คุณเป็นคนปากดีหรือเปล่า ?!?!? 5555 ตอบเลยว่าเปล่า

แทบทุกคลิปปากเยิน วันนี้เห็นสภาพตัวเองแห้งๆในกระจก จัดหน่อย

1.วาสลีน

2.น้ำตาลทรายขาวหรือแดงแถมมากับกับข้าว

3.นวดเบาๆบนริมฝีปาก

4.ทิชชู่เช็ดออกเบาๆ

5.ทาวาสลีนบางๆลงไป 

#ไม่สวยวันนี้แล้วจะสวยวันไหน #555

รู้ไหมแค่คำว่า “ขอบคุณ” แค่คำเดียว สามารถเปลี่ยนเป็นกำลังใจในวันที่ท้อได้

หลายครั้งที่เวลาเกิดปัญหา สมอง ความคิด จิตใจ
เราจะเฝ้าไปขยายภาพความทุกข์ให้ใหญ่โตขึ้นจนลืมไปว่าในชีวิตที่ผ่านมา
มันก็มีทั้งความสุข และ ความทุกข์ปะปนกันไป

บางคนเฝ้าโทษตัวเอง เฝ้าด่าตัวเอง เฝ้าให้คำพูดร้ายๆกับตัวเอง
ฉันเป็นคนแบบนี้ ฉันเป็นคนแบบนั้นในด้านลบ ทำให้ตัวเองหมดค่าหมดพลัง

ลองกลับกันดูถ้าวันนี้เราแค่เปลี่ยนความคิดที่จดจ่อกับสิ่งที่ทำให้เราทุกข์
หันกลับมามองสิ่งดีดีที่มันยังมีอยู่ มองความสำเร็จเล็กน้อยของตัวเองที่ผ่านมา

เช่น วันนี้ทำบุญให้กับขอทานข้างทาง
ไปรับไปส่งพ่อแม่ ลูกหลาน ด้วยความรักทุกวัน
ทำอาหาร ทำงานบ้าน อุทิศตนให้ครอบครัว
ช่วยจูงคนแก่ข้ามถนน
ลุกให้เด็ก คนท้อง คนชรา นั่งในรถไฟฟ้า
ให้ผู้หญิงมีโอกาสเดินเข้าลิฟท์ก่อน
เดินไปถ่ายเอกสารให้เจ้านาย
ก้าวเท้าออกจากบ้านมาทำงาน
บอกขอบคุณเวลาใครทำอะไรดีดีให้
ไปโรงเรียนแม้ไม่อยากเรียนแต่ก็เดินเข้าเรียน

ฯลฯ

ทุกคนมีความดีในตัวอีกด้านเสมอ มีเรื่องอีกมากมายในชีวิตที่เป็นสิ่งดี บางครั้งเราคิดว่ามันเป็นหน้าที่ แต่เราก็ได้เลือกที่จะทำมัน และ บางคนทำอย่างเต็มที่ทุกครั้งในหน้าที่ บทบาทของตัวเอง

“กำลังใจไม่ต้องรอให้ใครสร้าง”
เคยไหมวันนี้เหนื่อย ท้อ หาโทษตัวเอง .. โทษคนอื่น
ก็กลับมาพูดกับตัวเองว่า …
วันนี้เหนื่อยไหมตัวเรา
ขอบคุณนะที่ยังสู้ไม่ถอย
ขอบคุณที่เกิดมา
ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้
ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าชีวิตผ่านอะไรมามากมาย และ เราก็อยู่มาได้
ขอบคุณที่ทำให้เรารู้ว่าเวลาเรารักใครเราก็ทำเพื่อเขาได้มากมายเหลือเกิน
ขอบคุณผู้คนดีดีที่ผ่านเข้ามา ที่คอยช่วยเหลือ
ขอบคุณโชคและสิ่งดีดีทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ขอบคุณที่เราได้เคยเลือกทำสิ่งดีดีให้กับตัวเอง
ขอบคุณตัวเรามาก เรารักตัวเอง เราภูมิใจในตัวเองมากที่ได้เกิดมา
ขอบคุณที่ช่วงชีวิตที่ผ่าน เราได้เคยทำอะไรมีคุณค่าให้กับตัวเอง ฯลฯ

เรามีสิ่งดีดีมากมายในชีวิตที่ผ่านมา และ มันจะเกิดขึ้นได้อีกทุกเมื่อ
ตราบใดที่เรายังไม่หมดศรัทธาในตัวเอง ไม่มีใครมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ และ มีความสุข
โดยไม่เคยผ่านความทุกข์ใจมาก่อน แม้วันนี้เขาก็ยังมีทุกข์ แค่เพียงเขารู้วิธีจัดการมัน

แค่ทุกครั้งที่ท้อ ก็แค่บอกขอบคุณตัวเราเอง บอกรักตัวเราเอง และก็แค่พูดว่า เรานี่ละ จะเป็นคนต่อไปที่จะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะความสำเร็จต้องผ่านอุปสรรค ยิ่งหนัก ความสำเร็จยิ่งมั่นคง ชีวิตจะต้องดีขึ้น และ เราก็จะมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น เพราะเราจะฝึกเลือกมองมุมมองอีกด้านที่ดี และ

เราก็แค่ขอบคุณตัวเราเอง ..

erk-erk
13.04.14

สวัสดีปีใหม่ไทยด้วยคลิปแต่งหน้าสงกรานต์แบบบำรุงผิวผมไปในตัวเวลาเล่น

และไอเดียการทาแก้ม ปาก ตาด้วยลิปสติกเพียงหนึ่งแท่งที่บางคนชอบคิดไม่ออก

วันนี้จะจับคู่สี ปาก ตา แก้มยังไง ทุกอย่างเน้นอึดอยู่ทน อยู่นานกันน้ำค่ะ

เมื่อวานวิ่งผ่านน้ำมาแล้ว ติดดีอยู่ ซ้อมแต่งเล่นมาแล้วรอบนึงเลยมาแชร์กัน

คลิปนี้ทำเล่นเอง สนุกสนุก <3 ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจตลอดมาค่ะ

SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION

ได้ลองกลุ่มแรก เอาเป็นว่าใครเห็นก็ต้องนึกถึงเอิ๊ก เอิ๊กชอบมาก บีบี , รองพื้นชุ่มในฟองน้ำ

ตัวนี้เพิ่งเข้าไทยเมื่อเดือนมกราคม 54 ด้านบนคือโฆษณาที่ออกมาของรองพื้นตัวนี้ที่บอกว่า

เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของรองพื้นสูตรอัจฉริยะ ที่ผสานคุณสมบัติในการปกปิดผิวได้อย่างแนบ

เนียน พร้อมฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใส รับมือกับปัญหาริ้วรอยแห่งวัย และปกป้องผิวจาก

แสงแดดในขั้นตอนเดียว

เหตุผลส่วนตัวที่ชอบ SULWHASOO EVENFAIR PERFECTING CUSHION

1. ประหยัดเวลาลงรองพื้นกรณีใช้ตัวเดียว เร็วมาก โปะ โปะ โปะ
2. ปกปิดดี 
3. หน้าฉ่ำวาว 
4. เนียน
5. เย็น
6. กันแดด
7. บำรุงในตัวและมีงานวิจัยรองรับเรื่อง [ ริ้วรอย ] [ทดสอบอยู่]
8. พกพาได้
9. เติมซ้ำระหว่างวันไม่เป็นคราบ

แอบงงว่าทำไมเหตุผลที่เราชอบถึงมากกว่าที่เขาโฆษณา >< 

SULWHASOO เป็นแบรนด์ที่เอิ๊กชอบสกินแคร์หลายตัว และ รวมถึง รองพื้น เบส

แป้งผสมรองพื้น หลายคนรู้ว่าเป็นสกินแคร์ หรือ เครื่องสำอาง ที่เป็นแบรนด์ระดับหรู

เน้นปรับสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ เอิ๊กใช้มาตลอด1ปีกว่า เพราะเอิ๊ก

หน้าแห้ง สกินแคร์หลายตัวถ้าพูดถึงเรื่องการลดริ้วรอยส่วนใหญ่เนื้อครีมจะหนัก

แต่ SULWHASOO เบา เมคอัพจะเบาสบายผิว เห็นผิว คือ เงา ฉ่ำ สุขภาพดีเอิ๊ก

ใช้มาต่อเนื่องซื้อซ้ำ หมดไปหลายรอบทั้งสกินแคร์ และ เมคอัพ โดยไม่มีสิวขึ้นเลย

เอาเป็นทั้งซื้อเอง ซื้อฝาก และ แบรนด์ให้ ต้องมีแบรนด์นี้ติดบ้านติดคอนโดไว้ตลอด

บอกเลยจากใจว่าเป็นอีกแบรนด์ที่แนะนำ ถ้าอยากลองอะไรที่ชุ่มชื่น บำรุงผิวจาก

ธรรมชาติ โดยเฉพาะพวกโสม เอิ๊กชอบกลิ่นที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเหมือนอยู่ในสปา

[ เคล็ดลับการลงรองพื้นกับช่างแต่งหน้าชื่อดังของเกาหลีเทคนิคนี้เนียนกริบ ]

สำหรับตัวนี้เอิ๊กจะบอกว่าชอบรองจาก รองพื้นเนื้อครีม เพราะเอิ๊กว่าตัวนี้ปกปิดได้ดีทีเดียว

ส่วนตัวชอบปกปิดไม่มาก ชอบให้คนเห็นรอยสิว 55555 วิธีแก้คือ กดเนื้อรองพื้นออกมา

เล็กน้อยพอ แล้วย้ำบางบางจะได้ลุคใสใสที่รวดเร็ว เนียน เย็น ข้อนี้ได้เปรียบรองพื้นน้ำ

และ พกเติมระหว่างวันได้ไม่เป็นคราบ หรือ กดทับบริเวณที่เลอะบนใบหน้าได้จะเนียนดังเดิม

ทางแบรนด์ให้มา ตอนนี้มีโปรโมชั่นของแบรนด์ซื้อรองพื้นตัวนี้ได้พัฟฟองน้ำ 2 อันและ

ลิปแคร์บำรุงริมฝีปาก 1 หลอดขนาดพกพาออกสีเล็กน้อยทาแล้วดูเหมือนปากอมชมพูขึ้น

มาในตลับขาวทอง หรูหรา CONCEPT SULWHASOO เหมือนเดิม ดูเรียบหรูแบบผู้ใหญ่

เอิ๊กได้มาลองลงสีให้ดู 4 สีที่วางขายในประเทศไทยทุกสาขา

NO.13 – LIGHT PINK

NO.21 – MEDIUM PINK

NO.23 – MEDIUM BEIGE

NO.24 – DEEP BEIGE

เรียงจากซ้ายไปขวาตามลำดับแสงธรรมชาติ VS แสงแฟลช

NO.13 – LIGHT PINK

NO.21 – MEDIUM PINK

NO.23 – MEDIUM BEIGE

NO.24 – DEEP BEIGE

แสงธรรมชาติในร่ม VS แสงแฟลช

เทียบบนผิวหน้าจะบอกว่าผิวเริ่มคล้ำลง ตอนนี้ใช้เบอร์ 23 ล่ะ เทียบแนวกราม

แต่ใช้เบอร์21 ก็ได้จะอมชมพูดูมีสุขภาพดี ได้ทั้ง 2 สีสำหรับสาวผิวเหลืองอย่างเรา 😛

ราคา 2,000 บาท ภายในกล่องประกอบด้วยตลับที่บรรจุรองพื้นที่สามารถREFILLได้

คู่มือ และ รองพื้นพร้อมฟองน้ำที่ REFILL อีก 1 ชิ้น

ตลับ และ กล่องชัดๆ แพคเกจ ขาวหรู ดูเรียบง่ายมาก

ฟองน้ำที่ไม่กินเนื้อรองพื้น เห็นบางๆอย่างนี้ ตบเบาๆ เนียนมากนะจ๊ะบอกเลย และ ทดสอบ

ความชุ่มของรองพื้นในเนื้อฟองน้ำให้ดู กดลงไป รองพื้นจะเอ่อขึ้นมาติดนิ้วทันที

วันนี้จะมาสอนลงรองพื้น 3 ลุค ที่นอกเหนือจากช่างแต่งหน้า MR. JIN SOO LEE แนะนำ 

อุปกรณ์

เทคนิคที่ 1 : ลุคเมคอัพชุ่มชื้น วาวใส เปล่งปลั่ง

เหมาะสำหรับวันเบาเบาที่ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ

และได้รับการบำรุงไปในตัว เช่น ไปเรียน ไปทำงานประจำวัน

อุปกรณ์

1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion
2. Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing Essential Oil

BEFORE หน้าสดก็มีร่องรอยสงครามกันบ้าง รอยแดง รอยสิว ใต้ตาคล้ำ มีครบ

เริ่มด้วยบำรุงผิวหน้าด้วย Sulwhasoo Concentrated Ginseng Renewing

Essential Oil 1-3 หยด ก่อนการแต่งหน้าขั้นต่อไป จะบอกว่าถ้าหน้าไม่มีปัญหา

รองพื้นไม่ต้อง ลง OIL นี่หน้าวาวฉ่ำโบ๊ะมาก

ลง Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion เบอร์ 23 ลงไป

กดลงเบาๆไม่เกิน 30 วินาทีลงรองพื้นเสร็จแล้ว มาแข่งกันลงรองพื้นได้ปกติ

ไวกว่าแน่นอน 555555 มันแจ่มก็ตรงนี้ โปะ โปะ โปะ เรียบร้อย ออกจากบ้านทันเวลา

เบอร์23แอบขาวไปนิดด้วยซ้ำ สงสัยต้องหันมาใช้ WHITENING ล่ะตอนนี้

BEFORE – AFTER เนียนเงาไหมคะ 🙂

เทคนิคที่ 2 : หน้าเนียนฉ่ำปกปิดปานกลาง

อุปกรณ์

เหมาะสำหรับวันที่เป็นทางการและต้องการความเป๊ะขึ้นมาอีกระดับ

ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ ได้รับการบำรุงไปในตัว

ดูน่านับถือ เช่น ไปสมัครงาน ไปงานเลี้ยงช่วงกลางวัน ไปเดท  ฯลฯ

1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion
2. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

เริ่มต้นการลงเบส Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base 

ปรับผิวให้ดูสว่าง แต้ม 5 จุดแล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าอย่างเบามือ

ผิวจากการลงเบสจะดูผ่องขึ้น รอยสิวดูงดงามขึ้น [ เว่อร์ไป 555 แต่ดูดีขึ้นจริงๆนะ ]

 ตามด้วยรองพื้น Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion เบอร์ 23

กดทับเบาๆลงไปทั่วใบหน้าให้ทั่ว

BEFORE-AFTER พอไม่ได้ลงออยแล้วจะดูฉ่ำเล็กน้อย เดี๋ยวจะค่อยฉ่ำมากขึ้น

ระหว่างวันที่ทำปฏิกิริยากับน้ำมันบนใบหน้าของผิวแต่ละคน

เทคนิคที่ 3 : หน้าเนียนฉ่ำ ปกปิดสูง

อุปกรณ์

เหมาะสำหรับ วันที่เป็นวันพิเศษ วันที่ต้องเป๊ะ ย้ำต้องเป๊ะ

ต้องการให้หน้าดูเนียนเรียบ ชุ่มฉ่ำ สีผิวสม่ำเสมอ ปกปิดดี หน้าเป๊ะ

เงา ฉ่ำ สวย ไร้ร่องรอย หน้าดูมีมิติ และ ได้รับการบำรุงไปในตัว

เช่น ไปงานเลี้ยงรุ่น [ ต้องสวยเพราะเจอเพื่อนเก่า ] รับปริญญา

งานเลี้ยงกลางคืน งานแต่งงานตัวเอง ฯลฯ

1. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion No.13,23,25
2. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Foundation
3. Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

เริ่มต้นด้วย Sulwhasoo Evenfair Smoothing Makeup Base

ปรับสภาพผิวให้สว่างพร้อมรบ

ลงรองพื้นด้วย Sulwhasoo Evenfair Smoothing Foundation NO. เล็กน้อย

บนบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ รอยสิว รอยคล้ำใต้ตา รอยมุมปาก โดยบีบออกมาลง

บนหลังฝ่ามือ แล้วค่อยๆกดแต้มลงบริเวณที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือ บริเวณที่ต้องการ

ปกปิดให้ดูเนี๊ยบเป็นพิเศษ กดย้ำ และ เกลี่ยลงไปเบาๆ

ลุคนี้ต้องเป๊ะ เราต้องสร้างมิติแสงเงาให้กับใบหน้าเราจะใช้รองพื้น 3 สี 

1. สีพอดีกับผิว – รองพื้นทั่วใบหน้า 

2. สีเข้มกว่าผิว – เฉดดิ้ง ให้หน้าดูเรียวเล็ก 

3. สีสว่างกว่าผิว – ไฮไลท์ ให้หน้าดูมีมิติ ดูพุ่ง นูน มีส่วนโค้งเว้า

ลงรองพื้นสีพอดีกับผิวทั่วใบหน้าด้วย

Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.23

ใช้ Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.25 สีเข้มกว่าผิว

ที่บริเวณกรอบหน้าข้างแก้ม ไรผม เพราะเอิ๊กแก้มเยอะ และ หน้าผากกว้าง

ดูบริเวณที่ต้องลงตามรูปค่ะ

ลง Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion N0.13

สีอ่อนกว่าผิวที่ กลางหน้าผากหว่างคิ้ว สันจมูก ปลายคาง รอยต่อจมูกก้บปาก

ใต้ตา ดูบริเวณที่ต้องลงตามรูปค่ะ

ลุคนี้หน้าดูมีมิติมาก หน้าดูเรียวกว่าความเป็นจริง รวมถึงสันจมูกที่ดูเข้า

รูปทุกภาพไม่มีการตกแต่งเพื่อให้เห็นผิว และ สีรองพื้นที่แท้จริง 🙂

ลองแต่งหน้าเล็กน้อยลุคนี้ฉ่ำหวานมากต้อนรับวาไลนไทน์

รวม 3 เทคนิคลองนำไปใช้กันดูนะคะ

Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion

ข้อดี

ประหยัดเวลา เร็ว / ปกปิดดี / ชิ้นเดียวเอาอยู่นะบางที / หน้ำฉ่ำวาวเหมาะกับสาวหน้าแห้งอย่างเรา เหมาะกับสาวหน้ามันช่วงหน้าหนาว / เนียน / เย็นๆ / กันแดด / บำรุงลดริ้วรอย รอยดำ [ทดสอบอยู่] พกพาได้ / เติมซ้ำระหว่างวันไม่เป็นคราบ / REFILL ได้ชอบ

ข้อเสีย

พัฟต้องระวังแบคทีเรียที่เราหยิบมาเติมบนใบหน้าที่เลอะฝุ่นละอองระหว่างวัน / หมดไวอยู่นะ / เคาท์เตอร์มีน้อยสาขา 

ข้อแนะนำ

พัฟเปลี่ยนบ่อยหน่อยก็ดีค่ะ สำหรับคนที่เติมระหว่างวันบ่อย เอิ๊กไม่ค่อยเติมเท่าไหร่ หน้าแห้งติดแน่นทนอยู่แล้ว / หน้ามันอยู่เมืองไทยอาจจะมันเร็วไปนิด อยู่เมืองนอกผิวจะฉ่ำสวย

AFTER NO FILTER กันไปเลย

ใครกำลังเล็ง เราจัดเต็ม REVIEW ให้ท่านแล้ว ลองตัดสินใจกันดูส่วนข้าพเจ้าก็จะเป็น

สาวกที่น่ารักของ SULWHASOO ตลอดไป รวมถึงแม่ข้าพเจ้าด้วย ลากกันมาเป็นทีม

XOXO

ข้อมูลเพิ่มเติม

www.facebook.com/sulwhasoothailand 

@sulwhasoothailand

– www.youtube.com/amorepacificth

และมีจำหน่ายที่

เซ็นทรัลลาดพร้าว -เซ็นทรัลบางนา -เซ็นทรลแจ้งวัฒนะ

เซ็นทรัลพระราม 2 -เซ็นทรัลชิดลม -เซ็นทรัลปิ่นเกล้า -สยามพารากอน

erk-erk feats. KITTYKAWAII BIGEYE

HAPPY VALENTINE DAY ล่วงหน้านะคะทุกคน 
ขอให้ความรักเบ่งบานทุกวันกับทุกคนรอบตัว ทุกสถานะ
I LOVE YOU AND NICE TO MEET YOU ALL KUB

ฮาวทูใหม่มาเสริฟแล้วคัฟฟฟ  

ERK-ERK MAKEUP HOW TO

PEACHY FLOWERY LOOK BY Utip freshy beauty

ประกวดแต่งหน้าสำหรับ MAKEUP ARTIST วัยทีน 18-25 ปี

กับโครงการ UTIP YOUNG MAKEUP ARTIST CONTEST 

ซื้อเครื่องสำอางผ่านมือถือระบบ AIS mPAY MasterCard

บริการจาก AIS mPAY MasterCard ช้อปปิ้ง เติม จ่าย โอน ถอน จอง บนมือถือครบวงจร

              ฮัลโหลทุกท่าน .. วันนี้มารู้จัก “AIS mPAY MasterCard” กันดีกว่า ช้อปปิ้ง เติม จ่าย โอน ถอน จอง บนมือถือลูกค้า AIS แบบครบวงจร ที่เอิ๊กลองใช้ดู สำหรับคนที่ชอบซื้อของออนไลน์ แต่ไม่มีบัตรเครดิต และ ร้านค้าเก๋ๆ ดังๆ มีชื่อหลายที่เดี๋ยวนี้ก็รับแต่บัตรเครดิต หรือ บริการชำระเงินในรูปแบบอื่น เราก็ต้องเรียนรู้กันอีก หรือ ถ้าจะเปิดบริการเดบิตก็ต้องไปธนาคารเดินทางกันอีก แต่ถ้าวันนี้ใครเป็นลูกค้า AIS อยู่แล้วก็สามารถมีบัตร MasterCard ได้ ถึงแม้จะไม่มีบัตรเครดิตแต่จุดเด่นคือ แน่นอนเราจำกัดวงเงินได้ หรือ ผูกให้ตัดผ่านบัญชีธนาคารที่เรามีเงินสดอยู่ได้ หมดปัญหาการเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือ SHOPAHILIC เกินลิมิต พอใบเก็บเงินบัตรเครดิตมาแต่ละเดือนเป็นลม อารมณ์เหมือนลูกครึ่งเดบิต + เครดิต “ช้อปแค่ไหน  ก็เติมเข้าไป “ เพียงแต่ตอนนี้ยังจำกัดให้ใช้แต่ในโลกออนไลน์ก่อน

               AIS mPAY MasterCard คือ บัตร MasterCard เสมือนจริง สามารถใช้งานได้เหมือนบัตร MasterCard จริงๆ เพียงแต่ว่าจะไม่มีตัวบัตรพลาสติกเหมือนบัตร MasterCard ทั่วไป  จะมีเพียงเลขบัตรเครดิต 16 หลัก, เลข CVC (Card Verification Code) รหัสความปลอดภัย 3 หลัก และ วันหมดอายุ (MM/YY) สามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 300 – 30,000 บาท / ครั้ง ที่รับชำระผ่านบัตรเครดิต (Master Card)เท่านั้น : ไม่สามารถนำไปใช้รูดซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าทั่วไปได้ และเมื่อใช้ AIS mPAY MasterCard ชำระค่าสินค้าบริการ ยอดเงินจะถูกหักจาก mCASH ของลูกค้าทันที โดยบริการนี้เป็นการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีความปลอดภัยสูง ด้วยมาตรฐาน 3D Secure ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ที่จะส่ง SMS ให้ลูกค้าทราบเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัตรซื้อสินค้าดังกล่าวก่อนชำระเงินทุกครั้ง

1. เริ่มกันที่หยิบมือถือขึ้นมา ตามหา APP ที่มีชื่อว่่า APPLICATION ศูนย์รวมความหฤหรรย์ของหมู่เหล่าชาวสาวก APPLE อย่างเรา .. เปิด APP ขึ้นมาหลังจากช่องSEARCHพิมพ์  mPay

2. เมื่อเจอแล้ว ICON MPAY กดตรงคำว่า FREE แน่นอนเป็น APP ที่โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย .. จากนั้นเราก็กรอก APPLE ID และ รหัสของเราให้เรียบร้อยคลิก OK

3. หลังจากนั้นรอโหลดตามความเร็วของเน็ต 3G หรือ WIFI ของเรา .. พอโหลดเสร็จเปิดเจ้า ICON MPAY สีแดงจะมีเมนูเยอะมาก สามารถเลือกภาษาได้เลือกเสร็จ .. เราจะไปเริ่มสมัครใช้บริการก่อนอื่น ปิดWIFI เปิด AIS3G ให้เรียบร้อย และเข้าไปที่ เมนู > MY PROFILE 

 4. จากนั้นให้ เลือกกดเมนูอะไรก็ได้ เพราะระบบจะแสดงหน้าให้พิมพ์เพื่อสมัครเปิดบริการ AIS mPay Mastercard

 5. เมื่อสมัครเสร็จ ทางระบบจะมีการยืนยันว่าสมัครเรียบร้อย และก็จะมี SMS และหน้าจอจะบอกวิธีการเติมเงินใน mCASH ก่อน หรือ เติมเงินในบัตรให้เรียบร้อย สมัครเรียบร้อยก็จะมีวิธีการเติมเงินมาให้ผ่านตู้ ATM / AIS SHOP / TELEWIZ / MPAY STATION ถ้าสะดวก ATM ก็ คลิกเลือกธนาคารที่สะดวก 

6. จะมี SMS วิธีการมาให้ตามธนาคาร.. โดย SMS การวิธีการเติมเงินจะมีข้อความแบบนี้ เราก็ไปที่ตู้และทำตามนี้ เมื่อเติมเงินเสร็จเรียบร้อย สูงสุดเติมได้ตั้งแต่ครั้งละ 300 ขึ้นไปแต่ไม่เกิน 3,000 บาท และ เติมเข้าไปสูงสุดต่อวันอยู่ที่ 30,000 บาทต่อวัน 

7. เมื่อเราได้สมัครเป็นเรียบร้อย ก็มาเปิดใช้งานบัตรกันหน่อย โดยคลิกที่ AIS mPAY MasterCard > เปิดใช้งานบัตร .. จากนั้นให้เราใส่รหัสPIN 4 ตัวที่กำหนดไว้ตอนแรกและพิมพ์ชื่อภาษาอังกฤษของเราลงไป

8. ให้เราอ่านเงื่อนไขการใช้งานบัตรให้เรียบร้อยก่อน  จากนั้น คลิก > เปิดใช้งาน

 9. เปิดใช้งานเรียบร้อยแล้วค่า  .. มาดูหน้าตากันบัตร AIS mPAY MasterCard ด้านหน้าและด้านหลังของมาดามเมิ๊กกันดีฝ่า .. เก๋มั้ยล่ะ บัตร AIS mPAY MasterCard ล่องหนที่สามารถช้อปได้ไม่แพ้บัตรเครดิตใครบนโลกออนไลน์ อิอิ  

 

• ซื้อของออนไลน์กับร้านที่รับบัตร MasterCard 
• จ่ายค่าโทรศัพท์เบอร์ AIS ที่ใช้แต่ละเดือน
• เติมเงินค่าโทรศัพท์ AIS 12call
• AIRNET
• CTH
• โอนเงิน mCASH / โอนเงินสดจาก mCASH เราให้คนอื่น / ถอนเงิน mCASH ได้ด้วยที่ MPAY STATION หรือ ธนาคารกรุงไทย
• จ่ายบิล ค่าโทรศัพท์ น้ำ ไฟ บัตรเครดิต สินเชื่อ ลิสซิ่ง ประกันภัย ประกันชีวิต บิลอื่น
• เติมเงินเกมส์
• ซื้อตั๋วหนัง ตั๋วเครื่องบิน 
• เติมเงินโทรศัพท์
• สั่งหนังสือพิมพ์ สั่งอาหารที่ส่งมากับไปรษณีย์
• PROMOTION mPay
• ฯลฯ

       ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมที่ครบวงจรมาก ทั้งนี้ส่วนตัวคิดว่า mPAY ก็กำลังปรับให้มันเสถียรอยู่  ซึ่งในบางครั้งด้วยเครื่องโทรศัพท์เอง ก็ทำให้ APP เด้งออกโดยอัตโนมัติ และะบางเมนูก็มีจุดที่อาจต้องลองศึกษาดู ” ส่วนความปลอดภัยไม่ต้องห่วง ทุกครั้งที่จะเข้าเมนูอะไรก็ตามต้องใส่หมายเลขมือถือAIS ตามด้วยรหัสOTP ทุกครั้ง และ ในเมนูเฉพาะส่วนตัวก็ต้องใส่รหัสที่กำหนด หรือ PIN ด้วย “

เอาละคร่าวๆในบ้าน mPAY จบละ และ เราก็เติมเงินที่ตู้ ATM เรียบร้อย

เราจะไปซื้อของออนไลน์โดยใช้ AIS mPAY MasterCard ของเรากัน

 

มา SHOPPING กับ AIS mPay Mastercard กัน

              เว็บที่จะโดนเราทดสอบการช้อปปิ้งวันนี้ได้แก่  www.clinique.co.th เอิ๊กเป็นสมาชิกไว้นานมากคนที่ 12 ฮ่าๆ ทางที่ดีแนะนำให้สมัครมาชิกเผื่อมาซื้ออีกจะได้ไม่ต้องมากรอกใหม่

1. LOG IN เป็นชื่อตัวเองเรียบร้อย .. โดยวันนี้เอิ๊กจะลองซื้อ LIPSTICK ให้เพื่อนๆดูกัน 

ซึ่งเงินใน AIS mPAY MasterCard เอิ๊กนั้น ได้เติมอยู่ 900 บาทโดยผ่านการเติมจากตู้เอทีเอ็ม

2. การใช้เงินให้คุ้มค่า เมื่อดูสีที่ชอบ เอิ๊กจะเปิด GOOGLE ตามหา REVIEW สีลิปสติก 555555555555

 

3. เอิ๊กเสริทชื่อแบรนด์ก่อน  จากนั้นตามด้วยชื่อรุ่น แนะนำเวลาเสริทหา หาในคอมดีสุดใหญ่สะใจ อลังการ

                      เมืองนอกบอกเนื้อแน่น สีสด ปกปิดดี ชุ่มชื่น เอิ๊กมีสีโทนชมพู โครอล ม่วง ม่วงแดงเยอะและ

เลยขอจัดส้มแบบ CLINIQUE ซักหน่อย 

4. เอิ๊กเลือกสีส้มสุดเลยจ้า TRUE CORAL อิอิ

5. คลิกเลือกสี TRUE CORAL > ใส่ตะกร้า

 

 

เอิ๊กเพิ่งเหลือบเห็นสั่ง 2500 ส่งฟรี T_T ช้าไป เติมเงินเข้าไป 900 รอรอบหน้านะฮะ

รอบนี้เสียค่าเดินทางส่งเองเลยยย

 6. สามารถเลือก SAMPLE ได้โด้ยยยยยยยยยยย

7. เสร็จแล้ว กดจ่ายตังค์กันดีกว่าาาา

8. เมื่อพิมพ์รายละเอียดการจัดส่งที่อยู่ถูกต้อง

9. เวลาที่ต้องการให้ส่งไปที่บ้าน อย่าลืมเลือกการชำระแบบเครดิตการ์ด เพราะเราใช้ AIS mPAY MasterCard

10. สรุปข้อมูลการจัดส่งอีกครั้ง

11. มาถึงขั้นตอนการจ่ายเงินด้วยบัตร MasterCard ของเรา 

12. เข้าไปดูเลขบัตรที่เมนู AIS mPAY MasterCard > คลิกบัตรของฉัน

13. นำรายละเอียดเลขบัตร เลขCVV2 ไปกรอกในเว็บ CLINIQUE ให้เรียบร้อย และ กดไปต่อที่ CONTINUE

14. รอเว็บดำเนินการ

15. เว็บ CLINIQUE ให้ใส่รหัสป้องกันความปลอดภัยก็ส่งรหัส OTP มาเข้าเครื่องเราในรูปแบบ SMS

16. รหัส OTP จะส่งเป็น SMS มาและเรานำมากรอกใส่หน้าเว็บเมื่อซักครู่ กด CONTINUE

17. รอดำเนินการ

18. เรียบร้อยหน้าเว็บ CLINIQUE จะขึ้นแบบนี้

19. เมื่อเรียบร้อยทั้งอีเมลล์ หน้าเว็บCLINIQUE และ บนมือถือก็จะมีแจ้ง SMS ทำรายการเรียบร้อย

20. ข้อความจากเมลล์ที่บอกว่าเรียบร้อยแล้ว

เราสามารถเช็ครายการที่เราได้ทำธุรกรรมที่ AIS mPAY MasterCard > ข้อมูลการใช้งาน ก็จะขึ้นรายละเอียดมาให้

         โดยส่วนตัวเอิ๊กชอบบริการนี้ของ CLINIQUE ที่บอกว่าจะโทรมาหาก่อนส่ง ดูติดตามมากเพื่อให้ของในการทำธุรกรรมแบรนด์ CLINIQUE ถึงมือผู้บริโภค เป็นการทำฮาวทูที่บอกตั้งแต่การเปิด การทำธุรกรรมจนจบเพื่อให้มือใหม่ได้เห็นภาพละเอียดและทำตามกันไปได้เลยโดยไม่รู้สึกว่ายาก บางทีก็ดีเหมือนกัน

วันเสาร์ซื้อของวันจันทร์ได้เงินคืน 300 บาท อิอิ

ข้อดี
– จำกัดงบการทำธุรกรรมได้ต่อวัน
– มีความปลอดภัยที่ละเอียดทุกขั้นตอน
– ใช้ชีวิตง่ายมากขึ้นในการทำธุรกรรมออนไลน์แค่มีมือถือ และ เครือข่าย AISที่เปิดใช้บริการ 3G
– ช้อปปิ้ง เติม จ่าย โอน ถอน จอง ทำได้หลายจบใน APP เดียว

ข้อด้อย
– ใช้เป็น MasterCard แบบออนไลน์ได้เท่านั้น ณ ตอนนี้กับร้านที่รับบัตร MasterCard
– เติมเงินสูงสุดวันละ 30,000 บาทสำหรับเอิ๊กถือว่ายังไม่หนำใจ 555
– กรอกรหัสความปลอดภัยหลายชั้นมาก บางทีออกไปดูข้อมูล APP อื่นต้องเริ่มกรอกกันใหม่
– บางเมนูต้องเปิดใช้ 3G เท่านั้น WIFI ไม่ได้
– ต้องเป็นเลขหมายของ AIS เท่านั้น ชื่อก็บอกอยู่ว่า AIS mPAY MasterCard เท่านั้นที่มีสิทธิ์
– อยากให้เติมเงินผ่าน ONLINE ได้ด้วย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่แต่บ้านไม่ชอบออกไปเที่ยวเล่น
– ขึ้นกับตัวเครื่องระบบการประมาลผลเครื่องมือถือ ที่บางครั้งอาจทำ APP เด้งออกเอง และ ต้องกดใส่รหัสเข้าไปใหม่

วันนี้ทำงาน และ คุยงานมาทั้งวันแล้ว .. เอิ๊กๆและน้องอุ่นใจขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะกั๊บ

ไว้มีอะไรดีดี ใหม่ๆ จะมาเล่าสู่กันฟังอีกนะฮ๊าบบบบ XOXO’ <3

                         สวัสดีคับบบบบบบ .. วันที่14 พฤศจิกายน 2556 เอิ๊กได้เกียรติรับเชิญจากทางการบินไทย ร่วมกิจกรรม ” นั่งจิบชา มือพับผ้า กับการบินไทย ” ณ โรงแรมหรู เปิดใหม่ Style โมเดิร์น (Mode Sathorn Hotel) ซึ่งจะพาแฟนเพจมาเรียนรู้การพับผ้า ที่เปลี่ยนจากผ้าเช็ดปากธรรมดาให้เป็นรูปร่างต่างๆที่สวยงามเพื่อตกแต่งบนเครื่องบินและบริการผู้โดยสาร โดยมีท่านอาจารย์ผู้ฝึกอบรมลูกเรือ จากทางศูนย์ฝึกอบรมลูกเรือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นวิทยากรทำหน้าที่ในการสอนพวกเราทุกคน

ผ้าขนหนูหลากสีสันที่ถูกพับเป็นดอกไม้นานาชนิด สีสันสดใส น่าหยิบใช้ เหมาะแก่การมอบเป็นของขวัญให้ผู้ใหญ่ ในโอกาสพิเศษต่างๆค่ะ 

                                         นอกจากนี้ท่านวิทยากรยังเคยได้รับเชิญออกอากาศทางรายการโทรทัศน์มาแล้วนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีหนังสือสอนเทคนิคการพับผ้าวางจำหน่ายเเล้วด้วย  

ตะกร้ากระเช้าดอกไม้ผ้าสีสันสดใส ที่ถูกพับออกมาได้อย่างสวยงาม เหมาะกับประดับตกแต่งในสถานที่ต่างๆ หรือจะมอบเป็นของขวัญในเทศกาลปีใหม่ก็ได้ค่ะ

ผ้ากันเปื้อนธรรมดาที่ถูกออกแบบในการพับเป็นกระทง เข้ากันกับเทศกาลลอยกระทงของบ้านเราในเดือนนี้ค่ะ

                                    ซึ่งหลายๆคนที่เคยใช้บริการโดยสารเครื่องบินกับการบินไทย คงเคยเห็นผ้ากันเปื้อนที่พับเป็นรูปทรงต่างๆกันมาบ้างแล้ว วันนี้เราก็จะนำภาพการพับผ้าเป็นรูปทรงต่างๆ อาทิเช่น ดอกกระดุม ดอกเดซี ดอกป๊อปปี้ ดอกกุหลาบ ดอกทิวลิป กระทง นก หงส์ ฯลฯ มาให้เพื่อนชมกันว่ามีความน่าสนใจขนาดไหน  เพราะช่วงนี้ก็เข้าปลายปีกันแล้ว เผื่อเพื่อนๆคนไหนจะมีไอเดียนำเทคนิคการพับผ้าเป็นรูปต่างๆจากท่านวิทยาการของการบินไทย นำประยุกต์ใช้ตาม เพื่อเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆที่จะถึงนี้ ไม่ว่าจะเป็น คริสมาสต์ ปีใหม่ เป็นต้นค่ะ

            ท่านวิทยากรจากทางการบินไทย คุณอิงเรียม  เรืองชาญ , คุณปิยาภา  เกิดนาวี  และ คุณจักรพันธ์  ตั้งอนันตกิจ เริ่มการสอนพับพ้าอย่างละเอียด เป็นขั้นเป็นตอน พร้อมทั้งยังกล่าวถึงความเป็นมาของการสร้างสรรค์ผลงานการพับผ้าเพื่อช่วยเพิ่มคุณค่าในงานบริการ

                     โดยการพับผ้านั้นเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างลงตัว ซึ่งการพับผ้าของทางการบินไทยนั้น สามารถนำไปใช้ได้ในหลายๆโอกาสอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่างแรกก็คือ การพับผ้าเป็นรูปดอกไม้หรือรูปแบบอื่นๆใส่ในตะกร้าให้ดูสวยงาม น่าหยิบใช้ เพื่อเป็นกระเช้าของชวัญปีใหม่และโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างที่สอง คือ พับผ้าเพื่อจัดวางบนโต๊ะอาหาร ใช้ตกแต่งในการเสิร์ฟอาหารหรือในห้องต่างๆ อย่างที่สาม คือ พับผ้าเพื่อจัดเป็นกระเช้าในการตกแต่งภายในห้องน้ำบนเครื่องบิน หรือห้องรับรองในท่าอากาศยานบนเครื่องบิน

                          สำหรับผ้าที่นำมาใช้ในการพับนั้นจะต้องเป็นผ้าที่มีลักษณะไม่แข็ง เพราะถ้าเเข็งเเล้วอาจจะทำให้ยากในการจับเป็นรูปทรงต่างๆ การพับผ้าเป็นรูปแบต่างๆนั้น ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำได้หมดค่ะ หัวใจสำคัญของการพับผ้าเป็นรูปดอกไม้ต่างๆนั้น คือความปราณีตในการจับกรีบให้เป็นทรงต่างๆ มีความสำคัญมาก รวมไปจนถึงการจัดแต่งรูปทรงหลังการพับเสร็จอีกด้วย ในกิจกรรมนี้ทุกคนต่างให้ความสนใจกับการพับมากๆ เห็นได้จากหลายๆคนพับออกมาได้สวย ใกล้เคียงกับที่ท่านวิทยากรได้อธิบายไปอย่างละเอียดเลยค่ะ

อันนี้จะเป็นดอกกระดุม ซึ่งสามารถสังเกตุได้จากตรงกลางที่เป็นรูปกระดุมเม็ดใหญ่ๆ

สวยมั้ยคะ อิอิ

ระหว่างทำเสร็จไปหนึ่งดอกก็เบรคพักทานอาหารว่างกัน อร่อยมากค่ะ อิอิ

น่ากินมั้ยเอ่ยยยยยยย ..

หลังจากทานของว่างกันเสร็จ ก็เริ่มลุยพับผ้ากันต่อ ดอกที่จะพับต่อไป นั่นก็คือดอกกุหลาบค่ะ ดอกกุหลาบพับง่ายที่สุดแล้วในความคิดเอิ๊กนะ อิอิ 

ดอกกุหลาบของพวกเราเป็นไงคะ สวยมั้ยเอ่ย .. งานนี้ลุงเด้งและป้าไก่ แห่ง HK Disney land ก็มาร่วมกิจกรรมนี้กับทางการบินไทยด้วยค่ะ :))

 ท้ายสุดของกิจกรรมนี้ก็มีให้แข่งขันพับผ้าใส่กระเช้าดอกไม้ทั้งหมด  4 ดอก หลายสีสัน ส่งเข้าประกวด ซึ่งมีให้ด้วยกัน 3 รางวัลค่ะ 

อุปกรณ์ทั้งหมดสำหรับการแข่งขั้นในครั้งนี้ค่ะ มีผ้า 4 สี ริ้บบิ้น หนังยาง ตะกร้า

มีแอร์คนสวยคอยสอนอยู่ข้างๆตัวตลอดเลย มือโปรในการพับผ้ามากๆ อิอิ

สุภาพบุรุษ 2ท่านนี้ พับออกมาได้สวยงามมาก

ท่านวิทยากรทุกคนจากทางการบินไทย คอยสอน ดูเเล ทุกคนอย่างใกล้ชิดค่ะ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะทำไม่ได้ 

ตั้งใจฝุดฝุด .. ฮ่าๆ

เสร็จแล้วของพวกเรา 3 คน เอิ๊กๆ ป้าไก่และลุงเด้ง .. ตั้งใจทำกันอย่างสุดฤทธิ์ อิอิ

ถึงเวลาประชันกระเช้าตะกร้าดอกไม้ผ้าของแต่ละคนเเล้ว รอกรรมการตัดสินผู้ชนะ …. . .

และแล้วลุงเด้งก็เป็นหนึ่งในสามท่านที่พับผ้าดอกไม้ได้เข้าตากรรมการ รับรางวัลไปอย่างภาคภูมิใจ อิอิ

กิจกรรมในครั้งนี้สนุกดีค่ะ ได้ทั้งความรู้ในการพับผ้าเป็นรูปแบบต่างๆ รวมจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ทั้งกับตนเองและผู้อื่น นับว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมเลยทีเดียวค่ะ

รูปภาพรวมของทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รวมจนถึงทางการบินไทย และ ทาง Mode Sathorn Hotel 🙂

                    สวัสดีเพื่อนๆชาวบลอคทุกคนนะคะ ..  วันนี้เราจะเพื่อนมารู้จักกับแป้งผสมรองพื้นในแบรนด์ COLLECTION กันค่ะ  ซึ่งมีทั้งในรูปแบบแป้งตลับ และ BB ครีม  Packagingของคอลเลคชั่นนี้ สีสัน สดใส มีชีวิตชีวามากๆเลย ใบหน้าที่เนียนเรียบไบรท์ใสแบบธรรมชาติจะทำให้สาวๆมั่นใจ สตาร์ทวันใหม่ได้อย่างสดชื่นใหม่ แป้งผสมรองพื้นจากเครื่องสำอาง COLLECTION จากอังกฤษ แนะนำสินค้าชุด Bright & Glow เพื่อผิวหน้าที่เนียนเรียบสว่างโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ ประกอบด้วยแป้งตลับผสมรองพื้น และบีบีครีม ในเฉดสี และสูตรที่ได้พัฒนาเพื่อผิวของสาวเอเชียโดยเฉพาะ Bright & Glow Brightening Compact Foundation SPF20 แป้งผสมรองพื้นที่เข้าใจความต้องการของสาวไทย ในตลับสดใสน่าใช้ พกง่าย พร้อมกระจกและพัฟฟ์

                    อณูละเอียดดุจใยไหมของมิเนอรัลพาวเดอร์ที่เนียนเรียบไปกับผิวและให้การปกปิดสีผิวที่ไม่เรียบในระดับสูง แต่ยังคงลุคที่ดูเนียนผ่องเป็นธรรมชาติโดยไม่ทำให้ผิวอุดตัน อีกทั้งผสมแป้งควบคุมความมันเพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ตลอดวัน ป้องกันผิวจาก UVB ได้อย่างสบายด้วย SPF20 ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ 

Bright & Glow Brightening Compact Foundation SPF20 (ราคาตลับละ 259 บาท)

มี 4 เฉดสีเพื่อสาวเอเชีย
#1 Vanilla – สำหรับผิวขาวอมชมพู
#2 Ivory – สำหรับผิวสีปานกลางอมชมพู
#3 Almond – สำหรับผิวสีปานกลางอมเหลือง
#4 Honey – สำหรับผิวสองสี

COLLECTION Bright & Glow Brightening BB Cream SPF30 บีบีครีมสูตรพิเศษที่ไม่เพียงช่วยให้ผิวไบรท์กระจ่าง แต่ยังอุดมด้วยสารบำรุงผิวต่างๆ เนื้อครีมเนียนเบาเกลี่ยง่าย ผสมมิเนอรัลพิกเมนท์ ช่วยปรับสีผิวและจุดด่างดำให้เรียบเนียนเสมอกัน อุดมด้วยสารบำรุงผิว เช่น วิตามิน C และ โซเดียมไฮยารูโรเนต ให้ผิวแลดูสุขภาพดี ช่วยทำให้ผิวแลดูกระจ่างใสและเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดวัน ป้องกันผิวจาก UVB ด้วย SPF30 ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันและน้ำหอม (ราคาหลอดละ 299 บาท ) 

Bright & Glow Brightening BB Cream SPF 30 & Bright & Glow Brightening Compact Foundation SPF20 (#1 Vanilla – สำหรับผิวขาวอมชมพู)

เนื้อครีม Bright & Glow Brightening BB Cream SPF 30 เบอร์ 1

Bright & Glow Brightening BB Cream SPF 30 & Bright & Glow Brightening Compact Foundation SPF20 (#2 Ivory – สำหรับผิวสีปานกลางอมชมพู)

เนื้อครีม Bright & Glow Brightening BB Cream SPF 30 เบอร์ 2

Glow Brightening Compact Foundation SPF20 (#3 Almond – สำหรับผิวสีปานกลางอมเหลือง) & Glow Brightening Compact Foundation SPF20 (#4 Honey – สำหรับผิวสองสี) 

** จำหน่ายที่ร้านวัตสัน , บู๊ทส์, อีฟแอนด์บอย, ซูรูฮะ, บิวเทรี่ยม และร้านบิวตี้สโตร์ชั้นนำ **

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

http://www.collection.co.th/ และ https://www.facebook.com/CollectionThailand

                     ทักทายเพื่อนๆชาวบลอคทุกคนในยามเย็นวันศุกร์แบบนี้นะคะ .. วันนี้เราก็มีข่าวBeauty News มาฝากเพื่อนๆกันเหมียนเดิม  : )  วันนี้จะพาไปรู้จัก Gwiyomi Collagen ซึ่งบินตรงมาจากประเทศแดนกิมจิ หรือ เกาหลีกันเลยทีเดียว 

” Gwiyomi Collagen ”  นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีขนาดโมเลกุลที่เล็กที่สุด ( Innovation of Low Molecular  Weight ) เพื่อ เพื่อความงามเปล่งประกายอย่างมีสุขภาพดีในแบบฉบับของคุณ

                      เทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมของหญิงสาวเกาหลี และหญิงสาวทั่วโลก Gwiyomi Collagen ถือเป็นอาหารเสริมคอลลาเจน เปปไทด์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมการฟื้นสภาพผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ พร้อมเผยประกายแห่งผิวสวยอย่างมีชีวิตชีวา คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนที่มีมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย โดยพบในผิวหนังมากที่สุดถึง 70% คอลลาเจนเปรียบเสมือน ‘โปรตีนแห่งผิวอ่อนเยาว์’ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของผิวชั้นหนังแท้โดยผิวในช่วงวัยเด็กถึงวัยหนุ่มสาวจะมีปริมาณของคอลลาเจนสมบูรณ์ที่สุดเพราะร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนได้เองจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและกรดอะมิโน ผิวพรรณจึงรู้สึกชุ่มชื่น แลดูเรียบเนียน และแน่นกระชับ แต่เมื่ออายุเข้าสู่ช่วงวัย 20-25 ปีขึ้นไป ‘ความร่วงโรยแห่งวัย’ จะทำให้การสร้างคอลลาเจนในร่างกายค่อยๆ ลดน้อยลง ส่งผลให้โครงสร้างผิวไม่แข็งแรง สภาพผิวเริ่มหย่อนคล้อย และเกิดปัญหาริ้วรอยแห่งวัยในที่สุด ดังนั้นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีที่สุดในการดูแลผิว ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้หญิงเกาหลีและหญิงสาวทั่วโลก นั่นคือการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน เพื่อช่วยเสริมการฟื้นบำรุงคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวพรรณรู้สึกชุ่มชื่น เนียนกระชับ พร้อมรับมือกับปัญหาริ้วรอยแห่งความร่วงโรย

ทำไมต้องเป็น Gwiyomi Collagen ?

Gwiyomi Collagen นับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีขนาดโมเลกุลที่เล็กที่สุด (Innovation of low  Molecular  Weight ) เพียง 500 ดาลตัน ทำให้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย รวดเร็ว และให้ประสิทธิภาพสูงในการฟื้นสภาพผิว สกัดจากปลาทะเลลึกสายพันธุ์ดีระดับคุณภาพสูงสุดจากประเทศเกาหลี ให้การดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป ที่สำคัญได้รับการรับรองจาก KOPTRI (Korea Polymer Testing & Research Institute) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยและทดสอบประสิทธิภาพในระดับสากล ผ่านกระบวนการสกัดที่ได้มาตรฐานจาก GMP และ  ISO จากประเทศเกาหลี

ปริมาณ Gwiyomi Collagen ที่ควรรับประทานในแต่ละวัน

เพื่อมอบผลลัพธ์ในการฟื้นบำรุงผิวได้อย่างเต็มที่* ผู้เชียวชาญด้านความงาม ของ Gwiyomi Collagen แนะนำให้รับประทานคอลลาเจนในปริมาณวันละ 5,000 มิลลิกรัม ซึ่ง 1 เม็ด ประกอบด้วย คอลลาเจนเปปไทด์เข้มข้น 800 มิลลิกรัม และ แคลเซียม แอสคอร์เบต 15 มิลลิกรัม ซึ่งเป็น วิตามินซี ที่อยู่ในรูปของเกลือแคลเซียมแอสคอร์เบต จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคอลลาเจน  ทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ให้ประสิทธิภาพสูง จึงให้คุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัย โดยแนะนำให้รับประทาน 4-6 เม็ดต่อวัน ขณะท้องว่าง ช่วงก่อนนอน และหลังตื่นนอน ก่อนอาหารเช้า และควรรับประทานเป็นประจำต่อเนื่อง

*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

คุณประโยชน์ที่ได้รับจาก Gwiyomi Collagen

1. ลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นให้แลดูจางลง เพื่อเผยผิวเนียนสวย แลดูอ่อนเยาว์

2. ลดปัญหาสีผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ และจุดด่างดำให้แลดูจางลง เพื่อผิวแลดูกระจ่างใส เปล่งประกายอย่างมีสุขภาพดี

3. สีผิวแลดูสม่ำเสมอ รูขุมขนรู้สึกเรียบเนียน ให้ผิวคงความกระชับยืดหยุ่น

4. เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว เพื่อผิวพรรณที่ดูสดใส เสมือนผิวใหม่ที่แตกต่าง

5. ให้การปกป้องและลดโอกาสการเกิดปัญหาข้อเสื่อม

ความปลอดภัยของ  Gwiyomi Collagen

Gwiyomi Collagen ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศไทย อย่างถูกต้องตาม“อย 1310295410239”พร้อมผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 และ GMP ผ่านการรับรองของกฏหมายไทย ไม่มีผลข้างเคียงเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง หรือหยุดรับประทาน ควรระวังในผู้ที่แพ้อาหารทะเล

คุณภาพคุ้มราคา

Gwiyomi Collagen  1 ขวดจำนวน 60เม็ด ราคา 990 บาท

 ** สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Gwiyomi Collagen และได้ที่ 085 196 6556 , 080 626 6565 **

ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่  www.facebook.com/Gwiyomi Collagen และ http://www.gwiyomicollagen.com   

Line, WhatsApp, Instagram : Gwiyomicollagen  

Email address: pr@gwiyomicollagen.com; sales@gwiyomicollagen.com; prgwiyomicollagen@gmail.com

” นิยามของผมที่มีสุขภาพดี จะมีน้ำหนัก อ่อน นุ่มสลวย

เงางามเป็นประกาย  จัดทรงง่าย “

เส้นผมที่งอกยาวออกมาคลุมศีรษะ คือ เซลล์ที่ตายแล้ว

อายุเส้นผมเฉลี่ยต่อเส้นประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี

และ ต่อมรากผมจะลดจำนวนลงเมื่ออายุมากขึ้น

♥ บางคนตกใจผมที่เคยสวยเจอเคมีมากเสียแล้วเสียเลย

♥ บางคนตกใจมีอายุมากขึ้นผมบาง

♥ บางคนตกใจทุกวันผมร่วงตลอด

ข้อความข้างต้นคร่าวๆ คือ ความจริงที่เกี่ยวกับเส้นผมนะคะ ที่หลายคนต้องทำความเข้าใจไว้เพื่อที่จะได้ทราบว่า

ตัวเองมีปัญหาตรงจุดไหน ส่วนไหนเป็นธรรมชาติของเส้นผม ส่วนไหนที่เราสามารถที่จะบำรุงเพิ่ม และแก้ไข

เส้นผมเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ ทั้งที่ยังมีปัจจัยอีกมากที่มีผลต่อสุขภาพเส้นผมของเรา ทุกคนก็ต้องทำความเข้าใจ

ตรงจุดนี้ด้วย .. จะได้ไม่ตกใจ และ แก้ไขก่อนเกิดปัญหา 🙂

ดูแลผมยังไงดีให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น หรือ ดีอยู่แล้วก็ดียิ่งขึ้นไปอีก

1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม และ  เส้นผมมีทั้ง แห้ง มัน ธรรมดา เหมือนผิวหน้าเลยต้องดูแลให้เหมาะกับสภาพเส้นผม ปัญหาเส้นผม หนังศีรษะ บางคนโชคดีสภาพผมธรรมดา หนังศีรษะก็ไม่มันไม่แห้ง เส้นผมชุ่มชื่น ดูแลง่าย ส่วนบางคนก็อาจต้องมีการดูแลแยก เช่น ถ้าหนังศีรษะมัน แต่ เส้นผมอาจจะแห้งก็ได้ บางครั้งก็อาจต้องดูถึงค่าความเป็นด่างสมดุล PH BALANCE เช่น ทรีทเมนท์ หรือ ครีมนวด จะทำให้ผมชุ่มชื่นขึ้น
2. นวดหนังศีรษะเวลาสระผม ด้วยอุ้งนิ้วมือ ไม่เกาเพราะเดี๋ยวจะเป็นแผล การนวดเลือดไหลเวียน และน้ำมันตามธรรมชาติเคลือบดูเลี้ยงเส้นผมได้ดีขึ้น
3. ไม่หวีผมตอนเปียก ถ้าหวีควรใช้หวีซี่ห่าง [มาก] จะลดการขาด และ ร่วงของผม
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องความร้อน เวลาไดร์ผม หนีบผม ก็ช่วยลดการเสียของเส้นผมได้ระดับนึง
5. ไดร์หรือเป่าผม ควรเป่าจากบนลงล่าง ด้านบนอาจจะเป่าแบบร้อน ส่วนเส้นผม ปลายผมเป่าด้วยไดร์เย็น เกล็ดผมจะเรียงตัว ทำให้ผมเงา ไม่ชี้ฟู
6. ทานอาหารบำรุง เน้นพวกวิตามินบี ผัก ผมไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
7. ไม่ตากแดดจัด ถ้าออกแดดให้กางร่ม หรือ สวมหมวกทุกครั้ง
8. ใช้เคมีเท่าที่จำเป็น และ ทิ้งช่วงให้ผมได้พักบ้าง บางคนดัด ย้อม ในเวลาเดียวกัน ผมเสียสุดๆ จะฟื้นบำรุงยากมาก

1. โครงสร้างเส้นผมตามธรรมชาติ เช่น เม็ดสีผม โครงสร้าง ผมตรง ผมหยักโศก ผมหยิก
2. ฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ทำให้ผมงอกเร็ว สเตียรอยด์ฮอร์โมนยับยั้งการงอกของผม
3. อาหาร เช่น วิตามินบี ทำให้เส้นผมเจริญเติบโต วิตามินเอถ้าทานมาผมจะงอกช้า
4. อากาศ มลภาวะ มีผลโดยตรงกับสภาพเส้นผม สังเกตุหลังสระผมแล้วไปโดนควัน ผมจะแห้ง กระด้าง
5. สภาพบางอย่างของโรค เช่น การขาดโปรตีน ผมเปราะบาง ขาด,ร่วงง่าย  
6. สารเคมี ไดร์ ยืด ดัด ย้อม ความร้อน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงกับหนังศีรษะ และ เส้นผม
7. ผมแตกปลาย และ ไม่ยอมเล็มทิ้ง หวังว่าจะมีอะไรทำให้ผมหายแตกปลายได้ คำตอบคือ ไม่มี
8. หวีผมตอนผมเปียก ผมจะขาดและร่วงง่ายมาก
9. นอนทั้งที่ผมไม่แห้ง เป็นการมาของเชื้อรา รังแค ทำให้บุคลิกเสีย
10. โดนแสงแดดจัด มีผลทั้งสุขภาพเส้นผม และ การเปลี่ยนไปของเม็ดสีผม

เส้นผมมี 4 ชั้น

ผิวนอก เนื้อผม แกนผม รากผม

1.  ผิวนอก [Cuticle]  ชั้นนอกของเส้นผม โปร่งแสงไม่มีสี เป็นเกล็ดใสเรียงซ้อนกันเหมือนเกล็ดปลา เรียกว่า keratinized cell ล้อมรอบเส้นผม ส่วนประสำคัญของชั้นนอกจะมีคีราตินชนิดแข็ง (hard keratin)เป็นส่วนใหญ่ ่ทำให้เส้นผมแข็งแรง ป้องกันการซึมผ่านของสิ่งสกปรกที่จะเข้าไปทำลายเส้นผม และปกป้องชั้นเนื้อผม ไม่ให้สูญเสีย ความชุ่มชื้น, เม็ดสี, น้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผมดูเป็นเงา

เกล็ดผมปิดเรียงตัวสวย vs เกล็ดผมเปิดเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ

ผมที่สุขภาพดี : เกล็ดผมจะปิดและเรียงตัวกันดี แต่ผมที่เริ่มแห้งเสีย หรือ เสียอย่างหนัก เกล็ดผมจะฉีกขาด แล ะไม่สามารถเรียงตัวปิดได้ ทำให้เกล็ดผมไม่สามารถปกป้องความชุ่มชื้นภายใน และ จะทำให้แห้งเสียมากขึ้นหากไม่มีการบำรุง

2.เนื้อผม [Cortex]  ชั้นที่หนาที่สุด ประกอบด้วยเซลล์เส้นใยเรียงอัดกันแน่นตามยาว เป็นแหล่งรวม ของเม็ดสี [ตัวกำหนดสีผม] มีช่องอากาศ โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีน เป็นส่วนกำหนดโครงสร้างตามธรรมชาติ ทำให้ผมมีความนิ่ม ยืดหยุ่น

3.แกนผม [Medulla]  เกิดจากโปรตีน และไขมัน ผมที่มีสภาพแข็งแรงจะพบแกนผม ผมเส้นเล็กมักไม่มีแกนผม

4. รากผม [har root] ฝังในเนื้อเยื่อหนังศรีษะ เรียกว่า ต่อมรากผม[hair follicle] และต่อมรากผมแต่ละต่อมจะมีปุ่มปลายแหลม 1 อัน [papilla] และมีต่อมผลิตน้ำมัน [sebaceous gland] ปุ่มนี้มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมเพราะมีเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยง ทำให้เซลล์์รากผมแบ่งตัว และ เกิดเซลล์ใหม่ของผมขึ้นเรื่อยๆ คนที่หัวล้านสาเหตุ คือ เซลล์ของปุ่มปลาย แหลมนี้ตายหรือฝ่อ ผมจะขาดอาหาร หลุดร่วง จึงไม่มีการงอกใหม่ และ ต่อมน้ำมัน สร้างน้ำมันออกมาหล่อลื่นทำให้เส้นผมอ่อนนุ่ม มันเงาคนที่ผมแห้งเพราะต่อมน้ำมันสร้างน้ำมันออกมาน้อยเกินไป ตรงกันข้ามถ้าต่อมน้ำมันทำงานมากเกินไป จะทำให้เส้นผมมัน

ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องผมจริงจัง แต่ตอนนี้ผมเสียจากการทำสี และ ยืดอย่างเป็นทางการ 55555555

ประกอบกับมีผู้สนับสนุนส่งผลิตภัณฑ์ดูเส้นผมที่ถูกทำลายจนมีสุขภาพที่แย่ลง หรือ ขาดการบำรุง

มาให้ทดสอบ ก่อนหน้านี้มีหลายชั่ววูบมาก อยากตัดผมที่แตกปลาย และ ขาดง่ายออกจากการ

ยืดร้านที่ใช้น้ำยาที่ทำร้ายเส้นผมเรามาก ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการหาความรู้เรื่อง

น้ำยายืดโครงสร้างเส้นผมก่อนหน้านั้น ทำให้ผมเอิ๊กเสีย และ สุขภาพแย่มากกว่าครึ่งศีรษะ ขาด

แบบว่าง่ายสุดๆ มันไม่หลุดทั้งราก แต่ขาดได้ตั้งแต่ ช่วงต้น กลาง ปลาย ส่งผม ให้มีผมเกิดใหม่

เป็นจำนวนมาก ข้อดี อายุเราไม่เยอะ ผมเรางอกง่าย โตไว แต่ผมเอิ๊กถ้าส่องแสง จะมีหลายชั้น

จะตัดก็เสียดาย อุตส่าห์ไว้มาตั้งนาน ผมยาวก็ทำได้ทรง และ เรามั่นใจว่าผมยาวเข้ากับรูปหน้า

เราได้มากกว่า เลยสองจิตสองใจ ผมแบบไร้ซึ่งน้ำหนัก ฟู ถ้าส่องใกล้ๆ ปลายนี่น่าสงสารสุดๆ

ขนาดเล็มไปบ่อยมาก มันก็ยังไม่หมด อย่างว่า ของเก่าที่เคยไว้ยาว เสียหายหมดเลย บทเรียน

ราคาแพง จำไว้ดีดีนะคะสาวๆ จะทำอะไรที่เป็นเคมีกับเส้นผมต้องคิดให้เยอะ

ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของเราวันนี้เป็นแบรนด์ SATINIQUE ซาทินิค

เปิดตัววางขายไปตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาทุกสูตรเลยค่ะ ในตอนแรกที่ฟังนั้น

ชื่อแบรนด์ไม่คุ้มเคย จนกระทั่งทราบว่าเป็นแบรนด์นึงในเครือ AMWAY ซึ่งหลายคน

ทราบถึงชื่อเสียง ประวัติที่มีมายาวนาน และ คุณภาพกันดีอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ดูแล

เส้นผม SATINIQUE ก็เป็นอีกแบรนด์ที่เอิ๊กได้มาทดสอบกันในช่วงนี้ ก็จะมีหลายสูตร

ตามสภาพเส้นผมและ มีทั้งของผู้หญิง ผู้ชาย

แบรนด์ SATINIQUE เขาบอกว่าเน้นดูแลทั้งด้านสุขภาพ ความงาม และเส้นผม 3 อย่างรวมเข้าด้วยกัน

จึงสร้างสรรค์จนเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับส่วนผสมที่จำเป็นและสำคัญ เพื่อสุขภาพผมที่ดี

จุดเด่น : คือ เอนเนอร์จูฟ^TM  เป็นสิทธิบัตรสูตรเฉพาะของแบรนด์ SATINIQUE หลักที่สำคัญจะประกอบด้วย สารพลังประจุบวกของลิพิด (ไขมัน) กับ ครีเอทิน ที่ช่วยกันเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้น และมีกรดไขมัน 18-เอ็มอีเอ ที่ให้ความเรียบลื่นแก่เส้นผม รวมถึงเทคโนโลยีการผลิต

ก่อนใช้ vs หลังใช้

การทำงานของ เอนเนอร์จูฟ^TM

ก่อนใช้ :  ผมที่ถูกทำร้าย ทำให้ลิพิดในเส้นผมลดลง เส้นผมอ่อนแอ ไม่ค่อยเห็นแสงเรืองรองสะท้อนจากเส้นผม

หลังใช้ : เส้นผมเดียวกัน เอนเนอร์จูฟจะซึมผ่านเข้าเนื้อผม[cortex] เพื่อเพิ่มความเงางามมีประกาย สุขภาพผมดี

และแข็งแรง จนเห็นเป็นแสงเรืองรองสะท้อนอย่างชัดเจน

ก่อนใช้ vs หลังใช้

                                                  ก่อนใช้ : เส้นผมถูกทำลายจากความร้อนและการทำสี

                                                  หลังใช้ : ผมเสียที่ได้รับการดูแลด้วยเอนเนอร์จูฟเพียงหนึ่งครั้ง เส้นผมเรียบลื่นและแข็งแรงขึ้น

เอิ๊กลองสูตรนี้ SATINIQUE GLOSSY REPAIR ทั้งตัว SHAMPOO & CONDITIONER และมาส์ค

SATINIQUE REVITALIZING MASK ทั้ง3ผลิตภัณฑ์นี้ สำหรับDAMAGED, COLOR-TREATED HAIR

หรือ สภาพเส้นผมที่เสีย-เสียมาก และ ผ่านการทำสี ไม่แน่ใจว่ารู้ได้อย่างไรว่าเอิ๊กประสบปัญหาแก้ไม่ตกเรื่องนี้อยู่

มาดูคำโปรยของ SATINIQUE กันก่อนเข้าสู่ REVIEW ตามการใช้และผลลัพธ์จริง 

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO & CONDITIONER

ซาทินิค กลอสซี่ รีแพร์ สูตรปราศจากสารซัลเฟต ฟื้นบำรุงผมเสียและผมทำสีให้สุขภาพผมดี เงางาม  พร้อมมอบสีผมเด่นชัด ลดการซีดจางของสีผม โดดเด่นด้วยการปลดปล่อยพลังเอนเนอร์จูฟ™ ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะของซาทินิค  ประกอบด้วยสารบำรุงประจุบวก ที่ช่วยให้เส้นผมสวยมีชีวิตชีวาและเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้แก่เส้นผมจากโคนจรดปลาย  พร้อมสารสกัดจากทับทิมและเมล็ดองุ่น ช่วยบำรุงให้สุขภาพเส้นผมแข็งแรง ฟื้นสภาพเส้นผมให้กลับมีชีวิตชีวา

SATINIQUE REVITALIZING MASK

ซาทินิค รีไวทัลไลซิ่ง มาส์ค ช่วยบำรุงให้สุขภาพผมดี แข็งแรงขึ้นถึง 6 เท่า* ฟื้นบำรุงและป้องกันผมแตกปลาย พร้อมปกป้องเส้นผมจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้น  โดดเด่นด้วยการปลดปล่อยพลังเอนเนอร์จูฟ™ ที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะของซาทินิค  ประกอบด้วยสารบำรุงประจุบวก ที่ช่วยให้เส้นผมสวยมีชีวิตชีวาและเสริมประสิทธิภาพความแข็งแรงให้แก่เส้นผมจากโคนจรดปลาย  พร้อมสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและน้ำมันเมล็ดคูคุย ช่วยปกป้องผมจากมลภาวะและดูแลให้เส้นผมสุขภาพดีและชุ่มชื้น

*เมื่อใช้รีไวทัลไลซิ่ง มาส์ค ร่วมกับชุดผลิตภัณฑ์แชมพู คอนดิชันเนอร์

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

เข้าสู่ช่วง HOW TO และ REVIEW ทั้ง 3 ตัวนี้ของเรากัน

ก่อนหน้านี้เอิ๊กมา WORKSHOP ที่โรงแรงโหมดสาธรเลยอยากลองมาพักดู เลยพาน้องสาวมานอนด้วยกันที่นี่เลย

ถ่ายรีวิวชิ้นนี้กับอย่างสนุกสนาน ฟองฟอด บ้านไม่มีอ่าง เลย สนุกสนาน แช่กันตัวเปื่อยเลย ทำรีวิว + ฮาวทูไปด้วย

เพื่อแชร์ให้เห็นว่าเอิ๊กสระผม และ มีวิธีการดูแลเส้นผมยังไงบ้าง หลังจากที่ผมเสีย และ ทำสีไป ก็ดูแลมาตลอดแต่

ผมคือเซลล์ที่ตายแล้ว และ โดนทำร้ายอย่างหนักมาก ก็ดีขึ้นบ้าง แต่บางวันก็แห้งมาก เพราะต้องไปถ่ายรายการ

ผมแห้งไม่ทัน และ ต้องทำผมที่กอง ก็มีทั้งขาด เป่า และ โดนความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมบ่อยครั้ง ตั้งแต่ตอนนี้ไป

จะพกสเปรย์ทำความร้อนละ ไม่ไหว แตกปลายก็เล็มไปยังไม่หมด เพราะมันยาวมากที่เสียหาย ดังนั้นผมงอกใหม่

สุขภาพดี หลั่นล้ามาก ปลายผมหงอยเหงามากฟื้นฟูไม่ค่อยได้ผลมากนัก หมักทรีทเมนท์ทุกชนิดยังอาการไม่ค่อย

จะสู้ดี และ ไม่รวมถึงผมขาด

SATINIQUE สูตร GLOSSY และ REVITALIZING MASK หน้าตาของจริงแพคเกจสีชมพูเลือดหมู

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO เนื้อผลิตภัณฑ์จะขุ่น เหลว กลิ่นอ่อนๆ ความรู้สึกเอิ๊กว่า

คล้ายกลิ่นน้ำมันมะพร้าวอ่อนๆนิดๆ ส่วนตัวอาจไม่ค่อยชอบกลิ่นของแชมพูเท่าไหร่เป็นความชอบส่วนตัว

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : SHAMPOO ส่วนผสมสำคัญหลังขวด

SATINIQUE GLOSSY REPAIR : CONDITIONER

SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER  : เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นมากเทียบเท่าทรีทเมนท์บางยี่ห้อ

SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER : ส่วนผสมสำคัญ

SATINIQUE REVITALIZING MASK

SATINIQUE REVITALIZING MASK : เนื้อเข้มข้นแบบสุดพลัง เนื้อแน่นมากกกกกกกกกก

SATINIQUE REVITALIZING MASK : ฉลากด้านหลัง รวมถึงประเทศที่ผลิต ผลิตอเมริกา

SATINIQUE REVITALIZING MASK : หน้าตากล่อง ฉลากบนกล่อง จะมีเครื่องหมายรับรองต่างๆ

เอิ๊กจะใช้ทั้ง 3 ตัว ในการทำ HOW TO และ REVIEW นะคะจะเริ่มด้วยการ

สระผมให้สะอาด ด้วยน้ำเย็น หรือ น้ำอุณหภูมิธรรมดา เพื่อป้องกันความชุ่มชื่นระเหย และ สูญเสียความเงาไป

หลังจากนั้นตามด้วย  SATINIQUE GLOSSY REPAIR SHAMPOO 

ในที่นี้สระผม 2 รอบ และ นวดด้วยอุ้งมือเน้นบริเวณ ไม่เกา หนังศีรษะ หรือ กระตุ้นรากผมเป็นพิเศษ

“สำหรับยาสระผม” เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การงอกของเส้นผม และ ทำให้น้ำหล่อเลี้ยง

มาเลี้ยงเส้นผมให้ผมไม่กระด้างดูเงาขึ้น

ในส่วนของการบำรุงบริเวณเส้นผม ปลายผมอย่างเข้มข้นเพื่อให้รู้สึกในคราวเดียว เอิ๊กจะขอทดสอบทั้ง 2 อย่าง

คือ SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER กับ SATINIQUE REVITALIZING MASK

หรือ ครีมนวด และ มาส์ค โดยแบ่งผมไป 2 ข้างให้มีจำนวนเท่าๆกัน

จะเริ่มจาก  SATINIQUE REVITALIZING MASK ก่อน โดยเท หรือ ค่อยกระเทาะจากอุ้งมือให้เนื้อมาส์คไหล

ออกมาให้พอดี กับ จำนวนเส้นผม จะไม่นวดบนหนังศีรษะเด็ดขาด เว้นจากโคนไปเลยประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร

นวดเน้นปลายผมซัก1นาที หรือ ส่วนที่เสียของเส้นผม และ เก็บมัดยางหลวมๆขึ้นไปก่อน 1 ข้าง

 อีกข้างแน่นอนตามด้วย  SATINIQUE GLOSSY REPAIR CONDITIONER เทพอประมาณ

นวดเหมือนมาส์ค เน้นปลายผมและเก็บขึ้นไปหลวมๆ ด้วยยางเหมือนเดิม

ADVANCE หน่อยก็หมักผมด้วยผ้าขนหนูอุ่นแทนการอบไอน้ำ หรือ จะใส่หมวกคลุมผมก็ได้

แล้วก็ทิ้งไว้ซัก 15 -30 -60 หรือนานกว่านั้น ได้หมดเช่นกัน

 ทิ้งไว้ซักพัก ล้างออกให้สะอาด เน้นบริเวณขอบหน้า ขอบผมแถวหน้าผาก และ ก้มศีรษะ อย่าให้โดนหลัง เพราะ

หลายคนก็สามารถอุดตันและเป็นสิวที่หน้าอก หรือ แผ่นหลังได้ เอิ๊กใช้วิธีนี้ สิวไม่ค่อยขึ้นอีกเลยล ตอนแรกเพียบ

หาที่หายใจของรูขุมขนไม่ได้ ซับเอาน้ำออก ไม่ขยี้ๆๆๆแรงนะคะ ผมจะขาด และ ร่วงเอา และ ถ้าไม่ซับไม่ได้

น้ำที่เปียกแฉะ ก็นำมาซึ่ง เชื่อรา ณ หนังศีรษะของท่านได้ เป็นห่วงจริงๆ

ไดร์ผมให้แห้งด้วยลมเย็น หรือ ถ้ารีบนอน ลมร้อนที่โคนผม เพราะผมที่งอกขึ้นมาจะมีสุขภาพที่ดี และ แข็งแรง และ

ลมเย็นที่ปลายผม เป่าตั้งแต่โคนลงมาให้เกล็ดผมเรียงตัว บางทีเอิ๊กก็นั่งแช่หน้าพัดลมเพราะไม่อยากให้ผมโดน

ความร้อน หรือ เปลืองไฟกับไดร์ 555555 เปล่าหรอกขี้เกียจเมื่อยแขนคับ ตั้งแต่ส่วนที่เสียลงมา เอิ๊กจะรอให้ผมแห้ง

และ หวีทีเดียวด้วยแปรงซี่ห่าง หรือ แปรงที่ถนอมเส้นผม และ หนังศีรษะ

[ แค่หวีผม และ ไดร์เย็นธรรมดาแค่นั้นค่ะ ]

ผลลัพธ์ : เมื่อใช้ทั้งแชมพู คอนดิชั่นเนอร์ และ มาส์ค ร่วมกัน ความรู้สึกแรกของเอิ๊กคือ ผมเงา ลื่น และ นิ่มมาก

มีน้ำหนัก ทิ้งตัวดีขึ้นมากกก พอมันเงาสีผมเวลาโดนไฟมันก็เป็นประกายมากขึ้น ส่วนกลิ่นเราไม่ได้กลิ่นชัด

เพราะเราชินกลิ่น แต่พอลงมาจากข้างบน แม่บอกผมหอมมากกกกกก ถามว่าไปทำอะไรมาหรือ เดินผ่านน้อง

น้องบอกหอม ใช้อะไรอะ 555 ส่วนคุณแฟนให้ลองจับ แกบอกว่า ทำไมมันนิ่มกว่าเมื่อก่อนใช้อะไรกลิ่นหอมดี

รวมถึงให้เพื่อนสาวลูบจับเส้นผมทั้งสองข้าง เทียบความรู้สึกกัน หลายคนชอบฝั่ง แชมพู + มาส์คแต่สำหรับเอิ๊ก

[ ผมที่ขาดของเอิ๊กจากตอนแรกที่ยืดมา และทำสี ทำให้ผมไม่แข็งแรง

ความจริงช่างผมแนะนำให้ตัดทิ้งหมดเลย พอใช้แล้วผมเงา จัดเรียงตัวสวย ]

ชอบแชมพู + คอนดิชันเนอร์ มากกว่าเพราะรู้สึกว่าเนื้อคอนดิชั่นเนอร์ก็เข้มข้นแล้ว และ ลองสระทิ้งไว้ไม่สระผม

2 วันผมยังนิ่ม และ ส่วนปลายผม ยังมีกลิ่นหอมติดทนมาก และ มีความนิ่มมากอยู่ ทั้งที่ใช้เทคนิคนี้กับทุกแชมพู

คอนดิชันเนอร์ และ มาส์ค ตอนแรกเอิ๊กแค่ลองแต่ไม่ได้คิดอะไร นั่งทำงานมัดผมไปกลิ่นยังหอมลอยมาเลยพอ

จับก็นิ่ม ลื่นเหมือนเดิม ประมาณวันที่ 3 หลังจากโดนมลภาวะ ประกอบกับการฉีดสเปรย์ มูส ทำผมลอน เอิ๊กก็

เลยต้องสระ ทนไม่ไหว 55555555 แต่ผมดูแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น แบบเห็นได้ และ สัมผัส มัน GLOSSY จริงๆ

[ ZOOM – ZOOM  ซูม ซูม ปลายผมดีขึ้น ความแห้เสียแตกปลาย ดูดีขึ้น]

ชอบมากกว่า สูตร GLOSSY ของแบรนด์อื่น เพราะสิวไม่ขึ้น และ หอมอึด รวมถึง ผมคงสภาพสุขภาพได้

หลายวัน มากกว่าที่เคยลองแบรนด์อื่นๆมา รู้แค่ว่าอยากซื้อใช้ต่อ และ อยากลองสูตรอื่นบ้าง ไม่แน่ใจ

จะเงาเหมือนสูตรนี้ไหม

ราคา แชมพู และ คอนดิชันเนอร์ จะอยู่ที่ขวดละ 400-500 กว่าบาทขึ้นกับราคาสมาชิก

ราคามาส์ค จะอยู่ที่ 700-800 กว่าบาทขึ้นกับสมาชิก

[ สาดแฟลช ]

จุดเด่น ตามสรรพคุณทุกประการ ผมนุ่ม ลื่น เงา ประกาย หอมมากก

จุดด้อย หาซื้อไม่ได้ตามห้าง หรือ ซุปเปอร์มาเก็ต / ต้องเป็นสมาชิก / ราคาจะถูกจะไม่ถูกขึ้นกับการเป็นสมาชิก / ต้องใช้รวมกันทุกตัว ผลลัพธ์จะเห็นชัดมาก

จุดแนะนำ อยากให้แพคเกจดูอลังการกว่านี้ เพราะมันมีส่วนผสมและเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรเป็นพิเศษ เป็นความเห็นส่วนตัว เช่นอักษรพิมพ์เงิน พิมพ์ทอง

ไม่ต้องตัดผมแล้ว ดีใจ อย่างน้อยก็ดูแลด้วยเจ้านี้ไปก่อน รักจุงเบยยยย ชอบมาก RECOMMENDED !!! 

อยากลองสูตรอื่นอีก ><

XOXO

• ที่มาวิชาการเกี่ยวกับเส้นผม

http://www.cmicosmetic.com/articles_hair.html

😛 วันนี้ได้มีโอกาสมาร่วมเช็คสภาพผิวกับ โครงการ

Boots Healcare Campaign “feel good together”

เพื่อให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพผิวที่แท้จริงของตัวเองกันมากขึ้น

และทราบถึงปัญหาผิวของแต่ละบุคคลและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

งานนี้จัดขึ้นเมื่อ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา @สยามพารากอน ชั้น1

บอกเลย สาวๆให้ความสนใจกันมากเลยทีเดียว นะฮ้า ที่นั่งเต็มหมด

เริ่มแรกลงทะเบียนเข้างานก่อน แล้วจับจองที่นั่ง

บรรยากาศภายในงาน ผู้คนมากันอย่างเนื่องแน่น

MC สาวสวยของงานนี้ กับ เซเลบคนดัง

ว้าว!! อาหารภายในงานวันนี้ จัดแบบเบาเบา ทานแบบกรุบกริบ 

อยากรู้ว่าสภาพผิวเป็นอย่างไร เช็คที่นี่กันเลยวันนี้  มีเครื่องมือสำหรับตรวจผิวเฉพาะ และเภสัชกรที่คอยให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำ อย่างแจ่มแจ้ง

ชั้นผิวของเราแหละเพื่อนๆ ฮือ เศร้าเลย เมื่อตรวจเจอเม็ดสี ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นรอยด่างดำ ดีนะที่ได้มาตรวจสภาพผิวในวันนี้ จะได้ดูแลผิวให้ถูกวิธี และระวังแสงแดดมากขึ้นกว่าเดิม

ทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ จาก บู๊ทส์ พวกเธอน่ารัก และขี้เล่นอีกด้วยนะ

หลังจากเช็คสภาพผิว  ทางทีมเภสัชกร ได้มีแบบทดสอบให้เราได้ทำด้วยละ เป็นแบบทดสอบ เพื่อทำให้เรารู้ว่า ผิวของเราเข้าข่ายเป็นผิวแพ้ง่ายและบอบบางหรือไม่ อยู่ในระดับอะไร

ส่วนของเรา ทำแบบทดสอบ ปรากฎว่า ผิวเราทั้งบอบบางและแพ้ง่ายมากที่สุด อันนี้พอรู้ก่อนหน้านี้ละ ผิวของเราชอบเกิดอาการแพ้อยู่บ่อยๆ ซึ่งต้องดูแลมากเป็นพิเศษ

หน้าตาของผลิตภัณฑ์ “ลา โรช-โพเซย์” มีหลากหลาย และ เหมาะมากกับผิวบอบบาง

คุณริทู โมฮาน และ คุณอูเมช ฟัคเค กรรมการผู้จัดการ เริ่มกล่าวเปิดงาน อีกทั้ง คุณเดี่ยว สุริยนต์  อรุณวัฒนกูล และ พันเอกหญิง รศ.พญ. กอบกุล อุณหโชค ร่วมพูดคุย ถึงปัญหา และการดูแลผิว โดยมี คุณหญิง กัญญา ไรวินท์ รับหน้าที่เป็นพิธีกร

ท้ายสุด ของแสดงความยินดีให้กับ เภสัชกร คนเก่ง ที่ได้รับเกียรติบัตร ในวันนี้ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีว่า เมื่อมาบู๊สท์ คุณสามารถไว้ใจให้พวกเขาช่วยดูแลและแนะนำพวกคุณได้ เพราะทีมบู๊ทส์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ

ขอบคุณกิจกรรมดีๆที่จัดขึ้นภายในวันนี้ และสาวๆที่อยากทราบเรื่องปัญหาผิว สามารถตรวจเช็คและร่วมทำแบบทดสอบได้แล้ววันนี้ที่ Boots ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ ติดตามข่าวสารที่ http://www.boots.com/th