Archive | FACE

ขี้แมลงวัน & ไฝ เกี่ยวอะไรกับมะเร็งไฝ

ขี้แมลงวัน & ไฝ

คนไทยชอบเอาออกโดยเฉพาะบนใบหน้าเพราะ

  1. ทำให้ภาพรวมรูปลักษณ์ดูไม่ดีเท่าที่ควร
  2. คนไทยเชื่อเรื่องดวง
ขณะนี้มี 2 วิธีหลักที่จะนำออก
  1. กรดTCA
  2. เลเซอร์
ทั้งสองวิธีมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน
กรด ดี ถูก เสีย อาจทำให้เป็นแผลเป็น และ เกิดแผลในวงกว้างมากกว่าเดิม เป็นหลุม
เลเซอร์ ดี สามารถเลือกบริเวณเอาออกได้แม่นยำ ด้อย ต้องเป็นแพทย์ผู้ชำนาญเพื่อเลี่ยงการตั้งค่าพลังงานพลาด เพราถ้าพลาดจะทำให้เกิดการไหม้ หรือ ถ้าเอาออกมากไปเป็นหลุม
คุณหมอ นุสรา วงษ์รัตนภัสสร บอกว่าไฝ หรือ ขี้แมลงวันเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเหมือนกันในทางการแพทย์ ไฝอาจจะนูน ขี้แมลงวันอาจจะเล็กและเรียบ ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาออก เพราะจะได้ไม่เสี่ยงต่อแผลเป็นโดยไม่จำเป็น ขี้แมลงวันเราอาจจะไม่ได้เห็นผลข้างเคียง แต่ไฝเม็ดใหญ่ และ นูนอาจจะมีรากไฝที่ลึกกว่าการเอาออกอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย โดยเฉพาะตามลำตัว อาจจะทำให้เกิดแผลเป็น คียลอยด์ ส่วนที่ต้องระวังของไฝที่มีอยู่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะนั่นอาจเป็นที่มาของมะเร็งไฝ

 

มะเร็งไฝ Melanoma

เกิดจากเซลล์สร้างสีผิว melanocyte การที่จะเข้าใจโรคนี้ท่านจะต้องเข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายเร็วมาก

โครงสร้างของผิวหนัง 

  • ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกายทำหน้าที่ป้องกัน ความร้อน แสง การติดเชื้อ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย และสร้างวิตามินดีผิวหนังประกอบด้วยเซลล์สองชั้น

  • ชั้น epidermis เป็นชั้นนอกสุดประกอบด้วยชั้นบนสุดเป็น squamous เซลล์รองลงมาได้แก่ basal cell โดยมี melanocyte อยู่ใต้ subcutaneous

  • ชั้น dermis เป็นชั้นที่อยู่ของ ต่อมขน ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน หลอดเลือด

 

Melanocyte และ ไฝ Mole

melanocyte เป็นตัวสร้างสีผิว melanin เมื่อผิวถูกแสงทำให้สีผิวเข็มขึ้น ไฝเป็นกลุ่มของ melanocyte ที่อยู่รวมกันมักเกิดในช่วงอายุ 10-40 ปี อาจจะแบน หรือนูน สีอาจเป็นสีชมพู หรือสีน้ำตาล รูปร่างกลม หรือวงรีไฝมักจะไม่เปลี่ยนแปลงขนาดหรือสีตัดออกแล้วไม่กลับเป็นซ้ำ

 

Melamoma

เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ melanocyte ที่แบ่งตัวนอกเหนือการควบคุมของร่างกาย ถ้าเกิดที่ผิวหนังเรียก cutaneous melanoma เกิดที่ตาเรียก ocular melanoma โดยทั่วไปเกิดบริเวณลำตัว ขา ถ้าคนผิวดำมักเกิดที่เล็บ โดยทั่วไปมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอาจพบที่อวัยวะอื่นๆได้เรียก metastasis melanoma


ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

  • ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไฝ จะมีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่า 2 เท่าดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรได้รับการตรวจจากแพทย์
  • Dysplastic nevi ไฝที่มีลักษณะชิ้นเนื้อแบบนี้จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง
  • เคยเป็น melanoma
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น AIDS
  • มีไฝจำนวนมาก เช่นมากกว่า 50 เม็ดจะมีโอกาสเป็นมะเร็งมาก
  • แสง ultraviolet ควรสวมเสื้อแขนยาวและหมวกเพื่อกันแสง ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเวลา 10-16.00 น.ควรทาครีมกันแสงร่วมด้วย
  • เคยถูกแสงจนไหม้เมื่อวัยเด็ก ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสแสงแดด
  • สีผิว ผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งได้ง่ายกว่าผิวคล้ำ
4 ข้อสังเกตไฝดีหรือร้าย จากสัญลักษณ์จำง่าย ๆ A B C D 
มาจาก Asymmetry เป็นการสังเกตความสม่ำเสมอของสีไฝ หากในเม็ดเดียวกันมีทั้งสีเข้มและอ่อนควรเข้าพบแพทย์

B คือ Border เปรียบให้เป็นการสังเกตขอบเขตของเมลาโนมา แม้จะปรากฏให้เห็นไม่ค่อยชัดเจน แต่ให้พยายามดูว่ามีรอยหยัก รอยนูน ที่สูงต่ำไม่เท่ากันหรือไม่

C ย่อจาก Color ให้สังเกตลักษณะสี ถ้าเข้มมาก หรือดำมาก จัดว่าเป็นอันตราย

D หรือ Diameter ต้องดูขนาด หากขยายใหญ่เกิน 6 มิลลิเมตร จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการรักษา แพทย์จะวินิจฉัยจากการตัดชิ้นเนื้อหรือไฝไปตรวจทางพยาธิวิทยา หากพบว่า เป็นมะเร็งไฝ แพทย์จะการกระจายของเมลาโนมาต่อไป ก่อนทำการผ่าตัดรักษา.

อาการของมะเร็งไฝ

อาการเริ่มแรกมักเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด สี รูปร่าง ขอบ บางรายอาจมีอาการคัน มีขุยหากเป็นมากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของความแข็ง หากพบมะเร็งเริ่มต้นการรักษาจะหายขาด แต่หากรุกลามเข้าใต้ผิวหนังมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น

 

 


หากแพทย์สงสัยว่าไฝที่เห็นว่าจะเป็นมะเร็งแพทย์จะตัดก้อนนั้นส่งพยาธิแพทย์ตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์ หากก้อนนั้นใหญ่มากแพทย์จะตัดเพียงบางส่วนส่งตรวจ ถ้าพบเซลล์มะเร็งแพทย์จะตรวจพิเศษเพิ่มเพื่อตรวจดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นหรือยังการวินิจฉัย

การรักษา

หลังจากวินิจฉัยและทราบการแพร่กระจายของโรคแพทย์จะวางแผนการรักษา ก่อนการรักษาควรจดบันทึกคำถามเพื่อถามแพทย์ดังตัวอย่าง

  • การวินิจฉัยของแพทย์
  • มะเร็งแพร่กระจายไปหรือยัง
  • ควรจะรักษาด้วยวิธีใดดีที่สุด และแพทย์เลือกวิธีใด
  • โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมีมากหรือไม่
  • เราจะทราบอย่างไรว่าการรักษาได้ผล
  • การรักษาจะสิ้นสุดเมื่อใด
  • จะดูแลตัวเองระหว่างการรักษาอย่างไร
  • ผลข้างเคียงของการรักษามีอะไรบ้าง
  • จะเจ็บปวดหรือไม่ และจะใช้ยาอะไรในการควบคุม
  • หลังการผ่าตัดต้องรักษาอย่างอื่นหรือไม่

วิธีการรักษา

  1. การผ่าตัด เป็นการรักษามาตรฐานแพทย์จะพยายามตัดเนื้อร้ายออกให้หมดร่วมทั้งต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้เนื้อร้าย ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปอวัยวะอื่นแพทย์จะให้การรักษาอย่างอื่น
  2. เคมีบำบัด เป็นการให้สารเคมีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งโดยอาจเป็นยากินหรือยาฉีด
  3. รังสีรักษาเป็นการฆ่ามะเร็งเฉพาะที่โดยเฉพาะมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น สมอง ปอด ตับ
  4. การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจให้ภูมิโดยการฉีด เช่นการให้ interferon หรือ interleukin โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมาเช่นการฉีดวัคซีน

ผลข้างเคียงของการรักษา

  1. การผ่าตัด อาจทำให้เกิดแผลเป็นบางรายเกิด keloid การตัดต่อมน้ำเหลืองอาจทำให้ขาหรือแขนบวม
  2. เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัดอาจให้เกิดโลหิตจาง ติดเชื้อง่าย หรือเลือดออกง่าย ผมร่วง
  3. รังสีรักษา ทำให้ผมบริเวณที่ฉายรังสีร่วง อาจมีอาการอ่อนเพลีย
  4. การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการปวดเมื่อตามตัวเบื่ออาหาร ท้องร่วง

 

แหล่งข้อมูล 

สัมภาษณ์ พญ. นุสรา วงษ์รัตนภัสสร

http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/cancer/melanoma.htm

ญ.พู่กลิ่น ตรีสุโกศล แพทย์ผิวหนังและภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไท 2

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

DIARY – erk-erk ไปเยี่ยมสถาบัน EUCERIN SKIN INSTITUTE ภาค 2

ภาค 3 เป็นภาคต่อของการเยี่ยมชมใน EUCERIN SKIN INSTITUTE

ภาค 1 CLICK ภาค 2 CLICK

ฐาน3 ไปจับส่วนผสมทดสอบกันแบบถึงเนื้อถึงตัวของ HYALURON

น้องเป็นผู้หญิง ขาวใส ดูบริสุทธิ์ ผุดผ่องมากค่ะน้องไฮย่า

พี่ขอจับน้องหน่อยนะ 55555

ฐานนี้นั่งกันประชิดมาก เพราะเขาจะมาปาด น้องไฮย่า [ HYALURONIC ] ให้ถึงที่

เรารู้สึกว่าแม้จะใส ขาว บริสุทธิ์ แต่มีความเหนียว และ หนืดพอตัว และอุ้มน้ำ

คือชุ่มมือนานมาก ไม่ใช่อารมณ์น้ำมัน แต่เหมือนเจลใสที่มีความหนึบ และชุ่มมาก

อย่างที่บอกว่าเป็นส่วนผสมหลักของ สูตร HYALURON FILLER ซึ่งสกัดจากแบคทีเรีย

จะเป็นผงนำไปผสมGLYCINE SAPONIN + น้ำ ทำให้เป็นเจลอีกที 

มั่นใจได้ว่าไม่มีสัตว์น้อยใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องตามนโยบายโลกสวยของ EUCERIN

ไม่ทดสอบ ไม่ทดลองในสัตว์ แล้วเขาก็นำเจลไฮย่าลงไปผสมในครีม ก่อนนำไปเทส

ไปทดสอบการเปลี่ยนแปลงเวลาอุณหภูมิเปลี่ยน ไปทดสอบในผิวมนุษย์จริง

เอาละเมื่อได้เล่นกับไฮย่าอย่างสนุกสนาน เราก็พักทานอาหารรสเลิศ ที่อุดมไปด้วยสุขภาพ

มีทั้งปลา เต้าหู้ น้ำผักที่หายาก แต่มีประโยชน์ ขอโทษที่ไม่มีรูปเพราะหิวจัด

กินเสร็จไปถ่ายรูปเล่นแถวหน้าเวที คุณหมอนลินี บำรุงราษฎร์ เป็นช่างกล้องให้ อิอิ

และแอบถ่ายแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ EUCERIN HYALURON FILLER ตัวจริง38 ยังเป๊ะ

คุณ ซอนย่า คูลลิ่ง COOL มากกกกกกก นิสัยน่ารักเวอร์

เอาละไปลุยกันต่อ ทานข้าวอิ่มแล้ว ไปฐาน 4 ชมร้านยากัน 🙂

ฐาน4 ไปทัวร์ร้านยาเยอรมันกัน

ร้านขายยาในนี้ ชื่อว่า AM DERMATOLOGIKUM อย่าถามออกเสียงยังไงนะ ไม่รู้ 55

สังเกตุภาพผนัง ชวนให้เดินเข้ามาแล้วรู้สึกว่ามันมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ข้างในใหม่กิ๊ก

ซึ่งแตกต่างจากร้านข้างนอกมาก ดูคลาสสิค แต่แอบไปด้วยความ HIGH ของ

เทคโนโลยี และ การบริการ ที่นี่เป็นของเอกชน ไม่ใช่ของ EUCERIN

นอกจากจัดสถานที่ให้เห็นถึงศักยภาพที่แตกต่าง น่าเชื่อถือ

จุดเด่นมีเภสัชกร หรือ แพทย์ผิวหนังให้คำปรึกษาได้

ภายในจะมีผลิตภัณฑ์มากมาย หลายแบรนด์ที่เรารู้จักและเคยเห็นกันในเมืองไทย

ที่นี่เป็น PARTNER ของ EUCERIN เราถือว่าเขาใจกว้างมากนะ เพราะเปิดโอกาส

แบรนด์คู่แข่งให้มีสิทธิ์เขามาวางขายในนี้ และ วางในจุดระดับเด่นที่ดึงดูดสายตาได้

ปรบมือเลย น้ำใจนักกีฬามาก ที่นี่นอกจาก ยา จะมี สกินแคร์ เครื่องสำอาง ฯลฯ

ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เราไปวิเคราะห์สภาพผิวกัน ถ้าคนที่มาซื้อสกินแคร์มีปัญหาผิวหนัง

เภสัชกรก็จะแนะนำเดินไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังฝั่งตรงข้ามเลย จุดเด่นอีกอย่างมีห้องกระจก

จะเห็นหมดเขาจัดยาอะไรให้เราด้านใน ทำอะไรดูโปร่งใส ชัดเจน ถ่ายทอดสด 55

ฐาน5 เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดของEUCERIN HA FILLER

เป็นผลสรุปสั้นๆนะคะกลัวเพื่อนๆงงกันค่ะ บางคนอาจจะมองว่าสูตร

EUCERIN HYALURON FILLER มันออกมา 10 ปีแล้ว มันมีอะไรใหม่เหรอ

งานวันนี้จุดสุดยอดอยู่ 2 ฐานสุดท้ายนี้ละ Dr. Nicola

เปิดเผยตัวไฮย่าเพิ่งได้พบการวิจัยใหม่

สอดคล้องกับวิธีการชะลออายุของเราในปัจจุบัน คือ การฉีดฟิลเลอร์

เพื่อเติมเต็มร่องลึก และ ทำให้เราดูอ่อนเยาว์ลงไปโดยเมื่อใช้คู่กับ

สูตรไฮย่านี้ซึ่งผลิตโดยเทคโนโลยีนาโนที่อัดไฮย่าในระดับเล็กมากเพื่อให้ซึม

ลงไปสร้างคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้จริงๆ

ซึ่งปกติครีมทั่วไปมักซึมอยู่แค่ชั้นกำพร้า

และทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่นานขึ้นกว่าปกติ


มาดูผลทดสอบบางส่วนกันดีกว่า

ผลงานวิจัยกล่าวถึงการทดสอบ

การใช้ EUCERIN HYALURON FILLER + การฉีดฟิลเลอร์

เส้นสีฟ้าเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเฉยๆ

เส้นสีน้ำเงินเป็นการฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

ในเรื่องริ้วรอยข้างดวงตาจะเห็นได้ว่าสัปดาห์ที่ 7 เป็นต้นไปผลลัพธ์การคงตัวด้านที่

ฉีดฟิลเลอร์ + ใช้ผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER หลังใช้ไปซักระยะจะช่วย

พยุงทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และ คงตัวตื้นมากกว่า ฉีดแค่ฟิลเลอร์เพียวๆ

รวมถึงความชุ่มชื่นของผิวเมื่อวัดแล้ว ถ้าเราฉีด + ใช้ผลิตภณฑ์ HA ด้วย

ผิวชุ่มชื่นขึ้นกว่า ผิวไม่แห้งเท่าฉีดฟิลเลอร์HAเฉยๆ

ทั้งนี้รวมถึงความเรียบเนียนของผิวเมื่อฉีด+ใช้ ก็ดีกว่าด้วย

ที่เขาไม่ได้วิจัยเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 ปีก่อนในความคิดเอิ๊กคิดว่าฟิลเลอร์พึ่งมาบูมมากจริงๆ

ไม่ถึง 5 ปี แต่อย่าลืมว่าชะลอได้ ไม่ใช่ช่วยได้ 100% แต่นับว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมือนกัน

ที่เมื่อเราเสียเงินฉีดฟิลเลอร์ไป แล้วรอให้มันสลายหมดแล้วเติมใหม่

ถ้าเราใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ชนิดทา ซึ่งราคาถูกกว่าจะคงผลได้ดีกว่า และ ยืดกว่าได้

แม้เล็กน้อยก็มองว่าเทคโนโลยีเขาล้ำเหมือนกัน ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ลงไปกระตุ้น

การสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ได้จริงๆ เราจะเห็นน้อยครีมนัก

ฐานสุดท้าย

ฐาน6 เจาะลึกการทำผลวิจัยเกี่ยวกับ EUCERIN HYALURON FILLER

ได้รับเกียรติจาก Dr. Frank Rippke – MANAGER SCIENTIFIC ENDOSMENT

 

มาเล่าถึงขั้นตอนที่ 1 การทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง47คน อายุเฉลี่ย 51.7 ปี

โดยไม่ได้บอกว่าข้างไหนเป็นผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

แต่จะใช้ทาทั้งสองข้างในจำนวนชิ้นผลิตภัณฑ์ที่เท่ากัน

ทั้ง DAY-NIGHT CREAM FLUID EYE CREAM

ครึ่งหน้าทาของจริง-ครึ่งหน้าทาครีมที่ไม่มีส่วนผสมอะไรอยู่เลย

ทดสอบกันยาวมากกว่าทุกตัวที่เคยทดสอบ คือ เกือบ 5 เดือนเต็มเพื่อดูผลลัพธ์

เนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้เวลาเป็นเดือนๆ ไม่ใช่จะได้ผลทันทีที่ทา

ขั้นตอนที่ 2 ก็จะทาผลิตภัณฑ์จริงครึ่งหน้า อีกครึ่งทาที่ไม่มีส่วนผสมอยู่ ทากันถึง 1 เดือนเต็ม

จากนั้นสัปดาห์ที่ 5 จะฉีดสารฟิลเลอร์ที่เป็น HYARULONIC ACID

เข้าไปทั้งสองฝั่งของใบหน้าและฉีดอีกทีสัปดาห์ที่ 7

ระหว่างนั้นเก็บผลตลอดระยะเวลาการทดสอบ

ในรูปจะบรรยายรอยตีนกา แล้วจะสังเกตุผลของผลิตภัณฑ์ที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์จะเป็นยังไง

นับการมีประสิทธิภาพที่เราวิจัยคือ 14 สัปดาห์ เพราะ 4 สัปดาห์แรกเราทาทดสอบโดย

ยังไม่มีการฉีดฟิลเลอร์เข้าไป

ขั้นตอนที่ 3 วัดผลแบบเจาะลึก ทั้งความชุ่มชื่น ริ้วรอย

การส่งเสริมประสิทธิภาพการฉีดฟิลเลอร์ ความอยู่ทนทานที่มันเสริมให้กับการฉีด

สรุปเมื่อทั้งทาผลิตภัณฑ์ EUCERIN HYALURON FILLER

+ ฉีด HYALURON

เห็นชัดว่ารอยย่นข้างที่ฉีด + ทาริ้วรอยน้อยกว่าฉีดอย่างเดียวจริงๆ เห็นชัดมากก

ค่ำคืนวันนั้น ก็ได้ทั้งเซ็ตมา ไม่พูดพร่ำทั้งแผลเขาบอกกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ใช่ไหม

ใช้ซะเลย อย่างบอกว่าตัวเซรั่มทาแล้วรู้สึกเหมือนหน้าเคลือบฟิลม์ชุ่มๆบางๆ และ

สูตรผิวแห้งนั้น เนื้อหนักอยู่เหมือนกัน เข้มข้นมากมากกว่าทุกสูตรที่ได้ลองมา

ผลจะเป็นยังไงจะมารีวิวนะคะ วันนี้ก็เล่าได้ยาวมาก จบละ จุดสุดยอดทั้ง 3 บลอค

บลอคหน้าเราจะไปชมเมือง ชมนก ชมไม้ ชมอะไรสวยๆที่ EUCERIN TRIP

พาไปเที่ยวกัน เยอรมันเป็นเมืองที่สวยมาก ดูไฮมาก ชอบมากกว่าอเมริกา

ไม่ชอบอย่างเดียวห้องน้ำไม่มีที่ฉีด 55555555555555555 แล้วพบกันบลอคหน้าค่ะ



 

Posted in SKIN, SKIN CARE, TRAVEL, WRINKLEComments (2)

ริ้วรอยกับทางแก้ – BEAUTY TALK

 

เ อิ๊ ก ไ ม่ เ ค ย ส น ใ จ เ รื่ อ ง นี้ จ น ก ร ะ ทั่ ง

ส่ อ ง ก ร ะ จ ก เ เ ล้ ว พ บ ใ ต้ ต า

บั ง เ กิ ด ” ริ้ ว ร อ ย “

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนมีปัญหา ขอโทษที่ลืมเขียนไป

 

เมื่อวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น

จะแสดงสีหน้าแบบไหนใบหน้าก็กลับมายืดหยุ่นราบเรียบดังเดิม

พอวัยที่เพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนเสื่อมสภาพลงไปทุกปี ชั้นหนังกำพร้าที่บางลง

การแสดงสีหน้า กลับทำให้เกิดรอยพับย่น ที่ลึกและชัดขึ้น นี่เรียกว่าเป็นริ้วรอยธรรมชาติ

ที่เกิดจากแสดงสีหน้า และ ช่วงวัยที่เพิ่มมากขึ้น “

รู้ได้อย่างไรผิวเราเริ่มเสื่อม ?

สำหรับใครที่ลองนอนตะแคง นอนเอามือกดทับบนใบหน้า นอนคว่ำ นอนซุกหมอน พอตื่นมาพบว่าใบหน้ามีรอยยับ ซึ่งไม่กลับคืนสู่สภาพปกติ เป็นเวลานาน นั่นหมายความว่า คอลลาเจนเริ่มเสื่อม ผิวเริ่มมีอายุ

ถึงแม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ แต่ความแก่และริ้วรอยก็เป็นเรื่องธรรมชาติ และคนเราย่อมต้องแก่เข้าซักวันถึงแม้จะพยายามอย่างที่สุดแล้ว เราคงไม่มีทางหยุดอายุหน้าให้อยู่ที่ 20 ได้ตลอดไป จึงควรพอใจแล้วถ้ามีคนทักว่า หน้าอ่อนกว่าอายุจริง อยากสวยอย่างธรรมชาติ ก็ต้องยอมมีริ้วรอยอย่างธรรมชาติบ้าง เพราะผิวหน้าก็ยังเป็นหน้า ไม่ใช่พลาสติก จะได้เรียบเนียนได้ 100% via @DrRungsima Twitter

 

 

ริ้วรอยบนใบหน้ามีกี่ประเภท 

  1. ริ้วรอยที่ปรากฎเฉพาะเวลาแสดงสีหน้า – อาทิ เวลาเรายิ้มเราจะพบตีนกาบริเวณหางตา หากเราไม่ยิ้มก็จะไม่เห็นรอยตีนกา
  2. ริ้วรอยที่ปรากฎตลอดเวลา – อาทิ รอยย่นหน้าผาก แม้ไม่ขยับใบหน้าก็ยังมองเห็น

สาเหตุของริ้วรอย

  1. การโดนแสงแดดมาก ๆ : เพราะแสงแดดเป็นตัวการกระตุ้นทำให้เกิดริ้วรอย ทำให้ดูแก่ก่อนวัย
  2. การใช้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า : เช่น เวลายิ้ม การขมวดคิ้ว เรื่องหน้าผากก็จะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ ถ้าเป็นรอยย่นที่พบบ่อยจากการใช้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า คือหางตา เช่นเวลาชมวดคิ้ว รอยย่นหน้าผาก ถ้าเป็นรอยย่นที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้าแล้วบางทีอายุ 20 ปีขึ้นไปก็อาจพบได้เช่นกัน
  3. อายุที่เพิ่มขึ้น : การเสื่อมของคอลลาเจนเพราะอายุ ชั้นหนังกำพร้าจะบางลง ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นชัด ประมาณอายุ 30 ขึ้นไป ริ้วรอยประเภทนี้อาจเป็นกรรมพันธุ์ ลองสังเกตดูหน้าคุณพ่อหรือคุณแม่ของเราเวลามีอายุ มีริ้วรอยคนในครอบครัวเดียวกันมักจะมีรอยย่นแบบเดียวกัน

การป้องกันริ้วรอย

  • รอยย่นที่เกิดจากแสงแดด
  1. ทากันแดดเพื่อปกป้องจากแสงแดดตั้งแต่อายุน้อยๆ แม้กระทั่งเด็กๆ พยายามเลือกประสิทธิภาพค่ากันแดดสูงๆหน่อยและก็ปริมาณการทาให้ทั่วหน้า หนึ่งข้อนิ้วมือหรือหนึ่งช้อนชา
  2. ใส่หมวก
  3. กางร่ม
  4. เลี่ยงแดดเท่าที่ทำได้
  • รอยย่นที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อแสดงสีหน้า
  1. ฝึกยิ้มหน้ากระจกยังไงไม่ให้เกิดตีนกา แล้วก็ไม่ย่นจมูก
  2. ไม่ขมวดคิ้ว ไม่มีอารมณ์โกรธ
  3. ใส่แว่น หรือ คอนแท็คเลนส์ ถ้าสายตาสั้นหรือยาวจะได้ไม่ต้องเหลือกคิ้ว,หยีตาบ่อย ก็จะไม่เกิดรอยย่นหน้าผากหรือตีนกาเร็ว
  4. การออกกำลังกาย ช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จิตใจสบาย ลดความเครียด ส่งผลทางอ้อม
  • รอยย่นที่เกิดจากวัย ยังไงก็มา ทำใจ ชะลอให้ช้าลงได้ตาม 2 รอยย่นด้านบน
วิธีการรักษาริ้วรอยจากขั้นตอนง่าย>ยาก
  • ริ้วรอยน้อย ๆ  ไม่มาก : สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ครีมที่มีส่วนผสมชองกรดวิตามินเอ kinetin argireline ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่าสามารถลดริ้วรอยได้จริง และกรดผลไม้มาทาได้ จะช่วยการลอกเซลล์ด้านบนออกไป และ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เร็วขึ้น ซึ่งกรดวิตามินเอมีงานวิจัยรองรับในการรักษาริ้วรอยตื้นๆได้จริง เพราะฉะนั้นก็จะทำให้ริ้วรอยเล็ก ๆ หายไปได้ ถ้าเป็นกรดวิตามินเออาจจะต้องมีแพทย์สั่ง ส่วนใหญ่กรดผลไม้ [ อาทิ AHA BHA ] มักจะผสมอยู่ในเครื่องสำอางค์ตามเคาท์เตอร์เครื่องสำอางค์หลายยี่ห้อ แต่ประสิทธิภาพจะสู้กรดวิตามินเอไม่ได้
ข้อดี หาซื้อง่าย ราคาถูก ใช้ง่าย ต้องทา 3 เดือนขึ้นไปหรือมากกว่านั้น
ข้อเสีย ทำให้หน้าแห้ง ลอกเป็นขุย ถ้าคนที่แพ้มากๆ จะทำให้ขึ่นผื่นแดง คันแสบ ระคายเคือง
  • ริ้วรอยปานกลาง : อาจหมายถึงริ้วรอยที่เห็นได้เวลาแสดงสีหน้า ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไฮยาลูลอน และ โคเอนไซคิวเทน [ Co-enzyme Q10 ] สำหรับไฮยาลูลอนเป็นสารเติมเต็ม หลักการคือจะซึมลงไปในผิวหนัง และตัวมันเองจะดูดน้ำเข้ามา มันจะอุ้มน้ำได้เยอะ จึงทำให้ริ้วรอยที่มีอยู่มันเต็มขึ้นมา / Q10 ช่วยเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ลดการเสื่อมของเซลล์ผิวหนังได้ดีเมื่อได้รับแสงแดด และมีงานวิจัยว่าสามารถลดริ้วรอย และ ร่องลึกให้ตื้นขึ้นได้
ข้อดี ไฮยาลูลอนจะอุ้มน้ำได้ดี ไม่ค่อยทำให้เกิดการระคายเคือง หรือแพ้ / Q10 จะต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว ช่วยชะลอริ้วรอยได้ หาซื้อง่ายผสมในครีมหรือเครื่องสำอาง
ข้อเสีย ราคาจะสูงกว่ากรดวิตามินเอ กรดผลไม้ ประสิทธิภาพในการซึมขึ้นกับเทคโนโลยีการผลิต ยิ่งโมเลกุลเล็ก ยิ่งซึมและเห็นผลดียิ่งขึ้น
  • ริ้วรอยร่องลึกชัดเจน : ริ้วรอยที่อาจจะเห็นชัดแม้ไม่แสดงสีหน้่าก็ตาม และ อาจไม่สามารถเยียวยาด้วยครีมได้  เราอาจจะพบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการฉีดสารโบทูลินูมทอกซิน ฉีดสารฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็ม สำหรับโบท็อกซ์ คือ จะไปยับยั้งการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นกล้ามเนื้อมัดๆจะใช้งานไม่ได้ เป็นอัมพาตชั่วคราว เมื่อไม่ได้ใช้งาน กล้ามเนื้อจึงมีการคลายตัว หรือ มีขนาดเล็กลง  รอยย่นก็จะไม่ลึกและไม่มากเท่าเดิม / ฟิลเลอร์ คือ เอาไว้เติมร่องลึก เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม บางคนพอสูงอายุขึ้นแล้วแก้มตอบ ขมับยุบ เพราะว่าอิลาสติก และ คอลลาเจนในผิวหนังมันหาย เราก็จะฉีดให้เต็มตื้นขึ้นมาได้ทันที / เลเซอร์ หรือ คลื่นความถี่วิทยุ [ RF ] ปล่อยพลังงานแสง หรือ คลื่นความถี่วิทยุลงบนริ้วรอยบนใบหน้า หรือรอยย่นเล็กๆ เพื่อลอกเซลล์ผิวชั้นบนแล้วผลพลอยได้คือความร้อนใต้ชั้นผิวที่เกิดจากแสงคลื่นวิทยุ หรือ แสงเลเซอร์ ก็จะด่ำดิ่งลงไปผิวหนังชั้นลึกที่ตรงจุด นอกจากกรอผิวเพื่อทำให้เกิดการสร้างผิวใหม่ ผลจะชัดเจนอยู่ยาวกว่า และ ความร้อนเหล่านั้นกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น และ มีสุขภาพที่ดีขึ้น

ข้อดีการฉีดโบทูลินูมทอกซิน รักษาริ้วรอยสำหรับการแสดงสีหน้าได้ดี และป้องกันการเกิดริ้วรอยที่เป็นอยู่ได้อย่างเห็นผลลัพธ์

ข้อเสียการฉีดโบทูลินูมทอกซิน  ไม่ถาวร ต้องรับการฉีดซ้ำทุก 3 – 4 เดือน ถ้าฉีดมากไปก็จะไม่เป็นธรรมชาติ หรือแม้กร่ะทั่งฉีดไปโดนกล้ามเนื้อที่เราไม่ต้องการ เช่นยาไปไหลลงกล้ามเนื้อตรงเปลือกตาทำให้ตาตก หรือตาปิดได้ หรือปิดตาไม่สนิท ถ้าบางคนฉีดแก้ม ก็อาจหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว จึงต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้า [ Anatomy ]

ข้อดีการฉีดสารฟิลเลอร์ รักษาริ้วรอยและร่องลึกที่เห็นชัดแม้ไม่แสดงสีหน้่ได้ดี อาทิ ร่องแก้ม ร่องลึกริ้วรอยข้างดวงตา แต่มีข้อเสียคือไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน และต้องฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญ

ข้อเสียการฉีดสารฟิลเลอร์ ไม่ถาวร ต้องรับการฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือน โอกาสแพ้มีเหมือนกัน แต่พบได้น้อยมาก เช่นสาร hyaluronic acid รุ่นใหม่ โอกาสแพ้คือ 1 ใน 2000 ราย ความปลอดภัยรุ่นใหม่จะค่อนข้างสูง การฉีดฟิลเลอร์เป็นเทคนิคการฉีดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน เรื่องของมีอาการฟกช้ำดำเขียวบวม เป็นเรื่องปกติที่จะหายไปเอง 3-7 วัน แต่ถ้าฉีดมากไปไม่เป็นธรรมชาติ อาจจะเป็นก้อนปูดนูน หรือว่าใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ถูกต้อง เช่นร่องเล็กๆ แต่ไปใช้ฟิลเลอร์โมเลกุลใหญ่ฉีดไปก็อาจเกิดตะปุ่มตะป่ำ เป็นก้อนเป็นไต อีกทั้งถ้าเทคนิคการฉีดที่ไม่สะอาด ก็จะเกิดการติดเชื้อ เป็นหนอง อาจจะเน่าได้ ถ้าบางคนแพ้จะพบรอยแดงจนกว่าฟิลเลอร์จะหมดฤทธิ์ อีกเรื่องนึงก็คือถ้าฉีดเข้าไปในเส้นเลือด ถ้าฉีดไม่ระวังแล้วไปเข้าเส้นเลือดก็อันตราย เพราะฟิลเลอร์เวลาฉีดมันเป็นเจลใสๆ ถ้าเราฉีดมันจะเข้าไปในเส้นเลือดก็จะอุดตัน  ถ้าเกิดเป็นเส้นเลือดแดงจะสำคัญมาก เช่นดั้งจมูก ยาจะเข้าไปในเส้นเลือด ทำให้ตาบอดได้ ถ้าฉีดเทคนิคไม่ดี อาจทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นลอนได้

ข้อดีของการทำเลเซอร์ เลือกกรอผิวที่เป็นริ้วรอยได้สำหรับส่วนที่ต้องการให้เรียบเนียนได้ตรงจุด  ความร้อนจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มเติม ผลที่เห็นชัดเจน ยาวนานกว่า

ข้อเสียของการทำเลเซอร์ ราคาสูง ต้องทำหลายครั้ง แพทย์ต้องมีความชำนาญและประสบการณ์ที่มากพอ ผลกระทบหลังทำมีรอยแดงที่จะหายไปเอง และ บางคนถ้าผิวสีคล้ำมาก การกรอผิวอาจทำให้เกิดรอยดำหลังทำได้โดยภายหลังอาจรักษารอยดำนั้นให้หายได้ ผิวที่ขาวอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นหลังตกสะเก็ดเป็นสีชมพูที่อาจหายไปเองตามวันและเวลา ซึ่งบางทีก็นานเป็นปีระหว่างเนื้อเยื่อสร้างใหม่ขึ้นมา และ บางรายเกิดการด่างขาว จึงจำเป็นต้องใช้ทักษะในการทำมากพอสมควร ความลึกของการลอกผิวได้ในการกรอก็ขึ้นกับเครื่องของเลเซอร์ ถ้าลอกมากๆอาจจะมีเลือดซึมๆ หรือแผลสด มีการแสบร้อนซึ่งต้องทายาชาก่อนทำ เลเซอร์กรอผิว เช่น CO2/Erbium Yag/C&B

ข้อดีของการทำคลื่นความถี่วิทยุ [ RF ] ปัจจุบัน RF สามารถปล่อยพลังงานความร้อนรวมถึงทำการกรอผิวได้ โดยที่แผลเล็กมากแทบมองไม่เห็นตกสะเก็ด และ หลุดออกไป RFสามารถลงลึกถึงชั้นไขมัน นอกจากจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างดี ยังช่วยกระชับผิว ขับน้ำมันในเซลล์ไขมันให้ออก นอกจากแผลเล็ก หายไว ไม่เกิดผลกระทบ ไหม้ ดำ ด่างขาว ยังช่วยกระชับผิวได้ดี เช่น THERMAGE ULTHERA

ข้อเสียของการทำคลื่นความถี่วิทยุ [ RF ] ราคาสูง ต้องทำหลายครั้ง อาจจะรู้สึกร้อนๆใต้ผิว ไม่กี่ชั่วโมงจะหายไปเอง

ข้อแนะนำในการรักษาริ้วรอย

จะเห็นว่าทุกวิธีล้วนมีข้อดี และ ข้อเสีย

เราควรจะต้องศึกษาหาความรู้เบื้องต้นก่อนว่าริ้วรอยที่เกิดขึ้นนั้นเป็นริ้วรอยประเภทใด และ จะทำการรักษาด้วยวิธีไหนให้เหมาะสม แม้กระทั่งก่อนพบแพทย์ ก็จะต้องตรวจสอบประวัติแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงสถานที่รักษาพยาบาลที่ผ่านการตรวจสอบได้รับใบอนุญาตการรับรองจากกระทรวงสาให้เรียบร้อย

แล้วส่วนตัวคุณหมอนุสราใช้วิธีไหน เพราะยังดูอ่อนกว่าวัย และ ผิวพรรณดูกระชับทุกสัดส่วน

  1. ออกกำลังกาย
  2. มีการใช้ผึกใช้กล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดริ้วรอยน้อยที่สุดเวลาแสดงสีหน้่ เช่นฝึกยิ้มไม่ให้รอยย่น รอยยับบนใบหน้า
  3. มีอารมณ์ขันตลอดเวลา
  4. ทากันแดดทุกวัน

 

หาข้อมูลทำด้วยเกือบ 4 วันเพราะกลัวแก่ วันนี้ลาไปก่อน กับเอิ๊ก – เอิ๊ก ตอน 80 ปีค่ะ 5555

 

ต้องขอขอบพระคุณเนื้อหาจาก

– เทปสัมภาษณ์แพทยหญิงนุสรา วงศ์รัตนภัสสร แพทย์ที่ปรึกษา ISKYCENTER

– @DrRungsima Twitter

รูปภาพประกอบจาก

http://dvdetectiveconsultor.tumblr.com/

beautified.co

Posted in FACE, SKIN, WRINKLEComments (0)

สิวตามตำแหน่งต่างๆบนใบหน้าบอกอะไรเอ่ย ?

สิวในตำแหน่งต่างๆของร่างกายบอกอะไร ?

ศาสตร์เรื่องสิวมีหลายตำรามาก อันนี้ยกมาตำรานึงที่พูดถึงปัญหาสุขภาพ เพื่อใครที่เป็นสิวเรื้อรังขึ้นบริเวณเดิมๆ ลองดูสิ ว่ามีปัญหาภายในอะไรรึเปล่า ไม่นับสิวฮอร์โมนนะจ๊ะ อันนั้นขึ้นบริเวณเดิม ตำแหน่งเดิมปกติอยู่แล้ว และสิวที่เราจะมาพูดในวันนี้จะบอกถึงปัญหาสุขภาพภายในได้แม่นยำขนาดไหนต้องลองอ่าน และ อาจจะสังเกตุดูค่ะ

 

ส่วนที่ 1 สิวบริเวณใบหน้า

ตำแหน่งต่างๆบอกว่าเราอาจจะมีปัญหาสุขภาพภายใน

[ ภาพจากเว็บพี่บีม MarryBeam ผู้เชี่ยวชาญการรักษาสิวภายใน ]            

 

–  บริเวณหน้าผาก ( โซนที่ 1 และ 3 )

การเกิดสิวในบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต                       

สาเหตุ มาจากการมีความเครียดสูง  / การทารองพื้นที่หนาเกินไปและการแต่งหน้าบริเวณคิ้วมากไปแล้วล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด ก่อให้เกิดเป็นสิวขึ้นบริเวณนี้ได้เช่นกัน

วิธีการแก้ไข 

  1. ควรผักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ตับทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 
  2. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพราะการดื่มน้ำจะช่วยเรื่องของการขับถ่ายและย่อยอาหาร
  3. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที รวมถึงหากิจกรรมต่างๆเพื่อคลายความเครียด
  4. ล้างเครื่องสำอางหรือแชมพูสระผมให้สะอาด หากมีการใส่หมวกเป็นประจำควรมีการทำความสะอาดหมวกให้สะอาดอยู่เสมอ

 

บริเวณกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว ( โซนที่ 2 )

ปัญหาหลักอาจเกิดจากระบบการทำงานของตับ รวมไปถึงปัญหาของการย่อยสารอาหารจำพวกแลกโตส ซึ่งอยู่ในนมวัวหรืออาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว

สาเหตุ เกิดจากการทานอาหารรสจัด และการทานอาหารดึกเกินไป รวมถึงรับประทานอาหารผลิตภัณฑ์นมวัวเพราะย่อยยากกว่าพวกนมถั่วเหลือง

วิธีการแก้ไข

  1. หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด หรือการทานอาหารในช่วงดึก
  2. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่

 

บริเวณหูทั้งสองข้าง  ( โซนที่ 4 และ 10 )

การเกิดสิวในบริเวณนี้เกิดขึ้นจากปัญหาเรื่องการทำงานของไต และอุณหภูมิในร่างกายที่สูงเกินไป 

สาเหตุ เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม กาแฟหรือการกินเนื้อสัตว์มากเกินไป นอกจากนี้ยังเกิดจากการล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด รวมไปถึงการใช้โทรศัพท์มือถือที่มากเกินไปก็มีส่วนดังนั้นควรทำความสะอาดโทรศัพท์ หรือ มือถือเป็นประจำ

วิธีการแก้ไข

  1. หลีกเลี่ยงอาการที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด อาหารประเภท fast food, junk food ต่างๆ
  2. ทานผัก ผลไม้ที่ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มกากใยช่วยย่อยทำให้ร่างกายขับของเสียและความร้อนออก เช่น  แตงกวา แตงโม น้ำเต้า เป็นต้น
  3. รักษาความสะอาดบริเวณใบหูอย่างดี ล้างแชมพูและสบู่ให้หมดจด รวมไปถึงงดการใช้โทรศัพท์เป็นเวลานานเมื่อเกิดสิวบริเวณดังกล่าว

 

บริเวณแก้มทั้งสองข้าง ( โซนที่ 5 และโซนที่ 9 )

สิวบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ไซนัสและปอด 

สาเหตุ มาจากการสูบบุหรี่จัดหรือการแพ้ควันบุหรี่ มีอาการภูมิแพ้หรือหวัดเรื้อรัง การเลือกใช้รองพื้นที่ไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดจากการแพ้อาหารทะเล รวมถึงการแพ้ปอกหมอน

วิธีการแก้ไข

  1. ลดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่แออัด เสี่ยงต่อการสัมผัสฝุ่นละอองและควันบุหรี่
  2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทที่มีน้ำตาลและน้ำอัดลม
  3. ฝึกการออกกำลังกายเพื่อบริหารปอด เช่น การเต้นแอโรบิค ในช่วงเวลา 19.00-21.00 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปอดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  4. พยายามฝึกการขับถ่ายให้เป็นระบบและเป็นเวลา
  5. ดูแลความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าอื่นๆให้สะอาดอยู่เสมอ
  6. หากรู้สึกว่าสิวเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานอาหารทะเล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
  7. ทำความสะอาดปลอกหมอนอย่างสม่ำเสมอ

 

บริเวณรอบดวงตาซ้ายและขวา ( โซนที่ 6 และโซนที่ 8 )

ปัญหาการเกิดสิวในบริเวณนี้เกิดจากการความผิดปกติของไต ปัญหาเรื่องโรคภูมิแพ้

สาเหตุ มาจากการเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือการใส่แว่นตาที่มีการเสียดสีกับรอบดวงตาจนเกิดเป็นสิวขึ้น การมีสารตกค้างในร่างกายมากเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงการระคายเคืองที่เกิดจากอาการภูมิแพ้และการการขาดสารอาหารที่จำเป็น

วิธีการแก้ไข

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินสูงจำพวก ผลไม้
  2. เลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว
  3. ทำความสะอาดแว่นตาที่ใช้สม่ำเสมอ

 

บริเวณจมูกและริมฝีปาก ( โซนที่ 7 )

มีผลมาจากปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ ระบบสืบพันธุ์ (การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน) ซึ่งหากมีมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจส่งผลมาจากระดับความดันเลือดสูงผิดปกติ

สาเหตุ มาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน และช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด นอกจากนี้ยังเกิดจากการแพ้ลิปสติกหรือยาสีฟัน

วิธีการแก้ไข

  1. งดอาหารที่มีรสจัดและมีส่วนผสมของเครื่องเทศและกระเทียม
  2. ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ให้น้อยลง
  3. ดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ ( ไม่อุ่นหรือแช่เย็น )
  4. เลือกทานอาหารที่มีวิตามินบีสูงในระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  5. เปลี่ยนลิปสติกหรือยาสีฟันที่ใช้เป็นประจำ

 

บริเวณด้านข้างของคางหรือช่วงกราม ( โซนที่ 11 และ 13 )

เกิดจากปัญหาเรื่องของระบบฟันและโดยเฉพาะกรามฟัน 

สาเหตุ อาจเกิดจากการขาดวิตามิน หรือเกิดจากหลังจากการทำฟัน หรืออยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนฮอร์โมน

วิธีการแก้ไข

  1. แปรงฟันและดูแลสุขภาพฟันให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการทำฟัน
  2. กินผักและผลไม้มากขึ้น
  3. มั่นตรวจสอบความผิดปกติของฮอร์โมน เมื่อมีสิวขึ้นบริเวณดังกล่าวผิดปกติ

 

บริเวณปลายคาง ( โซนที่ 12 )

มีผลมาจากระบบลำไส้เล็กและระบบการย่อยของกระเพาะอาหาร

สาเหตุ การเกิดสิวบริเวณนี้เกิดจากการเลือกทานอาหารที่มีรสจัดจนลำไส้เป็นแผล และปัญหาการดูดซึมอาหารของกระเพาะอาหาร

วิธีการแก้ไข

  1. ลดการทานอาหารที่มีรสจัด
  2. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนเพื่อง่ายแก่การย่อยของกระเพาะอาหาร 

 

บริเวณใต้คาง ( โซนที่ 14 )

สิวบริเวณนี้เกิดจากเรื่องของความเครียดเป็นหลัก รวมไปถึงความสะอาดของบริเวณดังกล่าว

สาเหตุ มาจากความเครียดของผู้เป็นสิว และการล้างเครื่องสำอาง หรือการล้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวไม่สะอาด

วิธีการแก้ไข

  1. หากิจกรรมคลายเครียดหรือหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะก่อให้เกิดความเครียด
  2. ล้างเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้สะอาด ไม่ให้ตกค้างในผิว

 

ส่วนที่ 2 สิวบริเวณลำตัว

 

สิวที่แผ่นหลัง

การเกิดสิวที่หลังมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนในร่างกาย  การอับชื้น การระคายเคืองของผิวหนังและปัจจัยสำคัญในการเกิดสิวอีกอย่างคือ การใช้ชีวิตประจำวันของเราเอง

สาเหตุ เกิดมาจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของร่างกายโดยตรง เพราะแผ่นหลังเป็นจุดที่ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานหนัก จึงง่ายต่อการเกิดสิว นอกจากนี้การใช้ชีวิตประจำวัน การไม่รักษาความสะอาดก็ก่อให้เกิดสิวที่แผ่นหลังได้ง่ายเช่นกัน เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด การใช้ผ้าปูที่ไม่สะอาด เป็นต้น เมื่อเกิดความไม่สะอาดสะสมที่บริเวณแผ่นหลังจึงก่อให้เกิดการหมักหม่มของของเสียที่ขับออกมาได้ ทำให้เกิดเป็นสิวขึ้น  อาจเกิดมาจากกรรมพันธุ์ได้อีกสาเหตุหนึ่งด้วย

วิธีการแก้ไข

การรักษาสิวที่แผ่นหลังสามารถทำได้หลายวิธี โดยอันดับแรกต้องหาสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังให้ได้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อให้ง่ายต่อการรักษา เมื่อรู้สาเหตุแล้วก้อควรแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น หากเกิดสิวเพราะความสกปรกหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรรักษาความสะอาดของร่างกายสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็นแชมพู หรือครีมนวดผม รวมไปถึงสบู่ก้อควรล้างให้สะอาดด้วย ไม่ให้ตกค้างที่แผ่นหลัง

หากสิวที่แผ่นหลังเกิดจากปัญหาเรื่องของฮอร์โมน ก็ควรเลือกรักษาให้ตรงจุด ซึ่งการใช้เลือกรักษานั้นมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาในการรักษา คือ ยาที่ใช้ทาหรือพ่นบริเวณที่เกิดสิว การทานยาเพื่อช่วยลดระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งการเป็นสิวที่แผ่นหลังนั้นสามารถรักษาโดยใช้ยาแบบเดียวกับที่ใช้บริเวณใบหน้า ซึ่งการรักษานี้สามารถทำได้หลายวิธี แต่หากรักษาด้วยตนเองแล้วไม่ดีขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไป

ส่วนตัวเอิ๊กเองเวลารักษาสิวที่หลังและหน้าอก

  1. อาบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดก่อนใส่เสื้อผ้า
  2. สระผมอย่าให้โดนแผ่นหลัง หรือ หน้าอก ให้ก้มหัวสระ
  3. สระผมก่อนแล้วค่อยถูสบู่เป็นลำดับสุดท้ายล้างน้ำเปล่าให้มากๆ
  4. เมื่อเช็ดตัวแห้งแล้วทายารักษาสิวทั้งหน้าอกหรือหลัง แล้วรอให้แห้ง
  5. หลีกเลี่ยงกันแดดที่อุดตัน หรือ ครีมบำรุงผิวที่อุดตัน
การรักษาสิวที่แผ่นหลังอาจไม่หายถาวร ขึ้นกับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ การมีสิวที่หลังไม่ได้หมายความว่ารักษาความสะอาดไม่ดีพอ เพราะอาจเป็นส่วนผสมจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือ ครีมนวดผมที่ตกค้างอยู่บนเส้นผม ผสมเหงื่อก็ทำให้กลับมาเป็นอีกได้

 

 

ที่มา

http://bye-bye2acne.blogspot.com/

http://www.skinacea.com/acne/acne-face-map.html#.UI6YoG8j6So

http://webboard.ladytips.com/topic/9034

Posted in ACNEComments (4)

BEAUTY TALK – ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์

ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นเพราะเอิ๊กเองได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปลายคางจึงอยากเล่าสู่กันฟัง

จุดประสงค์ในการฉีดเนื่องจากใบหน้าที่สั้น กลม แก้มเยอะ อยากทำให้ดูมีคางเพราะหน้าจะได้ดูยาวขึ้น เป็นผู้หญิงที่อยากสวยแต่กลัวเจ็บตัว กลัวการผ่าตัด เลยเลือกการฉีดฟิลเลอร์ ประเภทไฮยาลูลอน ที่มีในร่างกายและสลายไปได้เองในระยะเวลาไม่ยาวนานมากนัก เผื่อวันนึงชอบตัดสินใจทำคางจริงๆก็ยังไม่สาย ไม่ได้ANTYการศัลยกรรม แต่กลัว 555 คนทำสวยเราก็ว่าสวยดี บางคนงานล้นเลย ดังในพริบตา แต่เราคิดว่าในชีวิต อยากทำแค่ 2 สิ่ง คือ คาง และ … ไม่บอก 5555 ตอนนี้ก็ทำใจไปเรื่อยๆก่อน ยิ่งเกิดเหตุการณ์ฟิลเลอร์ส่งผลข้างเคียงนี้อยากจะบอกว่า ตอนนี้ในใจไม่อยากทำอะไรอีกเลย อยากได้คางเก่าคืนมาก่อน อยากเอาคางสั้นๆแบบเดิมกลับมา ในหัวมีแต่ความกลัว บอกตรงๆ ….. อยากสวยจนได้เรื่องสิน่า ……

ก่อนฉีดวิเคราะห์รูปหน้า : ดูมีแก้ม คางดูสั้น แต่ไม่ได้สั้นมาก ความอยากในใจ อยากคางยาวกว่านี้ เผื่อหน้าจะดูยาวขึ้น

หลังฉีดครั้งแรก : ฉีดครั้งแรกผ่านไปไม่ถึง 3 เดือน ไม่มีผลข้างเคียงใดใด ขึ้นนิดนึงทำให้หน้าดูยาวขึ้นนิดนึงกว่าก่อนฉีด เพราะคุณหมออยากให้ธรรมชาติ อาจจะธรรมชาติมาก 555 แล้วก็ยุบจากไปเร็วมากมาก ทำให้เรายังรู้สึกว่าไม่พอใจกับผลที่ได้ แต่รู้สึกดีใจที่ เออ ฟิลเลอร์ ฉีดแล้วมันก็ยุบได้เลยนะ ไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย หลังฉีดแค่บวมนิดนึงซัก 3 วัน นั่นเป็นเหตุผลที่  ครั้งแรกนี้เอิ๊กฉีดกับ ผศ.พญ. รังสิมาที่ ISKYCENTER หนองแขม

หลังฉีดครั้งที่สอง : คางเรียวยาวเป็นสามเหลี่ยม ในชีวิตตอนนี้คิดว่าหน้าตาตอนนี้ดีที่สุด (หลายคนอาจจะบอกไม่จริง original ดีที่สุด) ตอนนี้รู้สึกดีมาก ก.ไก่ อีกล้านตัวเลย แต่ผลข้างเคียงอันดับแรกของเอิ๊กที่ปัจจุบันยังไม่หาย คือ การเปลี่ยนสีของบริเวณที่ฉีด เป็นสีแดงตลอดเวลา เนื่องจากเส้นเลือดฝอยมารวมตัวกัน ประเมินจากคุณหมอได้คร่าวๆว่า อาจจะมาจากการแพ้ฟิลเลอร์ของเอิ๊ก ให้แก้โดยการยิงเลเซอร์กำจัดเส้นเลือดฝอย ซึ่งเอิ๊กก็ทำ ก็ดีขึ้นแต่ไม่หายสนิท คุณหมอบอกว่าฉีด filler Perlane ในขนาด 1 หลอด ซึ่งผลหลังฉีดจะดูบวมยาวกว่าของจริงประมาณ 2-3 วัน ค่อยเข้ารูปพอใจมากๆ อยากให้หน้าดู V-SHAPE สมใจเลย และเทคนิคการฉีดเข้าไปประมาณ 3 ครั้ง ก่อนปั้นให้เข้ารูป ฉีดตรงกลาง ข้างซ้าย ข้างขวา และเอิ๊กก็กินน้ำน้อยเหมือนเดิม ไม่รู้เพราะสาเหตุนี้รึเปล่า เกิดผลข้างเคียงใหม่ตามมาคือ “คางบุ๋มเฉพาะที่” เนื่องจากปรึกษากับคุณหมออีกท่าน พบว่ามันสลายบางส่วน อาจจะเป็นจากเทคนิคการฉีด 3 ส่วนด้วย เพราะมีโอกาสที่พื้นที่ส่วนใดส่วนนึงจะสลายไปก่อน ส่วนที่ไม่สลายจึงดูสวยอยู่ก็เป็นได้ ครั้งนี้ฉีดกับ นพ. อภิรุจ THE KLINIQUE  เอิ๊กชอบผลลัพธ์มาก แต่ก็ผลข้างเคียงที่เกิดอาจจะเกิดที่ตัวเอิ๊กเองทานน้ำน้อยกระมัง เท่าที่อ่านหลายท่านก็บอกเพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ

คางปัจจุบัน

ส่วนที่เปลี่ยนสี แท้จริงคือมันบุ๋มลงไปค่ะ ขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเอิ๊กพูดจะเห็นเลยว่าคางเอิ๊กข้างนึงบุ๋ม

มันสร้างความวิตกกังวลกับเอิ๊กมาก เมื่อวันที่พบเห็นคือเมื่อช่วงตุลาคมที่ผ่านมากตอนไปเยอรมัน

ระหว่างอัด SOCIAL CAM รู้สึกมันเหมือนเป็นเงาเกิดขึ้นบริเวณคาง พอมองแล้ว โอว คางดิฉันบุ๋ม

ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอิ๊กอยากรู้ว่าเป็นเราคนเดียวหรือไม่ที่ฉีดฟิลเลอร์ผ่านอย.แล้วได้รับผลข้างเคียง

เลยลองโพสถามในแฟนเพจ erk-erk.com ปรากฎว่า

ก็มีบางคนที่พบ จึงอยากแชร์สู่กันฟัง

ล่าสุดเอิ๊กเดินทางไปเยอรมันกับ ผศ.พญ รังสิมา วณิชภักดีเดชา ซึ่งคุณหมอท่านฉีดฟิลเลอร์มากที่สุดคนนึง

ในบริเวณย่านฝั่งธนบุรี เอิ๊กก็กังวลใจ จึงขอปรึกษาทางแก้ คุณหมอบอกว่า

  • ไม่ให้ฉีดสลาย เพราะอาจจะสลายเนื้อเยื่อส่วนดีของเราไปด้วย
  • ใช้คลื่นความถี่วิทยุปล่อยความร้อนให้สลายเร็วขึ้น
  • ฉีดโบทอกคลายกล้ามเนื้อ ลดการหดตัวที่ทำให้เกิดคลื่น
ปัจจุบันทำวิธีใช้คลื่นวิทยุ RF เป็นตัว TRILIPO มาคลึงที่คาง ผลคือคางเรียบขึ้นแต่ไม่หายบุ๋ม คิดว่าน่าจะบุ๋มกว่านี้ เพราะถ้ามันทำให้สลายจริงมันก็จะสลายและบุ๋มลงเรื่อยๆ ตอนนี้จึงต้องดูแลกันไปก่อน ทนจนกว่าสลาย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขออนุญาตแชร์ผลข้างเคียงของการฉีด Filler ที่ได้หาข้อมูลมา มีตั้งแต่อาการที่รุนแรงไม่มาก ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็กลับมาหายเป็นปกติ จนกระทั่งถึงผลข้างเคียงที่มีอาการรุนแรงมากจนไม่สามารถกลับมาปกติเหมือนเดิม แต่การฉีดนั้นจะมีผลข้างเคียงที่มีระดับความรุนแรงมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยในการฉีด Filler เช่น

  • ชนิดของ Filler 
  • ประสบการณ์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ฉีด Filler
  • เทคนิคการฉีด Filler
  • การตอบสนองร่างกายคนไข้ในการฉีด Filler
  • สถานที่ให้รับบริการฉีด Filler ความสะอาด การฆ่าเชื้อ 

คนส่วนใหญ่ถ้าผ่านการเลือกตั้งแต่ชนิด Fillerที่ผ่านอย. แพทย์ เทคนิคแพทย์ ร่างกายตอบสนองดี ก็จะมีอาการปกติหลังฉีด คือ บวมไม่กี่วันแล้วก็หาย แต่คนส่วนน้อย เช่นเอิ๊ก ถือว่าเป็นผลข้างเคียงระดับน้อยถึงปานกลาง อย่างที่เล่าไปข้างต้น
จะลองแบ่งประเภทของผลข้างเคียงคหลังจากฉีด Filler เป็น 3 ระดับ ในความรู้สึกเอิ๊กนะคะในกรณีคนไข้

1. ผลข้างเคียงระดับน้อย

– มีรอยเขียวจากเข็ม อาจจะเป็นจ้ำเลือด รวมถึงอาการบวมบริเวณที่ฉีดไม่กี่วันก็หาย

– แพ้มีเส้นเลือดฝอยรวมกันอยู่เป็นกระจุดบริเวณที่ฉีด ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นสีแดง

– มีผื่นแดงขึ้น

2. ผลข้างเคียงระดับปานกลาง

– คลำไปเป็นก้อนขรุขระ เป็นคลื่น ผิวหนังไม่เรียบ พอแสดงสีหน้าก้อนฟิลเลอร์ก็นูนขึ้นมา

– หลังฉีดFillerไปซักพักพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างฟิลเลอร์มีการไหล รูปทรงเปลี่ยน รูปร่างเปลี่ยน

– ฉีดมาซักระยะอาจเกิดอาการแพ้ทำให้เป็นก้อน แดง นูน อักเสบ

– ผิวหนังรอบดวงตา เปลี่ยนสี อาจจะออกเป็นสีฟ้าๆ เทาๆ หรือม่วง

– หลังฉีด Filler อาจจะไม่สามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้เหมือนปกติ

– หลังฉีด Filler อาจจะแสดงสีหน้าไม่ธรรมชาติเหมือนก่อนฉีด เช่น เวลายิ้มถ้าฉีดคางคางก็ย้อยเป็นก้อนดูเกร็งๆ แข็งๆ

– มีอาการคันที่รุนแรง และอาจจะมีลมพิษขึ้นตามมาด้วย

3. ผลข้างเคียงที่มีความรุนแรงในระดับมาก

– หลังฉีด Filler มีอาการติดเชื้อ บางทีแพทย์จึงสั่งให้ทานยาปฎิชีวนะหลังฉีดเสร็จเพื่อป้องกัน

– หลังฉีด Filler พบว่าผิวหนังบริเวณนั้นตายรวมถึงผิวหนังบริเวณรอบๆด้วย สาเหตุมาจากสาร Filler เข้าไปอุดในบริเวณปลายเส้นเลือดที่จะนำเลือดไปเลี้ยงบริเวณผิวหนังบริเวณนั้น หรือ ในกรณีที่ปริมาณสาร Filler มากเกิน ก็จะไปกดเบียดบริเวณปลายเส้นเลือดให้ตีบลง จึงเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังตายได้

– หลังฉีด Filler ตาบอด เพราะสาเหตุสาร Filler เข้าไปอุดตันในบริเวณเส้นเลือดทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงที่จอประสาทตา จึงทำให้ตาบอด

– อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

นี่คือเหตุผลที่ต้องออกมาเขียนเรื่องนี้เพื่อให้ทุกคนพยายามหาข้อมูลให้มากและดียิ่งขึ้นค่ะ

แหล่งข้อมูล :

– ทวิตเตอร์ @DrRungsima

– ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– http://www.realself.com/files/528337-504567.JPG

– http://www.guardian.co.uk/lifeandstyle/2010/jul/18/cosmetic-surgery-cowboys-face-lawsuits

– http://www.livestrong.com/article/138088-side-effects-wrinkle-fillers/

– http://gamesbbclinic.blogspot.com/2012/04/filler.html

– ประสบการณ์ตรง

Posted in FACEComments (2)

ลดแก้มด้วยวิธีที่ 3 – TRILIPO คลื่นความถี่วิทยุแบบ 3 ขั้ว

อยากให้แก้มลดลงแต่ไม่เคยคิดว่าจะมาลงเอยด้วยวิธีนี้

บอกตรงๆว่าไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะได้ผลกับใบหน้า ทั้งที่มันมีหัวไว้ทำกับใบหน้าและดวงตา

TRILIPO คือ คลื่นวิทยุ RFที่มี 3 ขั้ว ไว้ปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อกระชับ

ช่วยกระชับสัดส่วนทั่วร่างให้ผลดีรองจากหัวเดียวซึ่งราคาก็ถูกกว่าหัวเดียวมาก

คลื่นวิทยุดังๆในเรื่องยกกระชับคือ THEMAGE แต่แพงกว่าเกือบยี่ิสิบเท่า

” หลักการทำงาน “ ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุเป็นความร้อนไปทำหน้าที่ออกกำลังกายกระชับกล้ามเนื้อชั้นลึก ไขมันเมื่อโดนความร้อน โดนกระชับเซลล์ในไขมันก็แตกตัว ทำให้น้ำในเซลล์ไขมันถูกขับออกมา ภายหลังเกิดการจัดเรียงตัวของไขมันใหม่ ก็จะกระชับขึ้น หลักการของมันมีประมาณนี้ ความร้อนของ RF ลงไปลึกมากถึงชั้นไขมัน ซึ่งเลเซอร์หลายตัวลงไปไม่ถึง ที่เป็นจุดเด่นคือไม่มีแผล ไม่เจ็บ แต่เห็นผลเหมือนกัน

หน้าที่มีทั้งหมด 3 อย่าง

  1. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อ
  2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  3. เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันเฉพาะส่วน

 

หน้าตาของ TRILIPO มีหลายขนาด ไว้ทำตัว ทำหน้า ทำตา ก็จะมีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ

หมอทำให้ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายนะคะ เอิ๊กก็ไม่ทำ เพราะอย่างที่บอกดูหน้าตาก็ไม่หน้าจะทำได้อันแค่เนี๊ยะลดแก้มได้ 555 (สมัยความรู้เรื่อง RF ยังไม่มี) จนพี่คนนึงเป็นลูกค้า มาชมให้ฟังว่าซื้อสองคอร์สแล้ว แต่เขาซื้อตอนโปร ทำได้ถูกมากเปรียบลด 50% ราคาตอนลดอยู่ที่ประมาณครั้งละ 1600 ทั่วใบหน้า คือแบบว่า ถูกกว่าฉีด LIPO MESO บลาบลาๆ ซึ่งเจ็บมากต่หลักการเดียวการ ต้องทำต่อเนื่อง หลายครั้งเหมือนกัน คือถ้าปล่อยให้อ้วนมันก็กลับมาใหม่ เขาพูดรอบแรกเราก็เฉย พี่เขาหล่อ หน้าเรียวเล็กอยู่แล้ว จนเห็นพี่สาวสุดที่รักทำ ตกใจนึกว่าศัลยกรรม 5555 หน้ามีแก้ม แฟบไปเลย แต่เขาทำต่อเนื่อง ส่วนเอิ๊กขอลองความรู้สึก และ อยากรู้ไขมันช่วงแก้มเราตอบสนองรึเปล่า เลยลองไป 1 ครั้ง

ทำที่ ISKYCENTER ที่เก่าเวลาใหม่ 555 ทำกับคุณนุชค่ะ เขาบอกว่าเก่งสุดแล้วสำหรับ TRILIPO

ขอโทษที่จำไม่ได้ว่ากี่นาทีเพราะหลับอะ 555 นอนกรนเก๋ๆ เขาจะทำความสะอาดใบหน้าให้เราด้วยคลีนซิ่งสำหรับผิวเรา (ของเอิ๊กแพ้ง่าย) แล้วมีเจลสองตัวให้เลือกคือ กลีเซอรีน กับ เจลก่อนลง IPL เอิ๊กใช้ตัวหลัง แต่ยังไงผิวเอิ๊กยังมีการระคายเคืองขึ้นหลังทำไม่ เจล ก็ คลีนซิ่ง หน้าเอิ๊กแพ้ง่ายจริงๆ บางทีจะบอกว่าไปทำอะไรที่ศูนย์ความงาน คลินิค หรือ เลเซอร์ ถ้าผิวแพ้ง่ายเตรียมอุปกรณ์ล้างหน้าไปเลย หรือไปเวิร์คช็อปแต่งหน้าที่ไหนก็ตามพกไป !!!! 

  • ทำความสะอาดใบหน้า ใต้ตา บริเวณที่จะทำ
  • ลงเจล IPL ให้เครื่องไหลลื่น และ ปล่อยพลังงานได้ไม่มีสะดุด
  • วนไปให้ทั่วใบหน้า
  • วนไปใต้ดวงตา ถ้าทำดวงตาด้วย
  • ซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่
รอผลลัพธ์ซัก 1 เดือน บางคนก็เห็นเลย  ของเอิ๊กเป็นแบบนี้ ….
ก่อนทำก็ไม่ได้ใหญ่แต่ช่วงข้างแก้มห้อย 5555 แก่แล้วก็แบบนี้แหละ ที่รู้สึกได้ ใต้ตาเรียบไปเลยเป็นอาทิตย์ก่อนจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะไม่ได้ซ้ำ การทำซ้ำต้องเดือนละ 4 ครั้ง ซักระยะ ค่อยทิ้งช่วงเดือนละครั้งสองครั้งได้ นี่ทำครั้งเดียวคิดว่ามันเลยเห็นผลทันทีไม่ชัด
หลังทำ 1 เดือน อย่างที่เคยบอกเอิ๊กมีปัญหาเรื่องระบบหน้าบวมน้ำ วันดีคืนดี เช้าหน้าใหญ่ เย็นหน้าเล็ก เช้าเล็ก กลางวันอืด เย็นเล็ก คือถ้าทานโซเดียมเยอะมันขึ้นอืดทันที ดังนั้น ตอน1เดือนยังวัดไม่ได้ ความรู้สึกคือ ส่วนห้อยข้างแก้ม ดูไม่ห้อย แต่อืดนี่โซเดียมจัดช่วยไม่ได้ล๊า ~
1 เดือน 6 วัน วันนี้หน้าเรียวขึ้นนะ 5555 บอกแล้วแล้วแต่วัน แต่นอนตะแคงเลยย้อย
สรุปดูเอาเอง .. ไม่รีทัชรูปร่างนะคะ ขยายกันไปเลย
[ปล . ขอร้องโปรดอย่านำรูปไปทำอะไรในเชิงพาณิชย์ ขึ้นโรงพักบ่อยไปแจ้งความก่อนขึ้นศาลมันเหนื่อยจ๊ะที่รัก]
เอิ๊กว่ามันดูไข่มากขึ้น ความห้อยด้านข้างลดลง แต่หน้าดูเต็มๆมากกว่ารูปแรก สำหรับ 1 ครั้งทั้งที่ควรจะทำหลายครั้ง คุณหมอบอกให้มาซ้ำๆๆๆ 5555 ยังเลย ยังไม่มีเวลา เอิ๊กว่ามันเก็บที่ห้อยได้ดีนะ
วันนี้ทำงานหนักไม่ได้ทานข้าว หน้าหันข้างนี่แบบ ลืมหน้าเก่าไปเลย 😀 ปลื้มมมมลึ่ม แค่นี้ละพอล่ะ
เต็มตัวก่อนไปอีกซักรูป เพื่อให้ดูโดยรวมของใบหน้าค่ะ
สรุป สำหรับใบหน้าครั้งละ 4000 บาท / ครั้ง ซื้อเป็นคอร์สก็ถูกกว่าหน่อย ถ้าซื้อตอนโปรสบายตัวสุด แต่ยังไม่มีวี่แว่วจะกลับมา 55
ข้อเสีย ต้องทำบ่อยหลายครั้ง / ค่าใช้จ่ายสูง 4,000 บาท แต่ละครั้งไม่รวมดวงตา / ต้องเสียเวลา / ไขมันที่ออกไปแค่ทำให้เซลล์ไขมันเล็กลง ไม่ได้หายไป ถ้าอ้วนก็กลับมาใหม่ / ทำช่วงโบทูลินูมทอกซินไปแล้วไม่ได้ ความร้อนทำให้สลายไว
ข้อดี ไม่เจ็บ สบายที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น / ผ่าน FDA ทั้งไทยและเทศ / ลงลึกถึงชั้นไขมัน / บางคนเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก / คิดว่าถ้าทำต่อเนื่อง ไขมันฟีบแน่ๆ / ทำได้ทั้งตัว / ลดเฉพาะส่วนที่อยากลด
 
XOXO
ไว้คราวหน้าลองลดต้นขา 5555 บางวันบวม บางวันไม่บวม โอยร่างกายฉัน ยังไงกันเนี่ย
ปล. ดูเป็นแนวทาง อย่าถึงขนาดเดือดร้อนแล้วมาทำเลยนะคะ โดยเฉพาะน้องๆหนูๆ น๊า <3

Posted in BODY, CHEEKS, RADIO FREQUENCY, THERMAGEComments (3)

ฝ้า รักษายังไง ?

 

 

ฝ้า หรือ รอยดำขนาดใหญ่ที่อยู่บนหน้า จะรักษายังไงติดตามกัน 🙂

ฝ้าเกิดจากอะไร

  1. แสงแดด (ปัจจัยหลัก)
  2. ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ขณะตั้งครรภ์ , ใกล้จะหมดประจำเดือน , รับประทานยาคุม
  3. กรรมพันธุ์

ลักษณะฝ้า

ขึ้นเป็นรอยน้ำตาล หรือ ดำ หรือ เทาปนน้ำเงิน เป็นเงากว้าง เช่นตามโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก เหนือริมฝีปาก

ฝ้ามี 3 ประเภท

  1. ฝ้าตื้น จะมองเห็นเข้ม ชัด รักษาง่ายกว่าฝ้าลึก
  2. ฝ้าลึก จะมองเห็นบางเบา เป็นเงา สีคล้ำๆ เลือนๆ รักษายากกว่าฝ้าตื้น
  3. ฝ้าผสม ทั้งฝ้าลึก & ฝ้าตื้น ก็จะรักษาฝ้าตื้นก่อนฝ้าลึก

ฝ้าเกิดขึ้นเมื่ออายุเท่าใด

20 ปลายๆขึ้นไป เพราะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน / และการโดนแสงแดดมาเป็นเวลานานเริ่มส่งผล

สีผิวกับการเกิดฝ้า

คนที่มีสีผิวคล้ำมีโอกาสเกิดฝ้ามากกว่าคนที่มีสีผิวขาว เราจึงพบฝ้าในคนเอเชียมากกว่า คนแถบตะวันตก

การรักษาฝ้า

เริ่มต้นด้วยตัวเอง คือ ทากันแดด และ พบแพทย์เพื่อทายาที่แพทย์สั่งจ่ายได้เท่านั้น

  • สำคัญที่สุดและต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต คือ การใช้สารกันแดดทุกวันให้พอเหมาะ และ ถูกต้อง SPF 30-50 ขึ้นไป และ PA +++ ขึ้นไป และปริมาณต้องเหมาะสม สำหรับทาหน้าถ้าเป็นเนื้อน้ำ ใช้เท่าเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ 2 ครั้ง ถ้าเหลือเยอะ ให้รอซักพักแล้วทาซ้ำอีกรอบได้  ถ้าเป็นเนื้อครีมให้บีบ 2 ข้อนิ้วชี้ จะได้ประมาณ 2 กรัมสำหรับทาหน้า ถ้าลำตัวใช้ถึงส่วนละ 7 กรัมขึ้นไป ถ้าอยู่ในกิจกรรมกลางแดด ต้องเลือกกันแดดที่กันน้ำ WATER PROOF , WATER RESISTANT และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงการที่เหงื่อออกมากก็ต้องทาซ้ำ ปัจจุบันบางยี่ห้อก็ออกมาให้ทาทับเครื่องสำอางได้
  • ทายา ที่สามารถลอกผิวส่วนบนออก ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าตื้นได้ดี)
  • ทายา ที่ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเข้ม ฝ้าจึงแลดูจางลง (รักษาฝ้าลึกได้ดี)
  • การทำทรีทเมนท์ด้วย AHA ลอกเซลล์ผิวด้านบน
  • การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหนังโดยเครื่อง
  • การฉายแสง LED สีเขียว เหลือง ผสมกัน ช่วยในการลดการสร้างเม็ดสีได้ ข้อเสีย ทำบ่อย ทำต่อเนื่อง
  • การเลเซอร์ ไม่ควรใช้ โดยเฉพาะคนผิวสองสี หรือ ผิวสีเข้ม เพราะผลข้างเคียงจะทำให้ฝ้าดำมากขึ้น รวมถึงรอยดำ

การทายารักษาฝ้ามีข้อควรระวัง เนื่องจากสารควบคุมที่ใช้รักษา อาจมาในรูปแบบสารไฮโดรควิโนน หรือ ปรอท ไฮโดรควิโนนนั้นแพทย์เท่านั้นถึงสั่งจ่ายได้เท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายกันอยู่ซึ่งอาจอยู่ในปริมาณที่สูงเกินกว่า อย. กำหนด และบางครั้งอาจเป็นปรอทผสม  ซึ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยง่ายเป็นพิษกับตับและไต รวมถึงกล้ามเนื้อ ถ้าสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เสียชีวิต ดังนั้น หากอยากซื้อยาทาฝ้าเอง เช็คเลขที่จดแจ้งขึ้นทะเบียนกับ อย. เป็นสำคัญ และกรุณานำเลขนั้นมาเช็คได้ในเว็บ FDA ทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่แค่ยาทาฝ้า

การรักษาฝ้าให้ได้ผลดีที่สุด คือ การทากันแดด และ หลบแดดไปตลอดชีวิต ไม่ว่าฝ้า กระ มีสิทธิ์กลับมาได้ใหม่ตลอดเวลา รวมถึงใบหน้าที่ดูอายุมากกว่าอายุจริง เพราะ UVA ทำลายลึกไปยังเซลล์ผิวชั้นลึก ควรหัดทากันแดดทุกวันให้เป็นนิสัยค่ะ 🙂 EE 

เขียนและเรียบเรียงโดย erk-erk.com

 

ขอบพระคุณเนื้อหา

– แกะเทปสัมภาษณ์ ผศ. พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา

– รูป laskinmd dot com

– pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=14

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACEComments (0)

อยากหน้าเรียวทำอย่างไร ? รวมรวบวิธีทำหน้าเรียว ภาค 2

หลังจากที่ดูภาค 1 ของคุณหมอ อภิรุจ กันแล้ว

ภาค 2 ขอเป็นตัวเอิ๊กเอง และ สัมภาษณ์จากคุณหมอ รังสิมา อีกท่าน

ขอบพระคุณคุณหมอทุกท่านด้วยค่ะ

บทความนี้ขออนุญาตแนะนำตามสไตล์คนไข้ และ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากคุณหมอทุกท่านนะคะ รวมถึงวิธีการใหม่ๆที่จะนำมาเล่าด้วยค่ะ 🙂 ไม่ได้สนับสนุนให้ใครทำ แต่เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ผ่านมาและมีความสุขขึ้นกับมันอย่างปลอดภัยค่ะ 

ในอดีตการอยากทำหน้าเรียวคงไม่ได้แพร่หลาย และ วิธีการก็ไม่ได้มากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ใครที่อยากหน้าเรียวก็คงหมดสิทธิ์ ใครอยากทำจริงก็คงต้องศัลยกรรมตัดกรามอย่างเดียว หรือ ไม่ก็จัดฟัน ถอนเยอะๆ พอขยับฟันให้เข้าไป หน้าก็ดูเรียวเล็กขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถตัดกระดูกแนวกรามได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่มีกระดูกแนวกรามขนาดใหญ่ และไม่ใช่ทุกคนที่จะถอนฟันออกเยอะได้ เพราะบางคนก็ฟันน้อยอยู่แล้ว สังเกตุได้ง่ายๆ ฟันบางคนถอนแล้ว พอดัดเสร็จคล้ายคนแก่ ฟันงุ้มเข้าไปเยอะ ซึ่งไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่ โชคดีที่เอิ๊กรอ 55555555555 รอเป็นสิบปี เดี๋ยวจะรออีก คิดว่าต้องมีวิธีที่ง่ายและไม่เจ็บและเหมาะกับเอิ๊กแน่นอน

วัตถุประสงค์เอิ๊กคือ ทำยังไงก็ได้ให้แก้มดูน้อยลง ปกติแก้มเยอะขั้นอืด หน้าอืด และ อยากให้หน้าดูเรียว คางดูยาวกว่านี้

สภาพร่างกายเอิ๊กเป็นคนที่บวมน้ำง่าย จะออกหน้า ออกขา ดังนั้น เช้าบวม-เย็นหด เช้าหด-เย็นบวม นี่คือข้อจำกัดของร่างกายเอิ๊ก ทางแก้หากร่างกายเยอะ แสดงว่าทานน้ำน้อย และ ทานโซเดียม หรือ ขอรสจัด เค็ม ผงชูรสเยอะ ต้องรีบทานน้ำ หน้าจะหดลงกลับสู่สภาพปกติ ดังนั้นจะทำวิธีไหนก็ไม่ถาวรภายในวันเดียวกัน 5555555 เศร้านะ

 เมื่อทราบสิ่งที่ต้องการ – ข้อจำกัดของร่างกายของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทราบ ..

อยากหน้าเรียวโครงสร้างใบหน้าเราเป็นแบบไหนหน้าถึงไม่เรียว

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

 

จะมี 4 สาเหตุนี้ที่ทำให้เราเองอาจจะรู้สึกไปเองว่าหน้าดูไม่เรียว ทั้งนี้จะดูเรียวขึ้นมากน้อยขึ้นกับหน้าของแต่ละคน และวิธีการที่เลือก รวมถึงปริมาณในการทำของแต่ละวิธี เมื่อทราบแล้ว เราไปดูกันดีกว่า สาเหตุ 1-4 เราจะใช้วิธีไหนได้บ้าง บางคนวิธีเดียวจบ บางคนต้องผสมผสานกันหลากหลายวิธี 

1. กระดูก โหนกสูง กระดูกกรามใหญ่

 หากเป็นสาเหตุนี้จะต้องใช้วิธีศัลยกรรมปรับแต่งกระดูก ไม่ว่าจะตัด เหลา

ข้อดี หน้าเราก็จะดูเรียวลงแบบเห็นได้ชัด / ค่าใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวผลถาวรตลอดไป

ข้อด้อย หากเราไม่ชอบเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นแบบเดิมได้ / ต้องได้แพทย์ที่เก่งและเข้าใจสรีระโครงสร้างใบหน้าเราดีพอ รู้ว่าจุดไหนที่สามารถที่ทำให้เราพอใจ / ราคาสูง


2. กล้ามเนื้อช่วงมัดแนวกรามใหญ่

วิธีนี้ปัญหาจะอยู่ที่บริเวณกล้ามเนื้อมัดแนวกราม หากเอามือวางแนบสนิทบนใบหน้าแล้วลองกัดฟันแน่นๆ พบว่ามีกล้ามเนื้อปูดขึ้นมาจนรู้สึกและคลึงโดนได้ กล้ามเนื้อบริเวณแนวกรามช่วงนี้ จะสามารถฉีดโบทูลินูมทอกซินให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ลีบเล็กลง หรือ เป็นอัมพาตชั่วคราวได้ ใบหน้าก็จะเรียวลง เพราะกล้ามเนื้อมัดนั้นฟีบเล็กลงไป

ข้อดี หากไม่ชอบใบหน้าที่เล็กชอบแบบเดิมปล่อยไว้ 3-6 เดือนก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม / ราคาสูงหลักพันถึงหมื่นกว่าๆ แต่ไม่เท่าผ่าตัด

ข้อด้อย กว่าจะเห็นผล 1-1.30 เดือน เต็มที่ 3 เดือน / ต้องได้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อบนใบหน้าจริงๆ เพราะว่าบางคนฉีดแล้วปากเบี้ยว มุมปากตก (เอิ๊กเคย) /  ต้องฉีดซ้ำทุก 3-6 เดือน จากนั้นถ้าฉีดบ่อยอาจอยู่นานขึ้นเป็นปี

3. คางสั้น หน้าเลยดูสั้น

วิธีนี้จบลงด้วยการศัลยกรรมคางให้ดูยางไม่ว่าจะเป็นด้วยซิลิโคน กระดูกตัวเอง หรือ ฉีดฟิลเลอร์ 

ศัลยกรรม

ข้อดี ราคาไม่ได้แพงมากไปกว่าการทำฟิลเลอร์มากนัก / เจ็บครั้งเดียวก็จะอยู่นานซึ่งขึ้นกับการดูแล / การเสริมด้วยกระดูกตัวเองอาจจะแพงกว่า แต่ความเนียนจะดี และ ธรรมชาติกว่าซิลิโคน

ข้อด้อย เกิดการผ่าตัด / เจ็บ / ต้องพักฟื้น / ถ้าไม่พอใจ หรือ เกิดปัญหาอาจจะต้องผ่าตัดเอาออก

ฟิลเลอร์

ข้อดี ปั้นรูปทรงได้ตามชอบ / ไม่ต้องพักฟื้น / ไม่ชอบก็ปล่อยให้สลายไปเองถ้าเป็นฟิลเลอร์ชนิดไม่ถาวร / ธรรมชาติกว่าเมื่อเวลาผ่านไป 1-3 เดือนจะเริ่มเข้ารูป / ไม่เจ็บเท่าศัลยกรรม 

ข้อด้อย สลายไปภายในเวลา 6-12 เดือน / บางทีถ้าเราอยากทำศัลยกรรม บริเวณที่เราทำฟิลเลอร์ต่อให้เมื่อสลายไปหมด แต่เวลาที่ฟิลเลอร์อยู่อาจมีการสร้างพังผืดของเนื้อเยื่อในร่างกายเราขึ้น เราจึงต้องขูดมันออกก่อนทำศัลยกรรมจริง / ถ้าต้องฉีดบ่อยตลอดถือว่าแพงกว่าการทำศัลยกรรม

4. ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะ

สัญลักษณ์ของความเป็นเด็ก ความอ่อนเยาว์ ซึ่งหลายๆคนชอบ แต่บางคนคงอยากมีช่วงเวลาโตเป็นสาวกันบ้าง 555 ก็ไม่ได้เอาออก แต่เราทำให้มันเล็กลงได้แบบถาวรถ้าเราไม่อ้วนขึ้น และ ไม่ถาวร ทำได้ 4 วิธี 1. ลดน้ำหนัก 2. คลื่นวิทยุ RF 3. ดูดเซลล์ไขมันออก (ACCULIFT) 4. ผ่าตัดเอาถุงไขมันช่วงแก้มออก buccal fat

ลดความอ้วน หากใครเมื่อผอมลงหน้าก็เล็กลงก็ลดน้ำหนักซะ

ข้อดี ไม่เสียเงิน / ถ้าลดถูกวิธีก็ได้เรื่องสุขภาพดี / ใส่เสื้อผ้าได้หลากหลาย / คล่องตัวมั่นใจขึ้น

ข้อด้อย ถ้าลดหักโหม จากสวยจะกลายเป็นซูบ

คลื่นวิทยุ RF หากใครตัวเล็กแต่หน้าใหญ่ลดน้ำหนักก็ไม่ลง แสดงว่าไขมันกระพุ้งแก้มคุณเยอะ buccal fat คลื่นวิทยุมีหลายตัวล่าสุดเพิ่งลอง trilipo เป็นคลื่นวิทยุสามขั้ว สามหัว อาจไม่ดีเท่าหัวขั้วเดียว แต่ถูกกว่า และ ถ้าหน้าไม่ได้หย่อนคล้อยคอลลาเจนเสื่อม แต่มีปัญหาแค่ไขมันจะกำลังดี

ข้อดี ไม่เจ็บเลย ไม่เหมือนฉีดสลายไขมันอันนั้นยังไม่ผ่าน อย. และ FDA / อาจแพ้เจลได้

ข้อด้อย ต้องทำบ่อย / ทำบ่อยจะเริ่มเห็นผลชัดขึ้น 4-10 ครั้งขึ้นไป / อ้วนอีกก็กลับมาอีกได้ ไม่ถาวร

ดูดไขมัน ACCULIFT ดูดเซลล์ไขมันออกไปเลย จะสอดเข็มเล็กๆมากๆเข้าไปแล้วดูด มักใช้ในคนอายุ 40 ขึ้นไปที่สภาพใบหน้าหย่อนคล้อยร่วมด้วย

ข้อดี เซลล์ไขมันน้อยลงถาวร ถ้าอ้วนอีก ก็ไม่กลับมาอีกเท่าตอนเซลล์ไขมันเยอะ

ข้อด้อย เจ็บ / หน้าบวมเป็นเดือน / เข็มไม่สะอาด อาจจะติดเชื้อ  / ความชำนาญของแพทย์สำคัญมาก

ศัลยกรรมผ่าตัด เอาถุงไขมันกระพุ้งแก้มออ

ข้อดี ถุงไขมันออกไปขนาดใหญ่ในคราวเดียว / ผลชัดเจนแจ่มแจ้ง / แผลด้านในปาก

ข้อด้อย แพง เสี่ยงต่อการใบหน้าสองข้างไม่เท่ากัน โอกาสสะสมใหม่มี

 

ราคา ค่าใช้จ่ายคิดว่าหลายคนอยากรู้แต่ขอโทษที่ไม่ได้ถามมาให้เพราะแต่ละที่ราคาไม่เหมือนกันเลย นำไปเสริทหาข้อมูลเรื่องราคาต่อเอานะคะ ส่วนเอิ๊กเองทำแค่ 3 อย่างคือ เป็นคนกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ใช้วิธีโบทูลินูม ทอกซิน ซึ่งทำติดต่อกันเรื่อยมา / คางสั้น ฟิลเลอร์ แค่ครั้งเดียว/ แก้มยุ้ย เคยทั้งฉีดและTRILIPO ตอนหลังคิดว่าคงจะทำแค่คลื่นวิทยุ RF อย่างเดียวเพราะไม่เจ็บ เคยทำครั้งเดียวแล้วชอบมาก วันนี้เลยนำมาแชร์แต่วิธีที่ปลอดภัยแล้วกันนะคะ  อยากอ่านต่อว่าทำที่ไหนกับใครเสริทกลางบล็อคerk-erk.com ว่าหน้าเรียว เอิ๊กบันทึกไว้ทุกท่าน ตั้งแต่คุณหมอรังสิมา คุณหมออภิรุจ คุณหมอเจี๊ยบ ทั้งสามท่านทำดีหมด ทุกคนมีศิลปะเป็นของตัวเอง สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ ชอบทุกคน เพราะทุกคนแก้ปัญหาให้เอิ๊กได้แบบปลอดภัยหมด ดังนั้นอย่าถามว่าที่ไหนดีกว่ากัน ดีหมด แต่เลือกเอาแบบเดินทางสะดวก และ อยากทำกับใครดีกว่า หวังว่าคงได้ประโยชน์กัน ทั้งนี้จะได้ผลมากน้อยขึ้นกับแต่ละคน และไม่อยากให้คนที่ยังขอสตางค์คุณพ่อคุณแม่รีบร้อนนัก รอเราทำงาน หาข้อมูล เตรียมใจ เตรียมสตางค์พร้อมไม่เดือนร้อนใครแล้วค่อยลงมือดีกว่า มาแชร์ไม่ได้ชวนเสียตังค์นะ 5555  แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ตัวเองรู้สึกดี ทุกวันนี้ใครจะชอบเอิ๊กแบบไหน แต่เอิ๊กชอบที่เอิ๊กเป็นเอิ๊กในวันนี้ เอิ๊กที่เป็นคนที่พัฒนาตัวเองขึ้นกว่าเมื่อวานในทุกๆด้าน เลี้ยงดูครอบครัว เป็นคนดีของแม่ เอิ๊กโอเคกับชีิวิตละ 😀 สวยอย่างปลอดภัย ก็ขอให้ไม่เดือดร้อนใครด้วยค่ะ <3

2010 ด้านบน

2012ด้านล่าง

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, BOTOX, CHIN, HOW TOComments (4)

ตอบทุกปัญหาการทาและทานคอลลาเจนเพื่อผิวสวย

วันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องรับทานคอลลาเจน ทาคอลลาเจน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอลลาเจน

ว่าความจริงมันได้ผลหรือไม่ เรื่องนี้เอิ๊กไม่เชี่ยวชาญ ดังนั้นต้องอัญเชิญ

แพทย์ผิวหนังผู้ทรงคุณวุฒิตอบคำถามข้อนี้ค่ะ 🙂

คอลลาเจนเอ๋ยเจ้าคืออะไรกันหนอ ?

คอลลาเจนคือเส้นใยโปรตีนชนิดนึงในร่างกายของเรา ทำหน้าที่เชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าด้วยกัน เนื่องจากคอลลาเจนมีประมาณ 1 ใน 3 ของโปรตีนภายในร่างกายจึงมีแรงสปริงตัวทำให้ผิวหนังกระชับ เต่งตึง แข็งแรง เรียบเนียน ยืดหยุ่น คอลลาเจนพบได้ในผิวชั้นหนังแท้ และ พบได้ในอวัยวะด้วยเช่น ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone)

หน้าตาเจ้าคอลลาเจน ดูเป็นเส้นใยระโยงระยางระยวยเต็มไปหมด

 คอลลาเจนมีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ

เมื่อเราเกิดมาก็มีการสร้างคอลลาเจนในร่างกายตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่คอลลาเจนนั้นก็เป็นไปตามสังขารมนุษย์ เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นเลย 20-25-30 ปี การผลิตก็จะลดน้อยลงทีละนิดทีละนิด อย่างช้าๆทุกปี ทำให้เราเห็นตามวัฎจักรมนุษย์ เมื่อทุกคนเกิด ทุกคนโต ทุกคนก็ต้องแก่ และตายไปในที่สุด แม้เราพยายามยึดวัยมากเท่าไหร่ เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายเราก็จะกระตุ้นได้ยากมากขึ้นเท่านั้น 

ปัจจัยที่เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมสภาพ

ตัวการที่ร้ายแรงที่สุด คือ แสงแดด โดยเฉพาะ UVA จะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระทำลายเส้นใยคอลลาเจน มิหนำซ้ำ กระ ฝ้า เม็ดสี สีผิวไม่สม่ำเสมอก็ตามมา และเมื่อคอลลาเจนเสื่อมเราก็แค่แก่เร็วขึ้นเท่านั้นเอง

คอลลาเจนเสื่อมรู้ได้ยังไง ?

ผิวหนังแท้ของเราจะแบ่งเป็น 2 ระดับ หนังแท้ชั้นตื้น หนังแท้ชั้นลึก ชั้นตื้นจะมีคอลลาเจนน้อยกว่าชั้นลึก จุดสังเกตุแรก หากคอลลาเจนหนังแท้ส่วนตื้นเสื่อม ริ้วรอยจะมา รูขุมขนกว้างมากๆทั้งที่ไม่ได้หน้ามัน นอนดึก แต่กว้างแบบสุดพลังก็เกี่ยว หากคอลลาเจนเสื่อมที่ผิวหนังชั้นลึก ผิวพรรณของเราที่เคยจับแล้วดึ๋ง เต่งตึง ก็จะจับแล้วยวบยาบ กดแล้วยุบย้วย กว่าจะคืนสู่สภาพต้องใช้เวลา ยกตัวอย่างคุณย่า คุณตา คุณปู่ คุณยายของพวกเรา ผิวพรรณจะเริ่มไม่เรียบตึง


อยากสร้างคอลลาเจนใหม่อยากแก่ช้าทำไง ?

1. ฉีดสารคอลลาเจน [ แต่โอกาสแพ้สูง ] & ฉีดสารHyarulonic acid ให้อุ้มน้ำ ผิวจะดูอิ่ม เต่งตึงทันที

2. กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เช่น ให้ความร้อนลงไปยังชั้นหนังแท้ [ เลเซอร์ ] , ทำให้ผิวเกิดแผลเล็กๆ , ลอกผิวด้วยสารเคมี

แล้วการทาน & ทาคอลลาเจนล่ะ ?

  • สำหรับการทาด้วยมือ บอกตรงนี้เลยว่าไม่มีครีมตัวไหนสามารถซึมลึกผ่านลงชั้นหนังกำพร้า หรือ ชั้นขี้ไคลไปได้ เพราะผิวเราวิเศษมีการป้องกันตัวเองจากสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว
  • สำหรับการทานร่างกายมีระบบการย่อยที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน ทานคอลลาเจนเข้าไป เจอย่อยไปเรื่อยๆก็เหลือเพียงเศษเสี้ยวกลายเป็นกรดอะมิโน (โอเค) ไป คงไม่ได้ไปทำให้เต่งตึง เปล่งปลั่งขึ้นได้ ร่างกายไม่สามารถดูดซึมโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่อย่างคอลลาเจนได้ หรือ ถ้าได้อย่างที่คุณหมอว่าก็คือทานไปจะไปพอกจุดไหนก็ไม่ทราบได้ 
อยากรักษากลไลสร้างคอลลาเจนในร่างกายให้ยาวนานขึ้นทำยังไง ?
ปกติก็สร้างเองในร่างกายอยู่แล้วเพียงแต่ลดลงทีละเล็กน้อยเมื่ออายุ 25 ขึ้นไป แต่หากอยากให้กลไลร่างกายยังสร้างได้ดีอยู่ไม่ลดลงไปมาก ก็รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ / ออกกำลังกายสำคัญมากเพราะต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนั้นทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อม คอลลาเจนก็เสื่อมไปด้วย / และนอนให้ตรงเวลา อย่านอนดึกแบบเอิ๊ก เพราะเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ผิวหนังซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ลองนอนหัวค่ำทุกวัน หน้าดีขึ้นแน่นอน
จากใจนะ จะทานอะไร จะทาอะไรหาข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะข้อมูลทางวิชาการ โดยเฉพาะอะไรที่นำเข้าสู่ร่างกาย   
และในความรู้สึก ” การออกกำลังกายนั้น ไม่ว่าในรูปแบบไหน ชะลอวัยได้เรื่องจริง “
อ่าน ฟัง หาข้อมูล แล้วเขียนเอง หากผิดพลาดประการใดติได้ค่ะ <3

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, SKINComments (0)

การกดสิวที่ถูกวิธี – BEAUTY TALK

การกดสิวที่ไม่ถูกวิธีนอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบแล้วยังมีโอกาสทำให้เกิดแผลเป็นตามมา รวมถึงการลุกลามของสิวเม็ดข้างเคียงของบริเวณที่กด ดังนั้นรู้หลัก อยากกดต้องศึกษาวิธีที่ถูกต้องค่ะ

Erk-Erk

สิวที่เราสามารถกดได้จะมีทั้งหมดประมาณ 3 ประเภท

  1. สิวหัวเปิด (หัวดำ)
  2. สิวหัวปิด (อุดตัน-สีขาว)
  3. สิวหัวหนอง

นอกนั้นห้ามเด็ดขาดค่ะ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพผิว

ทำไมต้องกดสิว ?

บางคนการกดสิวอาจจะทำให้สิวหายเร็วขึ้นเช่นคนผิวมันมีสิวอุดตันอยู่เยอะและมีโอกาสที่สิวจะหลุดไปเองยากกว่าคนผิวแห้งเพราะน้ำมันใต้ผิวผลิตออกมาตลอดเวลา ถ้าไม่กดทั้งสิวหัวปิด หัวเปิด ก็อาจจะพากันอักเสบ เป่ง ช้าง ให้เครียดกันอีก บางคนชอบใช้มือกดเค้นไปเค้นมาห้อเลือดทันทีบวมเป่ง พอหายหลุมสิวมาเยือนรักษาอาจจะไม่หาย 100%

โดยส่วนตัวเคยใช้คัตตัลบัตเค้นจนเลือดออกแล้วยังเค้นอยู่จึงห้อเลือดและมีหลุมตามมา ดีที่ตื้น ยิงเลเซอร์ด้วยความร้อนปกติมันก็ฟูขึ้นมา ดังนั้นการเอาคอมีโดนจากสิวออก หรือกดสิวถ้ามีเลือดออกต้องหยุด อย่าไปต่อ !!!

อุปกรณ์กดสิวที่สำคัญ

1. ไม้กดสิวแสตนเลสสามารถซื้อตามร้านขายยา หรือ ร้านขายเครื่องมือแพทย์

2. แอลกอฮอล์

3. สำลี

4. ถุงมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อ

5. เข็มฆ่าเชื้อใช้แล้วทิ้ง สำหรับสิวอุดตันหัวปิด / สิวหัวหนอง

ส่วนตัวกดเอง มีผงพิเศษ + น้ำเกลือ อิอิ

วิธีการกดสิวที่ถูกต้องมี 2 วิธีตามเทคนิคแพทย์

ขั้นตอนการกดสิ

1. เช็ดแอลกอฮอล์รอบๆผิวหนังที่ต้องการกดสิว


2. ใช้เข็มสะอาดเจาะกรณีที่เป็นสิวอุดตัน สิวหัวปิด 


3.ใช้ที่กดสิววางทาบลงไปแล้วใช้เทคนิค 1 หรือ 2 (ในภาพใช้วิธีที่2ทำมุม 45องศา ดันข้างสิว)


4. กดห้ามเลือดด้วยสำลี แล้วทาตามด้วยยาฆ่าเชื้อ (ส่วนตัวใช้สำลีชุบน้ำเกลือกด) 

ข้อดี
  1. ลดการเกิดการอักเสบของสิว
  2. ทำให้สิวอุดตันหายไปชั่วคราว เพราะสิวอุดตันกลับมาใหม่ตลอดเวลา
  3. ถ้ากดถูกจะไม่ทิ้งแผลหรือรอยแดงนานแล้วจะหายไป ถ้าปล่อยให้อักเสบมักมีรอยแดงใหญ่กว่า
  4. ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  5. ราคาถูก
ข้อด้อย
  1. เจ็บ 
  2. ไม่ควรกดทีเดียวทั้งหน้า ระบม
  3. บางครั้งมีการผิดพลาดที่การกด ทำให้อักเสบได้ในที่สุดอีกเช่นกัน 
จากประสบการณ์ส่วนตัว ให้แพทย์กดเป็นสิ่งที่ควรทำ หรือ ถ้าตัวเองเชี่ยวชาญพอก็ลองดูได้ แต่อย่ากดทีเดียวเยอะ กดซัก 2-3 เม็ดรอดูผล ส่วนใหญ่กดเองมักมีแผลรอยดำตามมา แพทย์ทีกดเก่งมากๆ ไม่รู้สึกเจ็บ ไว หายเร็ว สิวออกหมดเกลี้ยง รอยแดง 2-3 ชม.หาย แต่ตอนนั้นกดแพงมาก หลังๆเลยกดเอง 5555 ถ้าใครไม่ถนัดให้แพทย์เถอะค่ะ แผลเป็นไม่คุ้มเลย 😀
บทความนี้ทำขึ้นมาจากประสบการณ์ตรงที่รักษาสิวมาตลอด 10 กว่าปีในคลินิคคุณหมอ และ
สัมภาษณ์วิธีการกดแบบถูกหลักอนามัยโดยแพทย์หญิง นุสรา วงศ์รัตนภัสสร
XOXO

Posted in ACNE, HOW TOComments (6)

REVIEW EUCERIN WHITE THERAPY สูตรผิวกระจ่างใส สุขภาพดี และ วิธีการเรียงลำดับการทาครีมค่ะ

ทุกตัวเป็นเซ็ท EUCERIN WHITE THERAPY ที่ใช้มาทั้งหมด 25 วันต่อเนื่อง 

EUCERIN WHITE THERAPY : เน้นสลายจุดด่างดำ / ผิวหมองคล้ำ / ทำให้ผิวชุ่มชื่น แข็งแรง 

สภาพผิวเอิ๊ก : ค่อนข้างแห้งมาก / แพ้ง่าย / เป็นสิวง่าย,บ่อย

เซ็ทนี้มีทั้งสำหรับผิวแห้ง ผิวผสม ผิวธรรมดา ผิวมัน แต่เอิ๊กผิวแห้งจึงเลือกเซ็ตนี้ตามสภาพผิว ดังนี้

  1. เจลล้างหน้าไม่มีฟอง
  2. อายครีม
  3. เซรั่ม
  4. ครีมบำรุงหน้าตอนกลางคืน [มีแต่ไนท์ครีมเพราะไม่ค่อยชอบทาตอนกลางวัน]
  5. ครีมบำรุงผิวกาย
การทาครีมหลายคนถามควรเลือกทาสิ่งไหนก่อน
จำง่ายๆ ” เนื้อใสเหลว > เนื้อขุ่นข้น “ / ” ดวงตา > เฉพาะจุด > ทั่วหน้า > ลำตัว “
หลังทำความสะอาดใบหน้า จะเริ่มที่ดวงตาเพราะครีมรอบดวงตาจะอ่อนโยนมากที่สุด > ตามด้วยเจล ยาแต้มเฉพาะจุดเช่น แต้มสิว แต้มรอยด่างดำ > ตามด้วยเนื้อเหลวๆ โลชั่น ,เซรั่ม ,เอสเซนส์ > ตามด้วยเนื้อขุ่นข้น ครีมบำรุง > ตามด้วยครีมบำรุงผิวกาย
www.erk-erk.com
REVIEW เรียงตามลำดับการทาครีมที่ถูกต้อง  
1. GENTLE CLEANSING GEL เจลล้างหน้าที่ไม่มีฟอง เนื้อนุ่ม และเข้มข้น สำหรับผิวบอบบาง ไม่มีแอลกอฮอล์ ล้างแล้วทำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งตึง ใบหน้าสะอาด ไม่เป็นสิว และทำให้ผิวกระจ่างใส ชอบมากเพราะผิวแห้งแพ้ง่ายหาเจลที่ถูกกับใบหน้ายากเหมือนกัน
www.erk-erk.com
2. EYE CREAM ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม ช่วยเรื่องใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตาบวม ส่วนตัวชอบที่ไซส์ใหญ่มาก เนื้อชุ่มชื่นยาวนาน ลดอาการถุงใต้ตาบวม ส่วนใต้ตาคล้ำ บางทีมันช้ำข้างในเกิดจากเส้นเลือดดำเพราะนอนดึก อาจไม่เห็นชัด
www.erk-erk.com
3. CONCENTRATE-SERUM  อยากเริ่มต้องตัวนี้ก่อน แพงสุดในเซ็ท แต่จะซึมลึกที่สุด ซึมไว บางเบา ผิวแห้ง ผิวมันใช้ได้หมด ช่วยเรื่องเม็ดสีเมลานิน และเหมาะกับเรื่องรอยสิวดำๆ จุดดำๆ จุดแดงก็ใช้ได้ หรือบริเวณสีผิวไม่สม่ำเสมอ ขวดนึงจะใช้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ รอยดำใหม่ๆ อาจเห็นว่าสีจางลงภายในสองอาทิตย์จากที่ทดลอง
www.erk-erk.com
4. NIGHT CREAM ครีมบำรุงผิวหน้าตอนกลางคืนที่ให้ความชุ่มชื่น เข้มข้น เป็นสูตรที่ทำให้ผิวกระจ่าง ใช้คู่กับเซรั่มตัวบน เห็นผลชัดมาก สามอาทิตย์แรกไม่ได้ทาที่คอ หน้าขาวกว่าคอเลย – – ” ชอบมากที่สุด คือ ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น แต่ถ้ามีสิว ให้แต้มสิวไว้ และเวลาทาครีม หรือ เซรั่มให้เว้นส่วนที่เป็นสิวไว้
www.erk-erk.com
5. BODY LOTION ครีมบำรุงผิวกาย ตัวนี้ชอบมากกกกก ชอบที่เนื้อเข้มข้น และ ซึมช้าให้เรานวดๆๆจนซึม ผิวจะนุ่ม เงาๆ รู้สึกว่าสุขภาพผิวกายดีขึ้นเลย
www.erk-erk.com
สังเกตุว่าข้างที่ทาจะเงาๆ ชุ่มๆ <3
www.erk-erk.com
นี่คือภาพจุดแดงที่กลายเป็นจุดดำโดยทาเซ็ทนี้ เน้นเอาเซรั่มทานวดๆหน่อยบริเวณที่เป็นจุดดำ มันก็ดีขึ้นมากภายใน 25 วัน และนอนเช้า นอนเที่ยงเกือบทุกวัน รู้สึกสุขภาพผิวมันดีกว่า ดูแข็งแรง ไม่ลอกเหมือนก่อนใช้ และ สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
www.erk-erk.com
สภาพผิวหน้าล่าสุด 11/07/12 ไม่มีการตกแต่งภาพ มีสิวเป็นจุดๆ เพราะนอนเช้าทุกวัน แต่ดูจากสุขภาพผิวคือดีขึ้นมาก ผิวดูผ่องขึ้น โดยเฉพาะหน้า เพราะทาหน้าเยอะกว่าคอ
www.erk-erk.com
COOL : เป็นเซ็ทผิวขาวที่ดีมากเซ็ทนึงเนื่องจากไม่เน้นผลัดเซลล์ผิว แต่ไปยับยั้งเม็ดสี สีผิวจึงอ่อนลงจากภายใน และ ทำให้ผิวชุ่มชื่น แข็งแรง สุขภาพผิวดี สีผิว จุดด่างดำอ่อนลงประมาณ 3 อาทิตย์กว่า เป็นอีกเซ็ทที่ซื้อต่อแน่นอน อาจจะซื้อเซรั่ม มาลดจุดดำ เจล และ ครีมบำรุงตอนกลางคืน ชอบมากกกกกก ซื้อใช้ต่อเรียบร้อย แนะนำลองทีละตัวก่อนค่ะ อย่าซื้อทั้งเซ็ทเผื่อแพ้ 
UNCOOL : กระ ฝ้า อาจไม่ได้ช่วย สำหรับนักศึกษาราคาค่อนข้างสูงถ้าซื้อทั้งเซ็ท อยากแนะนำให้ลองทีละตัวเช่น เรื่องจุดด่างดำเน้นเซรั่ม หรือ ครีมบำรุงเน้นความชุ่มชื่น กระจ่างใส และ ค่อยๆไล่ไปทีละตัวค่ะ

XOXO

Posted in FACE, REVIEWComments (0)

REVIEW ผลลัพธ์ทำเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT ฟื้นฟูสภาพผิว ริ้วรอยตื้นๆ สีผิวสม่ำเสมอ

Erk-Erk / CinnamonGal / Mhunoii 3 บลอคเกอร์สาว ณ เกาหมี

หน้าเอิ๊กใสปะละ 555555 เมคอัพค่ะเมคอัพ หลังจากทำ 9 วัน ผิวดีฝุดฝุด

วันนี้เราจะมาเปิดโปงหนังหน้าที่แท้จริงกัน

ภาคแรก มารู้จักเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT เลเซอร์ฟื้นฟูสภาพผิวให้สุขภาพดี

ภาคสอง ขั้นตอนการทำ เลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT

การทำที่ได้ผล คือการทำ 4-6 ครั้งภายใน 2 อาทิตย์

ซึ่งเอิ๊กทำแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเลเซอร์ตัวนี้มีพลังงานความร้อนที่ส่งไปถึงชั้นหนังแท้ส่วนตื้นส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจน คุณหมอบอกว่าสำหรับผู้ที่รูขุมขนกว้างไม่อยากกรอผิว หรือ มีแผล ตัวนี้ส่งผลต่อรูขุมขนที่อยู่บริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้นโดยตรงให้กระชับ แต่เมื่อทดสอบแล้วพบว่า “ครั้งเดียวไม่เห็นผลเรื่องรูขุมขนกระชับ สงสัยต้องจัดหลายครั้งจริงๆ อิอิ อีกอย่างการรอผลประมาณ 1 เดือน และ ขึ้นกับอายุด้วย”

แล้วเลเซอร์ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ตอบตรงๆ !!!

REVIEW คนเอเชียด้วยกัน เขาน่าจะทำหลายครั้ง

  • ก่อนทำหน้าปกติอาจจะมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ กระตื้น
  • หลังทำหน้าแดงแป๊ดทันที และแดงต่อไปอีกซัก 2-4 วัน
  • หลังจากหน้าแดง2-4วัน ก็จะจับแล้วสากมีสะเก็ดที่เล็กมากมากจนมองไม่เห็น ยิ่งผิวขาวส่องไม่เห็นเลย แค่จับแล้วสาก หน้าดูหมองประมาณ 1-7 วัน จากผิวแดงเป็นหมองๆเนื่องจากมีสะเก็ดน้ำตาลเล็กๆกระจายทั่วใบหน้า
  • ประมาณอาทิตย์กว่าจับแล้วนุ่มลื่น ไม่แน่ใจสะเก็ดไปหายไปตอนไหน ไร้ร่องรอยเลยจริงๆ
  • สองอาทิตย์สีผิวสม่ำเสมอแบบชัดเจน ผิวกระจ่าง ดูผ่องขึ้นเลย
เอาละมาดูของพี่เอิ๊กบ้าง อะไรที่เปลี่ยนไป แต่ไม่มีรูปเยอะเท่าเขาเพราะคล้ายกัน
มีแค่ก่อนทำ และ หลังทำ 2 อาทิตย์

 การดูแลทากันแดด ไม่ทาบำรุง นอนเช้าทุกคืน ไม่ดูแลตัวเอง และ อย่าทำแบบนี้ ความจริงสามารถกันแดด บำรุงได้ตั้งแต่ 1 วันเลย แต่งหน้าอะไรได้หมด เอิ๊กปล่อยตัวมาก ไม่งั้นผิวสวยกว่านี้ ฟันเฟิม

ขอสรุปว่าสิ่งที่เห็นชัดเจนมากอันดับ 1 2 3 4คือ 

  1. สีผิวสม่ำเสมอทั่วหน้าไม่แดง ดำ ด่าง
  2.  ผิวผ่องขนาดไม่เจอครีมบำรุงมาเกือบสองอาทิตย์ ทาแค่เซรั่มเนื้อเบาสบายผิว ไม่ให้ความชุ่มชื่้นเลย
  3. ผิวสุขภาพดีขึ้น
  4. ริ้วรอยแสดงอารมณ์ตื้นๆยาวๆ หน้าผากหายไปเลยยยยยยยยยย

นี่เป็นผลลัพธ์ของการทำครั้งเดียว
ข้อเสีย อย่าพยายามมีชีวิตอยู่คู่กับแดด นี่แค่นั่งตากหน้ากับแสงคอมทั้งวันทั้งคืนไม่ทากันแดด สีกระชัดขึ้นเลย คุณหมอสั่งให้หลบแดดจริงจัง 2 อาทิตย์ เจอแสงคอมเข้าไปจบชีวิตเหมือนกัน ข้อสำคัญราคาสูง
ไม่รักกันจริงอย่าหวังจะได้เห็นรูขุมขนกันแบบนี้ !!! นอนดึกพากันถ่างเข้าไปอีก 555
ผิวสุขภาพดีพอใจมากค่ะ ชอบที่สีผิวดูสม่ำเสมอ ส่วนเรื่องขาวไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นผลพลอยได้ตามชื่อเลเซอร์มากกว่าดูสุขภาพดี และผ่อง
เอิ๊กอวดผี แต่เช้า 5555
สรุป หลังการทำจริงพบว่า เฮ้ยมันเป็นเลเซอร์กึ่งมีแผล ที่ไม่รู้สึกว่ามีแผลแค่จับแล้วสาก ทำแล้วออกจากบ้านโบกเมคอัพต่อได้เลย ซึ่งทำแล้วผิวสุขภาพดีขึ้น ริ้วรอยเกิดใหม่ลาออก ผิวมันเคลียร์อะ คือไม่ได้คิดเอง หลายคนเจอจริงเห็นแล้วทัก คือ ไม่ต้องแต่งหน้า ไม่ทาอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ก็ไม่อายใคร ทั้งที่ปกติต้องมีกันแดดสีเนื้อซักหน่อย คนทักว่าหน้าขาวทั้งที่ไม่ได้ทาครีม แต่จะอยู่นานไหมไม่รู้ ถ้าอยู่นานนี่ทำต่อเลย สิ่งที่ต้องทำใจอย่างเดียวคือต้องทำตัวติดกันแดด ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านก็ขาดไม่ได้ คือ มันก็ผิวไวแสง ไม่ใช่มาแล้วดำ แต่พวกกระอะไรชัดขึ้นได้ ถ้าละเลย รอดูว่าจะโทรมอีกเมื่อไหร่ นี่ถ้ายังนอนแบบเดิม คาดว่าไม่นานเป็นอีก 5555555
XOXO
ขอบพระคุณ ISKYCENTER สำหรับข้อมูล และ การทำเลเซอร์ครั้งนี้ค่ะ
ขอบพระคุณ ภาพสวยงามจาก www.mhunoiii.bloggang.com ค่ะ

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, REVIEWComments (1)

HOW TO ขั้นตอนการทำเลเซอร์ CLEAR&BRILLIANT ฟื้นฟูสภาพผิว ริ้วรอยตื้นๆ สีผิวสม่ำเสมอ

เห็นหน้าใสขนาดนี้ไปทำอะไรมา 555555 แต่งหน้าค่ะ ชัดม๊ะแต่ผิวดีขึ้นจริงๆ

หลังจากที่่ลงเรื่อง CLEAR & BRILLIANT ให้อ่าน

วันนั้นไป ISKYCENTER ที่ชิดลม เดินหิ้วกระเป๋ากล้องไปสัมภาษณ์เรื่องความงามอะไรซักอย่าง ไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไร ไม่เลเซอร์หน้าแบบทั่วหน้ามานานแล้ว เพราะมันใจในวิชาที่มีในการประทินผิว 55555 สรุปซึ่งเป็นวันที่มีการให้วิชาการจัดโดยบริษัท Filtech Enterprise (1994) Co.,Ltd.

Filtech Enterprise (1994) Co.,Ltd. เป็นบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ จักษุแพทย์ เคมีภัณฑ์ชั้นนำ ซึ่งเอิ๊กเจอ 2-3 ครั้งแล้ว เวลาไปงานฟังวิชาการเลเซอร์ของที่ไหนๆ ก็มักพบ และ “ป้าจีน” JEBAN.COM ที่ทำให้ค่าสายตากลับมาปกติก็ทำด้วยเครื่องที่บริษัทนี้จำหน่ายด้วย เครื่องเขาแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก วันนั้นเขาจัดให้ความรู้กับนิตยสารซึ่งเอิ๊กไปงานเลิกแล้ว เขาก็พูดถึงตัวนี้ขึ้น เขามองมาที่หน้าเอิ๊กว่า “คุณเอิ๊กน่าจะลองทำนะ” ซึ่งมันโทรมอะเอิ๊กรู้ตัวเพราะนอนเที่ยงวัน หรือ นอนเช้ามาเป็นเดือนแล้ว แต่เอิ๊กไม่ชอบให้ใครทักอะ รู้ตัวว่าแย่อะ 55555555555 ทักแล้วเสียSELF

ทั้งที่อ่านมาว่ามันเหมาะกับคนที่ 30+ มากกว่าเพราะเด็กๆก็คงหน้ายังผลัดเซลล์ผิวดีดีอยู่ แต่เอิ๊ก 25 และมีริ้วรอยตื้นๆแต่ยาวไกลบริเวณหน้าผาก และเอิ๊กคิดว่ามันยังไม่จำเป็นกับการฉีดโบทอกหรืออะไรเพื่อลดริ้วรอย และ อยากเอาหนังหน้าตอนนั้นออก หรือ ทำยังไงก็ได้ให้มันดู เต่งๆ สุขภาพดี ไม่กร้าน คนผิวแห้งใช้ AHA BHA สครับให้ผิวใสไม่ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นข้อเสียเลย และ ยิ่งอายุมากผิวแห้งอยู่แล้วแห้งหนัก ยอมรับว่านอนดึกทำลายชีวิตความงามอย่างมาก แต่ชอบความเย็น ชอบทำงานกลางคืน นั่นคือเหตุผลต้องทนไป

เอิ๊กก็กระโดดขึ้นเตียงเลยค่ะ อย่ารออะไรเลย 3 คำในหัว ขึ้นเตียงเลย !!!

 หลังทำC&B 9 วันผิวดีสุดๆ ไปโฉบเฉี่ยวเกาหมี สู้ได้สบาย ผิวเธอสวยกันเหรอ ผิวฉันก็สวยย่ะ 555555 สาวไทยถ้าดูแลดีดี มั่นใจมาก ว่าผิวสวยไม่แพ้เขาหรอก บ้านเขาเวลาร้อนก็อึดอัดพอกับบ้านเรา เหนื่อย เพลีย อยากเป็นลม แต่รูขุมขนของสาวเกาหมีนั้น ยอมมันค่อนข้างละเอียดกันมากจริงๆ คิดว่ากรรมพันธุ์มีส่วน เอิ๊กอาจจะได้อานิสงค์มาจากการได้เกิดข้างเตียงเด็กเกาหมีก็เป็นได้

  ขั้นตอนการทำ CLEAR & BRILLIANT

เปิดโปงหน้าตาที่แท้จริง

แปลงร่างเป็นญาติแคสเปอร์โดยโปะยาชาอย่างหน้าเวลา 60 นาที ไม่เคยทำแบบนี้เลย แอบหวั่นใจหรือมันจะเจ็บรึอย่างไร ?

คุณหมอเตรียมเครื่อง เปลี่ยนหัวลูกกลิ้ง เครื่องนี้ทำครั้งละ 8,000-12,000 บาท ด้วยความสงสัยในความแพง คุณหมอบอกว่า ลูกกลิ้งกลิ้งแล้วทิ้ง ใช้คนเดียว และ แพงที่ลูกกลิ้ง 5000 กว่าบาทแล้ว ค่าเครื่องนี้ดูเล็ก กระจุ๋มกระจิ๋ม ยกได้ เอิ๊กไม่เคยเจอเลเซอร์ยกได้เลย แต่เครื่องนี้เล็กจนนึกว่าไม่น่าแพง แต่ราคาอยู่ที่เกือบ 2 ล้านบาทประเทศไทย อืม เอิ๊กว่าถ้าในอนาคตอยากมีศูนย์เลเซอร์เป็นของตัวเอง เอิ๊กคงต้องมีเงินเก็บระดับหลายร้อยล้าน หรือ ไม่ก็ต้องมีหุ้นเยอะ เพราะเห็นไอสกายมีเครื่องใหม่มาตลอด และ ชอบถามคุณหมอไงว่าเท่าไหร่จึงเข้าใจว่าเลเซอร์มันแพงเพราะเครื่องมันแสนแพงนี่เอง ….. 

คุณหมอเป็นคนเช็ดยาชาออกให้ที่สำคัญ 2 คน ซึ่งปกติต้องเป็นพี่ๆน้องๆผู้ช่วยคุณหมอ วันนี้ก็เป็นโชคดีมากที่สุด เนื่องจากไม่ได้ตั้งใจจะมาทำ มันเป็นแค่เสี้ยววินาทีที่มีคนทักว่าควรทำ ! แต่เราแปลเองว่าผิวเราดูไม่สวย เราก็กระโดดขึ้นเตียง และเครื่องมันใหม่มาก คุณหมอที่เข้าเวรวันนี้ และ คุณหมอที่ให้วิชาการจึงมาทำให้ทั้งสองท่าน เพื่อเป็นการเรียนรู้จากสภาพผิวหลายๆช่วงอายุคน เราถือว่าเราโชคดีมากๆๆๆๆๆ

เริ่มด้วยคุณหมอรังสิมา เป็นผู้ทำให้เนื่องจากเอิ๊กเป็นเด็กถามมาก คุณหมอก็ชอบสอนมากทำไปถามไป และเป็นวันพิเศษเนื่องจากมีให้วิชาการช่วงกลางวัน วันนี้ไปเจอคณะแพทย์หลายท่านจึงมีการ FEATURING กันเกิดขึ้น คุณหมออีกท่านมาขอทำอีกข้าง คนละครึ่งหน้า ครั้งนี้เอิ๊กเรียกได้ว่าเป็น CASE STUDY เลย

คุณหมออีกท่าน คือ คุณหมอจากรพ.บำรุงราษฏร์ คุณหมอ นุสรา วงษ์รัตนภัสสร ซึ่งเข้าวันเสาร์พอดี มั่นใจว่าภาพนี้ท่านอาจจะได้เห็นเฉพาะใน โรงเรียนแพทย์ หรือ รพ.รัฐ เท่านั้น นับว่าเป็นบุญของเรา ความรู้สึก ถ้าคุณไรผมเยอะ มีขนเส้นใหญ่สีดำบนหน้าแล้วละก็ เหมือนกลิ้งกระตุกเอาขนไป ทำให้เราสะดุ้งเป็นระยะ เจ็บเล็กๆเหมือนโดนดึงหนวด เจ็บแค่จุดนี้จริงๆ ส่วนบนใบหน้าแค่รู้สึกอุ่นๆไม่เจ็บเลย คุณหมอจะไถตำแหน่งเดิม 4 รอบ เว้นดวงตา และ ริมฝีปาก

ถามว่าทำไมรู้ว่าคุณหมอชื่ออะไร นามสกุลอะไร ก่อนที่คุณหมอท่านใดจะมาทำอะไรบนหน้าเอิ๊ก เอิ๊กอาจจะเสียมารยาทถามก่อนเลย ประวัติคร่าวๆ ว่าตรงสาขาไหม เมื่อมั่นใจถึงทำ แต่ไม่จบแค่นั้นเอิ๊กกลับมาหาประวัติอย่างละเอียดต่อในกูเกิ้ล เลเซอร์ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ชนิดง่ายหรือยาก เอิ๊กประสบมาแล้ว ศ.นพ. วรพงษ์ที่เก่งมากๆเรื่องหลุมสิวยิง ERBIUM ให้เอิ๊ก และ เป็นคนที่ละเอียดในแผลหลุมที่สุดเท่าที่เอิ๊กทำเลเซอร์มาจริงๆ พิถีพิถัน เพียงแต่คุณหมอพูดน้อยมาก ยิ้มอย่างเดียว ถ้าถามแกก็ตอบ ยิงหลุมให้เอิ๊กที่มีมาแต่กำเนิดหลุม 25 ปี มันดีขึ้นเรื่อยๆ เอิ๊กว่าตื้นขึ้น 60-70% แต่เพราะผิวเอิ๊กขาว มันเป็นเลเซอร์ที่มีแผล และเอิ๊กเจอผลข้างเคียง คือ เกิดเป็นสีชมพู ขณะนี้ 6 เดือนแล้ว เกือบจางหมดจางประมาณ 85 %แต่ยังมีร่องรอยให้เห็น ต้องรอดู เอิ๊กจะบอกว่าเอิ๊กรู้ว่าคุณหมอทำเต็มที่ แต่ผลมันอาจเกิดได้ 1 ผิวเราเอง 2 เลเซอร์มันเป็นชนิดที่มีแผลมันก็มีความเสี่ยงของตัวมันเองอยู่แล้ว ถึงบอกว่าจะเลเซอร์เลือกแพทย์ก่อนเลยอันดับแรก จะใครก็ได้แต่ขอเป็นแพทย์เฉพาะทางจริงๆ ถึงมีปัญหาเรื่องงบน้อยก็แพทย์ก่อนเลยเพราะรัฐบาลมีศูนย์เลเซอร์เช่นกัน จุดนี้ไม่เล่นเลย ฝากไว้ให้คิดค่ะ คุณหมอถามว่าจะมายิงอีกเมื่อไหร่ ในใจเอิ๊กหวั่นมากเกิดสีชมพูอีก เอิ๊กคงอาจจะทำแต่เป็นเลเซอร์ตัวอื่นแทนเช่น E MATRIX เอิ๊กไว้ใจคุณหมอ แต่ไม่ไว้ใจการตอบรับผิวของตัวเองกับการมีแผลเกิดขึ้น เอิ๊กเลยยังไม่ทำซ้ำ เมื่อหาย 100% เราจะมาแชร์อีกที เล่าสู่กันฟังนะคะ หาข้อมูลดีดี ไม่ต้องเชื่อเอิ๊กไปหาข้อมูลกันดู ตลอดเวลาเอิ๊กเขียนทุกบทความ ยอมรับว่าเอิ๊กเป็นเด็กที่ฟังหูไว้หูในเรื่องความงาม เอิ๊กจะพูดในสิ่งที่เห็น ความรู้สึกที่จริง และ ข้อมูลที่เอิ๊กถามคนอื่น รวมถึงอ่านเพิ่มเติม เอิ๊กละเอียดเอิ๊กจะไม่เชื่อใครหมดใจ แม้แต่คุณหมอที่เชี่ยวชาญมากที่สุดในสาขานั้นๆ เอิ๊กจะมีคำถามพิสดารไปถามแกตลอด ไม่ใช่ว่าหลบหลู่ แต่เอิ๊กคิดว่าการที่เอิ๊กป้อนคำถามไปบางครั้ง คุณหมอ หรือ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละแขนงที่เอิ๊กถามนั้น ไม่ได้มีเวลามาก บางทีคำตอบบางจุดอาจหลุดไป เพราะคุณหมออาจพูดถึงสิ่งที่อยู่ในหัว ประสบการณ์ แต่อาจลืมบางจุดที่เพิ่งเรียนรู้เพิ่มเติมมาหลังจากนั้น

ลูกกลิ้งที่กลิ้งจะมีหนามทื่อๆทู่ๆเล็กๆสองแถว ปล่อยพลังงานความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ส่วนตื้น อุ่นๆกันไป ประมาณ 15 นาที ทรมานแค่เวลาใกล้ไรผมที่โดนลูกกลิ้งมันเหมือนกระตุกผมไปด้วย รวมถึงคิ้ว 555555

สภาพก่อนและหลังทำจึงงานฉะนี้ เอาละภาควิธีการทำเสร็จแล้ว ไปดูวิธีการดูและผลลัพธ์กันบล็อคถัดไปค่ะ ว่า CLEAR & BRILLIANT มันจะทำให้ผิวเราถูกฟื้นฟูไปในทางไหน รูขุมขนกระชับไหม ไปดูกานนนนนนน

ภาค 3 คลิก

XOXO

[ ขอบคุณรูปภาพ 2 ภาพแรกจาก คุณแคมป์ www.mhunoiii.bloggang.com ]

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, HOW TOComments (1)

รูขุมขนกว้างรักษายังไงได้บ้าง ?

รูขุมขนกว้าง กว่า 80% เป็นปัญหาผิวหนังที่หลายคนกลุ้มใจ มาก !!!

บทความนี้เอิ๊กได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังและเลเซอร์มา 2 ท่าน พร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่ม และ ประสบการณ์ตรง ดังนั้นทุกครั้งที่เขียนขึ้น เอิ๊กจะพยายามให้ข้อมูลมันนิ่งเท่าที่เอิ๊กจะทำได้ เวลาจะเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องผิวหนังเอิ๊กจึงใช้เวลาค่อนข้างนานมาก 1-2 วัน เหมือนกำลังเรียนรู้ เรื่องที่ไม่เคยรู้ สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญสาขานั้นๆ อ่านจากกูเกิล เว็บผิวหนังเมืองนอก ความคิดเห็นผลลัพธ์ของผู้ที่ผ่านการทดลองแต่ละวิธี อ่านหนังสือ และพยายามเขียนให้ทุกคนเข้าใจในภาษาคนธรรมดา ที่ไม่ใช่แพทย์ เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้าใจได้ และ ได้ข้อมูลเยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้ หากผิดพลาดประการใดหรืออยากให้ข้อมูลเพิ่มเติมยินดีค่ะ อีเมลล์ หรือ คอมเมนท์ข้างล่างได้เลยค่ะ

ขอบพระคุณ แพทยหญิง วลัยลักษณ์ มีประถม และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรังสิมา วณิชภักดีเดชา

สำหรับข้อมูลสัมภาษณ์ประกอบเรื่องผิวหนัง และ เลเซอร์ค่ะ

และขอบคุณ GOOGLE สำหรับภาพประกอบค่ะ

รูขุมขนกว้าง มีสาเหตุมาจากอะไรบ้างต้องรู้ ?

  1. อายุมากขึ้น (คอลลาเจนเสื่อม) 
  2. กรรมพันธุ์
  3. ผิวมัน-ผิวผสมส่วนที่มัน น้ำมันผลิตมาก (ทำให้รูขุมขนต้องทำงานหนักเปิดกว้างเพื่อปล่อยน้ำมันออกมา)
  4. ผิวแห้ง-ผิวขาดน้ำ (ขาดความชุ่มชื่น,เสียน้ำในชั้นผิว) เกิดได้เมื่อใช้อะไรรุนแรง,นอนดึก,อากาศ
  5. เกิดหลังจากมีสิวอักเสบมากจนเกิดหลุมทำให้ดูรูขุมขนกว้าง
  6. ขนเส้นใหญ่ (ขนาดขนมีผลต่อรูขุมขน)
  7. ช่วงตกไข่ ผิวอ่อนแอ PROGESTERONE,FSH,LH สูง หน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น อุดตันง่าย
  8. สภาพอากาศ&มลภาวะ ร้อน เครียด ก็ผลิตน้ำมันบนผิวได้มากขึ้น
  9. อาหาร ทอด&มัน อาจเป็นเหตุให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น
  10. แดดเลีย ทำให้ผิวแห้ง สภาพผิวเสียสมดุล หน้าอาจจะมันมากขึ้น
  11. นอนดึก-นอนเช้า

รูขุมขนกว้างได้ยังไง ?

เนื่องจากรูขุมขน จะอยู่บริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้น ซึ่งอุดมประกอบไปด้วย ไฮยาลูรอนิค แอซิด (ช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง,ช่วยให้ผิวเต่งตึงฯลฯ) เยอะที่สุดในบริเวณชั้นหนังแท้ส่วนตื้น และ มี คอลลาเจน (ทำให้ผิวแข็งแรง ตึง กระชับ) แต่มีอยู่บางเบาไม่หนาเหมือนชั้นหนังแท้ส่วนลึกถ้าบริเวณไหน คอลลาเจน หรือ ไฮยาลูรอนิค แอซิด น้อยก็จะทำให้ความหนาแน่นรอบรูขุมขนน้อย รูขุมขนจึงหลวม และ เบ่งบานออก ทำให้เราเห็นว่า “รูขุมขนกว้าง”

หลักการแก้เรื่องรูขุมขนกว้างง่ายมาก

1. เติมความชุ่มชื่น (ไฮยาลูรอนิค แอซิด)

2.กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

 มีหลากหลายวิธี เอิ๊กรวบรวมมาดังนี้

 

เลเซอร์/คลื่นความถี่วิทยุ

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนโครงสร้างผิว ลึกถึงชั้นหนังแท้ส่วนตื้นและลึก, กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ทำให้คอลลาเจนหดตัวกระชับ , ถ้ากำจัดขนถาวรก็ปรับโครงสร้างผนังรูขุมขนให้กระชับเมื่อกำจัดขนออกไป, RESURFACING ทำให้พื้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น ,ให้ความร้อนโดยตรงในชั้นหนังแท้ส่วนตื้น

ชนิดที่ให้ความร้อนทุกชนิด (เช่น เลเซอร์ประเภทยกกระชับ GENTLE YAG)

ชนิดกรอผิวแบบไม่มีแผล,มีแผล และ กึ่งมีแผล (เช่น เลเซอร์ERBIUM,FRAXEL,CO2,EMATRIX,CLEAR AND BRILLIANT,PICO LASER)

ชนิดกำจัดขน (เช่น เลเซอร์ GENTLE YAG,IPL,CYNERGY,ND YAG)

ข้อดี เป็นการปรับลงไปที่โครงสร้างของผิวดังนั้นเมื่อทำแล้วผลที่ได้อยู่ยาวนาน,ผิวเรียบเนียน,รูขุมขนดูกระชับ,ริ้วรอยเล็กๆจางลง

ข้อด้อย รอการสร้างคอลลาเจนซักพักขึ้นกับร่างกาย,ราคาสูง,ทำ4-6ครั้งขึ้นไปขึ้นกับความกว้างของรูขุมขน

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

ฟิลเลอร์ 

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนความหนาแน่นของผิวชั้นหนังแท้ส่วนตื้นทันที โดยการเติมไฮยาลูรอนิคเอซิด ชนิดเดียวกับที่มีอยู่ในผิว (สารที่โอบอุ้มน้ำ) ให้ดูเติมเต็ม 70-85%

ข้อดี เติมเต็มเห็นผลทันทีทันใจ / สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อด้อย ต้องฉีดบ่อยประมาณ3-4ครั้งต่อเดือน / ราคาสูง

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

โบทูลินูมทอกซิน

ความสามารถ&หลักการ เปลี่ยนระบบการทำงานบางอย่างเช่น การผลิตน้ำมันของผิว,ต่อมเหงื่อ

เข้าไปควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อลดเหงื่อ , ลดการผลิตน้ำมัน

ข้อดี เห็นผลในสัปดาห์แรก / สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ข้อด้อย ต้องฉีดบ่อย2-3เดือนไปซ้ำที / ราคาสูง

ลักษณะผิวที่ทำได้ ผิวมัน,ผู้ที่ใบหน้ามีเหงื่อออกเยอะ

 

 

เวชสำอาง หรือ สกินแคร์สูตรกระชับรูขุมขน

ความสามารถ&หลักการ  บางสูตรช่วยเคลือบผิวให้เรียบเนียน,บางสูตรให้ความชุ่มชื่นฟื้นฟูผิวหนังด้านบนให้ดูอิ่ม,บางสูตรมีสารที่ช่วยละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนเมื่อรูขุมขนสะอาดจึงแลดูเล็กลง เช่น ส่วนผสมที่ลดการผลิตน้ำมัน หรือ ปรับสมดุลน้ำมัน เช่น linoleic acid / Niacinamide2%+ / Salicylic acid[BHA] / ทากันแดดเป็นประจำ SPF 30-50 PA+++ขึ้นไป และ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มองหา OIL FREE , NON-COMEDOGENICกินยารักษาสิวบางประเภทก็อาจควบคุมน้ำมันบนผิวได้แต่ควรอยู่ในความดูแลของหมอผลข้างเคียงเยอะมาก note* อย่าใช้อะไรที่ทำให้ผิวแห้งมาก เช่น เจลฟองเยอะ การผลัดเซลล์ผิวมากไป จะกระตุ้นให้เพิ่มการหลั่งน้ำมัน

ข้อดี ให้ความชุ่มชื่น,คุมมัน,ละลายสิ่งอุดตัน,เคลือบผิวให้เรียบเนียน

ข้อด้อย สกินแคร์ใช้ต้องใช้ระยะเวลา ส่วนใหญ่ทาไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างผิวชั้นลึก อีกอย่างผลจึงขึ้นอยู่กับแต่ละคน ต้องใช้ต่อเนื่อง และกระชับได้ในระดับนึงเท่านั้น(เล็กน้อย)

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา ต้องเลือกให้เหมาะ ผิวผสมอาจต้องใช้ทั้ง 2 สูตร

 

 

เครื่องสำอางสูตรปกปิด หรือ พรางรูขุมขน

ความสามารถ&หลักการ  ปกปิดหรือพรางรูขุมขนให้แลดูเล็กลงทันทีด้วยส่วนประกอบบางอย่าง เช่น ซิลิโคน

ข้อดี ให้ผลทันที,ราคามีตั้งแต่ถูก-ปานกลาง

ข้อด้อย ด้วยส่วนประกอบบางชนิดอาจทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา

 

 

พอกด้วยสมุนไพร เช่น มะเขือเทศ

ความสามารถ&หลักการ  ด้วยวิตามินเอ และ ซีในมะเขือเทศ ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว สร้างสมดุล ขจัดน้ำมันส่วนเกิน ทำให้ผิวกระจ่างใส จากการพอกมะเขือเทศบด สูตรมีหลายสูตร คนผิวมันอาจเติมมะนาวลงไป2-3หยด ผิวแห้งเติมน้ำผึ้ง โยเกิตลงไป ลองไปหาสูตรแล้วลองทดสอบดูบางบริเวณก่อนค่ะ เขาว่ากันว่าช่วยกระชับรูขุมขนได้

ข้อดี ราคาถูก,หาซื้อง่าย,ทำเองได้ที่บ้าน

ข้อด้อย ได้ผลชั่วคราว,ได้ผลกับบางคนขึ้นกับผิวของแต่ละคน,เลอะเทอะ,กลิ่น

ลักษณะผิวที่ทำได้ บางสูตรเหมาะกับผิวมัน-ผิวผสม,บางสูตรเหมาะกับผิวแห้ง-ธรรมดา

 

 

นอนเร็ว

ความสามารถ&หลักการ เมื่อร่างกายพักผ่อนเพียงพอ สุขภาพภายในจะดี เก็บความชุ่มชื่นได้ดีขึ้น ถ้าเรานอนดึกร่างกายก็ไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้ซ่อมแซม ร่างกายสูญเสียน้ำตลอดคืน ต่อให้ดื่มน้ำเข้าไป ก็จะมีการขับออกทางปัสสาวะ ทาครีมก็ไม่ซึมร่างกายต้องการระบายความร้อนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น และทำให้รูขุมขนบานออก คนผิวแห้ง หรือ ผิวธรรมดาเมื่อได้พักผ่อนอย่างรวดเร็วติดต่อกันจะสังเกตุได้ถึงผลลัพธ์

ข้อดี เป็นการปรับสมดุลร่างกายในชีวิตอย่างดีมาก,ไม่มีค่าใช้จ่าย

ข้อเสีย สำหรับคนที่ติดนอนดึก นอนเช้า อาจเป็นการยากในการฝึก , ไม่ค่อยได้ผลในคนผิวมันซึ่งมีปัจจัยอื่นเช่นการผลิตน้ำมันที่มากเข้ามาเกี่ยว

ลักษณะผิวที่ทำได้ ผิวแห้ง ผิวธรรมดา

 

น้ำแข็ง

ความสามารถ&หลักการ ความเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขน นำมาวางไว้ในผ้า หรือ ใช้น้ำแข็งลูบบริเวณที่รูขุมขนกว้างวนไปวนมาอย่างเบามือ ประมาณ 5 นาทีเห็นผล

ข้อดี เห็นผลทันที,ค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำประปาราคาถูก,ผลพลอยได้ แก้มดูแดงระเรื่อ เลือดฝาด

ข้อเสีย ผลอยู่ไม่กี่นาทีก็กลับมากว้างเหมือนเดิม

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิว

 

โฟโต้ชอป APPs 

ความสามารถ&หลักการ มีอุปกรณ์อิเลคทรอนิค เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ มือถือก็ประมวลผลออกมาให้ผลลัพธ์ทันที

ข้อดี เห็นผลทันที,ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟ ไม่กี่บาท, รู้สึกดีที่ได้เห็นภาพหลังทำ

ข้อเสีย เห็นผลลัพธ์ยอดเยี่ยมแค่รูป

ลักษณะผิวที่ทำได้ ทุกสภาพผิวหน้าไม่มีข้อจำกัด ฮ่าฮ่า

 

ทุกวิธีที่กล่าวมาไม่มีวิธีไหนที่ถาวร ต้องต่อเนื่อง

และ ทางที่ดีผสมวิธีเพื่อเสริมกันไปเพื่อชะลอการกลับมากว้างเร็ว

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กันนะจ๊ะ ไปเลือกเอาตามใจชอบ อย่าลืมแชร์ต่อให้คนมีปัญหาเดียวกันได้รู้ด้วย 🙂

XOXO

Posted in BEAUTY TECHNOLOGY, MAKE UP, SKIN, SKIN CAREComments (4)

เลเซอร์รักษารอยแดงที่เหนือกว่าอย่าง CYNERGY

” รอยแดงจากสิว เส้นเลือดฝอยที่หน้า เส้นเลือดใต้ตา เส้นเลือดฝอยตามน่อง ปานแดง ปานดำ บริเวณผิวหนังที่แดงผิวปกติ แผลคีรอยด์ และ กำจัดขน “

ปัญหาผิวหนังทั้งหมดที่กล่าวมาคือความสามารถในการรักษาของเลเซอร์ CYNERGY

เป็นการรวมนวัตกรรมของ

เลเซอร์ที่รักษาความผิดปกติของหลอดเลือด

เลเซอร์ที่ความผิดปกติของสีผิว และ เลเซอร์กำจัดขนไว้ด้วยกัน

[ pulse-dye laser & long-pulse Nd:YAG ]

สามารถรักษาได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน [MULTI]

” ปกติ VBEAM จะขึ้นชื่อเรื่องรอยแดงสิวอยู่แล้ว แต่VBEAMก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับเส้นเลือดขนาดเล็กๆละเอียดอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย สำหรับเลเซอร์ตัวนี้จะสามารถรักษารอยแดงได้ในบริเวณที่กว้าง หรือ แม้กระทั่งเส้นเลือดแดงที่มีขนาดเป็นฝอยเล็กๆตามผิวหนัง ทั้งนี้เส้นเลือดฝอยขนาดใหญ่ เล็กสีเขียวก็สามารถรักษาได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงแผลคีรอยด์ก็ทำให้ดีขึ้นด้วย รวมถึงการรักษาความผิดปกติของสีผิวหนัง เช่น ปานแดง ปานดำ “

ความเจ็บระหว่างทำ

อาจจะมีการทายาชาก่อนทำ และ มีการเป่าลมเย็นลดความเจ็บปวดได้ระดับนึง

การเตรียมตัวก่อนทำ

งดการตากแดดเป็นเวลา 1 เดือนอย่างน้อยก่อนทำ

หลังทำ – ผลข้างเคียง

  • สีผิวบริเวณที่ทำจะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม แดงคล้ำอยู่ 2 – 7 วัน จึงจะดีขึ้นเรื่อยๆ
  • เส้นเลือดบริเวณขาหลังทำอาจมีตุ่มน้ำพอง และ ผิวเป็นสีแดงเข้มอยู่ประมาณ 7-14 วัน
  • กำจัดขน อาจเป็นตุ่มน้ำใสๆเล็กๆขึ้น จะยุบเองประมาณ 2 ชั่วโมง อาจจะรู้สึกระคายเคืองผิวเล็กน้อย บางครั้งผิวอาจเป็นสีชมพูแดงประมาณ10นาทีจะหายไปเอง

 

ก่อนทำ  – หลังทำทันที และ 60 ชั่วโมงผ่านไป

[ขอบคุณรูปรีวิวของพ่อหนุ่มคนนี้ เขาหน้าแดงมากแดงเกินเลยรักษาเห็นภาพเลย]

การดูแลตัวเองหลังทำ

  • ล้างเบา ๆ ด้วยสบู่ที่อ่อนโยน น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยน และน้ำเปล่าที่สะอาด
  • ควรทาครีมบำรุงให้ความชุ่มชื่นทุกวันสม่ำเสมอ
  • สามารถทานยาแก้ปวดได้ ถ้ารู้สึกระบบ จากการทำในบริเวณที่กว้าง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด
  • นัดเช็คผลกับแพทย์ที่รักษา
  • งดเล่นกีฬาระหว่างที่รอยแดงยังไม่หายดี
หลังทำ 5 วัน

[พอหน้าหายแดงดูหล่อเลยวุ้ย]

กะว่าจะไปทำที่ ISKYCENTER จะทำที่ใต้ตามีเส้นเลือดอยู่ แต่เห็นว่ารอยมันก็อยู่หลายวัน เลยต้องมาหาข้อมูลรอไว้เพื่อช่วงไหนงดไปไหนจะจัดมาให้ดูค่ะ เอิ๊กว่าถ้าจะติดคงอยู่ที่รอยแดงหลังทำก่อนจะดูดีหลายวันไปหน่อย แต่ผลลัพธ์มันน่าทึ่งมาก ปานแดง ปานดำ คีรอยด์คงคุ้มมาก หรือ เส้นเลือดขอดตามขา และพวกเส้นเลือดตามหน้าสีแดงชัดไป ยังไงหาข้อมูลก่อนทำค่ะ รวมถึงข้อมูลแพทย์ด้วยดูแล้วตัวนี้พลังงานเลเซอร์จะเข้มมาก 🙂

XOXO

Posted in LASERComments (0)

EMATRIX หลุมสิวตื้น รูขุมขนกระชับ หน้าใสขึ้น

ขอบคุณ ISKYCENTER สำหรับข้อมูลประกอบค่ะ

วันนี้จะมาแนะนำเทคโนโลยีใหม่ EMATRIX ที่ลดผลข้างเคียงทั้งแผล และ สีผิวที่อาจเปลี่ยนไปได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ นำมาใช้ผลัดเซลล์ผิวด้านบน คล้ายลักษณะกึ่งมีแผล

เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษา

  • ริ้วรอย
  • หลุมสิว
  • รูขุมขนกระชับลง หน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น
  • ผิวพรรณกระชับ


เรียงตามลำดับ

เทคโนโลยีนี้ดียังไง ?

หลายคนคงคุ้นเคยกับคลื่นความถี่วิทยุมาบ้างแล้ว ในนวัตกรรมความงามคลื่นความถี่วิทยุสามารถช่วยได้หลายอย่าง เรื่องทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และอีกมากมาย

EMATRIX เป็นการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนโดยใช้คลื่นความถี่สูง (RF) กระจายพลังงานลงไปบนผิวในลักษณะรูปทรงปิรามิดซึ่งต่างจากการทำเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดอื่นๆ ที่เวลาทำแผลด้านบนจะใหญ่ และ ผลลัพธ์ก็กระจายเท่ากับที่ใช้เลเซอร์ยิงลงไป ทำที่ไหน ได้ผลเท่านั้น แต่ EMATRIX ไม่ใช่ยิงลงไปบนผิวแต่ปล่อยพลังงานจากจุดเล็กๆด้านบน แต่พลังงานเหล่านั้นลงไปชั้นหนังแท้แผ่ขยายพลังงานด้านล่างเป็นมุมกว้างจึงสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้น ลึกขึ้น แต่ แผลด้านบนมีขนาดเล็ก ลดการเกิดผลข้างเคียงในการปรับสภาพผิวแบบเดิมๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น 

EMATRIX จะปล่อยพลังงานแบบรูปทรง PYRAMID

ผลพลอยได้ของมันค่อนข้างเยอะ เช่นรักษาหลุมสิว เราก็จะได้ใบหน้าที่เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง หลุมตื้นขึ้น ใบหน้าใสขึ้น กระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาเรื่องการเกิดแผลขนาดใหญ่ แผลเป็น ด่างขาว สีผิวที่คล้ำลง ลดผลข้างเคียงไปเยอะมาก หรือไม่เกิดเลย ลดความเจ็บปวดไปได้เยอะระหว่างทำอาจรู้สึกเพียงอุ่นๆ

ผลลัพธ์เห็นเมื่อไหร่

การปรับสภาพผิวนั้นอาจต้องใช้เวลาถึง 4-6 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผลเพื่อเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นสร้างขึ้นมาใหม่

ต้องรักษากี่ครั้ง

ขึ้นกับปัญหาผิวพรรณที่ต้องการรักษา อย่างหลุมอาจต้องใช้เวลามากหากลึกประมาณ​3-6ครั้ง อาจดีขึ้นมากถ้าเป็นตื้น แต่ถ้าลึกอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยและอาจไม่หาย 100%

การดูแลตัวเองหลังทำ

อาจเกิดสะเก็ดเล็กๆ คล้ายรอยตะแกรงบาบีคิวมานาบเบาๆ แดง แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ราคา

ค่อนข้างสูงประมาณ 15,000 / ครั้ง หรือ เป็นคอร์ส 36,000 บาท แล้วแต่จำนวนครั้งในการยิง เนื่องจากหัวที่ใช้ยิงเป็นทองคำซึ่งใช้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง

ความปลอดภัย

ระดับสูงผ่าน FDA เรียบร้อย 

ข้อแนะนำ

การปรับสภาพผิวทุกชนิดต้องมีการกระตุ้นคอลลาเจนผลิตเนื้อเยื่อโครงสร้างผิวที่แข็งแรงใหม่ขึ้นมาอาจต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์

เมื่อเช้าแวะไปอ่านกระทู้ท่านนึงมา ผ่านการรักษาหลุมมาโชคโชนเกือบ 10 วิธี เธอบอกว่า EMATRIX ติด 1 ใน 3 วิธีเธอแนะนำว่าเห็นผลจริงเอิ๊กเองยังไม่มีโอกาสได้ลอง ถ้าได้ลองจะมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนตัวอายุปีนี้ 25 แล้วการผลิตคอลลาเจนก็น้อยลงมาก ขึ้นกับสภาพร่างกายอีกคิดว่าอาจได้ใช้การปรับสภาพผิวมาช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนบ้าง เพราะมันอยู่อีกนานเมื่อมันดึ๋งดั๋งขึ้นแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆหลายที่เคยกรอหลุมสิว ริ้วรอย หรือ รูขุมขนด้วยเลเซอร์ชนิดมีแผล เอิ๊กได้ผลข้างเคียงคือ ผิวชมพู ตอนนี้จะ 5 เดือนแล้วยังไม่หายสนิทแต่ดีขึ้นเรื่อย เอิ๊กอาจจะใช้วิธีนี้ถ้าต้องการทำให้หลุมมันดีขึ้นเป็นวิธีต่อไปค่ะ เพราะไม่อยากได้ผลข้างเคียงอะไรอีกแล้ว <3

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites