผม ล้างผม เชื่อไหม ปาฎิหารย์เกิด สิวอักเสบไม่มา จนกว่าจะได้รับการกระตุ้นอุดตันด้วยวิธีอื่นเช่นแต่งหน้าหลายชั่วโมงกว่าจะล้างจะมาแค่เม็ดเดียวตามปกติ เหมือนที่เมื่อก่อนเคยเป็น สาวนตัวมีการกดสิวร่วมด้วยเลิกยากข้อนี้ และยังกินอาหารต้องห้าม มันก็จะมีสิวประปรายมาบ้าง ตอนนี้เหลือแค่รอยแดงที่เยอะพอสมควรแต่คิดว่ายังไงต้องตั้งใจจัดการได้


ทุกคนต้องหัดค้นหาสาเหตุที่แท้จริงจากพฤติกรรมตัวเองซึ่งเป็นสาเหตุที่แท้จริง โดยเลิกมองที่ปัญหากันนะคะ เพื่อนๆจะพบทางออกเหมือนออกซึ่งเอิ๊กพบเมื่อไม่กี่วันจึงเขียนเรื่องนี้ออกมา เพราะอึดอัดมากที่จะบอกคนอื่นว่าที่เป็นสิวเพราะหมอบอกว่าอาจจะเกิดจาก … แต่อย่าลืมคุณหมอไม่ได้ติดตามเราตลอด 24 ชั่วโมงและเวลาเราเล่าอาการให้คุณหมอฟังบางทีมันครบ หรือ ขาดไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่วันนี้มั่นใจกับสาเหตุทั้งหมดทั้ง 360 องศา ที่คนไข้เอิ๊ก – เอิ๊ก ได้กระทำตนเองแบบไม่รู้ตัวแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับแบบฝึกหัด “การมองหาสาเหตุการเกิดสิวจากพฤติกรรมประจำวันของตนเอง “ ในแบบฉบับของเอิ๊กกันแล้วนะคะ หวังว่าคงพอช่วยใครให้อาการดีจนถึงรักษาหายสนิทได้บ้าง

ที่นี่มาเข้าถึง TOPIC สำคัญกว่า ที่HOTมากใน INBOX คือเรื่องของรอยแดงหลังจากการเกิดสิวหายแล้วว่า “ คุณเอิ๊ก พี่เอิ๊ก น้องเอิ๊ก เพื่อนเอิ๊ก รักษาที่ไหน รักษาเท่าไหร่ มียิงเป็นShotไหม แล้วหน้าจะแพ้ไหม จะหายเหรอ ทำไมยิงตั้ง 3 ทีถึงไม่เห็นผล “


เรามาทำความรู้จักกับรอยแดงที่เกิดหลังจากเป็นสิวกัน

ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการอ่านผสมผสาน ของแพทย์ ของนักวิชาการ ของผู้มีประสบการณ์ และ ประสบการณ์ตรงส่วนตัวมารวมกันเป็นคำพูดที่พยายามจะทำให้ทุกคนเข้าใจไปพร้อมๆกัน รวมถึงตัวเองด้วยนะคะ

โดยปกติรอยแผลเป็นจากสิวถ้าไม่ได้มีการทำอะไรกับมันเลย รอยแดงรอยแผลเหล่านั้นที่เกิดจากสิวจะหายไปเอง ค่าเฉลี่ยระยะเวลาการหายประมาณ 3 – 6 เดือน เร็วหรือช้ากว่านั้น ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน รวมถึงอายุของผิวพรรณเราด้วยสำคัญมากข้อนี้

รอยแดงจากสิวเกิดจากอะไร ? (Macular erythema) สิวถ้าไม่ได้รักษาถูกวิธี หรือสิวอักเสบมากๆ หลังหายแล้วส่วนมากมักจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้เสมอ เนื่องจากปฏิกริยาการอักเสบของสิวทำให้เกิดการทำลายเซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ใต้ผิวหนังของเราลงไป ผิวชั้นหนังแท้ซึ่งมีเส้นเลือดเป็นหลักสำคัญที่คอยกำหนดควบคุมการสร้างหรือจัดระเบียบเซลล์อื่นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โพรงขน ต่อมไขมัน รวมถึงใยคอลลาเจนและใยอีลาสติน รอยแดงนี้เกิดจากการอักเสบ บวม ขยายตัวของเส้นเลือดฝอยลึกลงไปใต้ผิวหนังซึ่งร่างกายสร้างเป็นภูมิลำเลียงขึ้นมาต่อสู้กับเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบ การที่รอยแดงจะหายไปนั้นก็ต้องรอเวลาให้มันสร้างเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไปให้เกิดใหม่ขึ้นมาเอง แล้วรอยแดงจะค่อยๆจางหายไป ดังนั้นแม้ว่าเพื่อนๆไม่ได้แกะหรือบีบสิวก็ตาม สามารถทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้เสมอ เมื่อมีสิวควรรีบรักษาเพื่อลดการอักเสบของสิวและลดการเกิดแผลเป็นจากสิวที่จะตามมา ในกรณีที่เกิดในคนผิวคล้ำ บางครั้งจะมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลหรือดำร่วมด้วย (Postinflammatory Hiperpigmentation) และในบางคนจะมีลักษณะของหนังที่ยุบตัวลงซึ่งเป็นลักษณะเริ่มแรกของการเกิด รอยแผลเป็นชนิดบุ๋มตามมาอีก (Atrophic Scar, Pitted Scar)

การรักษารอยแดงสิวมีกี่วิธี

1. ปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติ ให้ร่างกายเราซ่อมแซมตัวเราเอง (อยากหายเร็วก็ต้องเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าอดหลับอดนอนร่วมด้วย)

2. ทายาที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถทำให้สีจางลง เช่น กรดผลไม้ (AHA, BHA) กรดวิตามิน A (RETINOIC ACID), LICORICE, ARBUTIN, VITAMIN C เป็นการผลัดเซลล์ผิวหนังด้านบนชั้นหนังกำพร้า

3. ทานอาหารเสริมจำพวก วิตามิน A, วิตามิน E วิตามิน C เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวและเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังจากภายใน

4. พึ่งนวัตกรรมเลเซอร์ทางการแพทย์รักษารอยแดง รอยคล้ำจากสิว ลดการเกิดแผลเป็นสิว และลบเลือนรอยแผลเป็นที่มีอยู่ หลักจะมีเลเซอร์รักษารอยแดงที่เป็นหลักอยู่ในเมืองไทย คือ V-beam Laser เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย สะดวก

5. Photodynamic therapy (PDT)โปรแกรมการรักษาสิวที่ได้ผลรวดเร็วที่สุด รอยดำ รอยแดงสิว แผลเป็นที่เกิดจากสิว เป็นวิธีการใช้เคมีและแสงร่วมกันเพื่อทำให้ต่อมไขมันถูกทำลาย ซึ่งได้ผลเหนือการกินยารักษาสิว เป็นการรักษาผิวมันอย่างดี และให้ความสดใสกับผิวไปในตัว


พรีเซนเตอร์ยาสระผมแพนทีนกำลังยิงเลเซอร์ VBEAM ให้เอิ๊กอยู่ 5555 ล้อเล่นนะคะเป็นคุณหมอประจำตอนนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา แพทย์ผิวหนังที่ศิริราช และ ISKYCENTER

เอิ๊กเลือกวิธีที่ 4ใช้เลเซอร์ v-beam เพื่อทำลายเส้นเลือดให้ฝ่อไปแล้วกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ การใช้เวลายิงเลเซอร์ของเอิ๊กรอยมีแค่ช่วงหน้าผากเป็นหย่อมๆคุณหมอยิงประมาณ 1-2 นาที หลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงใหม่ๆจากสิวจะจางลง ประมาณ 60-70% ส่วนรอยที่มีมาซักพักจะจากประมาณ 20-40% และรอยบุ๋มที่เกิดจากสิวก็สามารถตื้นขึ้นและมีขนาดเล็กลงได้บ้าง หลังการรักษามีเพียงรอยแดงเพิ่มตรงบริเวณที่ยิงใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วก็จะจางหายไป ทำแล้วไม่มีแผล ใช้ชีวิต แต่งหน้าได้ตามปกติ


ข้อดี การทำเลเซอร์ทุกชนิดจะได้ผลหรือไม่ ขึ้นกับสภาพอายุผิว ความยืดหยุ่นผิว รวมถึงการตอบสนองของผิวกับเลเซอร์ของแต่ละคนด้วย ส่วนตัวรอยแดงจางไวมาก ทำให้ส่งผลต่อจิตใจคนที่กังวลเป็นอย่างดีเยี่ยมยอด อย่างเร็วที่สุด 1 เดือนหายสนิท อย่างช้าไม่น่าจะเกิน 3 เดือนแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เกิดสิวใหม่ให้เป็นรอยแดงเพิ่ม เพราะจะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ และเห็นผลดีมากโดยเฉพาะรอยแผลสิวอักเสบสดๆ รอยแดงใหม่กิ๊ก CONFIRM ว่าเห็นผลดีมาก ไม่ต้องมานั่งทายา ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องกินอาหารเสริมเร่งให้แผลหายแต่ถ้ารอยแดงนานหรือถูกแดดจนเปลี่ยนสีเป็นรอยดำต้องใช้เลเซอร์ชนิดอื่น


สังเกตุแผลแก้มซ้ายเป็น 1 วันบีบหนองทะลักแล้วไปยิง พอไปยิงอีกรอบมันจางไวมาก


ข้อเสีย แน่นอนราคาสูงตามความเร็วของผลลัพธ์ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ รอยแดงที่อยู่มานานอาจไม่หายสนิทจะจางไปแต่ไม่หมดยังเหลือแดง 10-20% ต้องคอยหลบแดด (เดี๋ยวจะกลายเป็นรอยดำ) การทำเลเซอร์ทุกชนิดไม่ควรถูกแดดโดยตรงเพราะผิวช่วงนั้นเป็นช่วงรักษากำลังบาง เพื่อรอการกระตุ้นคอลลาเจนให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและยืดหยุ่นกว่าเดิม ช่วงนี้ต้องถนอมผิวเป็นพิเศษ ต้องทำหลายครั้งขึ้นไปอย่างน้อยก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 3 ครั้ง หรือบางคนจะทำแค่ 1 แล้วรอร่างกายซ่อมแซมตัวเองต่อก็ย่อมได้

ข้อแนะนำ ทำครั้งนึงให้เว้นไป 2 อาทิตย์ เป็นการเว้นระยะการทำเลเซอร์ VBEAM ที่กำลังดีในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน / คุณหมอที่ยิงต้องมีความชำนาญมากในการปรับความยาวคลื่นในการยิง VBEAM ให้เหมาะ แรงกำลังดี แผลจะหายเร็วขึ้นไม่ต้องเสียเงินในการมารักษาหลายรอบ / ถ้าใช้วิธีอื่นร่วมด้วยจะยิ่งหายเร็ว เช่น ทายา ทานอาหารเสริมวิตามินช่วยอีกแรง

 

ศึกบางระจันล่าสุดเป็นแบบนี้

 

ผลการรักษา VBEAM ของเอิ๊ก 1 ครั้งในรอบหลังสุดที่เป็นสิวอักเสบแพร่กระจายเนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ตอนนี้ทราบแล้วเลยทำร่วมกับการทานยาปฎิชีวนะลดการอักเสบ และ ใช้ยาแต้มสิวอักเสบควบคู่ พร้อมกับเปลี่ยนพฤติกรรมมีสติในการสระผม สาเหตุหลักที่ทำให้หน้าเยินมาครึ่งปีครั้งนี้


มันส์ไหมพี่น้องการขุ้ยสาเหตุสิวสาวในครั้งนี้

ขอประกาศว่าจะไม่มีการยอมแพ้ใดใดทั้งสิ้น “พวกเราจะกลับมาหน้าใส(หัวไป)อีกครั้งแน่นอน”

เพราะมันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว วันนึงหญิงเอิ๊กต้องเก่งรักษาสิวตัวเองให้ได้โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ แต่ไปพบเรื่องอื่นเช่นทำทรีทเมนท์หน้าเด้งๆเบาๆอะไรทำนองนี้ สู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!

เพื่อการกลับมาอีกครั้งของเธอในรูป 555


ใครอยากอ่านเรื่องราวสิวสาวในอดีตของเราเชิญ CLICK

XOXO

รักนะตัวเธอว์

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์

ห้องแป้งพันธุ์ทิพย์

ACNETHAI.com

Blog swiss-jukky ณ Bloggang

Onlyacne.com

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (2)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites