ลดแก้มด้วยวิธีที่ 3 – TRILIPO คลื่นความถี่วิทยุแบบ 3 ขั้ว

อยากให้แก้มลดลงแต่ไม่เคยคิดว่าจะมาลงเอยด้วยวิธีนี้

บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะได้ผลกับใบหน้า ทั้งที่มันมีหัวไว้ทำกับใบหน้าและดวงตา

TRILIPO คือ คลื่นวิทยุ RFที่มี 3 ขั้ว ไว้ปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อกระชับ

ช่วยกระชับสัดส่วนทั่วร่างให้ผลดีรองจากหัวเดียวซึ่งราคาก็ถูกกว่าหัวเดียวมาก

คลื่นวิทยุดังๆในเรื่องยกกระชับคือ THEMAGE แต่แพงกว่าเกือบยี่ิสิบเท่า

” หลักการทำงาน “ ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุเป็นความร้อนไปทำหน้าที่ออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก ไขมันเมื่อโดนความร้อน โดนกระชับเซลล์ในไขมันก็แตกตัว ทำให้น้ำในเซลล์ไขมันถูกขับออกมา ภายหลังเกิดการจัดเรียงตัวของไขมันใหม่ ก็จะกระชับขึ้น หลักการของมันมีประมาณนี้ ความร้อนของ RF ลงไปลึกมากถึงชั้นไขมัน ซึ่งเลเซอร์หลายตัวลงไปไม่ถึง ที่เป็นจุดเด่นคือไม่มีแผล ไม่เจ็บ แต่เห็นผลเหมือนกัน

หน้าที่มีทั้งหมด 3 อย่าง

  1. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อ
  2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  3. เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันเฉพาะส่วน

 

หน้าตาของ TRILIPO มีหลายขนาด ไว้ทำตัว ทำหน้า ทำตา ก็จะมีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ

หมอทำให้ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายนะคะ เอิ๊กก็ไม่ทำ เพราะอย่างที่บอกดูหน้าตาก็ไม่หน้าจะทำได้อันแค่เนี๊ยะลดแก้มได้ 555 (สมัยความรู้เรื่อง RF ยังไม่มี) จนพี่คนนึงเป็นลูกค้า มาชมให้ฟังว่าซื้อสองคอร์สแล้ว แต่เขาซื้อตอนโปร ทำได้ถูกมากเปรียบลด 50% ราคาตอนลดอยู่ที่ประมาณครั้งละ 1600 ทั่วใบหน้า คือแบบว่า ถูกกว่าฉีด LIPO MESO บลาบลาๆ ซึ่งเจ็บมากต่หลักการเดียวการ ต้องทำต่อเนื่อง หลายครั้งเหมือนกัน คือถ้าปล่อยให้อ้วนมันก็กลับมาใหม่ เขาพูดรอบแรกเราก็เฉย พี่เขาหล่อ หน้าเรียวเล็กอยู่แล้ว จนเห็นพี่สาวสุดที่รักทำ ตกใจนึกว่าศัลยกรรม 5555 หน้ามีแก้ม แฟบไปเลย แต่เขาทำต่อเนื่อง ส่วนเอิ๊กขอลองความรู้สึก และ อยากรู้ไขมันช่วงแก้มเราตอบสนองรึเปล่า เลยลองไป 1 ครั้ง

ทำที่ ISKYCENTER ที่เก่าเวลาใหม่ 555 ทำกับคุณนุชค่ะ เขาบอกว่าเก่งสุดแล้วสำหรับ TRILIPO

ขอโทษที่จำไม่ได้ว่ากี่นาทีเพราะหลับอะ 555 นอนกรนเก๋ๆ เขาจะทำความสะอาดใบหน้าให้เราด้วยคลีนซิ่งสำหรับผิวเรา (ของเอิ๊กแพ้ง่าย) แล้วมีเจลสองตัวให้เลือกคือ กลีเซอรีน กับ เจลก่อนลง IPL เอิ๊กใช้ตัวหลัง แต่ยังไงผิวเอิ๊กยังมีการระคายเคืองขึ้นหลังทำไม่ เจล ก็ คลีนซิ่ง หน้าเอิ๊กแพ้ง่ายจริงๆ บางทีจะบอกว่าไปทำอะไรที่ศูนย์ความงาน คลินิค หรือ เลเซอร์ ถ้าผิวแพ้ง่ายเตรียมอุปกรณ์ล้างหน้าไปเลย หรือไปเวิร์คช็อปแต่งหน้าที่ไหนก็ตามพกไป !!!! 

  • ทำความสะอาดใบหน้า ใต้ตา บริเวณที่จะทำ
  • ลงเจล IPL ให้เครื่องไหลลื่น และ ปล่อยพลังงานได้ไม่มีสะดุด
  • วนไปให้ทั่วใบหน้า
  • วนไปใต้ดวงตา ถ้าทำดวงตาด้วย
  • ซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่
รอผลลัพธ์ซัก 1 เดือน บางคนก็เห็นเลย  ของเอิ๊กเป็นแบบนี้ ….
ก่อนทำก็ไม่ได้ใหญ่แต่ช่วงข้างแก้มห้อย 5555 แก่แล้วก็แบบนี้แหละ ที่รู้สึกได้ ใต้ตาเรียบไปเลยเป็นอาทิตย์ก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ซ้ำ การทำซ้ำต้องเดือนละ 4 ครั้ง ซักระยะ ค่อยทิ้งช่วงเดือนละครั้งสองครั้งได้ นี่ทำครั้งเดียวคิดว่ามันเลยเห็นผลทันทีไม่ชัด
หลังทำ 1 เดือน อย่างที่เคยบอกเอิ๊กมีปัญหาเรื่องระบบหน้าบวมน้ำ วันดีคืนดี เช้าหน้าใหญ่ เย็นหน้าเล็ก เช้าเล็ก กลางวันอืด เย็นเล็ก คือถ้าทานโซเดียมเยอะมันขึ้นอืดทันที ดังนั้น ตอน1เดือนยังวัดไม่ได้ ความรู้สึกคือ ส่วนห้อยข้างแก้ม ดูไม่ห้อย แต่อืดนี่โซเดียมจัดช่วยไม่ได้ล๊า ~
1 เดือน 6 วัน วันนี้หน้าเรียวขึ้นนะ 5555 บอกแล้วแล้วแต่วัน แต่นอนตะแคงเลยย้อย
สรุปดูเอาเอง .. ไม่รีทัชรูปร่างนะคะ ขยายกันไปเลย
[ปล . ขอร้องโปรดอย่านำรูปไปทำอะไรในเชิงพาณิชย์ ขึ้นโรงพักบ่อยไปแจ้งความก่อนขึ้นศาลมันเหนื่อยจ๊ะที่รัก]
เอิ๊กว่ามันดูไข่มากขึ้น ความห้อยด้านข้างลดลง แต่หน้าดูเต็มๆมากกว่ารูปแรก สำหรับ 1 ครั้งทั้งที่ควรจะทำหลายครั้ง คุณหมอบอกให้มาซ้ำๆๆๆ 5555 ยังเลย ยังไม่มีเวลา เอิ๊กว่ามันเก็บที่ห้อยได้ดีนะ
วันนี้ทำงานหนักไม่ได้ทานข้าว หน้าหันข้างนี่แบบ ลืมหน้าเก่าไปเลย 😀 ปลื้มมมมลึ่ม แค่นี้ละพอล่ะ
เต็มตัวก่อนไปอีกซักรูป เพื่อให้ดูโดยรวมของใบหน้าค่ะ
สรุป สำหรับใบหน้าครั้งละ 4000 บาท / ครั้ง ซื้อเป็นคอร์สก็ถูกกว่าหน่อย ถ้าซื้อตอนโปรสบายตัวสุด แต่ยังไม่มีวี่แว่วจะกลับมา 55
ข้อเสีย ต้องทำบ่อยหลายครั้ง / ค่าใช้จ่ายสูง 4,000 บาท แต่ละครั้งไม่รวมดวงตา / ต้องเสียเวลา / ไขมันที่ออกไปแค่ทำให้เซลล์ไขมันเล็กลง ไม่ได้หายไป ถ้าอ้วนก็กลับมาใหม่ / ทำช่วงโบทูลินูมทอกซินไปแล้วไม่ได้ ความร้อนทำให้สลายไว
ข้อดี ไม่เจ็บ สบายที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น / ผ่าน FDA ทั้งไทยและเทศ / ลงลึกถึงชั้นไขมัน / บางคนเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก / คิดว่าถ้าทำต่อเนื่อง ไขมันฟีบแน่ๆ / ทำได้ทั้งตัว / ลดเฉพาะส่วนที่อยากลด
 
XOXO
ไว้คราวหน้าลองลดต้นขา 5555 บางวันบวม บางวันไม่บวม โอยร่างกายฉัน ยังไงกันเนี่ย
ปล. ดูเป็นแนวทาง อย่าถึงขนาดเดือดร้อนแล้วมาทำเลยนะคะ โดยเฉพาะน้องๆหนูๆ น๊า <3

Posted in BODY, CHEEKS, RADIO FREQUENCY, THERMAGEComments (3)

วิธีดูแลผมร่วงให้ร่วงน้อยลง / วิธีดูแลเส้นผมให้ถูกต้อง BEAUTY TIPS

ขอบพระคุณข้อมูลจาก ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

ขอบพระคุณข้อมูลจาก อีเวนท์ DAVINES ให้เราได้นำมาแชร์ต่อ

Posted in HAIRComments (0)

สิวฮอร์โมน รักษายังไง ?

” สิวฮอร์โมน เป็นเรื่องภายใน ไม่ใช่ภายนอก การรักษาจึงยากกว่าสิวประเภทอื่นๆมาก

* ทั้งกรรมวิธีที่เยอะ และ ที่สำคัญยาวนาน “

via @DrRungsima

สิวฮอร์โมนเกิดจาก

ภาวะไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ในที่นี่หมายถึง ” ฮอร์โมนเพศ “

เราทุกคนจะมีฮอร์โมนทั้งเพศชาย เพศหญิงอยู่ในร่างกาย และ มีสัดส่วนที่ต่างกันในคนแต่ละคน

เช่น เพศหญิง จะมีฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายเยอะกว่าสัดส่วนฮอร์โมนเพศชาย

       เพศชาย จะมีฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเยอะกว่าสัดส่วนฮอร์โมนเพศหญิง

การที่ผู้หญิงเกิดสิว อาจเพราะฮอร์โมนเพศชายในร่างกายของเพศหญิงมีสัดส่วนที่สูงกว่าปกติ

ทำให้เกิดลักษณะบางประการที่มีผลกระทบต่อผิวหนัง เช่น การที่เพศหญิงมีฮอร์โมนเพศชายในปริมาณสัดส่วนที่สูง ส่งผลให้

  • ผิวมัน
  • รูขุมขนกว้าง
  • ต่อมไขมันขนาดใหญ่
  • ก่อนเริ่มรักษาสิวฮอร์โมน

ต้องแน่ใจว่าเป็นสิวฮอร์โมนที่เกิดจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในร่างกาย เพราะการเกิดสิวลักษณะนี้ดูภายนอก อาจจะยังวัดไม่ได้ว่าเป็นจากฮอร์โมนหรือไม่

ลักษณะที่เด่นชัดของสิวฮอร์โมน

  • สิวจะขึ้น หรือ เห่อทุกครั้งเวลาที่เข้าสู่ช่วงมีประจำเดือน
  • ตำแหน่งสิวฮอร์โมน สิวจะขึ้นรอบปาก , คาง , กราม , ข้างแกม
  • ตุ่มสิวอักเสบ ขนาดใหญ่ รุนแรง เกิดเยอะ
ลักษณะของฮอร์โมนที่ไม่สมดุลที่เป็นได้ทั้งวัยรุ่น วัยทอง และอาการมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ
  • รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยเป็นประจำ
  • รู้สึกร้อนวูบวายภายในร่างกาย
  • รู้สึกจิตใจหดหู่ วิตกกังวล ความจำไม่ค่อยดี
  • รู้สึกปวดศีรษะ
  • น้ำหนักขึ้นหรือลงเร็ว
  • ภาวะบวมน้ำในร่างกาย
  • ผมร่วง
  • เป็นสิว
  • มีอาการก่อนมีประจำเดือน
  • คัดหน้าอก
  • อารมณ์แปรปรวน
  • ไม่มีอารมณ์ทางเพศ


ดังนั้นก่อนการรักษา สิวฮอร์โมนที่เรื้อรังไม่หาย อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากภายในจำเป็นต้องมีการวินิจฉัยว่าฮอร์โมนที่ไม่สมดุลนั้นเกิดจากอะไร ?

  • คนไข้ผู้หญิงบางคน อาจมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
  • คนไข้ผู้หญิงบางคน อาจมีขนขึ้นเยอะกว่าปกติ เช่น หนวด ขนหน้าแข้ง
  • คนไข้ผู้หญิงบางคน อาจมีผิวมันมากกว่าปกติ เป็นสิวอักเสบได้ง่าย และ เยอะ
  • หรือ คนไข้ผู้หญิงบางคน อาจมีถุงน้ำที่รังไข่อยู่เยอะ (ซีสต์)

กรณีสุดท้ายทำให้บางคนจึงอาจต้องทำอัลตราซาวน์ระบบภายในบริเวณช่องท้องด้านล่างโดยสูติแพทย์ เขาจะพิจารณาขนาดของซีสต์ หรือ ถุงน้ำด้านล่าง เขาจะให้ยาปรับสมดุลฮอร์โมนให้รับประทาน ก็เป็นการรักษาถุงน้ำ และ สิวฮอร์โมนไปด้วย แต่ถ้าสุติแพทย์วินิจฉัยว่าถุงน้ำเล็กมากจนไม่ต้องรับประทานยา จึงส่งตัวกลับมารักษาวิธีปกติของสิวฮอร์โมนต่อไป

 

การรักษาสิวฮอร์โมนมีดังนี้

  • ทายาที่ขึ้นกับลักษณะสิวแต่ละแบบในเวลานั้น ทายาต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
  • ทานยาปฎิชีวนะที่ต้องทานติดต่อกัน 3-6 เดือน เพื่อป้องกันเชื้อสิวเกิดการดื้อยา และ ไม่สามารถหยุดยาได้เร็ว ต้องค่อยๆลด
  • ทานยากรดวิตามินเอ รักษาสิวอักเสบ ข้อดี สิวยุบเร็ว ข้อเสีย สิวเห่อช่วงแรกๆ และ ผลข้างเคียงตับ ไต ไขมันในเลือดสูง ตาแห้ง ปากแห้ง มีผลต่อการพิการของเด็กในครรภ์
  • ทานยาคุม เพื่อปรับฮอร์โมนให้สมดุลควรปรึกษาแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงเช่นฝ้า มะเร็งที่กระตุ้นด้วยฮอร์โมน เช่น มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม
  • การฉายแสง หรือ เลเซอร์ สำหรับคนไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาทา และ ยาทานหรือดื้อต่อการรักษาวิธีอื่น วิธีนี้จะทำให้สิวอักเสบ รวมถึงรอยแดงสิวลดลง เช่น การฉายแสง PHOTODYNAMIC THERAPY,LED,เลเซอร์ IPL โดยจะทาสารบางชนิดที่ชื่อ ALA เพื่อให้เกิดการดูดซับพลังงานแสง ซึ่งมีผลทำให้ฆ่าเชื้อสิว P.ACNE ได้ ทำให้สิวอักเสบยุบลงรวดเร็ว และช่วยลดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันได้ ข้อดี เห็นผลเร็วภายใน 2 สัปดาห์ ไม่เจ็บ ไม่มีผลข้างเคียงกับการทานยา หรือ ทายา ข้อเสีย เสียเดินทางไปทำนานเป็นชม.ๆ แพง ต้องทำบ่อยเดือนละประมาณ2ครั้ง เพราะเชื้อสิวจะเจริญเติบโตกลับมาอีกภายใน 1 สัปดาห์ และ ผิวเราจะกลับมามันอีกครั้งเป็นปกติ หากทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน
  • ปรับวิถีชีวิตใหม่ – วิธีที่ถ้าทำได้ยั่งยืน ดีต่อสุขภาพ ประหยัด ทานอาหารสดให้มาก (ออแกนิค), เน้นทานอาหารที่มีประโยชน์, ทานกระเทียม, ทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ, ทานให้ได้สารอาหารครบ5หมู่ต่อวัน,ทานพืชผักผลไม้เยอะเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจนและได้ประโยชน์ต่อร่างกาย, ทานกรดไขมันที่จำเป็นที่ให้โอเมก้า3และ6อย่างเพียงพอ, ลดการทานน้ำตาลและไขมันที่เยอะเกินไป ,ลดน้ำหนักให้อยู่เกณฑ์ที่พอดีอย่าให้น้ำหนักมากไป เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนและพิษส่วนเกินฝังตัวอยู่ในเซลล์ไขมัน,นอนไม่ดึก,ไม่เครียด,ทานอาหารให้ถูกเวลา,ขับถ่ายทุกวัน,ออกกำลังกาย,ใช้ยาทุกประเภทด้วยความจำเป็นเท่านั้นเพื่อลดการทำงานของตับ และ ไต และไม่ให้เกิดพิษสะสม

 

สิวฮอร์โมนจะหายได้ไหม

สิวฮอร์โมนจะหายได้ก็ต่อเมื่อฮอร์โมนปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลซึ่งเป็นได้เนื่องจาก

  • อายุที่เพิ่มขึ้นมากฮอร์โมนปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลก็หายไปเอง

การรักษาสิวฮอร์โมนจึงเป็นแค่การประคับประครองดูแลในระหว่างที่ร่างกายมีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลจากช่วงอายุนึงที่กำลังปรับฮอร์โมนให้อยู่ในภาวะสมดุลเมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะ ทายา ทานยา เลเซอร์ ฉายแสง รักษาแผลเป็นสิว ป้องกันการเกิดแผลเป็นสิว หรือ การปรับวิถีชีวิตใหม่เพื่อสุขภาพที่ดียั่งยืนตามแบบศาสตร์ตะวันตก

 

ไม่อยากพบแพทย์ มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรเกี่ยวกับ สิวฮอร์โมน

  • หากรู้ว่าช่วงไหนมีประจำเดือนและสิวจะเห่อก็เตรียมยาแต้มสิวให้เรียบร้อย สิวเริ่มขึ้นก็รีบแต้ม

สิวฮอร์โมนอย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เห่อ เมื่อสิวมาให้รีบแต้มยา เพื่อลดปัญหาการเกิดแผลเป็นสิว หลุมสิว หรือ สิวไตๆแข็งๆ ถ้าเห่อน้อยกว่า 10 เม็ดเราอาจจะรักษาเองได้ หากเกินแนะนำให้พบแพทย์

เขียนและเรียบเรียงโดย erk-erk.com

 

ขอบพระคุณเนื้อหา

– แกะเทปสัมภาษณ์ ผศ. พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– เนื้อหา การดูแลระบบภายในจาก คุณบีม http://bye-bye2acne.blogspot.com/2011/05/blog-post.html

 

Posted in HOW TOComments (2)

ฝ้า รักษายังไง ?

 

 

ฝ้า หรือ รอยดำขนาดใหญ่ที่อยู่บนหน้า จะรักษายังไงติดตามกัน 🙂

ฝ้าเกิดจากอะไร

  1. แสงแดด (ปัจจัยหลัก)
  2. ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ขณะตั้งครรภ์ , ใกล้จะหมดประจำเดือน , รับประทานยาคุม
  3. กรรมพันธุ์

ลักษณะฝ้า

ขึ้นเป็นรอยน้ำตาล หรือ ดำ หรือ เทาปนน้ำเงิน เป็นเงากว้าง เช่นตามโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก

ฝ้ามี 3 ประเภท

  1. ฝ้าตื้น จะมองเห็นเข้ม ชัด รักษาง่ายกว่าฝ้าลึก
  2. ฝ้าลึก จะมองเห็นบางเบา เป็นเงา สีคล้ำๆ เลือนๆ รักษายากกว่าฝ้าตื้น
  3. ฝ้าผสม ทั้งฝ้าลึก & ฝ้าตื้น ก็จะรักษาฝ้าตื้นก่อนฝ้าลึก

ฝ้าเกิดขึ้นเมื่ออายุเท่าใด

20 ปลายๆขึ้นไป เพราะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน / และการโดนแสงแดดมาเป็นเวลานานเริ่มส่งผล

สีผิวกับการเกิดฝ้า

คนที่มีสีผิวคล้ำมีโอกาสเกิดฝ้ามากกว่าคนที่มีสีผิวขาว เราจึงพบฝ้าในคนเอเชียมากกว่า คนแถบตะวันตก

การรักษาฝ้า

เริ่มต้นด้วยตัวเอง คือ ทากันแดด และ พบแพทย์เพื่อทายาที่แพทย์สั่งจ่ายได้เท่านั้น

  • สำคัญที่สุดและต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต คือ การใช้สารกันแดดทุกวันให้พอเหมาะ และ ถูกต้อง SPF 30-50 ขึ้นไป และ PA +++ ขึ้นไป และปริมาณต้องเหมาะสม สำหรับทาหน้าถ้าเป็นเนื้อน้ำ ใช้เท่าเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ 2 ครั้ง ถ้าเหลือเยอะ ให้รอซักพักแล้วทาซ้ำอีกรอบได้  ถ้าเป็นเนื้อครีมให้บีบ 2 ข้อนิ้วชี้ จะได้ประมาณ 2 กรัมสำหรับทาหน้า ถ้าลำตัวใช้ถึงส่วนละ 7 กรัมขึ้นไป ถ้าอยู่ในกิจกรรมกลางแดด ต้องเลือกกันแดดที่กันน้ำ WATER PROOF , WATER RESISTANT และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงการที่เหงื่อออกมากก็ต้องทาซ้ำ ปัจจุบันบางยี่ห้อก็ออกมาให้ทาทับเครื่องสำอางได้
  • ทายา ที่สามารถลอกผิวส่วนบนออก ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าตื้นได้ดี)
  • ทายา ที่ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเข้ม ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าลึกได้ดี)
  • การทำทรีทเมนท์ด้วย AHA ลอกเซลล์ผิวด้านบน
  • การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหนังโดยเครื่อง
  • การฉายแสง LED สีเขียว เหลือง ผสมกัน ช่วยในการลดการสร้างเม็ดสีได้ ข้อเสีย ทำบ่อย ทำต่อเนื่อง
  • การเลเซอร์ ไม่ควรใช้ โดยเฉพาะคนผิวสองสี หรือ ผิวสีเข้ม เพราะผลข้างเคียงจะทำให้ฝ้าดำมากขึ้น รวมถึงรอยดำ

การทายารักษาฝ้ามีข้อควรระวัง เนื่องจากสารควบคุมที่ใช้รักษา อาจมาในรูปแบบสารไฮโดรควิโนน หรือ ปรอท ไฮโดรควิโนนนั้นแพทย์เท่านั้นถึงสั่งจ่ายได้เท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายกันอยู่ซึ่งอาจอยู่ในปริมาณที่สูงเกินกว่า อย. กำหนด และบางครั้งอาจเป็นปรอทผสม  ซึ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยง่ายเป็นพิษกับตับและไต รวมถึงกล้ามเนื้อ ถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เสียชีวิต ดังนั้น หากอยากซื้อยาทาฝ้าเอง เช็คเลขที่จดแจ้งขึ้นทะเบียนกับ อย. เป็นสำคัญ และกรุณานำเลขนั้นมาเช็คได้ในเว็บ FDA ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ยาทาฝ้า

การรักษาฝ้าให้ได้ผลดีที่สุด คือ การทากันแดด และ หลบแดดไปตลอดชีวิต ไม่ว่าฝ้า กระ มีสิทธิ์กลับมาได้ใหม่ตลอดเวลา รวมถึงใบหน้าที่ดูอายุมากกว่าอายุจริง เพราะ UVA ทำลายลึกไปยังเซลล์ผิวชั้นลึก ควรหัดทากันแดดทุกวันให้เป็นนิสัยค่ะ 🙂 EE 

เขียนและเรียบเรียงโดย erk-erk.com

 

ขอบพระคุณเนื้อหา

– แกะเทปสัมภาษณ์ ผศ. พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– รูป laskinmd dot com

– pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=14

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACEComments (0)

กราบขอบพระคุณสำหรับเพื่อน พี่ น้องทุกคนที่ช่วยโหวต erk-erk.com ใน THAILAND BLOG AWARD 2012

สำหรับการประกวดบลอคที่จัดขึ้นจากหลากหลายค่ายผู้ให้บริการสร้างCOMMUNITY BLOG ONLINE ขึ้นมา อย่าง EXTEEN OKNATION BLOGGANG และ ผู้สนับสนุนอีกหลายรายการ ต้องขอขอบพระคุณสำหรับโอกาสของคนทำบล็อคที่ได้ตั้งใจสร้างสรรค์ผลิตผลงานที่มีคุณภาพออกมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอ่านในกลุ่มที่สนใจ และ เอิ๊กเองเป็นคนนึงที่จะไม่พลาด แม้ตัวเองไม่ได้อยู่ใน COMMUNITY BLOG ของค่ายใดก็ตาม อยู่โดดเดี่ยวของตัวเอง 55555 เพียงเพราะ หากวันใดค่ายไหนทำงานหนักเข้าไม่ได้ เราก็ยังเข้าได้ ยอมจ่ายเงินมากเพื่อให้คนอ่านได้ดูรูปแบบจุใจไม่มีลิมิต ให้คนอ่านเข้าได้ตลอดไม่เว้นวันหยุดราชการ เลยเป็นเรือน้อยอยู่กลางทะเล แต่ความตั้งใจคิดว่าเหมือนกัน เหมือนกับทุกคนที่ตั้งใจทำบล็อค ต้องขอบพระคุณผู้จัดงานมา ณ ที่นี่ด้วย

จากลิงค์นี้ http://www.thailandblogawards.com/blogs/show/1290

ของเอิ๊กที่ส่งเข้าประกวดบล็อคและเริ่มสามารถเปิดรับคน

ให้คะแนนได้ทุกวันตั้งแต่ 22 สิงหาคมถึง 23 กันยายน 55

รวม 32 วัน เอิ๊กต้องขอบพระคุณสำหรับทุกคะแนน ที่กดได้และไม่ได้ เว็บอืดมาก และ กดยากมาก

แต่ทุกคนก็ใจสู้เหมือนเจ้าของเลยอะ 55555

ซึ้งใจมาก สำหรับ 6642 คะแนน และ หมวดอื่นและ 622 คอมเมนท์

รวมถึงทุกคอมเมนท์ใน FACEBOOK FANPAGE

ขอโทษที่รบกวนตลอดทั้งเดือน ว่าใครอยากให้กำลังใจอย่าลืมโหวตเอิ๊กนะ 

เอิ๊กรู้ว่าหลายคนรำคาญ แต่อดกดให้ไม่ไหวเพราะเอิ๊กอ้อนทุกวัน

แม้จะยากก็พากันกระแทกVOTEจนถึงฝั่ง 555

ขอบพระคุณทุกคนจริงๆจากใจสำหรับคะแนนเก็บ 30% ตรงนี้ที่ทุกคนเต็มที่กับเอิ๊ก

อีก 70% คงต้องแล้วแต่ท่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

เอิ๊กก็ว่าเอิ๊กเต็มที่ทั้งปีที่ผ่านมาทุกเรื่องราว ข้อมูล เนื้อหาจัดไม่เม้ม

และจะเต็มที่หาเรื่องราวๆสวยๆงามๆรอบๆตัวมาแชร์กันอีกต่อไป

ขอบอกว่าคนทำบล็อคทุกคนมีความตั้งใจ มีคุณภาพ มีสไตล์ที่ต่างกัน และมีจุดน่าสนใจทุกคน

อย่าลืมเป็นกำลังใจให้กันทุกปีนะคะ 🙂 จุ๊บ จุ๊บ

XOXO

ติด 1 ใน 10 แล้ววววว เย่ :))))

Posted in ERK-ERKComments (2)

REVIEW NEUTROGENA HYDRO BOOST เติมน้ำให้ผิว

สวัสดี สาวผิวขาดน้ำทุกท่าน วันนี้มารีวิวตัวเดิมที่เคยรีวิวไปแล้วในแฟนเพจอีกรอบ ดองไว้นานแล้ว กับตัว NEUTROGENA HYDROBOOST ตัวเติมน้ำให้ผิว เอิ๊กอยากใช้มาก แต่บังเอิญผิวแห้งและไม่ค่อยแข็งแรงจึงใช้ได้ 2 ตัวที่ได้มา กล่องนี้ได้มาจากแบรนด์นะกั๊บ

NEUTROGENA รุ่นก่อนเป็นตัวที่แม่เอิ๊กใช้อยู่มีถั่วเหลือง ซึ่งใบหน้าเค้าดีขึ้นมาก ดูอิ่มน้ำ ตัวนี้เล่นเรื่องการกักเก็บความชุ่มชื่นด้วยเจ้า HYALURONIC ACID เป็นหลัก เหมาะกับผิวที่ขาดน้ำโดยเฉพาะผิวมันเนื่องด้วยส่วนผสม สังเกตุว่าแค่เห็นแพคเกจจิ้ง แล้วรู้สึกฉ่ำเย็น เหมือนเห็นน้ำ ? :p  ทั้งเซ็ตนี้อยากให้ค่อยๆลองทีละชิ้นจะดีกว่า จะได้รู้ว่าตัวไหนที่น่าจะเหมาะผิวของเรา  กล่องนี้ก็มีอยู่ 4 ตัว

  • HYDRO BOOST EYE ROLL-ON
  • HYDRO BOOST NIGHT CONCENTRATE
  • HYDRO BOOST WATER GEL
  • HYDRO BOOST MOUSSE CLEANSER 

HYDRO BOOST EYE ROLL-ON ตัวนี้เป็นลูกกลิ้งครีมฉ่ำบำรุงดวงตาที่มีกลิ่นน้ำหอมมากทีเดี่ยว ส่วนตัวไม่ใช้กลิ้งกับดวงตา จะใช้นิ้วนางหมุนกลิ้งแล้วมาตบเบาๆรอบดวงตารู้สึกเย็นๆดี ให้ความสดชื่น ส่วนเรื่องตาคล้ำบอกไม่ได้เหมือนกันเพราะว่าตาไม่ค่อยคล้ำ อิอิ ใช้ทุกวันจนมันเริ่มฟีบละ แม่ก็ใช้ 🙂 รู้สึกผ่อนคลายดี ริ้วรอยไม่ได้สังเกตุเพราะตาทำงานหนักมากริ้วรอยมันคงจะอั้นไว้ไม่อยู่ 55555 ดังนั้นความรู้สึกส่วนตัวชอบที่มันเย็นๆ ทาแล้วเบาผิวไม่หนัก ไม่อุดตันใต้ตาเหมือนเนื้อครีม

HYDRO BOOST NIGHT CONCENTRATE ตัวนี้คนผิวมันขาดน้ำน่าจะชอบ มันเย็นเบาสบายผิว มีแอลกอฮอล์เล็กน้อยที่จะช่วยคุมความมันได้ เคยลองแล้วผิวนุ่มมาก แต่ผิวแห้งอย่างเราอาจจะระคายเคืองเนื่องจากแอลกอฮอล์และถึงแม้จะเป็นแอลกออล์ที่เพิ่มความเสถียรก็ยังมีน้ำหอมที่ถ้าผิวแพ้ง่ายก็ผ่านไปก่อนนะคะ พวกที่ใช้ยาสิวบ่อยๆจนหน้าลอก แม้จะเป็นคนผิวมันก็ลอกได้ แห้งได้เหมือนกันนะตัวนี้ตอบโจทย์ที่จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ ตัวนี้มีเม็ดบีทส์ด้วย พอทาไปมันจะแตกตัวซึมลงผิว มีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กลิ่นค่อนข้างสดชื่น

HYDRO BOOST WATER GEL ยามที่ผิวแห้งแต่แข็งแรงไม่แพ้ง่าย อย่างช่วงนี้ใช้ได้ก็จะไม่ระคายเคือง หน้านุ่มนิ่มตัวนี้ใช้บ่อย ตื่นมาหน้าดึ๋งดี แต่ถ้าช่วงไหนแพ้ง่ายก็อาจจะพักไว้ก่อนเพราะมันมีน้ำหอม อาจทำให้ผิวพรรณระคายเคืองได้นะคะ โชคดีที่ช่วงนี้ผิวแข็งแรง เวลาผิวแห้งลอก ก็ตบๆๆๆเข้าไป หน้าหยุ่นๆดี เนื้อครีมบางเบาซึมง่ายเหมือนตัวข้างบนแต่ไม่มีเม็ดบีทส์ เนื้อครีมมีกลิ่นน้ำหอมสดชื่นเหมือนตัวบน ให้ความรู้สึกเย็นๆเมื่อทา จะรู้สึกว่าหน้าจะนุ่มหลังทาเลย ตัวนี้คิดว่าจะซื้อต่อเก็บไว้ค่ะ

HYDRO BOOST MOUSSE CLEANSER ตัวล้างหน้าเนื้อมูส อีกตัวที่เขาบอกว่าเหมาะกับผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย แต่เอิ๊กคิดว่ามันมีฟองนุ่มเนียนเอิ๊กเลยไม่ได้ลองใช้ดู เพราะฟองมีสารที่ทำความสะอาดได้ดีกว่าเจล และอาจจะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้ คิดว่าฟองหน้าจะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า ตัวนี้เลยเอาฟองมาให้ดูว่าขาว อวบ สวย ดูนุ่มขนาดไหน อยากใช้มากกกกกกก สรุปใช้ได้ 2 ตัว อายโรลออน กับ ไฮโดรบูสท์ วอเตอร์ เจล

 

COOL : คนที่ผิวมันแต่ขาดน้ำบ่อยครั้งจากยาสิวหรืออากาศก็แล้วแต่ค่อนข้างเหมาะกับเนื้อเจลแต่ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น หรือคนที่ผิวขาดความชุ่มชื่นอย่างเดียวแต่ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่ายก็ใช้ได้ เนื้อเจลมันซึมง่าย เบา และไม่ทำให้ผิวอุดตัน นี่คือข้อดีของมัน หน้าจะชุ่มชื่น แต่ไม่ทำให้หน้ามันมากขึ้น

UNCOOL : ผิวแห้งแพ้ง่ายด้วยน้ำหอม และ แอลกอฮอล์อาจยังไม่เหมาะสมที่จะลอง 

 

ใช้ครีมให้เหมาะกับสภาพผิว แค่นี้ก็มีสุขภาพผิวที่ดีได้ อย่าลืมค้นหาว่าผิวคุณเป็นแบบไหนค่ะ

XOXO

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Posted in REVIEWComments (0)

อยากหน้าเรียวทำอย่างไร ? รวมรวบวิธีทำหน้าเรียว ภาค 2

หลังจากที่ดูภาค 1 ของคุณหมอ อภิรุจ กันแล้ว

ภาค 2 ขอเป็นตัวเอิ๊กเอง และ สัมภาษณ์จากคุณหมอ รังสิมา อีกท่าน

ขอบพระคุณคุณหมอทุกท่านด้วยค่ะ

บทความนี้ขออนุญาตแนะนำตามสไตล์คนไข้ และ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากคุณหมอทุกท่านนะคะ รวมถึงวิธีการใหม่ๆที่จะนำมาเล่าด้วยค่ะ 🙂 ไม่ได้สนับสนุนให้ใครทำ แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ผ่านมาและมีความสุขขึ้นกับมันอย่างปลอดภัยค่ะ 

ในอดีตการอยากทำหน้าเรียวคงไม่ได้แพร่หลาย และ วิธีการก็ไม่ได้มากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ใครที่อยากหน้าเรียวก็คงหมดสิทธิ์ ใครอยากทำจริงก็คงต้องศัลยกรรมตัดกรามอย่างเดียว หรือ ไม่ก็จัดฟัน ถอนเยอะๆ พอขยับฟันให้เข้าไป หน้าก็ดูเรียวเล็กขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถตัดกระดูกแนวกรามได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีกระดูกแนวกรามขนาดใหญ่ และไม่ใช่ทุกคนที่จะถอนฟันออกเยอะได้ เพราะบางคนก็ฟันน้อยอยู่แล้ว สังเกตุได้ง่ายๆ ฟันบางคนถอนแล้ว พอดัดเสร็จคล้ายคนแก่ ฟันงุ้มเข้าไปเยอะ ซึ่งไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่ โชคดีที่เอิ๊กรอ 55555555555 รอเป็นสิบปี เดี๋ยวจะรออีก คิดว่าต้องมีวิธีที่ง่ายและไม่เจ็บและเหมาะกับเอิ๊กแน่นอน

วัตถุประสงค์เอิ๊กคือ ทำยังไงก็ได้ให้แก้มดูน้อยลง ปกติแก้มเยอะขั้นอืด หน้าอืด และ อยากให้หน้าดูเรียว คางดูยาวกว่านี้

สภาพร่างกายเอิ๊กเป็นคนที่บวมน้ำง่าย จะออกหน้า ออกขา ดังนั้น เช้าบวม-เย็นหด เช้าหด-เย็นบวม นี่คือข้อจำกัดของร่างกายเอิ๊ก ทางแก้หากร่างกายเยอะ แสดงว่าทานน้ำน้อย และ ทานโซเดียม หรือ ขอรสจัด เค็ม ผงชูรสเยอะ ต้องรีบทานน้ำ หน้าจะหดลงกลับสู่สภาพปกติ ดังนั้นจะทำวิธีไหนก็ไม่ถาวรภายในวันเดียวกัน 5555555 เศร้านะ

 เมื่อทราบสิ่งที่ต้องการ – ข้อจำกัดของร่างกายของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทราบ ..

อยากหน้าเรียวโครงสร้างใบหน้าเราเป็นแบบไหนหน้าถึงไม่เรียว

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

 

จะมี 4 สาเหตุนี้ที่ทำให้เราเองอาจจะรู้สึกไปเองว่าหน้าดูไม่เรียว ทั้งนี้จะดูเรียวขึ้นมากน้อยขึ้นกับหน้าของแต่ละคน และวิธีการที่เลือก รวมถึงปริมาณในการทำของแต่ละวิธี เมื่อทราบแล้ว เราไปดูกันดีกว่า สาเหตุ 1-4 เราจะใช้วิธีไหนได้บ้าง บางคนวิธีเดียวจบ บางคนต้องผสมผสานกันหลากหลายวิธี 

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

 หากเป็นสาเหตุนี้จะต้องใช้วิธีศัลยกรรมปรับแต่งกระดูก ไม่ว่าจะตัด เหลา

ข้อดี หน้าเราก็จะดูเรียวลงแบบเห็นได้ชัด / ค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวผลถาวรตลอดไป

ข้อด้อย หากเราไม่ชอบเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นแบบเดิมได้ / ต้องได้แพทย์ที่เก่งและเข้าใจสรีระโครงสร้างใบหน้าเราดีพอ รู้ว่าจุดไหนที่สามารถที่ทำให้เราพอใจ / ราคาสูง


2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

วิธีนี้ปัญหาจะอยู่ที่บริเวณกล้ามเนื้อมัดแนวกราม หากเอามือวางแนบสนิทบนใบหน้าแล้วลองกัดฟันแน่นๆ พบว่ามีกล้ามเนื้อปูดขึ้นมาจนรู้สึกและคลึงโดนได้ กล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามช่วงนี้ จะสามารถฉีดโบทูลินูมทอกซินให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ลีบเล็กลง หรือ เป็นอัมพาตชั่วคราวได้ ใบหน้าก็จะเรียวลง เพราะกล้ามเนื้อมัดนั้นฟีบเล็กลงไป

ข้อดี หากไม่ชอบใบหน้าที่เล็กชอบแบบเดิมปล่อยไว้ 3-6 เดือนก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม / ราคาสูงหลักพันถึงหมื่นกว่าๆ แต่ไม่เท่าผ่าตัด

ข้อด้อย กว่าจะเห็นผล 1-1.30 เดือน เต็มที่ 3 เดือน / ต้องได้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อบนใบหน้าจริงๆ เพราะว่าบางคนฉีดแล้วปากเบี้ยว มุมปากตก (เอิ๊กเคย) /  ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน จากนั้นถ้าฉีดบ่อยอาจอยู่นานขึ้นเป็นปี

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

วิธีนี้จบลงด้วยการศัลยกรรมคางให้ดูยางไม่ว่าจะเป็นด้วยซิลิโคน กระดูกตัวเอง หรือ ฉีดฟิลเลอร์ 

ศัลยกรรม

ข้อดี ราคาไม่ได้แพงมากไปกว่าการทำฟิลเลอร์มากนัก / เจ็บครั้งเดียวก็จะอยู่นานซึ่งขึ้นกับการดูแล / การเสริมด้วยกระดูกตัวเองอาจจะแพงกว่า แต่ความเนียนจะดี และ ธรรมชาติกว่าซิลิโคน

ข้อด้อย เกิดการผ่าตัด / เจ็บ / ต้องพักฟื้น / ถ้าไม่พอใจ หรือ เกิดปัญหาอาจจะต้องผ่าตัดเอาออก

ฟิลเลอร์

ข้อดี ปั้นรูปทรงได้ตามชอบ / ไม่ต้องพักฟื้น / ไม่ชอบก็ปล่อยให้สลายไปเองถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดไม่ถาวร / ธรรมชาติกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือนจะเริ่มเข้ารูป / ไม่เจ็บเท่าศัลยกรรม 

ข้อด้อย สลายไปภายในเวลา 6-12 เดือน / บางทีถ้าเราอยากทำศัลยกรรม บริเวณที่เราทำฟิลเลอร์ต่อให้เมื่อสลายไปหมด แต่เวลาที่ฟิลเลอร์อยู่อาจมีการสร้างพังผืดของเนื้อเยื่อในร่างกายเราขึ้น เราจึงต้องขูดมันออกก่อนทำศัลยกรรมจริง / ถ้าต้องฉีดบ่อยตลอดถือว่าแพงกว่าการทำศัลยกรรม

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

สัญลักษณ์ของความเป็นเด็ก ความอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายๆคนชอบ แต่บางคนคงอยากมีช่วงเวลาโตเป็นสาวกันบ้าง 555 ก็ไม่ได้เอาออก แต่เราทำให้มันเล็กลงได้แบบถาวรถ้าเราไม่อ้วนขึ้น และ ไม่ถาวร ทำได้ 4 วิธี 1. ลดน้ำหนัก 2. คลื่นวิทยุ RF 3. ดูดเซลล์ไขมันออก (ACCULIFT) 4. ผ่าตัดเอาถุงไขมันช่วงแก้มออก buccal fat

ลดความอ้วน หากใครเมื่อผอมลงหน้าก็เล็กลงก็ลดน้ำหนักซะ

ข้อดี ไม่เสียเงิน / ถ้าลดถูกวิธีก็ได้เรื่องสุขภาพดี / ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย / คล่องตัวมั่นใจขึ้น

ข้อด้อย ถ้าลดหักโหม จากสวยจะกลายเป็นซูบ

คลื่นวิทยุ RF หากใครตัวเล็กแต่หน้าใหญ่ลดน้ำหนักก็ไม่ลง แสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มคุณเยอะ buccal fat คลื่นวิทยุมีหลายตัวล่าสุดเพิ่งลอง trilipo เป็นคลื่นวิทยุสามขั้ว สามหัว อาจไม่ดีเท่าหัวขั้วเดียว แต่ถูกกว่า และ ถ้าหน้าไม่ได้หย่อนคล้อยคอลลาเจนเสื่อม แต่มีปัญหาแค่ไขมันจะกำลังดี

ข้อดี ไม่เจ็บเลย ไม่เหมือนฉีดสลายไขมันอันนั้นยังไม่ผ่าน อย. และ FDA / อาจแพ้เจลได้

ข้อด้อย ต้องทำบ่อย / ทำบ่อยจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น 4-10 ครั้งขึ้นไป / อ้วนอีกก็กลับมาอีกได้ ไม่ถาวร

ดูดไขมัน ACCULIFT ดูดเซลล์ไขมันออกไปเลย จะสอดเข็มเล็กๆมากๆเข้าไปแล้วดูด มักใช้ในคนอายุ 40 ขึ้นไปที่สภาพใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ข้อดี เซลล์ไขมันน้อยลงถาวร ถ้าอ้วนอีก ก็ไม่กลับมาอีกเท่าตอนเซลล์ไขมันเยอะ

ข้อด้อย เจ็บ / หน้าบวมเป็นเดือน / เข็มไม่สะอาด อาจจะติดเชื้อ  / ความชำนาญของแพทย์สำคัญมาก

ศัลยกรรมผ่าตัด เอาถุงไขมันกระพุ้งแก้มออ

ข้อดี ถุงไขมันออกไปขนาดใหญ่ในคราวเดียว / ผลชัดเจนแจ่มแจ้ง / แผลด้านในปาก

ข้อด้อย แพง เสี่ยงต่อการใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน โอกาสสะสมใหม่มี

 

ราคา ค่าใช้จ่ายคิดว่าหลายคนอยากรู้แต่ขอโทษที่ไม่ได้ถามมาให้เพราะแต่ละที่ราคาไม่เหมือนกันเลย นำไปเสริทหาข้อมูลเรื่องราคาต่อเอานะคะ ส่วนเอิ๊กเองทำแค่ 3 อย่างคือ เป็นคนกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ใช้วิธีโบทูลินูม ทอกซิน ซึ่งทำติดต่อกันเรื่อยมา / คางสั้น ฟิลเลอร์ แค่ครั้งเดียว/ แก้มยุ้ย เคยทั้งฉีดและTRILIPO ตอนหลังคิดว่าคงจะทำแค่คลื่นวิทยุ RF อย่างเดียวเพราะไม่เจ็บ เคยทำครั้งเดียวแล้วชอบมาก วันนี้เลยนำมาแชร์แต่วิธีที่ปลอดภัยแล้วกันนะคะ  อยากอ่านต่อว่าทำที่ไหนกับใครเสริทกลางบล็อคerk-erk.com ว่าหน้าเรียว เอิ๊กบันทึกไว้ทุกท่าน ตั้งแต่คุณหมอรังสิมา คุณหมออภิรุจ คุณหมอเจี๊ยบ ทั้งสามท่านทำดีหมด ทุกคนมีศิลปะเป็นของตัวเอง สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ชอบทุกคน เพราะทุกคนแก้ปัญหาให้เอิ๊กได้แบบปลอดภัยหมด ดังนั้นอย่าถามว่าที่ไหนดีกว่ากัน ดีหมด แต่เลือกเอาแบบเดินทางสะดวก และ อยากทำกับใครดีกว่า หวังว่าคงได้ประโยชน์กัน ทั้งนี้จะได้ผลมากน้อยขึ้นกับแต่ละคน และไม่อยากให้คนที่ยังขอสตางค์คุณพ่อคุณแม่รีบร้อนนัก รอเราทำงาน หาข้อมูล เตรียมใจ เตรียมสตางค์พร้อมไม่เดือนร้อนใครแล้วค่อยลงมือดีกว่า มาแชร์ไม่ได้ชวนเสียตังค์นะ 5555  แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ตัวเองรู้สึกดี ทุกวันนี้ใครจะชอบเอิ๊กแบบไหน แต่เอิ๊กชอบที่เอิ๊กเป็นเอิ๊กในวันนี้ เอิ๊กที่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเมื่อวานในทุกๆด้าน เลี้ยงดูครอบครัว เป็นคนดีของแม่ เอิ๊กโอเคกับชีิวิตละ 😀 สวยอย่างปลอดภัย ก็ขอให้ไม่เดือดร้อนใครด้วยค่ะ <3

2010 ด้านบน

2012ด้านล่าง

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, CHIN, HOW TOComments (4)

BEAUTY ITEMS ON AUGUST 2012 ผลิตภัณฑ์ความงามออกใหม่เดือนกันยา

  • ROJUKISS RJK
  • PAMBOX
  • EGYPTIAN
  • CUTEPRESS
  • THE BODY SHOP
  • MAYBELLINE
  • LOREAL
  • ANNASUI
  • BISOUS BISOUS
  • SPARKLE
  • PLAMER’s

Posted in BEAUTY NEWSComments (0)

แต่งหน้าผิวใสฉ่ำวาว MAKEUP TUTORIAL KOREAN DEWY SKIN

เหตุเกิดเพราะ SAMPLE 2 ซอง ที่ได้กับเจ้า NYMPH AURA VOLUMER และ SUN BB CREAM   เนื่องจากเอิ๊กได้ไปเที่ยวเกาหลีกับ ETUDE ซึ่งเขาเป็นสปอนเซอร์การเดินทาง แต่ไม่ได้ตังค์นะฮ๊าฟ ฮาวทูนี้มีทั้งของเอิ๊กซื้อเอง และ เขาแจกมาให้มาไม่มีสปอนเซอร์เรื่องพาณิชย์ เทคนิคนี้เอิ๊กตั้งใจอยากทำเพราะมีความอยากรู้นานแล้ว สาวเกาหลีทำยังไงให้ผิววาว เคยลองราดด้วยน้ำมันมะกอก มันไม่สวยเลย พอได้ลอง SAMPLE ต้นเหตุที่เขาแจก เอิ๊กจึงเสียเงินซึ้อ VOLUMER มาเอง และ ซื้อผิดเบอร์อีกตั้งหาก 5555555 กลับไทยต้องสั่งซื้อออนไลน์อีกรอบ เพราะในไทยเบอร์นี้ไม่เข้าคับผม

ทำไมถึงชอบเหรอฮะ ดูเอาเอง คนหน้าแห้งที่ไม่เคยมีโอกาสหน้ามันเลย

ภาพจากมือถือพี่มดcinncamongalฮะ ยิ่งสาดแฟลชยิ่งสวย ชอบแล้วต้องแชร์ฮะ

มาผิวฉ่ำวาวกันฮะ

Posted in HOW TO, MAKE UPComments (8)

DOVE CONTEST หาบลอคเกอร์หน้าใหม่ REVIEW ง่ายลุ้นรางวัลกว่า 100,000 บาท

โดฟ บอดี้ วอช ใหม่

จัดกิจกรรมสุดพิเศษ

“ค้นหาบิวตี้บล็อกเกอร์หน้าใหม่”

ลุ้นรางวัลกว่า 100,000 บาท

 

เปิดโอกาสให้สาวๆได้พบบล็อกเกอร์ในดวงใจค้นหาเคล็ดลับการเป็นบล็อกเกอร์ฉลองการเปิดตัว “โดฟ บอดี้ วอช” กับนวัตกรรมนูเทรียม มอยซ์เจอร์TM เอกสิทธิ์เฉพาะโดฟ ที่บำรุงผิวระหว่างการอาบน้ำให้ผิวนุ่มยิ่งกว่าน้ำนม เพียงรีวิว “โดฟ บอดี้ วอช ใหม่” ที่ www.doveskin.com ก็สามารถลุ้นเป็นผู้โชคดี 50ท่านที่จะได้ร่วมเวิร์คช้อปกับสุดยอดบิวตี้บล็อกเกอร์ Erk-Erk, Pupe So Sweet, Madkitty และเจ้าของเว็บไซต์บิวตี้ชื่อดัง Jeban 
เผยเคล็ดลับการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 เพื่อค้นหา “4 บิวตี้บล็อกเกอร์หน้าใหม่” ในงาน โดยบทความการรีวิวโดฟ บอดี้วอช ของ 4 สาวบิวตี้บล็อกเกอร์หน้าใหม่จะถูกนำไปลงในเว็บไซต์โดฟ บอดี้ วอช และใน 4 นิตยสารชื่อดัง แมรีแคลร์, คลีโอ, ลิซ่า และแพรว เพื่อแจ้งเกิดการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์หน้าใหม่ของโดฟ บอดี้ วอช
พร้อมรางวัลกว่า 100,000 บาท
 
ใหม่ โดฟ บอดี้ วอช ผสานคุณค่าจาก นูเทรียม มอยซ์เจอร์TM บำรุงลึกถึงชั้นผิว ให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่นยิ่งกว่าอาบน้ำนม
 
เพราะเข้าใจในความต้องการของหญิงสาวที่อยากมีผิวสวยนุ่มชุ่มชื่น สถาบันวิจัยยูนิลีเวอร์ ประเทศอังกฤษ จึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการอาบน้ำที่ไม่ทำร้ายผิวทั้งยังช่วยคงความสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงในผิว จนเกิดเป็น โดฟ บอดี้ วอช โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี นูเทรียม มอยซ์เจอร์TM เอกสิทธิ์เฉพาะของ โดฟซึ่งมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากประกอบด้วยลิพิด (กรดไขมันและน้ำหล่อเลี้ยงผิว) ชนิดเดียวกับที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ พร้อมด้วยกลีเซอรีน ซึ่งเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ทำหน้าที่โอบอุ้มน้ำไว้ภายในผิวและกรดสเตียริกซึ่งเป็นสารให้ควาชุ่มชื้นที่พบได้ในผิวตามธรรมชาติช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำในผิวสู่ภายนอกส่งผลให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นยิ่งกว่าการอาบน้ำนมอย่างเห็นได้ชัด
 
ผลิตภัณฑ์พร้อมแล้วที่จะคืนความนุ่มให้กับผิวยิ่งกว่าการอาบน้ำนม
 
4 สูตรได้แก่ โดฟ ดีพลี่ เนอร์ริชชิ่ง, โดฟ เจนเทิล เอ็กซ์โฟลิเอทิ่ง, โดฟ
 
โกเฟรช เฟรช ทัช กลิ่นแตงกวาและชาเขียว และ โดฟ โกเฟรช
 
รีไวว์ กลิ่นทับทิม และเลมอน เวอร์บีน่า ขนาด 200 มล. ราคา 72
 
บาท ขนาด 550 มล. ราคา 175 บาท และสบู่ก้อนแพ็คคู่ ราคา 49 บาท และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
 

Posted in CONTESTComments (0)

เปิดกล่องความงาม Vanity Trove รายเดือนๆละ 595 บาท

HI-END สุดแล้วตอนนี้ สำหรับ

VANITY TROVE

เปิดตัวเป็นเจ้าล่าสุด และคอนเฟิร์มว่าของในกล่องอาจจะได้สีสันอะไรต่างกัน
แบรนด์นี้มอบให้เอิ๊กมาลองเปิดเมื่อปลายสิงหาที่ผ่านมาเพิ่งได้ฤกษ์
ส่วนใครสงสัยจะจ่ายอะไรยังไงเงื่อนไขเดือนละ 595 บาท
ลองดูค่ะ ♥
 คิดว่าของที่ให้มาค่อนข้าง HI-END เหมาะกับวัยทำงานมากกว่า
ดูจากสีสันเครื่องสำอางและสกินแคร์ในกล่องหรือก็มหาลัยปีท้ายๆ
 เพราะเอิ๊กเคยใช้แล้วหลายชิ้นเหมือนกัน 🙂 ไปดูกันเลยค่ะ
XOXO

Posted in BEAUTY NEWSComments (0)

REVIEW – DOVE BODY WASH ครีมอาบน้ำบำรุงผิวนุ่ม

เป็นรีวิวที่กดดันที่สุดใน 3 โลกเนื่องจากว่าการรีวิวครั้งนี้ จะเป็นเหมือนตัวแบบสำหรับแคมเปญค้นหา BLOGGER หน้าใหม่ 4 คน ของ DOVE ที่จะมารีวิวผลิตภัณฑ์ DOVE BODY WASH ซึ่ง erk-erk เป็นกรรมการ 1 ใน 4 ท่าน อยากให้ทุกคนมาร่วมกิจกรรมกันนะคะสาวๆผู้โชคดี 50 ท่านเราจะมาเจอกันตัวเป็นๆใน WORKSHOP โดยคัดเลือกผู้ชนะ 4 ท่านจะได้ลงบทความในเว็บไซด์โดฟ บอดี้ วอช และ 4 นิตยสารดังๆ อย่าง แมรีแคลร์ , คลีโอ , ลิซ่า และ แพรว พร้อมรางวัลรวมแล้ว 100,000 บาท มาลองดูกันซักตั้ง เพื่อนๆอาจจะเป็นผู้โชคดีค่ะ <3 ติดตามรายละเอียดที่ www.doveskin.com

หน้าตา โดฟ ครีมอาบน้ำ ออกใหม่มี 4 สูตรด้วยกัน ราคา 200 มล. 72 บาท / 550 มล. 175 บาทไทย

เอาละพร้อมมาอ่าน REVIEW สไตล์ erk-erk กันแล้วหรือยัง เอิ๊ก REVIEW จากความรู้สึกที่ได้ใช้จริงทั้ง 4 สูตร 4 กลิ่นค่ะ

หน้าตาที่เอิ๊กได้มา 4 สูตร กล่องใหญ่หนักเลยประมาณ 0.8 โลได้

แพคเกจ : ขวดขาว ชอบฝา ฝาเปิดปิดง่าย มี 4 สี สีสูตร สีกลิ่น

เขียว : โดฟ โกเฟรช เฟรช ทัช  กลิ่นแตงกวาและชาเขียว

แดง : โดฟ โกเฟรช รีไวว์ กลิ่นทับทิม และ เลมอน เวอร์บีนา

ฟ้า : โดฟ เจนเทิล เอ็กซ์โฟลิเอทิ่ง

น้ำเงิน : โดฟ ดีพลี่ เนอร์ริชชิ่ง 

คำโฆษณา : ด้วยเทคโนโลยี “นูเทรียม มอยซ์เจอร์” ผสมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงที่มีอยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติ , บำรุงล้ำลึกสู่ชั้นผิวขณะอาบน้ำ , ล้างออกง่าย

หน้าตา DOVE BODY WASH ทั้ง 4 กลิ่น 4 สูตร ขนาด 200 มล. 4 ขวดนี้เกือบ 300 บาท แต่ละขวดจะมีกลิ่นแตกต่างกันไป ซึ่ง ณ จุดนี้ต้องไปดมเอง แต่ที่สัมผัสได้อันดับแรกแน่นอนกลิ่น ความสดชื่นของกลิ่นต่างกันคงแล้วแต่คนชอบ ลองลงมาเนื้อครีมนวลๆ สีแตกต่างกันตามสูตร หลักเน้นความชุ่มชื่น กลิ่นหอม ล้างง่าย เมื่อล้างแล้วผิวนุ่มไม่แห้งตึง แต่จะแตกต่างอยู่สูตรเดียวคือ GENTLE EXFOLIATING ช่วยผลัดเซลล์ผิวออกอย่างอ่อนโยนเพราะมันมีเม็ดบีทส์

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ครีมนวลๆ สีแตกต่างกันตามสูตร มีทั้งเขียว / ชมพู / ขาวผสมเม็ดบีทส์สีฟ้า / สีใส

เทออกมาให้ชมกันเลยเป็นแบบนี้ค่ะ

ด้านหลังของทุกสูตรเน้นย้ำความชุ่มชื่นความชุ่มชื่นเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงปกป้องผิวไม่ให้ระคายเคือง มีน้ำมีนวล มีร้ิ้วรอยช้า ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี ล้างแล้วรู้สึกสะอาดไม่ลื่นหลังล้างเสร็จ และ ทำให้ผิวนุ่มทุกสูตรเลย ในความคิดส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบบำรุงผิวให้นุ่มลื่น และ มีกลิ่นหอม ที่สำคัญอาจจะชอบทาครีมหรือไม่ทาหลังอาบน้ำก็ได้ เพราะหลังล้างแล้วผิวมันนุ่มเหมือนทาครีมบำรุง

ยิ่งใช้กับใยขัดตัวที่ทำให้เกิดฟองจะประหยัดครีมอาบน้ำไปได้มากโข บีบเพียงนิดผสมน้ำ ได้ฟองอู่ฟู่ ถูไถได้ทั้งร่าง เอิ๊กชอบอีกจุดคือมันไม่ทำให้เอิ๊กเป็นสิวเพิ่มที่หลัง เลยผ่าน ตอนนี้ก็สลับกันใช้สีสูตร แต่ในใจก็มีสูตรที่ชอบที่สุดเป็นอันดับ 1

เนื่องจากถ้าวันนี้เรารู้ว่าผิวเรามีปัญหาด้านไหนอยู่ ก็เลือกให้ตรงสูตร เอิ๊กผิวกายแห้งมากไม่ชอบทาครีม ผิวเลยไม่สวยกร้านๆ เลยชอบสูตร DEEPLY NOURISHING เพราะจะเน้นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ และ ส่วนผสมในการบำรุงเคลือบผิวให้ชุ่มชื่นกว่าสูตรอื่น แต่หลังอาบน้ำตอนนี้ เอิ๊กต้องทาครีมแล้วเพราะอายุมากแล้ว คอลลาเจนผลิตน้อยลง เอิ๊กจึงปล่อยให้ผิวแห้งไม่ได้เด็ดขาด

สรุป : เหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะผิวคนต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงเป็นปราการณ์ปกป้องผิวให้ชุ่มชื่นเพื่อป้องกันความแห้งกร้าน และ ริ้วรอยก่อนวันอันควร

ข้อดี : กลิ่นมีให้เลือกหลายกลิ่น / ราคาไม่แพง หากใช้กับใยขัดตัวที่ทำให้เกิดฟองก็ใช้ได้นาน / ไม่ลื่นหลังอาบเสร็จ / ผิวนุ่ม และ หอม สะอาด ล้างง่าย

ข้อเสีย : กลิ่นเป็นเรื่องของรสนิยม เอิ๊กชอบกลิ่นวานิลลา แต่มันไม่มี ดังนั้นกลิ่นให้เลือกถึง 4 กลิ่น แต่ 4 กลิ่นก็ไม่ได้ทำให้เอิ๊กชอบกลิ่นมากขนาดนั้น ถือว่าหอม แต่ไม่ใช่หอมในความชอบของเอิ๊กค่ะ 😀

XOXO

Posted in CONTEST, REVIEW, WORKSHOPComments (0)

BEAUTY ITEMS ON AUGUST 2012 ผลิตภัณฑ์ความงามออกใหม่เดือนสิงหา

ทุกเดือนก็จะพยายามทำชึ้นมา ข้อมูลผลิตภัณฑ์ออกใหม่ ให้ได้เห็นกันผ่านตา ใครสนใจชิ้นไหน ควรหาข้อมูลเยอะๆ และ รีวิวดู เพราะบางชิ้นยังไม่ได้ลอง เรียกว่าเป็นการแนะนำให้รู้จักแล้วกันนะคะ รอบนี้ก็มีซื้อเองด้วย แบรนด์ส่งมาให้เล่นด้วย กราบขอบพระคุณทุกแบรนด์ค่ะ

Oriflame 
Avon 
Dove 
Clear nose 
Neutrogena 
Loreal
Maybelline 
Hakuya
Refine
My Beauty Dairy
Bisous Bisous
Lola
V11
Rmk
Rojukiss
The Body Shop
No.7 
Etude
Jeban
Lesasha

Posted in BEAUTY NEWSComments (0)

ตอบทุกปัญหาการทาและทานคอลลาเจนเพื่อผิวสวย

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องรับทานคอลลาเจน ทาคอลลาเจน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอลลาเจน

ว่าความจริงมันได้ผลหรือไม่ เรื่องนี้เอิ๊กไม่เชี่ยวชาญ ดังนั้นต้องอัญเชิญ

แพทย์ผิวหนังผู้ทรงคุณวุฒิตอบคำถามข้อนี้ค่ะ 🙂

คอลลาเจนเอ๋ยเจ้าคืออะไรกันหนอ ?

คอลลาเจนคือเส้นใยโปรตีนชนิดนึงในร่างกายของเรา ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน เนื่องจากคอลลาเจนมีประมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนภายในร่างกายจึงมีแรงสปริงตัวทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง แข็งแรง เรียบเนียน ยืดหยุ่น คอลลาเจนพบได้ในผิวชั้นหนังแท้ และ พบได้ในอวัยวะด้วยเช่น ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone)

หน้าตาเจ้าคอลลาเจน ดูเป็นเส้นใยระโยงระยางระยวยเต็มไปหมด

 คอลลาเจนมีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ

เมื่อเราเกิดมาก็มีการสร้างคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คอลลาเจนนั้นก็เป็นไปตามสังขารมนุษย์ เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นเลย 20-25-30 ปี การผลิตก็จะลดน้อยลงทีละนิดทีละนิด อย่างช้าๆทุกปี ทำให้เราเห็นตามวัฎจักรมนุษย์ เมื่อทุกคนเกิด ทุกคนโต ทุกคนก็ต้องแก่ และตายไปในที่สุด แม้เราพยายามยึดวัยมากเท่าไหร่ เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราก็จะกระตุ้นได้ยากมากขึ้นเท่านั้น 

ปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ

ตัวการที่ร้ายแรงที่สุด คือ แสงแดด โดยเฉพาะ UVA จะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระทำลายเส้นใยคอลลาเจน มิหนำซ้ำ กระ ฝ้า เม็ดสี สีผิวไม่สม่ำเสมอก็ตามมา และเมื่อคอลลาเจนเสื่อมเราก็แค่แก่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง

คอลลาเจนเสื่อมรู้ได้ยังไง ?

ผิวหนังแท้ของเราจะแบ่งเป็น 2 ระดับ หนังแท้ชั้นตื้น หนังแท้ชั้นลึก ชั้นตื้นจะมีคอลลาเจนน้อยกว่าชั้นลึก จุดสังเกตุแรก หากคอลลาเจนหนังแท้ส่วนตื้นเสื่อม ริ้วรอยจะมา รูขุมขนกว้างมากๆทั้งที่ไม่ได้หน้ามัน นอนดึก แต่กว้างแบบสุดพลังก็เกี่ยว หากคอลลาเจนเสื่อมที่ผิวหนังชั้นลึก ผิวพรรณของเราที่เคยจับแล้วดึ๋ง เต่งตึง ก็จะจับแล้วยวบยาบ กดแล้วยุบย้วย กว่าจะคืนสู่สภาพต้องใช้เวลา ยกตัวอย่างคุณย่า คุณตา คุณปู่ คุณยายของพวกเรา ผิวพรรณจะเริ่มไม่เรียบตึง


อยากสร้างคอลลาเจนใหม่อยากแก่ช้าทำไง ?

1. ฉีดสารคอลลาเจน [ แต่โอกาสแพ้สูง ] & ฉีดสารHyarulonic acid ให้อุ้มน้ำ ผิวจะดูอิ่ม เต่งตึงทันที

2. กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เช่น ให้ความร้อนลงไปยังชั้นหนังแท้ [ เลเซอร์ ] , ทำให้ผิวเกิดแผลเล็กๆ , ลอกผิวด้วยสารเคมี

แล้วการทาน & ทาคอลลาเจนล่ะ ?

  • สำหรับการทาด้วยมือ บอกตรงนี้เลยว่าไม่มีครีมตัวไหนสามารถซึมลึกผ่านลงชั้นหนังกำพร้า หรือ ชั้นขี้ไคลไปได้ เพราะผิวเราวิเศษมีการป้องกันตัวเองจากสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว
  • สำหรับการทานร่างกายมีระบบการย่อยที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ทานคอลลาเจนเข้าไป เจอย่อยไปเรื่อยๆก็เหลือเพียงเศษเสี้ยวกลายเป็นกรดอะมิโน (โอเค) ไป คงไม่ได้ไปทำให้เต่งตึง เปล่งปลั่งขึ้นได้ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่อย่างคอลลาเจนได้ หรือ ถ้าได้อย่างที่คุณหมอว่าก็คือทานไปจะไปพอกจุดไหนก็ไม่ทราบได้ 
อยากรักษากลไลสร้างคอลลาเจนในร่างกายให้ยาวนานขึ้นทำยังไง ?
ปกติก็สร้างเองในร่างกายอยู่แล้วเพียงแต่ลดลงทีละเล็กน้อยเมื่ออายุ 25 ขึ้นไป แต่หากอยากให้กลไลร่างกายยังสร้างได้ดีอยู่ไม่ลดลงไปมาก ก็รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ / ออกกำลังกายสำคัญมากเพราะต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนั้นทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อม คอลลาเจนก็เสื่อมไปด้วย / และนอนให้ตรงเวลา อย่านอนดึกแบบเอิ๊ก เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ผิวหนังซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลองนอนหัวค่ำทุกวัน หน้าดีขึ้นแน่นอน
จากใจนะ จะทานอะไร จะทาอะไรหาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะอะไรที่นำเข้าสู่ร่างกาย   
และในความรู้สึก ” การออกกำลังกายนั้น ไม่ว่าในรูปแบบไหน ชะลอวัยได้เรื่องจริง “
อ่าน ฟัง หาข้อมูล แล้วเขียนเอง หากผิดพลาดประการใดติได้ค่ะ <3

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

DIARY DAY3 – HAPPY KOREA WITH ETUDE HOUSE MEMORY

วันสุดท้ายของการเดินทางแห่งความสุขในเกาหลีกับ ETUDE HOUSE

ตื่นมาง่วงมากลืมใส่ตุ้มหูเลย 555555555555 หน้าแบบง่วงๆ งงๆ อ๊ะต้องกลับแล้วเหรอ

กระเป๋าเต็มตั้งแต่วันแรกใครฝากซื้ออะไรก็เอาเข้าไม่ได้แล้ว T^T โอววว POOR ME จริงๆ ขนาดกระเป๋า 2 ใบ ไม่ช่วยอะไร อีกใบทาง ETUDE ช่วยถือ ฮี่ๆๆๆๆ

วันนี้มาร้านกาแฟสุดไฮโซแบบกังนัมอีกแล้ว COFFEE SMITH พวกดาราชอบนั่งดื่มกัน และ ร้านนี้ปกติไม่เปิดให้คนธรรมดาเข้าเท่าไหร่ แต่บังเอิญฝนตก เขาเลยมีน้ำใจเปิดให้ แต่ห้ามถ่ายรูปบรรยากาศภายในร้าน อยากบอกว่าไม่ทันแล้วละ 555555 ตากล้องคุณแคมป์เรารัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถนนย่านนี้ชื่อว่า Garosugil ย่านนี้จะเรียบหรูมีสไตล์ แบบดูไฮคลาสขึ้นมากว่าเมื่อวานที่เราไปเที่ยวกัน สะอาดตา สบายใจ แต่ไม่เจอใครสะดุดตา 555555555 เอานะอย่างน้อยก็เจอนังร้องไปแล้ววันแรกตั้งหลายวงนี้

ชักภาพกับชาชัก เอ้ย กาแฟร้อนเย็น โกโก้ แสนอร่อย วันนี้ดื่มกาแฟ แล้วจะไปเต้มพลังด้วยร้านอาหารสุดกังนัมอีกแล้ว 555 หรูมาก ที่นี่ค่อนข้างเน้นเนื้อที่สดกับผัก เราคิดว่าส่วนนึงที่ทำให้เกาหลีมีสุขภาพผิวที่ดีและเฟิร์ม ไม่ค่อยพบคนน้ำหนักแบบเกินเท่าไหร่ คนเพราะเน้นเนื้อ + ผักเยอะๆๆกว่าข้าว เป็นเทคนิคนึงที่เอาไปทานตามกันได้

อร่อยสุดพลังไปเลย จนไม่รู้จะบอกว่าจะขอบคุณทีม ETUDE ยังไง เป็นทริปที่ได้ครบทุกรสที่ผู้หญิงชอบ ทั้งชอปปิ้ง ทานอาหารร้านที่มีหลากหลายแบบ และ ได้เห็นความหลากหลายของเครื่องสำอางมากมาย ตื่นตาตื่นใจมาก

เติมพลังหนังท้องตึงก่อนหนังตาจะหย่อย เราจะไปลุยชอปปิ้งกันต่อ แถวนั้นมีหลายร้านดังๆ เสื้อผ้าก็ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปจนหลายพัน คือคุณภาพดูดีไฮคลาส เริศสะแมนแตน คล้ายๆเวลาเราชอบแถววิลล่า อเวนิวบ้านเรา และมี FOREVER21 ชอปเบ่อเร่อ และคุณทรายหมูน้อยก็เข้าไปหลับอยู่ในนั้น ล้อเล่น 555 รู้สึกจะแบกของชอปปิ้งยังกะกลับมาจากโรงเกลือ 5555 

ตั้งแต่รับประทานอาหารมาก จำชื่อขนมร้านนี้ได้ร้านเดียว ร้านที่เจ๋งที่สุด PASSION 5 ร้านขนมที่ไฮโซสุดพลัง เค้กก็ชิ้นละ 100 กว่าบาทแต่แบบเป็นเค้กที่ทุ่มเท มีหลายชั้น และบางชิ้นก็สอดใส่ได้อร่อยอย่างลงตัว ต้องไป !!!!! คำเดียวถ้ามาที่นี่ เจ๋งกว่าร้าน hello kitty ล้านเท่า เพราะ ขนมเยอะกว่ามาก และ อร่อยทุกอย่าง มีน้ำปั่นสูตรพิเศษ โอยยยยยยยยยยยยยยยย เพลินลิ้น แค่กัดลืมสิ้นทุกสิ้นอย่าง 555

ห้ามถ่ายรูปทุกสิ่งอย่าง แต่ช้าไปแล้วล่ะ 55555 ตากล้องเราตัวปุ๊กลุ๊กแต่ไวมาก 55555555 เลยเก็บภาพมาฝากได้หลายมุมทีเดียว :))))))))))) กะ กะ กะ กลัวที่หนายยยยยยยยย

ดูหน้าร้านก่อน ตึกสูงสีดำแบบ ไฮโซ มาก PASSION 5 เข้าไปแล้วจะไม่ผิดหวัง ผิดหวังอยู่อย่างเดียว ใหญ่ขนาดนี้ ที่นั่งเต็มตล๊อดตลอด

เสร็จแล้วทุกคนมักแวะที่นี่ถ้าเดินทางมาเที่ยวเกาหลี เอิ๊กขอตั้งชื่อว่าเจ้เล้งเกาหลี แต่เอิ๊กว่าเจ้เล้งไทยเจ๋งกว่า ที่นี่ชอบซื้อมาม่า สาหร่ายกลับบ้าน แต่เอิ๊กก็เดินขอตกเอิ๊กไม่มีที่ว่างเหลือจะแบกอะไรกลับไทยเลย ให้ตายสิ ….. ข้อดีของที่นี่แพคใส่กล่อง และเวลาไปสนามบินเขามักจะอนุญาติให้ขนเจ้ากล่องเหล่านี้กลับแม้น้ำหนักกระเป๋าจะเกินตรงนี้จะเป็นส่วนยกเว้น

ได้เวลากลับบ้านด้วยสายการบินเดิม เดินเล่นใน อินชอนนิดหน่อย ของ DUTY FEE ที่นี่ถูกกว่าไทยค่ะ เช่นน้ำหอมประมาณ5,000ของ DUTY FEE ในสนามบินเมืองไทย ก็หลากหลายดีค่ะ ใครจะมาเดินเล่นก็กลับก็เผื่อเวลาไว้เยอะๆหน่อย เอิ๊กกลับบ้านก็สลบเลยถึงไทยแบบดีเลย์นิดหน่อยแต่ HAPPY ตลอดจริงๆ

ต้องขอขอบพระคุณ ETUDE HOUSE THAILAND

คุณแพร คุณตั๊ก คุณมะม่วง คุณเจ คุณจิ๊บ

ขอบคุณน้องวีวี่ สาวน้อยที่ไปเรียนเกาหลีคอยมาพาเราเที่ยวตลอดทริป

ขอบคุณพี่มด คุณทราย คุณแคมป์ตากล้องสำหรับความช่วยเหลือ

ความอบอุ่นและ ความสุขตลอดทริปค่ะ

ขอบคุณคนขับ และ ETUDE HOUSE KOREA สำหรับการต้อนรับที่ดีค่ะ

ขอบคุณมากจริงๆค่ะ 

XOXO

EE

ปล ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้เตรียมพบฮาวทูวีดีโอผิวใสวาวแบบเกาหลี ที่สาวผิวแห้งห้ามพลาด อิอิ

Posted in TRAVELComments (2)

DIARY DAY2 – HAPPY KOREA WITH ETUDE HOUSE MAKE-UP

วันนี้เป็นวันแห่งสวรรค์ วันแห่งการซื้อเครื่องสำอาง วันแห่งการเดินชอปปิ้ง วันแห่งการดูเทคนิคการแต่งหน้าของเกาหมี เห็นหน้าใสใส แต่งกันเยอะหลายขั้นตอนนะเออ พูดแล้วไม่เห็นภาพ ตามมาดูกัน !!!! 

วันนี้ร้านนี้ครึ่งเช้าเป็นของเรา ตื่นตั้งแต่ 8 โมง เพื่อออกเดินทาง 9 โมง และ 10 โมงมาถึงร้าน ETUDE HOUSE ย่านเมียงดง ซึ่งมีหลายสาขามาก เปรียบได้กับ 7-11 เมืองไทย เดินซอกหลืบไหนก็เจอ แต่จะใหญ่เล็ก แคบ กว้าง ต่างกัน เอิ๊กเดินจ้ำอ้าวด้วยความกระตือรือร้นอย่างสูงวันนี้ อารมณ์ดีแต่เช้า เมื่อคืนหนัก น็อค และ ตื่นมาอย่างเต็มอิ่ม

บรรยากาศร้านเครื่องสำอาง ETUDE HOUSE ย่านเมียงดง สาขานึงวันนี้ที่เรามา ถ้าคุณรักเครื่องสำอางและยังมีชีวิตอยู่ คุณควรหาโอกาสมาค่อยๆเก็บเงินมาเที่ยว เอิ๊กจะเก็บเงินพาครอบครัวมาเที่ยว มันคือสวรรค์ชั้นที่ 11 ชัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชมพู๊ ชมพู ขาว ทุกอย่างมีให้ลอง ให้เล่น ไม่มีใครมาวุ่นวาย ไม่มี BA หน้างอ ซื้อง่าย จ่ายคล่อง ของแถมลึ่ม

เอาจริงๆ คุณภาพดีหลายอย่าง ราคาไม่ต้องพูดถึง ณ จุดนี้ มี 300 บาท อาจได้ อายไลเนอร์ 2 อัน หรือ ยาทาเล็บแบบกลิตเตอร์ซัก 3-4 ขวด ที่ชอบที่สุดคงเป็น บีบี / เบสNYMPH AURAเบอร์3 / อายไลเนอร์กลิตเตอร์ / ผงกลิตเตอร์ / ลิปสติกบางสีก็น่ารัก / ทินต์ สรุปเกือบทุกอย่าง น้ำยาล้างแปรง แปรงทาปาก โรลม้วนผม 5555555 พอเถอะ สงสารคนอยู่บ้าน

จัดดิสเพลย์ได้แบบเจ้าหญิงมาก ! มันดูน่ารัก น่าหยิบน่าใช้ไปหมด

และจะมีจุดแนะนำคอลเลคชั่นใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ณ ช่วงนั้นๆ ตอนนี้ร้อน ก็มีบีบี อายไลเนอร์ ลิปทินต์ แป้งผสมรองพื้น ทนน้ำ ทนเหงื่ออกมาให้ปาดเล่นกันอย่างมีความสุขและสนุกสนาน

ACT !!!!!!!!!!

เอาละมาถึงเวลาที่เรารอคอยล้วงลับตับแตก สาวเกาหมีแต่งหน้ายังไงให้ดูใส๊ใส ธรรมชาติ น่ารักฝุดๆ ฉันจะแอบจำไปเล่นให้เพื่อนที่เมืองไทยฉันฟัง หึหึ 555555

อุปกรณ์ตั้งล่อตาล่อใจกันเลย วันนี้จะเนรมิต 2 ลุค เช้า-เย็น โดยเครื่องสำอางออกใหม่คอลเลคชั่นล่าสุด มามุงๆๆๆ

นางแบบสวยไปไหนลิ้มจิ้มสุดๆ เอ้ย จิ้มลิ้มสุดๆ MAKEUP ARTIST ก็จะกันคิ้วให้ / ซับมัน / พ้นน้ำแร่เพิ่มความชุ่มชื่น เอ้ารีบจดเคล็ดลับกันไป เคล็ดลับก่อนแต่งหน้า

  • ลงบีบี PRECIOUS MINERAL SUN BB CREAM SPF50 PA+++ WATER PROOF ตัวใหม่ บีบีที่ทำมาจากแร่ธาตุ กันแดดสูง กันน้ำตัวใหม่จาก ETUDE ตัวนี้ลองแล้วได้มา 2 หลอด ไม่แพ้ เนียน ไม่ดรอป และวันนี้เอิ๊กก็ทา อิอิ
  • ลง CONCEALER ใต้ตาปกปิดแพนดี้
  • ลงแป้ง PRECIOUS MINERAL SUN BB PACT แป้งผสมรองพื้นเพื่อให้บางเบาใช้แปรงปัดเบาๆ แล้วปัดลงบนหน้าแทนการใช้พัฟ
  • สร้างมิติให้กับใบหน้าด้วย GOLDEN RATIO ที่มีทั้งไฮไลท์ เฉดดิ้งในตลับเดียวกัน ลืมสอยมา เวลาหมดก่อน เซ็งคับพี่น้อง

  • ปัด PRECIOUS MINERAL SUN BB PACT อีกครั้งเพื่อให้ไฮไลท์และเฉดดิ้งกลืนไปกับผิว
  • ปัดบลัชออนสีชมพูอ่อน ระเรื่อตามธรรมชาติ
  • เขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วสีที่เข้ากับสีผม
  • ปัดมาสคาร่าย้อมสีขนคิ้ว

  •  ลงอายแชโดว์สีขาวเลื่อมทั่วเปลือกตาประกายชิมเมอร์ทั่วเปลือกตา
  • เขียนอายไลเนอร์ด้านใน เทคนิคใช้แปรงหัวเล็กแบน ปากไปที่ดินสอเขียนของตาเนื่อ CREAM แล้วนำมาทาใต้ตาทำให้มีความนุ่มนวล และสีติดสม่ำสมอ

  • หนีบขนตา 3 จังหวะ โคน กลาง ปลาย
  • ปัดมาสคาร่า
  • ลงลิปคอนซีลเลอร์กลบสีปากให้กลายเป็นสีนูดก่อนเพื่อให้ได้สีลิป ทินต์ หรือกลอสตามสีจริงใก้ใกล้เคียงที่สุด

  • ลงลิปทินต์สี PINK NEON ตัวใหม่ด้านนอก และตามด้วยทินต์ชมพูเข้มด้านใน น่ารักมากกกก

เสร็จแล้วลุคใสใสกลางวัน ไม่เน้นกรีดตาด้านนอก แต่ทาอายไลเนอร์ด้านใน และ ลิปสีชมพูสดใส แก้มชมพูอ่อนระเรื่อ คิดว่าเหมาะกับแต่งไปวันสบายๆ วันไปเรียนมหาลัย หรือไปเที่ยวมากๆ ผิวเขาค่อนข้างดีทีเดียว ขาวราวกลูต้า แต่คิดว่าขาวธรรมชาติ น่ารักจริงๆ

มาเป็นสาวปาร์ตี้แบบเกาหลีกันบ้าง อยากรู้เหมือนกันจะแต่งออกมาแบบไหน

  • ลงอายแชโดว์สีเทาอ่อนทั่วเปลือกตา
  • ลงอายแชโดว์สีเขียวขี้ม้าที่รอยพับชั้นตาติดเปลือกตาให้ใกล้ที่สุด

  • ลงอายแชโดว์สีทองรอยพับตาชั้นบน จะเป็นทองเลื่อมๆ เวลาโดนไฟจะวาวๆ แนวเกาหลีเค้าล่ะ
  • ลงกลิตเตอร์สีขาววิ๊งค์ๆ ใต้ตา กรี๊ด ชอบไอเท็มนี้ ซื้อมาสี่อัน 5555555555
  • ลงอายแชโดว์เนื้อครีมติดทนแต่มให้ความดำสนิทเป้นธรรมชาติให้ชิดขอบตามากสุด เส้นเรียวยาวออกไปเล็กน้อย

  • ปัดมาสคาร่าอีกชั้นให้หนาดำเข้มขึ้น ตาปิ๊งๆขึ้น ปัดจากโคนซิกแซกออกมาปลายขนตาทั้งด้านบน-ล่าง
  • ปัดไฮไลท์-เฉดดิ้งซ้ำให้ชัดอีกครั้งเพราะตอนกลางคืนมันมืดต้องจัดหนัก
  • ปัดบลัชออนสีส้มอมชมพูระเรื่อเบาๆ

  • ลงลิปคอนซีลเลอร์อีกครั้งกลบสีปาก
  • ลงทินต์ชมพูแดงด้านในขอบปาก
  • ลงลิปสติกสีชมพูด้านนอก 
  • ลงลิปกลอสสีส้มใสตาม

  • ลงสเปรย์น้ำแร่ NYMP AURA กรี๊ดดดดดด ได้มาขวดนึง เค้าปิดตา แล้วพ่นทั่วใบหน้าให้ชุ่มฉ่ำ วาวเล็กธรรมชาติ

เสร็จแล้วพร้อม ปาร์ตี้แบบสาวเกาหลี เน้นเปลือกตาเลื่อมวาวสีมัลทาลิค อย่างเงิน ทองอ่อนๆ แก้มน้อยๆ ปากเซกซี่แบบอั้ม โดน !!! แต่ขอติดขนตาปลอมได้ปะ :p 555555

ถ่ายรูปหมู เอ้ยหมู่ โห ดูกลมกลืนทั้งไทย-เกาลี 555 สังเกตุเท้าผู้หญิงคนนึงกำลังเขย่ง 5555555

เทียบรัศมี (ช่างกล้าาาาาาา) 5555555555 ไทยนี่เวลาถ่ายรูปทำแก้มป่องปากจู๋ๆ ไม่รู้ใครกอปใคร

หลังจากนั้นเดินกันอีกแล้ว เราจะไปชอปปิ้งกัน ยิ้มร่าาาาาาาาาาาา สุดฤทธิ์เช้าอยู่อากาศยังไม่ร้อนเร่า

เป็นครึ่งชั่วโมงที่เขาปล่อยให้เราเดินซื้อของได้ตามใจ ก็มาจบที่ ETUDE HOUSE อีกสาขานึง เอิ๊กก็เซ็งมาก ยังไม่สะใจเลย หมดไปแสนวอนนิดๆ เซ็งจากใจ 5555555 อยากซื้ออีก

ทุกคนเสียเงินทำไมหน้าบาน ?!?!?!?!?? 555555555

ถ่ายกับคุณ โบแรม ETUDE ซะหน่อย สมาร์ท กังนัมสไตล์มากกก ถุงเท้าไม่ใส่ ด้านบนเนี๊ยบ อังกฤษเป๊ะ

อากาศเริ่มทำพิษ หน้าตาบางรูปก็โอดโอยอยู่ ร้อนไม่แพ้พี่ไทยเลย

ณ ย่านมหาลัยสตรีฮีวา ร่ม = ยาใจ กางตล๊อดตลอด

มาถึงร้านไก่ผัดพริกแล้วอย่างอร่อย พอกินไปซักพักเหลือเนื้อน้อยๆ เอาข้าวลงไปคลุกชีส อร่อยเวอร์ โอยยยยย สวรรรค์

เราไม่ค่อยชอบแดดเลย แต่เพื่อเกาหมี เราจะสู้ หน้าเริ่มฉ่ำขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ทา SUN BB + NYMPH AURA #3

เดินเพื่อมาร้านนี้ THE DESIGN MUSEUM ร้านหรู กังนัมสไตล์อีกแล้ว ขนมอร่อยมาก ETUDE เลี้ยงดีมีสไตล์มากค่ะ 555 กังนัมตลอด 

ไปชอปกันต่อได้แว่นมาอันนึงกลับไทย และ ตอนนี้หักแล้ว 555555 2,100 บาทพร้อมเลนส์หักแล้วเซ็งมาก 555

ร้อนจื๊ดต้องเกล้าผมขึ้น 555 แต่ละร้านของคล้ายแพลตินัมไทยเลย ราคาพอกัน บางอย่างสูงกว่า บางอย่างถูกกว่า แต่ไม่มากค่ะ

เดินกันจนเย็นมาแวะกินร้านเนื้อย่างสุดหรู กังนัมสไตล์กันอีกแล้ว 555555 มีคนปิ้งให้ตัดให้ ชาวเกาหลีบางคนเขาไม่ได้บริการน่ารักอย่างไทย หรือ อเมริกาเลย บางทีเขาไม่ขอโทษเวลาจะเดินแทรกมาลงเนื้อย่างให้เขาจะชนเพื่อให้เราหลบ เก๋ปะละ ภาษากาย 55555 บางทีเหยียบโดนเท้าก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็เออออ โอเคไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา แต่เกิดในใจเรา 555 เจอหลายรอบแล้วแต่คิดว่าไม่เป็นทุกคน คงแค่บางคน แต่ร้านนี้ผักเขาอร่อยมากๆ ผักยำ เนื้อก็อร่อย เห็ดก็อร่อย อร่อยหมดเลย ในห้องน้ำมีน้ำยาบ้วนปากให้ดับกลิ่น 5555

เย่ เย่ เย่ หัวค่ำแยกย้ายกันชอปปิ้ง น้องเอิ๊กได้กางเกงเด็กน้อยมา 2 ตัว และ มาร์คหน้าตามพี่มดแค่นั้น และเดินเป็นมารร้ายคอยขัดขวางการชอปปิ้งของพี่มด ผู้หญิงที่ชอบซื้อของสวยๆงามๆจนบ้านอาจจะไม่มีที่จะเก็บแล้วตอนนี้ นางพยายามหลอกล่อให้เอิ๊กออกห่าง เพื่อที่จะได้ซื้ออะไรอย่างเมามันส์ 55555555 เธอเป็นผู้หญิงที่ซื้อเยอะจริง ใช้เยอะจริง ใช้ทุกอย่างที่ขวางหน้า ต้องบอกเจ้แกเพลาบ้าง 5555

วันนี้ก็สนุกสนานมีความสุขหลั่นล้า เดินกินไอติมกลับห้องกับพี่มดสองคน <3 เฮ้อ เกาหลีช่างน่าเดินเล่นเสียนี้กะไร หวังว่าวันนี้คงได้เทคนิคแต่งหน้าที่เอิ๊กไปล้วงความลับจาก ETUDE มาเล่าให้ฟังนะคะ ลองไปแต่งตามดู ติดตามไดอารี่วันสุดท้ายได้ค่ะ

 

Posted in HOW TOComments (4)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites