Archive | SKIN

SKINCARE ROUTINE

โบกครีมแล้วไปนอนซะวัยรุ่นส์
SKINCARE ROUTINE 😘
♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️

 


La Roche-Posay Eucerin Peter Thomas Roth

@Sephora Thailand@burtsbee Paula’s Choice Thailand #larocheposay

#eucerin #thaisephora#pimplus_pr #burtsbeesth #paulaschoicethailand

🤫 erkerkXskincare #g7xmarkii #canon

 

Posted in SKIN, SKIN CAREComments (0)

REVIEW LOREAL REVITALIFT DERMALIFT ลดริ้วรอย

Posted in SKIN CAREComments (0)

REVIEW YOUR GOOD SKIN สกินแคร์ผิวดีมีงานวิจัยในราคาหลักร้อย !!

SPOTLIGHT

💄 ผิวที่สุขภาพดีจะทำให้ผิวโดยรวมดูสวยเปล่งมีน้ำมีนวล

💄 ผู้หญิงวัยทำงานจะมีภาวะเครียดสูง

ส่งผลต่อผิวมองหาผลิตภัณฑ์ต้านอนุมูลอิสระทั้งทาและทาน

💄 ปัญหาผิวยอดนิยม สิว จุดด่างดำ ความมัน หมองคล้ำ แห้งกร้าน สีผิวไม่สม่ำเสมอ

 

 

 

 

 

 

” ยุคนี้ใครแก่เร็ว ถือ เป็นความผิดของตัวเอง “

ที่ไม่ดูแลตัวเอง มันมีอะไรมาอำนวยความสะดวกให้เราเยอะ

บอกเลย 40 สมัยนี้ยังงดงาม 50 ยังเต่งๆผิวปิ๊งค์

เรา 31 แล้ว เราก็จะสู้ต่อ หนึ่งสิ่งที่ทุกคนสามารถดูแลความร่วงโรยของผิวได้

นั้นก็คือการดูแลบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงทุกวัน มากกว่าคำว่าสม่ำเสมอ

 

 

และ สกินแคร์ที่จะนำมารีวิวในเดือนนี้ได้แก่ แท่น แทน แท๊นนนนนนนนนนน

YOUR GOOD SKIN

แบรนด์สกินแคร์ในเครือ BOOTS ที่มีงานวิจัยแน่นปึกแต่จ่ายในราคาหลักร้อยเท่านั้น !!

มาเป็นทีม AVENGER ต้องบอกก่อนเอิ๊กเคยบินไปดูโรงงาน BOOTS ที่อังกฤษ

ยิ่งใหญ่อลังการ มาตรฐานระดับโลก

คือ แบรนด์สกินแคร์ของเขา มีนักวิจัยอย่างเข้มข้น

บางแบรนด์ใช้เวลาหายปีกว่าจะออกแต่ละสูตร

พอแบรนด์ YOUR GOOD SKIN ติดต่อมาจาก BOOTS ไม่ลังเลที่จะทดสอบเลย

แบรนด์เกิดมาจากการค้นคว้าถึงปัญหาและความต้องการกับผู้หญิงราวๆ 2000 คน

ในปี 2014 โดยกลุ่มเป้าหมายอายุ 25ขึ้นไป++ เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์

ผิวผู้หญิงกลุ่มนี้ที่สุด

 

ปัญหาผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เขาพบเจอ คือ

สิว

จุดด่างดำ

ความมัน

หมองคล้ำ

แห้งกร้าน

สีผิวไม่สม่ำเสมอ

 

YourGoodSkin จะมีผลิตภัณฑ์อยู่ 4 ประเภทด้วยกัน

  1. Cleanser ทำความสะอาดผิว มีสำหรับผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเซนซิทีฟ
  2. Restore ฟื้นฟู ดูแล แก้ปัญหาผิว เข้มข้นด้วยสารสกัด ปรับสมดุลผิว เช่น Concentrate
  3. Moisturise บำรุง ให้ความชุ่มชื่น หรือ คุมมันผิว เช่น กันแดด ครีมบำรุงก่อนนอน
  4. Specific Care ดูแลปัญหาเฉพาะจุด เช่น เติมน้ำให้ผิว คุมมัน สิว

 

และ แบรนด์เขาจะมีหลายสูตร เช่น

สูตรสำหรับทุกสภาพผิว

สูตรผิวมัน

สูตรผิวแห้ง

สูตรผิวเป็นสิว

แต่ไม่แน่ใจในไทยจะมีแค่สูตรที่สำหรับทุกสภาพผิวอย่างเดียวรึเปล่า ?

 

 

ซึ่ง HI LIGHT ของแบรนด์นี้จะอยู่ที่ 

YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate ขนาด 30ml

ซึ่งอยู่ในหมวด ฟื้นฟู ปรับสมดุล ให้ผิวแข็งแรง ในไทยอยู่ที่ 850 บาท

อังกฤษราคาอยู่ที่ 17 ยูโร ต้องบอกก่อนว่า

ตอนแรกไม่ได้ดูราคา เดาว่า 1,000-2,000 ทุกตัว

พอรู้ราคาช็อคมาก เพราะว่าแพคเกจสวยงาม ทันสมัย หรูหรา เบา พกง่าย

และ สกรีนพิมพ์ทอง

 

 

ทำไมตัวนี้ถึงเป็น ตัวเด่น เพราะแน่นอน อารมณ์เป็นเซรั่ม

ส่วนผสมเน้น เพื่อดูแล แก้ปัญหาเฉพาะจุด

 

 

มาในกล่องหรูหรา ด้านหน้าจะมาพร้อม TIPS ในการดูแลผิว ควบคู่กับการใช้

YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate

 

ขวดเป็นฝาปั้มสีทองขาว บีบซัก 1-2 รอบต่อครั้ง

ข้างหน้าขวด เคลมเรื่อง ส่วนผสมที่เป็นวิตามินซี และ ชาเขียว ในการต้านอนุมูลอิสระ

 

ด้านข้าง เป็น 850 บาท ที่ดูเลอค่ามาก

 

ด้านหลังเป็นจุดที่น่าสนใจสุด

ในผลที่เขาทำ STUDY ทดสอบกันมา

95% พบว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น

75% พบว่ารูขุมขนดูตื้นขึ้น

95% พบว่าผิวดูนุ่มขึ้น

75% พบว่าผิวมันน้อยลง

81% พบว่าผิวเรียบลื่นกว่าที่เคย

90% พบว่าผิวดูสุขภาพดีขึ้น

85% พบว่าผิวกระจ่างใสขึ้น

77% พบว่าปัญหาผิวต่างๆลดลง

Ingredients

Aqua (Water), Dimethicone, Glycerin, Octyldodecanol, Aluminum starch octenylsuccinate, Butylene glycol, Ammonium acryloyldimethyltaurate/VP copolymer, Dimethicone crosspolymer, Tocopheryl acetate, Alcohol denat., Phenoxyethanol, Panthenol, Ophiopogon japonicus root extract, Bisabolol, Ascorbyl glucoside, Xanthan gum, Sodium hyaluronate, Polysorbate 20, Parfum (Fragrance), Dimethiconol, Caprylyl glycol, Sphinganine, Sodium benzoate, Citric acid, Dipropylene glycol, Ethylhexylglycerin, Tetrasodium EDTA, Potassium hydroxide, T-butyl alcohol, Dimethylmethoxy chromanol, Camellia sinensis leaf extract.

 

จากที่ดูส่วนผสมคร่าวๆ อันดับแรกๆจะปรากฎ สารให้ความชุ่มชื่นอย่าง Glycerin

ตามมาด้วย Aluminum starch octenylsuccinate ที่ช่วยเรื่องคุมมัน

ดังนั้นใช้ได้ทุกสภาพผิวก็จริง แต่ผิวแห้งต้องหาครีมบำรุงที่เข้มข้น หรือ ออยล์

มาใช้ควบคู่เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื่นด้วย

เด่นๆตามมาให้ความชุ่มชื่นอีกจะมีวิตามินอี หรือตัว Tocopheryl acetate

Alcohol denat ตัวนี้ คนผิวแพ้ง่ายอยากให้ทดสอบก่อน ตัวนี้เด่นเรื่องกระชับรูขุมขน

Ophiopogon japonicus root extract เข้ามาช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว

ทำให้ผิวแข็งแรง

Bisabolol เป็นคาโมมายด์ที่ลดอาการอักเสบ ซ่อมแซมผิว

Ascorbyl glucoside วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส

Citric acid ช่วยเรื่องผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนอุดตัน เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ริ้วรอยบางๆ

ปิดท้ายด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง Camellia sinensis leaf extract

 

 

ฝาปั้มใช้ง่าย สะอาด ไม่ต้องกลัวการปนเปื้อนของนิ้วมือที่สกปรก

 

เนื้อเบาเรียบลื่น เกลี่ยง่าย กึ่งเจลครีม สบายผิว แห้งซึมไว ไม่ทิ้งความมัน

ดังนั้นผิวมันใช้ได้

 

ใช้มา 2 สัปดาห์ ครึ่งเดือนพอดี ใช้ทุกตัว ช่วงวันแรก ทดสอบอาการแพ้ของ

YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate

พอพบว่าไม่แพ้ ตัวอื่นก็ตามมา สีผิวสม่ำเสมอ เด่นนำบอกเลย

เปิดด้วยภาพหน้าสด หลังใช้มา 2 สัปดาห์ ด้านหน้า ด้านข้าง

 

สำหรับ YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate

เอิ๊กจะใช้เช้า เย็น หลังล้างหน้า ลงตัวแรก ก่อนตัวอื่นเลย

 

บอกตามตรงว่า

ผิวแห้งไม่รอด 55555 ถ้าใช้เดี่ยว มันให้ความคุมมัน สิ่งที่เห็นชัดคือไม่เห็นผลเร็ว

จะเริ่มรู้สึกอีกทีคือวันที่ 5 ชัดเรื่องผิวกระจ่างใสขึ้น ผิวสม่ำเสมอขึ้น

 

 

หลังทาสีผิวไม่เปลี่ยน ไม่มันวาว สังเกตุดูสีผิวที่ สม่ำเสมอ แบบนวลทั้งหน้า

ฝ้าไม่หายนะคะ ฝ้าลึกต้องทำทรีทเมนท์ใช้เครื่องผลักอย่างเดียว

พอหน้าเริ่มกระจ่างขึ้น แอบเห็นฝ้าสีชัดขึ้น เพราะพอหน้าขาว ฝ้ายังสีเดิมเลยเด่นขึ้นมา

รูขุมขนดูดีขึ้น ไม่ได้ดูเล็กลง แต่ดูตื้นขึ้นนิดๆ อาจเป็นผลของส่วนผสมที่ช่วยกระชับชั่วคราว

เพราะฉะนั้นต้องใช้ต่อเนื่อง 555 อยากเห็นซูม คลิกที่รูป 2 รอบนะคะ

 

ผิวไม่มีการรีทัชนะคะ คุณภาพหลักร้อย แต่ให้ผลคุ้มค่าในการบำรุงมากค่ะ

เป็นอีกแบรนด์ที่ไม่อยากให้เชื่อ แต่ไปลองกันเองจะเข้าใจผลลัพธ์ดีสุด

 

และแน่นอน มันจะมีกรดมะนาวช่วยผลัดเซลล์ผิว กันแดดโคตรสำคัญที่เรา

ต้องใช้ต่อเนื่องตลอดไป เพื่อเป็นการช่วยดูแลผิวให้ดีขึ้นได้แบบระยะยาว

รวมถึงป้องกัน และ ลดปัญหาผิวอื่นๆที่จะตามมา

เช่น หน้าหมอง สิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ ได้

 

สรุป YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate

หลักที่รู้สึกได้คือ สีผิวที่สม่ำเสมอ / รูขุมขนที่ดูดีขึ้น / คุมมัน

อันนี้คือ 3 จุดหลักที่เห็นชัดนะคะ ส่วนตัวต้องใช้ตัวเติมน้ำให้ผิวเพิ่ม

เพราะตัวนี้ความชุ่มชื่นยังช่วยไม่พอ เนื้อเบาสบายผิว ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน

 

ข้อดี

สีผิวที่สม่ำเสมอ อันนี้เริ่มเห็นประมาณ 5-7 วัน

รูขุมขนที่ดูดีขึ้น เพราะมีส่วนผสมที่ทำความสะอาดรูขุมขน

คุมมันในระดับนึง

เนื้อเบา

แพคเกจ สวย ดูแพง หรู ถือแล้วรู้สึกดี

กลิ่นเบาๆ ไม่แรง

ราคาสบายๆ หลักร้อย หาซื้อง่ายที่ BOOTS ทุกสาขา

 

ข้อด้อย

มีแอลกอฮอล์ และ น้ำหอม ถ้าแพ้ง่ายควรทดสอบ

คนผิวแห้งใช้ได้จริง แต่ต้องหาตัวอื่นมาให้ความชุ่มชื่นด้วย

 

 

 

ก่อนไปขอเวิ่นอีก 4 ตัวสั้นๆ เพราะว่าใช้ทุกตัวจริงๆ

Instant Dryness Rescue 500 baht

ProVitamin Overnight Cream 500 baht

SPF 30 Anti-Oxidant Day Cream 550 baht

Comforting Gel Cleanser 350 baht

 

แต่ละตัวเนื้ออาจต่างกัน และ แก้ปัญหาผิวคนละอย่างเลย เลยใช้ทุกตัว

ดูแลแบบองค์รวม

 

 

Instant Dryness Rescue 

ตัวนี้โปรดมาก เพราะว่าเราผิวแห้ง ใช้เพิ่มความเด้ง เรียบเนียน อิ่มน้ำให้กับผิว

ตื่นมาแล้วรู้สึกดี กับ ผิวที่ดูสุขภาพดีขึ้นแบบรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรก

ทาแล้วจะหนึบๆหน่อย แต่ไม่เปลี่ยนสีผิว


 

ProVitamin Overnight Cream

ตัวนี้บำรุงให้ผิวนุ่มๆตอนกลางคืน ตัวนี้ช่วยปรับสมดุล อารมณ์บำรุงให้ผิวไม่แห้งกร้าน

ตัวนี้เนื้อครีมเจล จะอารมณ์เนื้อหนักกว่าเจล แต่ไม่ข้นมาก ไม่เปลี่ยนสีผิว ทาแล้วชุ่มๆ

SPF 30 Anti-Oxidant Day Cream

กันแดดเหมาะกับสาวออฟฟิศทำงานในออฟฟิศ ผู้ที่ไม่ถูกแดด ถูกแค่แสงหน้าคอม

เพราะไม่เห็นค่า UVA  ตัวนี้เนื้อหนักอารมณ์กันแดด ผิวแห้งใช้ได้

ผิวมันเมืองไทย อาจจะไม่โอ ทาแล้วหน้าจะผ่องๆ ไบรท์ แต่ไม่ได้ขาววอก

Comforting Gel Cleanser

ลองไวอีกเช่นกันตัวนี้ เจลล้างหน้า ใช้ได้ทุกสภาพผิว คุมมันติ๊ดๆ มันไม่ได้ชุ่มชื่นจ๋า

เหมือนล้างเอาความมันส่วนเกินไปด้วยนิดนึง ไม่มีฟอง อันนี้เอิ๊กไม่แพ้ ก็เลยใช้ทุกวัน

 

ได้มา 5 ตัวก็เลยเล่นทั้ง 5 ตัว 55555555

 

 

 

รวมๆแล้วเป็นแบรนด์ที่มีทดสอบเก็บผล อย่างปราณีต จ่ายหลักร้อย คุณภาพคุ้มค่า

ผิวดี แต่งหน้าสบายๆ ง่ายๆ ไม่ต้องกลบเยอะ ตื่นมามีความสุขกับสุขภาพผิวหน้ากระจก

ถ้าถามว่าผู้หญิงไทย อยากลองตัวไหน ขอตัวเดียว ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนส่วนใหญ่

ตั้งแต่ส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าตัวอื่น คุมมัน ดูแลทำความสะอาดรูขุมขน

ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ตัวนี้ก่อนเลย

 YourGoodSkin Balancing Skin Concentrate

 

ความเข้มข้นของวันนี้จบแต่เพียงเท่านี้ 🙂 เยิฟฟฟฟ

 

 

Posted in SKIN CAREComments (0)

รีวิว ULTHERA vs THERMAGE ยกกระชับตัวไหนดีที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทคโนโลยีที่แพงที่สุดในการยกกระชับ ที่มีการรับรองจาก USFDA อเมริกา

และ มีงานวิจัยมากมายในระยะเวลานาน ระหว่าง ULTHERA vs THERMAGE

อะไรคือเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

ใครจะรู้ว่า เวลาคนเราแก่ลง

ทางด้านผิวหนังมันแก่ลงลึกถึง 5 ชั้น !!

ชั้นที่ 1 บนสุด ชั้นหนังกำพร้า

ชั้นขี้ไคลปกป้องผิวไม่ให้สิ่งแปลกปลอมมาทำร้าย

ชั้นที่ 2 ชั้นหนังแท้

ประกอบไปด้วย คอลลาเจน กับ ไฮยาลูรอนิคเอซิด

ให้ความหนาแนน ยืดหยุ่น กระชับกับผิว

ชั้นที่ 3 ไขมัน

ป้องกันการกระแทกของอวัยวะภายใน

เป็นชนวนความร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย

ชั้นที่ 4 กล้ามเนื้อ

ใช้ในการขยับ เคลื่อนไหว

ชั้นที่ 5 กระดูก

เป็นโครงสร้างยึดร่างกายเอาไว้ ป้องกันอวัยวะที่สำคัญในร่างกาย

 

 

เวลาคนเราแก่ลง มันแก่ลงไปพร้อมๆกัน ทุกๆชั้น

ผิวหนังบางลง

ไขมันบางส่วนลดลง เช่น ใต้ตา แก้ม

กล้ามเนื้อฟีบลง

กระดูกสึกหรอขึ้น มวลกระดูกลดลง

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นจะมีการหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ และ เนินอก

รวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในตามแรงโน้มถ่วงของโลก

ในการจัดการความแก่ที่เกิดขึ้น

จึงต้องดูแลผิวทุกชั้น เพื่อทำให้ผลลัพธ์สอดคล้องเป็นธรรมชาติ

 

ปัจจุบัน มีเทคโนโลยี และ นวัตกรรม ที่สามารถดูแลปัญหาของผิวเกือบทุกชั้นได้

เช่น หน้าเหี่ยวเราใช้เทคโนโลยียกกระชับ หรือ ศัลยกรรมดึงจากระดับชั้นกล้ามเนื้อได้

ยกเว้นในบริเวณกระดูก ยังไม่สามารถแก้ไขได้

อาจเติมฟิลเลอร์ได้บ้างในบริเวณที่กระดูกสึกหรือสลาย แต่สุดท้ายมันไม่ยั่งยืน

และ น่าจะไม่คุ้ม

 

 

ดังนั้นถ้าถามว่า ULTHERA vs THERMAGE  แตกต่างกันอย่างไร ?

เพราะหลายคนบอกว่าช่วยยกกระชับเหมือนกัน

แต่แท้จริงแล้ว ใครจะใช้เทคโนโลยีไหน ขึ้นกับปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้น

ในระดับชั้นผิว

 ULTHERA คือ พลังงานเสียง ULTRASOUND

THERMAGE คือ พลังงานคลื่นวิทยุ MONOPOLAR RF 

ทั้งสองปล่อยพลังงานความร้อนเหมือนกัน แต่เป็นความร้อนที่กระจายต่างกัน

จึงลงลึกสู่ชั้นผิวได้ไม่เหมือนกันผลลัพธ์จึงให้คนละอย่าง

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้ง 2 เทคโนโลยีให้จำง่ายๆ

ULTHERA เน้นยกกระชับหน้า ความหย่อนคล้อยรูปหน้า LIFTING

THERMAGE เน้นผิวแน่นกระชับ สลายไขมัน TIGHTENING

การจะเลือกเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งใน 2 เทคโนโลยีนี้

ต้องดูก่อนว่า การจะให้ผิวแน่น ยกกระชับ

มันเกิดจากปัญหา ผิวสองชั้น

1.คือ ชั้นหนังแท้ ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนอิลาสตินถ้าส่วนนี้มีเยอะมันจะผิวแน่นเด้ง

2.คือ ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นตัวยกหน้าขึ้น และเราสามารถดีไซน์ยกหน้าในรูปแบบต่างๆได้

ชั้นกล้ามเนื้อมี 2 กลุ่มกลุ่มดึงหน้าขึ้น และ กลุ่มดึงหน้าลง

กลุ่มดึงหน้าลง เราทำให้อ่อนแรงลงโดยการฉีดโบทูลินูมทอกซินก็คลายได้ มันก็จะถูกดูดึงขึ้นไป

หรือ เราใช้วิธีทำให้กล้ามเนื้อทั้งหมดหดตัว ก็จะทำให้หน้าดูยกขึ้นไปได้

 

 

ถ้าเราเลือกยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด แต่เลือกใช้เทคโนโลยี มันจะเข้าไปดูแลและออกฤทธิ์

ที่ชั้นกล้ามเนื้อ (ยก) หรือ ที่ชั้นหนังแท้ (แน่น)

แน่นอนตอนนี้มีเครื่องมือเพียง 2 ชนิด ณ ปัจจุบันที่มีงานวิจัยรองรับมายาวนานคือ

คือ

ULTHERA  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อยกมากขึ้น

และ

THERMAGE  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

และ ทำให้อิลาสตินแข็งแรง ผิวจึงเด้ง แน่น

 

ความร้อนของULTHERA ลงได้ลึกมากกว่า THERMAGE [RF]

ดังนั้นจะเห็นว่าลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ

และ ถ้าเทียบกับการศัลยกรรมดึงหน้า SURGICAL FACELIFT ในส่วนของ

ULTHERA จะเข้าไปดูแลในส่วนกล้ามเนื้อ เหมือนกับการดึงหน้า

แต่จะให้เรียบตึงเท่าดึงหน้าคงไม่ใช่ ดึงหน้าเข้าไปดึงทันทีที่ชั้นกล้ามเนื้อให้ตึง

อย่างที่บอกเวลาเราแก่ มันแก่ลึกถึง 5 ชั้น ดังนั้น

ความร้อนที่ได้จาก ULTHERA จะได้ผลในเรื่องการดูแลผิวบางชั้น

ให้ได้ผลประโยชน์ด้วย เช่นถ้าความร้อนลงไประดับชั้นไขมัน

ก็อาจมีเซลล์ไขมันตายสลายไป

 

 

การปล่อยพลังงานของ ULTHERA 

ความร้อนจะมาเป็นเส้นๆ เราเรียกว่า LINE เป็นคล้ายจุดไข่ปลาเรียงกัน

ซึ่งมีระยะห่างระว่างจุด

ปล่อยลงลึกมาโดนบริเวณแถวเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ พอโดนกล้ามเนื้อก็หดไป

เนื่องจากถ้าปล่อยให้กระจายทั้งหมด หน้าจะแข็งและเกร็งไม่ธรรมชาติ

เราจะนิยมยกโครงกรอบหน้า ผิวแก้มที่ห้อยย้อยเป็นกระเปาะ ยกหน้าผาก คิ้ว หางตา

ลำคอ ผิวที่เนินอก

 

การปล่อยพลังงานของTHERMAGE 

ความร้อนจะกระจายกว้าง ละเอียด ลงโดนทุกคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

ลงถี่รักษาเต็มทุกพื้นที่ 100%

ทำให้คอลลาเจนแข็งแรงขึ้นฉับพลัน หดตัว และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

เราจะนิยมใช้ดูแลปัญหาผิวที่คอลลาเจนเสื่อม หรือ

ทำล่วงหน้ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อชะลอวัย

ทำให้ผิวหน้าแน่น ใบหน้ากระชับ เซลล์ไขมันตาย ดูหน้าเข้ารูปขึ้น

 

 

 

ดังนั้นดูปัญหา ที่เกิดตามจริง แล้วเลือกให้เหมาะสม

เช่น

เหมือนตอนวัยรุ่นผิวเรายังไม่คล้อย ทาครีมก็พอ ก็ดูแลบำรุง

ผิวชั้นหนังกำพร้าให้มีริ้วรอยช้า

พอเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผิวเริ่มห้อยคล้อย มีเหนียง ไขมันเยอะๆ

THERMAGE ก็อาจจะเหมาะ

พอเริ่มสูงวัย ใบหน้ากล้ามเนื้อหย่อนลงมา รูปหน้าเสียทรง

เราก็มายกด้วย ULTHERA

ดูแลทุกชั้นไปในแต่ละช่วงวัย และ ปัญหาผิว

ทำให้ทุกชั้นได้รับการดูแล เราจึงดูอ่อนวัยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ

 

อ่านกลไกการทำงาน THERMAGE ต่อได้ที่

LINK 1

LINK 2

บรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ

 

 

 

สำหรับการดูแลผิวพรรณ รูปหน้า ตลอดเกือบ8ปี iskycenter

ดูแลทุกอย่างมาตลอด

และคุณหมอเอิ๊กมีหลายท่าน ขึ้นกับว่าหาด้านไหน ฝ้า กระ

แผลผ่าตัด รอยดำ เซลล์ลูไลท์

โบทูลินัมทอกซิน ฟิลเลอร์ สิว กำจัดขน ลบรอยสัก ทรีทเมนท์

ledฉายแสง แผลหลุม

หน้าแพ้เครื่องสำอาง ปรุงครีมทาหน้าส่วนบุคคล

ตรวจสภาพผิว ลดไขมันหน้าท้องและขา

เลเซอร์หน้าใส ยกกระชับหน้า ฯลฯ

(ด้านบนคือรายการที่เคยทำมาทั้งหมด☺️)

(เอิ๊กไม่เคยศัลยกรรมบนใบหน้า)

#จะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนและเทคโนโลยีความงามมากกว่า

 สำหรับการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้า Anti-aging เอิ๊กจะหา

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

ท่านเดียวเท่านั้น

เพราะท่านเก่งเรื่องวิจัย

เป็น INTERNATION SPEAKER ที่อัพเดท

และ บินไปให้ความรู้เทคนิคกับแพทย์ผิวหนังต่างชาติตลอดเวลา

รวมถึงคุณหมอยังเป็นอาจารย์แพทย์ผิวหนัง

และ เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งผิวหนังด้วย

บทสัมภาษณ์ที่ทุกคนได้อ่านอยู่นี้

เป็นการสัมภาษณ์มาจากคุณหมอค่ะ

 

 

 

ด้านล่างจะแบ่งเป็นการรีวิวULTHERA vs THERMAGE  ทั้ง 2 ส่วน

บทความนี้ใช้เวลาเก็บผลเกือบ 2 ปีเต็ม

 

 รีวิว THERMAGE

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 29 นะคะ จะครบ 2 ปีแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีปัญหาอะไรชัด

แต่งานวิจัยบอกให้เราทำทุกปี หรือ ทุก 2-3 ปี จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

และ ทำให้ใบหน้าเราเด็กลงจริง

ทำทั้งหมดจำนวน 1200 SHOTS ทั้งใบหน้าและลำคอ

ราคา 150,000 กว่าบาท

ดวงตาทำไปก่อนหน้านี้ ราคา 35,000 บาท จำไม่ได้ว่ากี่ SHOTS

รูปก่อนทำในวัย 29 ปี ก็จะมีแก้มที่ยุ้ย ก็หวังว่าหน้าจะเล็กลงเป็นผลพลอยได้

แต่ในใจอยากได้แค่สะสมการสร้างคอลลาเจนไปเรื่อยๆทุกๆปี


 

เราจะเริ่มกันด้วยการทายาชาทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 45 นาที เพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บที่เกิดขึ้น

 

 

ตอนนั้นเจ็บมาก รู้สึกว่าเป็นคนถ่ายเอง แต่ลืมถ่ายรูปเครื่องมา สามารถดูลิงค์ที่แปะให้

อ่านในกลไก การทำงานได้ค่ะ ถ่ายมาแต่อุปกรณ์ เป็นตัวเจล หรือ สารนำความร้อน

และ หัวทิปส์ 1200 SHOTS ที่ใช้ในการยิง ยิงเสร็จทิ้งเลย แพงที่หัวจริงๆ

 

 

คุณหมอจะเริ่มหนึ่งข้างก่อน ความร้อนจะทำให้ผิวด้านบนอมชมพูถามว่า

ความรู้สึกเป็นยังไง เจ็บลึก ปวดลึก บอกไม่เจ็บก็ดูหลอกเด็ก

แต่บางคนคงทนได้ เอิ๊กสำออย55

 

 

 

ผลลัพธ์การทำครึ่งหน้า ร่องแก้มหายไปในบรรดล 6 เดือน ถึง 1 ปีเข้าที่

 

 

รูปนี้ทำเสร็จแล้ว 2 ข้าง กว่าจะจบ 555 เกร็งจนเพลีย ร่องแก้มหายวับเลย ตาดูยก คิ้วยก

 

 

และแล้วก็เดินทางมาครบ 1 ปี มาเผยให้ดูกันแต่ละจุด

หน้าผากเห็นเด่นชัดเลย คือ สภาพผิวเรียบลื่น ริ้วรอยคลื่นบางๆ หายวับไป ผิวดูแน่นขึ้น

 

 

ผิวบริเวณคาง ผิวแน่น ละเอียดขึ้นอีกเช่นกัน

 

 

ผิวบริเวณข้างจมูก รูขุมขนที่ตื้นขึ้น เล็กลง ผิวละเอียดใสสว่างขึ้น มันช่วยเรื่องผิวจริงๆ

 

หน้าตรงครบ 1 ปี

พลังงานความร้อนที่ใช้มีผล จำได้ว่าเอิ๊กทนไม่ได้มาก ดังนั้นอาจจะไม่ร้อนลึก

ถึงระดับชั้นไขมันมาก เลยรู้สึกว่าในส่วนความเรียวของใบหน้าอาจจะไม่ได้เห็นชัด

แต่แน่นอน ความร้อนระดับคอลลาเจนถึงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของริ้วรอยจางๆ

และ ผิวที่ดูกระชับ รูขุมขนกระชับ ผิวดีขึ้น ใสขึ้น แน่นขึ้น

 

 

ถามว่าจะทำต่อไปไหม ชัวร์โคตรโคตร เพราะว่ากระตุ้นคอลลาเจนเก็บสะสมไว้

หน้าจะเด็กยาวนาน

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวชัด กระชับ รูขุมขนแน่นขึ้น ริ้วรอยบางๆหาย

กระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว ส่งผลเรื่องความอ่อนเยาว์ใต้ชั้นผิวจริงๆ

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะเล็กลงเพราะเซลล์ไขมันบางส่วนตาย

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

 

ข้อด้อย

เจ็บอยู่เหมือนกัน

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 รีวิว ULTHERA

ซึ่ง MERZ AESTHETICS

คือเจ้าของเทคโนโลยี ULTHERA จากเยอรมันที่เข้ามาเปิดสาขาในไทย

ใครอยากรู้ว่าทำ ULTHERA ของแท้หรือเปล่าสามารถสอบถามได้ที่เพจนะคะ

https://www.facebook.com/MerzAestheticsThailand/

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 30 นะคะ จะครบ 1 ปีแล้ว มีปัญหาแก้มห้อยย้อย

ทำทั้งหมดจำนวน 400++ LINES ทำแค่ทั่วใบหน้า

ราคา 40,000 กว่าบาท

ULTHARA ได้รับการรับรองจาก USFDA ทางด้าน LIFTING

และเป็นเทคโนโลยีเดียวในการทำงาน ทำให้เราเห็นพลังงานULTRASOUND

ตลอดการทำ ว่าลงไปถึงชั้น SMAS ทุกไลน์จริงหรือเปล่า ให้ความแม่นยำ

เว็บไซด์ REVIEW ศัลยกรรมความงามชื่อดัง อย่าง REALSELF ก็เคยบอกไว้เลย

จาก 140 กว่ารีวิว ว่า คุ้มเงิน !!

 

 

การลงลึกของพลังงาน ถ้ามองให้ชัด ในหัวพลังงาน  4.5 ความร้อน

จะลงมาถึงเยื้อหุ้มกล้ามเนื้อ

ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว จึงยกผิวหน้า โครงหน้าขึ้นได้ เบอร์ 3-4-5

แต่ถ้าเรามีไขมันเยอะมาก พลังงานจะลงมายาก การใช้ THERMAGE อาจดีกว่า

 

 

การทำงานของ ULTHERA เราสามารถเลือกหัว เพื่อระดับความลึกของพลังงาน

ในการลงไปแก้ไขในระดับชั้นผิวที่เราต้องการได้อีก หัวมี 3 พลังงาน

1.5 / 3 / 4.5

 

 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนดีไซน์พลังงานให้เหมาะสมกับปัญของเรา

จุดไหนเป็นปัญหาต้องยิงเพิ่ม LINE

จุดไหนเก็บไว้ได้ ไม่ต้องยิงLINEเยอะ

ทุกอย่างอยู่ที่การประยุกต์ และ

ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์แต่ละท่าน

ระยะเวลาเห็นผลที่ดีที่สุด 6 เดือน

 

เราจะเริ่มจากการทายาชา เพื่อบรรเทาความเจ็บอีกเช่นเคย

 

 

นอนรอคุณหมอ แล้วก็ทำใจไปพลางๆ ไม่แน่ใจว่าจะเจ็บแค่ไหน

 

 

ตัวเครื่อง ULTHERAและอุปกรณ์รวมถึงเจลเพื่อป้องกันความร้อนเบิร์นผิวด้านบน

 

 

เครื่องจะถูกตั้งค่าเป็น 0 ระบบฉลาดมาก บันทึกชื่อคนไข้ คราวนี้ทำอะไรไป

คราวหน้าจะได้วางแผนถูก และ ใบบันทึกผลการรักษาว่าเราจะใช้กี่ LINE ในบริเวณไหนบ้าง

 

 

คุณหมอจะทำทีละครึ่งหน้าเช่นเดิม และ คุณหมอจะชวนคุยเพลินๆให้ลืมความเจ็บแต่ว่า

ไม่ลืมเลยค่ะ ความรู้สึกเจ็บอันนี้เหมือนหนังยางดีดรัวๆ ลึกๆ เจ็บลึกๆ

ทนได้ 400 กว่าครั้งเท่านั้นตอนแรกว่าขอเยอะๆ เอาแบบเต็มสูบเลยค่ะคุณหมอ

จบชีวิตตั้งแต่ 300 LINES มันสุดยอดมาก 5555555

 

 

 

ULTHERA เป็นเทคโนโลยีเดียว ที่มีหน้าจอให้มองเห็นถึงพลังงานในขณะทำ

ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเราจะแก้ปัญหาผิวจริงจัง เราต้องรู้ให้ได้ว่าที่

จ่ายตังค์ไป มันคุ้ม เราได้อย่างที่เราอยากได้ 100% รึเปล่า

ไม่ยังงั้นจะได้ผลลัพธ์ได้อย่างไรเราจะเห็นพลังงานที่ลงไปตลอดเวลา

อย่าง ULTHERA หัว 3 หัว เวลาพลังงานลง เราจะเห็นพลังงานลงไป

ในรูปแบบนี้เลย

 

 

เพราะถ้ามีข้อผิดพลาด เช่น เจลปกป้องผิวทาน้อยไป ผิวด้านบนไหม้แน่นอน

หรือ พลังงานลงไม่ถึงชั้นที่ต้องการ

 

 

หัวที่เอิ๊กใช้วันนี้มี 2 หัว คือ 3 และ 4.5 คุณหมอเป็นคนดีไซน์ LINE ว่าจุดไหนควรใช้หัวไหน

อีก1ปัจจัย คือ เรื่องของระดับพลังงานที่ปล่อยความร้อน ยิ่งสูงยิ่งได้ผลดี

แต่ร้อนอาจจะเจ็บมาก อีกวิธีคือใช้ LINE เยอะหน่อย ปล่อยระดับพลังงานที่ทนได้

ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน เป็นเรื่องความร้อนสะสม แต่ข้อเสียคือเพิ่มเงิน เพิ่มLINE

 

 

จบแล้วคุณหมอจะบันทึก LINE ในแต่ละจุดลงในเอกสาร

และดูหน้าจอ จะมีชื่อแพทย์ ชื่อคนไข้

สรุปจำนวน LINE ให้เห็นชัดเจน ทำจริง เจ็บจริง ลงจริง ไม่โกง 55555

 

มาถึงผลลัพธ์ ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน และ 8 เดือนนะคะ

 

 

คลิกที่รูป 2 รอบ เพื่อขยายดูนะคะ เรามาดูที่ 3 เดือนแรกกันก่อน

หน้าตรงจะเห็นว่าเอิ๊กมีกระเปาะแก้มย้อยลงมาตามวัยหลังทำเดือนนึงยังไม่ค่อยเข้าที่

แต่ก็เริ่มยกละ เดือน3อาจจะประกอบกับฉีด DIAMOND TOXIN ให้ใบหน้าเรียว

ช่วงนี้ใบหน้ายกกระชับ มลได้รูปแบบเห็นได้ชัด ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้น

ด้านข้างจะเห็นผิวลำคอยกสูงขึ้นเช่นกัน

เหนียงเล็กๆเว้าไป จริงๆ 3 เดือนคนทักละ หน้าฟีบ นึกว่าไปทุบหน้าเกาหลีมา

 

 

เดือนที่ 8 ต้องขออภัย หน้าดูบวมๆ อวบๆ เพราะน้ำหนักขึ้นมา 3 โลแต่ให้ดูความยก

หน้าตรง จะเห็นว่ายังมล ได้รูป ไม่มีกระเปาะแก้มห้อย ร่องแก้มยกสูงขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้ามุมมองจากด้านข้างเห็นเลยหน้ายกขึ้น มุมเนื้อแก้มแฟบไม่เกยจมูก

ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้นเล็กน้อย เหนียงอาจจะเริ่มมานิดๆเพราะอวบขึ้น 5555

อีกอย่าง ไม่ได้ทำคอ ทำแค่ใต้ใบหน้าเล็กน้อย นี่ถ้าทำคงยกกระจาย

คุณหมอบอกว่าคอเจ็บมาก เลยขอทูลลาคุณหมอก่อน ไม่ไหว

 

 

หลังทำ ULTHERA อาจจะมีอาการรู้สึกบวมใต้ผิว บางคนรู้สึกกดเจ็บนิดๆ

บางคนก็ไม่บวมเลย ดีงาม แต่ของเอิ๊กเหมือนคนผ่าฟันคุดมา

เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ .. เฉลี่ย 2 อาทิตย์จะค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

ผ่านไป1อาทิตย์ เอิ๊กพบว่า การใช้มาส์คหน้า ที่ดูแลเรื่องหน้าเรียวแบบที่ใส่อยู่

หรือ จำพวกเข็มขัดหน้าเรียว รัดไว้ที่ใบหน้าของตัวเองพบว่า

ใบหน้าเข้าที่เล็กลงเร็วขึ้นมาก (ทดลองส่วนตัวคนเดียว)

เพื่อนทักว่าผอมลงหลายคน เปล่าเลย หน้าเล็กลงต่างหาก

ผิวช่วงนั้นยังรู้สึกอักเสบเล็กๆ กดจะช้ำๆมันส์ๆ 555

 

 

เคล็ดลับในการทำ ULTHERA ของเอิ๊กคุณหมอจะดีไซน์ให้โดนไขมันน้อยที่สุดในช่วงแก้ม

ดังนั้นทุกคนจะยังเห็นเอกลักษณ์แก้มของเอิ๊กที่เห็นเหมือนเดิมอยู่

มันจึงต้องมีจอให้เห็นว่าพลังงานมันต้องถึง

ต้องเห็นพลังงานตลอดว่าไปแตะจุดกล้ามเนื้อรึยัง ไม่ใช่ไขมัน

ที่เราควรให้มันอยู่ ผิวจะได้ยังดูเด็ก สดชื่น มีน้ำมีนวล

เพราะอยากให้เอิ๊กเก็บแก้มธรรมชาติไว้ให้ยาวนานที่สุด ❤️

จะจ่ายเงินทั้งทีมันต้องคุ้มเพราะมันแพง


 

8 ปีที่ดูแลผิวด้วยเทคโนโลยีความงามหลากหลายรูปแบบ แต่ยังเก็บเอกลักษณ์

และ ชะลอวัยไปในตัว รูปหน้าอาจจะหดลงตามวัย เราก็พยายามเก็บบางส่วนไว้ให้ดีที่สุด

ตามคนอื่นมากก็ไม่ดี ความสวยอยู่ที่เรามอง แต่ความแก่เราดูแลได้ 🙂

ปีไหนเริ่มห้อย เรามาเจอกันใหม่นะจ๊ะ ULTHERA พี่ละอยากได้ยาสลบตอนทำจริงๆ55

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวยกชัดเจน กรอบหน้าละมุน ความคล้อย ห้อยหายไป

กระตุ้นคอลลาเจนบ้างเล็กน้อยที่พลังงาน 3

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะยกกว่านี้

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

มีจอให้เห็นว่าพลังงานลงจริง โดนจริง จ่ายจริง ได้จริงตลอดการทำ

 

ข้อด้อย

เจ็บจนร้องขอชีวิตสำหรับเรา

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 

 

ขอสรุปเป็นตารางในแบบประสบการณ์ตัวเองนะคะ

 

 

หวังว่าบล็อคนี้คงละเอียดพอให้กับคนที่ตัดสินใจอยู่ รู้ว่าเดินทางไหน

ไม่ก็ปรึกษาหมอค่ะ แต่เอิ๊ก อยากรู้เพื่อจะวางแผนของตัวเองและบอกเลย

พอได้ทำทั้งสองอัน เก็บผลมา 2 ปี มันเข้าใจกว่าที่เราฟังเยอะ

จึงแชร์แบบหมดเปลือกกับประสบการณ์ตรง

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และ บทความนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้

ถ้าไม่มีบรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์  ที่นำงานวิจัย

มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และ

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ที่ดูแล และ นั่งอธิบายทุกเทคโนโลยี

รวมถึงอัพเดทงานวิจัยความรู้ใหม่ๆให้เอิ๊กได้ติดตามและนำมาถ่ายทอดเสมอ

ขอบพระคุณคุณหมอ และ ขอบพระคุณ ISKYCENTER มากๆค่ะ

 

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว

เอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้แชร์เนื้อหาผ่านจากเว็บโดยตรง

และ ขอความกรุณา ไม่คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นค่ะ

วัน

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, RADIO FREQUENCY, SKIN, THERMAGE, ULTRASOUNDComments (0)

วันนี้ทาอะไรดี ? SKINCARE ROUTINE : EP1

วันนี้ทาอะไรดี : EP1


♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥
FULL HD เคลียร์ทุกรูขุมขน https://www.youtube.com/watch?v=Nap57XEUpqU SUBSCRIBE ดูวีดีโอก่อนใคร
ช่วงนี้ก็ปรับสกินแคร์ไปแบบตามใจ
คอนเซ็ปต์เดิม ผิวแข็งแรง ฝ้าจางลง ไม่มีสิว
คนถามมาเลยอัดมาสั้นๆ 1 นาที
Cleanser : Paula’s Choice Thailand
Eyes cream Paula’s Choice (Thailand) Co.,Ltd.
Treatment Gel : Auradiant Glow Radiant bootster
Lotion : Curel Thailand
Cream : Curel Thailand
Lip Balm : Vasaline
เกลียดการใส่คอนแทค และ ติดตาสองชั้น รวมถึงแผงขนตาสวยๆ
มันสวยนะแต่คนทำเลสิคมา มันโค ตะ ระ เคืองตลอดเว ทำเลสิคที่ SUPREME iLASIK CLINIC
นี่ติดยังไม่เก่ง ปรือได้อีก 5555555555

เลิฟ เลิฟ
Erk-Erk

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

รีวิว BEU อาหารเสริมกระชากวัย ปลอดภัย ไม่ศัลยกรรม

SPOTLIGHT

  • การดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ทำได้จริง มีหลายปัจจัย สำคัญคือดูแลแต่เนิ่นๆ
  • แสงแดด คือ จุดเปลี่ยนอย่างรุนแรงที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
  • สารต้านอนุมูลอิสระ จริงๆในตัวคนเรามีอยู่เพียงแต่มันอาจไม่พอ และน้อยลงตามวัย
  • การทานอาหารเสริมแต่ละครั้ง ผลขึ้นกับร่างกายแต่ละคนตอบสนอง
  • ทานอาหารเสริมช้ากว่าฉีด ค่อยเป็นค่อยไป

 

 

 

 

เอิ๊กเป็นคนดูแลตัวเองดีในระดับนึง มี 5 ให้ 3.9 ฮ่าฮ่า

ตกไปที่ชอบนอนเช้าทำให้ร่างกายผิวพรรณไม่ได้ซ่อมแซมเต็มที่

ดังนั้น การทำทุกวิธีทางเพื่อจะมารั้งไว้ ทำเกือบทุกทาง ขาดแค่พักผ่อน

นอกนั้นทำหมด ออกกำลังกาย ทานอาหารเสริมบ้าง ทาครีม เทคโนโลยีความงาม

กันแดดสุดๆ ไม่ดื่ม ไม่สูบ ในขณะเดียวกันด้วยความเป็นคนผิวแห้ง

ยอมรับว่า ริ้วรอยมาเยอะ ง่าย บริเวณที่แสดงสีหน้า

 

 

ส่วนช่วงเวลาที่เข้านอนจริงๆ คือ เช้า ทำให้ผิวที่มันน่าจะสมบูรณ์แบบกว่านี้

มันก็จะมีปัญหาที่ต้องดูแล เช่น รูขุมขน ริ้วรอย นอกนั้นชิว 🙂

 

วันนี้มา REVIEW อาหารเสริมอีก 1 แบรนด์ที่น่าสนใจ

แต่ยังลองไม่ถึงเดือนไม่งั้นคงเล่าได้อีกมาก เอาเท่าที่ได้ใน 2 สัปดาห์ก่อน

เนื่องด้วยอายุ มันอาจกินแล้วรอผลนานซักนิด ตัวนี่กว่าจะเริ่มรู้สึกปาไปเกิน 10 วัน

สำหรับ อาหารเสริม BE●U บียู ที่เคลมตัวเองว่าเป็น

อาหารเสริมที่รวมตัวระหว่าง ศาสตร์ชะลอวัย กับ ตำรับยาอายุวัฒนะ

คือเอิ๊กมองว่าภาพลักษณ์เขาดี เพราะเขาออกบูธตามรพ.ชั้นนำบ่อย และ

มีวางขายที่บางรพ. ถ้าผ่านการตรวจสอบความน่าเชื่อถือจากรพ.

ส่วนนึงเลยไม่มีความกังวลใจว่าแบรนด์ไม่โอเครึเปล่า เพราะเราต้องทานเข้าไป

สำคัญคือ เขาไม่ได้ผ่านแค่ อย.ไทย แต่ ผ่านของอเมริกาได้

เป็นความน่าเชื่อถือในคุณภาพก่อนลองมากกว่าปกติสำหรับเอิ๊ก

จากในทุกๆครั้งที่ผ่านมา

 

พอพูดถึงชะลอวัย เราจะนึกถึงอีกคำที่เกี่ยวข้องกัน คือ อนุมูลอิสระ

ซึ่งพูดให้เข้าใจ มันส่งผลถึงความเสื่อมสภาพของเซลล์เรา

เราจึงดูโรยรา ไม่ได้พูดแค่ผิว แต่เป็นทั้งในเรื่องสุขภาพ โรคต่างๆ

ร่างกายมันก็เสื่อมไปไวกว่าที่มันควรจะเป็น

 

 

อนุมูลอิสระเกิดจากอะไรได้บ้าง ?

เช่น

รังสีต่าง ๆ เช่น รังสียูวี รังสีเอกซเรย์ 

การสูดดมควันบุหรี่ การดื่มหนักๆ

มลพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น โลหะหนัก

การรับประทานอาหารที่ปิ้ง ย่างจนไหม้เกรียม

สารเคมีจากอุตสาหกรรม

ก๊าซโอโซนที่ถูกนำมาใช้ทางอุตสาหกรรมและเครื่องใช้ในบ้าน

ยารักษาโรคบางชนิด

ยาฆ่าแมลง

ความเครียด

อายุที่เพิ่มมากขึ้น

 

การป้องกันสารอนุมูลอิสระ ?

หลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ จากภายนอก เช่น

หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด มลพิษทางสิ่งแวดล้อม

ไม่สูบบุหรี่และเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่จากผู้อื่น

เลี่ยงอาหารที่ปรุงโดยวิธีปิ้ง ย่าง หรือเผาจนไหม้เกรียม

เลือกรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

รักษาภาวะอารมณ์

credit พบแพทย์

วันนี้อาจจะยังไม่ IN แต่ถึงวัยแล้วจะเข้าใจ 😩😫😖😔

สำหรับ BE●U ได้ทดสอบ 2 สัปดาห์ ผลเป็นยังไง กับสาววัย 30+ อย่างเรา

ตามมาเค่อะ


ด้านบนเป็นส่วนผสมบางส่วนที่มีใน BE●U นำเข้าจากฝรั่งเศส และ ญี่ปุ่น

 

แพคเกจสีชมพู เมทาลิค เอาตรงๆ มองแล้วรู้ว่าเกิดมาเพื่อผู้หญิง แกะออกมาจะเป็น

แคปซูลสีชมพูมุก 30 แคปซูล ราคาตกแล้วเม็ดละ 40 กว่าบาท กล่องละ 1200 บาท ++

เคยเห็นตอนช่วงโปร ราคาโปร โหดมาก ลดเหลือ เม็ดละ 20 กว่าบาท

 

 

 

เช้าแล้ว ได้เวลานอนพอดี คือจะบอกว่า ทานตอนเช้า ดูดซึมดีสุด และ จะบอกว่า

ได้ทานทุกเช้า ก่อนเข้านอน เวลานอนของเรา ไม่ดี อย่าเลียนแบบเวลานอนเรา 😳

ส่วนการทานอาหารเสริมให้ดี ศึกษาแต่ละแบรนด์ เขาจะมีช่วงเวลาที่เหมาะสม

คือ กินแล้ว ร่างกายดูดซึมดี นำไปบำรุงร่างกายได้ดี ส่วนตัวเอาไว้หัวเตียง

เห็นทุกวัน น้ำพร้อม 55555555

 

 

1-2 เม็ดต่อวัน นี่อัดสูงสุด 2 เม็ด ทุกวัน ช่วงเดือนนี้ จะเครียดง่าย ไม่ค่อยนอนเลยยอมรับว่า

การมีตัวช่วยเป็นเรื่องราวดีดี แต่ทางที่ดี ช่วยตัวเองนอนให้ดี มีความสุข ดีกว่า

บางวันก็ไม่นอนเลย ไปทำงานต่อ ยาวไป ทำแบบนี้จริงๆ

ไม่ได้ตั้งใจจะทดสอบอาหารเสริม แต่มันเป็นช่วงเวลาตอนนี้ที่กำลังพีค คือ ใช้ร่างกายหนัก

และ ก็ไปออกกำลังกายด้วยนะ ไม่ทิ้งซักอย่าง

 

 

30 เม็ดจะถูกเก็บรักษาอย่างดีในซองสีเงิน และ หุ้มด้วยแผงฟรอยเงินอีกชั้น

 

จะระบุวันเดือนปีที่ผลิตชัดเจน 

 

แกะออกมา 1 -2 เม็ด 

 

 

แล้วก็ดื่มน้ำตามให้มากๆ น้ำช่วยเรื่องผิว และ ระบบเผาผลาญด้วย

การทานตอนเช้าดูดซึมดี แล้วเราก็ทานอาหารต่อ อาหารเช้า จำเป็นมาก

เพื่อสุขภาพแบบองค์รวม และเพื่อระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีปกติ

 

BE●U  จะมีส่วนผสมบางตัวที่ช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ ยิ่งออกกำลังกาย

ยิ่งรู้สึกถึงผลได้ชัด ส่วนตัวสัปดาห์หลังไปออกกำลังกายติดกันหลายวัน

กินดุ แต่รู้สึกกระชับขึ้น ไม่ถึงกับผอม นน.ลงไรขนาดนั้น เพราะเพิ่งทาน

แต่เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้คาดหวัง แต่มันเห็นเอง เพราะเราออกกำลังกายอยู่แล้ว

เห็นชัดเลย นน.เราหนักขึ้นเพราะกล้ามเนื้อได้ แต่พอเราออกกำลังกาย ทานอาหารเสริม

ก็%ไขมันลง %กล้ามเนื้อเพิ่ม ในระยะเวลา 17/10-29/10 ซึ่งออกกำลังกายไปด้วย

มันก็ไม่ใช่แค่ความรู้สึก แต่วัดได้เลย

 

 

ส่วนผสมกดขยายรูปใหญ่ได้ คือ มองไปแล้วเห็นชัด ว่ามีช่วยในเรื่องต้านอนุมูลอิสระ

ความชุ่มชื่น ความกระจ่างใสของผิว มีตัวเด่นๆที่มีพวกงานวิจัยรับรองอยู่หลายตัว

เช่น สารสกัดจากเปลือกสน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดจากมะเขือเทศ วิตามินอี

ผงรำข้าว หลักเขาบอกว่าจะช่วยทั้งผลัดเซลล์ผิว ดูแลริ้วรอยบางๆให้ดูเต็มตื้นขึ้น

ลดพวกเม็ดสีเมลานินสีเข้ม จุดด่างดำ การเกิดใหม่ของกระ และ ฝ้าที่ดูจางลง

ผิวจึงดูชุ่มชื่น ยืดหยุ่นข้ึน และ แฝงมาด้วยผงมะนาว

มั่นใจมากว่าตัวนี้น่าจะใส่มาเพื่อช่วยเผาผลาญ

 

 

และ จะบอกว่า BE●U นำส่วนผสมมามาส์กหน้าได้ด้วยเพิ่งรู้

และ ขณะที่นั่งทำบล็อคนี้อยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ได้ลอง กลิ่นใช้ได้เลย ฮ่าฮ่า

ผลไว้มีโอกาสจะมารายงาน ตอนนี้ผสมกับ มาส์กครีมแล้วละเลงไว้อยู่ 1 เม็ดต่อครั้ง

รู้สึกตึงๆจริงๆ ระหว่างมาส์ก

ด้านข้างของกล่อง

ในท้องตลาด พวกอาหารเสริมต้านอนุมูลอิสระเยอะ เลยเข้าไปหาข้อมูล

ว่าทำต้องเป็น BE●U มีหลายข้อที่น่าสนใจ ส่วนตัวชอบที่มี USFDA ให้เรามั่นใจ

ทานแล้วก็บำรุงหลายจุด และ นำมามาส์กหน้าได้



 

สำหรับผลในการทดสอบ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเอิ๊กไม่มีปัญหาผิวหน้าใดใด

นอกจากความที่เป็นคนผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง เพราะนอนดึก

และ ด้วยคอลลาเจนที่ลดลงตามวัย

 

 

 

ภาพนี้ถ่ายจากเลนส์มาโคร ตัวเดียวกัน ปรับแค่สี ให้มีสีใกล้เคียงกันพอจะเทียบเคียงได้

ความเปลี่ยนแปลง จะบอกว่าเห็นผลช้ามาก คือ เริ่มจะเห็นชัดช่วงวีคที่ 2

ความแข็งแรง : ช่วงวีค 2 ผิวตอนนั้นคือเป็นประจำเดือน

จะต้องแย่ รับครีมไรไม่ได้ อ่อนแอ

แต่ไม่รู้สึกว่าอ่อนแอ รู้สึกว่าแข็งแรง ผิวอิ่ม

ชุ่มชื่น ทาทุกอย่างได้ตามปกติ ไม่มีสิวขึ้นหน้า

สีผิว : ดูไม่ต่างเรื่องความกระจ่าง

แต่รูสึกได้ถึงความมีเลือดฝาดดูระเรื่อเล็กน้อย

ความชุ่มชื่น : อันนี้เห็นชัด ดูมีความชุ่มชื่นตั้งแต่หน้าผากลงมา

แก้ม และ คาง ดูผิวอิ่มน้ำ

รูขุมขน : สำหรับ 2 วีคของเอิ๊กยังไม่ได้ช่วยอะไร และ

เอิ๊กคิดว่าถ้าปัญหานี้เอาจริงๆด้วยวัยอาจจะยาก

และ การนอนของตัวเอง

ความสม่ำเสมอของสีผิว : ดูกลมกลืนขึ้น 5-10%

ส่วนร่างกาย เรารู้สึกเองว่าถ้าออกกำลังกาย

เรารู้สึกเฟิร์มดีขึ้น  แต่ถ้าปล่อยตัว เราเฉยๆ

ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นกับบุคคล และ อีกอันที่รู้สึกได้

ไม่โทรมทั้งที่นอนเช้าทุกวัน ย้ำ !!!

 

 

อย่างที่บอกการดูแลตัวเองของแต่ละคน มันมีหลายมิติ

ยุคนี้ไวในเรื่องมีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก สำคัญสุด ความปลอดภัยให้นำ

และ การจะพบความปลอดภัย ก็ต้องดูข้อมูลความน่าเชื่อถือก่อน

 

ช่วงนี้ไปค้างไหน ก็จะไม่ลืมพกไป เดี๋ยวขาดตอน และ แอบโทรม

 

 

ข้อดี

ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย มาตราฐานไทยและเทศ

คุณภาพดี แต่บางคนต้องใช้เวลาให้มันออกผลหน่อย

รู้สึกชัดมากคือความชุ่มชื่น ผิวแข็งแรงขึ้น

และ ไม่โทรม ออกกำลังกายจะเฟิร์มดี

รอจัดโปร ราคาสบายกระเป๋า

มาส์กหน้าได้ไปอีกกกกกก 2 IN 1

ทานได้ต่อเนื่อง ไม่มีผลข้างเคียง

 

ข้อด้อย

หาซื้อยังไม่ง่าย ห้างไม่มี

กลิ่นเวลามาส์กหน้านั้น รัญจวญ อิอิ สวยทนได้

 

ไปตำได้ที่ไหน eveandboy และ www.beubeautyofficial.com

 

🌸 ข้อมูลเพิ่มเติม 🌸
Facebook: www.facebook.com/beubeautyofficial
LINE: @beubeauty (มี @ ด้านหน้าด้วยนะคะ)
Website: www.beubeautyofficial.com

 ปีนี้อยากเรียนรู้ หรือ ทดลองอะไรที่กระชากวัยแบบไม่ศัลยกรรมเยอะๆ

รู้สึกแค่ว่า ตอนนี้อายุไม่สามารถทำร้ายอะไรมนุษย์ได้อีก ถ้าดูแลตัวเองดีดี

ถ้าเจอไรดีดี แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ จ๊วบ

Posted in REVIEW, SKINComments (0)

PREVIEW : AMONสกินแคร์ผิวขาวจากมหัศจรรย์ของปอสา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

img_1869

” ผิวขาวกระจ่างการันตีเห็นผล

ด้วยมหัศจรรย์ของ ปอสา 

นี่เป็นคำที่แบรนด์ AMON ได้บอกไว้ กับ จุดเด่นที่นำสารสกัดจาก “ปอสา”มาใช้ทำสกินแคร์

แบรนด์ไทยแบรนด์แรกในชีวิตเอิ๊กที่เขาได้กล่าวไว้เลยชัดเจนว่าจะทำแบรนด์นี้ให้ GO INTER

ดีใจที่ได้รับเกียรติให้ทำ REVIEW เป็นคนแรกๆของไทยก่อนดัง อิอิ 🙂

อมล ตั้งใจปั้นแบรนด์เพื่อส่งเสริมอาชีพคนไทย และ เตรียมส่งออกโดยเฉพาะ

วันนี้จะมา PREVIEW แบรนด์นี้ให้รู้จักกัน

ปอสา คือ อะไร ? 

ปอสาเป็นพืชเส้นใยชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลเดียวกับหม่อนและขนุน

มีชื่อเรียกกันหลายชื่อแล้วแต่ท้องถิ่น เช่น ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ

เรียกปอสา ปอกะสา ภาคตะวันตก เรียก หมอพี หมกพี ภาคใต้เรียก ปอฝ้าย 

 

วิสัยทัศน์ของแบรนด์ “อมล” “AMON”

ค่อนข้างชัดเจนมากสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

ที่อยากสนับสนุนช่วยในเรื่องการสร้างอาชีพให้คนไทย

และ

รู้สึกปลื้มใจแทนคนไทย สำหรับแบรนด์นี้ที่จะนำคุณค่า “ปอสา”ไปสู่ตลาดโลก

 สำหรับสกินแคร์ตัวแรกที่เขาออกเป็น INTENSIVE WHITENING SERUM นะคะ

ซึ่งความขาวเน้นในเรื่องยับยั้งในการก่อตัวของเมลานินเลย ดังนั้นไม่ใช่การผลัดเซลล์ผิว

จะขาวแบบสุขภาพดี และ เข้าถึงตัวการโดยไม่ได้ทำให้ผิวบาง ซึ่งความอยากขาว

ไม่ได้มีเฉพาะแค่คนไทย ประเทศจีน ประเทศเกาหลี ประเทศดูไบ ฯลฯ

นิยมสกินแคร์ที่ทำให้ผิวขาว ซึ่งตอบโจทย์มาก ในการก้าวสู่ตลาดโลก

ขวดนึงขนาด 30 มิลลิกรัม จะขายอยู่ที่ราคา 1,280 บาท

แบรนด์ Amon ใช้สารสกัดจากปอสาเพราะว่ามีฤทธิ์ทำให้ผิวขาวใสกว่าวิตามินซี 200เท่า

สำหรับทุกคนที่มีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องจุดด่างดำ หรือ อยากให้ผิวขาวขึ้น แต่ต้องการความเป็น

สารสกัดจากธรรมชาติ100% ปลอดภัยไร้สารเคมี ไม่ทำลายผิวในระยะยาว 

ซึ่งแบรนด์นี้ได้ผ่านการทดสอบได้รับการรับรองจากนักวิจัย

และ มีนายกสมาคมเครื่องสำอางค์เป็นที่ปรึกษา

ในกระบวนการผลิตของ อมล เขากล่าวไว้ว่า

สำหรับการคัดเลือกวัตถุดิบจากธรรมชาติเขาจะใสใจในทุกขั้นตอน 

ตั้งแต่การปลูกด้วยวิธีออร์แกนิค  จนถึงขั้นตอนนำวัตถุดิบมาสกัด

และ ผสมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อประสิทธิภาพ สูงสุด

 

 Amon Intensive Whitening Serum ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ 100%

ปอสา : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ 

ผักบุ้งทะเล : ปลอบประโลมและลดการระคายเคืองของผิว

สารสกัดขมิ้น : ผลัดเซลล์ผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างอ่อนโยน

น้ำมันสกัดจากดอกไม้ธรรมชาติ : ช่วยผ่อนคลายผิว

หัวหอมใหญ่ : ช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง

ใบงาขี้ม้อน : เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง

 

14 วันเห็นผลในเรื่องของผิวที่ขาวขึ้น เปล่งปลั่ง รวมถึงริ้วรอยดูจางลง

เขาบอกไว้ แบบนี้

ด้านล่างเป็นหลักการทำงานของผิวเรา กับ สารสกัดที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน

ได้เวลาเปิดตัวของจริงแล้ว

ความประทับใจตั้งแต่แรกเริ่ม มาเป็นกล่อง MOCK UP สวยหรูดูแพง และ ไฮโซมาก

เป็นขวดปั้ม สีขาวด้าน เขียว เงิน ดูหรู

 

“PAPER MULBERRY” คือชื่อภาษาอังกฤษของ “ปอสา” นะคะ

 

 

 

มาชมหน้าตากันเต็มๆ ชัดๆ ขวด และ กล่องของ AMON 30 ml.

 

 

สำหรับขวดหน้า – หลังขวด และ ตอนเปิดฝาจะเป็นแบบนี้นะคะ

ด้านหลังก็บอกเลยว่าขวดนี้เป็นเซรั่มที่เน้นความขาว กระจ่างใส และ ให้ความชุ่มชื่น

 

 

บริเวณกล่องทั้ง 4 ด้าน ระบุชัดเจน เจ้าของคิดว่าเป็นเจ้าของไร่ปอสาเลยทีเดียว

จากด้านหลังกล่องที่บอกไว้ ที่มาของ “ปอสา” ที่นำมาใช้ คือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือ

ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่ใช้ ก็มีแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญดูแล และ รับรอง

 

มีเลข อย. ที่จดทะเบียนเรียบร้อย

สำหรับจุดที่อยากให้ดูเพิ่มเติมเป็นเรื่องของส่วนผสม

สารสกัด ACTIVE อยู่ลำดับต้นๆเลย จัดเต็ม สำหรับเรื่องกลิ่นเขาจะใช้กลิ่นของดอกไม้

ยังไงก็แล้วแต่คนที่แพ้น้ำหอม อยากให้ทดสอบดูก่อน รวมถึงแอลกอฮอล์เล็กน้อย

ส่วน ACTIVE ที่ให้ความชุ่มชื้นก็มาเต็ม

 

 

เวลาจับขวดจะประมาณนี้บนฝ่ามือนะคะ

เนื้อครีมสีเหลืองธรรมชาติ

ขอลองเนื้อผลิตภัณฑ์บนหน้าให้ดู

เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้นนะคะ ทาแล้วรู้สึกชุ่มชื้น เกลี่ยง่าย แล้วก็ค่อยๆซึม

 

 

อารมณ์แบบนี้เลย เป็นเซรั่มเข้มข้นสีทาแล้วเป็นคล้ายเจลชุ่มฉ่ำ

 

 

หลังทาทันทีบอกเลยว่าผิวจะนุ่มแบบนิ่มเลย รู้สึกได้แน่นอน

รูปไม่ RETOUCH นะคะ

ใครลองจริงจังแล้วบอกกันบ้างนะ

 

วันนี้มา PREVIEW ให้เห็นหน้าตา และ เนื้อผลิตภัฑณ์ ให้รู้จักกันแค่นี้ก่อน

img_1868

 

ใครใช้แล้วเป็นอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังด้วย

Posted in PREVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

REVIEW AURADIANT ทรีทเมนท์หน้ากระจ่างใส ลดอุณภูมิใต้ผิว

 

SPOTLIGHT

  • ทุกสีผิวมีความงามในแบบตัวเอง
  • ผิวสีอ่อน เกิด ฝ้ากระ จุดด่างดำง่ายกว่า
  • ผลิตภัณฑ์ WHITENING ทุกชนิดควรใช้คู่กันแดด
  • ผิวขาวขึ้นได้แบบปลอดภัย ถ้าเรามีวินัยและหลบแดดด้วย
  • บางคนมีเม็ดสีน้ำตาลใต้ผิวเยอะที่รอวันผุดออกมา
  • การดูแลผิว ดูแลแต่เนิ่นๆดีสุด

 

ผู้หญิงแบบ AURADIANT

คือ ผู้หญิงที่สวยและมีออร่าในแบบฉบับของตัวเอง

ร่าเริง สดใส WORK HARD PLAY HARD

รู้คุณค่า และ มีความสุขกับการเป็นของตัวเอง

เป็นคนที่รัก และ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและคนรอบตัว

 

 

ฮัลโหลวววว !! มาแล้วรีวิว AURADIANT

ทรีทเมนท์หน้ากระจ่างใสเย็นสบายลดอุณภูมิใต้ผิว

ออกแบบมาเพื่อดูแลปัญหาผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดด

ภาวะความเครียดของผิวระหว่างวัน

การอักเสบของผิวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รอยแดงดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

รวมถึงชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระในแต่ละช่วงวัย

พร้อมปกป้อง DNA ในเซลล์ผิวไม่ให้เกิดการถูกทำร้ายจากรังสี UV

ฟื้นฟูผิวให้กลับมา สุขภาพดี แข็งแรงขึ้น และกระจ่างใสสี ผิวสม่ำเสมอ

ต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญ ต้องอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ปลอดภัย

 

เพราะหนึ่งในเจ้าของแบรนด์มีผิวชอบที่ชอบงอแง ไม่แข็งแรง และ แพ้ง่าย

สำหรับหุ้นส่วนเอิ๊กหลายคน หน้าเนียนใสอยู่แล้ว แต่อาจจะขาดความไบร์ท

 ชอบมีผื่นแพ้ ผิวอักเสบง่าย จากอากาศร้อน ความเครียด และนอนกันดึกมาก

มันเลยมาลงตัวแบบพอดีในการที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์มาให้ตรงใจทุกคน

และ แก้ปัญหาจากเราผู้คนที่พบเจอปัญหาผิวพวกนี้ด้วย

ดูสูตรปรับสูตรกันมานานมาก จน HAPPY ดีที่สุด ชอบที่สุด

 

 

 

ทดสอบเอง พบว่าผิวขาว สุขภาพดีขึ้น และ ลดอักเสบได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง

รูปจากมือถือไม่รีทัชค่ะ

 

AURA = ผิวเปล่งประกาย มีรัศมี

RADIANT = ผิวเปล่งปลั่ง สุขภาพดี

ที่มาของชื่อ AURADIANT

เอิ๊กมองว่าทุกคนเป็นเจ้าของผิวที่สุขภาพดีและเปล่งประกายได้

โดยไม่ได้ขึ้นกับสีผิว ทุกสีผิวมีความงามเฉพาะในแบบของตัวเอง

 

 

 

เราขอสารภาพตามตรง รูปทั้งหมด เราไม่ได้รีทัชนะคะ

รีวิวสกินแคร์ทุกชิ้นที่ผ่านมา

เราอยากรีวิวให้เห็นผิวจริงอาจจะดูไม่เนียนตาเท่าไหร่

เห็นปากเยินนิดนึงต้องขอประทานอภัย

 

 

วิธีการใช้แบบวีดีโอ อันนี้เป็นหน้าตาแพคเกจเก่าซึ่งมันสวยมากตอนเลือก

แต่ใช้ไม่ค่อยสะดวก เราเลยปรับปรุงพัฒนาโดยด่วน

ใครมีคำติชม เราน้อมรับทุกความคิดเห็นส่งข้อความตรงได้ที่นี่นะคะ

LINE

FACEBOOK

 

ส่วนตัวเป็นคนชอบทำทรีทเมนท์ที่ศูนย์ความงามอยู่แล้ว รู้สึกผิวได้รับวิตามินเต็มที่

จากเครื่องผลักที่เปิดประจุไฟฟ้าให้กับผิว ทำให้พวกวิตามินบำรุงต่างๆลงลึกกว่ามือทา

หลังทำเสร็จขาวใสทันที เหมือนออกซิเจนมันไปเลี้ยงผิว หน้าดูอิ่มน้ำแต่ไม่มัน

มีความสุขหลังทำมากเลย เป็นคนชอบมาส์คหน้า เพราะบางครั้งครีมก็แก้ปัญหา

ไม่ทันใจภายในหนึ่งคืน ก็จะมีตัวช่วยพวกนี้ติดบ้านเสมอ

ที่ผ่านมามีทุกรูปแบบ แต่ไม่ว่าจะใช้แบบไหนต้องเลือกอ่อนโยนเพราะแพ้ง่าย

 

 

การพัฒนาสูตรเน้นให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิวคนไทย

อากาศเมืองไทย  ซึ่งแดดบ้านเราแรง

เรามีภาวะความเครียดที่ส่งผลต่อผิวตลอดเวลา ไม่ว่าเรามีสีผิวแบบไหน

เราก็อยากให้มันดูไบรท์ ดูใส ดูเนียน ดูขาวขึ้น ปกติเอิ๊กไม่อินกับความขาว

แต่ตัวเองก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์พวก WHITENING เพราะใต้ชั้นผิวมีเม็ดสีเข้ม

เตรียมผุดมารอขึ้นเพิ่มตลอดเวลา เราจะมีฝ้าบางๆ ก็ต้องคอยดูแลให้มันจางและเลือน

ในการทดสอบเอิ๊กจะไม่ทานอาหารเสริมและใช้แต่ AURADIANT เท่านั้นทั้งเซ็ทโดยเฉพาะ

GLOW RADIANT BOOSTER เราลองใช้เน้นบำรุงผิวหน้าได้ทุกวันเลย

หลักคือมันอ่อนโยนมาก แต่มันสามารถ ลดการอักเสบ

ช่วยผลัดเซลล์ผิว และ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น

มันไม่มีน้ำหอม ไม่มีสี ไม่ใส่กลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ และให้คนลอง

เยอะมาก โดยเฉพาะคนที่แพ้อะไรมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็พบว่าคนที่แพ้เกสร

ก็ไม่เหมาะ เพราะ % สารสกัดจากลิลลี่ฝรั่งเศสสีขาว เราใส่ MAXIMUM DOSE

ที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด เน้นอ่อนโยนแต่เห็นผล และมาในรูปแบบนวัตกรรมสกัดเย็น

ให้คงคุณค่าของส่วนผสมที่สุด

 

AURADIANT WHITE SHOT คือ ทรีทเมนท์สูตรลดอุณหภูมิใต้ผิว

เอิ๊กลองจนรักมัน อินกับมัน เห็นผลที่ใช่กับมัน ลองกับเพื่อนๆพี่น้องทุกสภาพผิว

ว่า การลดอุณหภูมิใต้ผิวได้ด้วย ขาวขึ้นด้วย ลดอักเสบด้วย มันจะออกมาเป็นยังไง

สูตรที่ทำขึ้นมานี่มันจะพิเศษอีก 2 จุดคือ ส่วนผสมหลายตัวมาก เป็นส่วนผสม

ที่เอิ๊กโปรดปรานจากสกินแคร์หลากหลายแบรนด์ที่เอิ๊กลองแล้ว รักเลย ผิวมันอิ่มฟู

เป็นส่วนผสมที่เอิ๊กเอาหน้าตัวเองทดสอบมาเกือบ 10 ปี มีวิจัยหลายตัวในเรื่องผลทดสอบ

มันคือ THE BEST สำหรับเรา เราจึงเลือกให้มาอยู่ในสูตรแบรนด์นี้ของเรา

อีกจุดคือเราอยากให้มันเข้มข้น ซึมได้ลึกกว่าปกติ เราจึงเลือก 3 เทคโนโลยีให้เข้ามาอยู่

ในทรีทเมนท์ส่วนนี้ด้วยนั่นคือ เทคโนโลยี ENCAPSULATION

NANO TECHNOLOGY และ LIPOSOME

เพื่อให้ทำหน้าที่เก็บสารสำคัญเพื่อให้เข้าไปดูแลปัญหาผิวได้ลึกยิ่งขึ้น

มันจะไม่ใช่แค่พอใช้ครั้งแรกดีขึ้นแล้วจบกัน แต่ถ้าใช้ต่อเนื่องจะดูแลผิวให้ดียิ่งขึ้นไป

มันต้องปลอดภัย แพ้ง่ายใช้ได้ ส่วนตัวเอามาทาใต้ตายังได้

แต่ไม่แนะนำ เว้นรอบดวงตาดีกว่า 🙂

ทดสอบมาทั้งหมด เปลี่ยนที่ เปลี่ยนสูตร รวมเวลาเกือบปี สำหรับการตัดสินใจ

ที่จะเป็นตัวนี้ อย่างที่ทุกคนได้ลองกัน และ ก่อนออกก็ทดสอบเพิ่มเติมไม่รับงานแบรนด์

ไหนเลย เพื่อตั้งใจทดสอบซ้ำอีกครั้ง ว่าผลมันยังเหมือนเดิมอยู่ไหม

ต้องบอกก่อนว่าในรูป สัปดาห์ที่ทดสอบ จะใช้ AURA WHITE SHOT ที่เป็น

ทรีทเมนท์สูตรเย็นลดอุณหภูมิใต้ชั้นผิว 2 ครั้งติดต่อกันใน 1 สัปดาห์

เคยใช้มากสุด 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ผิวแห้งปกติจะแนะนำ 1 ครั้งพอ

และ ทุกวันเราจะทาด้วย GLOW RADIANT BOOSTER เพื่อทำให้ผิวแข็งแรง

ใช้คู่ตัวอื่นได้อย่างเป็นมิตร และ หัวใจสำคัญ การลงกันแดดทุกวัน

นี่คือปัจจัยที่ทำให้เรามีผิวที่กระจ่างใสขึ้น และ อ่อนเยาว์นาน

ตอนนี้เราเปลี่ยนแพคเกจใหม่สำหรับ GLOW RADIANT BOOSTER ที่ใช้ง่ายขึ้น

 

เรียกได้ว่ารอบนี้ เก็บความลับจนวินาทีสุดท้าย เพราะ 2-3 ปีที่แล้ว จะออกไม่เคยได้ออกซักที

เลยแบบ แอบทดสอบ ฟินอยู่เบื้องหลังเล็กๆ จนเป็นรูปเป็นร่าง ต้องบอกก่อนว่า

ไม่ใช่การออกแบบของเอิ๊กคนเดียว เป็นวิสัยทัศน์ เห็นตรงกันกับเจ้าของแบรนด์ทุกคน

เราจะเลือกสิ่งที่เห็นแล้วสวยงาม เรียบหรู เราอยากจับมัน

และ สำคัญคุณภาพต้องดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ตอนนี้

เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลาที่เราได้เคยทดสอบมา

เพื่อให้ชัวร์สุดในเรื่องผลลัพธ์

ส่วนตัวเอิ๊กไม่ชอบอะไรที่เห็นผลไวมาก แต่ชอบแบบค่อยๆเพิ่มขึ้น และ อยู่ทนอยู่นาน

ดังนั้น ACTIVE INGREDIENT แต่ละตัวที่สำคัญ

เราใส่ตาม RECOMMENED DOSE

ที่เห็นผลชัดตามผลทดสอบที่มี 🙂

ในเซ็ท 2,890 บาท มีอะไรบ้าง

( ตอนนี้เราจัดราคาเปิดตัว 1,790 บาท )

ประกอบไปด้วยทรีทเมนท์ 2 สูตร

 ✨ AURA WHITE SHOT  ✨

ชื่อบอกชัดอยู่แล้วเพื่อความบริงค์ตัวนี้

เป็นทรีทเมนท์ 6 IN 1

ขาวกระจ่างใส

ลดอุณหภูมิใต้ผิว

บำรุงให้ชุ่มชื่นจากภายใน

ปกป้องเซลล์ผิว

ลดรอยดำ

ต้านอนุมูลอิสระ

ให้ความเย็นจากอนุพันธ์เมนทอล ซึ่งเป็นตัวช่วยลดอักเสบ

ผดผื่น บางคนสิวอักเสบค่อยๆดีขึ้น เราไม่ได้เคลมแรงเรื่องสิว เราไม่ใช่ยาแต้มสิว

ไม่ได้คาดหวัง แต่เราลดอักเสบของผิว ดังนั้นถ้าสิวอาการดีขึ้นก็เป็นผลพลอยได้

ที่ลองกันไป ผด แพ้ อะไรดีขึ้น และ

ลดภาวะผิวที่เครียดจากความร้อน แสงแดด มลภาวะ

แล้วอาจทำให้ผิวคัน บวม

รวมถึง ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ ก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์

ที่อยากให้ทุกคนได้เปิดประสบการณ์

 

✨ GLOW RADIANT BOOSTER

โดสจัดเต็มของสารสกัดลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์

ที่เราใช้นวัตกรรมสกัดเย็นคงคุณค่าไว้ของ MADONNA LILY

ลิลลี่เป็นดอกไม้ที่เอิ๊กชอบมาก เอิ๊กชอบสีขาวอมชมพู แต่สีที่เป็นตำนานมากมาย

และ มีประโยชน์ในหลายด้าน รวมถึงผิวพรรณ คือ ลิลลี่สีขาว

มีคุณสมบัติเยียวยารักษา

ดูแลผิวไหม้แสบร้อน สมานแผล ผิวพุพอง

ปัญหาการระคายเคืองของผิว

และ ป้องกันแผลเป็น เป็นพันธุ์ที่เหมือนของขวัญจากธรรมชาติจริงๆ

เป็นดอกไม้นึงที่เป็นตำนานมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ ด้วยความที่เราอยากให้

ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดี ไม่มีสารตกค้าง เราจึงเลือกให้

GLOW RADIANT BOOSTER

เป็นทรีทเมนท์เจลใสบริสุทธิ์จากธรรมชาติ

ที่ให้ผลที่ดีตัวนึงไว้ใช้บำรุงในทุกวัน

 

มี IN-HOUSE STUDY ที่นึงทำทดสอบ

เกี่ยวกับ จุดด่างดำ และ ความกระจ่างใสของสีผิวโดยใช้สารสกัดบริสุทธิ์

จากลิลลี่สีขาวความเข้มข้นที่ 0.1% เป็นเวลา 56 วัน กับกลุ่มอายุ 35-65 ปี

พบว่าEnzymes ลิลลี่สีขาวเข้าไปช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินสีเข้มได้จริง

ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวสุขภาพดี และ สีผิวสม่ำเสมอขึ้น รวมถึงรอยแดงดำต่างๆ

 

 

 

เวลาแกะออกมา มีคนบอกว่าดึงยาก ยังไง เราจะเก็บไว้ปรับปรุง ถ้าดึงข้างๆจะออกได้สะดวก

และ ตรงกลางไม่พังนะคะ เราเลือกใช้โรงงานออกแบบกล่องชั้นนำที่ดีที่สุดที่นึง

เราก็ถูกใจมาก ไม่แน่ใจว่าชอบกันไหม แต่เราตรวจและไปลุยเองทุกกระบวนการ

ยกเว้นตอนเข้าไปดูเขาผสมสูตรขึ้นเนื้อครีม และ บรรจุลงผลิตภัณฑ์ในโรงงาน 55555

เพราะเป็นความลับของเขานะคะ เข้าไม่ได้ แต่วันนึงอาจจะขออนุญาตเข้าไปตรวจงาน

ซึ่งโรงงานเราไว้ใจในวิสัยทัศน์ และ วางในในสารสกัดนำเข้าทุกตัว

 

 

กล่องเราเลือกใช้สีชมพู แทนผิวใสที่สุขภาพดี มีเลือดฝาดไหลเวียน แพคเกจ เป็นโทนขาวมุก

ดูขาวละมุน และ อะไหล่สีทองมีน้ำหนัก เพราะชอบส่วนตัว เราชอบงานหรูหรา เราจึงพิถีพิถัน

ให้สวยทั้งภายนอก และ ภายใน ก่อนเห็นก็อยากใช้ เมื่อใช้แล้วคุณภาพดีก็อยากใช้ต่อ

อินมาก 💋

 

 

ทำไมจึงใช้เหมือนคล้ายหลอดฉีดยา เพราะถ้าใครไปทำทรีทเมนท์ที่คลีนิคจะเข้าใจ

เราอยากให้มันเป็นอารมณ์ ทรีทเมนท์ที่ใครทำที่บ้านก็ได้ ผิวเย็นสบาย

เดี๋ยวจะทำสอบกับเครื่องนวด เครื่องผลักสารบำรุงแบบมือถือที่บ้านแล้วจะมาอัพเดท

 

เอาตรงๆจากใจคิดว่ามันจะเล็กกว่านี้ 555 พอกล่องที่ออกแบบทำออกมา

อืมอลังการยิ่งใหญ่ดีแท้ ใจจริงอยากให้เท่าหนังสือเล่มนึงพอ T_T

เรามาเข้าสู่โหมดรีวิว ทีละสูตร

 

ตามธรรมเนียน หน้าสด หลังจากใช้มาหลายเดือน ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น

อย่างเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และ 2 เดือนหลังใช้แต่ AURADIANT ไม่ใช้แบรนด์อื่นเลย

ไม่ทานอาหารเสริม และ ทำทรีทเมนท์ใดใด เพราะกลัวผลไม่ตรง

 

สรุปผลดังนี้

เรื่องฝ้าเห็นไหมแก้มซ้ายยังมองเห็น เป็นฝ้าลึก ไม่เข้มขึ้น แต่ไม่ได้จางหายไป

นั่นก็แสดงว่าช่วยยับยั้งไม่ให้เม็ดสีเมลานินเข้มขึ้น

แต่สิ่งที่เห็นชัดกว่า คือ สีผิวสม่ำเสมอแบบรู้สึกได้เลย แบบสีผิวสีเดียวทั่วหน้า

และ กระจ่างใส อิ่มฟู ขึ้น สิวไม่ค่อยขึ้นเพราะแก่แล้ว 55555555555

 

รีวิว GLOW RADIANT BOOSTER

บรรจุมาในปริมาณ 30 กรัม ในรูปแบบหลอดเพราะเรากังวลเรื่องสิ่งสกปรก

หากมาในรูปแบบกระปุกจะทำให้มีอะไรลงไปทำให้มีเชื้อโรคได้ง่าย

จะใช้แบบสูญญากาศรอบที่แล้วลอง ก็บางครั้งมีการกดเนื้อที่หนืดไม่ออก

และ เวลาหมด มันดันแล้วยังเหลือนิดนึงข้างใน เสียดาย แบบนี้คือ ถ้าใกล้หมดหั่นศพค่ะ

คุ้มจนหยดสุดท้าย

 

ตัว GLOW RADIANT ตั้งใจให้ได้ใช้บำรุงให้ผิวแข็งแรงทุกวัน คนแพ้อะไรมา

นางก็เอาอยู่ตัวนี้เป็นเนื้อเจลใสบริสุทธิ์ วิงค์ๆ เลย เราชอบเอามาพอกหน้าให้ความชุ่มชื่น

เวลาทำงาน ซึ่งนางไม่ช่วยเรื่องรูขุมขน ความเนียน แต่นางมาสายรักษาผิว

ดูแล ความสม่ำเสมอของสีผิว มีครั้งนึงเลเซอร์มาระอุผิวมาก แดงจ้ำๆ คืนเดียวรู้เรื่อง

ดีขึ้น และ ใช้ดูแลผิวที่แห้งจากเลเซอร์ได้เลย ใช้ติดต่อกันวีคนึง ผิวก็กลับมาแข็งแรง

เคยใช้แบบโหดพอกทุกวัน 7 วันเกลี้ยง ไม่ต้องทำตามนะ 555 ใช้บางๆก็โอเฟร

ใช้ได้นานขึ้น นี่เวลาโบกก็คือหนาตึ๊บ

 

น้องเขาไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่อุดตัน ไม่มีสี

และเข้มข้นด้วยลิลลี่สีขาวเราใส่สูงถึง 0.5% ดังนั้นใครรู้สึก เออใช่แล้วไมหน้าดูสีผิวสม่ำเสมอ

มันเกิดมาเพื่อสนองตรงนี้กับคนที่หน้าเยิน แต่อยากสีผิวดีขึ้นด้วย ก็จะรักษาผิว

บำรุงผิว และช่วยเรื่องสีผิวให้ค่อยๆสม่ำเสมอ และ ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน

ตัวนี้ลงทุกวันได้เลย ยิ้ม ☺

ลงบางๆตอนเช้าแต่งหน้าติดง่ายขึ้น ช่วงไหนผิวอักเสบ พอกลดอาการผิวร้อน ผิวแดงสำหรับ

ผิวที่ต้องการความอ่อนโยนขั้นสุดได้ ตัวนี้เพื่อคุณ

 ซึมเร็ว ทาใต้ตาได้ มันอ่อนโยน แต่ทาปากไม่ได้ปากเลยเยิน 🙁 5555

หลอดประมาณนี้ เวลาถือในมือค่ะ

 

✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨

 

รีวิว AURA WHITE SHOT

 

ลูกคนนี้ แรกๆมาก็ตกใจ เย็นไปไหน 5555555555 กว่าจะปรับจูนให้เข้ากัน

ความเย็นเป็นเทคโนโลยีพิเศษซึ่งมีอนุพันธ์เมนทอล 3 ชนิดมารวมร่างกันด้วยเทคโนโลยี

ENCAPSULATION มันช่วยเรื่อง ลดการอักเสบของผิว และ ลดอุณหภูมิใต้ผิว

ไม่ให้ไปสร้างเม็ดสีเมลานิน เพื่อให้สารช่วยเรื่อง WHITENING ตัวอื่นๆ

ทำงานกันอย่างมีความสุข จึงใส่น้ำหอมนิสสสสสสเดียวให้ดูยาๆหน่อย

เอาตรงๆน้ำหอมยังไม่ถูกใจกลิ่น อยากฟีล สาวๆกว่านี้ แต่ไม่ใส่ก็กลัวกลิ่นแปล่ง

ไว้เก็บไปพัฒนาต่อ คือ ใส่น้อยมาก แค่เพิ่มความรู้สึกตอนใช้

ก็เป็นทรีทเมนท์เข้มข้น หน้าขาว ลดการอักเสบ ติดแอร์ให้กับผิว ที่เราต้องมีติดบ้านไว้

ช่วงก่อนวีคละครั้ง ช่วงนี้ฟิตใช้ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

เทรนเนอร์บอกผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น ฮี่ฮี่ เปิดแอร์แล้วมันสบายผิวมาก

 

AURA WHITE SHOT เน้นเรื่องสีผิวมา รอยดำ อันดับ 1

กลุ่ม WHITENING จะใช้เทคโนโลยี NANO

ลดอุณภูมิ ลดอักเสบ อันดับ 2

ต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ผิว อันดับ 3

ส่วนผสมสำคัญ จะเป็น THE BEST ของเอิ๊กคร่าวๆที่คัดมา

ให้อยู่ใน AURADIANT

MINERAL WATER

ลดการอักเสบ ให้ความชุ่มชื่น สดชื่น ปกป้องเซลล์ผิว

DIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE  ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินสีเข้ม

ALGAE EXTRACT ทำให้ผิวนุ่มนวล ผลัดเซลล์ผิว

DIOSCOREA COMPOSITA ROOT EXTRACT  ผิวฟู เต่งตึง กระชับ

MALUS DOMESTICA FRUIT EXTRACT  ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว

GLUTATHIONE  ต้านอนุมูลอิสระ

NIACINAMIDE  ลดรอยแดง รอยดำ

COLLAGEN ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย

ARBUTIN ยับยั้งเม็ดสีเมลานิน

CERAMIND เสริมความแข็งแรงให้กับผิว

LECITHIN ผิวมีน้ำมีนวล

ASCORBYL PALMITATE ต่อต้านอนุมูลอิสระ ผิวกระจ่างใส

ฯลฯ

ตัวนี้มันเข้มข้นมากดังนั้นความจริงลงให้ทั่วใบหน้า ไม่ต้องหนาก็ได้ ส่วนตัว

บางหนาไม่แตกต่างเรื่องผล จะต่างก็คือถ้าหนา จะเย็นขึ้นมาก ใช้ได้ 5-6 ครั้ง

ส่วนตัวใช้ได้ 5 ครั้ง 2 หลอด 16 กรัม หลอดละ 8 กรัม

เวลาทาไม่ได้ทาหนาเลย ซึ่งเวลาเทสสมัยเริ่มคือครึ่งหน้า 55555 อยากรู้ไงบางทีตาดูไม่ออก

ใต้ตาก็ทา แสงธรรมชาติหน้าตรง ถ่ายรูปออกมาน่ากลัวมาก อันนี้คือ คืนเดียว

ส่วนตัวรู้สึกได้ว่าสบายผิว เย็นดี รู้สึกสดชื่น ตื่นขึ้นมาก็นวดๆเบาๆ แล้วค่อยๆล้างออก

ล้างออกยากนิด ล้างเสร็จจะรู้สึกว่าผิวกระจ่าง ดูฟูดูอิ่ม แล้วก็ลงบำรุงต่อ

สิวอักเสบที่เม็ดเบ้ง ก็ยุบลด 30-50% ส่วนตัวลองเพราะอยากรู้ว่าสิวเล็กลงไหม

แต่เพื่อนใช้กับผด แฮปปี้มาก

ใต้ตาก็ทา แต่ทางที่ดีเว้นไว้ดีกว่าค่ะ อย่าทาตามเอิ๊กหมด เอิ๊กแค่ลองดูว่ารอดไหม

อืม ก็ไม่เป็นอะไรก็ใช้มา แล้วพอตอนเช้าก็บำรุงเพิ่มเติมให้ดีค่ะ

ใช้หนึ่งครั้งจะแหว่งไปประมาณนี้

ใช้ต่อเนื่องควบคู่กัน ชัดเลยคือเรื่องความสม่ำเสมอของผิว

เราก็เลยรู้สึกชอบส่องกระจกพักหลัง 5555 😍 แต่เรื่องรูขุมขนไม่ช่วยอะไร

ต้องไปหาวิธีอื่นจัดการ

 

ขนาดเวลาถืออยู่ในมือ

 

 

ข้อดี

เห็นผลชัดเจนหลายอย่างเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

สารสกัดส่วนใหญ่ผ่านงานวิจัย และนำเข้าจากต่างประเทศ

ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ซึมลงสู่ผิว ให้ประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น

สารสกัดใส่ในปริมาณเข้มข้นเห็นผล

อ่อนโยน ปลอดภัย ผิวแพ้ง่ายใช้ได้

แพคเกจสวย ใช้ง่ายพกพาสะดวก

 

ข้อเสีย

หาซื้อยาก มีขายแต่ในออนไลน์

แบรนด์คนไทย มาตรฐาน อย. ไทย ไม่ใช่ระดับสากล

ไม่ใช่สารสกัดแปลกใหม่เป็นความชอบที่เอามารวมกันของคนๆนึง

มีน้ำหอม กลิ่นดูเมนทอลยาไปหน่อย

ราคาค่อนข้างสูง ซื้อตอนโปรคุ้มกว่ามาก

GLOW BOOSTER จะธรรมชาติมาก ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน

AURA WHITE SHOT ล้างออกยากนิดนึง

 

ขอบพระคุณทุกคนมากสำหรับความไว้วางใจและสนับสนุน AURADIANT

อย่างต่อเนื่องนะคะ

ทางเรามีทีมงานคอยดูแลทุกท่านอยู่

หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย

ทางเราน้อมรับทุกคำติชม และ จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆอย่างดีที่สุด

สนับสนุนให้คนไทยมีผิวสุขภาพดี เปล่งปลั่งและมีออร่าในแบบตัวเอง

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Line : @auradiant 
FB : facebook.com/Auradiant.official/
IG : @auradiant_official

 




Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

หอบสกินแคร์&เครื่องสำอางอะไรไปเกาหลี

 

10 วันหอบไปเยอะแยะมากมาย

 

Love

Erk-Erk

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

อีกช่องที่ห้ามพลาดhttp://www.youtube.com/wwwerkerkcom

LINE@ : http://line.me/ti/p/%40erk-erk

FANPAGE : http://www.facebook.com/wwwerkerkcom

TWITTER : http://www.twitter.com/erk_erk

BLOG : http://www.erk-erk.com

YOUTUBE : http://www.youtube.com/c/erk-erk

EMAIL : mail@erk-erk.com

GG+ : https://plus.google.com/u/1/107443800537877948021

Posted in MAKE UP, SKIN CAREComments (0)

รีวิวมาส์คหน้าขาวใส8นาที LAMER BRILLIANCE WHITE MASK

กดsee first ติดดาวเพจจะได้ไม่พลาดนะจ๊ะ

Love

Erk-Erk

••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

อีกช่องที่ห้ามพลาด : http://www.youtube.com/c/erk-erk

LINE@ : http://line.me/ti/p/%40erk-erk

FANPAGE : http://www.facebook.com/wwwerkerkcom

TWITTER : http://www.twitter.com/erk_erk

BLOG : http://www.erk-erk.com

YOUTUBE : http://www.youtube.com/c/erk-erk

EMAIL : mail@erk-erk.com

GG+ : https://plus.google.com/u/1/107443800537877948021

Posted in REVIEW, SKINComments (0)

รีวิว Curel มาแล้วตามคำเรียกร้อง Highly Recommend! 

ใครผิวแพ้ง่ายต้องตัวนี้ Curel Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream 

รีวิวอย่างละเอียดยิบเลย มีมาแจก 5 รางวัลด้วยนะ 

เพียงแชร์คลิปนี้แล้วตอบคำถามใต้โพสต์นี้ว่า 

ทำไมถึงอยากลองใช้ Curel Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream ” 

มูลค่ารางวัลละ1,000 บาท! หมดเขต 5 พฤษภาคม

เล่นเกมส์ที่

https://www.facebook.com/wwwerkerkcom/videos/1403709509696929/

Posted in REVIEW, SKIN CAREComments (0)

HOW TO 5 วิธีผิวสวยขึ้นท่ามกลางแดดร้อนเมืองไทย อาหารเสริมกันแดด NUTROXSUN

THE BEST ITEM ของเอิ๊กอีก 1 แบรนด์อยากให้ลอง 🙂 NUTROXSUN

ในคลิปเอาเคล็ดลับผิวขาว ผิวดี ผิวใสมากฝากเป็นวิธีที่ใช้กับตัวเองและได้ผล

จึงนำมาแชร์กันค่ะ

XOXO

ERK-ERK

eee

Posted in REVIEW, SKINComments (0)

รีวิว 6วิธีลดรอยสิวแดงดำให้ผิวกระจ่างใส

รีวิว 6วิธีลดรอยสิวแดงดำให้ผิวกระจ่างใส

EUCERIN DERMOPURIFYER DAY MAT SPF 30

หมดไปแล้ว 2 ขวด ใช้เปลืองมาก T_T มารีวิวซักนิด

ำดำดำ

พบกันใหม่บล็อคหน้านะคะ <3

Posted in REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

อัพเดทสกินแคร์ EP2 | Facebook Live erk-erk

fdger

Posted in SKIN CAREComments (0)

REVIEW Eucerin DermoPURIFYER ACNE & MAKE-UP CLEANSING WATER กับ สาเหตุเกิดสิวที่คนยังไม่ค่อยรู้


วันนี้มาพร้อมกับ

Eucerin DermoPURIFYER ACNE & MAKE-UP CLEANSING WATER

ที่ปรับสูตรใหม่ใช้ดีกว่าเดิม และ บอกเล่าเหตุสิวอันใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00018

สำหรับตัวนี้หน้าตาไม่ต่างจากรีวิวอันเก่าเลยสำหรับหน้ากล่อง

จะต่างก็แค่ข้อความหน้าขวด จาก 0% Alcohol ที่เคยเด่นกว่า

กลายเป็น 3 in 1 Acne Solution

REVIEW อันเก่า คลิก

แต่ตัวนี้มีการปรับสูตร คือ เพิ่ม Arginine ให้เข้มข้นมากขึ้น

ซึ่งช่วยลดการระคายในชั้นผิวที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน

DSC00001

3 ประสิทธิภาพทรงพลังในการแก้ปัญหาสิวที่แบรนด์โฆษณาไว้ได้แก่

  1. ขจัดเครื่องสำอางแม้สูตรกันน้ำ
  2. ฟื้นบำรุงผิวระคาย
  3. ลดสิวอุดตัน


หลายคนอาจทราบอยู่แล้วสำหรับการเกิดสิว จะมีสาเหตุอะไรบ้าง

หรือ ตามที่คุณหมอผิวหนังเคยกล่าวไว้ เช่น น้ำมันบนผิวมากเกิดไป

สิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน เชื้อP.acneที่มากเกินไป

ในงานวิจัยของอเมริกาปี 2013 ได้เผยสาเหตุการเกิดสิวใหม่

คือ การอักเสบของเซลล์ผิวที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

หรือ Subclinical Inflammation

เมื่อมีปัจจัยมากระตุ้นการอักเสบ

จะทำให้ผิวเปลี่ยนแปลงเกิดสิวขึ้นมาได้

โดยที่ไม่ต้องเกิดการอุดตันมาก่อนก็ได้

สำหรับคำว่าการอักเสบจะใช้ได้กับผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นยารักษา

แต่ EUCERIN เป็นเวชสำอางจึงใช้คำว่า

” การระคายเคืองใต้ชั้นผิว” แทน

สำหรับปัจจัยที่กระตุ้นการระคายเคืองใต้ชั้นผิว

ที่เป็นต้นตอของการเกิดสิว

ด้แก่

ปัจจัยภายใน เช่น

น้ำมันบนผิวหน้า

ความเครียด

ฮอร์โมน

โครงสร้างผิวแต่ละคน

ปัจจัยภายนอก เช่น

เครื่องสำอาง

สารก่อการระคายเคือง

มลภาวะ น้ำ อากาศ ฝุ่นละออง

สิ่งสกปรก

จะเห็นได้ว่าทุกอย่างรอบตัวเราสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวได้

ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำสำหรับผิวเป็นสิว

คือการลดการระคายเคืองทีเกิดขึ้นจากปัจจัยเหล่านี้ โดยเฉพาะเครื่องสำอาง


DSC00010

รอบๆขวดทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ

DSC00016

DSC00018

สำหรับตัวนี้ก็มีการทำวิจัยกับคนไทยกลุ่มนึงผลที่ออกมาดังนี้

Screen Shot 2559-03-06 at 9.42.56 PM

สำหรับสูตรใหม่เพิ่ม ARGININE เข้าไป

ตัว ARGININE นี่คือ กรดอะมิโนจำเป็นที่เป็นพระเอกเลย สรรพคุณเยอะมากเช่น

  • ลดการระคายเคืองใต้ชั้นผิวลดสาเหตุการเกิดสิวใหม่ที่ต้นตอ
  • เพิ่มการไหลเวียนเลือด
  • ลดรอยสิว แดง และ ดำ (ไม่นาน)
  • เพิ่มความชุ่มชื่นผิวหนัง

 

ตัวนี้ก็ถูกเพิ่ม ARGININE เข้ามาเพื่อตอบโจทย์สาเหตุสิวใหม่เป็นแบรนด์แรก

และ แบรนด์เดียวในไทยที่สื่อสารเรื่องนี้

เรามาดูหน้าตาขวดที่ปรับข้อความใหม่กัน หน้าตาแบบนี้เลย 🙂

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00008

หลักการทำความสะอาดเหมือนเดิม

เป็นนวัตกรรม MICRO MICELLAR ที่ไม่เพียงแต่ทำความสะอาดได้ดี

แล้วยังช่วยลดสิวอุดตัน ซึ่งเป็นจุดเด่นของ CLEANSING WATER แบรนด์นี้

การใช้เหมือนเดิม หยดลงบนสำลี โปะทิ้ง 10-30 วินาที

เพื่อให้ส่วนผสมเข้าไปจับคราบเครื่องสำอางที่ฝังลึก แล้วค่อยลูบออกอย่างเบามือ

เอิ๊กแต่งหน้าประจำให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดอย่างมาก

ไม่งั้นสิวอุดตันจะมาแน่นอน

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00010

เช็ดเครื่องสำอางจนสำลีขาวสะอาด นั่นถือว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00012

สำหรับดวงตาถ้าแต่งตาหนักขอให้ใช้แบบ OIL ที่เฉพาะรอบดวงตาแทน

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00014

แล้วก็กลายร่างเป็นสาวหน้าสดทันที 55555555 อายมาก

นี่จะเลิกเช็ดหน้าโชว์แล้วนะ 😛

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00016

ตอนทำความสะอาดจะรู้สึกเย็น และ ความรู้สึกระคายผิวจากเครื่องสำอางลดลง

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00017

ข้อดี

มีงานวิจัยซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นทุกผลิตภัณฑ์ของ EUCERIN

สิวอุดตันไม่ค่อยมาอีกเลย จะมาก็เพราะไปใช้อะไรใหม่ๆ

สิวอักเสบยุบไว สิวอุดตันถ้ามีจะแข็งและหลุดออกง่าย

ผิวแพ้ง่าย ระคายเคืองใช้ได้

คิดว่าการระคายเคืองใต้ชั้นผิวหน้าจะลดน้อยลงเพราะสิวไม่ค่อยมา ไว้ตรวจจะมาเล่า

ผลิตภัณฑ์ทุกตัวพัฒนามาจากปัญหาผิวของมนุษย์จริงๆ และค้นคว้าจริงจังหลายปี

หาซื้อง่ายมาก

ข้อเสีย

ราคาอาจจะสูงสำหรับนักเรียนนักศึกษา

คนที่ไม่ชอบความเย็นอาจจะไม่คุ้นเคย

ปล.อยากให้มีไซส์จิ๋วเดินทางบ้างเพื่อเปิดโอกาสให้คนได้ทดลองซื้อเยอะขึ้น

หวังว่าบทความวันนี้ทุกคนคงจะรู้จักกับสาเหตุสิวอันใหม่แล้วนะคะ

พบกับใหม่บลอคหน้าสวัสดีค่ะ <3

BEFORE-AFTER EUCERIN DERMOPURIFYER ACNE 00019

สำหรับใครที่อยากชมเป็นวีดีโอ คลิกเลยค่ะ ^^

Posted in HOW TO, MAKE UP, REVIEW, SKIN CAREComments (0)

9 วิธีดูแลผิวอ่อนแอระดับ ULTRASENSITIVE SKIN

9 วิธีการดูแลผิวที่อ่อนแอ [ สุดๆ ]

อาการคือ หน้าจะร้อนแดง คัน ง่ายตลอดเวลา ผิวเหมือนขาดน้ำ ทาครีมเท่าไหร่ก็ไม่ซึม ลูบจับหน้าไปสากมือ แต่งหน้านานๆจะเริ่มคัน เครียดแล้วหน้าจะเห่อแดงผดขึ้นเกือบทั่วหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์ทั่วไปปกติตามสภาพผิวอาจจะไม่พอ บางทีขึ้นเม็ดสิวที่บวมแดงคัน อักเสบ แต่ไม่ใช่สิวปกติ

เมื่อปลายเดือน พย. ที่ผ่านมาเอิ๊กมีอาการดังกล่าวข้างบน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต แล้วก็มีคนมาคอมเมนท์ให้กำลังใจ แนะนำผลิตภัณฑ์ดีดีขอบคุณมากนะคะ เอิ๊กเครียดมาก มันเป็นเรื้อรังมาหลายเดือน จนหายช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผิวกลับมาแข็งแรงมากขึ้น กลับมาใช้ทุกอย่างได้ตามปกติ

สิ่งแรกที่ทำเอิ๊กจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัว เนื่องจากเป็นอาการผิวหนังที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต คุณหมอหลายท่านลงความเห็นว่า อาจแพ้ “สารกันเสียบางชนิดในเครื่องสำอางแบบสะสมมานาน” ข้อแนะนำอยากให้ลองทำ ทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังทั่วไป เรียกว่า patch test 2.ยื่นสเตียรอยด์ให้ทาก่อน แต่เอิ๊กไม่เลือกทั้ง 2 วิธี อยากลองผ่านไปด้วยตัวเองอีกครั้ง เลยกลับมาสังเกตตัวเองก่อนแบบละเอียด พบว่าสิ่งที่จะทำให้หาย คือ

1. สังเกตุชีวิตประจำวันทุกด้านของตัวเอง ความเครียด การขับถ่าย การพักผ่อน ฯลฯ
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสียชนิดพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ฯลฯ และต้องช่วยเรื่องความชุ่มชื่น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวหนัง จะลดอาการคัน และ อักเสบระหว่างวันได้
3. อาจจะรับประทานอาหารเสริมประเภท OMEGA หรือ ทาร่วมด้วย
4. การใช้เครื่องสำอางต้องหลีกเลี่ยงการทาหลายชั้น และ เนื้อครีมหนักอุดตันรูขุมขน
5. กลับบ้านต้องรีบทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนมากๆ
6. มียาฆ่าเชื้อ ยาแต้มสิวไว้ด้วยเผื่อเกิดการอักเสบบางประการ ใช้ปริมาณพอเหมาะ
7. ใช้ผลิตภัณฑ์ให้น้อยขั้นตอนที่สุดเท่าที่จะทำได้
8. ถ้าจะมาส์คหน้าเน้นไปที่สูตรเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และ ให้ความชุ่มชื่น
9. ถ้าไม่หาย ให้ทำ PATCH TEST กับคุณหมอผิวหนัง [ บังเอิญหายก่อน 555 ]

ตอนนี้หน้ากลับมาแข็งแรงปกติ 90% ต้องระวังสาเหตุ ของเอิ๊กหาพบคือความเครียดจากงาน 55555 ขอบคุณทุกคนในความห่วงใย เลยเก็บเคล็ดลับมาแชร์ประการนี้เอย ตอนนี้ลองทุกอย่างได้ตามปกติ ช่วงนี้ใช่ LAMER + EUCERIN ครัช สำหรับสิวด้านซ้ายของหน้าสองเม็ด เกิดจากประจำเดือน แต่ขอโทษมาเถอะ เราเอาอยู่

DSC00012
‪#‎รักผิวสดหมดใจ‬
‪#‎NORETOUCH‬
.
heart emoticon
ด้วยรัก
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
ติดตามกันทาง line
http://line.me/ti/p/%40erk-erk
หรือ พิมพ์ @erk-erk นะคะ

Posted in ACNE, SKINComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites