Archive | HOW TO

Check Your Skin Health บู๊ทส์ และ ลา โรช-โพเซย์ ร่วมเปิดแคมเปญดูแลสุขภาพ ชวนผู้บริโภคร่วมตรวจเช็คสุขภาพผิวและดูแลอย่างเหมาะสม

😛 วันนี้ได้มีโอกาสมาร่วมเช็คสภาพผิวกับ โครงการ

Boots Healcare Campaign “feel good together”

เพื่อให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพผิวที่แท้จริงของตัวเองกันมากขึ้น

และทราบถึงปัญหาผิวของแต่ละบุคคลและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

 

งานนี้จัดขึ้นเมื่อ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา @สยามพารากอน ชั้น1

บอกเลย สาวๆให้ความสนใจกันมากเลยทีเดียว นะฮ้า ที่นั่งเต็มหมด

 

 

เริ่มแรกลงทะเบียนเข้างานก่อน แล้วจับจองที่นั่ง

 

 

บรรยากาศภายในงาน ผู้คนมากันอย่างเนื่องแน่น

 

 

MC สาวสวยของงานนี้ กับ เซเลบคนดัง

 

 

ว้าว!! อาหารภายในงานวันนี้ จัดแบบเบาเบา ทานแบบกรุบกริบ 

 

 

อยากรู้ว่าสภาพผิวเป็นอย่างไร เช็คที่นี่กันเลยวันนี้  มีเครื่องมือสำหรับตรวจผิวเฉพาะ และเภสัชกรที่คอยให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำ อย่างแจ่มแจ้ง

 

 

ชั้นผิวของเราแหละเพื่อนๆ ฮือ เศร้าเลย เมื่อตรวจเจอเม็ดสี ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นรอยด่างดำ ดีนะที่ได้มาตรวจสภาพผิวในวันนี้ จะได้ดูแลผิวให้ถูกวิธี และระวังแสงแดดมากขึ้นกว่าเดิม

 

 

ทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ จาก บู๊ทส์ พวกเธอน่ารัก และขี้เล่นอีกด้วยนะ

 

 

หลังจากเช็คสภาพผิว  ทางทีมเภสัชกร ได้มีแบบทดสอบให้เราได้ทำด้วยละ เป็นแบบทดสอบ เพื่อทำให้เรารู้ว่า ผิวของเราเข้าข่ายเป็นผิวแพ้ง่ายและบอบบางหรือไม่ อยู่ในระดับอะไร

ส่วนของเรา ทำแบบทดสอบ ปรากฎว่า ผิวเราทั้งบอบบางและแพ้ง่ายมากที่สุด อันนี้พอรู้ก่อนหน้านี้ละ ผิวของเราชอบเกิดอาการแพ้อยู่บ่อยๆ ซึ่งต้องดูแลมากเป็นพิเศษ

 

 

หน้าตาของผลิตภัณฑ์ “ลา โรช-โพเซย์” มีหลากหลาย และ เหมาะมากกับผิวบอบบาง

 

 

 

คุณริทู โมฮาน และ คุณอูเมช ฟัคเค กรรมการผู้จัดการ เริ่มกล่าวเปิดงาน อีกทั้ง คุณเดี่ยว สุริยนต์  อรุณวัฒนกูล และ พันเอกหญิง รศ.พญ. กอบกุล อุณหโชค ร่วมพูดคุย ถึงปัญหา และการดูแลผิว โดยมี คุณหญิง กัญญา ไรวินท์ รับหน้าที่เป็นพิธีกร

 

 

ท้ายสุด ของแสดงความยินดีให้กับ เภสัชกร คนเก่ง ที่ได้รับเกียรติบัตร ในวันนี้ ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีว่า เมื่อมาบู๊สท์ คุณสามารถไว้ใจให้พวกเขาช่วยดูแลและแนะนำพวกคุณได้ เพราะทีมบู๊ทส์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ

 

 

ขอบคุณกิจกรรมดีๆที่จัดขึ้นภายในวันนี้ และสาวๆที่อยากทราบเรื่องปัญหาผิว สามารถตรวจเช็คและร่วมทำแบบทดสอบได้แล้ววันนี้ที่ Boots ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือ ติดตามข่าวสารที่ http://www.boots.com/th

 

 

 

 

Posted in HOW TOComments (0)

AVEDA ชวนสาวๆ มอบชุดของขวัญในวันพิเศษ แด่คนพิเศษ “Gift of joy for all change lives in Nepal” เท่ากับ ช่วยเหลือสังคม

วันนี้เรามาเริ่มทำอะไรดีๆให้กับคนที่เรารักกันดีกว่า 🙂

นอกจากเราได้ทำให้คนที่เรารักยิ้มมีความสุขแล้ว

เรายังมีความสุขกับการเป็นผู้ให้อีกด้วย

เพราะอะไรนะหรอ สงสัยกันใช่มั้ยละ?

มาฟังที่มาของแคมเปญนี้กันก่อนนะ ….

            AVEDA (อเวดา) ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในด้านดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

และรวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ขึ้นในรูปแบบกล่องบรรจุชุดของขวัญ

ที่ทางอเวดาบรรจงสร้างขึ้นอย่างปราณีต เพราะทางอเวดาได้เลือกใช้

กระดาษ “lokta paper” ทำให้กลุ่มชาวบ้าน ชาวเนลปาล สามารถสร้างรายได้

เกิดเป็นอาชีพจนถึงปัจจุบัน ยาวนานถึง 6 ปี

กระดาษ “lokta paper” นี้ ผลิตขึ้นจากกลุ่มชาวบ้าน ในประเทศเนลปาล 

ทางอเวดาได้ทำเป็นกล่องบรรจุชุดของขวัญขึ้น

เพื่อให้ชาวบ้านกลุ่มนี้ ได้มีรายได้เพียงพอในดำรงชีพต่อไป…

ฟังเรื่องราวของที่มาของกล่องบรรจุของขวัญกันแล้ว

มาดูกันดีกว่าว่าหน้าตากล่องบรรจุของขวัญ รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

เราจะได้มาเห็นกัน เพราะว่าวันนี้อเวดาได้ชวนเรามาร่วมออกแบ

กล่องบรรจุของขวัญในสไตล์ของเราเอง

และมีสอนเทคนิคการแต่งหน้าทำผมอีกด้วย

งานวันนี้จัดขึ้นที่ช็อปของอเวดาเลย ซึ่งตั้งอยู่ที่ สยาม พารากอน ชั้น1

บรรยากาศการจัดร้าน และงานวันนี้ดูอบอุ่น และเป็นกันเอง ด้านหน้ามีมุมสบายๆ

ที่จัดให้เราได้นวดผ่อนคลายกันก่อนด้วยนะ พร้อมจิบชาเบาๆไปด้วย

พอแขกเรื่่อ มากันครบหมดแล้ว ทางอเวดาก็ได้กล่าวถึง

ที่มาของแคมเปญนี้ว่ามาที่มาอย่างไรบ้าง

ซึ่งเราฟังแล้วก็อินตามอยู่นะ มีความคิดสร้างสรรค์ดี

เหมือนได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ทุกคนตั้งใจฟังมากค่ะ ณ จุดๆนี้  😛

 

 

มาม่ะ มาร่วม workshop ตกแต่งกล่องของขวัญ ในสไตล์ของตัวเองกันเลยกว่า

แต่ก่อนอื่นมาฟังกันก่อนนะ ว่าต้องทำยังไงกันบ้างอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่ง

น่ารักดี ออกแนวธีมวันคริสต์มาส 

 

 

เอาละ เริ่มลงมือทำกันแล้วนะ ลุยๆๆ

ดูของแต่ละคน ทำออกมา สวยๆทั้งนั้น แต่ละคนตั้งใจทำกันมากด้วยละ 

 

อุ้ยๆ มีทำกล่องเป็นรูปแมวเหมียวด้วย น่ารักจัง

และแล้วก็มาถึงช่วง “holiday looks and holiday hair styling show”

เป็นการสอนแต่งหน้าในลุคสวยใสธรรมชาติในแบบฉบับสาวเนลปาล

เป็นลุคที่เน้นปัดช่วงโหนกแก้มเป็นพิเศษ ส่วนลิปสติก จะใช้เป็นลิปกลอสสีใส

และทาแป้งแบบบางเบา สามารถแต่งได้ง่ายๆในวันหยุด

 

 

ส่วนทรงผม นางแบบเป็นสาวผมยาว สไตล์ลิสออกแบบทรงผม

เลือกใช้แวกซ์ครีมที่ช่วยในการเก็บทรงผมให้เรียบร้อย

แล้วมัดรวบตึงด้านบนแล้วแบ่งทรงผมเพื่อทำเป็นเกลียวแบบทวิสต์

ใช้กิ๊บติด แล้วใช้สเปรย์ เพื่อให้ผมคงที่ เป็นอันสำเร็จ 😳

 

เสร็จสิ้นภารกิจ ของ กิจกรรมดีๆในวันนี้

เอาละ ทุกๆคน โชว์กล่องของขวัญกันเร็ววววว ว่างามแค่ไหน อิอิ

สาวๆที่สนใจสามารถไปเยี่ยมชมเลือกชุดของขวัและการให้ที่มีคุณค่า

กับ AVEDA Experience Center ที่ สยาม พารากอน ฝั่งเซ้าธ์ ชั้น1

ได้ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นต้นไป หรือ โทรสอบถามที่…

AVEDA Experience Center 02 610 9656

 ขอจบกิจกรรมทั้งหมดในเพียงเท่านี้

แล้วติดตามกันได้ใหม่ในบล็อคหน้านะจ๊ะ บับบายจ้า 

 

 

 

 

 

 

 

Posted in HOW TOComments (0)

HOW TO – Erk-Erk แปลงร่างเป็นสาวผิวแทนตาม CL 2NE1

พอไหวไหมคะ 🙂 ชอบสาวผิวแทนซะแล้ว

XOXO

Posted in HOW TOComments (0)

BEAUTY NEWS : RAVISSANT แบรนด์เครื่องสำอางบำรุงผิวระดับ Premium

                  สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ  .. เรากลับมาพบกันอีกแล้ว วันนี้ทางเราก็มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าดีๆ มาแนะนำ ให้เพื่อนๆทุกคนรู้จักอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “ราวิซอง(RAVISSANT)” ซึ่งบางคนก็อาจจะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะผลิตภัณฑ์แบรนด์ตัวนี้ได้มีดาราคู่รักสุดฮอตอย่าง คุณชาคริตกับคุณวุ้นเส้น โดยทั้งคู่ได้เป็นผู้ก่อตั้งและเป็น Brand Ambassador ร่วมกันในผลิตภัณฑ์ราวิซอง อีกด้วยค่ะ

RAVISSANT เป็นแบรนด์เครื่องสำอางบำรุงผิวระดับ Premium ที่คัดสรรส่วนผสมที่มีคุณภาพ โดยโรงงานที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น โดยคุณชาคริตและคุณวุ้นเส้นได้แรงบันดาลใจมาจาก ที่ทำงานใน วงการบันเทิง และต้องดูแลผิวพรรณมากเป็นพิเศษ ทั้งสองจึงได้ลองใช้ผลิตภัณพ์บำรุงผิว หลากหลายชนิด จากหลากหลายประเทศ และมีความรู้สึกประทับใจผลิตภัณฑ์ บำรุงผิว ที่มาจากประเทศญี่ปุ่น เพราะเหมาะสม และมีส่วนผสมเหมาะสำหรับคนเอเซียและคนไทย เพราะมีสภาวะแวดล้อม และการใช้ชิวิตที่ใกล้เคียงกัน จึงมีการค้นหาแห่งที่มาของส่วนผสมของ ผลิตภัณฑ์ ผิวดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนพบกับสถาบันการวิจัย และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวชั้นนำ ของประเทศญี่ปุ่น

สำหรับผลิตภัณฑ์ ราวิซอง (RAVISSANT) ตัวเเรกที่จะนำมาให้รู้จักกัน คือ

1.  RAVISSANT WHITENING FACIAL CLEANSER

               คลีนเซอร์เนื้อโฟมนุ่มละเอียดที่ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยขจัดสิ่งสกปรกตกค้างที่สะสมบนผิวให้หมดไปให้ความรู้สึกนุ่มลื่น สะอาด สดชื่นและสบายผิวหน้าทันทีที่ใช้เพราะด้วยสารสกัดธรรมชาติจากญี่ปุ่น 6 ชนิด จะเข้ามาช่วยดูแลให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณอย่างเต็มที่ รวมถึงสารสกัดธรรมชาติอื่นๆในเนื้อโฟม ที่จะช่วยคืนความยืดหยุ่น ทำให้ผิวของคุณอ่อนนุ่มไม่แห้งตึง รวมถึงการทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้ผิวที่บอบบาง เพราะปราศจากสารระคายเคือง

                โดยส่วนตัวคิดว่ากลิ่นของคลีนซิ่งโฟมตัวนี้ หอมมาก หอมแบบออกแนวเหมือนผลิตภัณฑ์ของเด็ก กลิ่นค่อนข้างนุ่มนวล ละมุนละไม น่าใช้ดี ซึ่งลักษณะครีมเป็นเนื้อครีมสีขาว หลังจากทดลองใช้รู้สึกหน้าค่อนข้างสะอาดเกลี้ยงเกลา เวลาถูเนื้อโฟมลงบนใบหน้า รู้สึกฟองไม่เยอะ กำลังดีส่วนด้านบรรจุภัณฑ์ของราวิซองตัวนี้ มองว่าออกแบบมาค่อนข้างลงตัว ทั้งบรรจุภัณฑ์ที่ใส่และโทนสีที่เลือกนำมาใช้ รวมไปจนถึงตัวกล่องบรรจุ และฟ้อนท์บนบรรจุภัณฑ์ ค่อนข้างเเมชกันดีค่ะ

2.  RAVISSANT WHITENING & ANTI-AGING FACIAL CREAM

                “ราวีซอง ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ แอนไทเอจจิ้ง ครีม” เป็นไวท์เทนนิ่งครีม เนื้อครีมใสบางเบาพิเศษ ซึ่งจะให้ความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งบำรุงผิวและช่วยรักษาสมดุลของผิว มอบความนุ่มนวล ความขาวกระจ่างใสให้กับผิว พร้อมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอย กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยเนื้อครีมใสบางเบา ค่อยๆซึมสู่ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวคุณหลุดพ้นจากความแห้งกร้าน หมองคล้ำ ริ้วรอยและจุดด่างดำ เพื่อมอบความชุ่มชื้น ให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

                ลักษณะครีมคล้ายๆกับเจลใสๆ มีกลิ่นหอมละมุนละมัย ซึ่งหอมแบบนุ่มนวล กลิ่นอ่อนๆ น่าใช้ดีค่ะ หลังจากทดลองใช้รู้สึกว่าเนื้อครีมใสตัวนี้ ค่อนข้างซึมซาบเร็วและแห้งไว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยส่วนบรรจุภัณฑ์ออกแบบได้ทันสมัย เฉียบ หรูหราดีค่ะ แต่รู้สึกค่อนข้างหนักไปหน่อย กลัวหล่นแล้วแตกมาก เวลาถือจึงต้องจับให้แน่นทุกครั้งเลยค่ะ : )

 

 

ส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ ราวิซอง (RAVISSANT) :

  • PRUNUS SPECIOSA EXTRACT Whitening, preventing skin trouble and inflammation. สารสกัดจากดอกซากุระขาว สามารถลดเลือนจุดด่างดำ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดการระคายเคืองผิวที่เกิดจากแสงแดด
  • ONSEN-SUI(JTN) Helping vitamin absorption with mineral hot spring. น้ำแร่ธรรมชาติจากญี่ปุ่น อุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามิน เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น ทำให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี
  • PROTEOGLYCAN สกัดจากกระดูกอ่อนบริเวณจมูกปลาแซลมอน ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความนุ่มชุ่มชื้น และลดปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
  • RYOKU-CHA EKISU(JTN) Whitening, antioxidation, ultraviolet absorption. สารสกัดจากชาเขียว มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยและช่วยให้ผิวกระจ่างใส พร้อมทั้งดูดซับรังสียูวีจากแสงแดดไม่ให้ทำร้ายผิว
  • CITRUS JUNOS FRUIT EXTRACT Preventing skin trouble with the combination of fruit ceramide. สารสกัดจากส้มยูซุ ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำของผิว ปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส
  • HYDROLYZED RICE BRAN EXTRACT สารสกัดจากรำข้าวอุดมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นในผิว บำรุงผิวขาวเรียบเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

https://www.facebook.com/ravissantthailand

http://instagram.com/ravissantthailand

Tel: 02-530-7866
Fax: 02-530-7867

Posted in BEAUTY NEWS, HOW TOComments (0)

แต่งหน้าตามศิลปิน KPOP : LEE HI MV ROSE

LEE HI MV ROSE สวยมาก คอนแทคเลนส์สีแดง ตาสีชมพูแดง ปากแดง

ชอบ Lee hi เพราะเป็นเด็กที่สู้ ประกวดจนเข้ารอบของ KPOP จนได้เป็นนักร้อง

เสียงดีมากกกกกกก เลยอยากเลือกเข้ามาแต่งเป็นแรงบันดาลใจ

คลิปนี้ feat. Kitty Kawaii Bigeye

 

Posted in HOW TOComments (0)

BEAUTY SECRET FROM SIAM [THAILAND]

ในฐานะตัวแทนของประเทศไทยสำหรับแคมเปญ

#SHARETHEFEELING #NO7 #BOOTS #LONDON

ให้ตามล่าหา BEAUTY SECRET ความจริงหลายประเทศคงรู้จักสรรพคุณ

องสิ่งนี้เป็นอย่างดี

สกัดมาจากธรรมชาติที่อยู่คู่คนไทยมานานมากแล้ว แต่ก็มีหลายคนมากในไทย

ที่ไม่รู้ถึงสรรพคุณ เอิ๊กอยากให้คนไทยเราหันมาเน้นเรื่องความชุ่มชื่นของผิวเป็น

อันดับแรก รวมถึงการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ผิวและ

คอลลาเจน คนเอเชียส่วนใหญ่เน้นขาว โดยเฉพาะไทย ความชุ่มชื่นยังถูกมองข้าม

จึงอยากเป็นตัวแทนพูดถึงสิ่งนี้ เพราะทดสอบด้วยตัวเองและคนรอบข้าง

รวมถึงคนในครอบครัว

และ การสกัดให้ได้ผลดี ต้องผ่านด้วยความเย็น และ ปราศจากสารเคมีให้มากที่สุด กลิ่นและสี

ต้องหอมอ่อนๆ รสชาติต้องนุ่มลิ้นลื่นทานง่าย ถ้าอากาศเย็นสามารถจับตัวเป็นไขได้

หอบมาเมืองนอกพอเป็นไข เราก็ใส่ถุงลงไปแช่ในน้ำอุ่นเล็กน้อย ก็จะกลับสู่สภาพใสดังเดิม

สรรพคุณ 108 ประการ มีเยอะมากนับไม่ถ้วน

ตั้งแต่ บำรุงผม ผิว ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา การอักเสบของผิวหนัง

โรคเบาหวาน แก้ความอยากอาหาร มีงานวิจัยออกมาด้วยว่าบางทีก็ดูแลเรื่องเชื้อHIV

แต่คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ไม่เป็นหนักมาก ทำอาหารทานได้ และอีกมากมาย

คุณเพื่อนผมแห้งฟูเสีย ผิวแห้งมีรอยแผลเก่าตามตัว เราก็เลยทดสอบสดๆให้เธอหมักผม

และ ชโลมนวดผิวให้ทั่วก่อนอาบน้ำ

นี่เป็นการทดสอบที่เห็นผลทันที จึงอยากนำมาแชร์ให้ดูนะคะ หมักผมซัก 30 นาทีรวมถึงผิว

ขอบอกทั้งผมที่แห้งฟู หยักโศกธรรมชาติ นุ่มขึ้นจับลอนสวย และ ผิวลื่นเนียนขึ้น

เดี๋ยวจะมา REVIEW และ เฉลยให้ฟังว่า BEAUTY SECRET เมืองไทยที่นำมาคืออะไร?

XOXO

Posted in HOW TOComments (2)

Erk-Erk ลุค SMOKEY EYE กับ Cleansing Makeup ล้างเมคอัพเป๊ะ

HOW TO LOOK สโมกกี้อายของสาวแก้มป่องพร้อม PARTY มาแล้วววววววว

ขออภัยที่หายไปนานมากกกกกกก และ ขอบพระคุณมากนะคะ

สำหรับคนที่ช่วยเลือกเพลงแดนซ์ในคลิปนี้ ทุกวันนี้เอิ๊กยังเปิดฟังอยู่

ขอบพระคุณมากจริงๆค่ะ คลิปนี้ถ่ายเอง 70% ตัดเองหมด

คลิปนี้สปอนเซอร์คือ BIORE PERFECT MILD CLEANSING LIQUID

เขาให้มารีวิวให้ดู แต่เราอยากให้คนอ่านได้อะไรกลับไปนอกจากการรีวิวที่มี

ข้อดี ข้อด้อย เลยลองหัดแต่งหน้าลุคสโมกกี้ให้ดูค่ะ อาจจะดูไม่เซกซี่เพราะ

เราไม่ใช่คนเซกซี่ 55555 ลองเอาเทคนิคไปลองใช้กันดูนะคะ LOVE YOU ALL ♥

ติ วิจารณ์ได้เต็มที่เช่นเคย จะได้พัฒนาในงานต่อๆไป

 

 

Posted in HOW TO, REVIEWComments (0)

ศัลยกรรมหน้าอกที่ประเทศเกาหลี กับ STMSTYLE

คำเตือน เนื่องจากเนื้อหาอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตัดสินใจกระทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ (ศัลยกรรม) ขอแสดงความรับผิดชอบในเนื้อหาด้วยการบังคับให้ทุกคนอ่านคำเตือนก่อนทุกครั้ง การทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดทุกชนิด จะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อเยื่อในร่างกาย เกิดบาดแผลเมื่อผ่าตัด เมื่อตัดสินใจแล้วผลของแผลทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถเรียกเนื้อเยื่อเก่าให้กลับมา หรือ ลบเลือนแผลเป็นที่เกิดขึ้นใต้ผิวหนัง (พังผืด) บนผิวหนัง (แผลเป็น) ให้หายไปหมดได้ การผ่าตัดยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ โอกาสมีแผลบนผิวหนังแน่นอน 100% การศัลยกรรมทุกชนิด เป็นเรื่องที่ต้องดูแล และ สังเกตุความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกติตลอดชั่วชีวิตเหมือนสุขภาพร่างกายของคนเรา วัสดุบางชิ้นไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่กับเราไปจนตาย อาจต้องมีการเอาออก เอาใส่เข้าไปใหม่ หรือ ถึงช่วงอายุขัยนึง เราอาจจะนำมันออกไปและไม่ใส่เข้าไปใหม่อีกเลย ก่อนตัดสินใจทำอะไรกับชีวิต คุณมีข้อมูลดีพอรึยัง ให้ถามตัวเองอยู่เสมอ

ด้วยความรัก และ ปรารถนาดีอย่างสูง

 erk-erk

สำหรับเอิ๊กอวัยวะอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิงก็คือหน้าอก มีศาสตร์โหงวเฮ้งมากมายที่กล่าวทำนายถึงสรีระทางหน้าอกของผู้หญิง แต่เอิ๊กไม่ค่อยได้สนใจคำทำนาย ณ จุดนี้ เว้นให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลไป แค่รู้สึกเวลามองเห็นใครดูมีหน้าอกหน่อยจะได้ความรู้สึกในความเป็นเพศหญิงในตัวบุคคลนั้นค่อนข้างสูง ใส่เสื้อผ้าก็ดูมีสัดส่วนโค้งเว้า ดูสัดส่วนแล้วดูสมดุลดี ความจริงความสำคัญของหน้าอกเพศหญิงนอกจากมีหน้าที่สำคัญในการให้สารอาหารผ่านทางน้ำนมแก่บุตรธิดาที่ให้กำเนิด หน้าอกก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพลักษณ์ทางร่างกายอย่างหนึ่งเวลาสวมใส่เสื้อผ้า หรือ สามารถสร้างมั่นใจในตนเองในการใช้ชีวิตได้อย่างหนึ่ง

” ผิวหนังตรงหน้าอกจะบางกว่าส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะผิวหนังของคนเอเชีย ทำไมการทำศัลยกรรมหน้าอกสำหรับคนเอเชีย ควรใส่ซิลิโคนลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ พอดีตัว ที่จะไม่ส่งผลให้เกิดริ้วรอย รอยย่น การคลำเจอของขอบซิลิโคน หรือ มีปัญหาสุขภาพต่างๆเช่น ปวดหลัง ไหล่ คอในอนาคตเป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากให้ใส่ชุดชั้นในที่มีโครงบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีและผิวหนังบริเวณนั้นยิ่งบางลงไปอีก จนอาจสามารถจับคลำเจอขอบซิลิโคนได้ในอนาคต “

คุณหมอ ชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอกเฉพาะทาง ที่ประเทศเกาหลี

ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลในสังกัดบริษัท STMSTYLE

 

การได้มาทำบทความเรื่องศัลยกรรมของประเทศเกาหลี

ทำให้ได้เปิดโลกทัศน์อีกมากมายในสิ่งที่ไม่เคยรู้

อย่างเช่น การทำศัลยกรรมหน้าอก ที่ได้รับความนิยมมากในทางตะวันตก รวมถึงประเทศเอเชีย

ซึ่งเอิ๊กไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเป็นศัลยกรรมยอมนิยมอีกประเภทนึง

ที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยมีคนนิยมเปิดเผยในฟากแถบเอเชีย

แต่พอนั่งทำข้อมูลตรงนี้บอกได้เลยว่าทำกันเยอะมากจนตะลึงกับผลสำรวจ

 

 

ข้อมูลทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจาก 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ตรงในการเป็นคนไข้ศัลยกรรมในหมวดนี้ด้วยตัวเอง ส่วนหนึ่งข้อมูลสัมภาษณ์คุณหมอชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอกประจำตัวเอิ๊ก และข้อมูลจาก STMSTYLE รวมกันซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนขึ้นมาเองประมาณ 90 % จากทั้งหมด

 

บางคนอาจจะอยากรู้ว่าทำไมเอิ๊กต้องไปทำไกลถึงประเทศเกาหลี หมอไทยไม่เก่งเหรอ

ขอบอกว่าหมอไทยเก่งมากแทบทุกสาขา แต่เอิ๊กอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆที่ยังไม่มีใคร

เปิดเผยมาก่อน มีดารา นักร้อง ศิลปิน นางแบบ คนดังมากมายที่บินไปทำที่ STMSTYLE

อาจเพราะไม่ต้องการเปิดเผย ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ แต่จุดแรกที่เอิ๊กอยากจะบอกเลย

ว่าคุณทำที่ไทยได้เลยไม่จำเป็นต้องไปทำตาม และ เอิ๊กขอเป็นตัวแทนคนไทยที่ไปทำ

มาเล่าถึงนวัตกรรมของประเทศเกาหลี ณ โรงพยาบาลที่คิดว่าดังที่สุดแห่งหนึ่ง

รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงและทำให้ศิลปินเกาหลีดังๆหลายคน ทั้งค่าย SM JYP

มาเล่าสู่กันฟัง ถึงวิธีการทำ แนวคิด การพักรักษาตัว การดูแลตัวเองก่อน-หลังทำ

ข้อมูลทั้งหมดมาจากประสบการณ์ตรง 100% จะมีทั้งด้านดี – ด้อย

และไม่ขอพูดเปรียบเทียบกับศัลยกรรมหน้าอกของประเทศไทย

เพราะเอิ๊กไม่มีประสบการณ์ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่เอิ๊กได้ประสบมาค่ะ

Erk-Erk กับ DR.JEONG, JAE-YEON ศัลยแพทย์หน้าอกของเอิ๊กเองค่ะ

วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการเตรียมตัว ก่อน – หลัง และมารู้จักกับการทำหน้าอกคร่าวๆก่อน

อีกบทความต่อไปจะเป็นเรื่องเล่า ณ ต่างแดน ที่เอิ๊กไปผจญภัย และ ผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต

ถ้าไม่นับจากออกมาจากท้องแม่นะคะ 🙂 ขอบอกว่ามันเปลี่ยนชีวิตเอิ๊กไปในทางที่ดีขึ้นมาก

มากกว่า 80-90% เกี่ยวกับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น แม้เราไม่ได้ทำมาเปิดโชว์นะ

ส่วนใหญ่ดูเองหน้ากระจก มันได้ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงเหมือนคนอื่น

ไม่รู้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นอีกต่อไป ฮ่าๆๆๆๆ และ มีเรื่องอื่นอีก อิอิ ต้องตามอ่านกัน


ก่อนทำนมต้องคิดถึงอะไรบ้างสำหรับการศัลยกรรมหน้าอกประเทศเกาหลี ?

1. อายุ

คุณหมอบอกว่าทางที่ดีรอซัก 20 – 22 ปีขึ้นไปค่อยมากทำดีกว่า น้อยกว่านี้การตัดสินใจอาจจะยังไม่ดีพอ เพราะเต้านมจะขยายเติบโตได้สุดๆประมาณ 20 ขวบ ถ้าประมาณ 22 ปี จะดีมากเพราะร่างกายจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว

2. คุณหมอที่จะฝากชีวิตหน้าอกไว้

นอกจากโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีมาตราฐานมากที่เราต้องนำมาคิดตรงจุดนี้ คุณหมอสำคัญมากมากมากมากมากมากที่สุด ให้อันดับ 1 เลยในการเริ่มคิดว่าจะทำหน้าอก ต้องเป็นคุณหมอคนนี้เท่านั้น คนนี้ต้องเป็นคนที่เราอาจจะเห็นผลงานผ่านตามาบ้าง ไม่มีก็ไปขอทางโรงพยาบาลที่คุณหมอคนนี้สังกัดอยู่ ต้องมีประสบการณ์มายาวนาน อย่างน้อยควร 5-8 ปีขึ้นไป 10 ปียิ่งดี และ ต้องจบเฉพาะทาง ควรถามข้อมูลจากผู้รู้ หรือ เอเจนซี่ศัลยกรรมที่น่าเชื่อถือ และ รู้จักวงการศัลยกรรมดีจริงๆ [จะรู้ได้ต้องฝึกตั้งคำถามให้เป็น ขอดูใบรับรอง และ สอบถามประวัติการทำงานของเขา อยากรู้อะไรยิงคำถามไป อย่าไปกลัว อย่าไปอาย ชีวิตเรา] คนที่เขาพูดแต่ความจริง เขาจะรู้สึกดี และ ยินดีที่จะมอบข้อมูลทั้งหมดที่เราสงสัยให้เราดู เพื่อสร้างความไว้วางใจ อย่าลืมว่าถ้าเราได้คุณหมอที่เก่งที่สุด ได้โรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือที่สุด ต้องมีคนที่เราติดต่อได้หากเกิดปัญหา เพราะเราไปทำไกลบ้าน อย่างน้อยต้องเป็นอีเมลล์ หรือ รายชื่อผู้ที่อยู่ในโรงพยาบาล เช่น หัวหน้าแผนกศัลยกรรม เพื่อสอบถามข้อมูลที่เราต้องการ หากเกิดข้อสงสัยหลังทำ การทำศัลยกรรมต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ ภาษามันสำคัญมาก อย่างน้อยคนที่เราติดต่อ ต้องพูด อ่าน เขียน อังกฤษได้ หมอจะให้ดีเลือกที่ภาษาอังกฤษค่อนข้างดีก็จะดีกับตัวเรามาก มีอะไรก็ถามคุณหมอตรงๆไม่ต้องผ่านล่าม ของเอิ๊กฝากชีวิตไว้กับเอเจนซี่ STMSTYLE และ คุณหมอ ข้อด้อยตัวเองภาษาไม่แข็งแรงเลย ทำให้ต้องยอมรับข้อด้อยมากๆอีกข้อ คือ รอคำตอบช้าหน่อย เพราะคุณหมอยุ่ง ต้องเอาภาษาไทยไปแปลงเป็นเกาหลี และ คุณหมอก็จะตอบเกาหลี มาแปลงเป็นภาษาไทย และ ถึงส่งกลับมา ระหว่างที่รอคุณหมอ เอิ๊กก็หาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศรอไปก่อน อิอิ ยังไงก็แล้วแต่ตราบใดที่นมคู่ใหม่ยังอยู่กับเราซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ 10 – 15 ปี หรือ ตลอดไป ในกรณีที่เราไม่ต้องการเอาออก คุณหมอคนนี้ก็ยังจะต้องอยู่คอยตอบคำถามและให้คำปรึกษาเราตลอด เพราะการทำศัลยกรรมหน้าอก “เชื่อหมอตัวเองเท่านั้น ถูกต้องที่สุด”

3. ข้อเสียของการทำหน้าอกที่ต้องยอมรับ

แน่นอนว่าข้อดี เราทราบอยู่แล้วละ หลายประการ ตอบสนองความต้องการที่จะมีไซส์ใหม่ของเรา หรือ ช่วยแก้เรื่องความหย่อนคล้อย บางคนก็มีปัญหาชีวิตคู่ บางคนสามีเคี่ยวเข็ญให้มาทำ [ สามีใจร้าย555แต่แลกกับการไม่นอกกาย ภรรยาหลายคนตามใจ ] ข้อเสียแน่นอนหลายคนกลัวเจ็บ แต่ขอบอกว่าเอิ๊กไม่รู้สึกเลย รถทับอะไรไม่ใช่เลย จะบอกว่าเลเซอร์ขนรักแร้เจ็บกว่า มันแค่ระบมวันเดียวแบบปวดเมนส์ ปวดรำคาญ แค่ย้ายจากปวดท้องมาปวดตรงหน้าอก และ รู้สึกอึดอัดช่วงแรก พร้อมกับการหายใจแล้วรู้สึกข้างในฟกช้ำเฉยๆ แต่สิ่งที่ต้องการให้ยอมรับนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงลิบ ก็ต้องทำความรู้จักสรีระตัวเองก่อน ถ้านมห่างมาก จะให้ชิดอาจจะยากมาก หรือ มองระยะยาว ถึงสุขภาพ ทำใหญ่มาก ปวด ไหล่ คอ หลัง และ ต้องยอมรับแผลเป็น ข้อเสียที่ต้องยอมรับสำหรับเอิ๊กคือแผลเนี่ยละ กำลังทำทุกวิธีทางให้มันจางไปมากที่สุด ซึ่งต้องรอประมาณ 1 ปี ถึงจะเริ่มเห็นสีของแผลจางไป เรื่องเสื้อผ้าที่ต้องใส่ระวังมากขึ้น ไม่มีนมใส่อะไรก็ดูน่ารัก พริ้วๆ พอมีก็ต้องระวังตัวเป็นผู้หญิงบางทีมันอันตราย เราจะโทษเพศตรงข้ามไม่ได้ มันเป็นสัญชาตญาณ หรือ ฮอร์โมนในสมองของเขา ที่จะต้องจับจ้อง ส่วนโค้งเว้าของผู้หญิงก่อน ความสวยงามของผู้หญิงแสดงออกได้หลายอย่าง ตั้งแต่กิริยา มารยาท การแสดงออก การพูดจา บางทีทำมาอยากจะเปิดเผยบ้างให้คุ้มค่าก็ทำได้ เพียงแต่ให้คำนึงถึงความปลอดภัย เป็นห่วงจากใจจริงๆค่ะ

4. วัสดุเทียม และ ทรงวัสดุที่ใส่ลงไป

สำคัญไม่แพ้ส่วนใด วัสดุแต่ละแบบ ย่อมให้ผลลัพธ์ต่างกัน ผิวเรียบ ผิวทราย ทรงกลม ทรงหยดน้ำ เพราะมันจะเผยออกมาเป็นรูปลักษณ์รูปทรงอวัยวะหน้าอกของเรา การสัมผัส การอยู่ทรง การเคลื่อนไหวท่านั่ง ยืน เดิน นอนของเรา การที่ต้องนวดและไม่นวด ที่สำคัญราคาก็ต่างกันสำหรับทรงหยดน้ำ กับ ทรงกลม ไปศึกษาให้ดี

5. ขนาด คัพ ไซส์

บอกเลยว่าถ้าทำที่เกาหลี หมอไม่เคยให้ใหญ่ และ เมื่อไม่ใหญ่บางทีอาจจะห่างเหมือนนมธรรมชาติ เพราะเขามองว่าอะไรที่ธรรมชาติ และ เหมาะสมกับการดูแล ที่ไม่ทำร้ายสุขภาพระยะยาว นั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าจะทำใหญ่ๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงนู้นค่ะ ของเอิ๊กทำเกาหลีจ่ายราคาเท่ากับคนเกาหลีแต่เอิ๊กจะได้รับการันตี มีแก้ได้ถ้ามีปัญหาไม่ต้องจ่ายตังค์รอบสองสามถ้าเกิดจากการผ่าตัดเพราะ STMSTYLE จะจัดการยินดีรับผิดชอบให้เอง หรือเรื่องหมอหมอเก่งเฉพาะด้านอยู่แล้ว แต่เรื่องความเจ็บปวดบอกตรงๆไม่มี พักฟิ้นเร็วมาก ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ก็เดินหลั่นล้าได้ การสูญเสียเนื้อเยื่อน้อยเพราะเขามีกล้องส่องเพื่อใช้วางวัสดุได้อย่างแม่นยำจะเลาะช่องว่างเท่าขนาดวัสดุเท่านั้น และ ที่สำคัญไม่ต้องใช้มอร์ฟิน กินแค่ยาแก้ปวดธรรมดา ของเอิ๊กไม่มีบวมไม่มีอักเสบ ไม่มีใครรู้ว่าทำเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และ เอิ๊กก็ทำงานได้ในวันรุ่งขึ้นตามปกติ ไม่มีต้องรออีกนานแค่ไหน นมจะยุบ ไม่ยุบ หายอักเสบเมื่อไหร่ ไม่ต้องรอ ทำมาตอนแรกเท่าไหน ตอนนี้เกือบ 4 เดือนก็วัดได้เท่าเดิม ไม่มีอักเสบ เพียงแต่หน้าตาจะดูนุ่มนวลขึ้น จะเป็นธรรมชาติมากขึ้น ค่อยๆนิ่มลงเรื่อยๆ เอิ๊กไม่ต้องนวดหน้าอก 55555 หมอห้าม เลยกังวลแค่เรื่องแผลที่แอบไปยิงเลเซอร์ตลอดที่ ISKYCENTER และมีข้อที่เราต้องยอมรับบางประการ เตรียมอ่านบลอคต่อไปได้เลย 🙂

6. ผลข้างเคียง / ข้อควรระวังหลังเสริม

อาจจะรวมไว้กับข้อเสียได้แต่มันจะดูลึกอีกระดับ ปัญหาการชาของเต้านมช่วงระหว่าง 5-6 เดือนแรกในระยะเวลาที่เส้นประสาทกำลังเชื่อมกันอยู่ใหม่ การชาของหัวนม การทานยาบางตัวเพื่อป้องกันการอักเสบ1-3-6 เดือนแล้วแต่คน ซึ่งยาบางประเภทก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ทางที่ดีถามให้ละเอียดเรื่องยาที่ต้องรับประทาน หรือ การดูแลตัวเอง อย่างเช่น ห้ามนวด หมายความว่า เราต้องรอนานเหมือนกัน 6 เดือน ถึง 1 ปีเพื่อให้มันนิ่ม และ คล้อยลงอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งที่บางวัสดุ เช่น ผิวเรียบ เขานิ่มกันไปไหนต่อไหนแล้ว พอหลังเสริม บราแบบไหนที่ควรใส่ของประเทศเกาหลีที่เอิ๊กไปทำ หมอบอกเลยไม่อยากให้ใส่มีโครงถ้าไม่จำเป็น เพราะผิวหน้าอกเราบางอยู่แล้ว และ จะถูกเสียดสีจากโครงจนบางขึ้นไปอีก ห้ามออกกำลังกายหนักช่วง 1-2 เดือนแรก ฯลฯ อีกมากมายที่ต้องถามให้ละเอียด อย่าลืมว่าคุยกับหมอเท่านั้น เชื่อหมอเท่านั้นในการทำศัลยกรรมประเภทนี้ แล้วจะดีเอง

7. มันอาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป

ท่องไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่าอาจจะแก้เพราะได้ผลไม่พอใจ หรือ พอใจมาก จนวันนึงเกิดมีลูกนมขยายใหญ่ขึ้นมาอีกมากๆ เราก็อาจจะอยากเอาออก หรือ บางคนทำใหญ่มาก ปวดหลัง X-RAY มากระดูกหลังงอ ก็ต้องมาเปลี่ยนไซส์หรือเอาออกได้ มันขึ้นอยู่กับช่วงวัยของเราตอนนั้น และ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้วย จงท่องไว้ว่ามันอาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปก็ได้นะ หมายความว่า อาจมีการผ่าตัดเกิดขึ้นอีกก็ได้นะ ยกเว้นแต่ว่าร่างกายเราไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก หรือ เรายังคงพึงพอใจกับผลลัพธ์ในแบบนี้ อย่างน้อยมันก็อยู่ยาวนานเกิน 10 – 15 ปีขึ้นไป

 

สำหรับ STMSTYLE ที่เอิ๊กไปทำกับเขาก็มีบริการศัลยกรรมหน้าอกหลายด้านด้วยกัน

  • ศัลยกรรมแก้หน้าอก
  • ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
  • ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
  • ศัลยกรรมลดขนาดปานนม
  • ศัลยกรรมตกแต่งปานนม
  • ศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกที่หย่อนคล้อย
  • ศัลยกรรมเสริมหน้าอกโดยใช้ไขมันจากร่างกายตนเอง
  • ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก

ในที่นี้จะขอกล่าวเน้นถึงศัลยกรรมเสริมหน้าอกนะคะ เพราะรู้ดีแค่อย่างเดียว 55555

 

 

การทำศัลยกรรมหน้าอกคืออะไร 

การเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยวัสดุถุงนมเทียมด้วยการผ่าตัด [ถุงซิลิโคนชนิดแผ่นบรรจุเป็น น้ำเกลือ หรือ ซิลิโคนเจล อยู่ภายใน] ซึ่งดูภายนอกก็จะเห็นว่าใกล้เคียง หรือ กลืนไปกับสรีระธรรมชาติถ้าไม่ได้สัมผัส หรือ บางทีการสัมผัสก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะปัจจุบัน บางวัสดุเทียมบางชนิดก็ให้สัมผัสที่เหมือนจริงค่อนข้างมาก แต่นอกเหนือจากนั้น การทำศัลยกรรมหน้าอกยังหมายถึง การแก้ไขปัญหาการคล้อยของทรวงอก การผ่าตัดลดขนาดหน้าอก การแก้ไขปัญหาหัวนมไม่เท่ากัน หัวนมบอด ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมต้องผ่าตัดหน้าอกออกไป ฯลฯ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหน้าอกก็จำเป็นที่จะต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ที่จะออกแบบรูปร่างและขนาดของหน้าอกให้เหมาะกับความต้องการคนไข้ เหนือสิ่งอื่นใดต้องเหมาะสมพอดีกับสรีระ และ ความปลอดภัยระยะยาวเป็นหลัก

 

 

เหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คนเราตัดสินใจทำศัลยกรรมนม !!

  • อายุทำให้สภาพผิวหนังหน้าอกหย่อนคล้อย
  • รู้สึกว่าตัวเองหน้าอกเล็ก และอยากให้มันใหญ่ขึ้น
  • อยากใส่เสื้อผ้ามั่นใจขึ้น เบื่อฟองน้ำ เบื่อการที่ต้องมานั่งคอยดันให้ดูมีอะไรตลอดเวลา
  • โดนคนล้อ หลายคนบ่อยๆเขา ก็ทำให้รู้สึกเป็นปมด้อย ขาดความมั่นใจ
  • ผู้ที่ลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบ ทำให้รูปร่างเต้านมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อาจจะคล้อย และ มีริ้วยรอยแตกลายงา
  • อยากปรับรูปร่างของขนาดเต้านมที่ไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด
  • ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมอยากมีหน้าอก
  • แปลงเพศจากเพศชายอยากเป็นเพศหญิง
  • เพศชายอยากมีกล้ามอกจะทำให้ดูแมนขึ้น
  • เพศหญิงที่ใจไปชาย อยากผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกออก
  • ไม่มีหัวนม
  • ปัญหาต่อมน้ำนมขยายจากการตั้งครรภ์
  • ฯลฯ

ผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกนำวัสดุเข้าทางไหนได้บ้าง 

  1. รักแร้
  2. ใต้ราวนม
  3. ปานนม
  4. สะดือ

 ก็จะคล้ายกับทุกที่ทั่วโลกที่นิยม แต่โรงพยาบาลที่เอิ๊กเข้ารักษาตัวจะเน้น 3 ทางเข้าคือรักแร้ ใต้ราวนม และ ปานนม

 

วางวัสดุไว้ส่วนไหนของหน้าอก

  1. ใต้กล้ามเนื้อ
  2. เหนือกล้ามเนื้อ
  3. ระหว่างชั้นกล้ามเนื้อ

ขึ้นกับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เพื่อทำให้ตรงกับความต้องการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยระยะยาวเป็นหลัก เป็นการวางที่คล้ายการศัลยกรรมหน้าอกทั่วโลก

 

วัสดุที่ใช้ทำหน้าอกจะมีทั้งหมด 2 พื้นผิว 2 รูปทรง

1. พื้นผิวเรียบ SMOOTH TYPE 

จะมี ทรงกลม ROUND TYPE เพียงอย่างเดียว และ อยู่ในรูปแบบถุงน้ำเกลือเท่านั้น

2. พื้นผิวทราย หรือ พื้นผิวขรุขระ TEXTURE 

จะมีทั้ง ทรงกลม ROUND TYPE และ ทรงหยดน้ำ TEAR DROP TYPE หรือ ANATOMY TYPE

โรงพยาบางที่เอิ๊กไปเน้นใช้ยี่ห้ออเมริกาชื่อดังอย่าง ALLERGAN เป็นหลัก ที่นิยมตอนนี้คือผิวทราย ทรงหยดน้ำ คุณหมอเกาหลีของเอิ๊กรู้สึกจะชอบมากเป็นพิเศษเนื่องจากรูปทรงธรรมชาติใกล้เคียงกับสรีระผู้หญิงจริงๆ ยังไม่ต้องนวดให้เจ็บตัว เพราะมันจะค่อยๆนิ่มลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ

 

สารที่บรรจุในถุงซิลิโคนที่นิยมใช้บ่อยที่สุด

1.ซิลิโคนบรรจุด้วยน้ำเกลือ

2.ซิลิโคนบรรจุด้วย cohesive gel

1. ถุงซิลิโคนบรรจุด้วยน้ำเกลือ

– ถุงน้ำเกลือประเภทเติมน้ำเกลือภายหลัง เปลือกถุงจะเป็นซิลิโคน มีการทำถุงเป็นขนาดต่าง ๆ เป็นถุงเปล่า เวลาผ่าตัดจะใส่ถุงเปล่าเข้าไปในช่องว่างที่เปิดอยู่ก่อนแล้ว จึงเติมน้ำเกลือทางสายที่ติดถุง เมื่อได้ขนาดที่ต้องการจะดึงสายบริเวณนั้นออกซึ่งจะมีฝาปิดถุงเอาไว้อีกทีนึง ถุงแบบนี้ปรับขนาดตามที่ต้องการได้ 

– ถุงน้ำเกลือประเภทเติมน้ำเกลือก่อนใส่ จะเติมน้ำเกลือมาแล้วจากผู้ผลิต ข้อดี นิ่มและเป็นธรรมชาติ และมีโอกาสเรื่องถุงแฟบ รั่ว น้อยกว่าแบบที่เติมน้ำเกลือภายหลัง 

ข้อดี 

❤ สัมผัสที่นิ่มและการเคลื่อนที่ไปมาได้คล้ายสรีระการเคลื่อนไหวเต้านมธรรมชาติ

❤ สามารถเพิ่มลดขนาดตามที่ต้องการได้ระหว่างทำ

❤ หากรั่วซึม ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย 

ข้อด้อย

❤ พบปัญหาการรั่วและแฟบได้บ่อย แต่ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำเกลือโดยไม่เป็นอันตราย เวลาที่หน้าอกแฟบจากการรั่วซึม ก็ต้องทำการแก้ไขโดยการผ่าตัดใหม่

❤ คลำได้รอยย่นของถุงน้ำเกลือซึ่งสั่นไหวไปมาภายในถุง ทำให้ผิวหนังด้านล่างเกิดรอยย่น มักเกิดกับผู้หญิงผอมบาง

❤ กระเพื่อมได้ยินเสียง หรือรู้สึกว่าเต้านมกระเพื่อม เราจะรู้ตัวแต่คนอื่นจะไม่รู้ ซึ่งอาการนี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

❤ ความนิ่ม อาจจะนิ่มไม่เหมือนเต้านมธรรมชาติ 100% 

 

2. ถุงซิลิโคนบรรจุด้วย Cohesive Gel 

ถุงภายนอกเป็นแบบซิลิโคนแข็งเช่นเดียวกับถุงน้ำเกลือ ภายในบรรจุเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลวที่มีความหนาแน่นสูง คงสภาพได้ยาวนาน เจลจะมีการบรรจุมาจากผู้ผลิตในขนาดต่างกัน เจลถูกพัฒนามาเรื่อยๆมากกว่า 15 ปีแล้วปัจจุบันมีการพัฒนาเปลือกถุงให้มีความหนาขึ้นมากถึง 3 ชั้น ให้ใช้งานได้นานขึ้น มีรูปร่างเหมือนเดิมตลอดเวลาที่ใส่ และ เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมของเจลที่อยู่ภายใน แต่เพราะด้วยความหนาของเปลืองถุง ก็จะทำให้การสัมผัสไม่นิ่มเท่าถุงซิลิโคนที่หุ้มเจลสมัยก่อน ยิ่งหนายิ่งมีความหนืดมากกว่า แต่ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงป้องกันปัญหาการที่พังผืดหนาตัวมากจนหดบีบรัดถุงซิลิโคนจนไม่สามารถขยับไปมาได้ ผลคือทำให้ถุงซิลิโคนแข็งและอาจเปลี่ยนรูปได้ นิยมเรียกการว่าการเกิดนี้ว่า CAPSULAR CONTRACTURE 

 

❤ การผลิตเจลก็อาจจะมีลักษณะแตกต่างกันแต่ละบริษัท โดยจะแบ่งเป็น 3 แบบ

1 เจลธรรมดา [ Silicone Gel]

2 เจลที่มีความหนาแน่นสูง [ Cohesive Gel ]

3 เจลที่มีความหนาแน่นสูงมาก [ High Cohesive Gel ]

ข้อดี 

การพัฒนาซิลิโคนรุ่นใหม่ๆทำให้มีความปลอดภัยในการไม่ไหลออกของเจลหากรั่วซึม

รูปทรงคงสภาพรูปร่างเดิมได้ยาวนานขึ้นมาก

เวลายืน นั่ง นอน รูปทรงจะไม่ไหลตามแรงโน้มถ่วงของโลกมากนัก

การหดรัดตัวของพังผืดที่หนาชั้นค่อนข้างเกิดได้น้อยถ้าเทียบกับถุงน้ำเกลือ

ไม่ต้องนวดเพราะหน้าอกจะค่อยๆนิ่มลงตามธรรมชาติ

การคลำเจอขอบถุง หรือ รอยพับขอบถุงมักไม่ค่อยพบ

ข้อด้อย

การสัมผัสความนิ่ม นุ่ม จะสู้ถุงน้ำเกลือไม่ได้ และ มีอยู่ในรูปแบบถุงซิลิโคนที่พื้นผิวทรายหรือ TEXTURE เท่านั้น

ในทรงหยดน้ำ จะมีสัมผัสที่นิ่มน้อยกว่าทรงกลม

เนื่องจากเจลถูกบรรจุมาตั้งแต่กระบวนการผลิต แผลผ่าตัดที่เปิดจึงอาจมีความยาวของแผลมากเฉลี่ย 4 เซนติเมตร

ทรงหยดน้ำถ้าการผ่าตัด และ ดูแลไม่ดีอาจทำให้เกิดการหมุนตัวของถุงซิลิโคน ต้องแก้ไขผ่าตัดกันใหม่

เมื่อนวดไม่ได้ อาจจะต้องรอซิลิโคนเข้าที่ และ อยู่ตัวประมาณ 5-6 เดือนถึงเริ่มนิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ 

 

3. ถุงเบคเกอร์ [ ถุงเจลบรรจุด้วยน้ำเกลือและเจลในอัตราส่วนที่ชัดเจน ]

อาจจะไม่ค่อยได้ยินกัน ขอพูดไว้เป็นให้เก็บเป็นข้อมูลนะคะ ถุงเบคเกอร์ คือเปลือกถุงเป็นเจลที่มีสายต่อพร้อมใส่บรรจุน้ำเกลือลงไปภายในให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ จะใช้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม หรือ ผู้ป่วยผ่าตัดโรค เนื้อจากเนื้อผู้ป่วยจะมีน้อยมาก จึงไม่สามารถเปิดแผลใหญ่ได้

 

การนวดหน้าอกหลังทำ

* คุณหมอต่างประเทศหลายท่าน ทั้งจากตะวันตก และ ตะวันออก เคยเกริ่นเรื่องการนวด ว่าสำหรับผิวทราย หรือ ผิวขรุขระ [ TEXTURE TYPE ] อาจทำให้เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ของซิลิโคนผิวทรายอย่างเต็มที่ เนื่องจากการนวดอาจทำให้รูปทรงซิลิโคนเปลี่ยนได้ในระยะยาว โดยเฉพาะทรงหยดน้ำอาจทำให้เกิดการหมุนตัวของซิลิโคน เพราะยังไม่มีงานวิจัยไหนยืนยันว่าการนวดทำให้ลดการเกิดพังผืดได้ ส่วนใหญ่สำหรับการนวดของซิลิโคนผิวเรียบเพราะว่า ต้องการให้เกิดช่องว่าง ทำให้ซิลิโคนขยับไปได้รอบๆ นิ่มลงอย่างเป็นธรรมชาติ และ ไม่ทำให้พังผืดหนาตัวมากจนหดรัดซิลิโคนกลายเป็นทำให้นมแข็งและซิลิโคนเสียรูปทรง หมอบางท่านก็บอกว่าการใช้ชีวิตประจำวันของเราปกติเนี่ยแหละ คือ การออกกำลังกายสำหรับหน้าอกของเราแล้ว

  

วิธีการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก

นอกจากจะดูสภาพหน้าอก ความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความหย่อนคล้อยของหน้าอกเดิม การมาแก้ไขหน้าอกที่เคยทำไป ปริมาณไขมันหน้าอก เป็นต้น เราจะมาเลือกความต้องการของเรากัน โดยส่วนใหญ่จะเลือกจากหัวข้อดังต่อไปนี้

  • กำหนดขนาดความใหญ่ที่ต้องการ CUP A B C D E F
  • ทรงความนูน เนินอก ระดับสูง กลาง ต่ำ
  • ขนาดน้ำหนักซิลิโคน กี่ CC
  • รูปทรง ทรงกลม หรือ ทรงหยดน้ำ
  • ตำแหน่งหัวนม
  • ระยะห่างระหว่างหัวนมถึงต้นคอ

 

การจะผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลีให้ออกมาได้ผลลัพธ์ดีตรงใจควรคิดถึงอะไรบ้าง

  • ความสมดุลของสรีระตัวเรา
  • ประสบการณ์และผลงานของแพทย์แต่ละท่านต้องมีความเชี่ยวชาญสูงเฉพาะด้าน
  • ชื่อเสียง และคุณภาพ ของโรงพยาบาลที่จะเข้ารับการผ่าตัด
  • เทคโนโนยี อุปกรณ์ การผ่าตัดที่ดี มีประสิทธิภาพสูง และ ทันสมัย
  • ระยะเวลาการผ่าตัด และ การพักฟื้นที่ใช้เวลาน้อย
  • การดูแลตัวเอง ก่อนและหลังผ่าตัด ตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
* คำเตือน การใส่เต้านมที่ใหญ่เกินกว่าสรีระจะรับไหว
ทำให้ผิวหนังบางและดูใส ถ้าหนักมาก อาจทำให้ผิวหนังเราทนไม่ไหว จนกลายเป็นซิลิโคนทะลักออกมาได้ ถ้าไม่เช่นนั้นโอกาสเกิดการปวดกล้ามเนื้อหลัง ไหล่ คอ เรื้อรัง หรือ กระดูกหลังงอได้

การวินิจฉัยร่างกายก่อนการทำศัลยกรรมหน้าอก

  • ตรวจเลือด
  • ตรวจความดัน
  • ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ
  • ตรวจกระดูกทรวงอก และ ฉายรังสีเพื่อดูโครงสร้างกระดูกภายในบริเวณหน้าอก
  • สภาพร่างกายคนไข้
  • สภาพผิว ลักษณะ และ ขนาดของหน้าอก

เพราะการทำหน้าอกเปรียบเสมือนการตัดเสื้อผ้า เราจำเป็นต้องตัดเสื้อผ้าตามที่คนไข้ต้องการ เพียงแต่ต้องดูสมดุล สวยงาม เหมาะสม และ คิดถึงความคงทน หรือ ความปลอดภัยระยะยาว

[ ทายสิ๊ใครเอ่ย ? 555 ] 

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง

เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ที่นำออกมาจากส่วนเกินในร่างกาย เช่น ต้นขา หน้าท้อง แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปที่หน้าอกเพื่อให้ได้ขนาดที่ต้องการ อย่างที่เคยบอก

ข้อดี คือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ร่างกายยอมรับแต่โดยดี ข้อแม้คือทำด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ มีการฆ่าเชื้อเครื่องมือ และ ทำในห้องปลอดเชื้อ โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ วิสัญญีแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิด 

ข้อด้อยคือ คนที่มีนมเล็กไม่ค่อยเหมาะเพราะมันไม่สามารถจะฉีดเข้าไปได้มากกว่า 200 CC เหมาะกับคนที่มีเนื้อนมพอสมควรเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว และอาจมีแผลเป็นบริเวณที่ดูดไขมันออกมา ที่สำคัญอัตราการดูดซึมของเซลล์ไขมันที่ฉีดกลับของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย สามารถดูดซึมเฉลี่ยตั้งแต่ 30-75% ส่วนระยะเวลาการที่เซลล์ไขมันคงอยู่เฉลี่ยประมาณ 1-2 ปี ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ

 

ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก

บางคนมีอาการปวดหลัง ไหล่ ต้นคอ หรือ บางรายกระดูกหลังงอ เนื่องจากแบกรับหน้าอกที่มีขนาดใหญ่มากอยู่ตลอดเวลา หรือ เวลาเป็นประจำเดือนจะเจ็บหน้าอกแบบทรมานมาก มีผลต่อสุขภาพ หรือ การใช้ชีวิต การศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก ก็เป็นอีกทางเลือกที่จะผ่าตัดเอาโครงสร้างเนื้อภายในหน้าอกให้น้อยลงไป จึงทำให้โครงสร้างของเนื้อหน้าอกแข็งแรงขึ้น ทำให้มีขนาด และ รูปลักษณ์ที่พอเหมาะสมกับลำตัวได้ 

 

อีกวิธีที่อาจทำได้ ถ้าหน้าอกไม่ได้ใหญ่โตมากจากไขมันมากนัก พูดง่ายๆไม่ใช่คนนมใหญ่มาก ก็สามารถ ฉีดสารโบทูลินูม ทอกซินฉีดรอบๆผิวหนังบริเวณเต้านมเพื่อลดขนาดของหน้าอกลงไปได้ชั่วคราว มักใช้สำหรับหน้าอกที่มีริ้วรอย หรือ หย่อนคล้อยไม่มาก เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อยกขึ้นเฉลี่ย 2 เซนติเมตร เรียบเนียน เต่งตึง อวบอิ่มขึ้นประมาณ10% หัวนมและปานนมดูดีขึ้นได้ เห็นผลชัดภายใน2-3วัน หรือทันทีสำหรับริ้วรอยบางประการ ข้อดีเห็นผลไว หน้าอกยังมีความรู้สึกเหมือนเดิม ข้อด้อย แพง ต้องทำบ่อยครั้ง และ เหมาะสำหรับหน้าอกที่ไม่ได้หย่อนคล้อย หรือ มีร่องลึกมาก

 

ศัลยกรรมแก้ไขหน้าอกหย่อนคล้อย

เมื่อเวลาผ่านไปอายุมากขึ้น มีการตั้งครรภ์และให้นมบุตร การเจ็บป่วย การลดน้ำหนักที่เร็วและฮวบฮาบ การใส่ชุดชั้นในไม่ถูกวิธี การห่อไหล่จนเป็นนิสัย ก็มักทำให้หน้าอกหน้าใจเราโดนแรงโน้มถ่วง ถ่วงจนย้อยลงไปตามวัย การหย่อนคล้อยมักจะมีระดับการหย่อนคล้อย หากหย่อนคล้อยไม่มาก ก็สามารถผ่าตัดเพิ่มขนาดหน้าอกให้กลับมาดูเต่งตึงขึ้นได้ หากมีระดับหย่อนคล้อยที่มากอาจจะต้องผ่าตัดเริ่มตั้งแต่ยกเนื้อตรงยอดหัวนม เพื่อปรับเนื้อส่วนเกินให้พอดี และ แก้ไขโครงสร้างของผนังหน้าอกด้านในดังกล่าว เพื่อให้เนื้อหน้าอก และ หัวนมถูกยกให้เชิดขึ้นมาในระดับที่พอดี เหมาะสม

หน้าอกหย่อนคล้อยแบ่งเป็น 3 ระดับด้วยกัน

การผ่าตัดหน้าอกหย่อนคล้อยมากๆ

ใช้วิธีกรีดบริเวณรอบปานหัวนมแล้วกรีดลากยาวเป็นเส้นตรงลงไปถึงร่องใต้หน้าอก หรือ ใต้ราวนม ตัดเอาไขมันผิวหนังและเนื้อเยื่อหน้าอกออก สามารถเปลี่ยนย้ายตำแหน่งของหน้าอกได้ตามความต้องการ รอยแผลค่อข้างยาวมากจะแดงอยู่ 3 เดือนแล้วค่อยๆจางไป

 

การผ่าตัดหน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก

อาจจะนมใหญ่แต่คล้อย หรือไม่ต้องการเสริมให้ใหญ่ไปกว่าเดิมก็จะใช้วิธีกรีดรอบปานหัวนม แล้วทำการดึงหน้าอกขึ้น

 

 

 

การปฏิบัติตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก

❤ งดอาหารเสริมและวิตามินทุกชนิด 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

ยาบางประเภทส่งผลต่อการหยุดไหลของเลือด ทางที่ดีงดยาและวิตามินทุกชนิดล่วงหน้าก่อนผ่าตัด เช่น งดทานวิตามิน จำพวกวิตามินอี เพราะจะทำให้อาการบวมอาการอักเสบหายช้ากว่าปกติ พร้อมดูแลสุขภาพใจและกายให้แข็งแรง พร้อมผ่าตัดใหญ่

❤ หาข้อมูลเรื่องยาล่วงหน้า

หลัง การผ่าตัด เป็นที่แน่นอนว่าคุณจะต้องได้รับยา บางตัว ไม่ว่าจะเป็นยาลดบวม แก้ปวด แก้อักเสบ หรือยาตัวอื่น ๆ ซึ่งหากเป็นไปได้ การศึกษาข้อมูลของยาโดยละเอียด ทั้งคุณสมบัติและการออกฤทธิ์ของยาแต่ละตัวไว้ล่วงหน้า ย่อมเป็นหนทางที่ดีกว่า โดยคุณสามารถสอบถามข้อมูลเหล่านี้ จากคนที่เคยเข้ารับการผ่าตัดมาก่อน หรือเข้าปรึกษากับคุณหมอได้โดยตรง รวมทั้งการหาซื้อยามาเตรียมเอาไว้ก่อน ย่อมดีกว่าออกไปหาซื้อยาหลังการผ่าตัด ซึ่งคุณทั้งเจ็บแผลทั้งขยับตัวลำบากด้วยค่ะ

❤ ทานอาหารมีประโยชน์และงดปัจจัยทำร้ายสุขภาพ

เป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมก่อนทำการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ รวมทั้งงดบริโภคแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ ซึ่งการงดสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด จะทำให้ระบบทางเดินหายใจของคุณโล่งและสะอาดขึ้น ออกซิเจนถูกดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือดและไปหล่อเลี้ยงบาดแผลได้ดีขึ้น ทำให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย และไม่อักเสบบวมนาน และ ควรงดทานอาหารเปรี้ยว เพราะจะส่งผลต่ออาการบวม 

❤ ทำใจยอมรับรอยแผลเป็น

ไม่ว่าจะเป็นรอยเล็กหรือใหญ่ และจะเห็นได้ชัดเจนหรือไม่ก็ตาม มันสามารถรับการรักษารอยแผลเป็นนี้ให้จางลงได้มากที่สุดในภายหลัง

❤ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

เป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นที่สุด ที่ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งนี้ผู้เข้ารับการผ่าตัดแต่ละราย ย่อมมีอาการหรือลักษณะจำเพาะที่แตกต่างกันไป ทำให้รายละเอียดในการปฏิบัติตัวทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด แตกต่างกันออกไปด้วย หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรเข้าปรึกษารับคำแนะนำจากคุณหมอโดยตรงค่ะ

 

 

การปฏิบัติตัวหลังเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก

 โดยปกติจะเอาไหมออกหลังจากวันผ่าตัด 7-10 วัน หลังการตัดไหมออก สามารถซาวน์น่าหรืออาบน้ำได้ตามปกติตั้งแต่วันแรกเพราะจะมีตัวซีลแผลกันน้ำอย่างดี
 ตั้งแต่วันที่รับการผ่าตัด ควรค่อยๆยืดแขนอย่างเบาๆ จะช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น การออกกำลังกายโดยการยกเอาแขนแนบหูบ่อยๆ จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นก้อนในบริเวณที่ทำการเย็บแผล ช่วยคลายตัวเร็วขึ้น ไม่ควรใช้ร่างกายออกกำลังกายหักโหมเกินไป หลังการผ่าตัด 3 สัปดาห์ สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
 ประมาณ 1 เดือนหลังผ่าตัด ควรใส่ชุดชั้นในที่กระชับสัดส่วนจะช่วยให้ผลลัพธ์ในการทำหน้าอกออกมาดูดีมากยิ่งขึ้น
 ในส่วนของการนวดหน้าอก หลังจากวันที่ 3-4 สามารถเริ่มนวดอย่างเบาๆได้ ส่วนรอยผ่าตัด ตั้งแต่วันที่ 7-10 บริเวณนี้อาจจะเกิดอาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อยเปนปกต
ไม่จับหรือขยับผ้าพันแผลห้ามใจไม่ล้วงแคะแกะเกาหรือจับขยับผ้าพันแผล เพราะนั่นเป็นการรบกวนกระบวนการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าได้ค่ะ
 ควรงดการดื่มสุราและการสูบบุหรี่หลังการผ่าตัดอย่างน้อย   4-5 สัปดาห์
 อาหารเปรี้ยว การทานอาหารที่เปรี้ยวมากจนเกินไป อาจมีผลต่ออาการบวม หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง
 หากบริเวณที่ทำการผ่าตัดอยู่เหนือหรือสูงกว่าบริเวณหัวใจ หลังจากการผ่าตัด 2 สัปดาห์ การเดินหรือการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้อาการบวมหายเร็วขึ้น ควรนอนให้ร่างกายท่อนบนยกขึ้นสูงกว่าบริเวณด้านล่าง
 ถ้าต้องทานยาทาน ถ้าต้องทายาทา ทำตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด และเชื่อหมอสำคัญสุดค่ะ

 

 

 

 

ต่อไปเป็นบทสัมภาษณ์คุณหมอ ชอง เจ ยอน นะคะที่เอิ๊กถามมาให้อ่านกัน 

 

ปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดทำหน้าอกกี่แบบคะ

เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะมีประมาณ 3 แบบที่นิยมที่สุด แบบกรีดที่ใต้รักแร้ ที่ปานนม และที่ใต้ราวนม ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วลักษณะการผ่าตัดก็จะมีความเจ็บปวด มีเลือดออกมาก แต่ว่าเดี๋ยวนี้ถูกพัฒนาไปไกลมากคือดีขึ้น มีเลือดออกน้อยลง และมีอาการเจ็บปวดน้อยลง

เราเลือกขนาดได้ไหมคะ ความชิด ความห่าง ความสูง

ถามว่าเลือกได้มั้ยก็เลือกได้ แต่ว่าทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับขนาดลำตัวแล้วก็ขนาดของร่างกายเป็นเกณฑ์ด้วยเพราะว่าเพื่อที่ใส่เข้าไปแล้ว วัสดุส่วนที่ใส่เข้าไปแล้วเมื่อเสร็จผลลัพธ์ออกมาแล้วจะได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

แล้วมีบางคนใส่แบบโอเวอร์จะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ก็คือในอนาคตอาจจะ 5-10 ปีข้างหน้าอาจจะมีปัญหาใหญ่ได้ เพราะว่าขนาดที่มันใหญ่มันก็จะมีน้ำหนักที่มันมากขึ้นแล้วพอประกอบกับร่างกายคนที่ตัวเล็กผิวมันก็จะบาง ยิ่งคนเอเชียผิวก็จะบางอยู่แล้วเป็นทุน เพราะฉะนั้นน้ำหนักที่มากมันก็จะยิ่งดึงผิว มันก็จะเกิดริ้วรอย ผิวมันก็จะเหี่ยวย่น มันก็อาจจะทำให้ตัววัสดุที่ใส่เข้าไปเหี่ยวย่นได้เพราะน้ำหนักมันทิ้งตัวแต่ร่างกายเรารับไม่ไหว

อย่างพวกวัสดุที่เสริม มันจะต้องเปลี่ยน คือมีคนบอกว่ามันก็มีอายุการใช้งานของมัน

จริงๆ แล้วมันไม่ได้ตายตัวว่า 10 ปี 15 ปี อาจจะต้องเปลี่ยนตัววัสดุเสริมข้างใน แต่ว่ามันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนมากกว่า เช่น ผิวหนังที่หย่อนคล้อย ขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ก็จะทำให้เกิดความลำบากหรือไม่สบายตัว ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเข้ามารับการผ่าตัดใหม่เมื่อเวลาผ่านไปค่ะ

หลักการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมันตัวเองเข้าไปที่หน้าอกคุณหมอมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างคะ

ก็คือคุณหมอบอกว่าฟิลเลอร์มันเป็นวิธีการที่มีมานานแล้วเหมือนกัน มันก็โอเคอยู่นะเพราะว่ามันเป็นวิธีการที่ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องอะไร แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นวิธีการที่ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ถ้าเทียบกันแล้วลักษณะการฉีดไขมันเข้าตัวเองอันนี้โอเคเลยเพราะว่ามันเป็นการใช้วัสดุจากร่างกายตัวเอง มันก็จะไม่มีผลข้างเคียงอะไร แต่ข้อเสียของมันก็คือว่า เราจะไม่สามารถฉีดได้ในปริมาณที่มากอย่างที่เราตั้งใจ อาจจะมีข้อดีกว่าการผ่าตัดตรงที่ว่ามันไม่ต้องมีบาดแผล เพราะมันเป็นวิธีการฉีดเข้าไปเฉยๆ แต่ก็จะไม่ได้ไซส์ใหญ่ขนาดที่ต้องการเหมือนกับใช้วัสดุเสริมเข้าไป

วัสดุการเสริมหน้าอกมีกี่แบบตั้งแต่ถูกสุด แพงสุด ข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ

ก็คือหลักๆ จะมี 3 แบบ จะมีแบบที่เป็นพื้นผิวเรียบ ที่มีแค่ทรงกลม กับแบบที่เป็นพื้นผิวหยาบ จะมี 2 ทรง คือ แบบทรงกลมกับแบบที่เป็นทรงหยดน้ำ

ความต่าง มันต่างกันยังไงคะ

มันต่างกันตรงที่ว่า แบบนึงใส่แล้วต้องนวด อีกแบบนึงใส่แล้วไม่ต้องนวด

ก็คือถ้าเป็นทรงแบบที่พื้นผิวเรียบ เวลาที่เนื่องจากพื้นผิวมันเรียบเมื่อใส่เข้าไปแล้วมันจะยังมีช่องว่างในร่างกายทำให้เราจะต้องนวดอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้มันไม่มีปัญหากับสภาพร่างกายแต่ว่าถ้าเป็นแบบที่พื้นผิวไม่เรียบหรือเนื้อทรายตรงนี้ก็คือพอใส่เข้าไปแล้วมันจะยึดเกาะกับร่างกายได้ดีกว่าเพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นจะต้องนวดอะไร ก็คือในแบบพื้นผิวเรียบอาจจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติแต่ว่าก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการนวดอยู่ตลอดเวลา  แต่ว่าถ้าเป็นพื้นผิวไม่เรียบแบบเนื้อทรายมันอาจจะไม่ให้ความรู้สึกที่แบบหน้าอกขยับได้เหมือนแบบธรรมชาติจริงๆ  สักเท่าไหร่นัก แต่ว่ามันจะมีข้อดีตรงที่ว่ามันจะไม่ต้องนวด มันก็จะไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น ก็พอมาเทียบในระหว่างพื้นผิวแบบเดียวกันแต่จะมี 2 รูปทรงก็คือเป็นทรงหยดน้ำกับทรงกลม ถ้าดูแล้วจริงๆ ทรงหยดน้ำจะดูเหมือนแข็งกว่านิดหน่อย ถ้ามองมุมนี้ก็จะเห็นว่ามันดูแข็งกว่าแต่มันจะทำให้รูปทรงอยู่ทรงมากกว่า มันทำให้ทรงออกมาเป็นธรรมชาติ ทรงหยดน้ำโดยปกติแล้วจะแนะนำให้กับคนที่หน้าอกค่อยข้างจะแบนมากๆ หรือไม่อย่างนั้นก็จะเป็นกับคนที่หน้าอกหย่อนคล้อย

ทรงหยดน้ำมันจะไม่มีท่าทีว่ามันจะนิ่มเหรอคะ คือเท่าที่จับดูค่อนข้างที่จะหนืดนึดนึง

หลังการผ่าตัด ประมาณ 2-3 เดือนนั้นแรก เนื้อเยื่อจะเริ่มเกาะตัว(พังผืด)กับวัสดุเทียมทำให้หน้าอกมีลักษณะแข็งตัว หลังจากที่ใส่เข้าไปในร่างกายแล้วก็ต้องรอสัก 3-6 เดือนมันก็จะนิ่มลงเป็นธรรมชาติขึ้นแต่ก็จะได้สัมผัสคล้ายที่จับ ก็คือในโลกนี้ไม่มีอะไรที่มันเพอร์เฟคไปทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างมันก็ต้องมีข้อดีข้อเสียในตัวเองเพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกวัสดุ เพราะฉะนั้นเลือกให้ดีก่อน

ผลข้างเคียง

ก็คือจริงๆ แล้วผลข้างเคียงมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งคุณหมอก็ยังบอกตอนแรกว่าถ้าทำให้มันไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ก็คงดีเนอะ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันก็อาจจะมีบ้างเช่น อาการเจ็บ หรือ อาการปวด หรือแม้แต่อาการติดเชื้อก็สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกัน แล้วอาการที่เกิดขึ้นมากก็คือ เป็นไปได้อย่างนึงก็คืออาจจะเป็นลักษณะของการที่มันบิดตัวแล้วมันแตกก็เป็นไปได้เหมือนกัน

การพักฟื้น

คงแล้วแต่คน

การดูแลหลังการผ่าตัด

ก็คือแล้วแต่ลักษณะของวัสดุเสริมนะคะว่าถ้าสมมติเป็นทรงผิวเรียบอย่างที่บอกก็คือหลังจากที่ทำศัลยกรรมแล้วต้องมีการนวด แต่ว่าถ้าเป็นตัวที่เป็นผิวทรายก็คือหลังจากที่เราศัลยกรรมแล้วก็ไม่ต้องนวดอะไรก็สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย โดยปกติหลังจากผ่าตัดแล้วก็จะมีอาการบวมอยู่สักประมาณ 1-2 วัน ก็พักฟื้นในช่วงนั้นแล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรใช้ชิวิตได้ตามปกติ ในวันรุ่งขึ้นก็สามารถอาบน้ำได้เลย

การรักษาแผลเป็น

ก็คือจริงๆ แล้วแผลมันก็จะมีขึ้นหลังจากที่เราผ่าตัดนะคะ แต่ว่าก็โดยปกติมันก็จะรักษาตัวเองแล้วก็ค่อยๆ หายไปเองหลังจาก 6 เดือนผ่านไปก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วไม่ค่อยจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่

เพราะอะไรทำไมคนไข้ถึงต้องเลือกคุณหมอ

จริงๆ แล้วในการศัลยกรรมหน้าอก สิ่งที่สำคัญก็คือความละเอียดรอบคอบ แล้วก็ความประณีตในการผ่าตัด ซึ่งคุณหมอก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าสามารถทำได้ประณีตแล้วก็เรียบร้อยที่สุด 

เทคนิคใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเรื่องของการเสริมหน้าอก

ถ้าเป็นในเรื่องของการใช้วัสดุเสริมอาจจะเรียกว่ามันมาเกือบจะถึงทางตันแล้วแหละ เพราะว่าจริงๆ มันก็น่าจะพัฒนาไปไม่ได้ไกลกว่านี้แล้ว แต่ถ้าพูดถึงวิธีการเช่นการฉีดไขมันหรือการฉีดอย่างอื่นเข้าไปในลักษณะการฉีด เช่น การฉีดไขมันตัวเองอะไรแบบนี้ ก็อาจจะมีทางพัฒนาขึ้นไปได้อีกซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของอนาคตซึ่งก็ยังมองไม่เห็นเหมือนกันว่าจะพัฒนาไปในทางไหน

เทคโนโลยีที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของโรงพยาบาล

สำหรับที่โรงพยาบาลของเรามีการใช้เครื่องHD ที่ล้ำสมัยสมัยในการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก โดยแพทย์ผู้ผ่าตัดสามารถทำการปฏิบัติด้วยการดูด้วยตาเปล่าได้ และสามารถทำกาารตัดเนื้อเยื่อได้อย่างแม่นยำ

และเครื่องตัวนี้ สามารถลดความสูญเสียของเนื้อเยื่อในการผ่าตัดได้น้อยที่สุด
  

อิอิ ใครสนใจเรื่องอัพไซส์น้องนมห้ามพลาดกับบล็อคหน้า

ประสบการณ์น้องนมราคาเกือบ 4 แสนบาท แพงอะไรกันหนอ O.o

ดูรูปตอนเอาเสื้อในเก่าบางส่วนไปบริจาคก่อน ความจริงรอบอกเอิ๊กประมาณ 29 นิ้ว

[ เข้าใจแล้วนะ ทำไมต้องทำ เอามือวางแนวนอนแล้วรูดไปจากช่วงอกบน

ลงพุงยังไม่ติดอะไรเลยราบเรียบมาก ]

ใส่วาโก้ประมาณ B70 ยี่ห้ออื่นก็ A32 บ้าง ไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ด้วยบางที ฮ่าฮ่าฮ่า

ตอนนี้ วาโก้ D70 ประมาณ 33.5 นิ้วค่ะ ก็พอดีตัว แล้วใครอยากดูแผลผ่าตัดที่ยิงเลเซอร์

ก็ตามอ่านกันได้บลอคหน้าครับผม ครับผม

ข้อมูลตัวพิมพ์บทความทั้งหมดถือเป็นลิขสิทธิ์ของ www.erk-erk.com แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเอิ๊กเรียบเรียงและเขียนเองทั้งหมดโดยได้รับอนุญาตลิขสิทธิ์ภาพและข้อมูลที่ถูกต้องบางส่วนเกือบจาก STMSTYLE.COM ที่ให้เผยแพร่ต่อได้โดยให้เกียรติลงเครดิต และขอความกรุณาคนไทยด้วยกันไม่ดัดแปลง แก้ไข ข้อความส่วนใดทั้งสิ้นนะคะ กราบขอบพระคุณล่วงหน้า ตั้งใจทำมาก อยากให้คนไทยที่มีความคิดที่จะทำศัลยกรรมได้อ่านอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไปกับร่างกาย ใส่ความคิดตัวเองลงไปบ้าง ภาษาส่วนตัวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้น

 

ที่มาส่วนประกอบข้อมูล รูปภาพ

  • บทสัมภาษณ์คุณหมอ ชอง เจ ยอน ศัลยแพทย์หน้าอก
  • บทความที่นำมาดัดแปลงบางส่วนจาก STMSTYLE.BLOGSPOT.COM
  • รูปภาพลิขสิทธิ์ STMSTYLE.COM
  • รูปภาพ GOOGLE บางส่วน
  • ประสบการณ์จากการทำศัลยกรรมส่วนตัว และ จากที่ได้พบเห็นมาจริง

BEAUTY PARTNER STMSTYLE

Posted in HOW TOComments (0)

การปรับรูปร่างที่มีมาแต่กำเนิดทำได้จริง

คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน นอกจากรูปร่างหน้าตา สีผิว ผิวพรรณ

แล้วยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนเราต่างกันนั่นคือ “โครงร่างกาย” ที่ต่างกัน

โดยเฉพาะสาวไทยจะเห็นได้ชัดเจนมาก เมื่อคัดเลือกผู้หญิงมา 100 คน

ที่เห็นได้หลักๆ มากที่สุดจะมี โครงร่างกาย 4 รูปแบบ ได้แก่

หุ่นทรงลูกแพร

หุ่นทรงแอปเปิ้ล

หุ่นทรงนาฬิกาทราย

หุ่นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

 

 หุ่นทรงลูกแพร

ช่วงหน้าอกจะเล็กกว่าช่วงสะโพกก้นที่จะดูผายออกอย่างชัดเจน

และ ต้นขาอาจจะใหญ่อวบอิ่ม แต่ยังมีเอวที่คอด

 

 

 

 

หุ่นทรงแอปเปิ้ล

หน้าอก ไหล่ ผายกว้างออกกว่าช่วงสะโพก

แต่ ต้นขาดูเล็กลงมา คือ ช่วงบนใหญ่ ช่วงล่างเล็ก 

 

 

 

 

 

 

 

 หุ่นทรงนาฬิกาทราย

หุ่นในฝัน เอวคอดชัด มีหน้าอก และ

สะโพกที่ดูผายกว้างสมส่วนสมดุลรับกัน

 

 

 

 

หุ่นทรงกล้วย

หุ่นทรงตรงดูเท่ากันหมด สังเกตุนางแบบ

หน้าอก เอว สะโพก จะมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน

เอวไม่เล็กคอด เหมือนลูกแพรและนาฬิกาทราย

 

 

 

 

 

 

หลักสังเกตุง่ายๆ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน

1 ลำตัวช่วงบน ไหล่ หน้าอก

2 ลำตัวช่วงกลาง เอว หน้าท้อง

3 ลำตัวช่วงล่าง สะโพก ต้นขา

พอเวลาน้ำหนักมาก ส่วนโคร่งร่างที่ขยายใหญ่มักจะขยายจนเห็นได้ชัด

พอเวลาน้ำหนักน้อยลงมากๆ ก็จะเห็นโครงร่างชัดเจนมากขึ้น

แต่ถ้าเช่นหุ่นโครงร่างแบบไหน พอผอม ก็ยังเป็นโครงร่างแบบนั้นอยู่ 

 

อดีตเราอาจจะเข้าใจว่า ถ้าเราเกิดมามีโครงร่างแบบใด

เราอาจต้องอยู่กับโครงร่างเหล่านั้นไปตลอดชีวิต

สิ่งที่คิดนั้นไม่ผิดแต่อย่างใด ปัจจุบันก็มีนวัตกรรม เทคโนโลยี

ที่สามารถปรับโครงร่างของร่่างกายได้ตลอดไปเช่นกัน

แต่จะหยิบยกแต่ละวิธีที่ก็มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

หรือ ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยที่จะช่วยทำให้เห็นโครงร่างชัดขึ้น

และช่วยคงโครงร่างในระยะยาว

ยกมาให้เห็นถึงบางวิธีที่มีความเสี่ยง

แต่ทุกวิธีคล้ายกันคือต้องใช้เวลารอคอย

การปรับโครงร่างมนุษย์ สามารถทำได้โดยวิธีใดบ้าง

ให้เปลี่ยนจากโครงร่างหนึ่ง ไปยังอีกโครงร่างหนึ่ง    

ในฐานะที่ผ่านขั้นตอนการเปลี่ยนโครงร่างมา 3 วิธีหลัก ที่กำลังจะพูดถึงนี้

ขอบอกว่าการเปลี่ยนโครงร่างแบบที่ต้องช่วยตัวเองตลอดนั่นคือการออกกำลังกาย

สำคัญมากที่สุดในชีวิต กว่าเทคโนโลยีทั้งปวง รวมถึง อาหาร การพักผ่อนที่พอเพียง

แม้อาจไม่ได้เปลี่ยนถึงระดับเซลล์ไขมันให้ตายจากไป เพราะร่างกายที่ดี

ไม่ได้ดูแลแค่วันเดียวแล้วพอ ต้องดูแลถึงระบบที่ซับซ้อนของมันถึงข้างใน

ที่สำคัญ อารมณ์ที่ดี การมีสุขภาพจิตที่ดี จะมีแนวโน้มให้เรายอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้

โดยอาจไม่ต้องแสวงหาวิธีที่ทำให้เจ็บ หรือ เสียเงิน

ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นมนุษย์ และ เป็นคนที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการดูแลตัวเองอยู่เสมอ

และ เป็นโชคดีที่มาอยู่ในวงการนี้ทำให้ได้มีโอกาสได้ใช้ ได้ทดสอบ ทั้ง 3 วิธีในแต่ละกลุ่ม

พบว่าแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อด้อยที่แตกต่างกันไป ขอบพระคุณอาจารย์ และ ผู้สนับสนุน

แต่ละวิธี รวมถึงตัวเอง ที่ตั้งใจอดทนในวิธีที่เงินซื้อไม่ได้ และ ตั้งใจเก็บประสบการณ์

ที่ผ่านมาเพื่อแชร์ให้แต่ละคนฟัง ผ่านมาหมด เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนอื่นต่อไป

ขอเริ่มจากสิ่งที่ยากที่สุด ที่เงินซื้อไม่ได้ก่อน

 

การเปลี่ยนโครงร่างต้องเข้าใจจุดนี้ก่อน ว่าหัวใจในการเปลี่ยนโครงร่างไปตลอด

คือ“กล้ามเนื้อ” และ “ไขมัน” กล้ามเนื้อจะได้มาได้

ก็ต้องฝึกออกกำลังกายให้บ่อย

ในที่นี่จะให้ทุกคนอ่านเรื่อง การทำความรู้จักกับเซลล์ไขมันก่อน

เพราะ เราจะเปลี่ยนโครงร่างได้ เซลล์ไขมันเราต้องตายถาวร

เพราะ วิธีนี้ ออกกำลังกาย และการเผาผลาญปกติให้ไม่ได้

CLICK

จำเป็นต้องอ่านมากค่ะ 

 

 

การเปลี่ยนรูปร่างของมนุษย์(ผู้หญิง)ทำได้ 3 ประเภท

วิธีที่ไม่เจ็บตัว ไม่เสียเงิน

1. การออกกำลังกาย + การควบคุมทานอาหารที่มีประโยชน์

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : ทุกรูปร่างให้มีความกระชับ รูปร่างสมส่วน สุขภาพแข็งแรงเข้ารูป / รูปร่างทรงกล้วย ทรงตรง สำหรับคนผอมบาง ดูไม่ค่อยมีสัดส่วน โค้งเว้ารูปร่างนี้อาจใช้วิธียกเวท ทานโปรตีน เพิ่มกล้ามเนื้อให้ดูใหญ่ มีสัดส่วน มีกล้ามแขน กล้ามขา เล็กน้อย และ มีกล้ามท้องที่สวยงาม

การออกกำลังกายแม้จะเป็นการออกกำลังกายแบบเน้นอัตราการเต้นของหัวใจ [ CARDIO ] / การยกเวท เพื่อสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน / การออกกำลังกายเฉพาะท่า เพื่อลดความอ้วนเฉพาะส่วน ทั้งหมดที่กล่าวไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือ การเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใย ขับถ่ายง่าย จะช่วยคงรูปร่างของเราจากการใช้เทคโนโลยีตัวอื่นๆมาเปลี่ยนโครงร่าง โดยการทำลายเซลล์ไขมันไป ให้เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น เป็นวิธีที่ต้องทำ 

ข้อดี : ช่วยคงสภาพโครงร่างจากวิธีอื่นได้ดีมาก / สำหรับหุ่นทรงกล้วย จะทำให้เปลี่ยนโครงร่างได้อย่างชัดเจน / สุขภาพดี / ร่างกายแข็งแรง / เห็นผลเร็วสุดชัดเจน 1 เดือนถ้าทำต่อเนื่อง + คุมอาหาร / ไม่มีแผล

ข้อเสีย : เซลล์ไขมันไม่ตายไปแค่เล็กลง หากไม่ออกกำลังกาย ไม่เลือกทานอย่างดี ก็กลับมามีโครงร่างเดิมได้ / ไม่ได้เปลี่ยนโครงร่างเรา น้ำหนักลดหรือเพิ่มโครงร่างเหมือนเดิม เช่น ถ้าขาใหญ่ น้ำหนักลงก็ใหญ่น้อยลง อาจใช้ลดแบบเฉพาะจุดไม่ได้ ยกเว้นคนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ ให้ดูมีสัดส่วนมากขึ้น แต่ วิธีนี้ ต้องอดทน ดูแลทำตลอดชีวิต

 

วิธีที่เจ็บตัวและมีแผล

1 . ดูดไขมัน

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : สาวทรงลูกแพร สาวทรงแอปเปิ้ล สาวทรงนาฬิกาทราย / ลูกแพรอาจเอาเฉพาะขากับสะโพกออก , แอปเปิ้ล อาจเอาต้นแขนออก แล้วใส่เซลล์ไขมันบริสุทธิ์ตัวเองกลับไปที่สะโพก

หากจะให้พูดถึงวิธีที่HOT HITที่สุด และ เห็นผลชัดเจนที่สุด สามารถทำได้ทั้งกับคนอ้วน และ คนมีส่วนเกิน แน่นอนคงหนีไม่พ้น การดูดไขมันส่วนเกิน ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญ และการใช้เทคโนโลยีมีเทคโนลีมากมาย แต่ลักษณะคล้ายกันคือจะใช้อุปกรณ์มรามีปลายด้ามเป็นเข็มยาวขนาด 1 ฟุตกว่า เจาะลงไปตามจุดที่มีเซลล์ไขมันรวมตัวอยู่ แล้วใช้ปลายเข็มกระทุ้งเซลล์ไขมันเพื่อดูดออกมาอย่างรวดเร็ว การดูดไขมันนอกจากเซลล์ไขมันที่ออกมาก็จะมีทั้งน้ำในร่างกาย เลือด น้ำเหลือง ปนออกมาด้วย บางเทคโนโลยี สามารถแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์ออกมาได้ และ บางครั้งอาจมีการฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย เพื่อเติมเต็มส่วนที่เป็นริ้วรอย หรือ อวัยวะบางอย่างให้เต่งตึง เช่น เสริมจมูก เสริมหน้าอก เติมเต็มร่องแก้ม ร่องใต้ตา ทำให้โอกาสแพ้มีน้อยมากเนื่องจากเป็นไขมันในร่างกายตัวเอง

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายถาวร ทำในคนไม่อ้วนแต่มีส่วนเกิน หรือ อวบ จนกระทั่งอ้วนได้หมด / ทำครั้งเดียวเห็นผลชัดเจนมาก / เซลล์ไขมันตายไม่กลับมาอีก / สามารถนำมาฉีดกลับเข้าไปในร่างกายได้

ข้อเสีย :  ผิวหนังช้ำเห็นได้ชัดเจนเป็นเดือน / เจ็บมาก / มีแผลเป็น บางคนอาจเป็นคียลอยด์ แต่มีขนาดไม่ใหญ่มากประมาณหัวเข็มยักษ์ที่แทงลงไปที่ผิว / ต้องทำโดยคนที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญสูงมาก / รอผลเข้าที่ประมาณ 3 เดือน

[ ภาพการดูดไขมันที่ รพ วิชัยเวช ฯลฯ หนองแขม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 20 กว่าปีจากสวิตเซอร์แลนด์ เอิ๊กเข้าไปดูด้วย] 

 2. ศัลยกรรม การศัลยกรรมเพื่อประเปลี่ยนรูปร่างอวัยวะให้มีขนาดเล็กลง เช่น กระเพาะอาหาร หรือ เสริมให้ส่วนที่แบนราบมีส่วนนูน โค้ง มีมิติ เช่น ซิลิโคน เสริมสะโพก หน้าอก ซึ่งตอนนี้ ทั้งหญิง และ ชายก็เสริมได้ ให้ดูมีสัดส่วนที่น่ามองมากขึ้น

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : แอปเปิ้ล เช่น ซิลิโคนเสริมสะโพกให้ดูสมส่วนกับหน้าอกที่มีเยอะ / ลูกแพร เสริมนม เพื่อให้ดูสมส่วนกับสะโพกที่มีเยอะ ทั้งสองรูปแบบจะกลายเป็นหุ่นนาฬิกาทรายได้

ข้อดี : เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ / เสริมสร้างความมั่นใจ / ปรับเปลี่ยนโครงรูปร่างแบบลงทุนในระยะยาว

ข้อเสีย : เป็นการผ่าตัดที่อาจจะเกิดแผลและบางทีเห็นได้ชัด สำหรับบางกรณี ก็ต้องรักษาแผลเป็นกันไป / มีการดมยาสลบ บางคนอาจแพ้ได้ / ต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงมาก เพราะในร่างกายมีเส้นประสาท และ อวัยวะน้อยใยที่สำคัญ / อาจต้องรับกับผลข้างเคียงบางอย่างที่อาจเกิดขึ้น / อุปกรณ์ทุกชิ้นที่เสิรมลงไป ไม่รับประกันว่าจะอยู่ตราบชั่วชีวิต อาจต้องมีการเอาออก หรือ ปรับเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา ณ จุดนึง

[ ผู้ชายก็อยากจะมีเนินหน้าอก เท่ห์ไหมละ ]

[ สาวอกเล็ก เลิกกังวลได้ ซิลิโคน และ น้ำเกลือ และ คุณหมอพร้อมช่วยคุณเสมอ ]

วิธีที่เจ็บน้อยแต่ไม่มีแผล

1 เทคโนโลยีที่ใช้ความร้อนแบบ ULTRASOUND

ลงลึกชั้นไขมัน ใช้เทคโนโลยี HIGH INTENSITY FOCUS ULTRASOUND เป็นความร้อนยิงปล่อยลงไปในลักษณะสามเหลี่ยมเพื่อไปฆ่าเซลล์ไขมัน ต้องเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมด้วย และ บริเวณที่ยิงจะถูกทำลายด้วยความร้อน นั่นคือเหตุผลทำไมคนที่คิดจะทำวิธีนี้ต้องเป็นคนที่มีชั้นไขมันที่หนามากเพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อ หรือ อวัยวะภายใน เหมาะกับ รูปร่างอ้วน มีน้ำหนัก มีไขมันเยอะ และ มีพื้นที่ที่มีชั้นไขมันหนาใหญ่ วิธีสังเกตุบีบเนื้อบริเวณที่จะทำแล้วเจอชั้นไขมันหนาประมาณ 1 นิ้วขึ้น ไปงั้นอาจทำให้มีผลกระทบต่อระบบอวัยวะภายในซึ่งอาจบาดเจ็บได้

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : สาวลูกแพรอาจเอาเฉพาะขากับสะโพกออก , สาวแอปเปิ้ล อาจเอาต้นแขนออก , สาวกล้วยอาจจะเอาช่วงไขมันเอวออก

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายจริงและไม่กลับมาอีก /แพงมากมาก / ดูดไขมันพื้นที่ใหญ่ๆได้ดี / ไม่ต้องทำหลายครั้งมาก

ข้อเสีย : ดูดไขมันส่วนเกินบริเวณพื้นที่เล็กๆไม่ได้ / เจ็บมาก / ถ้าชั้นไขมันไม่หนาพอ อาจทำให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อระบบอวัยวะภายใจ / ถ้าปรับพลังงานมากก็อาจไหม้ผิวได้ / รอประมาณ3 เดือนจะเห็นผลการจัดเรียงตัวของชั้นไขมันใหม่

2 เทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นที่จุดเยือกแข็ง แช่ และ ฆ่าเซลล์ไขมันไป

เทคโนโลยีที่ไม่จำเป็นต้องมีไขมันเยอะก็ทำได้ คนที่ เหมาะกับ คนที่มีไขมันส่วนเกิน และ คนที่ไม่อ้วนมาก (อวบ) หรือคนผอมที่มีความต้องการทำลายเซลล์ไขมันในบริเวณที่เป็นส่วนเกินออก ตามแนวเสื้อชั้นใน ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง

เหมาะสำหรับเปลี่ยนโครงร่าง : ลูกแพร ลดต้นขน สะโพก พุง / แอปเปิ้ล ลดต้นแขน / กล้วย ลดเอวทั้งสองข้าง

ข้อดี : เซลล์ไขมันตายจริงและไม่กลับมาอีก / มีงานวิจัยรองรับ ผลลัพธ์ /คนตัวเล็กแต่มีส่วนเกินที่การออกกำลังกายเอาออกไม่ได้แต่วิธีนี้ใช้การได้

ข้อเสีย : แพงมาก / ต้องทำหลายครั้งเพราะหัวดูด [CYCLE] พื้นที่เล็ก / แต่ละครั้งค่อยๆลดลงประมาณ 20-25% / ใช้ได้แต่คนที่ผอมแต่มีส่วนเกิน หรือ อวบไม่มาก ใช้กับคนอ้วน เนื้อเยอะ ไขมันเยอะมากไม่ได้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่เอิ๊กเอามาฝากกัน เอิ๊กเป็นสาวทรงลูกแพรบนเล็กร่างใหญ่

เป็นคนอวบง่ายลงพุง ลงก้น ลงต้นขาก่อน หุ่นจะแบบดูเด็กๆ พุงโตๆ ขาป้อมๆ ฮ่าๆ

ทั้งหมดลองมา 3 ประเภทครบที่เหมาะกับตัวเอง ทั้งไม่เจ็บ เจ็บ และ เจ็บน้อย

ตอนนี้ที่อยากเอาออกเพิ่มอีก คือ พุง ก้น ต้นขา หุ่นถึงจะใกล้เคียงเปลี่ยนโครงร่างไปเลย

และ คงสภาพด้วยการออกกำลังกาย จึงเขียนมาฝากกัน

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤

วันนี้ก็จะมา REVIEW การเปลี่ยนโครงร่างด้วยวิธีที่เจ็บน้อยแต่ไม่มีแผลกันก่อน

คือ การฆ่าไขมันด้วยความเย็น

ออกกำลังกายต้นเดือนหน้า และ ศัลยกรรม เดือนนี้ละ 555555555 สรุปก็ยังห่างไกล

จากนาฬิกาทรายสำหรับช่วงสะโพกอยู่ 2.5 นิ้ว เอิ๊กก็จะมีโครงร่างที่เปลี่ยนไปจากกำเนิด

แรงบันดาลใจให้อยู่ก็คิดเรื่องบทความนี้ ต่อยอดจากบทสัมภาษณ์ และ งานวิจัย

ของอาจารย์พี่ที่เคารพรักของเอิ๊ก ซึ่งเอิ๊กเอามารวมกับประสบการณ์ด้านออกกำลังกาย

และ ศัลยกรรมของตัวเอง วิธีที่อาจารย์พี่ไม่ชอบ 55555 แต่ก็นำมาเป็นส่วมผสมที่ลงตัว

เกิดบทความ TRANSFORMER รูปร่างตั้งแต่ต้นกำเนิดขึ้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

เอิ๊กอยู่กับเธอมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา เราเจอกันเฉลี่ยเดือนละครั้ง เธอมีพฤติกรรม

ทานขมมหวานเก่งมาก ชอบชีส ชอคโกแลต อะไรที่อวบอาจารย์พี่เอิ๊กจะทานเก่งมาก

แต่ด้วยความที่เป็นอาจารย์แพทย์ผิวหนัง รวมถึง INTERNATIONAL SPEAKER

ระดับประเทศ เดินทางไปแลกเปลี่ยน และ ให้ความรู้ นวัตกรรมผิวหนังให้กับต่างชาติบ่อยมาก

ซึ่งจะเห็นว่า เธอไม่ชอบออกกำลังกาย แต่ทำงาน 1-6 วัน อีกวันก็เป็นวันเที่ยวเพื่อครอบครัว

นอนน้อยมาก เคยนอนด้วยกันตอนทริปดูงานผิวหนังแบรนด์นึง เอิ๊กพบว่าแกให้ความสำคัญ

กับทุกสิ่งรอบตัว อาจจะเป็นเหตุให้ผอมลงรึเปล่าไม่รู้ แต่นน.จากเกือบ 60 ตอนนี้

เธอน้ำหนักเท่าเอิ๊กหรืออาจจะน้อยกว่าเอิ๊กในเร็วๆนี้ ก็แอบถามตลอดทำอะไรๆ

เธอก็จะบอกลองเครื่องนู่น นี่ เพื่อทำงานวิจัย แต่เท่าที่เห็นมาปีกว่า เธอเล่นกับเครื่องนี้

ZELTIQ COOL SCULPTING ซึ่งเอิ๊กลองตามแกบอกตรงๆ ก็พบว่าลด แต่ลดทีละน้อย

เพราะเหมาะกับคนตัวเล็ก อวบ แต่มีส่วนเกิน คนอ้วนไม่เหมาะ

วิธีการทำงานอย่างละเอียด ของเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น

 

 

คุณหมอรังสิมาเป็นคนทำวิจัยเรื่องนี้เองหลังจากทดสอบผ่านมา 1 ปี และ มีหัว CYCLE

สำหรับดูดต้นแขน ต้นขา เพิ่ม อดีตมีแค่หน้าท้อง เอว เนื้อใต้เสื้อใน บริเวณกว้างๆ

 ขนาดทำอยู่คุณหมอก็สอนตลอด จนเกิดบทความอันนี้ขึ้น เพราะเราสงสัยกัน

ว่าปรับสรีระโครงร่างได้ตลอดไปไหมก็เลยมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ฮี่ๆ

ที่ ISKYCENTER ได้รับหัวที่ใช้กับ แขน ขา เป็นที่แรกในประเทศ เพราะคุณหมอเป็น

KEY OPINION LEADER

ในวงการผิวหนัง เอิ๊กเลยโชคดีไปด้วยที่จะได้เรียนรู้เทคโนโลยีนี้ก่อนใคร และทดสอบกับ

ตัวเอง 6 CYCLE หรือ 6 จุดแล้ว หน้าท้อง 2 ต้นขาด้านใน 2 ครั้ง เอิ๊กเห็นความเปลี่ยนแปลง

ของตัวเองที่ไม่ใช่จากงานวิจัยคุณหมอ เลยต้อง REVIEW ก่อน

หัวนี้แกถือ แล้วบอก “พี่ได้คนแรกเลย เพราะใช้เยอะสุด นี่ออกงานวิจัยแล้วด้วย”

เอิ๊กภูมิใจกับแกมาก เอิ๊กอยากมีวินัย ขยัน เหมือนแก ที่ทำบนพื้นฐานความปลอดภัย 

และต้องพิสูจน์ด้วยผลลัพธ์ได้ แกจึงถ่ายทอดออกมาในทางที่ถนัดคุณหมอชอบทำวิจัยมาก

แกเป็นคนสร้างการประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวเอง 🙂

รางวัลล่าสุด ขออวดหน่อย (ไม่ใช่ของตัวเอง) อิอิ แต่ภูมิใจกับความสำเร็จของคนที่เรารัก

ดังนั้นไม่แปลก ถ้าเอิ๊กจะบอกว่าเอิ๊กรักพี่เขามากที่สุด เขาเป็นผู้หญิงคนนึงที่มีอิทธิพลในชีวิตเอิ๊ก

มีอีกหลายเรื่องที่ไม่อาจเล่าได้ พี่เขาเป็นผู้มีพระคุณในชีวิตเอิ๊ก อาจารย์ใคร ใครก็รัก

อย่างน้อยเขาทำให้เอิ๊กหมดกังวลเรื่องที่ใหญ่อีกหนึ่งเรื่อง คือ เกี่ยวกับผิวหนังบนหน้า

เอิ๊กแทบจะดูแล คิด และ เลือกใช้ สกินแคร์จนมีผิวที่มีสุขภาพดี มานั่งเขียนถ่ายทอดความรู้

ผิวหนังบอกเลยว่าเพราะคุณหมอทุกคนใน ISKYCENTER สำหรับความรู้ทุกอย่าง 

เอิ๊กอาจไม่ได้ลองเป็นคนแรกในไทย แต่เอิ๊กดีใจที่เป็นส่วนหนึ่ง เอิ๊กทำสองครั้งต้นขาบนล่าง

ที่เคยทำความแตกต่างหลังทำเสร็จของพุงกับขา ต้องนวดๆๆจะได้ผลดี

 อ่านขั้นตอนละเอียดที่นี่

 

งานวิจัยคุณหมอ คนไข้เป็นคนไทย ทำ 1 ครั้งที่ต้นแขน

ทำหนึ่งครั้งต้นขาด้านใน รอผล 3 เดือน น้ำหนักเท่าเดิม สัดส่วนขาลง และ ดูเรียบขึ้น

ทำหนึ่งครั้งต้นขาด้านใน รอผล 3 เดือน น้ำหนักเท่าเดิม สัดส่วนขาลง และ ดูเรียบขึ้น

เอาละคราวนี้มาชมของเอิ๊กบ้าง 555555 น้ำหนักขึ้นปกติขาจะไม่มีช่องว่างตรงกลางเลย

โครงร่างขาเปลี่ยนเลย จนตอนนี้ อยากบอกว่าสะโพกความหวังอยู่ที่ ZELTIQ อ๊าคคคคคค

น้ำหนักขึ้นด้านข้างออก แต่ต้นขาด้านใน ดูหดกว่าเดิมด้วย 

ข้อด้อยที่เห็นอีกอย่าง มันเป็นการเอาไขมันออก เป็น SHAPE รูปหัว CYCLE

ที่ใช้ดูดเลย 555 ชัดมาก ต้องทำอีกให้เรียบเท่ากัน

 

และดูอาจารย์พี่สาวสุดที่รักของข้าพเจ้าลองคนเดียว

ทั้งต้นขาด้านใน ด้านนอก ด้านหลัง ด้านข้าง ท้องอีก 3 รอบ

ตอนนี้ท้องที่เคยห้อยตอนมีน้อง เรียบแปลื แกเป็นคนหุ่นลูกแพร

หน้าอกเล็ก ขาใหญ่มาก แล้วดูตอนนี้สิ WHAT!! พี่ทิ้งหนูไปแล้วค่ะ รอบเอวเล็กกว่าเอิ๊ก

ขาพอกันแล้ว น้ำหนักเท่ากันแล้ว แต่พี่สูงกว่าหนู

สรุปจะทำต่อแน่นอนกับ ZELTIQ แต่เอิ๊กจะทำขา และ สะโพก และ พุง ค่อยเป็นค่อยไป

เพราะครั้งนึงใช้เวลานานมาก จุดละ 1 ชม หมายความว่าขาต้องมี 2 ชม ถึงทำครบ

คิดว่าแพงมากจุดละ 30,000 บาท ขึ้นกับโปรโมชั่นด้วย จะถูกมาก 10000 กว่าบาท

ดังนั้น ควรออกกำลังกาย คุมอาหาร

โครงรูปร่างคุณจะเปลี่ยนไปตลอดชีวิต สำหรับคนมีส่วนเกินตั้งแต่หน้าท้อง

ต้นแขน ต้นขา ใครจะดูดนมก็ได้นะ ถ้านมใหญ่ 5555555

หรือ ยกเว้นใครจะทำตัวแบบคุณหมอทำงานทุกวั

กินขนมหวานบ่อย อารมณ์ดีเยอะๆ ก็ผอม แต่ตอนนี้แนะนำให้แกออกกำลังกายอยู่

คนที่เรารักเราก็อยากให้อยู่กับเรานานๆ

ขอบพระคุณ ISKYCENTER และ คุณหมอเพ็ญ อาจารย์พี่สุดที่รักสำหรับข้อมูลฮะ

ฝากเพจด้วยฮะ งานนี้ไม่มีค่าจ้าง ไม่ต้องคิดว่าอวย แต่เห็นว่ามีประโยชน์

อยากเขียน และ มันเกิดขึ้นจริงเลยมาเล่าสู่กันฟังฮะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่รูปภาพ

www.iskycenter.com

http://tengroupblog.blogspot.com/2013/03/swimwear-body-shape-guide.html

ที่มาข้อมูล

– สัมภาษณ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– ประสบการณ์ตรงของตัวเองล้วนๆ

 

Posted in HOW TOComments (0)

สอนใช้ BB CREAM ทาผิวให้ขาวแบบเร่งด่วน + HOW TO แต่งหน้าไปงานกลางคืน

Posted in HOW TO, REVIEWComments (2)

BEAUTY TALK – ทาครีมให้ได้ผลในวันนั้นของเดือน

 

 

 

ทำไมช่วงนี้ผิวดี ทำไมช่วงนี้ผิวแย่ เพราะอะไรกัน ทุกอย่างก็ใช้เหมือนเดิม

ทำไมเคยใช้ครีมตัวนี้แล้วไม่แพ้ ทำไมตอนนี้แพ้ เกิดอะไรขึ้น

สาวๆหลายคนคงเคยเกิดปัญหานี้ ” รู้ไหมว่าวงจรการมาของประจำเดือนมีผลกับผิวของเรา “

สาวๆหลายคนอาจไม่ทราบความจริงข้อนี้ ทำให้ทุกเดือนก็มีทั้งช่วงนี้มั่นใจ และไม่มั่น

ในสุขภาพผิวของตัวเอง วันนี้เราจะมาเรียนรู้เพื่อที่จะดูแลสุขภาพผิวตัวเองกัน

 


 

เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เชื่อไหมว่าเอิ๊กไม่เคยรู้เลย ผิวช่วงมีประจำเดือนอ่อนแอ

จนกระทั่งวันนึงมีโอกาสไปแว๊กซ์คิ้ว ผิวบริเวณนั้นเกิดตุ่มหนองขึ้นเล็กๆ

แสดงอาการระคายเคือง สรุปพี่ที่ร้านโทรมาบอกว่าเหตุที่เป็นแบบนี้

เพราะเป็นช่วงก่อนมีประจำเดือน ตอนแรกนึกว่าแค่อาการ อารมณ์ที่ทำให้ผิวเปลี่ยน

สรุปฮอร์โมนด้วยเหรอเนี่ย ? 

มารู้จักฮอร์โมนเพศหญิง สำคัญ 2 ตัวกันก่อน

ที่มีผลต่อร่างกาย และ ผิวของเราในแต่ละเดือน

 
ฮอร์โมนหลักสองตัวนี้สำหรับผู้หญิงคอยเนรมิตผิวเราให้สุขภาพดี หรือ อ่อนแอ
สลับไปมาแต่ละเดือน เลือกไม่ได้ด้วยว่าให้สุขภาพดีตลอดไป แต่อย่างน้อย
เราก็จะได้หันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น บางคนเรียน ทำงานทุกวัน จนไม่มีเวลา
ดูแลตัวเอง ทั้งอาหาร สุขภาพร่างกาย รูปลักษณ์ ถ้าต้องการให้ชีวิตสดใสซาบซ่า
โปรดอย่ามองผ่านไป .. ก่อนที่มันจะสาย 🙂
เอสโตรเจน  = กลุ่มฮอร์โมนที่สร้างลักษณะทางเพศของผู้หญิงเสริมสร้างเซลล์ให้เจริญเติบโต ทำให้ไข่ในรังไข่เจริญเติบโต  เสริมสร้างเยื่อบุมดลูกให้หนาขึ้นด้วย  รักษาสภาพผนังช่องคลอด ซ่อมแซมระบบสืบพันธุ์ ควบคุมเมือกในช่องคลอดเพื่อป้องกันการอักเสบ  ป้องกันไม่ให้กระดูกผุ  ลดคอเลสเตอรอล ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ความจำดี เป็นส่วนหนึ่งของ มีผลต่อการลดน้ำหนัก และ การเผาผลาญ รวมถึง ช่วยสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ ฯลฯ
โปรเจสเตอโรน = เตรียมร่างกายให้พร้อมในการตั้งครรภ์แล้ว เตรียมมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัว  ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์โปรเจสเตอโรนก็จะค่อยๆลดปริมาณลง   ช่วยทำให้กล้ามเนื้อมดลูกคลายตัว  เพื่อป้องกันการตกไข่  กระตุ้นการเจริญของเซลล์หลั่งน้ำนมในหน้าอก ต้านความเสื่อมและความแก่ ฯลฯ

 

https://il.mahidol.ac.th/e-media/hormone/chapter5/estrogen_progeterone.htm

ระดับฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเดือนส่งผลให้อารมณ์ผู้หญิงเปลี่ยนแปลง  

เช่น  ช่วงตกไข่จะมีพละกำลังมากกว่าปกติ และ อารมณ์เซ็กซี่มากขึ้น

บางคนอาจจะบอกว่าโอยยยยยยประจำเดือนมาแต่ละที เบื่อ ทำไมผู้ชาย

ไม่เป็นบ้าง ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ ลองดูว่าถ้าฮอร์โมนทั้งหลายแหล่พวกนี้

หมดไปหมายความว่า

เมื่อระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในช่วงเข้าสู่วัยทอง 

อาการที่มักเกิดคือรู้สึกร้อนวูบวาบ  เหงื่อออกตอนกลางคืน 

หรือหนาวสั่น ตื่นบ่อยๆ ความชื้นในช่องคลอดลดลงทำให้ติดเชื้อง่าย

หมดความสนใจเรื่องเพศสัมพันธ์  อารมณ์แปรปรวน  ปัสสาวะเล็ด

หน้าอกหย่อนยาน  ผิวหนังแห้ง 

ภาวะความผิดปกติเหล่านี้จะเกิดแตกต่างกันไปในผู้หญิงแต่ละคน

งั้นปล่อยมันมาเถอะค่ะ ฮ่าๆ 

วงจรของประจำเดือนที่ต้องทราบ

  • ในช่วงวันที่ 1-14 ของเดือน  ช่วงหลังหมดประจำเดือนและระหว่างเตรียมการตกไข่ จะมีการสร้างและการเจริญของไข่จนสุกเต็มที่ช่วงนี้ฮอร์โมน estrogen จะมีปริมาณสูง เพื่อควบคุมการสร้างไข่และการเจริญของไข่
  • ในช่วงวันที่ 14-28 ของเดือน ช่วงหลังตกไข่จนถึงก่อนมีประจำเดือนรอบใหม่ ฮอร์โมน progesterone จะมีปริมาณสูงขึ้น ก่อนวันที่มีการตกไข่จะควบคุมการหนาตัวของเยื่อบุมดลูกเพื่อรองรับไข่ที่ถูกผสม แต่ถ้าไข่ไม่ได้ถูกผสมระดับ progesterone จะลดระดับต่ำลง เยื่อบุมดลูกที่หนาตัวก็จะสลายตัวไปเป็นประจำเดือน
ผิวสุขภาพดี vs ผิวสุขภาพแย่ ฉันจะดูแลยังไง ?
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ต้องลุ้นระทึกเพราะมันเกิดขึ้นทุกเดือน สำหรับสาวๆในวัยประจำเดือนทุกคน [ เอิ๊กเพิ่งทราบเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองว่าเกี่ยวก็ว่าอยู่ว่าดูแลดีแล้วนะ ทำไมผิวแย่ได้ไงอะ เสียชื่อหมด เพิ่งถึงบางอ้อ ธรรมชาติของหญิงสาวเป็นแบบนี้สินะ ] เอาละมาทราบกันว่าในแต่ละเดือนเราจะเจอกับปัญหาผิวแบบไหนบ้าง ทั้งช่วงที่ผิวสุขภาพดีขีดสุด กับ ผิวสุขภาพแย่ขั้นสุด
ช่วงผิวสุขภาพดี ESTROGEN สูง
เป็นช่วงที่หมดประจำเดือน และ ร่างกายกำลังเตรียมการตกไข่ครั้งใหม่ ประมาณ 9-20 วัน
  • ช่วงที่ผิวแข็งแรงที่สุด ทุกคนปลาบปลื้ม ปรบมือ
  • ผิวสวยงาม เปล่งปลั่ง สิวเกิดได้ยาก หรือ ขึ้นน้อย
  • ทำให้ผิวของเรานั้นเปิดรับสารบำรุงทุกอย่างโดยซึมซับรวดเร็วและง่ายดาย 
  • หากอยากทดลองผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆ อัญเชิญช่วงนี้ เพราะผิวช่วงนี้จะแข็งแรงและสุขภาพดีที่สุด
  • ช่วงนี้การใช้Whiteningจะเห็นผลดีที่สุดเพื่อผิวกระจ่างใส
  • อาจจะมีการใช้สครับผิว 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ เพื่อผลัดเซลล์ผิว และ ลดการอุดตันรูขุมขนรอก่อนที่จะถึงช่วงผิวจะอ่อนแอได้เลย
  • คนผิวมันเวลาเกิดสิวตอนช่วงมีประจำเดือนอาจจะชอบขึ้นที่เดิม ควรมีการเตรียมผิวล่วงหน้าซัก 3-7 วัน ก่อนผิวอ่อนแอ โดยมองหาตัวยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเชื้อสิว P.ACNE และ ตัวยาลดการอักเสบของผิว เช่น ตัวยาตระกูล BP , ยาแต้มสิว แต้มบริเวณที่คาดการณ์ว่าสิวจะขึ้นจุดเดิม จะช่วยลดการอุดตันของสิวลง และ ลดการเกิดสิวได้ในช่วงผิวอ่อนแอ ลดความมันของใบหน้ารอ
ช่วงผิวอ่อนแอ PROGESTERONE สูง
เป็นช่วงหลังตกไข่และกำลังจะเริ่มมีประจำเดือนครั้งใหม่ ประมาณ 14 วัน
  • ช่วงนั้นสุขภาพผิวอ่อนแอ อักเสบ ไม่แข็งแรง หรือ แย่ก็ว่าได้ สิวมาง่ายอีก
  • ภูมิต้านทานผิวช่วงนี้ลดลงต่ำ
  • เพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวจะมากเกินผิดปกติ (เกิดจาก Testosterone ที่เขยิบสูงขึ้นด้วยช่วงต้น)
  • รูขุมขนจะเล็กลงเล็กน้อย การอุดตันจึงเกิดง่ายมากขึ้นกว่าปกติ
  • สำหรับผิวแห้งอาจจะชอบเพราะผิวจะชุ่มชื่น มีน้ำมีนวล มีสิวอุดตันบ้าง สิวอักเสบบ้างเล็กน้อย แต่
  • สำหรับคนผิวมันจะเซ็งมาก หน้ามันมาก สิวมาง่ายมาก 
  • สิวอุดตันจะมารุม โอกาสเกิดสิวช่วงนี้ง่ายมาก 
  • บางคนเป็นสิวฮอร์โมนพอ PROGESTERONE สูงหน่อย สิวมาเลยรอบปาก คาง มาทีมาอักเสบ ระเบิด เป็นไตใต้ผิว หรือ 
  • บางคนสิวอักเสบมาพอเตือนให้รู้ว่า ประจำเดือนกำลังจะมานะ แต่อาจจะมาแค่ 1 เม็ด หรือมากกว่านั้น
  • ช่วงนี้เป็นช่วงผิวแย่ ผิวอ่อนแอ หรือ ผิวเหียก [ เหียก = มันแย่จริงๆ ] หน้าจะกร้านๆ ทาอะไรก็รู้สึกไม่ได้ผลดีเหมือนที่เคยเป็น
  • ช่วงนี้สิ่งที่ควรเน้นคือการทำความสะอาดหมดจดอย่างถนุถนอม และ พิถีพิถัน
  • ผิวหน้าจะไวแสงมาก กันแดด จัดให้หนัก อย่าให้ขาด
  • เมลานินสีเข้มเพิ่มปริมาณได้ง่าย ฝ้า กระ จะเห็นชัดขึ้น จะมาง่ายขึ้น อาจเลือกใช้Whiteningที่เหมาะสมสภาพผิวได้
  • จะลองอะไรใหม่ได้โปรดหยุด ผิวช่วงนี้จะแพ้ง่าย อักเสบง่าย เป็นสิวง่าย
  • คนผิวมันหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันกับผิว เพื่อไม่ให้อุดตัน และ เพิ่มความมันกับผิวมากขึ้น ฉลากระบุ OIL-FREE / ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ฉลากจะระบุ NON-COMEDOGENIC /ควบคุมความมัน ฉลากระบุ OIL-CONTROL 
  • คนผิวแห้ง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ฉลากอาจระบุ HYPO-ALLERGENIC , DERMATOLOGIST TESTED , FRAGRANCE FREE, ALCOHOL FREE
  • กรุณาแต่งหน้าบางๆ อย่าโบกหลายชั้น 
ช่วงผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื่น ESTROGEN & PROGESTERONE ต่ำทั้งคู่
เป็นช่วงประจำเดือน ประมาณ 3-7 วันน้อยหรือมากกว่านั้น
  • ผิวอ่อนแอสุดๆ หน้ากร้าน รูขุมขน ผิวเหียก หน้าหมองๆเหมือนโดนของ
  • เลิกความคิดจะลองผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ๆไปได้เลย
  • เน้นบำรุงผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่น และ ควรเป็นชุดเดิมที่เคยใช้ 
สภาพร่างกายทั้งตัวก่อนมีประจำเดือน และ ระหว่างมีประจำเดือน
ช่วงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน PROGESTERONE ที่สูงขึ้นก่อนมีประจำเดือนจะทำให้ร่างกายสะสมน้ำไว้ ทำให้ตัวบวม ตาบวม บางคนก็หน้าบวม [ ฝันร้ายที่เป็นจริงชัดๆ ] ร่างกายรู้สึกอึดอัด ผิวพรรณหมอง ไม่สดใส อิดโรย ปวดหลัง ปวดหน้าอก น้องสาวแฉะแบะ [ น้องสาว = อวัยวะเพศหญิงที่น่ารักของเรา ก็จะรู้สึกไม่สบายตัวเพราะการมาของประจำเดือน ] 
  • กรุณาลดอาหารจำพวก แป้ง น้ำตาล หรือ คาร์โบไฮเดรตที่ไม่ขัดขาว เพราะทำให้ผิวอักเสบ เซลล์เสื่อม สิวขึ้นง่าย
  • กรุณาควบคุมรสชาติอาหาร เผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน และ เค็ม อย่าให้มาก บอกเลิกรสจัดซักพักโดยเฉพาะเค็ม
  • ดื่มน้ำให้มาก 
  • อาการบวมน้ำ ออกกำลังกายเบาๆขับเหงื่อและของเสีย และอาจใช้ความเย็นประคบได้บ้าง เช่น บริเวณดวงตา 
  • เลิกเครียด เพราะยิ่งเครียด ฝ้าที่มีอาจจะชัดขึ้น สิวมากขึ้น ผิวกร้าน หมองได้อีก
  • ผิวเฉพาะจุด ผิวน้องสาวก็ควรทำความสะอาดให้ดี เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 ชม. เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี และ ไม่เกิดกลิ่น ไม่อับชื้นก่ออันก่อให้เกิดเชื้อรา เชื้อโรค แบคทีเรียอันไม่พึงประสงค์ และถ้าดูแลไม่ดี ผิวบริเวณนั้นก็เกิดอักเสบได้เหมือนกัน เช่น เป็นผื่น คัน รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาจจะพกผ้าเปียกติดกระเป๋าไปด้วยในระหว่างวันนั้นของเดือน
NOTE* ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary SyndromePCOS) ถือว่าเป็นความผิดปกติสำหรับระบบต่อมไร้ท่อหรือฮอร์โมนในร่างกาย เราอาจจะพบซีสต์หรือถุงน้ำหลายใบในรังไข่ เมื่อซีสต์หรือถุงน้ำเข้าไปเบียดรังไข่ส่งผลให้การทำงานของรังไข่ผิดปกติ เราอาจจะสังเกตุได้จากฮอร์โมน Testosterone ที่สูงกว่าปกติ (ปกติจะเขยิบสูงไม่มากและ อยู่ในปริมาณใกล้ๆกัน) สิวที่มาเยอะกว่าปกติ ขนที่เยอะ หน้าที่มัน ต้องสังเกตุตัวเอง ซึ่งอาจส่งผลให้ประจำเดือนมาผิดปกติด้วย

ทำไมสิวขึ้นที่เดิมตลอดสำหรับบางคนโดยเฉพาะคาง หรือ รอบปาก

เพราะการปกป้องของผิว และ การปรับค่า PH ของผิวคนเราให้มีสุขภาพดีนั้น กลไลนี้ผิวบริเวณคางมีประสิทธิภาพต่ำที่สุด และ ภูมิต้านทานผิวบริเวณคางก็ต่ำสุด รองลงมาคือ แก้ม และ หน้าผาก ตามลำดับ

 เตรียมข้อมูลแบบอัดแน่นเท่าที่ทำได้ มาให้เพื่อนๆได้เอาไปดูแลผิวตัวเองในวันนั้นของเดือน

หวังว่าคงสร้างความมั่นใจให้เพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อย และ ช่วยให้เข้าใจเรื่องฮอร์โมนมากขึ้น

ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างเหนียวแน่นตลอด บทความต่อไปจะเป็นอะไรรออ่านได้เลย

XOXO

Posted in HOW TOComments (2)

REVIEW – OCC LIPS TAR

OCC LIPS TAR มีสปอนเซอร์มาจากร้าน
fanpage http://www.facebook.com/BARRYMMAKEUP
IG : Debeauteshop1
wabsite www.Debeaute-shop.com
หลอดละ 650 บาท
ขอบพระคุณมากค๊าฟฟฟฟฟ
อยากเล่นมานานแล้ว อิอิ สมใจ
ข้อดี : สีมีให้เลือกมาก ผสมกันได้ เม็ดสีแน่นกลบสีปากมิด สีตามหลอดเลย หลอดนึงใช้นาน
ข้อด้อย : ใช้กับพู่กันทาจะดีกว่า บางสีตกร่อง และ บางทีทาเยอะเลอะฟัน
 
สีจะสะท้านทรวงแค่ไหน ไปชมกันเลยยยยยยย <3
[ขออภัยกับหนวดด้วย ขี้เกียจรีทัช 555]
 
INTERLACE : สีออกนู๊ดชมพู 😀
 
KAVA KAVA = ส้มนู๊ดดดดด
 
GRAND MA = สีเหมือนแตงโม แดงอมส้มอมชมพู
 
CHA CHA = สีส้มสดใส ส้มนีออน
 
BETA = สีส้มปรี๊ดดด ส้มกว่านี้ มีอีกไหม
 
FEMME = สีชมพูนม หวานจนหยดสุดท้าย
 
NARCISSUS = ชมพูบาร์บี้
 
ANIME = ชมพูบานเย็นสดใส
 
PRETTY BOY = ชมพูอมม่วง
 
STRUMPET = ชมพูอมแดง
 
HUSH = ชมพูนู๊ดดด
 
 
MERION = สีน้ำตาล น่าจะเหมาะกับผู้หญิงผิวสองสีมากๆ สีนี้
NSFW = สีแดงสด
 
VINTAGE = สีแดงเลือดนก
 
SYBIL = สีไวน์แดงเข้ม
XOXO
 
 
 

Posted in HOW TO, REVIEWComments (0)

How To เทคนิคแต่งตามืออาชีพสำหรับมือใหม่ รีวิวคลีนซิ่งออย by THREE

แบรนด์ให้ CLEANSING OIL มารีวิว พอใช้แล้วชอบมาก

แต่จะชวนล้างหน้าอีกกลัวหลายคนเบื่อ เลยสอบถามมีเทคนิคอะไรน่าสนใจอีกไหม

พบว่าแบรนด์ THREE มีเครื่องสำอางที่น่่าสนใจ น่าใช้หลายตัว แต่สำคัญ

คือ เทคนิคการแต่งตาที่ผลลัพธ์ดูมืออาชีพมาก ทำให้เข้าใจง่าย

เพื่อคนที่ฝึกหัดใหม่จะได้ลองแต่งกัน โดยเอิ๊กผูกเรื่องราวที่เค้าสอน

เค้าร่วมกันจินตนาการของเอิ๊ก แต่จะออกมาเป็นอะไร

เพื่อช่วยให้คนแต่งตาแต่งตามได้ง่ายขึ้น ลองไปดูกันค่ะ
XOXO

Posted in HOW TOComments (2)

HOW TO กันแดดเป๊ะเมคอัพเนียนแต่งหน้ารับสงกรานต์

ผิวดูอายุเยอะกว่าความจริงแบบกร้านๆ รอยสิวที่ชัดขึ้น

ฝ้า กระ สิวอักเสบ สิวผดที่มาเยี่ยมเยียน

หารู้ไหม ว่าบางทีอาจจะมาจากการที่ไม่ใช้กันแดด หรือ ใช้กันได้ไม่ถูกวิธี

วันนี้มีเกล็ดการใช้กันแดดมาฝากนะคะ เป็นห่วงอยากให้มีสุขภาพผิวดีกันทุกคน

และ นำเอาเมคอัพรับสงกรานต์กันน้ำได้มาฝากด้วยยยยยยยยยยยย

ไปดูกันเลยยยยยยยยยยยยยยยย

ขอบคุณ CUTE PRESS สำหรับกันแดดที่ส่งมาให้เล่นด้วยฮะ

Posted in HOW TO, MAKE UP, REVIEWComments (0)

REVIEW – DOVE NOURISHING OIL CARE

วันนี้มาอวดItemโปรดก่อนเอาไว้ดูแลผมฟูขาดร่วงง่ายของตัวเอง
ตอนนี้เอิ๊กเลิกทำสีผมโดยสนิท กลัวทำลายโปรตีนเส้นผม ส่งผมให้มีสุขภาพไม่ดี อ่อนแอ 

ตอนนี้คือนอกจากผมขาด ปลายเสียฟูจากการยืด ใช้วิธีพลาง
ด้วยการทำผมสีเข้ม ซึ่งได้ผลมากๆ อิอิ ต้องมาจับ หรือ ทำผมให้ถึงจะรู้ความจรืง
วันก่อนมีบลอคเกอร์ความงามหลายท่านถูกเชิญไปเช็คสภาพของเส้นผม
ว่าแห้งขาดน้ำหนักขนาดไหน เรียบลื่นขนาดไหน โดยเครื่องนี้ใครผมฟู แห้ง มันฟ้องแน่นอน

เอิ๊กไปแถวเซนทรัลลาดพร้าวเมื่อกลางเดือนที่แล้ว
แล้วความจริงก็ฟ้องต่อหน้าใครหลายคน
ปลายผมฟูลอยเลย เบาหว๋อง และได้ผลิตภัณฑ์จาก Dove กลับมาทดสอบ 14 วัน

เป็นสูตร DOVE NOURISHING OIL CARE

เซ็ทนี้ประกอบด้วย 5 ชิ้นคือ

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ครีมแชมพู
โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ คอนดิชันเนอร์
โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เดลี่ ทรีทเม้นท์ คอนดิชันเนอร์
โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก
โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เซรั่ม

ส่วนผสมหลักก็จะเป็นน้ำมันสกัดจากพืชต่างๆเช่น อัลมอนด์ออยล์ น้ำมันดอกทานตะวัน

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ครีมแชมพู

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ คอนดิชันเนอร์

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เดลี่ ทรีทเม้นท์ คอนดิชันเนอร์

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก

 

โดฟ นอริชชิ่ง ออยล์ แคร์ เซรั่ม

จะบอกว่าใช้แชมพู คอนดิชั่นเนอร์ผสมทรีทเมนท์ และเซรั่มตลอด 2ตัวแรกก็นุ่ม ลื่น เงาล่ะ

เพราะสูตรนี้ ชื่อบอกอยู่แล้ว อุดมไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาติมาเคลือบเส้นผมไว้ ดังนั้น

ผมจึงมีน้ำหนักลื่น เรียบ ไม่ฟูทันทีหลังใช้ ผมจึงดูมีสุขภาพดี และตัวเด่นสุดที่ไม่พูดไม่ได้

เดี๋ยวจะให้เพื่อนลอง เพราะเพื่อนผมฟูมากหน้าจะเห็นความต่างเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังอีกที

วันนี้ขอเจาะที่ตัวเซรั่มก่อน หลายคนอาจจะไม่ชอบน้ำมันใส่ผม เหมือน ซิลกี้แฮร์โคท

สมัยเด็กที่คุณแม่ใส่ให้ เซรั่มนี้ใช้เพียงนิดเดียว ผมก็จะถูกเคลือบให้หายฟู

เผื่อใครสนใจฉลากเลยแปะมาให้ เนื้อใสๆ หอมอ่อนๆสไตล์ที่ดมแล้วรู้ทันทีว่า DOVE ฮ่า ฮ่า

เนื้อใสๆเอิ๊กใช้ 3 – 4 หยดบนมือ แล้วลูบบนผม เว้นโคน 10-15 ซม เดี๋ยวด้านบนจะฟีบไป

เน้นปลายที่ฟูฟ่องเริ่งร่าลันล๊าพอ ~

กระจูกปลายผมที่มีปัญหาของเอิ๊กต้องคอยเล็มทิ้งอย่างเดียว และ พอฟูก็ลูบเซรั่มลงไปเงาเลย

เห็นได้ว่าแค่สระด้วยแชมพู ตามด้วยคอนดิชั่นเนอร์ กับ ทรีทเมนท์ ที่มาแบบ 2 in 1

ผมเอิ๊กก็เงานุ่มมากอยู่แล้วจัดเซรั่มตามด่วน มันก็ดูเงาขึ้นอีก สูตรนี้บอกได้เลย

ใครชอบความนุ่ม เรียบลื่น เงา ไม่ฟูคงต้องลองดู

มีหลายคนบอกว่าทรีทเมนท์ดีไว้รอบหน้าต้องขอจัดซักหน่อย

BEAUTY TIPS
ส่วนใครกลัวสิว คุณคิดถูกแล้วล่ะค่ะ พูดถึงทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทุกแบรนด์
ควรล้างน้ำเปล่าให้มั่นใจว่าสะอาดหมดจด สระผมก่อนแล้วค่อยถูสบู่
เพื่อจะได้มีผมสวยสุขภาพดีและไม่ก่อให้เกิดสิวบริเวณลำตัว อันนี้เป็นวิธีใช้ส่วนตัวของเอิ๊ก
เอิ๊กจะก้มหัวลงและสระผมแล้วล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วค่อยถูสบู่หรือว่าใช้เจลอาบน้ำล้าง
พวกยาสระผม ครีมนวดที่ตกคัางตามลำตัวให้สระอาด และเช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำทันที
วิธีนี้ป้องกันการเกิดสิวได้ดีสำหรับเอิ๊ก90%

 

ข้อดี เคลือบผมให้ดูเงา เรียบลื่น ดูมีน้ำหนัก ไม่ฟูทันที หาซื้อง่ายเว่อร์ ไม่แพง คุณภาพดี

ข้อด้อย เรื่องกลิ่นคงเป็นความชอบของแต่ละคน แนะนำไม่ให้สัมผัสที่หลังโดยตรง

สำหรับคนที่เป็นสิวที่ลำตัวง่าย


ปิดท้ายด้วยรูปเส้นผมที่ใช้ DOVE จะดูมีน้ำหนักแบบนี้
ขอบพระคุณแบรนด์โดฟที่ส่งมาให้ลองค่ะ

XOXO





Posted in HOW TO, REVIEWComments (0)

BEAUTY TALK – เทคนิคการฉีดโบทูลินูมทอกซินแนวกรามสำหรับคนที่ฉีดบ่อย

ISKYCENTER ขณะที่กำลังจัดการกับกล้ามเนื้อกรามที่เคี้ยวข้าวให้ฟีบลง

แก้มก็อาจจะไม่เกี่ยวเพราะเป็นไขมัน วันนี้ึคุณหมอรังสิมา อาจารย์แพทย์

และเป็นอาจารย์ของเอิ๊ก ก็ทำการฉีดโบทูลินูมทอกซินให้เหมือนเคย รอบนี้มากับความรู้ใหม่

” เวลาที่คนไข้ฉีดโบทูลินูมทอกซินบริเวณแนวกรามบ่อย

บางครั้งเราอาจจะคลำไม่เจอกล้ามเนื้อแนวกราม เพราะกรามเล็กลง “

เป็นการให้ความรู้ ที่คุณหมอได้บอกเอิ๊กไว้ว่ามันเป็นเทคนิคส่วนตัวของคุณหมอคือ

จะใช้นิ้วดันขอบกล้ามเนื้อกรามไว้ ดังภาพให้คนไข้กัดฟัน กล้ามเนื้อกรามจะแข็งขึ้นมานิดนึง

แล้วจึงทำการฉีดโบทูลินูมลงไป เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ได้ประสิทธิผลดี

เพราะการกดบางที ถ้ามีทั้งไขมัน และ กล้ามเนื้ออาจจะคลำพบได้ยาก

(คุณหมอว่าหนูรึเปล่าคะ 555555555555 หนูไขมันเยอะ)

จึงใช้นิ้วดันประคองไว้ขอบกระดูกไว้ เพราะกล้ามเนื้อมักจะยึดเกาะกับกระดูกเสมอ

จึงปลอดภัย ถูกตำแหน่งที่ต้องการ และไม่เกิดอันตราย หรือ ผลข้างเคียงเช่น ปากเบี้ยวตามมา

ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ

^______________^

Posted in BOTOX, HOW TOComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites