Archive | ACNE

เทคโนโลยีรักษาหลุมสิว 2021

 

 

อัพเดทเทคโนโลยีรักษาหลุมสิว 2021

หลุมสิวมีก่ีประเภท

ice pick scar หลุมสิวเหมือนเป็นรูหลุมคล้ายเอาปากกาจิ้มดิ้นน้ำมันเปนรูลงไป

Rolling scar ขอบจะไม่ชัด เป็นแอ่งลงไปคล้ายคลื่นทะเล

box scar ขอบแผลจะชัด มีแบบลึกและตื้น อีสุกอีใสมักทิ้งแผลแบบนี้ไว้

Cr. GOOGLE / THE DERM DETECTIVE

การรักษาในปัจจุบัน

GOLD STANDARD ในการรักษาหลุมสิวนั้นปกติเลเซอร์จะถูกนำมาใช้

เพราะกำหนดความลึกได้ กำหนดพลังงาน และลดผลข้างเคียง

ไม่ให้เกิด หรือ เกิดน้อยลงได้

การรักษาหลุมสิว จะแบ่งเป็น ใช้เครื่องมือ กับ ไม่ใช้เครื่องมือ

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

 ไม่ใช้เครื่องมือ

Cr. shreeji skin care

■ การใช้วิธีแต้มกรด 

เช่น กรด TCA เลือกใช้ความเข้มข้นคต่ำ 20-35% เพื่อใช้ลอกผิว รักษารอยสิว และ หลุมตื้นๆใหม่ๆได้ ยังรวมถึงกรดอื่นที่นำมาใช้ได้อีก คือ AHA BHA แต่เหล่านี้อาจใช้กับหลุมไม่ได้ ถ้าการรักษาหลุมเราอาจใช้ TCAความเข้มข้นสูง 65-100% โดยใช้ไม้จิ้มฟัน แต้มก้นหลุมให้เกิดแผลเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนช่วยทำให้หลุมตื้น มักถูกใช้ในหลุมสิวประเภท ICE PICK / BOX SCAR อาจต้องทำหลายครั้งถึงเห็นผล เราอาจจะรวมกับวิธีการใช้เลเซอร์ปรับสภาพผิวร่วมด้วย ส่วนการกำหนดความเข้มข้นกรดที่จะใช้ หรือ พลังงานเลเซอร์ก็ขึ้นกับคนไข้ ผลข้างเคียงน้อยสำหรับวิธีนี้น้อย หรือ ไม่มีหากใช้ถูกวิธี

Subcision Acne Scar Treatment Procedure in Singapore

Cr. GOOGLE / THE DERM DETECTIVE

■ Subcition การตัดพังผืด

การตัดพังผืดใช้เข็มแบนๆแหลมเล็กสอดไปใต้ผิวตัดพังผืดโดยเคลื่อนเข้าออกแนวยาว หรือ อาจใช้เข็มธรรมดาก็ได้ ทำร่วมกับเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ให้หลุมตื้นขึ้นไวได้ มักใช้กับหลุมประเภท ROLLING SCAR เพราะมีพังผืดรั้งเห็นชัด  ข้อดีการตัดพังผืด คือ ลงลึกกว่าเลเซอร์ และหลักทำ ตื้นแบบเห็นได้ทันที ข้อเสียบวมนานปรมาณ 1 สัปดาห์ การตัดพังผืดต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไม่งั้นอาจจะทำให้เกิดแผลนูน (แผลคีลอยด์) ตามมา หรือ แผลมากกว่าเดิม เพราะเราไม่สามารถส่องเห็นถึงพังผืดใต้ผิวได้โดยตรงฝีมือแพทย์และประสบการณ์จึงจำเป็นมาก และที่ต้องใช้เทคนิคนี้คู่กับฟิลเลอร์ เพราะ ตอนทำมีน้ำเหลืองและเลือดคั่งได้ถึงต้องลองก้นหลุมด้วยฟิลเลอร์

Cr. meliorclinics.co.uk

■ Filler สารเติมเต็มชนิด Hyaluronic acid

สารเติมเต็มเหมาะสำหรับคนรีบด่วน งานเร่ง ใช้ดูแลรักษาหลุมสิวได้รวดเร็ว(แต่ไม่ถาวรต้องเติม) เหมาะกับหลุมประเภท ROLLING หลังจากตัดพังผืดเราเติมลงไปที่ก้นหลุม ผลลัพธ์เห็นว่าหลุมดีขึ้นได้ทันที อยู่ได้ประมาณ 3-12 เดือนขึ้นกับชนิดของประเภทชนิดฟิลเลอร์ ผลข้างเคียง เวลามีแผลจากหลุมสิวมันจะมีเส้นเลือดผิดปกติ การฉีดต้องระวังต้องทำโดยเพทย์ผู้เชี่ยวชาญไม่งั้นเสี่ยงเนื้อตาย

Cr. researchgate.net

■ Punch biopsy การตัดชิ้นเนื้อ

การตัดชิ้นเนื้อใช้อุปกรณ์มีดตัดเล็กๆเหมือนทรงกระบอกตัดชิ้นเนื้อแล้วเย็บใหม่กลายเป็นแผลขีดซึ่งมองว่า แผลขีดก็ดีกว่าการเป็นหลุมกลมๆลึกๆ เหมาะกับหลุมสิวประเภท ICE PICK SCAR / BOX SCAR มักจะรักษาร่วมกับเลเซอร์การกรอผิว วิธีนี้อาจไม่เหมาะคนที่เป็นคีลอยด์ง่าย และ ฝีเย็บของคุณหมอก็สำคุญมากไม่แพ้การตัด เพื่อการรักษาแผลผ่าตัดให้เรียบเนียนก็ควรมาจากการเย็บที่สวยงาม

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ใช้เครื่องมือ (เทคโนโลยี)

GOLD STANDARD เราจะใช้วิธีเลเซอร์ปรับสภาพผิว

หลักการเลเซอร์ในการทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นมี 3 กลไก

1. เลเซอร์จะกรอผิวด้านบนก่อนเพื่อให้มีการสร้างใหม่ของผิวด้านบนให้เรียบขึ้น

จึงทำให้หลุมที่มีขอบชัดก็ดูเบลอขึ้นเนียนขึ้น

2. เลเซอร์ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวทันที ทำให้หลุมหดแคบเล็กลง

3. กระตุ้นคอลลาเจนใต้หลุม ทำให้หลุมตื้นขึ้น โดยใช้เวลาเห็นผลลัพธ์ 3-6 เดือน

 

ประเภท Laser หลุมสิวแบ่งเป็น 2 ประเภท

■ Full beam เลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานออกมาทั้งหมด

กรอผิวทั้งหมด บริเวณที่โดนพลังงานจะเป็นแผล 

■ Fractional เลเซอร์ปล่อยพลังงานออกเป็นส่วนๆ

ที่โดนมีแผล ที่ไม่โดนไม่มีแผลลดผลค้างเขียง แสงจะลงเป็นจุดๆ

เพราะเชื่อว่าเนื้อเยื่อข้างเคียงที่ไม่โดนเลเซอร์จะช่วยให้แผลสมานเร็ว

 

Full beam ที่นิยมมีอะไรบ้าง

■ Co2 laser กรอผิวได้เยอะ เหมาะกับผิวขาวมากกว่า พอมาใช้คนไทยเอเชีย เกิดรอยดำ100% และอาจเกิดแผลเป็น อันนี้ไม่ใช้ในเอเชียแล้วผลข้างเคียงเยอะ เลเซอร์ชนิดนี้กระตุ้นผิวทั้ง3กลไกทำให้แผลตื้นชนาดแผลเล็กขอบผิวชัดน้อยลง

■ Erbium YAG Laser เหมาะกับผิวเอเชีย กรอผิวได้ตื้นกว่า พลังงานอาจลงลึกไม่เท่า CO2 แต่ไม่เกิดรอยคล้ำหลังเลเซอร์ สำหรับการกระตุ้นเนื้อเยื่อได้ไม่เท่าco2 ผลลัพธ์หลังทำผิวจะเรียบเนียนขึ้น หลังทำแผลลอกเป็นแผ่นๆผิวเนียนขึ้นขอบผิวกลมกลืนและตื้นขึ้น

 

Fractional ที่นิยมมีอะไรบ้าง

■ FRACTIONAL co2 กรอผิวชั้นหนังแท้ หนังกำพร้า มีแผลเป็นส่วนๆ ผลข้างเคียงรอยดำน้อยลง 30-70% ผิวเอเชียยังต้องใช้เทคนิคแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งพลังงาน

■ Fractional Erbium Glass (fine scan) พลังงานลงไปชั้นหนังกำพร้าถึงหนังแท้ ตัวพลังงานเลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลเลาเจน เห็นผลประมาณ 3-6 เดือน แต่แผลน้อย แผลหายเร็ว รอยคล้ำน้อยกว่า เหมาะกับหลุมตื้น เช่น box scar

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ถ้าไม่ใช้เลเซอร์เราก็มีเทคโนโลยีอื่นซึ่งจะใช้หลักการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เกิดแผลน้อยมาก รอผลลัพธ์อย่างน้อย 3-6 เดือนถึงจะเห็นผล ข้อดี แผลน้อยแผลหายเร็ว เหมาะกับหลุมที่ตื้นๆ เช่น

■ Fractional RF โดยปล่อยคลื่นวิทยุ [ Radio Frequency ] ส่งพลังงานได้ลึกกว่าเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ดีกว่า แผลน้อยกว่า ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิว ทำได้ทุกสีผิว เกิดรอยดำน้อยมาก ขอบแผลดีขึ้นความชัดขอบหลุมน้อยลง ช่วยยกกระชับผิวได้ด้วย บางเครื่องมีเข็ม บางเครื่องไม่มีเข็ม เช่น EMATRIX / VINUS VIVA 

ส่วนเทคโนโลนีใหม่ตอนนี้ที่กำลังฮิต เช่น

■ Fractional PICOSECOND โดยเฉพาะคลื่น 1064 nm ตอนนี้ถือว่าดีสุด สำหรับความยาวคลื่น 755 ก็ยังใช้ได้อยู่ ถือว่าเป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ใช้รักษาเกี่ยวกับเม็ดสีได้ดี ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาระยะสั้น ใช้เวลารักษาน้อยกว่าเลเซอร์ทั่วไป และ ยังทำให้ผิวเรียบเนียน หลุมสิวตื้นดีขึ้น สีผิว ความหมองคล้ำดีขึ้น การกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวทำได้ดี โดยใช้กับหัว FRACTIONAL เพื่อดูแลรักษาหลุมสิว ใช้เวลา1เดือนจะเห็นว่าตื้นขึ้นเลย รอยแดงดีขึ้น รอยดำจางลง ข้อดี คือเจ็บน้อย สะเก็ดบางละเอียด อาจมีการแดงบวมเล็กน้อย 5-7 วันก็จะหาย สะเก็ดใช้เวลา 7-10 วัน ผลข้างเคียงน้อยกว่า รอยคล้ำหลังเลเซอร์น้อยกว่า เหมาะกับหลุมตื้นๆ มีความรุนแรงไม่มาก

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

สรุปการรักษาที่เหมาะกับแผลหลุมแต่ละชนิด

Gold Standard (ที่นิยิมใช้) คือการทำเลเซอร์กรอผิว

Cr. GOOGLE

Ice pick : หลุมสิวเหมือนเป็นรูหลุมคล้ายเอาปากกาจิ้มดิ้นน้ำมันเปนรูลงไป ตอบสนองเลเซอร์ได้ไม่ดีมากจะใช้ TCA ความเข้มข้นสูงหรือวิธี PUNCH การตัดหลุมและเย็บใหม่แล้วมาใช้LASER กรอปรับสภาพผิวอีกที 

Rolling scar : ขอบจะไม่ชัด เป็นแอ่งลงไปคล้ายคลื่นทะเล วิธีแรก Subcition ตัดพังผืด + Filler ฟิลเลอร์สารHA ต่อมาอาจจะใช้LASERกรอปรับสภาพผิว หรือ คลื่นวิทยุfractional RF

Box car : ขอบแผลจะชัด มีแบบลึก และ ตื้น จะใช้LASERปรับสภาพผิว แต่ถ้าหลุมลึกเลเซอร์อาจทำได้ไม่ดีพอ อาจเลือกใช้วิธีPUNCHตัดหลุมและเย็บใหม่ และ กรอผิวด้วยเลเซอร์อีกที หรือ ใช้ TCA เข้มข้นสูง + Filler ฟิลเลอร์สารHA

▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬

ข้อปฏิบัติก่อน-หลัง Laser หลุมสิว

หากมีแผลเลี่ยงน้ำ 24 ชม ล้างสบู่อ่อนๆ

ทามอยเจอร์ไรเซอร์ ขี้ผึ้งหรือ วาสลีนเคลือบแผลตลอดให้ชุ่มชื่น ทาวันละ 2-3 ครั้ง

อย่าเกาแกะแผลเด็ดขาด

หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแดด 2 สัปดาห์ และ ทากันแดดที่มีสารต้านการอักเสบ

อย่างน้อย3วันหลังจากทำเลเซอร์ไปแล้วในกรณีไม่แพ้กันแดด

เพราะจะป้องกันการเกิดรอยดำได้ และ

สำหรับบางท่านอาจมีการทาสเตียรอยด์ป้องการดำ 2-3 วัน

หากมีการแต้มกรด TCA ห้ามแกะสะเก็ดแผล

เพื่อไม่เป็นการรบกวนการซ่อมแซมของผิว

ข้อแนะนำเพิ่มเติม ควรทากันแดดและหลบแดด2สัปดาห์ก่อนมาทำเลเซอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดรอยดำหลังทำเลเซอร์จากผลงานวิจัยสามารถทาครีมกันแดดได้ในวันแรกสามารถเพิ่มการป้องกันการเกิดรอยดำ หากไม่ได้มีประวัติการแพ้ครีมกันแดด หากมีประวัติแพ้ครีมกันแดดก็สามารถชะลอการทาครีมกันแดดออกไปได้3วันจึงสามารถทาได้ ทั้งนี้ก็ต้องทาขี้ผึ้งหรือครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย ซึ่งครีมกันแดดที่แนะนำหลังเลเซอร์ควรที่จะมีสารป้องกันการอักเสบ ทางที่ดีที่สุดหลังทำเลเซอร์คือ ควรเลี่ยงแดดเพื่อป้องกันการเกิดรอยดำ

 

erk-erk : หลุมสิวหายยากแต่ดีขึ้นได้นะคะอย่างไรก็ตามควรดูแลป้องกันให้สิวยุบไว

ไม่ให้ลุกลามตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยได้มาก เพราะไม่ว่าจะหลุมสิวชนิดไหนก็ไม่สามารถทำให้ผิว

กลับมาราบเรียบเหมือนเดิมได้ 100% นะคะ

ยังไงรักษาหลุมสิวเร็วการสร้างคอลลาเจนหลุมสิวได้ดีกว่า

 

สรุปจาก #CLUBHOUSE ห้องอัพเดทเทคโนโลยีรักษาสิว 2021

 

SPEAKER

แพทย์หญิงสรวลัย รักชาติ

แพทย์หญิงอาริสา เเก้วเกษ

แพทย์หญิงนัทธมน บวรสถิตชัย

 

บทความลิขสิทธิ์ Copyright © www.erk-erk.com All rights reserved.

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGYComments (0)

ทรีตเมนต์เซรั่มหน้าใส LUX SKIN SERIES TREATMENT SERUM

 

 

 

LUX SKIN SERIES TREATMENT SERUM

 

“ทรีทเมนท์เซรั่มวิตามินรวม บำรุงผิว เขย่า และ ตบลงบนผิว (ฟื้นฟูผิวระดับเซลล์)

ที่ผสานน้ำตบวิตามิน กับ น้ำมันบำรุงผิวคุณภาพสูง 5 ชนิด

ที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวคนที่เป็นสิวง่ายโดยเฉพาะ

ออกแบบมาให้ดูแลเติมน้ำให้กับผิว ปล่อยสารสกัดที่ทรงคุณค่าลงลึกฟื้นฟูระดับเซลล์ผิว

และ ปิดล็อคการบำรุงผิวยาวนานตลอดวัน

โดยทำให้เหมือนกระบวนการทำงานของโครงสร้างผิวที่มีทั้งส่วนน้ำ และ ไขมัน

✅ ปรับสมดุลฟื้นฟูเซลล์ผิว เติมน้ำ ล็อคความชุ่มชื้น

✅ ลดการอักเสบของสิว

✅ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว

✅ ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่ายปราศจากสารระคายเคือง

✅ ป้องกันผิวจากฝุ่น PM2.5

✅ กู้ผิวไหม้จากแสงแดด

✅ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่

✅ เพิ่มการไหลเวียนเลือดและออกซิเจนให้กับผิว

✅ ลดเลือนแผลเป็นและรอยสิว

✅ ผลัดเซลล์ผิวจากพลังธรรมชาติ

✅ มี OMEGA 3 6 7 9

✅ วิตามิน 13 ชนิด A C D E F K P B1 B2 B3 B6 B5 B9

✅ มีกลิ่นหอมอโรมาอ่อนทำให้ผิวรู้สึกสบายผ่อนคลาย

นำเข้าสารสกัดมาจาก14ประเทศ

ขนาด 15 ml. 1250 บาท ฟรีส่งEMS

 

LUX SKIN SERIES แบรนด์สกินแคร์บำรุงผิวคุณภาพสูง

ที่เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย

โดยมีแนวคิดมาจากการเพิ่มการกักเก็บความชุ่มชื่นของผิวให้ยาวนานขึ้น

รวมถึงการปรับสมดุลน้ำมันของผิว

ให้ความสำคัญในการดูแลเซลล์ผิวชั้น Lipid เสริมสร้าง Barrier ที่ดี 

และ ช่วยให้เซลล์ผิวสื่อสารกันได้ดีมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงสุขภาพดี 

ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา และ ดูอ่อนเยาว์ 

0% ปราศจากส่วนผสมที่ระคายเคืองผิว pH 5.5

ร่วมกันดูแลสูตรจากผู้ที่อยู่ในวงการความงาม

กับการดูแลผิวและรักษาสิวมา 10 กว่าปี

และ ด็อกเตอร์เภสัชกรผู้คร่ำหวอด

ในวงการสกินแคร์มานานเกินกว่า 20 ปี

 

LUX SKIN SERIES TREATMENT SERUM ทรีตเมนต์เซรั่มBi-Phaseวิตามินรวม

แค่เขย่า และ ตบเบาๆลงบนผิว ผสานน้ำตบวิตามิน กับ น้ำมันบำรุงผิวคุณภาพสูง 

เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว โดยเฉพาะผิวที่เป็นสิวง่าย เติมน้ำ ฟื้นฟู

และ ปิดล็อคการบำรุงผิวยาวนานตลอดวัน

โดยเลียนแบบกระบวนการทำงานโครงสร้างผิวที่มีสุขภาพดี 

สารสกัดทั้งหมดกว่า 29 ชนิดใส่ใน % ที่ให้ผลลัพธ์ตามงานวิจัยต่อผิวหนัง โดยนำเข้าทั้งหมดจาก 14 ประเทศ อาทิ

  •  SEA BUCKTHORN FRUIT OIL บริสุทธิ์สกัดเย็น ช่วยดูแลผิวหนังที่อักเสบ และมีOMEGA 3 6 9 7 ดูแลริ้วรอย ป้องกันผิวโดนแสงแดดทำลาย ต้านอนุมูลอิสระ ลดสิว รอยสิว ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดรอยแผล และ เสริมภูมิกันให้กับผิวแพ้ง่าย ผิวที่เป็นภูมิแพ้ อักเสบ อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด
  • ECTOIN คงสภาพ ปกป้อง ซ่อมแซมเซลล์ผิว ปกป้องผิวจาก VISIBLE LIGHT หรือ แสงสีฟ้า รวมถึงการป้องกันมลภาวะ และ PM2.5 ทำให้ผิวฟูและชุ่มชื่นขึ้น
  • SK-INFLUX® V ช่วยเสริมสร้างปราการปกป้องผิวด้วย Ceramide 3, Ceramide 6 II, Ceramide 1, Cholesterol และ fatty acid ซึ่งเป็นพื้นฐานของโครงสร้างผิวสุขภาพดี ช่วยลดผดผื่น อาการคัน
  • NELUPURE™ดอกบัว 2 สายพันธุ์ ดอกบัวสีน้ำเงิน และ บัวหลวง ช่วยปรับสมดุลน้ำมันในผิว และ ลดโอกาสการเกิดการอักเสบของผิว
  • NANO-HYALURONIC ไฮยารูลอนโมเลกุลเล็กระดับดาลตัน ที่ซึมสู่ผิวได้ชั้นลึกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ความยืดหยุ่นผิว รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้

 

เพราะผิวหน้าเรามีค่า เกินกว่าจะใช้อะไรก็ได้

ผิวของเราไม่เหมือนกัน จึงต้องได้รับการดูแลที่ต่างกัน

 

บางคนใช้ทรีตเมนต์เซรั่ม LUXSKIN SERIES

แล้วชอบที่ “รูขุมขนกระชับ

บางคนชอบที่นอนน้อยแต่ 

“ หน้ายังชุ่มชื้นทั้งวัน “

บางคนชอบที่ “ อาการคันแพ้ผดผื่นหายไป “

บางคนชอบที่ “ ค่อยๆผลักสิวอุดตันอย่างอ่อนโยน

ลดสิวอักเสบที่เกิดใหม่

บางคนชอบที่ “ ผิวใสแน่นละเอียดผิวเรียบเนียนขึ้น “

 

ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าตั้งแต่เปิดตัว

ที่เแบรนด์ได้รับ FEEDBACK ดีๆจากลูกค้าทุกท่าน

ที่ไว้วางใจให้ดูแลผิวหน้าอันมีค่า และ 

ตั้งใจส่งความรู้สึกดีๆที่ได้รับจากการใช้มาให้กับเรา

 

“ พื้นฐานสุขภาพผิวที่ดี

สะท้อนตัวตนเราทุกคนเสมอ “

 

ขอบพระคุณทุกความไว้วางใจ

– LUX SKIN SERIES –

YOUR BEST LUX SKIN EVER

#เพื่อผิวที่ดีที่สุดมีความสุขกับผิวกว่าที่เคย #luxskinseries

 

credit : Khun Ploy คลิกอ่านตัวเต็ม

 

Posted in ACNE, FACE, REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

REVIEW อยากให้คนเป็นสิวเรื้อรังแพ้ง่ายได้ดู

คลิปนี้เก็บข้อมูลและลองทำจริงมาหลายเดือน ถ้ารักษาเท่าไหร่มาแล้วไม่ดี

มีปัญหาสุขภาพไหนแล้วไม่หาย

นี่คืออีกทางเลือกที่ควรเปิดใจลอง .. คลิปนี้มีสัมภาษณ์พิเศษจากแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย

ซึ่งดูแลเรื่องสุขภาพเอิ๊กอยู่ คุณหมอแหม่ม จาก Klaire Clinic

 

Posted in ACNE, HEALTHY, REVIEWComments (0)

ล้างหน้าลดสิว ได้ผลจริง ทำเองมาหลายปี

อ่านที่รีวิวไว้เพิ่มเติม https://goo.gl/wZ3d9G

Posted in ACNEComments (0)

สิวหายด้วย CHCKLIST 11ข้อ X TOMEI MOISTURIZER & CLEANSER

สิวหายด้วย CHCKLIST 11ข้อ จากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ

และ ความรู้จากการพบแพทย์

รวมถึง REVIEW ที่ล้างหน้าลดสิว และ ครีมลดสิว

 TOMEI MOISTURIZER & CLEANSER

2 ตัวใหม่ล่าสุดที่จะมาเขย่าตลาดดดวงการสิวอีกครั้ง

หลังจากยาแต้มสิวขายดีมากไปละ ^^

แจก 20 ชุด SAMPLE ไปเทสกันเล่นเกมส์ที่นี่ คลิก

Posted in ACNE, REVIEWComments (0)

9 วิธีดูแลผิวอ่อนแอระดับ ULTRASENSITIVE SKIN

9 วิธีการดูแลผิวที่อ่อนแอ [ สุดๆ ]

อาการคือ หน้าจะร้อนแดง คัน ง่ายตลอดเวลา ผิวเหมือนขาดน้ำ ทาครีมเท่าไหร่ก็ไม่ซึม ลูบจับหน้าไปสากมือ แต่งหน้านานๆจะเริ่มคัน เครียดแล้วหน้าจะเห่อแดงผดขึ้นเกือบทั่วหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์ทั่วไปปกติตามสภาพผิวอาจจะไม่พอ บางทีขึ้นเม็ดสิวที่บวมแดงคัน อักเสบ แต่ไม่ใช่สิวปกติ

เมื่อปลายเดือน พย. ที่ผ่านมาเอิ๊กมีอาการดังกล่าวข้างบน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต แล้วก็มีคนมาคอมเมนท์ให้กำลังใจ แนะนำผลิตภัณฑ์ดีดีขอบคุณมากนะคะ เอิ๊กเครียดมาก มันเป็นเรื้อรังมาหลายเดือน จนหายช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผิวกลับมาแข็งแรงมากขึ้น กลับมาใช้ทุกอย่างได้ตามปกติ

สิ่งแรกที่ทำเอิ๊กจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัว เนื่องจากเป็นอาการผิวหนังที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต คุณหมอหลายท่านลงความเห็นว่า อาจแพ้ “สารกันเสียบางชนิดในเครื่องสำอางแบบสะสมมานาน” ข้อแนะนำอยากให้ลองทำ ทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังทั่วไป เรียกว่า patch test 2.ยื่นสเตียรอยด์ให้ทาก่อน แต่เอิ๊กไม่เลือกทั้ง 2 วิธี อยากลองผ่านไปด้วยตัวเองอีกครั้ง เลยกลับมาสังเกตตัวเองก่อนแบบละเอียด พบว่าสิ่งที่จะทำให้หาย คือ

1. สังเกตุชีวิตประจำวันทุกด้านของตัวเอง ความเครียด การขับถ่าย การพักผ่อน ฯลฯ
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสียชนิดพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ฯลฯ และต้องช่วยเรื่องความชุ่มชื่น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวหนัง จะลดอาการคัน และ อักเสบระหว่างวันได้
3. อาจจะรับประทานอาหารเสริมประเภท OMEGA หรือ ทาร่วมด้วย
4. การใช้เครื่องสำอางต้องหลีกเลี่ยงการทาหลายชั้น และ เนื้อครีมหนักอุดตันรูขุมขน
5. กลับบ้านต้องรีบทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนมากๆ
6. มียาฆ่าเชื้อ ยาแต้มสิวไว้ด้วยเผื่อเกิดการอักเสบบางประการ ใช้ปริมาณพอเหมาะ
7. ใช้ผลิตภัณฑ์ให้น้อยขั้นตอนที่สุดเท่าที่จะทำได้
8. ถ้าจะมาส์คหน้าเน้นไปที่สูตรเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และ ให้ความชุ่มชื่น
9. ถ้าไม่หาย ให้ทำ PATCH TEST กับคุณหมอผิวหนัง [ บังเอิญหายก่อน 555 ]

ตอนนี้หน้ากลับมาแข็งแรงปกติ 90% ต้องระวังสาเหตุ ของเอิ๊กหาพบคือความเครียดจากงาน 55555 ขอบคุณทุกคนในความห่วงใย เลยเก็บเคล็ดลับมาแชร์ประการนี้เอย ตอนนี้ลองทุกอย่างได้ตามปกติ ช่วงนี้ใช่ LAMER + EUCERIN ครัช สำหรับสิวด้านซ้ายของหน้าสองเม็ด เกิดจากประจำเดือน แต่ขอโทษมาเถอะ เราเอาอยู่

DSC00012
‪#‎รักผิวสดหมดใจ‬
‪#‎NORETOUCH‬
.
heart emoticon
ด้วยรัก
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
ติดตามกันทาง line
http://line.me/ti/p/%40erk-erk
หรือ พิมพ์ @erk-erk นะคะ

Posted in ACNE, SKINComments (0)

แชร์อุปกรณ์กดสิวที่ปลอดภัย 100% และ วิธีกดสิวที่ถูกต้อง

อุปกรณ์กดสิว 100

ด้วยรักจากใจ
Erk-Erk
••••••••••••••••••••••••••••••••••••••
ติดตามกันทาง line http://line.me/ti/p/%40erk-erk
หรือ พิมพ์ @erk-erk นะคะ
YOUTUBE : http://www.youtube.com/wwwerkerkcom
FANPAGE : http://www.facebook.com/wwwerkerkcom
TWITTER : http://www.twitter.com/erk_erk
BLOG : http://www.erk-erk.com

Posted in ACNE, HOW TOComments (0)

REVIEW สบู่ล้างเครื่องสำอาง AVARI ก้อนเดียวจบ ขาว นุ่ม เด้ง

 

 

 

 

สวัสดีค่าาาาาาาาา บทความนี้อยากให้อ่าน

เพราะว่าได้มีโอกาสได้ทำรีวิวให้กับแบรนด์ AVARI

CLENSING ในรูปแบบก้อนสบู่ ที่รวมพลัง 3 คุณสมบัติ

MILK CLEANSING + OIL CLEANSING + WATER BASE CLEANSING

ไว้ในหนึ่งเดียว

 

เป็นอีกนวัตกรรมซึ่งคุณภาพผลิตภัณฑ์นี้ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศด้วย

ส่วนผสมที่นำเข้าจะมาจาก นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เยอะมัน กรีซ

 

จุดขายของแบรนด์ คือ ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอางสะอาดหมดจดในขั้นตอนเดียว

คอนเซ็ปต์ “สุขภาพผิวที่ดีเริ่มต้นที่ความสะอาด”

พร้อมทิ้งท้ายว่า มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่คุณจะหลงรักผิวตลอดไป

 

 

แพคเกจมาในกระดาษหุ้มด้านนอก สีครีม-ขาว และ มีลวดลายดอกไม้ใบหญ้าดูแล้วรู้สึก

ORGANIC ธรรมชาติมาก ส่วนผสมที่นำมาใช้หลักเน้นความเรียบง่ายธรรมชาติ

น้ำนมจากธรรมชาติ [ นิวซีแลนด์ ] น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ [กรีซ ] เซราไมด์ [เยอรมัน ]

AMINO  [ญี่ปุ่น] และ น้ำมันรำข้าว [ ไทย ]

* ปราศจากไขมันสัตว์ รวมถึง แอลกอฮอล์

 

 

 

มี 2 ขนาด ขนาดใหญ่ 80 กรัม 490 บาท

ขนาดเล็ก 30 กรัม 290 บาท

 

 

ส่วนประกอบ(Ingredients)

Lauric Acid, Stearic Acid, Glycerin, Sucrose, Aqua (Water), Propylene Glycol, Sorbital, Sodium Laureth Sulfate, Sodium Hydroxide, Sodium Cocoyl Isethionate, Disodium Cocoyl Glutamate, Sodium Cocoyl Glutamate, Sodium Cocoyl Threoninate, TEA Cocoyl Glutamate, Cholesteryl/Behenyl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Oryza Sativa (Rice) Bran Oil, Sericin, Lac ( Milk), Parfum (Fragrance), Ceramide 3; Ceramide 6 II; Ceramide 1; Phytoshpingosine; Cholesterol; Sodium Lauroyl Lactylate; Carbomer; Xanthan Gum, Palmitamidopropyltrimonium Chloride, Sodium Stearate, Lanolin (Lanolin Alcohol), Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Pyridoxine Cyclic Phosphate,Dimethicone PEG-7 Isostearate, Isopropyl Methyl Phenol

 

* มีน้ำหอมอ่อนๆ แต่ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ 

 

 

ส่วนผสมหลักที่ใช้กับคุณสมบัติ

 

น้ำนม [Milk] อุดมไปด้วยกรดแลกติก (Lactic Acid)

ซึ่งเป็นกรดอัลฟาไฮดร็อกซี่ (Alpha Hydroxy Acid) ธรรมชาติ

ช่วยควบคุมสมดุลของความชุ่มชื้นของผิวให้เป็นปกติ

ช่วยกระตุ้นเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกและกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนที่

ผิวจึงดูกระจ่างใส นุ่มเนียน เสริมสร้างแผ่นฟิลม์โปรตีนบางๆปกป้องเซลล์ผิว

 

น้ำมันมะกอก [Olive Oil] มีวิตามินอี และ วิตามินเอ ลดริ้วรอย บำรุงผิว

ล้างความมันส่วนเกิน ละลายเครื่องสำอางออกอย่างง่ายได้

 ควบคุมความมัน ต้านอนุมูลอิสระ โดยไม่อุดตันผิว 

 

อะมิโน [Amino Acid] ที่หมักและสกัดด้วยกรรมวิธีพิเศษ

ด้วยอนุภาคขนาดเล็กของ Amino Acid (เล็กกวา Collagen 3,000เท่า)

ทำความสะอาดลึก ดึงสิ่งสกปรกตกค้างในรูขุมขนออกมาได้

รวมถึงเครื่องสำอางที่ฝังแน่น ในเวลารวดเร็ว

โดยไม่ทำลายไขมันตามธรรมชาติของผิวหนัง

อ่อนโยนถึงขนาดทำความสะอาดรอบดวงตาได้ ผิวไม่แห้งตึง

ปราศจากการระคายเคือง

 

น้ำนมข้าว [Rice Bran Oil] มีวิตามินอี และ กรดไขมัน บำรุงเซลล์ผิว

ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอย

บำรุงผิวให้นุ่ม ยืดหยุ่น ผิวดูอ่อนเยาว์

 

เซราไมด์ [ Ceramide ] ปกป้องเซลล์ผิวด้านบนสุดไม่ให้

โดนสภาวะแวดล้อมภายนอกมาทำลาย เก็บความชุ่มชื้น

ลดการเกิดอนมูลอิสระของเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิวพรรณแห้งกร้าน ทำให้ผิวแข็งแรง

ลดการระคายเคือง ลดผื่นคัน ทำให้ผิวหนังเรียบเนียน

 

 

 

หลักจากแกะกระดาษห่อด้านนอกเสร็จ จะพบกล่องสีขาวสะอาดด้านหน้ามีโลโก้ AVARI

และ พอดันกล่องด้านในออกมาเราถึงจะเจอสบู่ที่ถูกซีลเก็บรักษาไว้ด้วยพลาสติกหุ้มอย่างดี

 

แบรนด์นี้มุ่งเน้นการดูแลผิวชั้นนอก [ EPIDERMIS ]

เพราะ เป็นผิวที่สำคัญสุดที่ 1 คนอื่นจะเห็นเราก่อนแวบแรกที่ผิวด้านนอกของเรา

รวมถึงผิวชั้นนี้ก็ต้องโดนแสงแดด มลพิษ สภาวะแวดล้อมโดยตรง

จึงต้องเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวชั้นนอกเป็นพิเศษ

 

 

 

มีฉลากพร้อมวิธีใช้เรียบร้อยด้านใน

ใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ฟอกทิ้งไว้ 1-2นาที แล้วล้างออก

ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อผลลัพท์ที่ดีควรใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ

 

 

พร้อมทั้งมีหลักการใช้ให้กับผิวทุกสภาพผิว


 
 
ลองแกะก้อนสบู่ออกมาให้ดูทั้ง 2 ขนาดนะคะ
สีก้อนใหญ่จะเหลืองนวลกว่าสีก้อนเล็ก ก้อนเล็กจะสีขาวกว่า
และเทียบความสูง จากจำนวนนิ้วมือให้ดู
 
 
 
เทียบ ความหนาด้านข้างของด้านบน ก้อนใหญ่ : ด้านล่าง ก้อนเล็ก 

 
 
ที่คุยกับทางแบรนด์ไว้คือจะขอทดสอบที่มือนะคะ
เพราะเอิ๊กมีการแพ้สกินแคร์ที่ใบหน้าก่อนหน้านี้
เมื่อ 2 วันที่แล้ว พร้อมกับความเชื่อว่าสบู่ จะทำให้หน้าเหี่ยว ตึง มีสารชะล้างสูง
 
 
 
แต่คิดยังไงก็ไม่รู้ อยากเขียนจากประสบการณ์ตรงให้เต็มที่
อีกทั้งตอนแกะกล่องสบู่ออกมา กลิ่นหอมอ่อนๆชอบมาก เพราะปกติใช้แต่เจลล้างหน้า
ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ คิดว่าถ้าแพ้ก็ให้มันรู้กันไป
เขาบอกแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
 
 
 
บอกเลยหน้าที่แต่งมารอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ แน่นมาก
ลงครีมชนิดออยล์ กันแดด ไพรเมอร์ รองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่น 55555555555
จะลองของไง รอบเดียวล้างออกแน่เหรอ ??????
 
 
ไม่มีการ PHOTOSHOP นะคะ ไม่โกง เห็นจะๆเลย ถ้าโป๊ะคือโป๊ะ !
มัดผม ให้เรียบร้อย ติดกิ๊ฟพร้อมละเลงหน้า
 
 
 
นี่คือครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ใช้สบู่ หลังจากแบรนด์ดังแบรนด์นึงจากญี่ปุ่นใช้แล้วเคยแพ้
เข็ดมาก เลยคิดว่า เอาว่ะ รอบนี้เป็นอะไรก็ไปหาหมอจบ 5555
ฟอกสบู่นานมา ฟองไม่ค่อยมีเยอะเลย เนื้อจะนุ่มๆ ฟอกนาน ฟองได้เท่าที่เห็น
ดังนั้นฟองไม่เยอะดีกับผิวมากกว่าอยู่แล้ว เพราะเขาบอกไม่มีสารสร้างแรงตึงผิวด้วย
 
 
 
 
ตอนฟอกจิตใจไม่ค่อยดี ตื่นเต้น 555 ฟองมีเท่าในภาพเลยค่ะ ถูหน้า ถูตา
คือ ถูรอบดวงตาไม่แสบเลย แต่อย่าให้เข้าไปในลูกกระตา อาจจะรู้สึกนิดๆเท่านั้น เผอิญ
มือดันไหลจกเข้าไปในดวงตาซึ่งใส่คอนแทกรู้สึกจิ๊ดๆ แต่ถูโดยรอบตาปลอดภัยปกติไม่แสบ 

 

 
ล้างหน้ารอบ 1 กับ รอบ 2 คือ ปากเอาไม่ออกนะคะ ต้อง REMOVER ชนิด OIL ล้าง
แต่ใบหน้านี่รอบแรกก็ว่าเกลี้ยง แต่เพื่อความชัวร์เลยถู 2 รอบ
โดยแต่ละรอบถูรวดเร็วไม่ทิ้งไว้
เพราะหน้าเราแห้ง และ แพ้ง่าย 
 
 
 
ได้เวลาส่องกระจกลองของจริง ตกใจมาก คือ เกลี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงปิ๊ดดดด !!
 
 
คือ หน้าตกใจแบบนี้เลย 5555 คือแบบ รอบแรกเอาตรงๆมันไปหมดละ คือ
รอบเดียวสำหรับหน้าจบ ตาอาจจะ 2 รอบขึ้น ขอซูมความสะอาดบนผิวชัดๆๆ
 
 
คือ หลังใช้ ผิวขาวมาก ใสมาก ละเอียดขึ้น 30% คือ ชอบมาก คือ นุ่มนิ่ม ตื่นมาไม่แพ้เลย
 
ซึ่งถ้าไม่ติดว่าเอิ๊กผิวหน้าแห้งและกำลังอยู่ในช่วงผิวแพ้ง่ายมาก
ในระดับHYPERSENSITIVEเอิ๊กจะยอมใช้ต่อ
เหตุผล คือ ถึงผิวแพ้ง่ายจะใช้ได้ แต่เอิ๊กอาจจะไม่เหมาะกับการใช้ LACTIC ACID
ที่อ่อนโยนในการผลัดเซลล์ผิวทุกวัน เพราะปัญหาผิวเอิ๊กตอนนี้ต้องการมีแผ่นฟิล์มที่เคลือบ
หลังล้างหน้าอยู่ค่อนข้างเยอะ คือ ล้างแล้วยังต้องลื่นๆมันๆ
และ ยังอยู่ในความควบคุมของแพทย์ รวมถึงต้องเลือกใช้สกินแคร์ที่
ต้องปราศจากหลายสิ่ง จนกว่าผิวจะแข็งแรงอีกทีค่อยว่ากันใหม่
 
แต่อยากแนะนำเลยใครผิวที่แข็งแรง ทุกสภาพผิวใช้ได้หมด
คือ มันรู้สึกสะอาด เบา นิ่ม นุ่ม เด้ง ภายในการล้างแค่ยังไม่ถึง 1 นาทีไม่รู้ทำได้ไง
และ ไม่แพ้ คือ ล้างเสร็จโทรไปกรี๊ดใส่เพื่อน บอกนางว่าดีมากกกกก
อยากให้ผิวกลับมาแข็งแรงไวไวจัง จะได้ใช้อะไรก็ได้สนุกสนาน 555
 
 
สรุป
ข้อดี
ล้างหน้า ล้างเครื่องสำอางขั้นตอนเดียวจบ
ทำเวลาได้ไวมาก เอิ๊กถูไม่ถึง 1 นาที ใน 2 รอบที่ล้าง
รู้สึกได้ครั้งแรกเลยจริงๆชัด ไม่ว่าจะผิวชุ่มชื้น นิ่ม นุ่ม รูขุมขนเล็กลง หน้าขาวขึ้น
เป็นส่วนผสมที่เน้นทั้งน้ำนม น้ำมัน เซราไมด์ อะมิโน ผิวจึงไม่แห้งตึง
ทุกสภาพผิวใช้ได้ เอิ๊กไม่แพ้ด้วยรอดูผล 1 วัน ทุกอย่างปกติ
 
 
ข้อด้อย
ยังต้องหาซื้อตามเว็บ ตามตัวแทนจำหน่าย ไม่มีตามห้าง หรือ ร้านค้าสะดวกซื้อ
ราคาค่อนข้างสูงกว่าสบู่ปกติ เนื่องด้วยส่วนผสม PREMIEM ที่คัดสรรมา
ส่วนตัวคิดว่าถ้าเปิดใช้แล้ว ก็ไม่สะดวกในการพกพา เพราะก้อนเปียก
ควรมีกล่องเก็บ เวลาเปิดใช้ไว้ อาจมีเชื้อโรค ฝุ่นลงมาปนเปื้อนได้
 
 
 โดยรวมคือมันดี ใครชอบแนวสบู่ และ แต่งหน้า หรือทากันแดดทุกวัน
RECOMMENDED !!
 
 
 
 
 
 
 

Posted in ACNE, FACE, REVIEW, SKIN, SKIN CAREComments (0)

ทาลงบนหน้าแล้วแสบอย่าไว้ใจ

อย่าไว้ใจกับอะไรที่ทาลงบนหน้าแล้วแสบ หรือ ตามลำตัวก็ตาม

มื่อสองสามวันก่อน ปิดไฟทายาแต้มสิวมาดามเฮง แล้วมันมืดน้ำมันใสๆ ก็ซัดลงไปบนสิวที่ใกล้จะยุบเพียง 1 เม็ดบริเวณใบหน้าใกล้ริมฝีปาก แสบมาก แต่เราก็ไม่ได้เอะใจ ปกติก็แสบอยู่แล้ว ตื่นมามันเจ็บมาก ขยับปากไม่ได้ เหมือนมันเป็นแผล เป็นแผลประมาณ 1.5X1.5 เซนติเมตร เริ่มไหม้ ต้องเอาเสตรีย์รอยทา แล้วก็ซนเขี่ยสะเก็ดออก เป็นแผลชมพูเลย วันนี้เลยต้องไปปรึกษา คุณหมอผิวหนังประจำตัว สันนิฐานว่า ถ้าไม่ใช่แอลกฮอล์ก็เป็นกรด ให้เอาไปให้หมอดมหน่อย และ หาวิธีรักษากันต่อไป มันก็เด่นนะบนใบหน้า

ปล. ในอดีต รักแร้ก็ไม่ได้คล้ำอะไรเลย ทา AHA จ๊ะ เขาบอกทาแล้วขาว เหมือนเอาเปลือกมะนาวมาถู โห ไหมื ทุกวันนี้สีผิวข้างนึงจะเป็นดวงที่เข้มกว่า เพราะเคยไหม้มาก่อน นี่คือเหตุผลที่หลอน ไม่กล้ายุ่งอะไรกับทั้งหน้า และ ผิวใต้วงแขน เตือนไว้นะจ๊ะ

” แสบๆ อย่าไว้ใจ “

T_T อุตส่าห์ดีใจหน้าใสแล้ว ป๊าดดดด เป็นแผลต้องรักษากันอีก

Posted in ACNE, FACEComments (0)

สิวตามตำแหน่งต่างๆบนใบหน้าบอกอะไรเอ่ย ?

สิวในตำแหน่งต่างๆของร่างกายบอกอะไร ?

ศาสตร์เรื่องสิวมีหลายตำรามาก อันนี้ยกมาตำรานึงที่พูดถึงปัญหาสุขภาพ เพื่อใครที่เป็นสิวเรื้อรังขึ้นบริเวณเดิมๆ ลองดูสิ ว่ามีปัญหาภายในอะไรรึเปล่า ไม่นับสิวฮอร์โมนนะจ๊ะ อันนั้นขึ้นบริเวณเดิม ตำแหน่งเดิมปกติอยู่แล้ว และสิวที่เราจะมาพูดในวันนี้จะบอกถึงปัญหาสุขภาพภายในได้แม่นยำขนาดไหนต้องลองอ่าน และ อาจจะสังเกตุดูค่ะ

 

ส่วนที่ 1 สิวบริเวณใบหน้า

ตำแหน่งต่างๆบอกว่าเราอาจจะมีปัญหาสุขภาพภายใน

[ ภาพจากเว็บพี่บีม MarryBeam ผู้เชี่ยวชาญการรักษาสิวภายใน ]            

 

–  บริเวณหน้าผาก ( โซนที่ 1 และ 3 )

การเกิดสิวในบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และต่อมหมวกไต                       

สาเหตุ มาจากการมีความเครียดสูง  / การทารองพื้นที่หนาเกินไปและการแต่งหน้าบริเวณคิ้วมากไปแล้วล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด ก่อให้เกิดเป็นสิวขึ้นบริเวณนี้ได้เช่นกัน

วิธีการแก้ไข 

  1. ควรผักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ตับทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น 
  2. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพราะการดื่มน้ำจะช่วยเรื่องของการขับถ่ายและย่อยอาหาร
  3. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที รวมถึงหากิจกรรมต่างๆเพื่อคลายความเครียด
  4. ล้างเครื่องสำอางหรือแชมพูสระผมให้สะอาด หากมีการใส่หมวกเป็นประจำควรมีการทำความสะอาดหมวกให้สะอาดอยู่เสมอ

 

บริเวณกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว ( โซนที่ 2 )

ปัญหาหลักอาจเกิดจากระบบการทำงานของตับ รวมไปถึงปัญหาของการย่อยสารอาหารจำพวกแลกโตส ซึ่งอยู่ในนมวัวหรืออาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว

สาเหตุ เกิดจากการทานอาหารรสจัด และการทานอาหารดึกเกินไป รวมถึงรับประทานอาหารผลิตภัณฑ์นมวัวเพราะย่อยยากกว่าพวกนมถั่วเหลือง

วิธีการแก้ไข

  1. หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด หรือการทานอาหารในช่วงดึก
  2. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่

 

บริเวณหูทั้งสองข้าง  ( โซนที่ 4 และ 10 )

การเกิดสิวในบริเวณนี้เกิดขึ้นจากปัญหาเรื่องการทำงานของไต และอุณหภูมิในร่างกายที่สูงเกินไป 

สาเหตุ เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม กาแฟหรือการกินเนื้อสัตว์มากเกินไป นอกจากนี้ยังเกิดจากการล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด รวมไปถึงการใช้โทรศัพท์มือถือที่มากเกินไปก็มีส่วนดังนั้นควรทำความสะอาดโทรศัพท์ หรือ มือถือเป็นประจำ

วิธีการแก้ไข

  1. หลีกเลี่ยงอาการที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด อาหารประเภท fast food, junk food ต่างๆ
  2. ทานผัก ผลไม้ที่ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มกากใยช่วยย่อยทำให้ร่างกายขับของเสียและความร้อนออก เช่น  แตงกวา แตงโม น้ำเต้า เป็นต้น
  3. รักษาความสะอาดบริเวณใบหูอย่างดี ล้างแชมพูและสบู่ให้หมดจด รวมไปถึงงดการใช้โทรศัพท์เป็นเวลานานเมื่อเกิดสิวบริเวณดังกล่าว

 

บริเวณแก้มทั้งสองข้าง ( โซนที่ 5 และโซนที่ 9 )

สิวบริเวณนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ไซนัสและปอด 

สาเหตุ มาจากการสูบบุหรี่จัดหรือการแพ้ควันบุหรี่ มีอาการภูมิแพ้หรือหวัดเรื้อรัง การเลือกใช้รองพื้นที่ไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดจากการแพ้อาหารทะเล รวมถึงการแพ้ปอกหมอน

วิธีการแก้ไข

  1. ลดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่แออัด เสี่ยงต่อการสัมผัสฝุ่นละอองและควันบุหรี่
  2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทที่มีน้ำตาลและน้ำอัดลม
  3. ฝึกการออกกำลังกายเพื่อบริหารปอด เช่น การเต้นแอโรบิค ในช่วงเวลา 19.00-21.00 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ปอดทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  4. พยายามฝึกการขับถ่ายให้เป็นระบบและเป็นเวลา
  5. ดูแลความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าอื่นๆให้สะอาดอยู่เสมอ
  6. หากรู้สึกว่าสิวเกิดขึ้นหลังจากการรับประทานอาหารทะเล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
  7. ทำความสะอาดปลอกหมอนอย่างสม่ำเสมอ

 

บริเวณรอบดวงตาซ้ายและขวา ( โซนที่ 6 และโซนที่ 8 )

ปัญหาการเกิดสิวในบริเวณนี้เกิดจากการความผิดปกติของไต ปัญหาเรื่องโรคภูมิแพ้

สาเหตุ มาจากการเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว หรือการใส่แว่นตาที่มีการเสียดสีกับรอบดวงตาจนเกิดเป็นสิวขึ้น การมีสารตกค้างในร่างกายมากเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงการระคายเคืองที่เกิดจากอาการภูมิแพ้และการการขาดสารอาหารที่จำเป็น

วิธีการแก้ไข

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินสูงจำพวก ผลไม้
  2. เลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว
  3. ทำความสะอาดแว่นตาที่ใช้สม่ำเสมอ

 

บริเวณจมูกและริมฝีปาก ( โซนที่ 7 )

มีผลมาจากปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของหัวใจ ระบบสืบพันธุ์ (การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน) ซึ่งหากมีมีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจส่งผลมาจากระดับความดันเลือดสูงผิดปกติ

สาเหตุ มาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน และช่วงตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด นอกจากนี้ยังเกิดจากการแพ้ลิปสติกหรือยาสีฟัน

วิธีการแก้ไข

  1. งดอาหารที่มีรสจัดและมีส่วนผสมของเครื่องเทศและกระเทียม
  2. ทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ให้น้อยลง
  3. ดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ ( ไม่อุ่นหรือแช่เย็น )
  4. เลือกทานอาหารที่มีวิตามินบีสูงในระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  5. เปลี่ยนลิปสติกหรือยาสีฟันที่ใช้เป็นประจำ

 

บริเวณด้านข้างของคางหรือช่วงกราม ( โซนที่ 11 และ 13 )

เกิดจากปัญหาเรื่องของระบบฟันและโดยเฉพาะกรามฟัน 

สาเหตุ อาจเกิดจากการขาดวิตามิน หรือเกิดจากหลังจากการทำฟัน หรืออยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนฮอร์โมน

วิธีการแก้ไข

  1. แปรงฟันและดูแลสุขภาพฟันให้สะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการทำฟัน
  2. กินผักและผลไม้มากขึ้น
  3. มั่นตรวจสอบความผิดปกติของฮอร์โมน เมื่อมีสิวขึ้นบริเวณดังกล่าวผิดปกติ

 

บริเวณปลายคาง ( โซนที่ 12 )

มีผลมาจากระบบลำไส้เล็กและระบบการย่อยของกระเพาะอาหาร

สาเหตุ การเกิดสิวบริเวณนี้เกิดจากการเลือกทานอาหารที่มีรสจัดจนลำไส้เป็นแผล และปัญหาการดูดซึมอาหารของกระเพาะอาหาร

วิธีการแก้ไข

  1. ลดการทานอาหารที่มีรสจัด
  2. เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนเพื่อง่ายแก่การย่อยของกระเพาะอาหาร 

 

บริเวณใต้คาง ( โซนที่ 14 )

สิวบริเวณนี้เกิดจากเรื่องของความเครียดเป็นหลัก รวมไปถึงความสะอาดของบริเวณดังกล่าว

สาเหตุ มาจากความเครียดของผู้เป็นสิว และการล้างเครื่องสำอาง หรือการล้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวไม่สะอาด

วิธีการแก้ไข

  1. หากิจกรรมคลายเครียดหรือหลีกเลี่ยงเรื่องที่จะก่อให้เกิดความเครียด
  2. ล้างเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้สะอาด ไม่ให้ตกค้างในผิว

 

ส่วนที่ 2 สิวบริเวณลำตัว

 

สิวที่แผ่นหลัง

การเกิดสิวที่หลังมีผลเกี่ยวเนื่องมาจากระดับฮอร์โมนในร่างกาย  การอับชื้น การระคายเคืองของผิวหนังและปัจจัยสำคัญในการเกิดสิวอีกอย่างคือ การใช้ชีวิตประจำวันของเราเอง

สาเหตุ เกิดมาจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของร่างกายโดยตรง เพราะแผ่นหลังเป็นจุดที่ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานหนัก จึงง่ายต่อการเกิดสิว นอกจากนี้การใช้ชีวิตประจำวัน การไม่รักษาความสะอาดก็ก่อให้เกิดสิวที่แผ่นหลังได้ง่ายเช่นกัน เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด การใช้ผ้าปูที่ไม่สะอาด เป็นต้น เมื่อเกิดความไม่สะอาดสะสมที่บริเวณแผ่นหลังจึงก่อให้เกิดการหมักหม่มของของเสียที่ขับออกมาได้ ทำให้เกิดเป็นสิวขึ้น  อาจเกิดมาจากกรรมพันธุ์ได้อีกสาเหตุหนึ่งด้วย

วิธีการแก้ไข

การรักษาสิวที่แผ่นหลังสามารถทำได้หลายวิธี โดยอันดับแรกต้องหาสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังให้ได้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เพื่อให้ง่ายต่อการรักษา เมื่อรู้สาเหตุแล้วก้อควรแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น หากเกิดสิวเพราะความสกปรกหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ควรรักษาความสะอาดของร่างกายสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนผ้าปูที่นอน หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี การเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ไม่ว่าจะเป็นแชมพู หรือครีมนวดผม รวมไปถึงสบู่ก้อควรล้างให้สะอาดด้วย ไม่ให้ตกค้างที่แผ่นหลัง

หากสิวที่แผ่นหลังเกิดจากปัญหาเรื่องของฮอร์โมน ก็ควรเลือกรักษาให้ตรงจุด ซึ่งการใช้เลือกรักษานั้นมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาในการรักษา คือ ยาที่ใช้ทาหรือพ่นบริเวณที่เกิดสิว การทานยาเพื่อช่วยลดระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งการเป็นสิวที่แผ่นหลังนั้นสามารถรักษาโดยใช้ยาแบบเดียวกับที่ใช้บริเวณใบหน้า ซึ่งการรักษานี้สามารถทำได้หลายวิธี แต่หากรักษาด้วยตนเองแล้วไม่ดีขึ้น ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไป

ส่วนตัวเอิ๊กเองเวลารักษาสิวที่หลังและหน้าอก

  1. อาบน้ำเช็ดตัวให้สะอาดก่อนใส่เสื้อผ้า
  2. สระผมอย่าให้โดนแผ่นหลัง หรือ หน้าอก ให้ก้มหัวสระ
  3. สระผมก่อนแล้วค่อยถูสบู่เป็นลำดับสุดท้ายล้างน้ำเปล่าให้มากๆ
  4. เมื่อเช็ดตัวแห้งแล้วทายารักษาสิวทั้งหน้าอกหรือหลัง แล้วรอให้แห้ง
  5. หลีกเลี่ยงกันแดดที่อุดตัน หรือ ครีมบำรุงผิวที่อุดตัน
การรักษาสิวที่แผ่นหลังอาจไม่หายถาวร ขึ้นกับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ การมีสิวที่หลังไม่ได้หมายความว่ารักษาความสะอาดไม่ดีพอ เพราะอาจเป็นส่วนผสมจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือ ครีมนวดผมที่ตกค้างอยู่บนเส้นผม ผสมเหงื่อก็ทำให้กลับมาเป็นอีกได้

 

 

ที่มา

http://bye-bye2acne.blogspot.com/

http://www.skinacea.com/acne/acne-face-map.html#.UI6YoG8j6So

http://webboard.ladytips.com/topic/9034

Posted in ACNEComments (4)

การกดสิวที่ถูกวิธี – BEAUTY TALK

การกดสิวที่ไม่ถูกวิธีนอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบแล้วยังมีโอกาสทำให้เกิดแผลเป็นตามมา รวมถึงการลุกลามของสิวเม็ดข้างเคียงของบริเวณที่กด ดังนั้นรู้หลัก อยากกดต้องศึกษาวิธีที่ถูกต้องค่ะ

Erk-Erk

สิวที่เราสามารถกดได้จะมีทั้งหมดประมาณ 3 ประเภท

  1. สิวหัวเปิด (หัวดำ)
  2. สิวหัวปิด (อุดตัน-สีขาว)
  3. สิวหัวหนอง

นอกนั้นห้ามเด็ดขาดค่ะ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพผิว

ทำไมต้องกดสิว ?

บางคนการกดสิวอาจจะทำให้สิวหายเร็วขึ้นเช่นคนผิวมันมีสิวอุดตันอยู่เยอะและมีโอกาสที่สิวจะหลุดไปเองยากกว่าคนผิวแห้งเพราะน้ำมันใต้ผิวผลิตออกมาตลอดเวลา ถ้าไม่กดทั้งสิวหัวปิด หัวเปิด ก็อาจจะพากันอักเสบ เป่ง ช้าง ให้เครียดกันอีก บางคนชอบใช้มือกดเค้นไปเค้นมาห้อเลือดทันทีบวมเป่ง พอหายหลุมสิวมาเยือนรักษาอาจจะไม่หาย 100%

โดยส่วนตัวเคยใช้คัตตัลบัตเค้นจนเลือดออกแล้วยังเค้นอยู่จึงห้อเลือดและมีหลุมตามมา ดีที่ตื้น ยิงเลเซอร์ด้วยความร้อนปกติมันก็ฟูขึ้นมา ดังนั้นการเอาคอมีโดนจากสิวออก หรือกดสิวถ้ามีเลือดออกต้องหยุด อย่าไปต่อ !!!

อุปกรณ์กดสิวที่สำคัญ

1. ไม้กดสิวแสตนเลสสามารถซื้อตามร้านขายยา หรือ ร้านขายเครื่องมือแพทย์

2. แอลกอฮอล์

3. สำลี

4. ถุงมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อ

5. เข็มฆ่าเชื้อใช้แล้วทิ้ง สำหรับสิวอุดตันหัวปิด / สิวหัวหนอง

ส่วนตัวกดเอง มีผงพิเศษ + น้ำเกลือ อิอิ

วิธีการกดสิวที่ถูกต้องมี 2 วิธีตามเทคนิคแพทย์

ขั้นตอนการกดสิ

1. เช็ดแอลกอฮอล์รอบๆผิวหนังที่ต้องการกดสิว


2. ใช้เข็มสะอาดเจาะกรณีที่เป็นสิวอุดตัน สิวหัวปิด 


3.ใช้ที่กดสิววางทาบลงไปแล้วใช้เทคนิค 1 หรือ 2 (ในภาพใช้วิธีที่2ทำมุม 45องศา ดันข้างสิว)


4. กดห้ามเลือดด้วยสำลี แล้วทาตามด้วยยาฆ่าเชื้อ (ส่วนตัวใช้สำลีชุบน้ำเกลือกด) 

ข้อดี
  1. ลดการเกิดการอักเสบของสิว
  2. ทำให้สิวอุดตันหายไปชั่วคราว เพราะสิวอุดตันกลับมาใหม่ตลอดเวลา
  3. ถ้ากดถูกจะไม่ทิ้งแผลหรือรอยแดงนานแล้วจะหายไป ถ้าปล่อยให้อักเสบมักมีรอยแดงใหญ่กว่า
  4. ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  5. ราคาถูก
ข้อด้อย
  1. เจ็บ 
  2. ไม่ควรกดทีเดียวทั้งหน้า ระบม
  3. บางครั้งมีการผิดพลาดที่การกด ทำให้อักเสบได้ในที่สุดอีกเช่นกัน 
จากประสบการณ์ส่วนตัว ให้แพทย์กดเป็นสิ่งที่ควรทำ หรือ ถ้าตัวเองเชี่ยวชาญพอก็ลองดูได้ แต่อย่ากดทีเดียวเยอะ กดซัก 2-3 เม็ดรอดูผล ส่วนใหญ่กดเองมักมีแผลรอยดำตามมา แพทย์ทีกดเก่งมากๆ ไม่รู้สึกเจ็บ ไว หายเร็ว สิวออกหมดเกลี้ยง รอยแดง 2-3 ชม.หาย แต่ตอนนั้นกดแพงมาก หลังๆเลยกดเอง 5555 ถ้าใครไม่ถนัดให้แพทย์เถอะค่ะ แผลเป็นไม่คุ้มเลย 😀
บทความนี้ทำขึ้นมาจากประสบการณ์ตรงที่รักษาสิวมาตลอด 10 กว่าปีในคลินิคคุณหมอ และ
สัมภาษณ์วิธีการกดแบบถูกหลักอนามัยโดยแพทย์หญิง นุสรา วงศ์รัตนภัสสร
XOXO

Posted in ACNE, HOW TOComments (6)

EMATRIX หลุมสิวตื้น รูขุมขนกระชับ หน้าใสขึ้น

ขอบคุณ ISKYCENTER สำหรับข้อมูลประกอบค่ะ

วันนี้จะมาแนะนำเทคโนโลยีใหม่ EMATRIX ที่ลดผลข้างเคียงทั้งแผล และ สีผิวที่อาจเปลี่ยนไปได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ นำมาใช้ผลัดเซลล์ผิวด้านบน คล้ายลักษณะกึ่งมีแผล

เหมาะกับผู้ที่ต้องการรักษา

  • ริ้วรอย
  • หลุมสิว
  • รูขุมขนกระชับลง หน้าเรียบเนียนขึ้น
  • ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น
  • ผิวพรรณกระชับ


เรียงตามลำดับ

เทคโนโลยีนี้ดียังไง ?

หลายคนคงคุ้นเคยกับคลื่นความถี่วิทยุมาบ้างแล้ว ในนวัตกรรมความงามคลื่นความถี่วิทยุสามารถช่วยได้หลายอย่าง เรื่องทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และอีกมากมาย

EMATRIX เป็นการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนโดยใช้คลื่นความถี่สูง (RF) กระจายพลังงานลงไปบนผิวในลักษณะรูปทรงปิรามิดซึ่งต่างจากการทำเลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดอื่นๆ ที่เวลาทำแผลด้านบนจะใหญ่ และ ผลลัพธ์ก็กระจายเท่ากับที่ใช้เลเซอร์ยิงลงไป ทำที่ไหน ได้ผลเท่านั้น แต่ EMATRIX ไม่ใช่ยิงลงไปบนผิวแต่ปล่อยพลังงานจากจุดเล็กๆด้านบน แต่พลังงานเหล่านั้นลงไปชั้นหนังแท้แผ่ขยายพลังงานด้านล่างเป็นมุมกว้างจึงสามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้มากขึ้น ลึกขึ้น แต่ แผลด้านบนมีขนาดเล็ก ลดการเกิดผลข้างเคียงในการปรับสภาพผิวแบบเดิมๆ แต่ให้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น 

EMATRIX จะปล่อยพลังงานแบบรูปทรง PYRAMID

ผลพลอยได้ของมันค่อนข้างเยอะ เช่นรักษาหลุมสิว เราก็จะได้ใบหน้าที่เรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง หลุมตื้นขึ้น ใบหน้าใสขึ้น กระจ่างใสขึ้น ลดปัญหาเรื่องการเกิดแผลขนาดใหญ่ แผลเป็น ด่างขาว สีผิวที่คล้ำลง ลดผลข้างเคียงไปเยอะมาก หรือไม่เกิดเลย ลดความเจ็บปวดไปได้เยอะระหว่างทำอาจรู้สึกเพียงอุ่นๆ

ผลลัพธ์เห็นเมื่อไหร่

การปรับสภาพผิวนั้นอาจต้องใช้เวลาถึง 4-6 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผลเพื่อเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นสร้างขึ้นมาใหม่

ต้องรักษากี่ครั้ง

ขึ้นกับปัญหาผิวพรรณที่ต้องการรักษา อย่างหลุมอาจต้องใช้เวลามากหากลึกประมาณ​3-6ครั้ง อาจดีขึ้นมากถ้าเป็นตื้น แต่ถ้าลึกอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยและอาจไม่หาย 100%

การดูแลตัวเองหลังทำ

อาจเกิดสะเก็ดเล็กๆ คล้ายรอยตะแกรงบาบีคิวมานาบเบาๆ แดง แต่จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ราคา

ค่อนข้างสูงประมาณ 15,000 / ครั้ง หรือ เป็นคอร์ส 36,000 บาท แล้วแต่จำนวนครั้งในการยิง เนื่องจากหัวที่ใช้ยิงเป็นทองคำซึ่งใช้ครั้งเดียวแล้วต้องทิ้ง

ความปลอดภัย

ระดับสูงผ่าน FDA เรียบร้อย 

ข้อแนะนำ

การปรับสภาพผิวทุกชนิดต้องมีการกระตุ้นคอลลาเจนผลิตเนื้อเยื่อโครงสร้างผิวที่แข็งแรงใหม่ขึ้นมาอาจต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์

เมื่อเช้าแวะไปอ่านกระทู้ท่านนึงมา ผ่านการรักษาหลุมมาโชคโชนเกือบ 10 วิธี เธอบอกว่า EMATRIX ติด 1 ใน 3 วิธีเธอแนะนำว่าเห็นผลจริงเอิ๊กเองยังไม่มีโอกาสได้ลอง ถ้าได้ลองจะมาเล่าสู่กันฟัง ส่วนตัวอายุปีนี้ 25 แล้วการผลิตคอลลาเจนก็น้อยลงมาก ขึ้นกับสภาพร่างกายอีกคิดว่าอาจได้ใช้การปรับสภาพผิวมาช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจนบ้าง เพราะมันอยู่อีกนานเมื่อมันดึ๋งดั๋งขึ้นแล้ว หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆหลายที่เคยกรอหลุมสิว ริ้วรอย หรือ รูขุมขนด้วยเลเซอร์ชนิดมีแผล เอิ๊กได้ผลข้างเคียงคือ ผิวชมพู ตอนนี้จะ 5 เดือนแล้วยังไม่หายสนิทแต่ดีขึ้นเรื่อย เอิ๊กอาจจะใช้วิธีนี้ถ้าต้องการทำให้หลุมมันดีขึ้นเป็นวิธีต่อไปค่ะ เพราะไม่อยากได้ผลข้างเคียงอะไรอีกแล้ว <3

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, FACE, LASERComments (0)

สิวเสี้ยนกับวิธีการรักษาทั้งหมดในไทย – BEAUTY TALK

” สิวเสี้ยนเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีไหนรักษาสิวเสี้ยนได้ถาวรตลอดไป ยกเว้นแต่ว่าเราโตมากขึ้นไป ฮอร์โมนเราจะลดลงไปเรื่อยๆ และโอกาสที่สิวจะลดน้อยลงก็มีมากขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นกัน ” 

www.erk-erk.com

สิวเสี้ยน เกิดได้ 2 สาเหตุ

1.ความผิดปกติของต่อมรูขุมขน ซึ่งผลิตน้ำมันในผิวมากกว่าปกติ จนเกิดการอุดตัน

2.มีเส้นขนเล็กๆมากมายกระจุกตัวอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน

 

ลักษณะสิวเสี้ยน 

เป็นสิวเม็ดเล็กหัวเปิดที่มักขึ้นเป็นกระจุก มองใบหน้าไกลๆอาจจะไม่พบต้องมาดูใกล้ๆ มีทั้งสิวหัวขาว และ สิวหัวดำ

[ รูปดิฉันเอง ปัญหาที่พบตลอดเวลา ถามว่าหนักใจไหม? ตอบได้ว่า ยังสู้ไหว 55 ]


 

สิวเสี้ยนพบได้ที่ไหน

จมูก คาง แก้ม หน้าผาก ต้นคอ หลัง เนินไหล่ ต้นแขน [ ที่ๆมีขนเยอะๆ ]

[ ในรูปเป็นลักษณะการอุดตันที่เกินจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป ผสมคราบขี้ไคลและเซลล์ผิวหนังที่ตาย ]

 

อายุ และ เพศ ที่พบ

ทุกเพศ ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงวัยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็ยังพบได้อยู่ จะพบมากในช่วงที่ฮอร์โมนมากระตุ้นต่อมไขมันเยอะ หรือ ฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเยอะ

 

 

 

9 วิธีรักษาสิวเสี้ยน

 

1. ทายา

ช่วยในเรื่องละลายไขมันและคราบไคลเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ที่มาอุดตันรวมตัวจนเกิดเป็นสิวเสี้ยนให้หลวมละลาย อ่อนตัวหลุดออกมา ที่นิยม ได้แก่

กรดวิตามินเอ เช่น ทริตินอล (Tretinol), เรตินเอ (Retin A) หรือสตีวาเอ (Steiva A) ทำให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง ทำให้ผิวแห้งลง ไวแสงข้อควรระวังซอกจมูก ซึ่งผิวจะบางไม่ควรทาโดน

BHA ซึ่งสามารถซึมละลายในน้ำมันใต้ผิวได้ดีกว่า เหมาะกับสิวเสี้ยนมากกว่า AHA

Benzoyl peroxide ยาละลายสลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขน เน้นกรณีที่มีสิวเสี้ยนเยอะ และมีการอักเสบร่วมด้วย ก็สามารถใช้ร่วมกับ กรดวิตามินเอ หรือ BHA ได้

  • ข้อแนะนำ

– กรดวิตามินเอให้ทากลางคืนอย่างเดียวเพราะอาจจะทำให้ผิวไวแสง อาจเริ่มทาวันเว้นวัน ทาตอนผิวแห้งเท่านั้น และ ต้องทากันแดดทุกวัน 

– BHA ทิ้งไว้หน้าอาจทำให้หน้าแห้งได้ และ ระคายเคืองง่าย ควรเริ่มตั้งแต่เปอร์เซ็นต์น้อยๆ

– การทา Benzoyl Peroxide และ ทุกตัวที่กล่าวมาเพื่อรักษาสิวเสี้ยน อาจทำให้ผิวแห้งลง จนเกิดการ แห้ง แดง ลอก ผื่นขึ้น จนกระทั่งเกิดสิวเพราะการแห้งระคายเคืองตามมาได้

– เครื่องสำอางที่ผสมสารพวกนี้อยู่จะอ่อนโยนกว่าเนื่องจากมี % หรือ กรดวิตามินเอต่ำกว่า แต่ก็ให้ผลช้ากว่าเช่นกัน

– หาข้อมูลก่อนใช้ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ข้อดี ราคาสบายกระเป๋า / ซื้อใช้ได้ตามร้านยา หาง่าย / ทาเองได้ที่บ้าน

ข้อด้อย ต้องทาต่อเนื่อง และ ระวังผลข้างเคียง ทั้งผิวแห้งลง แดง ลอก ผื่น แสบ คัน ระคายเคืองอาจตามมาได้ ต้องใช้ซัก 1-3 เดือนขึ้นไปจะพบว่าสิวเสี้ยนอาจจะลดน้อยลงบ้างแต่ไม่หายไปหมด และ เมื่อหยุดทาก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่


 

 

2. กดหรือดูดสิวเสี้ยน

นิยมมากในคลินิคเสริมความงามทั้งหลาย

– ใช้ไม้กดสิว

– เครื่องดูดสิว แบบเปิดรูขุมขนก่อนด้วยระบบไอน้ำ โอโซน และใช้เครื่องดูดจุ๊บๆให้ออกมา

ข้อแนะนำ

– กด เป็นวิธีไม่นิยมกดเพราะรูขุมขนจะติดกัน อาจทำให้สิวเสี้ยนรูขุมขนข้างกันอักเสบ

– ดูด ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ แต่ไม่ค่อยออก อาจต้องลอกสิวเสี้ยนด้วยกาว หรือ มาส์คร่วมด้วย อาจทาพวกยาตามข้อ 1 ซัก 1 – 2 อาทิตย์ก่อนไปดูด จะออกดีขึ้น

ข้อดี ถูก

ข้อด้อย เจ็บ / บางทีกดไปอักเสบเป็นหนอง / เสี่ยงรอยสิวเกิด / ออกไม่หมดยังเหลือสิวเสี้ยนอยู่

 


 

 

3. ขัดผิว / ทำทรีทเมนท์

เป็นการรบกวนผิวอย่างหนึ่งหากทำบ่อย นานเกินไป และรุนแรงเกินไป

– ขัดผิวให้เรียบเนียนด้วยสครับ บางครั้งที่ขัดออกไปอาจจะเป็นแค่ปลายหัวสิวส่วนบนรากยังอยู่ อาจจะออกบ้าง

– ทำทรีทเมนท์กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีประเภท microdermabrasion ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โอกาสออกอาจจะดีกว่าการขัดผิวด้วยมือ และช่วยลดเรื่องริ้วรอยบางๆได้

ข้อแนะนำ

– อย่าทำบ่อย 1 เดือนครั้งก็มากพอแล้ว ผิวแห้งให้หลีกเลี่ยงวิธีนี้ และ ผิวผสมที่มีส่วนแห้งก็ต้องหลีกเช่นกัน

 ข้อดี ขัดที่บ้านก็ถูก ทำเองได้ด้วย / กรอผิว ขัดผิวที่สถานเสริมความงามก็ราคาขึ้นมาอีกนิด แต่ไม่ได้แพง

ข้อด้อย ถ้าขัดแรงผิวก็เป็นแผลที่อาจจะมองไม่เห็น เป็นการทำลายเซลล์ผิวที่ตายแล้วจนสิวเสี้ยนหลุดออกมา แต่ไม่ทั้งหมด ลึกๆไม่ค่อยออก และ ผิวจะระคายเคืองง่ายช่วงแรก เนื่องจากขัดผิวส่วนขี้ไคลออกไป


4. มาส์ค/กาว

 มาส์คเพื่อให้เนื้อมาส์คซึมและเมื่อแห้งก็ดูดเอาสิวเสี้ยนทั้งรากออกมาก เช่น

– ไข่ขาว นำสำลีชุบไข่ขาวให้ชุ่ม แล้วนำมาวางบนหน้า จะทำหนากี่ชั้นก็แล้วแต่ สุดท้ายรอให้แห้งแข็งแล้วก็ค่อยๆลอกออก

– มาส์คกาว ลอกสิวเสี้ยน ทามาส์คให้ชุ่มบริเวณสิวเสี้ยนไม่หนา ไม่บาง รอให้แห้งแล้วลอกออก

– กาวตราช้าง ยังมีบางคลินิคใช้อยู่ อันตรายกับผิวเป็นเคมีที่อาจทำให้ผิวบวมแดง ลอกไม่ดีก็ไหม้ดำได้

 ข้อแนะนำ

– 2 วิธีแรกใช้ได้ แต่กาวตราช้างแม้ออกดีมาก แต่อันตรายมากเช่นกันกับผิว เคยทำแล้วรู้สึกว่าออกดีที่สุดในบรรดาที่ลอกมาและใช้เวลาเร็วมาก

– ทำเสร็จอาจประคบด้วยน้ำแข็ง หรือ ทายาละลายสิวเสี้ยน เพื่อป้องกันรูขุมขนกว้าง

ข้อดี มาส์ค / กาวลอกสิวเสี้ยน ลอกได้เองที่บ้าน ราคาสบายกระเป๋า

ข้อด้อย ออกไม่หมด บางทีน้ำตาเล็ด แต่เวลาออกออกทั้งรากสิวเสี้ยน โอกาสกลับมามี และ โอกาสรูขุมขนกว้างมี 

5. แวกซ์

 อาจใช้กับลำตัว เป็นการแวกซ์ขนแต่สามารถดึงสิวเสี้ยนตามลำตัว ลำคอ หลัง ไหล่ หน้าผาก บริเวณกว้างๆ ออกมาได้ มีทั้งร้อน เย็น

ข้อแนะนำ 

– ให้ผู้เชี่ยวชาญทำให้ดีกว่า เช่นแวกซ์ร้อน ถ้าทำไม่เป็นผิวอาจจะพุผอง ไหม้ได้

ข้อดี ราคาสบายกระเป๋า

ข้อด้อย บางครั้งต้องเดินทางไปทำกับผู้ที่ชำนาญการแวกซ์ เพราะเช่นทำที่แผ่นหลัง เราอาจทำไม่ได้ 

 

6. แผ่นลอกสิวเสี้ยน

วิธีนี้ขึ้นกับการทำของแต่ละคนเลย ฮิตแต่ทำให้ออกเยอะทำยาก เนื่องจากอาจต้องมีจังหวะทำให้มันเปียก จังหวะที่ต้องรีดแผ่นลอกสิวเสี้ยนลงไปให้แนบสนิท จังหวะตอนดึง

ข้อแนะนำ

– ทายาก่อนซัก 1-2 อาทิตย์ แล้วค่อยลอกอาจจะออกเยอะ / ควรทำตามฉลากอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลออกมาดี

ข้อดี ถูก ทำที่บ้านได้

ข้อด้อย ทำยาก สิวเสี้ยนออกน้อยเพราะแรงกาวอาจไม่สามารถแนบสนิทกับผิวได้ จึงอาจหลุดออกได้ไม่ดี 

 


 

7. เลเซอร์กำจัดขน / IPL กำจัดขน

ใช้ได้เฉพาะกรณีสำหรับสิวเสี้ยนที่เกิดจากขนกระจุกรวมตัวกันอยู่ในรูขุมขนเดียว

เลเซอร์กำจัดขนชนิดไหนก็ได้ แต่ต้องศึกษาก่อนทำ เพราะบางครั้ง IPL ก็ไม่ได้ผลแต่ที่นิยม เช่น IPL / GENTEL YAG

ข้อแนะนำ

– ต้องทำหลายครั้ง 3-5 ครั้งหรือมากกว่าขึ้นไป จึงจะเห็นผล

– ใบหน้าจะแห้งลง จำเป็นต้องบำรุง

– ยาชาก่อนทำซํกนิดจะดี เพราะเหมือนหนังสติกตึงๆดีดลงไปบนผิว รัวๆ เร็วๆ

ข้อดี ได้ผลพวงเรื่องของรูขุมขนเล็กลงเรียบเนียนขึ้นด้วย สิวเสี้ยนน้อยลงไปบ้าง 50-60% รากขนถูกกำจัดไปเลย

ข้อด้อย เจ็บกว่าทุกวิธีด้านบนถ้าไม่ทายาชา/ทำหลายครั้ง / ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่น / กลับมาเป็นอีกได้ ไม่หายถาวร


 

 

8.เลเซอร์กรอผิวแบบมีแผล

ถ้ากรณีเป็นสิวเสี้ยนหัวใหญ่มาก เห็นชัด อาจใช้เลเซอร์ประเภทกรอผิวที่ให้แผล เช่น เลเซอร์ ERBIUM YAG

ข้อแนะนำ

– ไว้คนที่มีรูขุมขนที่ใหญ่มาก มีหัวสิวเสี้ยนที่ใหญ่มาก เห็นเด่นชัดค่อยเลือกวิธีนี้ จะได้ผลพวงเรื่องหลุมสิวตื้นๆด้วย

ข้อดี เป็นผลดีกับคนที่มีสิวเสี้ยนที่เยอะ หัวใหญ่ รูขุมขนกว้างมากมาก ก็จะทำให้รูขุมขนเนียนขึ้น สิวเสี้ยนน้อยลง มั่นใจมากขึ้น หลุมสิวตื้นๆถ้ามีก็ดีขึ้น

ข้อด้อย เป็นเลเซอร์ชนิดมีแผล ต้องมีระยะเวลาในการหลุดลอกของสะเก็ด ต้องดูแลในช่วงแรกที่ทำ / ราคาหลักพันขึ้น

 

9. ทานยาประเภทกรดวิตามินเอ

ลดการทำงานของต่อมไขมัน ต้านการอักเสบ ทำให้หน้าเนียนใสขึ้น หน้าไม่มัน รูขุมขนกระชับ สิวเสี้ยนน้อยลง เช่น โรแอคคูเทน

ข้อแนะนำ

– การทานยามักให้ผลดีกว่าเพราะซึมลงไปในกระแสเลือด และลงไปยังผิวหนังชั้นลึก แต่ก็เหมาะกับคนสิวเยอะมากๆมากกว่า และหน้ามันมากด้วยเพราะมีผลข้างเคียงมาก

– ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ และ เภสัชกร

– ห้ามกินร่วมกับยาแก้อักเสบบางชนิด

ข้อดี ลดการทำงานของต่อมไขมันที่ผิวชั้นลึกเลย

ข้อด้อย ผลข้างเคียงสูงมากอันตรายมาก ได้แก่ ผมร่วง ปาก ตา จมูก ผิวหนังแห้งลง / ทารกในครรภ์พิการ / ผิวหน้าร้อนแดงง่าย ผิวไวแสง /ปวดข้อ กล้ามเนื้อ กระดูก / เครียด หดหู่ ซึมเศร้า / ตาพร่ามัวเวลากลางคืน สู้แสงไม่ค่อยไหว การมองเห็นอาจเปลี่ยนไป / หลอดลมหดเกร็ง / ติดเชื้อง่าย / ไขมันในเลือดสูงขึ้น / กรดยูลิกสูขึ้น / ดังนั้น คนท้อง / เป็นโรค ตับ ไต ไขมันในเลือดสูง ห้ามทาน


 

การป้องกัน

ต้องเข้าใจก่อนว่า สิวเสี้ยนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นมันไม่หายไปจากผิวถาวร ยกเว้นเราอยู่ในช่วงสูงวัย อาจลดน้อยลงหรือหายไปได้ การป้องกันไม่ให้มากขึ้น คือ การไม่รบกวนรูขุมขน ไม่นวด ขัดหน้าแรงๆ ไม่แคะ แกะ เกา ไม่ซับหน้าจนหน้าแห้งมาก เอาแค่ส่วนเกินออก ไม่อย่างนั้น ต่อมไขมันรับรู้ว่าสูญเสียน้ำมันไป มันก็จะผลิตขึ้นมาใหม่ และอาจใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน เช่น ลอกสิวเสี้ยน และ ทายาละลายสิวเสี้ยน ผลัดเซลล์ผิวไปพร้อมกัน

 

ส่วนตัวของเอิ๊กชอบการลอกมากสุด เพราะทำได้เองที่บ้าน และ ตอนนี้กำลังลองวิธีกำจัดขนเพื่อเอาสิวเสี้ยนออกไปดูเนื่องจากไปเลเซอร์ขนรักแร้ด้วย GENTLE YAG อยู่แล้ว ได้ผลอย่างไรจะมารายงาน มันค่อนข้างเจ็บ และ ต้องรอเวลาทิ้งกันห่าง 1 เดือน ถึงไปทำซ้ำ ถ้าใจร้อน อาจจะรอไม่ไหว 🙂 คุณหมอ วรทัย แนะนำให้ทุกคนทายาตาม ข้อ 1 ร่วมด้วย เพื่อการรักษาด้วยวิธีอื่นจะได้ได้ผลดีขึ้นและ ช่วยไม่ให้รูขุมขนกว้าง

 

ข้อมูลประกอบด้านเนื้อหา และ รูปภาพ

  • เทปสัมภาษณ์พญ. วรทัย เตือนอารีย์ ISKYCENTER
  • บทความพญ. กุหลาบ
  • ประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
  • pantip.com/learn-more-now.com/powdered-peach.blogspot.com/hazelhearts.wordpress.com/ehow dot com

Posted in ACNE, LASERComments (7)

สิวผดรักษายังไงมีคำตอบ ?

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

www.erk-erk.com

สิวผด สิวผื่น สิวผดผื่น “ เม็ดเล็ก มาง่าย ไปยาก กวนใจ “

 www.erk-erk.com

เป็นอีกปัญหานึงที่ผู้หญิงมีปัญหาเยอะสุด เอิ๊กเคยเป็นเหมือนจะผดขึ้นช่วงนึงตอนนั้นยังหาสาเหตุไม่ได้ ก็ไปหาผศ.พญ. รังสิมาที่ ISKYCENTER ทายาหายแล้วเกลี้ยง พอหายไม่ได้ทา ซักพักเป็นใหม่ เลยคิดให้ดี นึกได้สุดท้ายมารู้ว่าเป็นเพราะ ล้างแชมพูครีมนวดไม่สะอาด ช่วงนั้นจากผด ไปๆมาๆ บางเม็ดอักเสบร่วมด้วย อยากเป็นลมมาก หน้าผากเป็นหลุมตื้นๆ ไม่เรียบไม่กล้าโชว์หน้าผากเลย ตอนนี้หายแล้ว เมื่อสระผมล้างน้ำเยอะๆ ให้เกลี้ยงให้สะอาด และ ใช้แสงเลเซอร์ให้ความร้อนกระตุ้นหลุมตื้นๆทำกับ ศ.นพ. วรพงษ์ ตอนนี้ 98%-99% มองไม่ค่อยเห็นละ เปิดเหม่งโชว์ได้ มั่นใจ

 www.erk-erk.com

รูปตอนเดือนกุมภาพันธ์ 55 รักษามาจนเกือบหายแล้ว สิวผดหน้าผาก

 

 รูปวันที่ 29 เมษา 55 เมื่อวานนี้ ลมพิษและผื่นขึ้นช่วงแก้ม เพราะความร้อนและฝุ่น และเครื่องสำอางผสมกัน

 www.erk-erk.com 

www.erk-erk.com 

สิวผด เป็นยังไง ?

ผื่นเม็ดใสๆเล็กๆ เป็นสิวประเภทนึงที่ชอบขึ้นติดกันหลายๆเม็ด บ่อยครั้งชอบขึ้นที่บริเวณหน้าผาก บางครั้งตอนเช้าหน้ายังเรียบใส อาจขึ้นในช่วงบ่ายก็เป็นได้ และ ถ้าอักเสบอาจจะมีสีแดง มีหนอง หรือ มีอาการคันร่วมด้วยได้ ถ้ารักษาไม่ถูกต้องอาจจะเป็นมากขึ้นได้

 

สาเหตุสิวผด ?

  • แสงแดด
  • ความร้อน 
  • เชื้อรา
  • เครื่องสำอาง อุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด เช่น แปรง
  • เช็ดถู นวดหน้า ขัดหน้า หรือ ล้างหน้าบ่อย เช็ดใบหน้าแรง
  • แพ้น้ำ
  • แพ้เหงื่อ
  • สารที่ก่อให้เกิดระคายเคือง เช่น การใช้ยารักษาสิวประเภท Retinoic Acid, Benzoyel , alcohol , Peroxide AHA, BHA เป็นต้น
  • สบู่ หรือ โฟมล้างหน้าที่มีฟองมาก มีการชะล้างสูง หรือใช้ไม่เหมาะกับผิว
  • น้ำอุ่นจัด
  • แชมพู
  • เชื้้อยีสต์, เชื้อรา
  • ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง อ่อนแอ พักผ่อนน้อย ร่างกายไม่แข็งแรง

 

วิธีดูแลและป้องกันสิวผด

หาสาเหตุให้พบและดูแลเลือกวิธีป้องกันให้เหมาะสม เช่น ถ้าสิวผดจะขึ้นบ่อยเมื่อเจอแสงแดด ก็เลี่ยงแดดซะ หรือ ถ้าสิวผดจะขึ้นตอนแต่งหน้า ให้เปลี่ยนรองพื้น หรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นแทนเช่น BB หรือที่ผ่านการรับรองจากกลุ่มแพทย์ผิวหนัง

 

  • เลี่ยงแสงแดด และ ความร้อน ถ้าต้องทำงานต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งที่เหมาะกับสภาพผิว เลือกที่ปราศจากน้ำมัน และไม่ทำให้เกิดสิว ( OIL FREE / NON COMEDOGENIC ) SPF30 PA+++ ขึ้นไป
  • เลิกรบกวนผิวหน้ามากเกินไปไม่ว่าจะ ล้างหน้า ขัดหน้า นวดหน้าพอกหน้า ถูหน้า บ่อยเกินความจำเป็น
  • เลิกใช้อะไรที่รุนแรงกับผิว ทำให้ผิวระคายเคือง
  • แต่งหน้าให้น้อยที่สุด
  • เลิกใช้น้ำอุ่นล้างหน้า
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงให้ร่างกายได้ซ่อมแซม
  • ไม่เครียดเพราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ
  • ทานผัก ผลไม้ ข้าวไม่ขัดขาว แป้งไม่ขัดขาว ได้กากใย ได้วิตามิน ง่ายต่อการระบาย ช่วยล้างพิษในร่างกาย
  • ใช้แชมพูอ่อนโยน

 

วิธีรักษา

คำเตือน ควรอยู่ในความควบคุมของคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อย่างแพทย์ผิวหนัง หรือ เภสัชกรยา เพราะครีมบางตัวเป็นยาปฎิชีวนะ หรือ สเตียรอยด์ มีผลข้างเคียงสูงหากซื้อใช้เองโดยไม่ได้รับคำแนะนำ 

ยาปฎิชีวนะบางตัว อาจทำให้ดื้อยา 

ยาที่มีสเตียรอยด์ อาจทำให้หลอดเลือดขยาย หน้าแดง แพ้ง่าย ผิวบอบบางลง สิวจะเห่อขึ้นเต็มและรักษายาก

 

สำหรับคนผิวหน้ามัน ผิวธรรมดา ที่ไม่แพ้ง่าย

  • ตัวยา Benzoyl peroxide % ต่ำ ทาก่อนล้างหน้า 2-5 นาที อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง หน้าเห่อแดง
  • ตัวยา กรดวิตามิน A (Tretinoin) % ต่ำๆ ทาก่อนนอน อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง หน้าเห่อแดง หน้าไวแสง

 

สำหรับคนผิวแห้ง ผิวผสมที่มีส่วนแห้ง ผิวแพ้ง่าย

  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Resorcinol ที่เป็นครีมหรือแป้งน้ำ
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Selenium Sulfide ทาทิ้งไว้แล้วล้างออกวันละสองครั้ง ละลายหัวสิว สิวอุดตัน สลายเคราติน ลดสิวผด
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Ketoconazole cream ทาก่อนนอน ในกรณีมีสิวผดมาก มีอาการคัน หรือ สิวผดที่เกิดจากเชื้อยีสต์
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Steroid มักใช้ในกรณีแพ้เครื่องสำอาง หรือผิวระคายเคืองขึ้นผื่นเห่อ บวมแดง
  • ตัวครีมหรือยาที่มีส่วนผสม Zinc PCA

 

การทานยาร่วมด้วย

  • หากมีการอักเสบร่วมด้วย อาจต้องทานยาแก้อักเสบ
  • หากมีการคันร่วมด้วย อาจต้องทานยา เช่น KETOTOP

 

การรักษาใช้เวลา

2-4 สัปดาห์ หรือมากกว่านี้ขึ้นกับว่าเป็นมากเป็นน้อย

* ข้อมูลทั้งหมด จากประสบการณ์ตรงที่ครั้งนึงเคยเป็นสิวผดมากและบ่อยจากการแพ้ยาสระผม และ จากการอ่านศึกษาข้อมูลจากเว็บและผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง รวบรวม และ เขียนขึ้นมาโดยเอิ๊กทั้งหมดค่ะ

แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม

  • ศ.นพ. วรพงษ์ มนัสเกียรติ
  • ผศ.พญ. รังสิมา วณิชภักดีเดชา
  • พญ.ดลลชา นรินทรางกูร ณ อยุธยา 
  • ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ 
  • ASTVผู้จัดการออนไลน์ 
  • aad.org
  • emedicinehealth.com

Posted in ACNE, SKINComments (1)

REVIEW – รักษาหลุมแผลที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG

 

 

 

 

ผ่านมาเกือบ 1 เดือน กับการรักษาหลุมทรงกล่องที่เป็นมา 24 ปี กับเลเซอร์ ERBIUM YAG กับ ศาสตราจารย์นายแพทย์วรพงษ์ มนัสเกียรติ ซึ่งเชี่ยวชาญเป็นพิเศษทางด้านผิวหนัง เลเซอร์ และ แผลเป็น ที่ทำงานวิจัย เขียนหนังสือ ทางด้านเลเซอร์มาโดยตลอดจนได้รับตำแหน่งทางวิชาการเป็น ศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในวงการ Cosmetic Laser Surgery และที่ทราบเพราะอ่านทวิตเตอร์คุณหมอเป็นประจำ @DrWoraphong ถึงทราบว่าเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษา บริษัทเลเซอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ต้องเดินทางไปประชุม และบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์หลายประเทศมาก จึงได้ทราบวิทยาการใหม่ๆจากคุณหมอเหมือนกันในการตามอ่าน

 


คุณหมอค่อนข้างผิวดี และมีการดูแลผิวที่ง่าย คือทาครีมกันแดดเสมอ และ ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เพียงพอเวลาที่รู้สึกว่าผิวแห้ง นอกนั้นยังมีการออกกำลังกาย หลังจากที่เคยได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาหลุมสิว และ แนวทางแก้ไขไปเมื่อหลายเดือนก่อน

ยังไม่มีโอกาสฟังบรรยายเกี่ยวกับเลเซอร์ของคุณหมออย่างจริงจัง ทำให้วันนี้เลยมา REVIEW การทำ ERBIUM YAG ว่าผลการทำเป็นอย่างไรบ้าง เลเซอร์การรักษาหลุมสิว ริ้วรอย แผลเป็น บอกตามตรงว่าค่อนข้างยาก ต้องขออภัยไปศึกษาเพิ่มเติมมาก่อน ถึงจะได้เขียนออกมาทีละชนิด 555555 แค่อ่านไป หัวข้างนึงก็ปวดไป ยากจริงๆค่ะ รู้แค่ว่าได้ยิง VBEAM กับคุณหมอ คุณหมอละเอียดมากๆๆๆๆ ยิงทุกรอยแดง ดูเหมือนเป็นงานที่ง่าย แต่คุณหมอละเอียดจริง นี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลให้ประสบความสำเร็จในการทำงานวิจัยหลายๆงานที่ รพ.ศิริราช และ ต่างประเทศ

การทำ ERBIUM YAG มันร้อนมากบริเวณที่ยิง จึงต้องมีการเป่าลมเย็นจัดเข้าช่วยบรรเทา ทำให้ไม่ต้องทายาชา

ERBIUM YAG คืออะไร ?

  • เลเซอร์ที่ใช้พลังงานความเข้มข้นสูง (ร้อน) ช่วยกรอผิว  ( Resurfacing ) ด้านบนในส่วนของผิวหนังกำพร้าออกจะทำให้บริเวณนั้นเรียบขึ้นในระดับนึง 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ( Collagen remodeling ) หลุมจะตื้นขึ้น ดูเรียบเนียนขึ้น ภายในเวลา 1-3 เดือน
  • การหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน ( Collagen contraction ) ทำให้ความกว้างของหลุมสิวหรือริ้วรอยแคบลง ผิวที่หย่อนจะตึง ขึ้น 

 ส่วนต้องทำกี่ครั้งขึ้นกับความตื้นลึกของหลุม หรือ ริ้วรอยที่อาจต้องใช้วิธีการอื่นมาผสมด้วยหรือไม่ต้องดูที่แผลหลุม หรือ ริ้วรอยเป็นหลัก หลังทำทันทีจะให้เกิดแผลถลอกเป็นสะเก็ด ใช้เวลา 4-7 วัน สะเก็ดจะหลุมลอกออกไปเอง หลังทำจะมีอาการบวมแดง 1-2 วัน  บางคนอาจมีน้ำเหลืองซึมถ้าเกิดว่าแผลโดนน้ำ หรืออาจติดเชื้อ จากการดูแลไม่ดี

การดูแลหลังทำ ERBIUM YAG ?

ต้องดูแลแผลอย่าให้แผลแห้ง ของเอิ๊กคุณหมอสั่งให้ทาปิโตรเลียมเจลให้แผลชุ่มชื่นวันละ 3-4 ครั้งจนกว่าสะเก็ดจะหลุด ไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 7 วัน หรือ หลังจากสะเก็ดหลุดออก ก็สามารถล้างหน้าและทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแต่งหน้าได้เป็นปกติ อาจต้องดูแลโดยการเลี่ยงแดดจัดเป็นพิเศษประมาณ 2 อาทิตย์เพราะช่วงนั้นผิวบริเวณส่วนนั้นจะอ่อนแอและไวกับสิ่งที่มากระทบ ระหว่างเนื้อเยื่อใหม่กำลังสร้างทดแทนของเก่าที่ลอกออกไป ผิวหนังส่วนที่ทำถ้าเป็นคนผิวขาวอาจจะมีแผลสีชมพูแดง  (erythema) อยู่ประมาณ 3-6 เดือน (เนื้อเยื่อกำลังสร้าง) ถ้าเป็นคนผิวเข้ม อาจมีสีคล้ำ (hyperpigmentation) ประมาณ 3-6 เดือนจึงกลับมาเป็นสีผิวปกติ

 

 สิ่งที่ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำ ERBIUM YAG ?

  • การเป็นแผลคีลอยด์ แผลนูนง่าย
  • เวลามีแผลแล้วแผลหายช้า
  • เคยทานยากลุ่มวิตามินเอมาก่อนภายในระยะเวลา 1 ปี
  • เคยผ่าตัดบริเวณใบหน้า

ก่อน และ หลังทำ ERBIUM YAG รักษาหลุมแผลเป็นที่มีบนใบหน้ามา 24 ปี

 

19/02/12 – 10/02/12

อันดับแรก นอนเร็ว รูขุมขนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชุด ตอนไปหาคุณหมอ นอนตี 5 ทุกวัน และแผลที่เห็นชัดคือความแคบของแผลหลุม ความนุ่มนวลของแผลหลุม จากทรงกล่อง กลายเป็นทรงแอ่งกระทะ ตื้นขึ้น 40% ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก แต่ได้ผลข้างเคียงคือแผลสีชมพูที่จะอยู่ไปอีกหลายเดือน อันที่จริงเป็นปกติในการทำ Erbium YAG

ซูมให้ดูว่าตื้นขึ้น และ จะตื้นขึ้นอีก เดี๋ยว 3 เดือนมาดูกันใหม่ ขอให้แผลสีชมพูกลับเป็นสีปกติเร็วๆทีเถิ๊ด

 

ภาพรวมของใบหน้าและแผลที่เปลี่ยนไป

ขัดใจสุดคือรอยแดง T^T ไม่ชอบเลย คิดว่าถ้าจะทำครั้งใหม่ต้องขอทำใจก่อน 555 ไม่ชอบรอยแดงเลยค่ะ แต่ชอบที่เห็นผลเลย

 

COOL

สามารถรักษาแผลหลุมที่ไม่ลึกได้ / เห็นผลทันที / 

UNCOOL

ต้องดูแลแผลให้ชุ่มชื่นตลอดวัน / ต้องทำหลายครั้งดูที่ความลึกของแผล / มีแผลสีชมพูระหว่างรอเนื้อเยื่อสร้างตัวเองใหม่นาน 3-6 เดือนกว่าสีผิวจะกลับเป็นปกติ

 

 

 

 

อาทิตย์หน้าจะตั้งใจเขียนอย่างมากเรื่อง ” แสงสี กับ ความงาม “ ว่าจะช่วยมารักษาผิวพรรณได้อย่างไร จะได้เข้าใจว่าเลเซอร์ตัวนั้นทำไมได้ผลเป็นแบบนั้น และตัวเราเองอาจจะเลือกเองถูกก็ได้ ว่าปัญหาผิวแบบนี้ ใช้แสงสีไหน ระดับไหน 🙂

XOXO

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

BEAUTY TALK – หลุมสิวปัญหาใหญ่ รักษาได้กี่วิธี ?

 

 

 

 

 

อะไรทำให้คุณรู้สึกแย่ที่สุดหลังเป็นสิว .. ?

 

 

 

 

 

 

คำตอบนอกจากสิวที่ทำให้เรารู้สึกแย่ แต่มีที่แย่กว่า คือ “ แผลเป็นหลังสิวหาย ” เพราะอะไรนะเหรอ ?!? มันอยู่นานกว่าสิวหน่ะสิ .. มาแล้วบทจะไปก็ไปยาก หากทำใจให้ชินแน่นอนครึ่งปีมันอาจจะไปเอง โดยเฉพาะแผลเป็นหลังจากเกิดจากสิวที่มีสีทั้งหลาย สีดำ สีแดง .. แต่หากว่ามันเป็น “ หลุม ” ล่ะ

 

ตอนนี้ในหัวกำลังย้อนไปโฆษณายุคก่อน ที่เปรียบหน้าคนหลังเป็นสิวบางครั้งก็เหมือนพระจันทร์ ไม่ได้เหมือนที่ความสว่างสไว หรือ กลมเหมือนพระจันทร์ แต่เปรียบรอยแผลหลุมสิว ความไม่เรียบของผิว ช่างเหมือนผิวพระจันทร์เหลือเกิน .. [ โฆษณานี้ชี้ปัญหาแบบโหดร้ายมาก ชิส์ ]

  • รอยแผลหลังจากการเป็นสิวแบ่งได้ 4 แบบ 
  1. รอยแดง
  2. รอยดำ
  3. หลุมสิว
  4. คีลอยด์

 

 

  • หลุมสิวคืออะไร ?

การอักเสบของสิวอย่างรุนแรงถึงชั้นหนังแท้ มักมีหนองร่วมด้วยจึงทำให้คอลลาเจนถูกทำลายและมักมีแผลเป็นหลังสิวหาย จึงเกิดแผลเป็นใต้หนังผิว หรือ เรียกว่าพังผืด ที่ดึงรั้งผิวหนังจนทำให้เป็นหลุม

 

  • หลุมสิว มีที่มาจากอะไรบ้าง ?
  1. การ บีบ แคะ เค้น แกะ เกา ทำให้สิวอักเสบมากขึ้นและทิ้งรอยคล้ำตามมาด้วยหลุม
  2. สิวอักเสบรุนแรง
  3. การติดเชื้อแบคทีเรียลุกลาม
  4. กรรมพันธุ์มีประวัติคนในครอบครัวที่เป็นสิว+แผลหลุมรุนแรง [ จะทิ้งหลุมทันทีเวลาหายเป็นสิว ]

 

เคล็ดลับ

“ เมื่อเป็นสิวอักเสบต้องทำให้หายอักเสบ และ ยุบตัวเร็วที่สุด ” เช่น ทายาฆ่าเชื้อสิว [BENZAC , PANOXLY] / ฉีด [STEROID] / ทานยาปฎิชีวนะ / พบแพทย์ท่องไว้ว่า รักษาสิว ถูกกว่า รักษาแผลเป็น [ หลุม,นูน ]

 

  • การรักษาหลุมสิว ใช้วิธีไม่เหมือนกัน ขึ้นกับ
  1. ชนิดของหลุมสิว
  2. ความลึกของหลุมสิว
  3. ความกว้างของหลุมสิว

 

  • หลุมสิวมี 3 ชนิด
  1. หลุมแอ่งกระทะ [คิดเอง] ROLLING SCAR
  2. หลุมกล่อง BOX SCAR
  3. หลุมนกจิก [คิดเอง] ICE PICK SCAR

 

หลุมแอ่งกระทะ : ลักษณะมองเห็นเป็นส่วนเว้าลงไปเหมือนก้นกะทะ ขอบรอบๆดูนุ่มนวล

หลุมกล่อง : ลักษณะหลุมที่มองเห็นขอบเป็นทรงตรงลึกลงไป คล้ายกล่องทรงวงรี

หลุมนกจิก : ลักษณะมองเห็นเป็นรูเล็กแต่ลึก รักษายากที่สุดกว่าทุกแบบ

 

 

 

  • วิธีการรักษารวบรวมมาในประเทศไทย 

ทุกวิธีช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้ แต่ยังไม่มีวิธีไหนได้ผล 100% กับหลุมสิวที่รักษายาก ลึก สามารถผสมผสานวิธีแต่ละแบบเข้าด้วยกันได้เพื่อการรักษาที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญทุกวิธีที่กล่าวต้องศึกษาผลข้างเคียงที่จะตามมาอย่างละเอียด

 

วิธีที่ 1 – กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน

  • ทาครีมลบรอยแผลเป็น,ริ้วรอยที่มีส่วนผสมเช่น VITAMIN E, AHA, BHA
  • ทายากลุ่มอนุพันธ์ุของวิตามินA เช่น RETIN A
  • ทานยากลุ่มที่สกัดจากอนุพันธุ์วิตามิน A [RETINOIDS] เช่น Roaccutance, Acnotin, Isotretinoin
  • ฉายแสง LED เช่น GentleWaves, Omnilux
  • ยิงแสง IPL
  • ยิงเลเซอร์ Smooth Beam
  • ยิงเลเซอร์ ND Yag
  • การใช้คลื่นวิทยุ RF เช่น PHONO
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น หลุมสิวใหม่
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 2 – ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดลอกออก ร่างกายจึงเกิดการซ่อมแซมและดันหลุมสิวให้ตื้นขึ้นเอง

  • ลอกผิวด้วยกรดผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด AHA , BHA , PHA
  • แต้มกรด TCA
  • กรอผิวด้วยกรดอัญมณี Microdermabrasion
  • เลเซอร์ชนิดมีแผล กรอผิวด้านบนด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูงร้อนมาก เช่น CO2 / ERBIUM YAG
  • เหมาะกับหลุมสิวที่ตื้น, ลึกปานกลาง
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง

วิธีที่ 3 – การทำให้ผิวหนังเกิดอักเสบกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองโดยสร้างเซลล์ใหม่

  • Dermaroller ใช้ลูกกลิ้งที่เป็นเข็มเล็กๆกลิ้งตามผิวหนังลึกถึงชั้นหนังแท้
  • เลเซอร์ชนิดไม่มีแผล เช่น Fraxel re:store,Fine Scan, Mosaic, Fractional RF
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ, หลุมกล่อง, หลุมนกจิก

 

วิธีที่ 4 – การเติมเต็มหลุมสิวด้วยสารเติมเต็ม

  • ฉีด Filler [ Hyaluronic Acid ]
  • เหมาะกับหลุมสิวตื้น ถึง ลึกปานกลาง,
  • หลุมสิวประเภท หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 5 – การตัดผังพืดใต้ผิวหนังบริเวณหลุมสิวออกไป

  • การทำ Subcision ใช้เข็มที่มีใบมีดอยู่ปลายเข็ม เจาะ และ เอาใบมีดตัดพังผืดใต้ฐานหลุมสิว
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกปานกลาง, ลึกมาก
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก, หลุมแอ่งกระทะ

 

วิธีที่ 6 – การศัลยกรรมผ่าตัดหลุมสิว

  • ตัดรอยหลุม แล้วเย็บปิดให้ผิวหนังชิดกัน
  • นำผิวหนังส่วนอื่นมาปิดรอยหลุมสิว
  • กรีดผิวหนังเป็นวงรี แล้วเย็บปิด
  • ตัดหลุมสิวแล้วยกขึ้นมาให้ได้ระดับเดียวกับผิวหนัง
  • เหมาะกับหลุมสิวลึกมาก หรือขนาดกว้างใหญ่
  • หลุมสิวประเภท หลุมกล่อง, หลุมนกจิก,

รวบรวมมาแล้วแยกเป็นข้อให้เข้าใจคร่าวๆ  ส่วนลงลึกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

LINK 1 , LINK 2

 

แต่ละวิธีมีข้อดี ข้อเสีย ข้อควรระวังแตกต่างกันไป ควรปรึกษาข้อมูลตามลักษณะของหลุมสิวที่ตนเองมีไว้ก่อนล่วงหน้า ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ทั้ง 3 ด้าน ผิวหนัง เลเซอร์ หรือ ศัลยกรรม สำคัญที่สุดคือทำโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆ เพราะอะไรที่อยู่บนหน้า หากพลาดไปจะตราตรึงตามเราไปทุกที่ ส่วนตัวเคยใช้วิธีที่ 1 และ 2 บางข้อในการรักษาหลุมกล่อง , หลุมแอ่งกระทะ

 

ทำให้พบว่า

* การรักษาหลุมสิว ส่วนมากต้องใช้เวลานานอาจจะเป็นปี หลายปี เพื่อรอเวลาที่คอลลาเจนกว่าจะสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ทดแทน ต้องได้รับการกระตุ้น หรือ ทำหลายครั้งขึ้นไป ขึ้นกับความลึก ชนิดของหลุม การเป็นหลุมจึงเป็นแผลที่รักษายากมากที่สุด มากกว่า รอยแดง รอยดำ พอๆกับแผลคีลอยด์ อาจจะมีโอกาสกลับมาดี แต่ยากมากที่จะถึง 100% โดยเฉพาะ หลุมลึกแบบนกจิก หลุมกล่อง

 

คราวหน้ามาต่อกันด้วยการทำ ERBIUM YAG ทำให้เซลล์ผิวด้านบนหลุดออก โดยการกรอผิวด้วยเลเซอร์ความเข้มข้นสูง ร้อนมาก เป็นเลเซอร์ชนิดมีแผลกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์ วรพงษ์ มนัสเกียรติค่ะ

 แผลหลุมเกิดจากเล็บจิกตอนเกิดเป็นแผลหลุมกล่องขนาด 0.4 ซม หลังทำตื้นขึ้น 40% รอให้คอลลาเจนสร้างเซลล์ใหม่น่าจะดีกว่านี้ ภาพนี้หลังทำ 11 วัน และนอนดึก รูขุมขน นกตัวเล็กตกลงไปตายได้เลย กว้างขนาดหนัก นอนดึกไม่เคยดีกับใครเลย T_T

 

 

 

 

 

 

Read the full story

Posted in ACNE, BEAUTY TECHNOLOGY, LASERComments (0)

advert

Google

erk-erk.com





BEAUTY MENU

มาคุยกับเอิ๊กได้ที่นี่ทุกวัน ถ้าว่างรีบตอบทุกคำถามค่ะ

INSTAGRAM @wwwerkerkcom

[instagram-feed]

ติดตามบล็อค erk-erk.com อย่างใกล้ชิด

เพียงกรอก Email ตรงนี้เลย

LINE @erk-erk

เพิ่มเพื่อน

Related Sites