Tag Archive | "merz aesthetics"

รีวิว ULTHERA vs THERMAGE ยกกระชับตัวไหนดีที่สุด


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เทคโนโลยีที่แพงที่สุดในการยกกระชับ ที่มีการรับรองจาก USFDA อเมริกา

และ มีงานวิจัยมากมายในระยะเวลานาน ระหว่าง ULTHERA vs THERMAGE

อะไรคือเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

ใครจะรู้ว่า เวลาคนเราแก่ลง

ทางด้านผิวหนังมันแก่ลงลึกถึง 5 ชั้น !!

ชั้นที่ 1 บนสุด ชั้นหนังกำพร้า

ชั้นขี้ไคลปกป้องผิวไม่ให้สิ่งแปลกปลอมมาทำร้าย

ชั้นที่ 2 ชั้นหนังแท้

ประกอบไปด้วย คอลลาเจน กับ ไฮยาลูรอนิคเอซิด

ให้ความหนาแนน ยืดหยุ่น กระชับกับผิว

ชั้นที่ 3 ไขมัน

ป้องกันการกระแทกของอวัยวะภายใน

เป็นชนวนความร้อนให้ความอบอุ่นร่างกาย

ชั้นที่ 4 กล้ามเนื้อ

ใช้ในการขยับ เคลื่อนไหว

ชั้นที่ 5 กระดูก

เป็นโครงสร้างยึดร่างกายเอาไว้ ป้องกันอวัยวะที่สำคัญในร่างกาย

 

 

เวลาคนเราแก่ลง มันแก่ลงไปพร้อมๆกัน ทุกๆชั้น

ผิวหนังบางลง

ไขมันบางส่วนลดลง เช่น ใต้ตา แก้ม

กล้ามเนื้อฟีบลง

กระดูกสึกหรอขึ้น มวลกระดูกลดลง

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นจะมีการหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ และ เนินอก

รวมถึงเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในตามแรงโน้มถ่วงของโลก

ในการจัดการความแก่ที่เกิดขึ้น

จึงต้องดูแลผิวทุกชั้น เพื่อทำให้ผลลัพธ์สอดคล้องเป็นธรรมชาติ

 

ปัจจุบัน มีเทคโนโลยี และ นวัตกรรม ที่สามารถดูแลปัญหาของผิวเกือบทุกชั้นได้

เช่น หน้าเหี่ยวเราใช้เทคโนโลยียกกระชับ หรือ ศัลยกรรมดึงจากระดับชั้นกล้ามเนื้อได้

ยกเว้นในบริเวณกระดูก ยังไม่สามารถแก้ไขได้

อาจเติมฟิลเลอร์ได้บ้างในบริเวณที่กระดูกสึกหรือสลาย แต่สุดท้ายมันไม่ยั่งยืน

และ น่าจะไม่คุ้ม

 

 

ดังนั้นถ้าถามว่า ULTHERA vs THERMAGE  แตกต่างกันอย่างไร ?

เพราะหลายคนบอกว่าช่วยยกกระชับเหมือนกัน

แต่แท้จริงแล้ว ใครจะใช้เทคโนโลยีไหน ขึ้นกับปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้น

ในระดับชั้นผิว

 ULTHERA คือ พลังงานเสียง ULTRASOUND

THERMAGE คือ พลังงานคลื่นวิทยุ MONOPOLAR RF 

ทั้งสองปล่อยพลังงานความร้อนเหมือนกัน แต่เป็นความร้อนที่กระจายต่างกัน

จึงลงลึกสู่ชั้นผิวได้ไม่เหมือนกันผลลัพธ์จึงให้คนละอย่าง

 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้ง 2 เทคโนโลยีให้จำง่ายๆ

ULTHERA เน้นยกกระชับหน้า ความหย่อนคล้อยรูปหน้า LIFTING

THERMAGE เน้นผิวแน่นกระชับ สลายไขมัน TIGHTENING

การจะเลือกเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งใน 2 เทคโนโลยีนี้

ต้องดูก่อนว่า การจะให้ผิวแน่น ยกกระชับ

มันเกิดจากปัญหา ผิวสองชั้น

1.คือ ชั้นหนังแท้ ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนอิลาสตินถ้าส่วนนี้มีเยอะมันจะผิวแน่นเด้ง

2.คือ ชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นตัวยกหน้าขึ้น และเราสามารถดีไซน์ยกหน้าในรูปแบบต่างๆได้

ชั้นกล้ามเนื้อมี 2 กลุ่มกลุ่มดึงหน้าขึ้น และ กลุ่มดึงหน้าลง

กลุ่มดึงหน้าลง เราทำให้อ่อนแรงลงโดยการฉีดโบทูลินูมทอกซินก็คลายได้ มันก็จะถูกดูดึงขึ้นไป

หรือ เราใช้วิธีทำให้กล้ามเนื้อทั้งหมดหดตัว ก็จะทำให้หน้าดูยกขึ้นไปได้

 

 

ถ้าเราเลือกยกกระชับโดยไม่ผ่าตัด แต่เลือกใช้เทคโนโลยี มันจะเข้าไปดูแลและออกฤทธิ์

ที่ชั้นกล้ามเนื้อ (ยก) หรือ ที่ชั้นหนังแท้ (แน่น)

แน่นอนตอนนี้มีเครื่องมือเพียง 2 ชนิด ณ ปัจจุบันที่มีงานวิจัยรองรับมายาวนานคือ

คือ

ULTHERA  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อยกมากขึ้น

และ

THERMAGE  ซึ่งออกฤทธิ์ที่ชั้นหนังแท้ ไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

และ ทำให้อิลาสตินแข็งแรง ผิวจึงเด้ง แน่น

 

ความร้อนของULTHERA ลงได้ลึกมากกว่า THERMAGE [RF]

ดังนั้นจะเห็นว่าลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ

และ ถ้าเทียบกับการศัลยกรรมดึงหน้า SURGICAL FACELIFT ในส่วนของ

ULTHERA จะเข้าไปดูแลในส่วนกล้ามเนื้อ เหมือนกับการดึงหน้า

แต่จะให้เรียบตึงเท่าดึงหน้าคงไม่ใช่ ดึงหน้าเข้าไปดึงทันทีที่ชั้นกล้ามเนื้อให้ตึง

อย่างที่บอกเวลาเราแก่ มันแก่ลึกถึง 5 ชั้น ดังนั้น

ความร้อนที่ได้จาก ULTHERA จะได้ผลในเรื่องการดูแลผิวบางชั้น

ให้ได้ผลประโยชน์ด้วย เช่นถ้าความร้อนลงไประดับชั้นไขมัน

ก็อาจมีเซลล์ไขมันตายสลายไป

 

 

การปล่อยพลังงานของ ULTHERA 

ความร้อนจะมาเป็นเส้นๆ เราเรียกว่า LINE เป็นคล้ายจุดไข่ปลาเรียงกัน

ซึ่งมีระยะห่างระว่างจุด

ปล่อยลงลึกมาโดนบริเวณแถวเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ พอโดนกล้ามเนื้อก็หดไป

เนื่องจากถ้าปล่อยให้กระจายทั้งหมด หน้าจะแข็งและเกร็งไม่ธรรมชาติ

เราจะนิยมยกโครงกรอบหน้า ผิวแก้มที่ห้อยย้อยเป็นกระเปาะ ยกหน้าผาก คิ้ว หางตา

ลำคอ ผิวที่เนินอก

 

การปล่อยพลังงานของTHERMAGE 

ความร้อนจะกระจายกว้าง ละเอียด ลงโดนทุกคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

ลงถี่รักษาเต็มทุกพื้นที่ 100%

ทำให้คอลลาเจนแข็งแรงขึ้นฉับพลัน หดตัว และ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

เราจะนิยมใช้ดูแลปัญหาผิวที่คอลลาเจนเสื่อม หรือ

ทำล่วงหน้ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อชะลอวัย

ทำให้ผิวหน้าแน่น ใบหน้ากระชับ เซลล์ไขมันตาย ดูหน้าเข้ารูปขึ้น

 

 

 

ดังนั้นดูปัญหา ที่เกิดตามจริง แล้วเลือกให้เหมาะสม

เช่น

เหมือนตอนวัยรุ่นผิวเรายังไม่คล้อย ทาครีมก็พอ ก็ดูแลบำรุง

ผิวชั้นหนังกำพร้าให้มีริ้วรอยช้า

พอเริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ผิวเริ่มห้อยคล้อย มีเหนียง ไขมันเยอะๆ

THERMAGE ก็อาจจะเหมาะ

พอเริ่มสูงวัย ใบหน้ากล้ามเนื้อหย่อนลงมา รูปหน้าเสียทรง

เราก็มายกด้วย ULTHERA

ดูแลทุกชั้นไปในแต่ละช่วงวัย และ ปัญหาผิว

ทำให้ทุกชั้นได้รับการดูแล เราจึงดูอ่อนวัยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ

 

อ่านกลไกการทำงาน THERMAGE ต่อได้ที่

LINK 1

LINK 2

บรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติ

 

 

 

สำหรับการดูแลผิวพรรณ รูปหน้า ตลอดเกือบ8ปี iskycenter

ดูแลทุกอย่างมาตลอด

และคุณหมอเอิ๊กมีหลายท่าน ขึ้นกับว่าหาด้านไหน ฝ้า กระ

แผลผ่าตัด รอยดำ เซลล์ลูไลท์

โบทูลินัมทอกซิน ฟิลเลอร์ สิว กำจัดขน ลบรอยสัก ทรีทเมนท์

ledฉายแสง แผลหลุม

หน้าแพ้เครื่องสำอาง ปรุงครีมทาหน้าส่วนบุคคล

ตรวจสภาพผิว ลดไขมันหน้าท้องและขา

เลเซอร์หน้าใส ยกกระชับหน้า ฯลฯ

(ด้านบนคือรายการที่เคยทำมาทั้งหมด☺️)

(เอิ๊กไม่เคยศัลยกรรมบนใบหน้า)

#จะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนและเทคโนโลยีความงามมากกว่า

 สำหรับการดูแลเรื่องการปรับรูปหน้า Anti-aging เอิ๊กจะหา

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รังสิมา วณิชภักดีเดชา

ท่านเดียวเท่านั้น

เพราะท่านเก่งเรื่องวิจัย

เป็น INTERNATION SPEAKER ที่อัพเดท

และ บินไปให้ความรู้เทคนิคกับแพทย์ผิวหนังต่างชาติตลอดเวลา

รวมถึงคุณหมอยังเป็นอาจารย์แพทย์ผิวหนัง

และ เชี่ยวชาญทางด้านมะเร็งผิวหนังด้วย

บทสัมภาษณ์ที่ทุกคนได้อ่านอยู่นี้

เป็นการสัมภาษณ์มาจากคุณหมอค่ะ

 

 

 

ด้านล่างจะแบ่งเป็นการรีวิวULTHERA vs THERMAGE  ทั้ง 2 ส่วน

บทความนี้ใช้เวลาเก็บผลเกือบ 2 ปีเต็ม

 

 รีวิว THERMAGE

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 29 นะคะ จะครบ 2 ปีแล้ว ตอนนั้นยังไม่มีปัญหาอะไรชัด

แต่งานวิจัยบอกให้เราทำทุกปี หรือ ทุก 2-3 ปี จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

และ ทำให้ใบหน้าเราเด็กลงจริง

ทำทั้งหมดจำนวน 1200 SHOTS ทั้งใบหน้าและลำคอ

ราคา 150,000 กว่าบาท

ดวงตาทำไปก่อนหน้านี้ ราคา 35,000 บาท จำไม่ได้ว่ากี่ SHOTS

รูปก่อนทำในวัย 29 ปี ก็จะมีแก้มที่ยุ้ย ก็หวังว่าหน้าจะเล็กลงเป็นผลพลอยได้

แต่ในใจอยากได้แค่สะสมการสร้างคอลลาเจนไปเรื่อยๆทุกๆปี


 

เราจะเริ่มกันด้วยการทายาชาทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 45 นาที เพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บที่เกิดขึ้น

 

 

ตอนนั้นเจ็บมาก รู้สึกว่าเป็นคนถ่ายเอง แต่ลืมถ่ายรูปเครื่องมา สามารถดูลิงค์ที่แปะให้

อ่านในกลไก การทำงานได้ค่ะ ถ่ายมาแต่อุปกรณ์ เป็นตัวเจล หรือ สารนำความร้อน

และ หัวทิปส์ 1200 SHOTS ที่ใช้ในการยิง ยิงเสร็จทิ้งเลย แพงที่หัวจริงๆ

 

 

คุณหมอจะเริ่มหนึ่งข้างก่อน ความร้อนจะทำให้ผิวด้านบนอมชมพูถามว่า

ความรู้สึกเป็นยังไง เจ็บลึก ปวดลึก บอกไม่เจ็บก็ดูหลอกเด็ก

แต่บางคนคงทนได้ เอิ๊กสำออย55

 

 

 

ผลลัพธ์การทำครึ่งหน้า ร่องแก้มหายไปในบรรดล 6 เดือน ถึง 1 ปีเข้าที่

 

 

รูปนี้ทำเสร็จแล้ว 2 ข้าง กว่าจะจบ 555 เกร็งจนเพลีย ร่องแก้มหายวับเลย ตาดูยก คิ้วยก

 

 

และแล้วก็เดินทางมาครบ 1 ปี มาเผยให้ดูกันแต่ละจุด

หน้าผากเห็นเด่นชัดเลย คือ สภาพผิวเรียบลื่น ริ้วรอยคลื่นบางๆ หายวับไป ผิวดูแน่นขึ้น

 

 

ผิวบริเวณคาง ผิวแน่น ละเอียดขึ้นอีกเช่นกัน

 

 

ผิวบริเวณข้างจมูก รูขุมขนที่ตื้นขึ้น เล็กลง ผิวละเอียดใสสว่างขึ้น มันช่วยเรื่องผิวจริงๆ

 

หน้าตรงครบ 1 ปี

พลังงานความร้อนที่ใช้มีผล จำได้ว่าเอิ๊กทนไม่ได้มาก ดังนั้นอาจจะไม่ร้อนลึก

ถึงระดับชั้นไขมันมาก เลยรู้สึกว่าในส่วนความเรียวของใบหน้าอาจจะไม่ได้เห็นชัด

แต่แน่นอน ความร้อนระดับคอลลาเจนถึงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของริ้วรอยจางๆ

และ ผิวที่ดูกระชับ รูขุมขนกระชับ ผิวดีขึ้น ใสขึ้น แน่นขึ้น

 

 

ถามว่าจะทำต่อไปไหม ชัวร์โคตรโคตร เพราะว่ากระตุ้นคอลลาเจนเก็บสะสมไว้

หน้าจะเด็กยาวนาน

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวชัด กระชับ รูขุมขนแน่นขึ้น ริ้วรอยบางๆหาย

กระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว ส่งผลเรื่องความอ่อนเยาว์ใต้ชั้นผิวจริงๆ

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะเล็กลงเพราะเซลล์ไขมันบางส่วนตาย

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

 

ข้อด้อย

เจ็บอยู่เหมือนกัน

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 รีวิว ULTHERA

ซึ่ง MERZ AESTHETICS

คือเจ้าของเทคโนโลยี ULTHERA จากเยอรมันที่เข้ามาเปิดสาขาในไทย

ใครอยากรู้ว่าทำ ULTHERA ของแท้หรือเปล่าสามารถสอบถามได้ที่เพจนะคะ

https://www.facebook.com/MerzAestheticsThailand/

ขณะทำอยู่ในช่วงอายุ 30 นะคะ จะครบ 1 ปีแล้ว มีปัญหาแก้มห้อยย้อย

ทำทั้งหมดจำนวน 400++ LINES ทำแค่ทั่วใบหน้า

ราคา 40,000 กว่าบาท

ULTHARA ได้รับการรับรองจาก USFDA ทางด้าน LIFTING

และเป็นเทคโนโลยีเดียวในการทำงาน ทำให้เราเห็นพลังงานULTRASOUND

ตลอดการทำ ว่าลงไปถึงชั้น SMAS ทุกไลน์จริงหรือเปล่า ให้ความแม่นยำ

เว็บไซด์ REVIEW ศัลยกรรมความงามชื่อดัง อย่าง REALSELF ก็เคยบอกไว้เลย

จาก 140 กว่ารีวิว ว่า คุ้มเงิน !!

 

 

การลงลึกของพลังงาน ถ้ามองให้ชัด ในหัวพลังงาน  4.5 ความร้อน

จะลงมาถึงเยื้อหุ้มกล้ามเนื้อ

ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว จึงยกผิวหน้า โครงหน้าขึ้นได้ เบอร์ 3-4-5

แต่ถ้าเรามีไขมันเยอะมาก พลังงานจะลงมายาก การใช้ THERMAGE อาจดีกว่า

 

 

การทำงานของ ULTHERA เราสามารถเลือกหัว เพื่อระดับความลึกของพลังงาน

ในการลงไปแก้ไขในระดับชั้นผิวที่เราต้องการได้อีก หัวมี 3 พลังงาน

1.5 / 3 / 4.5

 

 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนดีไซน์พลังงานให้เหมาะสมกับปัญของเรา

จุดไหนเป็นปัญหาต้องยิงเพิ่ม LINE

จุดไหนเก็บไว้ได้ ไม่ต้องยิงLINEเยอะ

ทุกอย่างอยู่ที่การประยุกต์ และ

ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์แต่ละท่าน

ระยะเวลาเห็นผลที่ดีที่สุด 6 เดือน

 

เราจะเริ่มจากการทายาชา เพื่อบรรเทาความเจ็บอีกเช่นเคย

 

 

นอนรอคุณหมอ แล้วก็ทำใจไปพลางๆ ไม่แน่ใจว่าจะเจ็บแค่ไหน

 

 

ตัวเครื่อง ULTHERAและอุปกรณ์รวมถึงเจลเพื่อป้องกันความร้อนเบิร์นผิวด้านบน

 

 

เครื่องจะถูกตั้งค่าเป็น 0 ระบบฉลาดมาก บันทึกชื่อคนไข้ คราวนี้ทำอะไรไป

คราวหน้าจะได้วางแผนถูก และ ใบบันทึกผลการรักษาว่าเราจะใช้กี่ LINE ในบริเวณไหนบ้าง

 

 

คุณหมอจะทำทีละครึ่งหน้าเช่นเดิม และ คุณหมอจะชวนคุยเพลินๆให้ลืมความเจ็บแต่ว่า

ไม่ลืมเลยค่ะ ความรู้สึกเจ็บอันนี้เหมือนหนังยางดีดรัวๆ ลึกๆ เจ็บลึกๆ

ทนได้ 400 กว่าครั้งเท่านั้นตอนแรกว่าขอเยอะๆ เอาแบบเต็มสูบเลยค่ะคุณหมอ

จบชีวิตตั้งแต่ 300 LINES มันสุดยอดมาก 5555555

 

 

 

ULTHERA เป็นเทคโนโลยีเดียว ที่มีหน้าจอให้มองเห็นถึงพลังงานในขณะทำ

ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเราจะแก้ปัญหาผิวจริงจัง เราต้องรู้ให้ได้ว่าที่

จ่ายตังค์ไป มันคุ้ม เราได้อย่างที่เราอยากได้ 100% รึเปล่า

ไม่ยังงั้นจะได้ผลลัพธ์ได้อย่างไรเราจะเห็นพลังงานที่ลงไปตลอดเวลา

อย่าง ULTHERA หัว 3 หัว เวลาพลังงานลง เราจะเห็นพลังงานลงไป

ในรูปแบบนี้เลย

 

 

เพราะถ้ามีข้อผิดพลาด เช่น เจลปกป้องผิวทาน้อยไป ผิวด้านบนไหม้แน่นอน

หรือ พลังงานลงไม่ถึงชั้นที่ต้องการ

 

 

หัวที่เอิ๊กใช้วันนี้มี 2 หัว คือ 3 และ 4.5 คุณหมอเป็นคนดีไซน์ LINE ว่าจุดไหนควรใช้หัวไหน

อีก1ปัจจัย คือ เรื่องของระดับพลังงานที่ปล่อยความร้อน ยิ่งสูงยิ่งได้ผลดี

แต่ร้อนอาจจะเจ็บมาก อีกวิธีคือใช้ LINE เยอะหน่อย ปล่อยระดับพลังงานที่ทนได้

ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน เป็นเรื่องความร้อนสะสม แต่ข้อเสียคือเพิ่มเงิน เพิ่มLINE

 

 

จบแล้วคุณหมอจะบันทึก LINE ในแต่ละจุดลงในเอกสาร

และดูหน้าจอ จะมีชื่อแพทย์ ชื่อคนไข้

สรุปจำนวน LINE ให้เห็นชัดเจน ทำจริง เจ็บจริง ลงจริง ไม่โกง 55555

 

มาถึงผลลัพธ์ ตั้งแต่ 1 เดือน 3 เดือน และ 8 เดือนนะคะ

 

 

คลิกที่รูป 2 รอบ เพื่อขยายดูนะคะ เรามาดูที่ 3 เดือนแรกกันก่อน

หน้าตรงจะเห็นว่าเอิ๊กมีกระเปาะแก้มย้อยลงมาตามวัยหลังทำเดือนนึงยังไม่ค่อยเข้าที่

แต่ก็เริ่มยกละ เดือน3อาจจะประกอบกับฉีด DIAMOND TOXIN ให้ใบหน้าเรียว

ช่วงนี้ใบหน้ายกกระชับ มลได้รูปแบบเห็นได้ชัด ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้น

ด้านข้างจะเห็นผิวลำคอยกสูงขึ้นเช่นกัน

เหนียงเล็กๆเว้าไป จริงๆ 3 เดือนคนทักละ หน้าฟีบ นึกว่าไปทุบหน้าเกาหลีมา

 

 

เดือนที่ 8 ต้องขออภัย หน้าดูบวมๆ อวบๆ เพราะน้ำหนักขึ้นมา 3 โลแต่ให้ดูความยก

หน้าตรง จะเห็นว่ายังมล ได้รูป ไม่มีกระเปาะแก้มห้อย ร่องแก้มยกสูงขึ้นเล็กน้อย

แต่ถ้ามุมมองจากด้านข้างเห็นเลยหน้ายกขึ้น มุมเนื้อแก้มแฟบไม่เกยจมูก

ร่องน้ำหมากยกสูงขึ้นเล็กน้อย เหนียงอาจจะเริ่มมานิดๆเพราะอวบขึ้น 5555

อีกอย่าง ไม่ได้ทำคอ ทำแค่ใต้ใบหน้าเล็กน้อย นี่ถ้าทำคงยกกระจาย

คุณหมอบอกว่าคอเจ็บมาก เลยขอทูลลาคุณหมอก่อน ไม่ไหว

 

 

หลังทำ ULTHERA อาจจะมีอาการรู้สึกบวมใต้ผิว บางคนรู้สึกกดเจ็บนิดๆ

บางคนก็ไม่บวมเลย ดีงาม แต่ของเอิ๊กเหมือนคนผ่าฟันคุดมา

เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ .. เฉลี่ย 2 อาทิตย์จะค่อยๆกลับมาเป็นปกติ

ผ่านไป1อาทิตย์ เอิ๊กพบว่า การใช้มาส์คหน้า ที่ดูแลเรื่องหน้าเรียวแบบที่ใส่อยู่

หรือ จำพวกเข็มขัดหน้าเรียว รัดไว้ที่ใบหน้าของตัวเองพบว่า

ใบหน้าเข้าที่เล็กลงเร็วขึ้นมาก (ทดลองส่วนตัวคนเดียว)

เพื่อนทักว่าผอมลงหลายคน เปล่าเลย หน้าเล็กลงต่างหาก

ผิวช่วงนั้นยังรู้สึกอักเสบเล็กๆ กดจะช้ำๆมันส์ๆ 555

 

 

เคล็ดลับในการทำ ULTHERA ของเอิ๊กคุณหมอจะดีไซน์ให้โดนไขมันน้อยที่สุดในช่วงแก้ม

ดังนั้นทุกคนจะยังเห็นเอกลักษณ์แก้มของเอิ๊กที่เห็นเหมือนเดิมอยู่

มันจึงต้องมีจอให้เห็นว่าพลังงานมันต้องถึง

ต้องเห็นพลังงานตลอดว่าไปแตะจุดกล้ามเนื้อรึยัง ไม่ใช่ไขมัน

ที่เราควรให้มันอยู่ ผิวจะได้ยังดูเด็ก สดชื่น มีน้ำมีนวล

เพราะอยากให้เอิ๊กเก็บแก้มธรรมชาติไว้ให้ยาวนานที่สุด ❤️

จะจ่ายเงินทั้งทีมันต้องคุ้มเพราะมันแพง


 

8 ปีที่ดูแลผิวด้วยเทคโนโลยีความงามหลากหลายรูปแบบ แต่ยังเก็บเอกลักษณ์

และ ชะลอวัยไปในตัว รูปหน้าอาจจะหดลงตามวัย เราก็พยายามเก็บบางส่วนไว้ให้ดีที่สุด

ตามคนอื่นมากก็ไม่ดี ความสวยอยู่ที่เรามอง แต่ความแก่เราดูแลได้ 🙂

ปีไหนเริ่มห้อย เรามาเจอกันใหม่นะจ๊ะ ULTHERA พี่ละอยากได้ยาสลบตอนทำจริงๆ55

 

ข้อดี

เห็นผลเรื่องผิวยกชัดเจน กรอบหน้าละมุน ความคล้อย ห้อยหายไป

กระตุ้นคอลลาเจนบ้างเล็กน้อยที่พลังงาน 3

ถ้าเราทนพลังงานร้อนลึกๆได้ หน้าจะยกกว่านี้

มีงานวิจัยเพียบ

ไม่ต้องผ่าตัด สวยแบบละมุนธรรมชาติ

ผ่าน USFDA

มีจอให้เห็นว่าพลังงานลงจริง โดนจริง จ่ายจริง ได้จริงตลอดการทำ

 

ข้อด้อย

เจ็บจนร้องขอชีวิตสำหรับเรา

ความแม่นยำและเห็นผลชัดของเทคโนโลยีส่งผลให้ราคาสูง

 

 

 

ขอสรุปเป็นตารางในแบบประสบการณ์ตัวเองนะคะ

 

 

หวังว่าบล็อคนี้คงละเอียดพอให้กับคนที่ตัดสินใจอยู่ รู้ว่าเดินทางไหน

ไม่ก็ปรึกษาหมอค่ะ แต่เอิ๊ก อยากรู้เพื่อจะวางแผนของตัวเองและบอกเลย

พอได้ทำทั้งสองอัน เก็บผลมา 2 ปี มันเข้าใจกว่าที่เราฟังเยอะ

จึงแชร์แบบหมดเปลือกกับประสบการณ์ตรง

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และ บทความนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้

ถ้าไม่มีบรรยายโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์  ที่นำงานวิจัย

มาเผยแพร่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และ

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา ที่ดูแล และ นั่งอธิบายทุกเทคโนโลยี

รวมถึงอัพเดทงานวิจัยความรู้ใหม่ๆให้เอิ๊กได้ติดตามและนำมาถ่ายทอดเสมอ

ขอบพระคุณคุณหมอ และ ขอบพระคุณ ISKYCENTER มากๆค่ะ

 

 

ข้อมูลทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว

เอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดอนุญาตให้แชร์เนื้อหาผ่านจากเว็บโดยตรง

และ ขอความกรุณา ไม่คัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นค่ะ

วัน

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, RADIO FREQUENCY, SKIN, THERMAGE, ULTRASOUNDComments (0)


advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites